ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับน้อง pizza4g ด้วยค่ะ พี่เพียงทำตามที่พระท่านสั่งเท่านั้นค่ะ แม้เบื่อการทรงขันธ์เพียงใด ก็หนีไปก็ไม่ได้ เพราะต้องมีหน้าที่สำคัญคือ การสงเคราะห์บุตร และบำรุงบิดามารดา เพื่อส่งท่านไปภพภูมิที่ดี

    นอกจากนี้ยังมีลมหายใจ และการทรงขันธ์ ๕ เพื่อทำหน้าที่บำรุงพระศาสนา และเพื่อสาธารณประโยชน์เท่านั้นค่ะ

    สำหรับ คำว่า "พระภควันต์" เป็นสรรพนามเรียกพระพุทธเจ้าได้ทุกพระองค์ค่ะ

    พระนามจริงของสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๓ ท่านไม่ให้เปิดเผย พระนามยาวมาก ๆ จะพบในพระนามของพระพุทธเจ้าในสายมหายานค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องเช่นกันค่ะ

    Numsai
     
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..สรุปยอดปัจจัยบุญซ่อมแซมพระ และบำรุงสงฆ์ วัดเขาวงค่ะ..

    [​IMG]

    [​IMG]


    ยอดปัจจัยทั้งสิ้น ๖๔,๔๔๙.๔๓ บาท

    นำปัจจัยถวายแด่ท่านพระครูภาวนาพิลาศ เจ้าอาวาสวัดเขาวง จ.สระบุรี ทั้งสิ้น ๖๔,๐๐๐ บาท

    ขออนุญาตคงค้างในบัญชี ๔๔๙.๔๓ บาท เพื่อผู้ที่ทำบุญครั้งนี้ครั้งเดียวจะได้รับอานิสงส์ ในการสร้างบุญครั้งต่อ ๆ ไปค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่มีส่วนในบุญ และร่วมอนุโมทนาด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2013
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ปิดบุญซ่อมพระแล้วนะคะ ต่อไปจะเป็นบุญถวายโคมไฟระย้า และพรมแดงในโบสถ์ วัดโพธิญาณรังสีค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  4. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,339
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,286
    ตัวผมขอขอบคุณ และอนุโมทนาบุญในธรรมทานกับพี่น้ำใสด้วยนะครับ

    ที่ช่วยหาคำตอบในเรื่อง นางแก้วสายปราบมาร และการสร้างบารมีของพระพุทธเจ้าของสายปราบมารด้วยนะครับ

    เรื่องนี้เป็นปัจจัตตังจริงๆ อย่างที่พี่น้ำใสบอกนะครับ เอาแค่ทำบารมีเป็นพระพุทธเจ้าแบบธรรมดาเลือดตาก็แทบจะกระเด็นแล้ว

    แต่นี่ยังมีการคำอธิษฐานพิเศษของแต่ละพระองค์เข้าไปอีก ผมว่ามันก็ยากจริงๆนั่นแหละ ในการทำบารมีเพื่อให้ได้ผลอย่างที่ได้อธิษฐานไว้
    จากที่เคยไปอ่านในคำอธิษฐานพิเศษของพระพุทธเจ้าสายมหายาน
    ที่ท่านจะอธิษฐานออกมาในรูปของพุทธเกษตรของแต่ละพระองค์ มันก็พิศดารจริงๆนั่นแหละ

    สำหรับผมในสมัยก่อน ชอบเรื่องพระพุทธเจ้าก็มาจากการอ่าน คำอธิษฐานพิเศษ(มหาปณิธาน)ของพระอมิตาภพุทธเจ้าทั้ง 48 ประการนั่นแหละ
    ช่วงนั้นบอกตัวเองเลยว่า ตายไปขอให้ได้ไปเกิด ณ แดนสุขาวดี พุทธเกษตรของพระอมิตาภพุทธเจ้า ผมว่าน่าอยู่ดีนะครับ
    แต่แดนนั้นก็ยังไม่ใช่พระนิพพาน มันอยู่กึ่งกลางก่อนถึงพระนิพพาน แต่ก็สบายไม่ทุกข์ บำเพ็ญขัดเกลาจิตใจให้ดีขึ้น
    ค่อยๆไต่ดอกบัวบำเพ็ญจากชั้น 1 ไปเรื่อยๆ จนถึง ชั้นที่ 9 ก็จบหลักสูตรพอดี จบแล้วเป็นไงต่อผมไม่รู้ครับ
    แต่ทุกท่านน่าจะอยู่ช่วยพระอมิตาภพุทธเจ้าท่านโปรดสัตว์ต่อไปนะครับ เวลาว่างๆ ก็ไปท่องเที่ยวทำบุญตามพุทธเกษตรอื่นๆ
    แล้วก็กลับมาบำเพ็ญต่อในพริบตา ด้วยอำนาจพุทธานุภาพของพระอมิตาภพุทธเจ้า

    แต่ต่อมาพอรู้ว่าตัวเองไม่ใช่สาวกภูมิ อดเลย แต่ก็ยังมีความหวังนะครับ ถ้ามีโอกาสจะขอบารมีพระอมิตาภพุทธเจ้า
    ขอไปชมแดนสุขาวดีของพระองค์ท่านหน่อยนะครับ

    ที่เล่ามาก็ไม่ใช่ตัวเองเก่งอะไรนะครับ ยังต้องศึกษาอีกเยอะครับ ยังสู้พระโพธิสัตว์หลายๆองค์ในเมืองนี้ไม่ได้หรอกครับ

    สุดท้าย ข้าพเจ้าขอถวายบุญที่ได้ทำมาทั้งหมดเป็นพุทธบูชาแก่ “สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๓ “
    และพระพุทธเจ้าสายปราบมารทุกพระองค์ ตลอดจนนางแก้วสายปราบมารทุกท่าน พระนางวิสุทธิตารามหาเทวี เหล่าเทพธิดาชั้น 6 ทุกองค์
    ที่ได้สงเคราะห์ประทานคำตอบให้แก่ตัวข้าพเจ้าได้รับรู้ในรายละเอียดของเรื่องนี้ ด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

    ธรรมวิวัฒน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2013
  5. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..พบพระมัญชุศรีโพธิสัตว์..และพระนางตารา..

    ก่อนอื่นขออนุโมทนาในบุญกุศลอันบริสุทธ์ของน้องเช่นกันค่ะ พี่เคยมีโอกาสไปท่องแดนพุทธเกษตรแห่งหนึ่งมา ด้วยความอนุเคราะห์ของพระโพธิสัตว์ท่านหนึ่ง

    เดิมทีพี่ยอมรับว่า มีอัตตาในความเชื่อเรื่องความดีในสายเถรวาท และดูเบาในสายมหายาน ยอมรับว่า คิดผิดอย่างมหันต์ เพราะจุดมุ่งหมายของทั้งสองสายแตกต่างกัน แม้ปรารถนาจะเข้าพระนิพพานเหมือนกันก็ตาม

    พุทธเถรวาท สอนเรื่องการเอาตนเองให้หลุดพ้นจากทุกข์ โดยเพียงลำพัง

    แต่พุทธมหายาน สอนให้ตนเองหลุดพ้นด้วย และนำพาผู้อื่นหลุดพ้นด้วย สมคำที่ว่า "พุทธวิสัย เป็นอจินไตย"พี่เองก็เรียนไปโดยยึดสมเด็จองค์ปฐม เป็นหลัก ครั้นเมื่อพบท่านผู้นั้น ท่านได้เจโตปริยญาณอย่างทะลุทลวง รู้วารจิตว่า เราคิดอย่างไร

    ช่วงนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ๆ ไม่เคยเกิดมาก่อน เวลาที่ทุกข์จะได้ยินเสียงบอกว่า..วิธีแก้ทุกข์นั้น ทำอย่างไร

    ความรู้ที่ไม่เคยรู้มาก่อนแทรกเข้ามา และเป็นความรู้ที่แตกต่างจากสายครูบาอาจารย์เคยสอนมา ก็คิดว่า..

    "สิ่งที่เราได้ยิน หรือเห็นนั้น คงเป็นอุปทาน"

    ท่านผู้นั้นบอกว่า "ท่านตามปฏิปทาของพระมัญชุศรี" ภาษาที่ใช้สนทนากัน กลับภาษาอังกฤษ เคยถามท่านว่า..

    "ทำไมจึงใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาจิตในการสื่อสาร "

    ท่านบอกว่า "หากฉันใช้ภาษาจิต เธอจะแยกออกได้อย่างไร ระหว่างฉัน และเทวดา ฉันต้องการให้เธอแยกเสียงออก"

    ************************

    หลังจากนั้นได้พาไปยังแดนพุทธเกษตรของท่าน ดินแดนนั้นพี่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด ไม่เหมือนสวรรค์ มีดอกบัวสีขาวใหญ่กว่าตัวเราหลายดอก บรรยากาศสบาย ๆ มีความสวยงามมาก ท่านผู้นั้น บอกว่า

    "นี้คือแดนพุทธเกษตรของฉัน"

    จากนั้นท่านพาไปกราบพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ หลังจากได้ทักทายกันตามสมควร พระมัญชุศรีกล่าวว่า ..

    "ว่าง ๆ เธอไปกราบพระนางตารานะ ไปขอพรจากพระนางตารา"
    ตอนนั้นแค่พระมัญชุศรี ยังไม่รู้จักว่า ท่านคือใคร แถมยังมีพระนางตาราพ่วงมาอีกองค์ ยิ่งงงหนักไปใหญ่ จึงคิดว่า..

    "เรานี่แย่แน่แล้ว ไม่เอาดีกว่า"

    จากนั้นกำหนดถอยกำลังออกจากสมาธิทันที เป็นเรื่องแปลกว่า แม้ถอยกำลังออกจากสมาธิกลับได้ยินเสียงท่านผู้นั้น บอกว่า..

    "อย่างไรเธอต้องไปหาพระนางตารานะ"

    โดนรบเร้าอย่างนี้อยู่หลายครั้ง เป็นอย่างนั้นอยู่หลายวัน เมื่อไปวัดศาลพันท้ายฯ ได้ไปกราบเรียนถามหลวงน้าสุภาพว่า...

    "ไม่ทราบปัจจุบันมีคนที่สามารถสื่อสารกันทางจิตได้หรือไม่เจ้าคะ"

    หลวงน้าบอกว่า "มีโยม ส่วนใหญ่เป็นพระอริยเจ้าทั้งนั้น"

    จึงได้เล่าเรื่องราวที่ประสบมาให้ท่านฟัง ท่านนิ่งสักพัก (โดยไม่หลับตา) ตอบว่า..

    "โยมเคยเกี่ยวเนื่องกับท่านมาก่อน ท่านผู้นี้ มีเทวดาชั้นสูงรักษาเยอะมาก อย่าไปล่วงเกินท่านนะ"

    เมื่อเริ่มมั่นใจว่า สิ่งที่ได้ยินไม่อุปทาน ต่อมาเมื่อปฏิบัติกรรมฐาน จึงได้ตั้งจิตไปกราบสมเด็จองค์ปฐม กราบเรียนถามพระพุทธองค์ว่า..

    "ข้าฯแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ลูกควรจะไปกราบพระนางตาราหรือไม่ และพระนางตารานั้น มีอยู่จริงหรือไม่พระพุทธเจ้าข้าฯ"

    สมเด็จองค์ปฐมตรัสว่า "ลูกเอ๋ย อย่าได้ลังเลสงสัย พระนางตารามีอยู่จริง ควรจะไปกราบท่าน เพื่อเรียนรู้เรื่องการบำเพ็ญบารมีนางแก้ว"

    จึงได้ตั้งจิตไปกราบพระนางตารา ๒ ครั้ง พระนางมีความงดงามมาก สัมผัสมีความแตกต่างจากที่เคยพบพระนางพิมพาเถรี

    พระนางพิมพานั้น มีความเมตตาสูง อ่อนโยน คล้ายกุลสตรี แต่พระนางตารานั้น มีความเมตตา มีความเข้มเเข็ง ทรงพลังอำนาจอย่างลึบลับ

    หลังจากได้เรียนรู้เรื่องบางอย่าง แต่ตอนนั้นเกรงจะเสียเวลาในการปฏิบัติ ต่อมาก็ไม่ได้ไปกราบพระนางอีกเลยค่ะ

    วันนี้ได้ไปกราบพระนางอีกครั้ง ..หูชา..อิอิ

    หลังจากที่พี่ไปกราบพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ และพระนางตาราแล้ว ค้นหาภาพท่านทั้งสองใน internet พบว่า ภาพท่านเหมือนในนิมิตทุกประการ แต่มีความงามมากกว่ามาก

    ถือว่า เป็นประสบการณ์แลกเปลี่ยนกันค่ะ...



    ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์อีกครั้งค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2013
  6. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    หากยังมีขันธ์ ๕ เป็นธรรมดา คงต้องสู้กันต่อไปค่ะ แต่ที่แน่ ๆ หลังจากนี้ ๑ อสงไขยนี้ พี่คงไม่ลงมาอีก จนกว่าจะถึงก่อนยุคพระศรีฯ ไปนั่ง ๆ นอน ๆ เสวยผลบุญบนชั้นสวรรค์ อิอิ..

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลเช่นกันค่ะ
     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ๑๔ ธค.นี้ ๑๔.๒๙ น.-ประมูลดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ค่ะ

    ดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ มีขนาดน้ำหนักกว่า ๑๐ กก. ขึ้นมาหลังจากดวงแก้วโภคปุญญบารมีขึ้นมาไม่นานนัก เป็นดวงแก้วที่เคยปรากฏก่อนสมัยสมเด็จพระพุทธปุราณทีปังกรพุทธเจ้าเช่นกัน

    ดวงแก้วโภคปุญญบารมี มีกายสิทธิ์ ๓๘,๕๘๔,๐๐๐ องค์ องค์ มีพระทสปุราณโพธิสัตว์ เป็นหัวหน้ากายสิทธิ์ ปัจจุบันอยู่สวรรค์ดุสิต(ไม่ได้ออกประมูล)

    IMAG2603.jpg

    ดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ มีกายสิทธิ์ ๔๔,๙๘๐,๐๐๐ องค์ มีพระธิปบดีเหสรัตนะ และบริวาร เป็นหัวหน้ากายสิทธิ์ ปัจจุบันอยู่สวรรค์ปรนิมมิตวสวัตตี(ชั้น ๖)

    เริ่มประมูลที่ ๑๗,๙๙๙ บาท

    ______________________________________________

    IMAG2614.jpg

    กติกาในการประมูล

    ๑. เริ่มวันที่ ๑๓-๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๖ ภายใน ๑๔.๒๙ น. ตามมหัทธโณฤกษ์ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะเส็ง

    ๒. รายการประมูลจะมอบแด่ท่านที่ประมูลราคาสูงสุดภายในเวลาที่กำหนด (ตามเวลาเว็บพลังจิต.org)

    ๓. หากที่มีผู้ประมูลราคาสูงสุด และเวลาเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยผู้ที่ทำการโพสต์ก่อนเป็นอันดับแรก
    ๔. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วันหลังจากโอนปัจจัยแล้ว หากเลย ๒ วันจะมอบสิทธิ์แก่ผู้ที่ประมูลรายต่อไป

    ๕. หลังจากโอนปัจจัย กรุณาแจ้งชื่อ-ที่อยู่ใน PM-Numsai แล้วจะทำการส่งมอบดวงแก้วให้แก่ผู้เป็นเจ้าของต่อไปค่ะ

    กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

    ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์


    ปัจจัยหลังหักค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปร่วมบุญดังนี้

    ๑. ๑๐ % เข้ากองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร เพื่อถวายโคมไฟระย้า และพรมแดงปูในโบสถ์ วัดโพธิญาณรังสี อ.เมือง จ.สุรินทร์

    ๒. ๕ % ร่วมบุญโครงการฝึกมโนมยิทธิ และสังฆทาน วัดท่าซุง

    ๓. ๕% ร่วมบุญเพื่อโครงการในเว็บพลังจิต


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  8. เพชร2545

    เพชร2545 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +4,248
    ขอร่วมประมูล ดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ 19000 บาทค่ะ
     
  9. teerapote

    teerapote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    756
    ค่าพลัง:
    +1,097
    ขอร่วมบุญประมูล ดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ 19500 บาท
    ขออนุโมทนาบุญครับ
     
  10. mooom

    mooom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +9,291
    ขอร่วมบุญประมูล ดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์19600บาทครับ
     
  11. kit_por

    kit_por เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +1,341
    วันที่ 13 ธ.ค. 56 ฝากเงินเข้าบัญชีร่วมบุญซ่อมพระ 100 บาท ค่ะ
     
  12. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับน้องกิตด้วยค่ะ ขอให้สำเร็จตามความปรารถนาค่ะ พรุ่งนี้จะไปถวายแด่หลวงตาวัชรชัย ที่วัดเขาวง นัดกันที่บ่ายสองโมงค่ะ

    ถ้าว่างก็ขอเชิญนะคะ

    บุญรักษาค่ะ

    Numsai
     
  13. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับเพชร2545 ด้วยค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณเพชรนะคะ

    Numsai



    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ mooom ด้วยค่ะ งานนี้มีเสือซุ่มนะคะ

    Numsai
     
  14. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ยินดีต้อนรับคุณศุภราชสู่เมืองสัตตรัตนนครค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้รวมเพื่อนสมาชิกที่ยังต้องเดินทางต่อเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ซึ่งแต่ละท่านมีความปรารถนาอันยาวนานมา บางท่านก็ใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว


    การสนทนาธรรมอาจจะมีเรื่องที่เป็นปัจจัตตังบ้าง มีเรื่องที่แปลก ๆ บ้าง ทุกอย่างเป็นไปเพื่อประคับประคองกำลังใจของผู้ที่ปรารถนาพระสัมมาสัมโพธิญาณปรารถนาคู่บารมีพระโพธิสัตว์ก็ดี

    ปรารถนาเป็นพระอัครสาวก-พระอัครสาวิกา หรือปรารถนาในตำแหน่งพระอสีติมหาสาวกตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง หรือปรารถนาเป็นอุบาสก -อุบาสิกาผู้เลิศในการถวายทานก็ตาม


    เพื่อไม่ให้ท่านเหล่านั้น มีกำลังใจลดลง และลาขาดจากความปรารถนาเดิมของตนค่ะ

    ประวัติของดวงแก้ว หรือธาตุกายสิทธิ์ต่าง ๆ ล้วนเกิดจากอดีตตังคญาณ ย้อนไปดูการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ในอดีต เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในการสร้างบารมี หรือแก้ไขจุดบกพร่องในชาตินี้ค่ะ


    ขออนุโมทนาบุญที่เข้ามามีส่วนในการสร้างบุญกับพวกเราค่ะ

    ขอให้สำเร็จตามความปรารถนาทุกประการค่ะ

    Numsai
     
  15. วาสุเทพ

    วาสุเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +5,174
    ขอร่วมบุญประมูล ดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ 23,000บาทครับ
     
  16. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขอให้ได้สมบัติอัศจรรย์ทันใช้ ได้สมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่องไว้สร้างบุญบารมีต่อไปค่ะ

    สำหรับดวงแก้วทั้งคู่ที่ฝากไว้ อยู่ในระหว่างการติดต่อกับทางวัดอยู่ค่ะ หากเรียบร้อยแล้วจะเรียนให้ทราบ และขอเชิญมาถวายด้วยตนเองค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณวาสุเทพด้วยค่ะ

    Numsai
     
  17. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    .ปิดประมูลดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ค่ะ..

    วันนี้ 02:12 PM
    วาสุเทพ ขอร่วมบุญประมูล ดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ 23,000บาทครับ


    วันนี้ 12:05 AM
    mooom ขอร่วมบุญประมูล ดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์19600บาทครับ


    เมื่อวานนี้ 09:32 PM
    ศุภราช ขอร่วมบุญประมูล ดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ 19500 บาท
    ขออนุโมทนาบุญครับ

    เมื่อวานนี้ 09:16 PM
    เพชร2545 ขอร่วมประมูล ดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ 19000 บาทค่ะ

    ________________________________________

    ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาบุญกับคุณเพชร2545 คุณศุภราช และคุณ mooom ที่ร่วมบุญประมูลดวงแก้วในครั้งนี้ด้วยค่ะ

    และขอแสดงความยินดีกับคุณวาสุเทพที่เป็นผู้ดูแลดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์ต่อไปค่ะ

    สำหรับดวงแก้วโภคเศรษฐีนวรัตน์นั้น ได้ขึ้นมาหลังดวงแก้วโภคปุญญบารมี ซึ่งคุณ suwat.su เป็นเจ้าของดวงแก้วดวงนี้ ประวัติดวงแก้วจะมีความเกี่ยวเนื่องกันกับดวงแก้วโมกขสุทธิรักษ์ -ดวงแก้วมนตรมณีโชติค่ะ ซึ่งจะนำเสนอต่อไปค่ะ

    เป็นเรื่องแปลกว่า ในอดีตชาติคุณวาสุเทพ และคุณsuwat.su จะมีความเกี่ยวเนื่องกันมาหลายชาติ บางครั้งเป็นเทวดาบ้าง บางครั้งเป็นมนุษย์บ้างหรือบางครั้งไปเกิดเป็นพญานาคบ้าง ภพชาติอันยาวนานไม่มีใครที่เคยเกี่ยวเนื่องกัน

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณวาสุเทพ และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2013
  18. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ขอนำประวัติจักรชุดโชติตันตรัตนะและดวงแก้วชุดโมกขสุทธิรักษ์ เสนออีกครั้งค่ะ..

    ประวัติจักรชุดโชติตันตรัตนะและดวงแก้วชุดโมกขสุทธิรักษ์ ตอน ๑ โชติเศรษฐีเลือกคู่

    __________________________________

    แก้วโมกขสุทธิรักษ์-มนตรามณีโชติ.jpg

    ย้อนหลังไปก่อนยุคสมัยสมเด็จพระปุราณทีปังกรพุทธเจ้า ๑๐,๐๐๐ ปี มีมหานครหนึ่งนามว่า “มหาปุตตมณีนคร” ปกครองโดยพระเจ้าวาหมังคลโชติ มีพระชนมายุ ๒๙ ชันษา ยังมิได้อภิเษกสมรส

    มหาปุตตมณีนครนี้ มีมหาเศรษฐีท่านหนึ่งนามว่า “โชติเศรษฐี” (อ่านว่า โช-ติ-เสด-ถี) เป็นบุตรชายคนเดียวของท่านชลธิกะเศรษฐี ภรรยาเสียชีวิตตั้งแต่บุตรชายยังเล็ก ชลธิกะเศรษฐีเป็นผู้มีทรัพย์มากกว่าสิบหมื่นโกฏิ มีปราสาทแก้ว ๙ ประการ พร้อมกับพระขรรค์แก้วที่เกิดมาพร้อมกับโชติเศรษฐี

    เมื่อโชติเศรษฐี มีอายุได้ ๑๘ ปี ถึงวัยที่จะออกเรือน ยังไม่มีทีท่าว่า โชติเศรษฐีจะพึงพอใจสตรีนางใด ท่านชลธิกะเศรษฐีมีความทุกข์ใจมาก เกรงบุตรชายจะไม่ครองเรือน หากรอให้หาคู่ด้วยตนเอง อาจจะไม่ทันการ จึงได้จัดพิธีเลือกคู่ให้แก่โชติเศรษฐี

    โดยได้นำทองมาทำเป็นสร้อยสังวาล ประกอบด้วยอัญมณี ๙ ประการ คือ เพชร เพทาย ไพฑูรย์ มรกต บุษราคัม ทับทิม แก้วมุกดา ไพลิน และหยก ออกแบบอย่างสวยงาม โดยเชิญหญิงงามในเมืองนั้นมา เพื่อให้โชติเศรษฐีเลือกคู่ มีเงื่อนไขว่า..

    “หากสร้อยสังวาลนี้ลอยไปคล้องสตรีนางใด หากนางยังไม่มีคู่ จะสู่ขอสตรีนางนั้นก็จะได้แต่งงานกับโชติเศรษฐีต่อไป หากนางมีคู่แล้วจะมอบทรัพย์แก่นาง จะหาหญิงมีบุญต่อไป”

    ในเมืองนั้น มีครอบครัวคนเก็บของป่าขาย นามว่า นายมัณฑกะ มีธิดาคนเดียวมีชื่อว่า นางมิณฑิกา อาศัยอยู่ในป่านอกเมือง ซึ่งมีอาชีพคนเก็บของป่ามาขาย นางกำพร้ามารดาตั้งแต่ยังเด็ก บิดาเลี้ยงนางมาโดยลำพัง จนกระทั่งนางอายุได้ ๑๖ ปี

    ปกตินางมักจะช่วยบิดาหาของป่าไปขาย แต่ไม่เคยเข้าในเมือง ครั้งนี้บิดาของนางไม่สบาย นางจึงได้นำของป่าเข้ามาขายด้วยตนเอง ของที่นำมาขายนั้น มีสมุนไพร และน้ำผึ้งป่า

    ในระหว่างทางนางได้พบกับพระดาบสหนุ่ม นั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เมื่อพระดาบสหนุ่มออกจากสมาธิ นางเกิดความศรัทธาพระดาบสรูปนั้น จึงได้นำสมุนไพร ๑ กำ และน้ำผึ้ง ๑ ถ้วย ถวายแก่พระดาบสหนุ่มนั้น เมื่อรับสมุนไพร และน้ำผึ้งแล้ว พระดาบสกล่าวว่า..

    “น้องหญิง จำคำอาตมาไว้นะ กาลต่อไปน้องหญิงจะมีวาสนา ต่อไปจะเป็นมเหสีของกษัตริย์องค์หนึ่ง กาลภายหลังจะได้ออกบวชดังเช่นอาตมานี้”


    กล่าวจบแล้ว พระดาบสหนุ่มก็เหาะจากไป นางมิณฑิกานั้น รู้สึกประหลาดใจกับคำกล่าวของพระดาบสหนุ่ม นางเองมิได้ปรารถนาจะครองคู่ คิดว่าจะอยู่ดูแลบิดาจนแก่เฒ่า นางจึงคิดว่า

    “จะเป็นไปได้อย่างไร เราอยู่ในป่า หาชายสักคนก็ไม่มี มีแต่ฤาษีชีไพร ผู้ออกบวช ตัวเราเองก็ไม่คิดจะมีคู่ ธรรมดาผู้ทรงศีลย่อมไม่พูดปด เรื่องนี้ยังอีกไกลอย่าได้ไปคิดเลย”


    เมื่อคิดเช่นนั้น จึงเร่งออกเดินทางไปถึงพระนคร วันนั้นนางขายของหมดอย่างรวดเร็ว และกำลังจะเดินทางกลับบ้าน แม่ค้าที่คุ้นเคยกับบิดาของนางบอกว่า..

    “นี่..มิณฑิกา ท่านโชติเศรษฐีกำลังจะเลือกคู่ เจ้ามิได้ไปเลือกคู่กับเขาหรอกหรือ บุตรเศรษฐีนี่ก็แปลก เป็นหนุ่มรูปงาม มีทรัพย์มาก แต่กลับไม่สนใจสตรี วัน ๆ แต่จะบวช พ่อก็เลือกจัดหาคู่ครองให้”

    มิณฑกาได้ฟังก็กล่าวว่า.. “ไม่แปลกหรอกจ๊ะ ฉันเองก็ไม่อยากมีคู่ เรื่องคู่ครองเศรษฐีนั้น ฉันเองคงไม่มีวาสนาเช่นนั้นหรอก ฉันจะรีบกลับบ้านไปดูแลพ่อ พ่อของฉันไม่ค่อยสบาย”

    กล่าวจบ นางก็รีบเร่งเดินทางเพื่อจะออกจากเมือง เวลานั้นมีขบวนแห่บุตรเศรษฐีผ่านมา ผู้คนเบียดกันจนถึงสถานที่ของนางยืนอยู่ ทำให้นางหาทางออกไม่ได้ จึงต้องไปตามคลื่นฝูงชนที่เบียดกันมา จนถึงประรำพิธีเลือกคู่ เมื่อเห็นสถานที่จัดตบแต่งสวยงาม จึงคิดว่า..

    “ผู้คนมากมายเช่นนี้ จะออกไปยังคงไม่ได้ เราคงจะต้องอยู่ดูพิธีการเลือกคู่ก่อน จึงค่อยเดินทางกลับบ้าน”


    กาลนั้นพระธิดาปฏิมนตรานั้น เป็นพระธิดาของพระเจ้าจิตราช แห่งเมืองจิรวดีปุระ เป็นเมืองเล็ก ๆ ห่างออกจากมหาปุตตมณีนครไปทางทิศเหนือกว่า ๔๐ โยชน์ พระธิดานั้นมีสิริโฉมงดงาม ทรงปลอมตัวเป็นสามัญชนพร้อมกับนางกำนัลอีก ๒ คน นางได้ยินว่า มหาปุตตมณีนคร เป็นนครแห่งอัญมณี ไม่ว่าไปที่ใด มีแต่ความสวยงาม เพลิดเพลิน เมื่อมาถึงก็ไม่ผิดหวัง จึงได้เดินชมเมืองไปเรื่อย ๆ
    ขณะที่กำลังเดินชมสินค้าที่วางขายอย่างเพลิดเพลินนั้น พระธิดาปฏิมนตรานี้ ได้ยินข่าวการเสี่ยงทายเลือกคู่ของโชติเศรษฐี จึงนึกสนุกอย่างเข้าไปชมการเลือกคู่ของบุตรเศรษฐีนี้ จึงได้ชักชวนนางกำนัลทั้ง ๒ ไปชมใกล้ ๆ พิธีเลือกคู่ บริเวณที่นางมิณฑิกายืนอยู่ก่อนแล้ว
    นางมิณฑิกานั้น มองสตรีทั้ง ๓ ได้ทราบว่า สตรีผู้มีผิวพรรณผุดผ่อง งดงามนั้น น่าจะเป็นผู้ที่เกิดในชาติตระกูลดี น่าจะเป็นนาย ส่วนอีก ๒ คนคงเป็นบ่าว นางน่าเป็นบุตรสาวเศรษฐี หรือธิดาของกษัตริย์เมืองใดเมืองหนึ่งจากต่างเมืองเป็นแน่
    กล่าวถึงประรำพิธี ถึงเวลาการเลือกคู่ ชลธิกะเศรษฐีได้ให้พราหมณ์ทำพิธีบวงสรวงบอกกล่าวเทวดาทั้งหลายให้รับรู้เรื่องการเสี่ยงคู่ครั้งนี้ เมื่อพราหมณ์กล่าวจบ โชติโศรษฐีได้อธิษฐานว่า...

    “ขอสร้อยสังวาลนี้ จงไปคล้องกับนางผู้มีบุญบารมีเสมอเราด้วยเถิด”

    เมื่ออธิษฐานจบ สร้อยสังวาลนี้ ได้คล้องสตรี ๒ นาง คือ พระธิดาปฏิมนตรา และนางมิณฑิกาทันที สร้างความประหลาดใจแก่ผู้พบเห็น จึงวิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา

    ด้วยประเพณีแต่โบราณนานมาของเมืองนี้ จะต้องคู่ครองเพียงคนเดียว โชติเศรษฐีจึงไม่สามารถตัดสินใจเองได้ จึงได้ปรึกษากับบิดา ท่านชลธิกะเศรษฐีนั้น ตอบว่า..

    “การที่นางทั้งสองถูกคล้องด้วยสร้อยเส้นเดียวกัน ย่อมมีบุญเสมอกัน การจัดเลือกคู่ครองครั้งนี้ พระราชาของเรา(พระเจ้าวาหมังคลโชติ) ก็ทรงทราบ ดังนั้นจะต้องให้พระราชา เป็นผู้คัดเลือกดีกว่า”

    จากนั้นท่านเศรษฐี จึงให้เชิญนางทั้งสองให้ไปพักที่เรือนรับแขกของท่าน ๑ คืน และได้ให้คนไปส่งข่าวกับนายมัณฑกะ บิดานางมิณฑกา ส่วนพระธิดาปฏิมนตรานั้น ได้บอกความจริงแก่ชลธิกะเศรษฐีว่า..

    “ข้าฯแต่ท่านเศรษฐี เราเป็นธิดาของพระเจ้าจิตราช แห่งเมืองจิรวดีปุระ เรามิได้มาเพื่อให้บุตรของท่านเลือกคู่ เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ ขอจงส่งสาส์นไปยังพระบิดาของเราเถิด”

    ชลธิกะเศรษฐีจึงได้ส่งคนสนิท พร้อมเครื่องบรรณาการณ์ แจ้งให้พระเจ้าจิตราช ทรงทราบ จากนั้นได้เข้าพระราชวังกราบทูลพระเจ้าวาหมังคลโชติ ให้ช่วยตัดสินพระทัยเรื่องคู่ครองบุตรชายของตน
     
  19. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรชุดโชติตันตรัตนะและดวงแก้วชุดโมกขสุทธิรักษ์ ตอน ๒ โชติเศรษฐีเป็นเจ้าชาย

    ในมหาปุตตมณีนครนี้ มีมหาเศรษฐีตระกูลใหญ่อยู่ ๓ ตระกูล คือ ตระกูลของท่านชลธิกะเศรษฐี ตระกูลท่านโบรปุตตเศรษฐี และตระกูลนางวัลลา

    แต่ผู้ที่มีทรัพย์มากที่สุดคือ ตระกูลของท่านชลธิกะเศรษฐี เป็นตระกูลที่ดูแลการค้าอัญมณีที่ใหญ่ที่สุด อีกทั้งปราสาทรัตนะ ๙ ประการ พร้อมพระขรรค์คู่บุญของโชติเศรษฐี ทำให้แม้แต่พระราชาก็ทรงเกรงใจ

    เนื่องจากท่านเศรษฐีได้ถวายทรัพย์เป็นจำนวนมาก ถวายแก่พระราชา บางปีก็ถวายที่ดินให้เป็นของหลวง

    เมื่อพระเจ้าวาหมังคลโชติ ทรงทราบความ ก็ตัดสินพระทัยยาก เพราะไม่ทราบจะเอากฎเกณฑ์มาตัดสิน จึงได้อธิษฐานกับเทวดาประจำเมืองว่า....

    “เรื่องราวของโชติเศรษฐีนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดมาในเมืองเรามาก่อน ด้วยกฎของเมือง จะต้องมีภรรยาหรือสามีเพียงคนเดียว ขอเทวดาทั้งหลายได้โปรดสงเคราะห์ วิธีเลือกคู่แก่ท่านโชติเศรษฐีด้วยเถิด”

    ก่อนฟ้าสว่างพระองค์ได้มีนิมิตคล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น เทวดามาบอกว่า “ในวันรุ่งขึ้นให้ท่านเศรษฐีพานางทั้งสองมา พร้อมปิดหน้าตา จากนั้นให้นั่งในห้อง เจาะรูเล็ก ๆ ให้นางทั้งสองได้ยื่นมือมา เพื่อให้โชติเศรษฐีได้พิจารณาเลือกด้วยตนเอง”

    ในวันรุ่งขึ้นจึงพาชลธิกะเศรษฐีได้นางทั้งสองเข้าเฝ้าพระเจ้าวาหมังคลโชติ พระองค์ได้กระทำตามเทวดารักษาเมืองบอกทุกอย่าง

    เมื่อพระองค์ได้พบนางมิณฑิกา ก็ทรงมีจิตเสน่หา ทั้ง ๆ ที่ไม่ทรงทราบชาติตระกูลของนาง จึงได้อธิษฐานกับเทวดารักษาเมืองว่า..

    “ในวันนี้ ขออย่าให้โชติเศรษฐีเลือกนางผู้นี้เลย”

    จากนั้นครั้นถึงเวลาโชติ เทวดารักษาเมืองดลใจให้โชติเศรษฐีเลือกพระธิดาปฏิมนตราเป็นคู่ครองตามคำอธิษฐาน จากนั้นพระเจ้าวาหมังคลโชติจึงได้เอ่ยปากขอนางมิณฑกากับชลธิกะเศรษฐีว่า..

    “ท่านเศรษฐี หากบุตรชายของท่านได้เลือกพระธิดาปฏิมนตราแล้ว เราจะขอนางผู้นี้อภิเษกกับเราได้หรือไม่”


    ชลธิกะเศรษฐีนั้นตอบว่า..

    “เรื่องนี้กระหม่อมตัดสินใจไม่ได้พะยะค่ะ ขอให้นายมัณฑกะ บิดาของนางเข้าเฝ้าเถิด”


    แท้จริงคือนายมัณฑกะ คือ เสนาบดีที่รับราชการสมัยของพระบิดาองค์ก่อน ซึ่งได้สวรรคตก่อนหน้านี้

    เมืองนี้มีธรรมเนียมประเพณีแปลกว่า กษัตริย์ปกครองเมือง หากมีเกศาหงอกแม้แต่เพียงเส้นเดียวจะต้องออกผนวช หากไม่เช่นนั้นก็จะสวรรคต ซึ่งพระบิดาของพระองค์ได้ฝืนกฎนั้น ทำให้อยู่ ๆ ก็ทรงสวรรคตโดยไม่ทราบสาเหตุ พระองค์จึงครองราชย์ต่อแต่นั้นมา

    การที่นางมิณฑิกามีปัญญาได้นั้น เกิดจากนายมัณฑกะได้ เคยเป็นรับราชการเป็นเสนาบดีในวัง ต่อมาได้หลงรักนางมัลลิกา ซึ่งเป็นหญิงชาวบ้าน ด้วยความแตกต่างทั้งทางฐานะและการอบรมเลี้ยงดู ทั้งสองจึงได้หนีออกไปอยู่ในป่านอกเมือง ปลูกเรือนครองรักกันด้วยความสุข จนมีบุตรสาวด้วยกัน

    จนกระทั่งนางมิณฑิกามีอายุได้ ๗ ขวบ มารดาของนางออกไปเก็บสมุนไพร และโดนงูกัดตาย นายมัณฑกะจึงได้อบรมสั่งสอนบุตรสาวทุกอย่างด้วยตนเอง ทำให้นางเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด มีความคล่องตัวในการหาทรัพย์

    เมื่อนายมัณฑกะได้เข้าเฝ้า พระเจ้าวาหมังคลโชติ ได้ขอนางมิณฑิกาอภิเษกสมรส นายมัณฑกะมีความปิติใจ จากนั้นพระองค์ทรงให้หมอหลวงได้รักษาโรคของนายมัณฑกะจนหายเป็นปกติ จากนั้นทรงประกาศจัดงานอภิเษกสมรสกับนางมิณฑิกา ใน ๗ วันต่อมา ครองรักกันอย่างมีความสุข ต่อมา ๑ เดือน พระนางมิณฑิกาก็ทรงพระครรภ์

    จากนั้น ๑ เดือน ทรงพระราชทานยศเจ้าชายให้แก่โชติเศรษฐีให้เป็นพระอนุชาบุญธรรมของพระองค์ ในฐานะที่เป็นผู้ชักนำพระมเหสีมาให้พระองค์ ทรงให้พระนามใหม่ว่า เจ้าชายโชติราช

    เพื่อให้ทัดเทียมสมฐานะกับเจ้าหญิงปฏิมนตรา ได้จัดงานอภิเษกให้แก่ทั้งสองอย่างสมฐานะ ต่อมาอีก ๕ เดือนเจ้าหญิงปฏิมนตราก็ทรงพระครรภ์
     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วชุดโมกขสุทธิรักษ์ ตอน ๓ ดวงแก้วโมกขสุทธิรักษ์ปรากฏ

    ฝ่ายพระเจ้าวาหมังคลโชติ และพระนางมิณฑิกา หลังจากอภิเษกสมรสแล้ว พระนางมิณฑิกาได้ให้ราชบุรุษไปขุดสมุนไพรมาปลูกในวัง เพื่อใช้เป็นยารักษาโรคแก่ข้าทาสบริพาร โดยนายมัณฑกะเป็นผู้ให้ความรู้เรื่องสมุนไพรต่าง ๆ จากนั้นได้ตั้งโรงทานยาต้มสมุนไพรแจกจ่ายแก่ประชาชน ทำให้ประชาชนปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และอยู่ดีมีสุขนับแต่นั้นมา

    ก่อนวันที่พระโอรสจะประสูติเกิดมีฝนตกหนักในจนถึงรุ่งเช้า ปรากฏรุ่งเช้า มีดวงแก้วมณีผุดขึ้นกลางพระอุทยาน พร้อมกับการประสูติของพระโอรส พระราชาทรงให้พระนามว่า เจ้าชายโมกขสุทธิ์ และดำริว่า

    “ดวงแก้วมณีนี้เป็นดวงแก้วที่เกิดจากบุญญาธิการของโอรสของเรา เราควรตั้งเครื่องบวงสรวงบูชาดวงแก้วนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคล”


    จากนั้นทรงให้จัดเครื่องบวงสรวงเทวดาทั้งหลาย และให้มีการสวดมนต์บูชาดวงแก้วมณี หลังจากตั้งเครื่องบวงสรวงเทวดาแล้วนั้น ปรากฏมีพระดาบสหนุ่มรูปหนึ่งเหาะลงมาจากกลางอากาศทางทิศเหนือของเมือง กล่าวว่า..

    “ดูก่อนพระราชาผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน พระโอรสของท่าน เป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด พระอาจารย์ของเราสั่งให้มาบอกว่า โตไปจะมีบุญญาบารมีดุจพระเจ้าจักรพรรดิ อีก ๗ ปีข้างหน้า เราจะมารับพระโอรสของพระองค์”


    จากนั้นพระดาบสหนุ่มก็เหาะกลับไป พระนางมิณฑิกาได้เห็นเช่นนั้น จึงตรัสแก่พระสวามีว่า..

    “ข้าฯพระสวามี พระดาบสผู้นี้เคยทำนายแก่หม่อมฉันว่า จะได้เป็นพระมเหสีของพระราชา หากได้ทำนายแก่พระโอรสชองเราแล้ว หม่อมฉันเชื่อว่า ต้องมีความจริงเป็นเช่นนั้น”

    พระเจ้าวาหมังคลโชติ รู้สึกปิติใจอย่างยิ่ง ทรงดำริจะตั้งใจเลี้ยงดูพระโอรสเป็นอย่างดี เพื่อรอรับการกลับมาของพระดาบส


    กล่าวถึงเจ้าชายโชติราช หลังจากอภิเษกกับเจ้าหญิงปฏิมนตราแล้ว ได้ไปอยู่จิรวดีปุระนคร ครองรักกันอย่างมีความสุข พระเจ้าจิตราชนั้น ทรงมอบหมายให้พระราชบุตรเขย ดูแลเรื่องการคลัง

    เจ้าชายโชติราชนั้น ได้ส่งเสริมเรื่องการค้าต่างเมือง ทำให้นครแห่งนี้ ขยายอาณาเขตกว้างออกไป กลายเป็นนครที่ใหญ่ใกล้เคียงกับมหาปุตตมณีนคร
    ต่อมาเจ้าหญิงปฏิมนตรา ทรงประสูติพระธิดา มีผิวกายขาวดังน้ำนม

    ในวันพระสูตินั้นปรากฏเสียงดนตรีดังแว่ว พร้อมดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วพระนคร จึงตั้งพระนามว่า “เจ้าหญิงคีตมนตรา”

    เมื่อพระเจ้าวาหมังคลโชติทรงทราบ จึงได้ส่งเครื่องบรรณาการมาให้ พร้อมกับขอหมั้นเจ้าหญิงคีตมนตราไว้ให้เจ้าชายโมกขสุทธิ์ ตั้งแต่แรกเกิด ทั้งสองเมืองจึงนับเป็นเมืองพี่เมืองน้องตั้งแต่นั้นมา
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...