แนะนำ ด้วยครับ สมเด็จบางขุนพรหม อกครุฑ

นี่ขนาดพี่เอกเพิ่งศึกษายังสามารถเข้าใจความหมายอันลุ่มลึกของพระสากลนิยมและพระไมาสากลนิยมว่าแค่เปลี่ยนเป็นเงินได้หรือไม่ ซึ่งไม่รวมถึงว่าสมเด็จโตท่านอาจมีสร้างพระนอกพิมพ์ไว้ให้พวกเราตามไปค้นหา ผมว่าไม่เกินปีพี่ก็เป็นอาจารย์ใหญ่สายนอกพิมพ์แล้วคร้บ
ที่ทุกท่านแสดงความเห็นส่วนตัวจากข้อมูลต่างๆที่ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี ยังอ้างอิงถึงความน่าเชื่อถือเพื่อให้พี่เข้าใจว่าวัดระฆังไม่มีอกครุฑไม่ได้ เนื่องจากกูเกิ้ลมี
ยินดีต้อนรับสู่ ป่าหิมพานครับผม

 

ขอบคุณครับท่านอาจารย์
ด้วยความเคารพ ผมคงไม่ไปไกล กว่านั้นหรอกครอบท่านอาจารย์
ผมพยายาม ค้นหา ข้อมูลเกี่ยวกับพระที่ตัวเองมีและอยากรู้
เด็กหัดใหม่แบบผม ถ้าอยากเรียนรู้แล้ว อย่าทำตัวเป็นแก้วน้ำที่เต็ม ใส่อะไรก็ล้นออก
ทุกอย่างมันอยู่ที่มุมมองครับ อยู่ที่นิสัย ระดับของจิตใจคน
ผมเริ่มศึกษา ผมอ่าน ผมวิเคราะห์ อะไรน่าเชื่อถือ อะไรคืองมงาย อะไรที่เป็นไปได้ อะไรที่เป็นไปไม่ได้ ก็เจอหลายๆๆบทความที่ดีครับ เอามาประยุกต์ใช้ในชีวิตได้
"เล่นพระ อย่าเล่นที่หู ให้เล่นด้วยตา" จะเชื่ออะไรอย่าเชื่อที่ได้ยิน ตรึกตรองสิ่งที่ได้ยินแล้วค่อยเชื่อ
ด้วยความเคารพครับ

 

พี่น่าจะไปศึกษากับพี่หนุ่มทะเลครับ พี่เขาแนะนำพี่ได้

 

ด้วยความเคารพท่านอาจารย์
พระหลักสากลที่ทางสมาคมยอมรับ ในความหมายที่ผมเรียนรู้มาไม่กี่วันของพระสมเด็จ คือ มีเส้นกรอบเล้นกระจก มีจุดเป็น จุดตายอาจมีองค์ที่ตัดเกิน หรือ ตัดชิดขอบกระจก ส่วนของ พิมพ์ไม่สากลของสายอนุรักษ์ที่เค้าศึกษาคือพระที่มีเนื้อส่วนผสมมวลสารหลักของวัดระฆัง อาจจะมีหรือไม่มีเส้นกรอบกระจก ก็ได้ ใครจะถูก หรือใครจะผิด อันนี้ผมไม่ลงความเห็น
พระในกระทู้ผมดูด้วยตาก็มีเส้นกรอบกระจก
ขอบคุณครับ

 

พระสมเด็จ เกิดมาผมก็ไม่เคยสัมผัสองค์จริงสักที ส่วนตัวผมชอบพิมพ์สากลที่คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ มีพระสมเด็จแต่แท้คนเดียวมันรู้สึกวังเวงยังไงไม่รู้

 

ขอบคุณครับท่านอาจารย์ที่ช่วยแนะนำ
เมื่อคืน ท่านอาจารย์หนุ่มทะเล ได้มาให้ข้อมูล เปรียบเทียบคราบกรุให้ดู มีรูปองค์จริงมาแสดง ของท่านอาจารย์หนุ่มทะเล สวยครับ คราบกรุสะอาด ไม่มีจุดด่างดำ
แต่องค์พระในกระทู้ผม เป็นพระที่โดนน้ำครับ
แหล่งที่มาของน้ำ ผมขอสันนิฐานว่า มาจากน้ำฝนที่สาดเข้ามาภายในองค์เจดีย์ที่บรรจุกรุพระบางขุนพรหหม (มีช่องระบายอากาศด้านบนรอบองค์เจดีย์) แล้วรวมตัวตามเสา ผนังไหลหยดลงมา ตามทางจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ จุดแรกที่องค์พระในกระทู้โดนหยดน้ำคือ เส้นครอบซุ้มด้านซ้ายขององค์พระบริเวณหัวเข่าซ้ายขององค์พระ ลักษณะน้ำเข้ามาปะทะ จนเส้นกรอบครอบแก้วขาด บริเวณนั้นมีครอบรอยน้ำเข้มที่สุด ในองค์พระ หยดน้ำที่เข้ามา มีร่องรอยไหลแยก ออกไปทั้งซ้ายขวา ตามทางราดเอียงขององค์พระในขณะนั้น ผมขอโฟกัสไปในจุดที่2 บริเวณฐานชั้นแรก รอยหยดน้ำไม่น่าจะมีแรงมาก หรือไหลเร็ว สาเหตุเพราะ รอยหยดน้ำไหลผ่านระหว่างหน้าตักพระและฐานชั้น1(หน้าตักองค์พระมีคราบน้ำหนาที่สุด)แต่เมื่อมีสิ่งกรีดขวาง มาขวางทางน้ำไว้ ตามธรรมชาติ น้ำจะหาทางออก เมื่อไม่สามารถทะลุผ่านไปในร่องระหว่างหน้าตักและฐานชั้น1 ก็แยกแตกสายออกมาทาง ตรงกลางฐานชั้น1และเจาะทะลุฐานชั้น1 บริเวณกลางฐาน แล้วไหลออกไปตามทางฐานชั้น1และฐานชั้น2 ไปชนเส้นครอบแก้วของขวามือองค์พระ (บริเวณเส้นครอบแก้วนี้ จะมีรอยน้ำมาก)
แล้วแยกออกซ้ายขวา ขังอยู่จนท่วมเส้นครอบแก้ว เมื่อล้นก็ไหลออกไป เส้นครอบแก้วด้านขวามือองค์พระมีคราบน้ำ ตลอดแนว
แนวหยดน้ำไหลผ่านได้พัดพา เม็ดกรวดสีดำ มาด้วยตลอดแนวน้ำ
ด้วยเหตุนี้ องค์พระในกระทู้ จึงมีคราบน้ำ
องค์พระบรรจุอยู่ในกรุ จะนานขนาดไหน หยดน้ำถึงจะกัดเซาะเส้นครอบแก้วขาด
จะนานแค่ไหน จะกัดเซาะฐานชั้น1ขาด หน้าฝนบ้านเราตกประมาณ3เดือน นาน85ปีโดยประมาณ ที่อยู่ในกรุ
ผมจินตนาการ ตามที่ผมคิดว่าเป็นไปได้ สำหรับ ร่องรอบคราบน้ำที่มีในองค์พระ
ผมอยากให้ท่านอาจารย์ พิจารณา ถึงพิมพ์ทรง และมวลสาร ของพระในกระทู้ ต่อด้วยครับ
กราบขอบพระคุณครับ

 

ขอบคุณครับ พี่ริมน้ำน่าน (ของอภัยที่ไม่ได้เรียกพี่ว่า ท่านอาจารย์)
ความชอบเป็นสิทธิ ส่วนบุคคลครับ ไม่มีใครไปละเมิดท่านได้
โดยส่วนตัวผมเห็นด้วยกับท่านครับ
ในกระทู้ผม ผมก็กำลังศึกษาอยู่ครับ ได้ปรึกษาหารือ เกี่ยวกับคราบกรุ ครับ
ยังไม่ได้ตกผลึกในคำตอบ ท่านอาจารย์ให้ความเห็นมา อันไหนผมไปอ่านเจอมา และมันขัดแย้งกับความเห็นท่าน ผมก็เอามาเรียนถาม
ยังไม่ได้ไปถึงพิมพ์ทรง และมวลสารเลยครับ
ด้วยความเคารพ

 

ขออภัยถ้าข้อความของผมทำให้ท่านไม่สบายใจ แค่ความคิดเห็นส่วนตัวมิได้มีเจตนาละเมิดและขัดแย้งกับท่านแต่อย่างใด ขอบคุณครับ

 

การศึกษาเรียนรู้อะไรก็ตามจะได้และเกิดประโยชน์สูงสุดได้นั้นคนที่ศึกษานั้นต้องรู้จักและกล้าที่จะสงสัยและตั้งคำถามครับ คนไทยจำนวนมากที่คิดว่าการสงสัยแล้วตั้งคำถามคือการแสดงความโง่ของตัวเองออกมา หรือคิดว่าการสงสัยต่อเรื่องราวที่เขียนในตำรา บอกเล่าโดยคนผู้มีชื่อเสียงคือการลบหลู่ไม่ให้เกียรติ ส่วนคนที่สงสัยที่ตั้งคำถามก็เลยกลายเป็นแกะดำไป แต่ส่วนตัวผมว่าการศึกษาที่ใช้ สุ จิ ปุ ลิ นั้นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ

 

ขอบคุณมากครับ ในความเห็นของท่านอาจารย์และท่านพวกพี่ๆๆ
โดยปกติ ตามหลักวิชาการแล้ว ท่านอาจารย์ที่จะเขียนบทความ นั้นๆๆ จะต้องศึกษาหาความรู้ถึงบทความที่ท่านจะเขียน โดยรวบรวมข้อมูลสุดแต่ที่ท่านจะหาได้ แล้วมาเขียนบทความบรรยาย (ผมเชื่อว่าท่านคงไม่ได้นั่งเทียน เขียนขึ้นมาเอง)
ผมขอยกตัวอย่าง บทความของท่านอาจารย์ รังสรรค์ ต่อสุวรรณ ตามที่ผมจับใจความได้
ท่านพูดถึง ลักษณะคราบกรุเม็ดทรายไว้ ในลักษณะ ไม่ได้ลงลึกลายละเอียดมากหนัก
ท่านบรรยายไว้ เป็นมุมที่กว้างๆ (ผมก็เอาใจความของท่าน มาต่อยอด องค์พระในกระทู้
พระของผม มีใครเคยเห็น คราบกรุเม็ดทรายแช่น้ำบ้าง)
คราบรอยน้ำ ในองค์พระกระทู้ แห้งสนิท มีลักษณะใสสีออกขุ่น มองเห็นมวลสาร บนคราบน้ำ ชัดเจน มีการลอกหลุดของคราบน้ำบนองค์เนื้อพระ(ผมสันนิฐานเอา ว่าถ้าต้องการจะลอกคราบน้ำนี้ ช่างผีมือ เก่งๆ คงจะทำได้ ถ้าไม่ต้องการให้มี)
เลยเป็นคำถาม ต่อไปว่า ถ้าพระในกระทู้ ไม่มีคราบน้ำที่ว่าแล้ว ทรงพิมพ์ เนื้อมวลสาร ยังจะเป็นพระสมเด็จ บางขุนพรหม อยู่หรือไม่ (สิ่งที่ทำให้ผมคิดว่า เป็นสมเด็จบางขุนพรหม คือรอยตราหมึกยางสีม่วง ที่หลังองค์พระ)
พระองค์นี้มีความเห็นเป็น2แนวทางของท่านอาจารย์ที่มาให้ความเห็น
ผมก็อยากยกพระในกระทู้เป็นกรณีศึกษา
ผมขอบคุณในความคิดเห็น ที่แสดงระดับถึงภูมิปัญญา ที่ท่านกรุณาให้ความรู้ ในสิ่งที่ท่านได้ศึกษา หาความรู้มา
การศึกษาหาความรู้ ไม่มีถูก หรือไม่มีผิด บทเรียนในอดีตเค้าก็ว่าโลกเราแบน บางความเห็นก็ว่าโลกเรากลม
ก็ได้แต่ รบกวนท่านอาจารย์ที่ทรงภูมิ ความรู้ และมีประสพการณ์ในการสัมผัส เคยส่อง
มีห้อยคอ คอยชี้แนะผม ต่อล่ะครับ
ผิดเพราะความไม่รู้ ดื้อเพราะความสงสัยของผม ท่านอาจารย์ก็ให้อภัยกับผม ด้วยนะครับ

 

หามิได้ ครับท่านพี่
ผมก็บอกแล้ว ว่าความเห็นส่วนตัวของผม เห็นด้วยกับท่านพี่
ด้วยความเคารพครับ

 

คราบกรุเกิดทับกันเป็นชั้นๆ คราบกรุทรายก็มีแต่น้อย และเกิดหลังสุด สังเกตุคราบกรุของบงขุนพรหม คราบกรุจะมีคราบรักผสมอยู่ ท่านลองอ่านข้อสังเกตุของ อ.ประชุมที่ผมแนบไว้ให้อ่านแล้วท่านจะเก็ต ลองชมภาพพระที่ผมแนบมาครับ
ถ้าพระไม่มีคราบกรุรักเลย คงไม่ไช่บางขุนพรหม และวัดระฆังไม่มีคราบกรุครับ
เนื้อปูนฟูร่อน จับตัวหลวมๆ ไม่เกาะแนะเหมือนพระอุตสาหกรรม ไม่ไช่พระเอากาวลาเทกอักแล้วปั๊ม เนื้อจะไม่แน่นและแก่ปูน
ศึกษาโดยการดูนะครับ การอ่านมากๆคือการเอาหูไปฟังมาอีกอย่างนึง
เลือกข้อมูลที่จะเสพ ศึกษาจากผู้รู้จะะเจอทางลัด ศึกษาทุกอย่างแล้วมาเลือกก็ดีแต่ท่านจะต้องผ่านป่าไปอีกมากและโดนมิจฉาทิฐิครอบงำมาก
หวังว่าจะเป้นประโยชน์

 

แต่ถ้าท่นปักใจว่าองค์นี้ต้องแท้แล้วพยายามหาข้อมูลมาเพื่ออ้างอิง ผมว่ามันจะไม่เกิดประโยชน์ในการศึกษา รู้ว่าปลอมคือปลอม รู้ว่าแท้คือแท้ รู้จักยก รู้จักวาง จะประเสริฐนักครับ

 

ขอบพระคุณครับ
องค์พระของท่านอาจารย์2ท่าน ที่มาโพส ให้ผมศึกษา องค์จริง ก็ ไม่มีคราบรัก หรือ แปะทองคำเปลว น่ะครับ
ด้วยความเคารพ

 

ด้วยความเคารพ ท่านอาจารย์ครับ
ตั้งแต่เริ่มผมตั้งกระทู้ถามมา ผมยังไม่มีความเห็นส่วนตัวเลยครับ ว่าพระในกระทู้ที่ถาม
เป็นพระแท้ ของสมเด็จท่านสร้าง
แต่ด้วยความสงสัย จึงมาตั้งกระทู้ถาม
ผมก็ อยากให้ท่านพิจารณา ทรงพิมพ์ และ มวลสาร ว่ามันถูกต้องหรือไม่ถูกต้องอย่างไร
ผมไม่ต้องการศึกษาเพื่อไปประกอบอาชีพ หรือหาหลัก ลดความเสี่ยงในการดูพระแสวงหาพระเพื่อแลกเป็นเปลี่ยนเป็นปัจจัย6
อาจารย์ลงความเห็นว่าไม่แท้ เพราะคราบกรุ ผมก็ หาบทความของอาจารย์ท่านอื่น ที่ผมหาได้ มาหักล้าง
ท่านอาจารย์ ต้องไปต่อ ครับ ท่านจะเลี้ยวหัวรถกลับไม่ได้

 

ด้วยความเคารพ
พระแท้สากล ในมือเซียนใหญ่ หลายๆๆเวป ที่ผมไปดูมา ก็ ไม่มีคราบรักอย่างที่ท่านอาจารย์ให้ความเห็นครับ

 

หักล้างเพื่อ???
ผมไม่ได้มาเล่นเอาเถิดกับท่านนะครับ
ผมว่าหลายๆท่านที่มาตอบให้ท่านเพราะว่าด้วยความช่วยเหลือ จิตเมตตากันทั้งนั้น ไม่ได้ต้องการเอาชนะ
วันๆแค่หากินก็ยากพอแล้ว ยังจะมาเล่นจิตวิทยากันเพื่อ??? พี่ชนะได้อะไร ผมแพ้เสียอะไร
การศึกษาให้รุ้ว่ารู้ก็คือรู้ รู้ว่าไม่รู้ก็คือรู้
ขงจื๊อกล่าว
แต่ถ้าท่านจะเล่นโต้วาที ผมขอจบตรงนี้แหละครับ สาธุ

 

ล้างมาได้ไหมครับ
คิดหน่อยครับ

 

หรือจะเพราะ พระพวกนั้น โดนน้ำ อย่างที่ท่านอาจารย์ เคยให้คำชี้แนะ

 

เหตุผล แบบนี้ ผมก็แถได้ ว่าพระองค์ในกระทู้ โดนน้ำฝน
ผม ขอแบบเชิงวิชาการ ครับ แถแบบนี้ ดูไม่น่าเชื่อถือครับ
ด้วยความเคารพ