ร่วมทำบุญบูชา มงคลฟ้าบังตาปิดสัมพันธ์ชุดวณิพกสยบเซียน(ตกถังข้าวสารพ้นสัมผัสมาร) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    วันนี้นั่งดูวัตถุมงคลต่างๆที่มีคนฝากพ่ออาจารย์มาเสกบ้าง มาฝังเครื่องมงคลพิเศษให้ตัวเองบ้าง ของบางอย่างดูแล้วก็คงต้องกล่าวว่าเป็นของเลียนแบบก็มี หรือไม่แท้ก็ส่งมาปนๆกันไป แต่ท่านก็ไม่ได้ตำหนิหรือกล่าวว่าอะไรคงเพราะเห็นใจในความศรัทธาของคนที่ส่งมา

    ท่านพูดให้แง่คิดว่าก้อนหินเรายังเสกได้ พร้อมกับหยิบพวกเหล็กไหลต่างๆส่งมาให้เราดู แล้วบอกว่ามันก็ของปลอมทั้งนั้น แต่เขาศรัทธาไปแล้ว ซื้อมาแล้ว ถ้าพูดออกไปเจ้าของเขาก็หมดกำลังใจ ไหนจะพาลไปว่ากล่าว มีปากเสียง ไปมีปัญหากับคนที่เค้าบูชามา ของพวกนี้ไหนๆเค้าก็ทำมาแล้ว เป็นรูปพระพุทธเจ้าบ้างพระอรหันต์บ้าง เราก็เชิญบารมีท่านทั้งหลายมาเจริญพรให้พวกเค้าไป ทั้งนี้ก็เป็นไปด้วยความเมตตาของพ่ออาจารย์ท่าน

    เช่นนี้เองกระมังหลายๆครั้งที่คนส่งของมาแล้วถามว่าดีมั๊ย แท้มั๊ย ท่านจึงให้เลี่ยงคำตอบทุกสถานการณ์ ให้ตอบไปแค่ว่าดีแล้ว นั่นคือไม่ว่าจะแท้หรือปลอมแต่ท่านก็เสกให้ดีแล้วนั่นเอง แม้ของปลอมจะไม่ได้สมบูรณ์ด้วยอำนาจของวัตถุมงคลเหมือนที่ควรจะเป็นแต่ก็ถือว่าท่านเสกให้ก็ใช้ได้แล้ว
    ;)
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา เจตภูติฟ้าคาดสายรกมหาสังวาลย์พระเจ้าเนรมิตสิทธิโชค (ภูติรับใช้พลิกวิกฤติ)
    คติความเชื่อแต่โบราณ คนที่เรียนวิชาอาคมหรือพุทธาคมทั้งหลายก็ดีมักจะมีภูติผีวิญญาณในสังกัด หรือมีพรายคอยรับใช้ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆที่ใครๆก็รู้จัก นั่นก็คือขุนแผน พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าขุนแผนนั้น แม้มีฤทธิ์มาก เรียนมามาก มีอาคมและวิชาดีเท่าไหร่ แต่แม้ตัวของขุนแผนเองก็ยังมีภูติพรายเป็นบริวารคอยรับใช้ มีหลายครั้งที่คนเก่งแบบขุนแผนนั้นรอดชีวิตมาได้ก็เพราะภูติพรายของตน ทั้งคอยกะซิบบอกกล่าวถึงยาพิษในอาหารที่กินบ้าง ทั้งใช้ในการรบทัพจับศึกบ้าง ใช้ป้องกันอันตรายที่ไม่ทันระวังตัวบ้าง หรือแม้แต่ใช้ในสถานการณ์เร่งด่วนขี่เป็นพาหนะเหาะไปหานางพิมก็เกิดขึ้นมาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าขุนแผนนั้นเรียนวิชาบังคับโหงพรายเหล่านี้มาจากขรัวตาคง วัดแค ซึ่งโหงพรายทั้งหลายอันเป็นบริวารของท่านก็ล้วนแต่จงรักภักดีต่อผู้เป็นนายไม่คิดแว้งกัดทำอันตรายใดๆทั้งสิ้นพ่ออาจารย์ท่านว่าพูดให้ถูกไอ้ตัวโหงพรายแบบที่ขุนแผนใช้งานนี้เราจะเรียกว่าภูติรับใช้ก็ได้ เอาให้เข้าใจง่ายๆพวกเขาก็คือบริวาร ทาสในเรือนเบี้ย หรือข้าทาสนั่นเอง คนสมัยก่อนที่เล่นอาคมหรือเรียนทางพุทธาคมส่วนมากก็จะมีบริวารเหล่านี้ไว้ในปกครอง พูดให้ถูกก็คือจำเป็นต้องมีหรือไม่มีไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเก่งคับฟ้าแค่ไหน ขึ้นชื่อว่าคนก็มีโอกาสขาดสติได้ มีวันพลาดได้ และข้าทาสบริวารเหล่านี้นอกจากเอาไว้ใช้งานในกิจต่างๆแล้ว เขาก็ยังต้องคอยพิทักษ์รักษาในวันที่เราพลาดเราเผลอนั่นเอง

    จริงอยู่ว่าภูติรับใช้นั้นเป็นสิ่งจำเป็น โหงพรายที่จะทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ทำตามใจเจ้านาย สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งจำเป็น เป็นของดี เป็นยอดปรารถนาที่คนมีวิชาทั้งหลายต้องการจะหามาไว้คู่ชีวิตให้ได้ แม้จะต้องศึกษาหรือลองผิดลองถูก บางคนได้ไข้เจ็บป่วยไปเพราะคุณผีคุณพรายก็มาก แต่ขึ้นชื่อว่าชายชาตรีแล้วก็ยังปรารถนาที่จะเป็นคนดีมีชาอาคมอยู่ร่ำไป เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจที่จะสร้างโหงพรายขึ้นมาให้มีอิทธิคุณดุจภูติรับใช้นั้น แต่ตัวท่านก็ไม่พึงปรารถนาจะใช้กระดูกหรือวิญญาณใดๆมาสร้างให้เป็นเวรกรรมต่อกันและกัน รวมถึงเป็นอันตรายแก่ชีวิตผู้ได้บูชาไปด้วย เรียกว่าถึงจะทำพรายแต่ก็ไม่ยอมใช้ผงพรายนั่นเอง แล้วอะไรล่ะที่จะแรงกว่าพราย เป็นพราย แต่ไม่ใช่พราย และก็ไม่มีผงพราย ...บอกได้คำเดียวว่าพ่ออาจารย์ท่านเก็บรวบรวมมวลสารมานานนับสิบปีกว่าจะทำให้เกิดขึ้นมาได้ ของสิ่งนี้แน่นอนว่าเหนือกว่าผงพรายใดๆ ด้วยท่านใช้รกของเด็กแรกเกิดที่ให้คุณตรงตามตำรานำมาสร้างนั่นเอง ท่านว่าลำพังรกของสัตว์เดรัจฉานยังให้คุณมากถึงปานนั้น แล้วรกของมนุษย์อันเป็นสัตว์ประเสริฐที่มีอาถรรพ์ตรงตามตำราเล่าจะให้คุณมากมายหนักหนาปานใด รกของมนุษย์เช่นใดจึงมีฤทธิ์แรงกล้าปานนั้น แล้วมหาเจตภูติพรายชนิดใดที่พ่ออาจารย์ท่านจะปลุกสร้างขึ้นมา จะแรงและให้คุณมากเช่นใด...


    เมื่อจะทำเจตภูติฟ้านั้น พ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมสายรกหรือมหาสังวาลย์ที่ติดตัวมนุษย์มาแต่เกิดด้วยถือคติว่า สายรกพระเจ้าคือท่อหล่อเลี้ยงดับกระหาย เป็นสายใยผูกความสัมพันธ์กับมารดาและบุตร วิชานี้ผู้ใดได้ถือครองจะมีกินไม่รู้สิ้น ดั่งทารกในครรภ์มารดาที่มีคนหาเลี้ยงสิ่งต่างๆมาบำรุงบำเรอตลอดเวลา ท่านว่าเขาจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยลาภสักการะเพิ่มพูน ร่ำรวยไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อพ่ออาจารย์ท่านถือคติสร้างขุนพรายด้วยวิชานี้ ด้วยสายรกเชื่อมสัมพันธ์ทารกและมารดา ท่านว่าอันมหาภูตินั้นก็จะภักดีกับเราและเชื่อมต่อกับเราดุจบุตรเชื่อฟังและให้ความเคารพมารดาไม่มีวันหักหลังเช่นนั้น ด้วยเคล็ดนี้พรายของท่านจึงได้ชื่อว่ามีฤทธิ์กล้ามากบารมี ซื่อสัตย์ ใช้งานง่าย และเหนือสิ่งอื่นใดเลยคือเก่งทางทำมาหากินบันดาลโชค เมื่อได้ผูกสัมพันธ์กับใครตำราว่าไว้จะให้คุณอนันต์แก่ชนผู้นั้น อันรกของสัต์ประเสริฐทั้งเก้าประกอบไปด้วย
    - รกของเด็กที่เกิดมารกพาดคอ
    - รกของเด็กฝาแฝดสามที่เกิดมารกพาดคอ

    - รกของเด็กที่เกิดมายามพระอาทิตย์ทรงกลดตอนเที่ยงวัน
    - รกของเด็กที่เกิดมาลิ้นดำ
    - รกของเด็กที่เกิดมาในตระกูลมหาเศรษฐี
    - รกของเด็กที่เกิดมาในตระกูลของผู้มีอำนาจ
    - รกของเด็กที่เกิดมาในตระกูลสายเลือดชั้นสูง
    - รกของเด็กที่เกิดมาในวรรณะพราหมณ์

    - รกของเด็กที่เกิดมาแล้วบิดามารดาเจริญรุ่งเรือง
    หลังจากท่านได้มวลสารบังคับตามตำรา ท่านก็นำมาตากแห้งและป่นเสกเก็บไว้ด้วยวิชาสายรกพระเจ้า ก่อนจะนำมาทำวิชาสร้างเจตภูติฟ้า พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงรกทั้งเก้านี้มาผสมมวลสารต่างๆที่ให้คุณกับผู้บูชาได้แก่ ผงยันต์นิพพานสูตร ผงคาถาเณรแก้ว ผงคาถาพรายแก้ว ผงกำเนิดราคะ ผงพรายกะซิบ ผงยันต์นะเสน่ห์ร้อยแปด น้ำมันเสน่ห์เกล้านางนี ผงยาสัก แร่ทองคำดำ แร่เงิน
    น้ำมันตะเคียนทองคู่ น้ำมันช้างผสมโขลง ผงพรายตะเคียนฟ้า พุทธรักษา รักซ้อน ทับทิม ไคลโบสถ์เสมา 7 วัด...

    ด้านหลังท่านลงตะกรุดผีรักผูกไว้ด้วย... เป็นคติทำอาถรรพ์ผูกเขาไว้ เมื่อเขารักเรา เขาย่อมยินดีบุกน้ำลุยไฟทำทุกอย่างเพื่อเรา ท่านว่าตะกรุดนี้ทำเพื่อให้ดวงจิตนี้เป็นทาส เป็นบริวารที่จงรักและพร้อมช่วยเหลือให้เราใช้งานเขาได้จริง เอาว่าไม่มีวันทรยศหักหลังนายได้เลย

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำมวลสารที่ผสมนั้นมาปั้นทีละตนเป็นรูปหัวกระโหลก ท่านว่ามองทีแรกอาจจะไม่ชอบใจคิดว่าเป็นของน่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกนั้นไม่ใช่ผีหากเป็นจิตใจมนุษย์ ท่านทำเช่นนี้เพื่อปลงอารมณ์กรรมฐานและคาดหวังอย่างยิ่งว่าผู้บูชาจะเห็นภัยในวัฏสงสาร ปลงอารมณ์อสุภกรรมฐานเข้าใจเรื่องชีวิตและความตาย เวลามองเจ้ากระโหลกน้อยนี่ก็คิดเห็นภัยในสงสารวัฏ ท่านว่าข้ามพ้นความตายก็คือพ้นวัฏสงสารเป็นทรัพย์สูงสุดอันประเสริฐ เช่นของสิ่งนี้ที่เราคิดว่าน่ากลัว ถ้าเราข้ามพ้นไปได้ก็จะพบคุณวิเศษสูงสุดของเขาเช่นกัน ตรงข้ามกับรูปโฉมที่ฉาบทาภายนอกพ่ออาจารย์ท่านกล่าวอย่างมีนัยยะสำคัญว่าเจตภูติฟ้านี้ที่เราทำมีวิมานครอบ เป็นขุนพรายที่มีบารมีของเขาเองสูงมากด้วยเมื่ออธิษฐานจิตนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้บวชเจตภูติฟ้าให้เป็นวิญญาณมงคลแล้ว ถ้าใจต่ำถึงที่สุดแล้วจริงๆเช่นนั้นจึงจะเห็นรูปของเค้าน่าเกลียดน่ากลัว พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นวิชาพยนต์คุณวิชาที่ผูกขึ้น ไม่ใช่ผงผี หรือพราย ไม่ได้จับวิญญาณใดมายัดจึงไม่มีโทษใดๆต่อผู้ใช้บูชา

    โดยเน้นการปลุกเสกไปในด้านเมตตา ค้าขาย ปกป้องคุ้มครอง การบอกเหตุล่วงหน้าและเป็นพรายกระซิบเตือนภัยที่จะเกิดขึ้น หรือแม้แต่ลาภผลต่างๆทั้งด้านการเสี่ยงโชค โชคลาภ การพนัน แล้วแต่ผู้พกพาหรือผู้เลี้ยงจะบนบาน เลี้ยงพูดคุยเช่นกุมารทองซึ่งเขาไม่ให้โทษแก่คนเลี้ยง เมื่อบูชาเวลาเรียกใช้งานคนใช้จะสัมผัสได้ผ่านการสื่อสารทางจิต ทั้งยังเป็นเครื่องรางมหาเสน่ห์ ให้คนบูชาใช้ตามหาความรัก ตามของหาย หรือจะบนบอกของเรื่องการงานก็ได้เมื่อจะเรียกเจตภูติฟ้ามาใช้งานก็ไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงผู้ที่บูชามีความเชื่อมั่นในครูอาจารย์เท่านั้น ท่านว่าต้องปลุกเสกให้สำเร็จในสี่ฤกษ์ ได้แก่
    - ราชาฤกษ์ ฤกษ์ของพระราชาผู้มีบุญญาธิการ
    - เทวีฤกษ์ ฤกษ์ของสตรีผู้มีบุญญาธิการ
    - มหัทธโนฤกษ์ ฤกษ์ของผู้มั่งคั่งค้าขายร่ำรวย
    - ภูมิปาโลฤกษ์ ฤกษ์ผู้รักษาแผ่นดิน

    ท่านเสกจนบังเกิดนิมิตถึงเจตภูติฟ้านั่งกะดิกขากระพริบตาได้ พูดตอบโต้กันได้ แล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงกำกับให้เขาคอยเข้าฝันกระซิบบอกเหตุดีร้ายทั้งหลาย ทั้งบอกโชคลาภล่วงหน้าแก่คนใช้ให้แม่นยำ คุ้มเกรงรักษาให้คุณเจ้าของ คอยปัดเคราะห์บังภัย ปิดอุปสรรค คอยทำตามสิ่งที่คนใช้ปรารถนา ท่านว่าเขามาเพื่อเกื้อกูลเรา เอาว่าใช้ได้และใช้งานง่ายเสียด้วย

    ก่อนจะออกให้บูชานั้นท่านว่าเราต้องเสกเก็บจนมันใจ กล่าวง่ายๆคือเสกไปเรื่อยๆ จนเขามาบอกนิมิต แจ้งเหตุดีร้าย บอกโชคบอกลาภล่วงหน้าได้แม่นยำ ท่านว่าทำกันแบบสถิติเลย ต้องแม่นยำจริงจึงจะสำเร็จและนำออกให้คนบูชา ผู้บูชานั้นเขาจะให้ประโยชน์รับโชคลาภและสิ่งดีงามทั้งหลายในชีวิตได้จริงสมดั่งตำราโบราณ เขาจะพึงได้ประโยชน์จากการอธิฐานขอความช่วยเหลือถ้วนทุกประการ แม้พกอาราธนาไว้ก็จำเริญด้วยคุณดังต่อไปนี้
    - การทำมาหากินประกอบอาชีพต่างๆคล่องตัวขึ้น
    - ไปแห่งไหนที่ไหนใครก็เมตตา(โดยเฉพาะผู้ใหญ่)
    - บันดาลโชคลาภด้วยการดลใจหรือเข้าฝัน
    - บอกเหตุดีร้ายล่วงหน้าด้วยการกระซิบ หรือบอกผ่านภาพเหตุการณ์ในจิตใต้สำนึก
    - รับเคราะห์กรรมที่เกินกำลังแทนตน
    - คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
    - มีเมตตามหานิยมจะติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใดย่อมสำเร็จโดยง่าย


    วิชาเจตภูติฟ้าหรือการสร้างภูติรับใช้นั้น ท่านว่าเป็นเครื่องรางที่เน้นไปในทางสนองความต้องการ ให้เจ้าของใช้งานเขาได้ ให้คุณมาก ให้ความซื่อสัตย์ จงรักภักดีให้แก่เจ้าของ เป็นยอดวิชาแต่โบราณ ซึ่งวิชานี้หาผู้ที่รู้จริงถึงแก่นแท้จนสามารถสร้างได้สำเร็จยากยิ่งและนับวันจะหาผู้แตกฉานในวิชาแขนงนี้น้อยนัก เพราะเป็นตำรับที่ครูบาอาจารย์ตั้งแต่โบราณหวงแหนกันมาก นิยมถ่ายทอดแบบปิดบังเพื่อไม่ให้ตกถึงแก่บุคคลทั่วไป ที่ถ่ายทอดแบบครบสูตรจะมีก็แต่บุคคลสืบสายเลือดเดียวกันเสียส่วนใหญ่นั่นเอง เคล็ดวิชาดังกล่าวจึงมีความศักดิ์สิทธิ์สูงเห็นผลทันตา เช่นนี้จึงมีคนที่ปรารถนาภูติรับใช้ทั้งหลายลองผิดลองถูกใช้คุณผีคุณพรายจนเกิดเป็นอันตรายขึ้นแก่ตนเองก็มาก เนื่องจากวิชาดังกล่าวมีความศักดิ์สิทธิ์สูงเห็นผลทันตาและมีเนื้อความสลับซับซ้อนในขั้นตอนการสร้างและเสก แต่เมื่อทำสำเร็จท่านว่าเจตภูติฟ้านั้นเขาจะมาช่วยเหลือรับใช้ ทำสิ่งใดก็ได้ตามแต่ผู้ใช้วิชาจะพึงปรารถนา

    ท่านลงข่มอาถรรพณ์ เพิ่มมหาอำนาจ เป็นการเพิ่มฤทธิ์ให้จิตเจตภูติ มีตบะอำนาจเหนืออาถรรพณ์ทั้งปวง เพราะการที่จะใช้เจตภูติในการเสียงโชค เสี่ยงดวงหรือการพนันใดๆนั้น อำนาจ ตบะมหาภูติหรือขุนพรายของเราต้องเหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามจึงจะดี เช่นสถานที่บางแห่งหรือคนบางคนมักจะมีของกัน มหาภูตินี้จะไปช่วยแก้และช่วยหนุนเสริมดวงกับเราให้เหนือกว่าเขา เหนือคู่แข่ง หากใช้ค้าขายก็จะต้องเหนือกว่าขายดีกว่า ทำอะไรใช้อะไรก็ชนะเขาทุกสิ่ง

    มหาภูติรุ่นนี้ท่านว่าเขาชอบโชว์พลังอำนาจ คนใช้จึงรู้สึกได้และเห็นผลไว หากวันไหนดวงเราเปิดจะมีโชคเขาจะมาบอกให้เห็น ใช้อธิษฐานขอเอาเถิเมื่อเห็นผลก็ควรมีของตอบแทนเขาบ้าง นั่นคือการชวนเขาสวดมนต์ทำบุญอุทิศบารมีไปให้ ท่านว่ายิ่งทำเขาก็จะยิ่งแรง ส่วนพวกข้าวปลาอาหารของดิบของมึนเมา ท่านว่าเขาไม่ต้องการ เขาไม่ใช่ผีไม่ใช่พรายหรือวิญญาณปกติ ขอแค่เรามีศรัทธาเชื่อมั่นอย่างจริงใจ หมั่นชวนเขาทำบุญสร้างกุศลไปด้วยกันก็จะเห็นผลไวตามที่ปรารถนาอย่างแน่นอน

    คาถาบูชา
    นะรึ โมรือ รึรือ ลึลือ นะโสสิสุ นะสุโส เอหิ จิตตัง เกปัสสิปังนิมิตตัง ปิสาโลมา จะมาเลโส จะโสมาเล เอหิมะมะมามา โอมคะลุกคะลุก ลุกแล้วอย่านอน นะปลุกจิตโมปลุกใจ ขุนพรายพูดได้ กะระมะถะมะอะอุอุอะมะมานิมามา ขุนพรายเจ้าเอ๋ยอยู่แล้วหรือยังอยู่แล้วเจ้าข้า กุรุมุถุจงมาเป็นหูจงมาเป็นตาดีร้ายบอกข้าดีร้ายช่วยข้า กิริมิถิสุสิสุสังพระอะระหังพุทโธโลกะวิทู สิทธิหุนลูสะหวาโหม

    * รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น เมื่อได้รับไปหนแรก พ่ออาจารย์ท่านว่าให้อธิษฐานผูกสัญญานายบ่าวด้วยการตั้งชื่อให้เขาด้วย อันวิชามหาภูติขุนพรายนี้หนึ่งตนก็เสมือนหนึ่งคน ถ้าใครอยากมีบริวารหลายตนเพื่อช่วยงานหรือใครคิดทำการณ์ใหญ่จะใช้ให้รอบด้านก็ตามแต่ความเหมาะสมจะพิจารณากันเอง ยกตัวอย่างเช่นขุนแผนก็เลี้ยงโหงพรายมากมาย เพราะงานบางอย่างก็ต้องใช้หลายแรงหลายกำลังถึงจะสำเร็จได้รวดเร็วดั่งใจนึก ท่านว่าคนบางคนดวงก็ขาดคู่ไร้บริวาร ตรงนี้แก้กันได้ ยิ่งมีบริวารมาก ดวงเรา บารมีเรา ก็จะยิ่งมากเป็นเงาตามตัว(ใช้พกใส่กระเป๋ากางเกงได้ ทำพวงกุญแจได้ หรือแม้แต่จะห้อยคอก็ยังได้ท่านว่าสะดวกอาราธนาแบบไหนล้วนใช้ไ้ดทั้งสิ้น)

    ร่วมทำบุญบูชา เจตภูติฟ้าคาดสายรกมหาสังวาลย์พระเจ้าเนรมิตสิทธิโชค (ภูติรับใช้พลิกวิกฤติ) บูชา 1,000 บาท

    36233434_2225211577765251_842673442468659200_n.jpg 36121286_2225211571098585_1999075197730160640_n.jpg
    36259891_2225211551098587_9068956198648152064_n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    กระแสแรงมากเพราะเป็นวิชาโบราณที่หลายๆคนบอกว่าหาดูยังยาก ก็น่าแปลกที่พวกเจ้าพวกนายหลายๆคนที่ประกอบกิจการขอบูชากันมาหลายสิบตนตั้งแต่เมื่อวาน ใจเรายังคิดว่าพอเห็นรูปวันนี้เขาคงช๊อค คิดว่าน่ากลัวไม่จองหรือลดยอดไปเอง กลายเป็นว่าพอลงโพสต์กลับเพิ่มยอดเข้ามา โดยบอกเราว่าพ่ออาจารย์ท่านทำรุ่นนี้ดูแรง คลาสสิคดี และมวลสารแบบนี้ให้ไปหาเองก็ไม่รู้จะมีปัญญาหาได้จากไหน อีกอย่างบริวารผมที่เป็นคนมีหลักร้อยหลักพันยังพอจะหาเพิ่มได้ แต่บริวารทางจิตวิญญาณถ้าไม่เอาผมก็ไม่รู้จะไปหาจากไหนได้อีกแล้ว พอเพิ่มยอดมาเราเลยต้องจำกัดยอดให้ไม่เกินห้าองค์ เพราะถ้ามากกว่านี้คนอื่นจะไม่ได้ใช้เลย ให้ยอดกระจายๆจะได้บูชาได้ทั่วถึงกัน

    แล้วประกอบกับคนที่เคยใช้ก็เอาไปตั้งชื่อให้เองว่ารุ่นเลขล๊อก เพราะได้มีประสบการณ์ส่วนตัวนำไปบูชาหลายตนได้หวยรวยเบอร์หลายงวดจนเจ้าไม่รับแทง เขาว่าแต่ละงวดจะได้ยินเสียงไม่ซ้ำกันเลยวนมาบอกกันคาดว่าเป็นพ่อขุนพรายที่เขาตั้งชื่อให้ว่าหมายเลข 1 2 3 มาทำหน้าที่หมุนเวียนตามโอกาสของเขา แถมยังขอบูชาเพิ่มแต่พ่ออาจารย์ท่านทราบเจตนาจึงยับยั้งไว้ แล้วก็ได้ไปบอกเพื่อนบอกญาติให้รอวันเปิดบูชาด้วยเหตุว่าหาของที่จะแจ้งจะกะซิบเรื่องที่ไม่ค่อยถูกทำนองคลองธรรมแบบนี้ไม่ค่อยจะมี ทั้งนี้วิชาเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้กันให้ดีเอาแค่พอเหมาะพอควร เพราะเขาเป็นทาสรับใช้เราทำอะไรให้เราได้ทุกอย่าง ต่างจากบูชาพระหรือเทพที่เราต้องไปยึดเกาะท่านเป็นที่พึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าทำให้หนเดียว วิชาครูแต่โบราณแค่เฉพาะลำพังหามนุษย์ที่คาดสังวาลย์ตั้งแต่เกิดตรงตามเคล็ดวิชาก็นับว่ายากพอดูแล้วยิ่งต้องรวบรวมให้ครบเก้าลักษณะด้วยยิ่งยากขึ้นไปอีก ท่านว่าเพราะเราอยากทำเจตภูติฟ้าที่ไม่เป็นอันตราย ใช้ง่าย ไม่กระทบกับจิตวิญญาณคนใช้เราถึงทำ


    36359645_2225868237699585_5260713606156124160_n.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่วิระพัฒน์ EV 0224 2490 8 TH

    พี่ไววิทย์ EV 0224 2491 1 TH

    พี่ทวีพงษ์ EV 0224 2492 5 TH
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พูดคุยรอบเช้า

    เกี่ยวกับมหาภูติหรือขออนุญาติเรียกสั้นๆว่าพรายน้อยก็แล้วกัน ก็เริ่มมีเรื่องเฮี้ยนๆแสดงออกมาให้เห็น และก็มีบางท่านเข้าใจผิดเหมือนกัน

    ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าไม่ใช่กุมารทอง มหาภูติคือจิตวิญญาณผู้ใหญ่ที่เติบโตเต็มที่แล้วไม่ใช่เด็กน้อย หลายคนเข้าใจปิดเพราะไปมองมวลสารที่เป้นรกของเด็ก อันนี้ต้องอธิบายว่ารกคือสายสัมพันธ์ คือท่อหล่อเลี้ยงทารก ไม่ใช่จิตวิญญาณเด็ก ไม่ใช่พรายหรือผี เป็นมวลสารที่พ่อาอจารย์ท่านเอาไว้ผสมว่านยาและผงวิเศษอีกคำรบหนึ่ง ดังนั้นรกจึงเป็นพลังงานอาถรรพ์ที่หนุนคุณวิชาคาดสายรกมหาสังวาลย์พระเจ้า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิญญาณเด็กหรือของที่เสกนั้นจะต้องเป้นกุมารทองแต่อย่างใด

    เรื่องรูปร่างตรงนี้เป็นรสนิยมส่วนตัว บางคนบอกพ่ออาจารย์ท่านปั้นเป็นกระโหลกรุ่นนี้ดูน่ากลัว แต่บางคนก็บอกว่าคลาสสิค อันนี้ให้มองกันลึกๆ หัวกระโหลกน้อยนี้มีคติธรรม ข้อธรรมแฝงอยู่บางทีท่านก็ให้ใช้ปลงอารมณ์กรรมฐาน เหตุหลักท่านว่าสมัยนี้คนเรามักยึดติดกับสิ่งสวยงามชอบมองและคุ้นชินกับมัน กล่าวอีกอย่างหนึ่งว่าติดกับรูปรสอันปราณีตก็ได้ ตรงนี้ท่านว่าอย่าถูกอารมณ์หรือรูปกายภายนอกซึ่งเป้นสิ่งฉาบทา สิ่งสวยงามต่างๆชักพาไป อันเครื่องมงคลนั้นถ้าใครใช้เป็นก็จะมีคุณอนันต์ ใช้เพื่อสร้างกำลังใจ ใช้เพื่อปฏิบัติ เตือนตัวให้ตื่นรู้ของเช่นนี้ก็จะมีคุณมากกว่าเป็นวัตถุมงคลยิ่งนัก

    * มหาภูติหรือพรายน้อยนั้นอย่างที่กล่าวแต่ต้น หนึ่งตนเปรียบกับคนหนึ่งคนไม่ใช่เก้าคน บางท่านบอกว่ามีความรู้สึกเหมือนครูสั่งตอนจะจองให้จองเกินเลขวันเกิดมาหนึ่งตน บางคนแรงครูก็บันดาลให้เป็นไปเพราะเขามีสื่อมีความรู้สึกถึงกันได้เลยรู้ว่าต้องเอาแค่ไหนถึงจะเหมาะจะดีกับชีวิตเขา แต่บางคนที่ชะตาปิดก็ต้องใช้การพิจารณามากๆ เรื่องพรายมหาภูตินั้นจะเก่งแค่ไหนก็เป็นคนเพียงหนึ่งคน หากเราบูชาเขาไปเพื่อปกป้องคุ้มครองตัวเององค์เดียวก็เกินพอ แต่หากจะเอาไปขอเอาไปใช้อะไรประดุจทาส เป็นคนมีเป้าหมายสูง มีเรื่องจุกจิกมาก เรื่องขอเรื่องช่วยมีเยอะ เช่นนี้ตนเดียวย่อมไม่พอ เพราะขนาดคนยังมีสังคมของคน ข้าทาสบริวารก็เช่นกัน ถึงจะเก่งแต่เขาก็ต้องการกำลังหลายๆแรงมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ท่านว่าอย่าไปพูดไกลเลย แม้เเต่ขุนแผนยังเลี้ยงทีมากมาย การเลี้ยงพรายที่ไม่มีอันตรายเช่นนี้ก็เป็นข้อดีส่วนหนึ่ง แต่การเลี้ยงจะใช้ให้ได้ดีตรงตามเป้าประสงค์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตรงนี้ให้พิจารณากันเอง

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่อัครพงศ์ EV 0224 6784 6 TH

    พี่ปภัสสร EV 0224 6785 0 TH

    พี่พชร EV 0224 6786 3 TH

    พี่นวรัตน์ EV 0224 6787 7 TH
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ใครจะปรึกษาอะไร PM ทิ้งไว้นะครับ แล้วพรุ่งนี้มาติดตามพูดคุยกัน;)
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แม้เป็นผี ก็อยากให้คนทั้งหลายหมั่นทำบุญ

    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็จะขอยกนำบทความดีๆมาให้อ่านกันเห็นมีคนสอบถามเรื่องทำบุญให้คนตาย ก็พอดีกับบทความนี้อ่านทำความเข้าใจกันดีๆ เพราะทุกวันนี้หลายคนยังคิดยังเข้าใจผิดๆกันอยู่

    ข้าเองเคยนั่งพูดคุยกับเหล่าวิญญาน หลายต่อหลายครั้งทีเดียว พูดเช่นนี้ พวกไม่เชื่อ พวกไม่เคยพบเจอ มันก็ปากเสียตำหนิข้าอีก หาว่า อวดนั่น อวดนี่ กล่าวเกินจริง บ้างก็บอกว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน

    สิ่งที่ข้าพบข้าเจอ หากเอามาพูดคุย ล้วนแต่มีพยานเห็นและอยู่ในเหตุการณ์หลากหลายคน ส่วนที่พบเจอเฉพาะตน ก็แค่อาจคุยกันเพื่อบันเทิงกันในกลุ่มน้องๆ เพื่อประกอบธรรมที่สาธยาย ก็มีมากหลากหลายเหตุการณ์อยู่เหมือนกัน ไม่ค่อยได้ออกสาธารณะชน

    ถึงกระนั้น พวกที่ไม่เคยเห็นไม่เคยพบไม่เคยเจอ มันก็จ้องตำหนิ แต่ข้าก็ถือเป็นธรรมดาธรรมดีๆ ที่จะเป็นข้อคิดให้แก่ผู้คนที่หลงงมงาย มันก็เลยไม่ค่อยได้ออกมาเล่าสู่กันฟังรู้กันฟังกันในกลุ่มแคบๆ ขยายให้เห็นความเป็นจริงแห่งอารมณ์จิต ในอีกฟาก ด้วยภาวะธรรมแห่งเหตุการณ์

    ตรงนี้มันน่าเสียดาย น่าเสียดายที่เราไม่ค่อยได้รู้เหตุและผลในอีกด้านหนึ่ง ที่มีและเป็น ตามธรรมชาติของมัน เรื่องบางเรื่องที่ตามรู้ยาก ไม่สาธารณะต่อคนทั้งหลาย

    คนที่ยึดตำราจัด มักขัดขวางอ้างโน่นอ้างนี้ เพื่อให้คนอื่นเห็นความเป็นผู้ไม่งมงายแห่งใจตน ว่าเป็นคนที่มีความศิวิไลย์ สิ่งเหล่าเป็นเรื่องเหลวไหล ใครจะว่ายังไงช่างแม่มัน แต่สำหรับข้าสิ่งที่ได้เผชิญมาด้วยการเอาชีวิตเข้าแลก ขอตอบอย่างไม่สะท้านฟ้าดินอะไรเลยว่า สิ่งเหล่านี้ มันมีเป็นธรรมดา เป็นแต่เพียงว่า มันไม่สาธารณะต่อคนทั้งหลายที่จะเข้าไปล่วงรู้และสัมผัสได้

    ความงมงายในความคิดที่ว่า มันไม่ใช่และไม่มี มันก็เลยมีขึ้นมาในใจของคนที่มันคิดว่า ไม่เป็นความจริงและไม่มีจริงนี่..ช่วยไม่ได้จริงๆ สำหรับคนที่มันตั้งกำแพงปิดบังตนเอง..


    วิญญานส่วนใหญ่ที่ได้พูดคุยกันนั้น ส่วนใหญ่จะบอกว่า พวกมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่นี่ มันแสนโง่ มันช่างหน้าโง่ดั่งที่เขาเคยโง่กันมาตอนเป็นมนุษย์ หากเขามีโอกาศได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ เขาจะขอสร้างบุญสร้างกุศลมากๆ

    การสร้างบุญสร้างกุศลมากๆ เหล่าผีเห็นชัดว่า มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่แก่ดวงจิต มากๆ แต่มนุษย์มองไม่เห็น มนุษย์มันไม่รู้ ช่วยบอกมันที บอกญาติเขาที ไม่ต้องมาทำบุญเพื่อเหล่าผีอย่างเขาหรอก เขามีวิบากของเขาที่จะต้องเสวยอยู่แล้ว ขอแค่ให้หมั่นทำ เพื่อใจมนุษย์เองเถิด ทำเอาเองเถิด ทำบ่อยๆ ทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใจมันชินในการทำบุญทำกุศล

    ใจมนุษย์ที่เป็นเช่นนี้ กายแตกเมื่อไหร่ วิญญานมีหนทางดำเนินไปในหนทางที่สูง พวกเขาเห็นชัด พวกเขาเผชิญผลอยู่ แต่เหล่ามนุษย์ มันไม่รู้ มันไม่เห็น มนุษย์ที่รู้ที่เห็น ต่างก็เป็นพระอริยเจ้า ซึ่งท่านเหล่านั้น ต่างเห็นชัดดั่งที่เหล่าวิญญานเห็น ท่านไม่สร้างผลอันเป็นอกุศล ท่านสร้างแต่กุศล

    ท่านรู้ว่า หากไร้กาย ไร้รูปเมื่อไหร่ การสร้างใจให้เข้าและได้เหตุแห่งกุศล มันไม่สามารถทำได้ มันมีแต่ผลที่ต้องเสวย เมื่อยามไร้รูปครองอาศัย อย่าทำชั่ว อย่าตำหนิติเตียนเพ่งโทษผู้ทรงคุณ อย่าทำลายศรัทธาคน อย่าทำร้ายผู้อื่น ทางกาย วาจา ใจ ด้วยความเป็นอกุศลจิต ผลมันมันร้ายแรง วิบากกรรมมันจะจองจำให้อยู่ในสภาพทุกข์ อย่างยาวนาน

    อย่าสร้างวิบากกรรม อย่าทำ อย่าทำ ช่วยบอกลูกหลานเขาด้วย นี่..เหล่าวิญญานมักจะบอกข้าเป็นเช่นนี้ แนวนี้แทบทุกที่ ที่ข้าได้เผชิญ แต่ข้าไม่ไปบอกใครหรอก ไอ้เหี้...ย.ย บอกไปมันก็ไม่เชื่อ แถมมาด่าว่าทำตัวเป็นทาสรับใช้พวกผีอีก อยู่อย่างเฮ๊วๆๆ ง่ายๆ สบายๆ และคุยหนุกหนาน กับน้องๆ ที่น่ารักเท่าที่ติดตามกันก็พอแล้ว

    หมั่นทำบุญอยู่เนืองๆ เถิดเพื่อน นี่เป็นเรื่องเริ่มต้นที่จะทำให้ใจเป็นผู้มีศีล ศีลนี้ เป็นศีลแห่งความละอายชั่วกลัวบาป มันเริ่มต้นที่การมีใจทำบุญนั้นก็คือ ทาน...

    ทานเป็นที่มาของบารมีทั้งหลายนั่นก็คือ กำลังใจ เรามีกำลังใจที่จะสร้างทาน เพื่อสร้างฐานแห่งบารมีทั้ง 10 ให้เพียงพอหนาแน่นกันรึยัง

    >> คำถาม : พระอาจารย์ธรรมกะที่เคารพนรกมีอุตสาหกรรมหล่อโลหะด้วยหรือเปล่าครับกระทะทองแดงเอามาจากไหนใครหล่อให้หรือครับแล้วที่ว่ามีนรกเขาเอาสิทธิอะไรมาลงโทษคนที่ตายไปแล้วครับ.

    << พระอาจารย์ : ไม่มีใครหล่อมาให้หรอก Neosiamair Corps มันเป็นสมมุติวิบากที่จิตสร้างขึ้นมา

    นรกนี้ จริงๆ ก็ไม่มี แต่ที่มีเกิดจากจิตมันสร้างสมมุติ หลงในสมมุติ และก็ยึดในสมมุติว่ามันต้องมี เมื่อมีมันก็ต้องเสวย และมันต้องมีซะด้วย เพราะมันเป็นสถานที่ฟอกจิตตามวิบากที่มันหลงผิดนรกเป็นผลแห่งเหตุที่จิตดำเนินผิดมาทางหลง จิตที่ย้อมด้วยความหลงผิด

    นรกเป็นแหล่งฟอกย้อมแห่งจิต เพื่อให้มันมีความสะอาดพอ จะได้กลับมาเกิดใช้ชีวิตใหม่ ภายหลังจากฟอกจิตสันดานเลวๆ ที่ย้อมมาอย่างหนาแน่นนั่น สมัยมีรูป ในนรกไม่มีใครมีสิทธิ์เอาใครมาลงโทษใคร คำว่าเขาในที่นี้ก็คือ วิบากกรรมที่เจ้าตัวก่อขึ้นมาเอง เป็นผู้ดำเนินเอาดวงจิตที่สันดานเสียเหล่านี้ ลงไปฟอกล้างใหม่ นรกเกิดจากใจเราสร้าง ไม่ใช่ใครมาสร้างนรกให้ใจเราเข้าไปเสวยผล

    เรื่องนรกมันไกลเกินไปสำหรับผู้คน เอาวันนี้ให้ดีก็แล้วกัน หากไม่มีนรกก็แล้วไป ยังไงก็ต้องตาย
    แต่หากเสือกมี ความชิบหายแก่ใจนี้มันจะกลายเป็นผู้เสวยไม่มีใครมาช่วยได้ ฉะนั้น อย่าได้พึงทำความเลวร้ายให้แก่ใจดวงนี้ ต้องรับกรรมกลับไปฟอกใหม่ให้สะอาดพอเพื่อมาเกิดใหม่ในโลกในนรก

    หากคิดว่ามันไม่แฟร์หรือไม่มี ก็อยู่อย่างเป็นคนกวนตีนไป ตายห่าเมื่อไหร่ หากนรกมี ก็ถือว่าเกิดมาซวยไปก็แล้วกัน ไม่มีใครมาบังคับในเรื่องความคิดของใครอยู่แล้ว..

    image.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่นฤชา EV 0224 6889 0 TH

    พี่วีรภัทร EV 0224 6890 9 TH

    พี่ชัยวัฒน์ EV 0224 6891 2 TH

    พี่วราภรณ์ EV 0224 6892 6 TH

    พี่ทวีพงษ์ EV 0224 6893 0 TH
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    วันนี้จะฝากคำถามอะไรก็ PM กันไว้นะครับ;)
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันนะครับ ห้ามพลาดๆ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ก็จะพูดคุยกันตามปกติใครมีคำถามอะไรก็เข้า PM ฝากไว้ได้ แล้วก็จะมาต่อกันจากเรื่องที่มีคนสอบถาม จากตะกรุดที่กลายเป็นตำนานไปแล้วเช่นตะกรุดพระเพชร ที่หลายๆคนบอกว่าแรงด้วยญาณครู ญาณว่านและองค์พระเพชรก็น่าอัศจรรย์กับประสบการณ์เป็นที่สุด ใครจองทันก็ยินดีด้วยเพราะต่อไปท่านคงไม่ทำอีกด้วยมวลสารหายากและเวลาลงก็ใช้ความเพียรมาก

    เมื่อพูดถึงตะกรุด บางคนก็สงสัยว่านอกจากพระเพชรแล้วมีอย่างอื่นอีกมั๊ยเอาแรงๆคุณภาพคับแก้วแบบนี้ ก็ต้องบอกว่ามีแต่เป็นคนละสายกันเพราะเป็นของหวงของพ่ออาจารย์ท่านที่มีวิธีการใช้ค่อนข้างน่าประหลาดและเร็วทันตา ซ้ำยังเป็นวิชาสายพรหมเวทย์ดึกดำบรรพ์ ที่ไม่ค่อยจะมีคนสืบทอด ว่ากันว่าแม้หาดูก็ยังยาก หาชมกันก็ยังลำบาก พ่ออาจารย์ทานตีค่าวิชาตะกรุดหนึ่งดอกนี้ไว้เสมอด้วยชิ้นส่วนพระวรกายสำคัญของท้าวมหาพรหมทีเดียว มีอาถรรพ์มากทั้งการทำการใช้ที่พิศดาร ที่สำคัญเลยท่านยกค่าเสมอด้วยพระวรกายของบรมครูเช่นนี้ย่อมไม่ใช่ของสามัญ

    * เดี๋ยววันนี้มาติดตามเรื่องพูดคุยกันนะ...ห้ามพลาด

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ตอบ PM ครบนะครับ รอบเย็นติดตามพูดคุยกันดีๆห้ามพลาด
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พูดคุยวันหยุด

    "ใครที่เขาพลาด...น่าตีจริงๆ"

    มาต่อกันที่เรื่องพูดคุยรอบเช้ากันนะครับ หากพูดถึงพระพรหม ลำพังแล้วพวกเหรียญพวกรูปหล่อพระพรหมก็ยังพอมีคนสร้างกันบ้าง แต่ในส่วนของวิชาของท้าวมหาพรหมนั้นย่อมแตกต่างกัน เพราะของบางสิ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าข้างบนเค้าก็เลือกคนรับ บางอย่างย่อมไม่ปรากฏในโลก หรือไม่มีในคัมภีร์ บางชนิดก็ไม่มีผู้สืบทอด

    ซึ่งครั้งนี้พ่ออาจารย์ก็ได้ทำตะกรุดดอกน้อยๆไว้ หากแต่ตะกรุดนี้อานุภาพกลับไม่น้อยเลย ด้วยใช้ได้หลายทาง หลายแง่มุม ซ้ำกว่าจะทำให้สำเร็จได้พ่ออาจารย์ท่านต้องสละของใช้ส่วนตัวเพื่อพลีลงในเครื่องมงคลนี้ด้วย ท่านว่าตะกรุดนี้แม้มีแค่วิชาก็ไม่สามารถเสกหรือสร้างได้เต็มวิชา ถ้าท่านไม่อาศัยบารมีครูเก่าที่ทำเครื่องมงคลชิ้นพิเศษซึ่งท่านใช้พกพาประจำ นำมาพลีลงเพื่อให้มีคุณเต็มวิชาแล้ว แน่นอนว่าตะกรุดที่ว่านี้ย่อมเกิดขึ้นมิได้เลย หมดเครื่องยาเหล่านี้ต่อไปก็ทำไม่ได้อีกแล้ว

    ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าของนี่ยังไม่ได้ใช้อย่าเพิ่งรีบตาย ถ้าเกิดมาแล้วไม่ทันเห็นถือว่าพลาด ใครที่เขาพลาดเราเสียดายจริงๆ คิดเสียว่าบาปบังตา อุตส่าห์พากเพียรอุตสาหะจนสำเร็จได้ ไม่ทันใช้นี่น่าตีจริงๆ (ก็ไม่รู้จะบรรยายยังไงเพราะท่านพูดแบบนี้ คงหมายความได้อย่างเดียวว่าพลาด ..ถือว่าพลาดมาก)

    ตะกรุดน้อยๆดอกนี้พ่ออาจารย์เสกเก็บไว้นานมาก ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจต่อการใช้ชีวิตของคน ประกอบกับหลายคนถามหาของแรงๆ ต้องการอาถรรพ์สูงๆแล้วก็ถามหาครูพรหมสหัมบดี ท่านจึงให้นำวิชาครูพรหมออกมาแก้กันวิกฤติชะตาของคนทั้งหลาย

    ต้องบอกก่อนว่าแต่เดิมนั้นย้อนไปปี2542 มีร้านข้าวต้มอยู่ร้านหนึ่ง ปกติเคยขายได้พอมีกิน แต่หลังๆขายของยากขึ้น ชีวิตลำบากขึ้นประกอบกับใกล้ๆกันยังมีร้านเปิดใหม่มาตั้งแข่ง ถ้าเปิดมาร้านเดียวยังนับว่าไม่เป็นอะไร แต่นี่ผุดขึ้นแทบจะเรียกว่าตลอดทาง พอลูกค้าลดลงๆจึงเริ่มถอดใจ น้องสาวเขาจึงแนะนำให้ไปหาพ่ออาจารย์ พอท่านทราบเรื่องต่างๆเกี่ยวกับการค้า เกี่ยวกับคู่แข่งที่มีมากมาย ท่านจึงให้เขาบูชาตะกรุดดอกน้อยๆนี้ตามจำนวนวาสนาแก้ชะตาสัตว์ที่ติดในบ่วงกรรม โดยกำชับว่าต้องทำ ต้องใช้ ต้องเชื่อ ทำทุกอย่างตามขั้นตอนทุกสิ่ง นับได้ว่าหลังจากนั้นเขาก็เริ่มดีขึ้น พอเค้าใช้ตามวิธีการ นอกจากร้านจะขายดีแล้ว ยังรู้สึกได้ว่าคู่เเข่งค่อยๆทยอยปิดกิจการไปหมด ที่เปิดมาใหม่ก็เคว้งขายแข่งกับเค้าไม่ได้ จนเค้าตั้งชื่อตะกรุดนี้ว่าตะกรุดทำลายกิจการคู่แข่ง(หมายถึงฝ่ายตรงข้าม) ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านับแต่ปี 42 มาถึง 61 เศรษฐกิจขึ้นๆลงๆไม่เสมอกันแต่เขาก็ยังขายได้ตลอด ใครจะคิดว่าร้านข้าวต้มขนาดกลาง นับจากวันนั้นถึงวันนี้เป็นร้านข้าวต้มร้อยล้าน พ่ออาจารย์ท่านว่า "เพราะเค้าทำถูก บูชาตามเคล็ดทุกอย่าง รู้ว่าต้องใช้ยังไง ที่สำคัญนี่ก็เป็นอาถรรพ์ของวิชาดรรชนีท้าวมหาพรหม ที่เมื่อชี้ขึ้นฟ้าแล้วย่อมหนักแนนมั่นคงดุจเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผา ชีวิตเขาย่อมตกลงมาไม่ได้อีก"

    * พรุ่งนี้ติดตามกันดีๆ ห้ามพลาเด็ดขาด ขอยืมคำท่านว่า ใครพลาด..คนนั้นน่าตี

    C3925353-5.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลคนเหนือเมฆ (องคุลีแห่งพรหม,มหาพรหมชี้นิ้วเพชร)

    เมื่อพูดถึง "นิ้วเพชร" แน่นอนว่าหลายคนที่เล่นเครื่องรางย่อมนึกไปถึงตะกรุดและเครื่องรางประเภทต่างๆ ซึ่งนิ้วเพชรนี้ก็มีด้วยกันหลายตำรับตามแต่ครูบาอาจารย์ท่านจะแปลงวิธีการสร้างให้เหมาะสมกับยุคสมัย หากแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ จริงๆเลยแบบของแท้ดั้งเดิมอาจารย์ผู้ทำต้องไปหาเอาร่างเด็กที่สิ้นในครรภ์มารดาที่ต้องอาถรรพ์ตามตำรามา ใช้ปากของตัวอาจารย์นั้นกัดนิ้วชี้เด็กมาให้ขาด แล้วเอามาทำพิธีลงรักปิดทอง พวกด้วยครั่งพุทรปลุกเสกแล้วเก็บใส่กระบอกเล็กๆ ต้องเลี้ยงในอู่เหมือนเด็กจริง 7 วัน และให้อยู่ไฟอีก 1 เดือน จากนั้นถึงพกติดตัวได้ ด้วยพิธีกรรมที่ยุ่งยากและใช้เวลานานกว่าจะทำได้วิชานิ้วเพชรนี้จึงถูกดัดแปลงไปอีกหลายส่วนกลายเป็นตะกรุดบ้าง ไม้เท้าบ้างทำให้วิชาจริงๆกลายเป็นตำนานไปนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อพูดขึ้นมาถึงนิ้วเพชร ยุคของเราก็ไม่ได้ทำเอาไว้เช่นกัน หากแต่ในสมัยเจ้าปู่ชัยพรหม วิชาต่างๆคนสมัยนั้นเขาทำกันทุกอย่างเต็มที่จริงๆเพื่อให้ได้ที่สุดแห่งเครื่องรางมาเป็นมงคลประจำกาย นิ้วเพชรนี้พ่อปู่เจ้าท่านก็ได้ทำไว้เช่นกันและพ่ออาจารย์ท่านก็ได้นำใช้มาโดยตลอด จนเมื่อท่านสร้างตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลนี้ ด้วยประสงค์ของครูมหาพรหม ท่านว่ามีนิมิตชัดเจนให้ท่านนำนิ้วเพชรที่สืบทอดมาแต่โบราณเก่าก่อน พลีเป็นเครื่องยาอุดตะกรุดไว้

    หากพูดถึงพระพรหม ลำพังแล้วพวกเหรียญพวกรูปหล่อพระพรหมก็ยังพอมีคนสร้างกันบ้าง แต่ในส่วนของวิชาของท้าวมหาพรหมนั้นย่อมแตกต่างกัน เพราะของบางสิ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าข้างบนเค้าก็เลือกคนรับ บางอย่างย่อมไม่ปรากฏในโลก หรือไม่มีในคัมภีร์ บางชนิดก็ไม่มีผู้สืบทอด ซึ่งครั้งนี้พ่ออาจารย์ก็ได้ทำตะกรุดดอกน้อยๆไว้ หากแต่ตะกรุดนี้อานุภาพกลับไม่น้อยเลย ด้วยใช้ได้หลายทาง หลายแง่มุม ซ้ำกว่าจะทำให้สำเร็จได้พ่ออาจารย์ท่านต้องสละของใช้ส่วนตัวเพื่อพลีลงในเครื่องมงคลนี้ด้วย ท่านว่าตะกรุดนี้แม้มีแค่วิชาก็ไม่สามารถเสกหรือสร้างได้เต็มวิชา ถ้าท่านไม่อาศัยบารมีครูเก่าที่ทำเครื่องมงคลชิ้นพิเศษซึ่งท่านใช้พกพาประจำ นำมาพลีลงเพื่อให้มีคุณเต็มวิชาแล้ว แน่นอนว่าตะกรุดที่ว่านี้ย่อมเกิดขึ้นมิได้เลย หมดเครื่องยาเหล่านี้ต่อไปก็ทำไม่ได้อีกแล้ว

    ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าของนี่ยังไม่ได้ใช้อย่าเพิ่งรีบตาย ถ้าเกิดมาแล้วไม่ทันเห็นถือว่าพลาด ใครที่เขาพลาดเราเสียดายจริงๆ คิดเสียว่าบาปบังตา อุตส่าห์พากเพียรอุตสาหะจนสำเร็จได้ ไม่ทันใช้นี่น่าตีจริงๆ (ก็ไม่รู้จะบรรยายยังไงเพราะท่านพูดแบบนี้ คงหมายความได้อย่างเดียวว่าพลาด ..ถือว่าพลาดมาก) ตะกรุดน้อยๆดอกนี้พ่ออาจารย์เสกเก็บไว้นานมาก ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจต่อการใช้ชีวิตของคน ประกอบกับหลายคนถามหาของแรงๆ ต้องการอาถรรพ์สูงๆแล้วก็ถามหาครูพรหมสหัมบดี ท่านจึงให้นำวิชาครูพรหมออกมาแก้กันวิกฤติชะตาของคนทั้งหลาย


    หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าครูพรหมของพ่ออาจารย์ท่าน คือท้าวมหาพรหมนามว่า "สหัมบดีพรหม" เป็นอธิบดีใหญ่ปกครองพรหมทั้ง 16 ชั้น ทรงพรหมวิหารธรรม บรรลุอมตธรรมรสขั้นอนาคามีพร้อมด้วยสมาบัติชั้นสูง ด้วยประสบการณ์ต่างๆจากที่ท่านเคยออกให้บูชาองค์มหาพรหมสหัมบดีไป ต่างรู้กันว่าพระพรหมของพ่ออาจารย์ท่านมีอานุภาพหรือให้คุณทางความเจริญ ความก้าวหน้า ทำมาค้าขาย ทำมาหากินเป็นพิเศษ พระพรหมของท่านมีอานุภาพแรงและเร็วเพราะพรหมมีอานุภาพมากกว่าเทวดาหลายพันเท่านัก ยิ่งพรหมของพ่ออาจารย์เป็นพรหมอธิบดีผู้เป็นใหญ่กว่าพรหมทั้งปวง เป็นพรหมที่ตรวจดูดอกบัวประจำกัปตอนกำเนิดมหาจักรวาลเพื่อเตรียมการรับรองการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมไปถึงอัญเชิญพระผู้มีพระภาคเจ้าแผ่สัจธรรมถึงห้าพระองค์ในภัทรกัปเมื่อเริ่มแรกของการบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ จึงเป็นอธิบดีแห่งพรหมที่มีหน้าที่สำคัญและมีอานุภาพมาก

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพรหมนั้นคือพระผู้ประเสริญ ทรงคุณวิเศษ มีอิทธิฤทธิ์ มีอำนาจและอานุภาพมาก แต่เหนืออื่นใดคือมีเมตตากรุณาเสมอด้วยบิดามารดาเอื้ออาทรณ์แก่บุตร เหมือนพรหมพ่อพรหมแม่ พร้อมทั้งมีบารมีช่วยเหลือเกื้อกูลเราได้สารพัดนึก และการทำวิชาในสายพรหมของพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ใช้การเสกพระพรหมธรรมดาทั่วไป แต่ท่านว่าต้องเชิญองค์พระพรหมมาสถิตย์ หรือจะเรียกว่า "แบ่งภาคญาณพระพรหมให้มาสถิตย์ประจำที่เครื่องมงคลนั้น ๆ" ซึ่งการที่จะเชิญพระพรหมได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับญาณบารมีของผู้ปลุกเสกหรือผู้เชิญด้วย ท่านว่าถ้าเชิญกันไม่เป็นทำไม่ได้ เครื่องมงคลใดๆที่เป็นรูปพรหมก็จะมีแต่เทพบริวารเข้ารักษานั่นเอง

    ในครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาใช้วิชาของครูมหาพรหมลงตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลไว้ ทั้งเสกทำวิชาเชิญบารมีเทพพรหมบรมครูอยู่หลายวาระ ท่านว่าตะกรุดดอกนี้มีติดตัวผู้ใดจะรุ่งเรืองโดยส่วนเดียว ไม่มีวันตกต่ำเลย จะทำอะไรก็มีคนคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด เป็นที่รักและเมตตาแก่คนทั้งโลก * ทุกข์ โศก โรค ภัย อันตรายใดที่เกิดขึ้นกับเรา ท่านว่ามีตะกรุดอยู่ให้อธิษฐานบอกครูพรหมขอฝากไอ้ตัวทุกข์โศกโรคภัยทั้งหลายไว้กับตะกรุด สิ่งอันไม่พึงใจไม่พึงปรารถนาเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับเรา

    ทั้งตัวตะกรุดยังเป็นยันต์แห่งโชคลาภ เรียกเงิน เรียกทอง เรียกทรัพย์ มีอานุภาพสูงส่งทางด้านมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ บันดาลโชคลาภ เงินทองดีนัก ในขณะเดียวกันก็มีอานุภาพทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ควบคู่กันไปอีกด้วย..ท่านว่าเฉพาะตะกรุดก็เป็นของดีพุทธคุณสูง ที่ควรที่มีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเอาดีทางด้านโชคลาภและมหาเสน่ห์เมตตามหานิยมในตัวเดียวกัน โดยปกติอานุภาพของวิชาพรหมทั่วไปจะมีพื้นฐานดังนี้
    1. เป็นเลิศทางเมตตามหานิยมประเสริฐกว่าลงนะเมตตาซักร้อยครั้ง
    2. มหากัน แก้ไขอุปสรรค แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ทุกข์ภัยใด คุณไสย คุณผี หนีไกล อยู่กับตัวเราไม่ได้ ลมเพลมพัด ผีเข้า เจ้าสิง อาถรรพณ์ต่างๆ หายหมด
    3.เปิดทาง เงินทอง เร่งโชคลาภให้ไหลมาเทมาง่ายไม่ติดขัด การงานธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขายดี เป็นเศรษฐี มั่งมีทรัพย์ ไม่อดอยาก ข้าวปลาอาหารบริบูรณ์
    4.เสริมดวงให้ดวงดีอยู่เสมอ แก้ดวงไม่ดี ดวงตก แก้เคราะห์กรรมอันเกิดจากดวงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก กันทุกข์ภัยที่เกิดจากดวงดาว ราศี พระราหูบดบังดวงชะตา และเบญจเพศด้วย


    ท่านว่าที่ผ่านๆมานั้น ชีวิตใครที่มีอุปสรรคขวากหนาม สิ่งไม่ดี ก้าวไม่พ้นความยากความจน ความล้มเหลวสิ้นหวัง ให้เอาวิชาของพระพรหมท่านไปใช้ ท่านว่าจะช่วยส่งสงเคราะห์ให้ความสำเร็จทุกประการง่ายขึ้น สำเร็จเร็ว ก้าวหน้าไว ก้าวผ่านความยากจนล้มเหลวสิ้นหวังทั้งหลายไปได้


    การทำตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลคนเหนือเมฆนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ทำผงไว้สองส่วนก่อนนำมาผสมกัน ได้แก่
    - ผงพรหมค้ำดวง ท่านว่าผงนี้พิศดารลงกันเล่นๆไม่ได้เพราะท่านต้องลงดวงแห่งความเจริญรุ่งเรืองผูกเข้ากับชะตาเมือง เวลาเสกต้องตั้งนิมิตเหมือนเสกหน้าพระพรหมค้ำทั้ง 4 ทวีป ท่านว่าใครที่มีผงนี้บูชาเทพพรหมจะคอยให้การอุปถัมภ์ค้ำชู ผู้ที่บูชาผงดวงชะตานี้ต่อไปไม่รู้จักคำว่า"ล้ม" เพราะนี่เป็นผงพรหมค้ำดวงที่ค้ำทั้งสี่ทวีป คนใช้จะมีความเจริญก้าวหน้าพัฒนาอยู่ตลอด ทั้งป้องกันศัตรูและเสนียดจัญไร อันตราย และคนชั่ว ใช้ป้องกันเหตุเภทถัยหมดจดทุกประการ ซ้ำท่านยังอธิษฐานจิตสำเร็จผงให้นำมาซึ่งความอิ่มเอมเปรมใจ สุขกาย สุขใจ ความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพูนทรัพย์สิน ให้ผู้บูชามีพละกำลังยิ่งๆขึ้นไป ผงนี้ท่านว่าเธออธิษฐานเอาตามแต่เธอจะปรารถนาเถอะ จะคิดการสิ่งใด ก็ล้วนสำเร็จเลิศเลอ ประเสริฐยิ่งนัก
    - ผงองคุลีพรหม ท่านได้นำนิ้วเพชรที่สืบทอดมาแต่บูรพาจารย์มาทำผงตำรับองคุลีพรหมหรือมหาพรหมชี้นิ้วเพชร ผงนี้ท่านต้องนำนิ้วเพชรที่เป็นผงพลีไว้มาปั้นเป็นแท่งลงเลขยันต์ทำผงและดวงยันต์ ซึ่งมีอานุภาพทางอิทธิฤทธิ์ ทางมหาอำนาจปราบศัตรู ทำให้ศัตรูเกรงกลัว ไม่คิดต่อสู้ มีอานุภาพแรงถึงขั้นฆ่าศัตรูให้ตายโดยไม่ต้องใช้อาวุธ


    ในตะกรุดนั้นท่านต้องอุดผงสองส่วน ส่วนด้านหนึ่งอุดด้วยผงองคุลีพรหม อีกด้านหนึ่งนำผงพรหมค้ำดวงนั้นมาเข้ากับผงช้องหมูป่า เขี้ยวหมูตัน คดพุทธรักษา ซึ่งมีคุณวิเศษทางเมตตา มหาอุด หนุนความสุขความเจริญ แก้ถอดถอนของมนต์ดำ ต่อชะตาให้มีอายุมั่นขวัญยืน มีโชคลาภ ใช้อธิษฐานรักษาโรคภัยที่เบียดเบียนมนุษย์ ทั้งยังใช้ชี้ถอดถอนคำอธิษฐาน คำสาปแช่งได้

    เมื่อสำเร็จท่านว่าตะกรุดนี้จะมีอานุภาพมากดุจนิ้วเพชรท้าวมหาพรหมที่ใช้ปกาศิตชีวิตสัตว์โลก ทั้งยังใช้ชี้เป็นชี้ตายได้ทั้งสิ้น ท่านได้นำสีแดงมาทาเป็นสัญลักษณ์ไว้อีกด้านหนึ่งเพื่อแยกแยะเวลาใช้
    คำว่า"ชี้ตาย" หมายถึง พลังอำนาจมีเดช มีอำนาจ วาสนาเกิดขึ้นแก่ผู้บูชา ศัตรูพ่ายไปเรียกว่าชี้ตาย
    คำว่า "ชี้เป็น" หมายถึง พลังอำนาจที่ทำให้เกิดเป็นเมตตามหานิยมขั้นสูง เกิดโชคดี มีบารมีแก่ผู้บูชา เรื่องเลวร้ายกลับกลายเป็นดี จึงเรียกว่าชี้เป็น


    ตะกรุดของพ่ออาจารย์นี้ ท่านว่าให้เอาไปใช้เพื่อความเจริญ อย่านำไปใช้ในทางที่ผิด ตะกรุดจะแบ่งเป็นสองด้าน คือ
    - ด้านสีขาว ที่ใช้ชี้ไปทางไหนทางนั้นจะดีจะเจริญรุ่งเรือง
    - ด้านสีแดง ท่านให้ใช้ชี้ไล่เคราะห์กรรมโรคภัยที่มาเบียดเบียน ทั้งยังเอาไว้ชี้ไล่ผี แก้อาถรรพ์ แก้คุณไสย ถูกกระทำย่ำยี ใช้ปลายตะกรุดจี้ไล่ผี ไล่สิ่งไม่ดีออกไป

    *** เวลาเอาตะกรุดไปเลี่ยมพกติดตัว ให้เลี่ยมเอาด้านสีขาวชี้ขึ้นดุจดรรชนีชี้ขึ้นฟ้า สั่งฟ้าไม่ให้ชีวิตตนตกต่ำ ให้มีแต่พุ่งขึ้นเสมอไป ไปไหนให้อาราธนาคุณตะกรุดคุณพระพรหมให้มั่นและเอาด้านสีขาวที่ชี้ขึ้นนี้ชี้ไปทางทิศนั้น ท่านว่ารับรองสะดวก ปลอดภัย สำเร็จ

    วิธีใช้
    เมื่อจะชี้ด้านปลายสีแดง...ในกรณีใดๆตามแต่ที่เห็นสมควร ให้อธิษฐานระลึกถึงพระแม่ธรณีให้มาช่วยกำจัดศัตรูที่เข้ามาเบียดเบียน หากว่าศัตรูผู้รุกรานล่วงล้ำเขตแดนเข้ามา หรือประสงค์ร้ายตั้งใจทำอันตรายแก่เรา ขอให้เขาแพ้ภัย พ่ายแพ้ ให้เจ็บ ให้ตาย หรือมีอันเป็นไปต่างๆ นานา นอกจากนั้นสามารถชี้กำจัด ขับไล่ภูตผีปีศาจ ข้าศึกศัตรูให้มีอันเป็นไป ทั้งยังเป็นมหาอำนาจข่มนาม

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำเอาไว้ให้ครั้งเดียว เพราะสูตรนี้ท่านทำให้ใช้แบบเต็มวิชา เป็นอาถรรพ์ของวิชาดรรชนีองคุลีพรหมชี้นิ้วเพชร ชี้นิ้วสั่งปกาศิตมั่นคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ดุจเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผา ***หากจะแก้ชะตาสัตว์ที่ติดในบ่วงกรรมท่านว่าให้อาราธนาตะดรุดสี่ดอกเท่าคุณพรหมวิหาร เลี่ยมหันด้านขาวชี้ขึ้นทำเป็นสายสังวาลย์คาดติดไว้ไม่ห่างกาย หากคาดเฉวียงบ่าไม่ได้ท่านก็อณุโลมให้คาดเอวโดยทั้งสี่ดอกนี้ต้องหันหัวด้านสีขาวขึ้นเช่นกัน ถ้าจะอาราธนาเฉพาะคุณตะกรุดก็ให้ใช้เพียงดอกเดียวได้ แต่ถ้าจะใช้แก้ชะตาท่านว่าก้ให้ทำตามนี้

    คาถาบูชา
    (ท่านว่าเป็นของสำเร็จ คาถาไม่ต้องใช้ ให้ระลึกถึงคุณท้าวมหาพรหมแล้วใช้ได้เลย)

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลคนเหนือเมฆ (องคุลีแห่งพรหม,มหาพรหมชี้นิ้วเพชร) บูชา 800 บาท


    36460039_2229386510681091_3407300141210664960_n.jpg 36509843_2229396737346735_1065225913169346560_n.jpg 36416199_2229396654013410_2011806099270795264_n.jpg
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่อัมรินทร์ EV 0224 5768 0 TH

    พี่พรเทพ EV 0224 5769 3 TH

    พี่กรธัช EV 0224 5770 2 TH
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    เจตภูติฟ้ามาแรงมาก ประสบการณ์ล่าสุดแจ้งมาว่าพี่ขุนพรายให้โชคทั้งฉลากทั้งใต้ดิน พี่ท่านนี้เขาว่าถูกรางวัลสองตัวสิบห้าใบรวมกับใต้ดินต่างหากรับไปสี่แสนบาท ...เลยมาขอร่วมบุญอย่างอื่นเพิ่ม
    * ใครใช้บูชาเขาก็หมั่นชวนเขาพูดคุยนะครับ ไปไหนทำพวงกุญแจรึคาดเอวไว้ซักสองสามตัวก็ดี พวกสายภูติรับใช้ ใครใช้เป็นมีแต่เฮง
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พูดคุยยามเช้า
    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็จะมาพูดคุยกันต่อ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของนิ้วเพชรที่ลงไว้เมื่อวาน ดังที่บอกไว้ว่าวิชาการสร้างนั้นมีหลายตำรับ และวิชานี้ก้ดังมาแต่ยุคโบราณแล้ว พูดถึงวิชานิ้วเพชรหลายคนคงนึกได้ว่ามียอดเกจิเคยทำไว้เช่นกันนั่นก็คือนิ้วเพชรพระอิศวร หลวงปู่ภู วัดอินทร์ ถึงจะแตกต่างตำราแต่พ่ออาจารย์ท่านก้ทำเต็มที่และมีอิทธิคุณคล้ายๆกันอยู่หลายประการ เรียกได้ว่าใครเกิดไม่ทันหลวงปู่ภู ก็เอานิ้วเพชรพ่ออาจารย์ไปใช้แทนกันได้ เรียกได้ว่าทุกสูตรทุกวิชาล้วนสำคัญ สร้างยากทำยากทั้งสิ้น วันนี้เลยยกเอาวิชานิ้วเพชรของหลวงปู่ภูมาลงไว้ให้อ่านกันคร่าวๆ

    นิ้วเพชรพระอิศวร อมตะวาจาเถราจารย์ หลวงปู่ภู วัดอินทร์

    ไม่มีใครทำได้อย่างกู นามไม้ครู อยู่วัดอินทร์

    ไม้ครู เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งประเภทของตะกรุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ ผู้นิยมสะสม เครื่องรางของขลัง ไม้ครูที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีอยู่ 3 สำนัก คือ ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ กทม. , ไม้ครู หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม , ไม้ครู หลวงปู่จันทร์ วัดวัดนางหนู ลพบุรี ตามลำดับ แต่ที่นิยมมากที่สุด เป็นยอดไม้ครูอันดับ๑ ของเมืองไทย ก็คือ "ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ " ซึ่งจัดอยู่ในชุดเครื่องรางมงคล ๙ สะท้านแผ่นดิน ในอันดับที่3 ดังเครื่องราง คำกลอน มงคล๙ ดังนี้
    “หมากดี ที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลัง วัดนายโรง
    ไม้ครู คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบิน วัดหนองโพ
    พิสมร วัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้าย วัดโตนดหลวง
    ราหู คู่วัดศรีษะ แหวนอักขระ วัดหนองบัว
    ลูกแร่ ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน
    ก้าสิ่งล้วนป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา
    ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาแผ้วพานฯ”

    อมตะวาจาเถราจารย์ หลวงปู่ภู..,"ไม่มีใครทำได้อย่างกู นามไม้ครู อยู่วัดอินทร์"
    ไม้ครู ลป.ปู่ภู วัดอินทร์ กทม. (ตามตำราว่าไว้ประจุด้านเดียวเรียกไม้พ่อครู ประจุสองด้านเรียกนิ้วเพชรพระอิศวร..."ชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น") ล่าสุดมีประสบการณ์ทางภาคใต้โดนระเบิดไม่เป็นไร มีไม้ครูหลวงปู่ภูครับ ไม้พ่อครูนับเครื่องรางที่สร้างยากที่สุด ผู้ที่สร้างได้จะต้องเป็นผู้ที่มีบุญบารมีเท่านั้น // หลวงปู่ภูท่านเคยกล่าวให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดฟังว่า =>><<< ไม่มีใครทำได้อย่างกู นั่นแสดงว่า ไม้ครู สร้างยากมากๆ วิชานี้คนที่มีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะเรียนสำเร็จได้ >>>

    วัสดุที่ใช้สร้างก็สุดแสนที่จะหายาก เพราะท่านต้องเดินธุดงค์เข้าไปในป่าลึก เพื่อจะไปหาไม้ไผ่และจะต้องเป็นไม้ไผ่สีสุก ที่ถูกฟ้าผ่าล้มปลายชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้นถึงจะใช้ได้ ในตำราระบุไว้ว่า ไม้ไผ่ลำนี้เปรียบประดุจไม้ยันพระวรกายของท้าวเวสสุวรรณ และภายในเจ็ดวันท่านเฝ้ารอจนก่วาโขลงช้างจะผ่านมาพบ แล้วกระโดดข้ามก่อไผ่นั้นทั้งโขลง ก่อนที่ท่านจะตัดไม้ไผ่ดังกล่าว ท่านจะต้องทำพิธีพลีกรรมก่อน // การพลีกรรม คือการขอของจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา เพื่อเพิ่มความเข้มขลังให้มากยิ่งขึ้น // เมือท่านได้ไม้ไผ่มาแล้ว ท่านจะนำมาลงอักขระ แล้วใช้เป็นไม้เท้ายันกายในยามที่ท่านเดินธุดงค์ ขณะที่ท่านเดินธุดงค์ เมื่อท่านได้พบศพที่ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร ท่านก็จะใช้ไม้เท้านั้นจิ้มศพจนกว่าจะครบเจ็ดศพ // ตลอดระยะเวลาในการเดินธุดงค์ของท่านนานถึง 30 ปี จากนั้นท่านก็จะนำไม้เท้าอันนี้มาผ่าให้เป็นแผ่นเล็กๆ เรียกว่า จักตอก เตรียมใว้สำหรับลงพระนามที่ได้รับจากเบื้องบน // ถ้าลูกศิษย์คนใดอยากได้ไม้ครู จะต้องขอท่านก่อนวันเสาร์ และถ้าท่านตกลงทำให้ ผู้นั้นจะต้องจัดเครื่องไหว้ ดังนี้ =>> มีหัวหมู บายศรี มะพร้าวอ่อน และอื่นๆตามที่ท่านจะสั่ง ที่ขาดไม่ได้คือไม้ไผ่ที่ตัดเหลือข้อไว้หนึ่งข้อ หรือไม้ที่เจาะรู จะไม้ผยุง ไม้ขนุน และอีกหลายอย่าง // เมื่อได้ของครบแล้ว ท่านก็จะทำพิธีลงพระนามในไม้ตอกที่ท่านเตรียมไว้ การทำพิธีลงพระนาม หลวงปู่ท่านจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าครั้งละนานๆ บางครั้งก็ไม่นาน // เคยมีลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดถามท่านว่า หลวงปู่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าทำไม ท่านตอบว่า ท่านรอพระนามจากเบื้องบน // เมื่อใด้พระนามจากเบื้องบนมาแล้ว ท่านก็จะทำการบรรจุไม้ลงพระนาม เข้าไปในไม้ที่เจาะเตรียมไว้อุดด้วยไม้และลงอักขระทับอีกที เป็นอันเสร็จพิธี นับว่าสร้างยากจริงๆครับ และจัดตอกนำมาลงอักขระบรรจุเข้าไปที่เจาะรูไว้ศิษย์ใกล้ชิดได้กล่าวว่า บางเสาร์จะมีหัวหมูเครื่องบายศรีถึง ๙ หัวด้วยกัน แสดงว่าวันนั้นท่านทำถึง ๙ อัน การบรรจุไม้เท้า ถ้าข้างเดียว เรียกว่าไม้เท้าพ่อครู หรือสองข้างท่านเรียก นิ้วชี้พระอิศวร หรือชี้ต้นตายชี้ปลายเป็น
    เมื่อท่านกระทำให้ผู้ใดก็ตาม ท่านจะกำชับหนักหนา ห้ามเอาไปตีใครเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ผู้ที่ถูกตีถึงกับเสียจริต (บ้า) รักษาไม่หาย นอกจากกระโดนกลั่นแกล้งถึงกับน้ำตาเป็นสายเลือดหมายถึงสุดที่จะอดกลั้นได้อิทธิฤทธิ์ของไม้เท้าพ่อครู
    ใช้ป้องกันตัวเมื่อยาคับขัน ป้องกันโจรผู้ร้ายคุณไสย และภูติผีปีศาจ ไม่กล้ากล้ำกลายมารบกวน ซึ่งมีผู้ประสบมามากมาย
    คาถาปลุก =>> "โอมปลุกปลุกลุกลุกกูจะปลุกพ่อครู นิ้วเพชรพระอิศวร กระบองยันกายท้าวเวสสุวรรณ ไม้โขลงช้างข้าม ปีศาจพ่อครู โอมปลุกมหากูจะปลุกไม้เท้าพ่อครู หลวงปู่ภูประสิทธิ์ให้กูสวาหะ"
    "ตะกรุดไม้ครู" ที่ทำสำเร็จตามกรรมวิธีดังกล่าวถือว่ามีคุณวิเศษสามารถคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ ป้องกันอาถรรพ์เวท คุณไสย เสนียดจัญไรทุกประการ ไม้ครูนี้เป็นของวิเศษ ถ้าเป็นไม้ตะพดท่านห้ามไม่ให้เอาไปตีใครส่งเดช เพราะคนผู้นั้นจะเสียสติวิปลาสไป จะเป็นบาปกรรมต่อผู้กระทำ และผู้ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้

    ประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับนิ้วเพชรพระอิศวร มีดังนี้ครับ =>> "นนทุก" เป็นยักษ์ผู้มีหน้าที่ล้างบาท เทวบริวารที่มาเฝ้าพระอิศวร ณ เขาไกรลาส ถูกเทวดาล้อเลียน ลูบศีรษะ เล่นจน ผมร่วงโล้นเกิดความแค้น // จึงทูลขอพรจากพระอิศวร ให้มีนิ้วเพชรชี้ผู้ใดผู้นั้นก็ ดับชีพ นนทุกกำเริบฤทธิ์ใช้นิ้วเพชรประหารเทวดาจนแทบสิ้นสวรรค์ // ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องแปลงองค์เป็นนางอัปสรมาล่อให้ร่ายรำตาม // นนทุกเผลอหันนิ้วเพชรเข้าชี้ตนเอง ก่อนสิ้นชีวิตได้รู้ว่านางอัปสรคือพระ นารายณ์ // จึงตัดพ้อว่าเอาเปรียบมาหลอกด้วยอุบาย พระนารายณ์จึงทรงท้า ต่อให้นนทุกเกิดเป็นยักษ์สิบเศียร ยี่สิบกร ส่วนพระองค์เองเป็นมนุษย์สองมือ นนทุกจึงจุติไปเกิดเป็นทศกันฐ์ ณ กรุงลงกา องค์นารายณ์เสด็จอวตารมาเป็น พระรามแห่งกรุงอโยธยา
    และข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือกฏแห่งกรรมหลวงพ่อจรัญ เล่มที่16 ที่เกี่ยวข้องมีดังนี้ =>> พระอินทร์ให้นิ้วเพชรแก่ นนทุก เพื่อเป็นอำนาจวาสนาในชาติต่อไป แต่เจ้านนทุก ไม่ได้คิดอย่างพระอินทร์ คิดแต่จะฆ่าเทวดาอย่างเดียว // พระอินทร์จึงส่งพระนารายณ์มาปราบ แต่พระนารายณ์ก็เกรงกลัว นิ้วเพชร เพราะเป็นพรของพระอินทร์ // พระนารายณ์ก็มาคิดพิจารณาดูว่า ถ้าจะไปต่อกรกับนนทุก ก็จะสู้นนทุกไม่ได้ ถึงจะมีฤทธิ์ มีสี่กร ก็ต้องแพ้ฤทธิ์ของนนทุก ที่พระอินทร์ให้พรมา
    คำว่า "พร" นี้ เมื่อให้แล้ว จะถอนไม่ได้มันเป็นบาป พ่อแม่ที่ให้พรลูกให้มีความรุ่งเรือง แล้ว พอโมโหจะถอนพรก็จะถอนไม่ได้ จะเป็นบาปอย่างร้ายแรง // แต่พ่อแม่สมัยนี้ทำได้ พอโมโหไม่พอใจ ก็แช่งลูก ขับไล่ลูกออกจากบ้านไป พ่อแม่สมัยนี้ทำได้ // แต่พระอินทร์ท่านทำไม่ได้ ให้พรแล้วจะมาถอนไม่ได้ เพราะฉะนั้นกัมมัฏฐาน ก็สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้อีกอันหนึ่ง เราจะได้รู้ว่าเราได้รับพรมาจากชาติไหนบ้าง พระอินทร์ท่านจึงเสียใจคิดว่า เขียนด้วยมือ แล้วจะลบด้วยเท้าไม่ได้ // ท่านจึงให้ผู้อื่นไปปราบ พระนารายณ์จึงแปลงเป็นผู้หญิง เพราะนนทุก ชอบผู้หญิง นนทุก มันเป็นยักษ์ เป็นอสูร จึง โทสะ โมหะ เต็มตัวมัน

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่วุฒิชัย EV 0224 6068 9 TH

    พี่อนงค์ EV 0224 6070 1 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EV 0224 6069 2 TH

    พี่กฤตยชญ์ EV 0224 6071 5 TH

    พี่บุษปะ EV 0224 6072 9 TH

    พี่ปภัสสร EV 0224 6073 2 TH

    พี่นฤชา EV 0224 6074 6 TH
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,086
    ค่าพลัง:
    +16,619
    มีคำถามฝากมาว่าช่วงนี้ มีลูกหนี้หลายคนยืมตังแล้วหายไม่ใช้คืน พอทวงก็หายติดต่อไม่ได้จะตามหรือแก้ไขยังไงหรือมีอะไรที่บูชาแล้วทวงหนี้ดีบ้าง

    * อันนี้ก็จริงนะก่อนจะไปพูดคุยกันเรื่องคำถามก็ขอทำความเข้าใจกันก่อน เพราะปัญหาการทวงหนี้เป็นเรื่องที่คนปรึกษาเข้ามาบ่อย ผมเชื่อว่าเป็นทุกคน ก่อนที่เขาจะมายืมก็ติดต่อง่าย เจอบ่อย ขยันมาหา แต่พอเราให้เงินไปเค้าก็จะค่อยๆหายไปจากชีวิตเรา เหมือนคนไม่รู้จัก เหมือนเป็นเจ้ากรรมนายเวรกัน แม้เราเดือดร้อนไปตามทวงตามกราบเขาก็ยังไม่อยากจะคืน ด่าเราบ้าง ดูถูกเราบ้างเหมือนไม่ใช่เจ้าหนี้ด้วยซ้ำ หลายๆคนก็เจอมาต่างๆกันหลายๆเรื่อง เพราะเช่นนี้ก่อนที่จะเป็นเจ้าหนี้ใครต้องคิดดูกันให้ดี ด้วยร้อยละแปดหรือเก้าสิบหลังยืมเงินกัน ต่อให้เป็นญาติหรือเพื่อนสนิทก็มักจะมองหน้ากันไม่ติดซักราย
     

แชร์หน้านี้

Loading...