สารพันปัญหา ตอบโดยคุณ nopphakan

ดีแล้วแสดงว่าเริ่มมีกำลังบุญที่พอจะช่วยเค้าได้ ก็ให้ทำการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้
ผีที่เราเห็นในฝันบ่อยๆ ไปเรื่อยๆ ให้ตั้งด้วยพระรัตนตรัยก่อนรวมกับบารมีของเรานะ ค่อยอุทิศ เรียกว่าเป็นการสร้างบารมีเฉพาะตน
บารมีเฉพาะตนเริ่มต้นจากตรงนี้ก่อน
ที่จะพัฒนาไปเจอระดับดีๆ การได้รับความเกรงใจจากภพภูมิ
รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการที่ครูบาร์อาจารย์จะมาหาเราเอง
และได้พบกับระดับที่สูงๆกว่านี้ได้ตามลำดับ

 

เคยปรึกษาเรื่องทำสมาธิกับคุณนพมานานมากๆแล้วครับ
แต่จนตอนนี้ยังไม่ไปถึงไหน ตอนนี้ก็ได้กลับมาอ่านที่คุณนพเขียนไว้
ว่าจะลองอะไรใหม่ๆด้วย

แต่ที่ผ่านมาหลายปีนี้ รู้สึกตัวเองจะรู้สึกดีกับการสวดมนตร์มากกว่า ถึงจะไม่ได้ทำเป็นประจำก็ตาม

ผมอยากจะมาปรึกษา
เป็นปัญหาที่เป็นมาตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้ คือการเข้าใจสิ่งที่คนอื่นสื่อสารกับเรา กับการควบคุมอารมณ์ตัวเอง

ผมเป็นคนที่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดค่อนข้างยาก ทั้งที่ก็ฟังที่หู แต่ดันไม่เข้าใจซะงั้น ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมไม่เข้าใจ5555

คิดว่าจะแก้ได้ด้วยการทำสมาธิ แต่ก็ดันทำไม่ได้ซะงั้น

อีกเรื่องผมคิดว่าผมขี้หงุดหงิดมากคับ ยิ่งเฉพาะมีคนใช้งานหรือออกคำสั่งกับผม มันก็ปกตินะแต่เหมือนอารมณ์ไม่พอใจมันจะสะสมขึ้นมาเอง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า เหมือนยิ่งเขาใช้เราได้ คนอื่นก็จะยิ่งเพิ่มระดับขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนคล้ายๆได้คืบก็จะเอาศอก เอาตรงก็หงุดหงิดคับ ก็มีแสดงอาการไม่พอใจบ้าง บางครั้ง แต่ตอนนี้ยังหนีจากตรงนี้ไม่ได้ ได้แต่ทนไปก่อน

มีการปฏิบัติทางไหนที่ตรงจริตกับผม หรือ ทริคอะไรที่คุณนพพอจะแนะนำผมโดยเฉพาะหรือไม่ครับ ผมจะยินดีมากๆเลยครับ

 

ผลของสมาธิ ช่วยให้ในเวลาปกติมีความสามารถในการระงับ ยับยั้ง ช่างใจไม่ให้เกิด
แต่ถ้า ถึงขั้นเป็นอารมย์แล้วเก็บไว้ คือ มันเกิดแล้วแต่ไม่แสดงออก ๕๕

ส่วนจริตแนวอฐิษฐานจิต(ทาง จ.อุทัยฯ) จะมีธีมนิสัยแบบนี้หละ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะ
นี้ยังถือว่าดีนะ ที่ไม่หลงตัวเอง ถือว่าใช้ได้เลยหละ เอ๊ะหรือว่าเคยแต่เลิกแล้ว ๕๕

ถ้าจะแก้ให้ตรงจุดหน่อย ไม่ห่วงกำลังสมาธิที่มีนะมันได้จากการทำงาน
ตัวสติก็พอได้ แต่มันยังเก็บดึงสะสมในจิตอยู่ ต้องแก้ตรงนี้
จะต้องฝึกพิจารณาอารมย์ เกี่ยวกับเรื่องการตัดร่างกายให้มากๆ
นึกออกไหม สายอฐิษฐานจิต จะเน้น ให้พิจารณาว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ร่างกายนี้
เป็นกองทุกข์ เราขอตัดร่างกายนี้ ฯลฯ แนวๆนี้หละ ตัดหมายถึงไม่ใช่ว่า
ไม่ดูแลนะ แต่ใจไม่ยึด เข้าใจนะ
ฝึกเพื่ออะไร? เพื่อตัดการดึงสิ่งต่างๆภายนอกเข้ามาปรุงแต่งร่วมกับตัวจิต
จนเกิดเป็นอารมย์ต่างๆขึ้นมานั้นหละ
ยกตัวอย่างนะ จะได้เห็นภาพชัดๆ
เช่น ผู้บัญชาการด่า หัวหน้าพลาธิการว่า ไอ้ค..าย
ถ้าหัวโกรธ แสดงว่า หัวหน้าฯยึดร่างกายตัวเองอยู่
เพราะจิตไปคิดเปรียบเทียบกับ ค.าย มีสัญญาในใจ
จากทางโลกว่า ค.ายเป็นอย่างโน้นนี่นั้น สุดท้ายปรุงแต่ง
เป็นอารมย์โกรธ ส่งผลต่อร่างกายในลำดับต่อมาได้

และมันจะแก้อาการอยากสวนด้วยปากได้ แต่เปลี่ยนมาเก็บเป็นความคิดทัน
ได้ของมันเองตามลำดับนั่นหละ ที่นี้ความเข้าใจในสิ่งที่ได้ยินก็จะดีขึ้นมาเอง
ในภาพรวมๆไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก สบายใจได้