มีใครเป็นลูกหลานเสด็จปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธนาคราชบ้างครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย วรุณบุตร, 9 ตุลาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. คาฮิลเอลซา

    คาฮิลเอลซา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +1,316
    นึกว่า จะจิตฟุ้ง เดาผิดนะ กลับเป็นว่า ถูกเหรอเนี่ย คือ ไม่มีอะไรมากละค่ะ ก่อนใช้ใจลองหลับตาอธิษฐานลองใช้บารมีตัวเองดูว่า ถึงไหม แล้วนึกถึงครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือนะค่ะ (คงเพราะบุญมี กรรมไม่มาบังแล้ว)
    ก็ลองทำจิตให้ว่าง นิ่งๆๆๆสุดๆดู ก่อน แล้ว ซิกเซ้นท์มัน ก็ กระตุ้นบอกให้ใจรู้สึกว่า คงใช่ แล้ว อันที่จริงก็ กลัวขายหน้าเหมือนกันเพราะยังมือใหม่ หัดมาก กลัวสอนหนังสือให้สัฆราช หรือ เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน ละค่ะ เลยพึ่ง บารมีไพ่ยิปซี ช่วยเสริมอีกแรง พญานาค สีทอง (ไพ่อัศวินถ้วย ) พญานาคสีดำ (ไพ่ดวงดาว) พญานาค สีรุ้ง(น่าจะไพ่ ขุนศึก) พญานาคสีเขียว น่า จะไพ่ดาบ แต่ไม่แน่ใจว่า เบอร์อะไร ลืมแล้ว
    ไพ่ที่ใหญ่สุดในสำหรับจะเป็นตัวบอกค่ะว่า ท่านเป็นสีใด จริง ในที่สุด ตอนแรกก็สองจิตสองใจ เพราะ รู้สึกว่า นะเป็นสีทอง แต่ ในที่สุดก็ ว่าเป็นสีดำ ตระกูลกัณหา โคตมะ ละมั้ง
    คงต้องขอบคุณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกท่าน และ บุญของตัวเองที่ทำมาละค่ะ
    ขอบคุณสำหรับคำชมนะค่ะ คุณนาคน้อย ถ้ามีวาสนา ต้องกัน คงได้เห็น
    อย่างที่เคยเล่า ไม่รู้ว่ามีกี่ชาติเคยเป็นสหายทางธรรมกับพญานาคทั้งปวง องค์ไหนหรือเปล่า แต่ที่แน่ คือรู้สึกเลื่อมใสพญามุจลินทร์มาก (แต่ไม่ประสงค์จะ เห็นงูเท่าไหร่ตอนนี้ หึหึ มันยังแหยง งู มาก ไม่รู้เป็นไร แต่ไม่รังเกียจ แค่รู้สึกยัง ไม่อยากเข้าใกล้ นัก )

    ปล. ต้องขออภัย แม่มดขาว เคยมาไม่ใช่หน้า 33 แต่คง 37-39 นี่ละคะ จำไม่ได้แล้ว ขอบคุณ น้องธิดารัตน์ ด้วยที่คาราวะ จ้า ไว้มีโอกาสจะมาใหม่ วันนี้คงต้องลา อยู่ดูได้ไม่นาน จะมาดูว่า ขายหน้า ไหมที่ตอบ หรือ ทดสอบว่ามันชัดเจน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2009
  2. ธิดารัตน์

    ธิดารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,939
    ค่าพลัง:
    +4,568
    โห พี่ดูไพ่ยิปซีเป็นด้วยหรอคะ
     
  3. กาลปาวสาน

    กาลปาวสาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +390
    ......ทายไม่ถูกเพราะไม่ได้ทาย เดาไม่ถูกเพราะไม่ได้เดา.....
     
  4. benjamina

    benjamina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +289
    เอ แล้วอย่างเราๆท่านๆ แต่ก่อนจะอยู่ตระกูลไหนกัน หาอะไรมาเล่นกันต่อดีม้ายครับ
     
  5. benjamina

    benjamina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +289
    ผมโง่อ่ะ คิดว่ามันกดเห็นด้วยได้ เห็นแว๊บ ด้วยๆ กดไปเอ๊า เป็นไม่เห็นด้วย ไม่ได้เจตนาไม่เห็นด้วยนะ เห็นด้วยจริงๆขอรับ


    ปล.ถ้าสมมุติ(สมมุตินะเล่นๆ) เลือกสีเลือกตระกูลได้จะเอา สีอะไรตระกูลอะไร เพราะอะไร แต่ผมไม่รู้จักสักตระกูเลยว่า ตระกูลไหนสีอะไรลักษณะนิสัยจะเป็นแบบไหน มีใครอธิบายได้มั้ยคับ รู้แต่ มี เก้าเศียร เจ็ดเศียร ห้าเศียร เศียรเดียว(มีสามเศียรไหมคับ) แล้วก็ สีทอง สีเขียว สีดำ(หรือนิลมั้ย?) มีสีครามน้ำทะเลมั้ยเพราะผมชอบสีนี้มาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2009
  6. หนูปุยฝ้าย

    หนูปุยฝ้าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +881
    ส่วนตัวชอบตระกูลสีดำนะค๊ะ ^^

    เพราะฝันเห็นบ่อย


    แต่เอ...... ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าตระกูลสีดำมีนิสัยเป็นอย่างไรนะค๊ะ?

    อิอิ
     
  7. สิงหนวัติ

    สิงหนวัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +2,107
    ตามตำนาน ความเชื่อ ท่านผู้รู้ได้เมตตาบอกไว้ดังนี้

    วิรูปัก
    ตระกูลสีทอง
    เอราปถ ตระกูลสีเขียว
    ฉัพยาปุตตะ ตระกูล สีรุ้ง
    และกัณหาโคตมะ ตระกูลสีดำ

    ในส่วนความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่า
    วิรูปัก ตระกูลสีทอง รวมถึง ทองทั้งองค์ ทองบางส่วน ทางนิด ทองหน่อย ก็สีทอง ฉะนั้น นาคตนไหนมีสีทอง จะมากจะน้อย ก็อยู่ในตระกูลนี้
    เอราปถ ตระกูลสีเขียว เขียวก็มีหลายเขียว เขียวอ่อน เขียวแก่ เขียวใบไม้ เขียวน้ำทะเล
    ฉัพยาปุตตะ ตระกูล สีรุ้ง รุ้งมีสีอะไรบ้างก็มีตามนั้น (อย่างที่น้องชอบสีฟ้าคราม ก็น่าจะอยู่ในตระกูลนี้)
    และกัณหาโคตมะ ตระกูลสีดำ ดำน้อย ดำมาก ดำนิล

    เหตุที่เป็นเช่นนั้น
    หากสงสัย ก็ให้ลองจินตนาการถึงโลกมนุษย์เราดูได้ เหมือนอย่างสีผิวมนุษย์เรานี้ มีดำมากแบบแอฟริกา ขาวมากแบบคอเคเซียน เหลืองแบบทิเบโตรไชนิส หรือผิวชาวเอเชียเรา หรืออย่างที่เรียกกันบ่อยๆ ว่า ผิวดำ ดำแดง น้ำตาล เหลือง เหลืองนวล ขาวเหลือง ขาว ขาวเผือก ก็แล้วแต่ ถ้าจะให้แยกจริงๆ ก็คงบอกได้ยาก แต่ธรรมชาติของมนุษย์ก็มักจะพบเห็นสีผิวตามนี้ ไม่มีผิวสีเขียว สีน้ำเงิน สีฟ้า อะไรแบบนี้ เพราะไม่ใช่ธรรมชาติของมนุษย์

    ทีนี้เมื่อพูดถึงพญานาคก็ให้ลองคิดถึงงู เพราะใกล้เคียงกัน งูก็มีหลายสี แต่พวกนาคสีสันวรรณะ ก็จะแปลกพิสดารไปอีก เนื่องจากอยู่ในภพภูมิที่ละเอียดกว่า ประณีตกว่า ส่วนที่ท่านแยกเป็นตระกูลๆ ไว้ ก็เหมือนกับโลกมนุษย์เราที่แยกเป็นคนแอฟริกา (ผิวดำ) คนยุโรปอเมริกัน (ผิวขาว) และคนเอเชีย (ผิวเหลือง) ซึ่งก็จะมีวรรณะ คือสีผิว แยกแตกรายละเอียดลงไปอีก ฉันใดก็ฉันนั้นครับ
     
  8. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    แวะมาเยี่ยม... ไม่มีอะไรตื่ลเต้ลลล เลยหรือ....ว๊า !

    กลับไปนอนขดตัวดีกว่า หนาว....
     
  9. pk010209

    pk010209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    973
    ค่าพลัง:
    +2,634
    ;aa15ในที่สุดก็ทราบพระนามขององค์พญานาคราชที่ท่านมาปรากฏในฝัน นานมากที่ค้างคาใจในที่สุดก็ทราบพระนามสักที ดีใจสุดๆ ท่านปรากฏให้เห็นในฝันท่านสวยสง่า โดยเฉพาะสังวารของท่านประดับด้วยมณีหลายๆสี ท่านไม่ได้พูดอะไร แต่รู้สึกได้ว่าท่านใจดี ท่านเป็นลูกของพญาอนันตนาคราช ท่านชื่อ องค์พญาเพชรภัทรนาคราชหรือพญาเกล็ดแก้วนาคราช
    ที่มา:http://www.suvannaka.com/history/history02.html

    หลวงปู่ดามัญ เป็นพระภิกษุไทยที่ออกธุดงค์อยู่ในประเทศกัมพูชา นานหลายปี จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2544 ขณะที่หลวงปู่ดามัญ ปฏิบัติสมาธิภาวนาตามปกติที่เคยปฏิบัติเป็นวัตร อยู่ภายในถ้ำเขากุเลน ประเทศกัมพูชา ได้เกิดนิมิตเห็น หลวงปู่สรวง, หลวงปู่สุข ธมฺมโชโต และปู่ฤๅษีอีกหลายองค์ ซึ่งเป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ของหลวงปู่ดามัญ ได้กล่าวว่าให้หลวงปู่ดามัญ เดินทางมาที่จังหวัดปราจีนบุรี ให้กลับมาดูแลฟื้นฟูสถานที่ ที่หลวงปู่ดามัญ ได้เคยก่อสร้างบ้านเมือง, วัดวาอาราม, ปราสาท ไว้ที่วังนาคินทร์ เมืองสุวรรณนาคาเทพนคร เมื่อครั้งในอดีตชาติ ซึ่งจากนิมิตในปี พ.ศ. 2544 หลวงปู่ดามัญก็บอกกับพ่อแม่ครูอาจารย์ ว่ายังไม่พร้อมที่จะกลับมาประเทศไทย และเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2548 หลวงปู่ดามัญ จึงตัดสินใจธุดงค์มาที่วังนาคินทร์ เมืองสุวรรณนาคาเทพนคร วัดหว้าเอน จว.ปราจีนบุรี ซึ่งในปี พ.ศ. 2548 วังนาคินทร์เมืองสุวรรณนาคาเทพนคร มีสภาพเป็นป่ารกร้าง ไม่มีคนอาศัยอยู่บนเนินเขา คืนแรกหลวงปู่ดามัญ จึงปักกลดบริเวณบ่อน้ำทิพย์ บนสันเขา ตอนกลางคืนขณะหลวงปู่ดามัญ ปฏิบัติสมาธิภาวนาก็เกิดนิมิตเห็นพญานาคองค์สีเงินเหมือนแก้วองค์ใหญ่มากมาบอกหลวงปู่ดามัญว่า ท่านชื่อ พญาเพชรภัทรนาคราช ซึ่งชาวบ้านจะเรียกพญาเกล็ดแก้วนาคราช บนสันเขาที่ท่านปักกลดอยู่นี้คือองค์พญาเกล็ดแก้วนาคราชและบ่อน้ำทิพย์ที่อยู่ใกล้ๆกลดท่านคือบ่อน้ำทิพย์ซึ่งเป็นประตูลงสู่เมืองบาดาลเหมือนที่เมืองคำชะโนด องค์พญาภัทรนาคราชบอกกับหลวงปู่ดามัญว่า ท่านเป็นลูกของพญาอนันตนาคราช สำหรับเศียรที่จมลงไปในพื้นดินเมื่อครั้งอดีตกาล ท่านขอให้หลวงปู่ดามัญช่วยสร้างเศียรให้ด้วย

    ;aa30
     
  10. benjamina

    benjamina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +289
    ขอบคุณมากๆ ครับพีท่านที่ให้ข้อมูล
    แบบนี้กระจ่างขึ้นเยอะเลยครับ เป็นความรู้รอบตัวต่อไปใครพูดอะไรผมจะได้รู้เรื่องกะเขาม่าง แหะๆ
     
  11. benjamina

    benjamina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +289
    ตอนรับน้องอ่ะ พวกว๊ากเกอร์มันจะใช้ธงสีดำ แล้วก็ร้องเพลงขู่น้องว่า "สีดำ อำมหิต อำมหิต สีดำ สีดำ" เกี่ยวกันมะ black_pig
     
  12. หนูปุยฝ้าย

    หนูปุยฝ้าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +881




    แต่เอ.................. ก็ไม่แน่นะค๊ะ คุณ benjamina

    5555555555+

    ^^ :boo:
     
  13. ธิดารัตน์

    ธิดารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,939
    ค่าพลัง:
    +4,568
    ไม่ว่ากันค่ะคุณ benjamina

    ฮ่าๆ ตอนแรกเห็นสีม่วงๆที่คอมเม้นตัวเองตกใจเหมือนกันว่า

    เอ๊ะ เราไม่ได้เม้นยาวแล้วกระทบอะไรนี่นา

    เลื่อนลงมาเจอเม้นบอกพอดี เอิ๊กๆ
     
  14. azuminami

    azuminami เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +230
    เห็นแล้วอยากโดดลงไปเล่นน้ำจังเลย หุหุ

    น่าอยู่ดีแท้น้อ

    อิอิ
     
  15. azuminami

    azuminami เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +230
    สีทองงง :VO

    อิอิ
     
  16. Ajarn Pithak

    Ajarn Pithak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,367
    ค่าพลัง:
    +2,126
  17. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    พญานาคองค์เขียวครับ
    งานเข้า



    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. สิงหนวัติ

    สิงหนวัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +2,107

    พญานาคองค์เขียว ท่านชื่อพญานาคาวาสุกรีครับ

    ข้อมูลเสริมให้อ่านกันเล่นๆ เพลินๆ



    ประติมากรรม “เทวตำนานการกวนเกษียรสมุทร”
    Scene of the Churning of the Milk Ocean
    <dd>
    สถานที่ซึ่งเป็นที่สถิตย์ของน้ำอมฤตเป็นสถานที่อมตะ มั่งคง ยืนยงสถาพร เช่นเดียวกับ สุวรรณภูมิ อันเป็นแผ่นดินทอง ความอุดมสมบูรณ์ ความเจริญรุ่งเรือง มั่นคง เป็นอมตะ ความหมายก็คือ ความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่มีที่สิ้นสุด


    ในการสร้างประติมากรรมโลหะปิดทองประดับกระจก กว้าง 3 เมตร ยาว 21 เมตร สูง 5.50 เมตรโดยใช้งบประมาณ 48 ล้านบาท


    กรมศิลปากรต้องระดมทั้งช่างเอกและศิลปินแห่งชาติร่วม 50 ท่าน ร่วมในการออกแบบและก่อสร้าง และมีขั้นตอน การดำเนินงานที่สำคัญ เช่น 9 ม.ค. 2549 พิธีหล่อหมู่หุ่นนาฏกรรม ณ โรงหล่อพระบุญเรือน จังหวัดปทุมธานี โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม และนายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธี


    24 ก.พ. 2549 เคลื่อนย้ายหมู่หุ่นนาฏกรรม จากโรงหล่อพระบุญเรือน สู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
    28 ก.พ. 2549 เวลา 19.09 น. ภูมิปโลฤกษ์ ซึ่งถือเป็นฤกษ์ของกำลังแผ่นดิน ทำพิธีอัญเชิญพระวิษณุ (พระนารายณ์) ขึ้นประดิษฐานบนยอด มันทรคีรี
    </dd> [​IMG]
    [​IMG]
    <dd>ตามเทวตำนานการกวนเกษียรสมุทรนั้น พระวิษณุได้เสด็จมาเป็นองค์ประธาน แล้วตรัสให้เหล่าเทวาอสูรช่วยกัน ถอนภูเขามันทรคีรี อันเป็นแหล่งกำเนิดแห่งมณีนพรัตน์ มาตั้งลงในท่ามกลางทะเลน้ำนมที่สถิตย์ อยู่ใน ไวกูณฑ์สวรรค์ แล้วให้ช่วยกัน เก็บหาสมุนไพรนานาชนิด มาผสมลงในเกษียรสมุทร และมอบหมายให้จอมนาควาสุกรี ใช้ลำตัวมาเป็น เสมือนเชือกพันรอบมันทรคีรีต่างสายชักโยง โดยออกอุบายยกยอให้เกียรติอสูร ว่าพวกใดมีกำลังเข้มแข็งที่สุดใน ไตรภพ(สามโลก) ให้มาชักทางฝั่งเศียรนาค เหล่าอสูรหลงกลรีบตรง เข้ายึด ชักทางเศียรพญานาควาสุกิทันที ฝ่าย เทวดาก็มาชักทางหาง ทั้งเทวดาและอสูรช่วยกัน ชักดึงมันทรคีรีกันอย่างเต็มกำลัง ให้ภูเขานั้นหมุนเพื่อกวนสมุนไพรให้ เข้ากับน้ำนมในทะเล ระหว่างนั้น พญาวาสุกรีนาคราชซึ่งเจ็บและเหนื่อยล้า จากการ ที่ร่างกาย ถูกเสียดสีจากการพัน รอบภูเขา ตลอดเวลา ก็อ้าปากคายพิษเป็นไฟกรดออกมาทีละน้อย ยังผลให้เหล่าอสูรอ่อนแรงไปตามๆ กัน พวกอสูร สำรอกพิษออกมา พระศิวะ ต้องกลืนพิษไว้เองหมด เพราะถ้าพิษ ลงไปโลกมนุษย์แล้ว สัตว์โลก จะตาย กันหมด เหล่าเทวดาที่ไม่โดนไอร้อนของไฟกรด เพราะฉุดทางฝั่งหาง ซ้ำยังมีพระลักษมีปติช่วยบันดาลฝน ให้โปรยปรายชุ่มชื่น ตลอดเวลา

    ในระหว่างการกวนเกษียรสมุทรอยู่นั้น มันทรคีรี ซึ่งได้ถูกแรงดึงเสียดสีมานานก็เริ่มเอียงคลอน พระนารายณ์ ทราบความ จึงรีบ อวตารไปเป็น เต่า กูรมาวตาร เพื่อหนุนก้นภูเขาให้ตั้งตรงขึ้นดังเดิมอีกครั้ง พิธีระหว่างเทวดา และ อสูร นี้กินเวลายาวนานนับพันๆ ปี การกวนเกษียรสมุทร ทำให้เกิดของ ทิพย์วิเศษสุด 14 อย่างทยอยกันผุดขึ้นมา ตามลำดับ สิ่งที่ 13 และ 14 ที่ผุดขึ้นมาพร้อมๆ กัน คือ ธันวันตริ ผู้เป็นแพทย์สวรรค์ ผุดขึ้นมาทูนหม้อน้ำทิพย์อมฤต ในขณะที่เหล่าเทวดาและอสูรต่างแย่งชิง ของวิเศษ 12 อย่าง ที่ผุดขึ้นมาก่อนหน้านี้ พระนารายณ์ก็ทรงแบ่งอวตารพระกาย เป็นสตรีรูปงามราวกับพระศรีลักษมี นามว่า โมหิณี ตรงมาคอยยั่วยวน เหล่าอสูร เป็นกุศโลบายให้เหล่า เทวดาได้ดื่มน้ำยมฤตหนึ่งในสี่ส่วนก่อน แล้วที่เหลืออีกสามในสี่ส่วน จะให้เหล่าอสูรได้ดื่มบ้าง ในภายหลัง ในฝ่ายอสูรนั้นมีเพียง ราหู ตนเดียวที่ไม่สนใจนางอัปสร และได้แปลงร่างเป็นเทพเข้ามาดื่มน้ำอมฤต แต่พระอาทิตย์และพระจันทร์ซึ่งเห็น ราหู ปลอมตัวมาเป็นเทพจึงได้ไปฟ้องพระนารายณ์ เมื่อพระนารายณ์ทรงทราบ จึงขว้างจักรสุทรรศน์ออกไปตัดร่างราหูออกเป็นสองท่อน ในขณะที่กำลังดื่มกินน้ำอมฤตอยู่ แต่ราหูก็ไม่เสียชีวิตด้วยได้ ดื่มน้ำอมฤตเป็นอมตะไปแล้ว ดังนั้น ราหู จึงโกรธแค้นพระอาทิตย์และพระจันทร์มาก และจะจับกินทุกครั้งที่เจอกัน จากนั้นพระนารายณ์จึงมอบหม้อน้ำอมฤตที่ยังเหลืออยู่ให้แก่พระอินทร์ เพื่อนำไปเก็บรักษายังสวรรค์ ห้ามมิให้ผู้ใด แตะต้องอีก สุดท้ายฝ่ายเทวดาซึ่งได้ดื่มน้ำอมฤตเรียบร้อยแล้ว ก็ขับไล่ฝ่ายอสูรทั้งหมดลงจากสวรรค์ไปได้สำเร็จของทิพย์วิเศษสุด 14 อย่าง


    1. ดวงจันทร์ พระศิวะหยิบมาปักไว้บนเกศ
    2. เพชรเกาสตุภะ
    3. ดอกบัวลอยขึ้นมาพร้อมพระลักษมี
    4. วารุณี เทวีแห่งสุรา
    5. ช้างเผือกเอราวัณ
    6. ม้าอุจฉัยศรพ
    7. ต้นปาริชาติ
    8. โคสุรภี หรือ โคอุสุภราช พร้อมของหอม
    9. หริธนู
    10.สังข์
    11.ปวงเทพีอัปสรสวรรค์
    12.พิษร้าย ฝูงนาคและงูสูบพิษไว้
    13.ธันวันตริ แพทย์สวรรค์
    14.หม้อน้ำทิพย์อมฤต
    </dd>


    ขอขอบคุณ http://accomthailand.wordpress.com/2008/02/04/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2009
  19. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    พญานาคองค์เขียว ท่านชื่อพญานาคาวาสุกรีครับ

    ข้อมูลเสริมให้อ่านกันเล่นๆ เพลินๆ
    ..........................................................................
    ขอบคุณครับ
     
  20. benjamina

    benjamina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +289
    แหะๆ
    ไปนอนแระ ฝันดีคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2009
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...