อยากทราบว่าในตัวคนมีเทพฯ คุ้มครองมีลักษณะแบบไหน

ถูกต้องแล้วคะ คุณ อาภรกร ตุ๋ยขออนุโมทนาบุญกับคุณด้วยคะ ถ้าเราตัดขันธ์
5 ได้ ก็จะดีหลวงพ่อฤาษีท่านสอนเอาไว้ถ้าเราตัดขันธ์ 5 ได้เราก็สามารถเข้านิพานได้ ตอนนี้ตุ๋ยก็กำลังตัดอยู่มันก็อยากมากเพราะจิตมันดื้อ แต่ก็จะพยายามต่อไปคะ

 

ขอให้น้องโชคดีได้งาน นะจ๊ะ ไม่ต้องไปอยากเห็นมันหรอกนะผีนะ ฟังพวกพี่ๆ
เล่าไปกอ่นก็แล้วกัน สนุกดี

 

ขอบคุณคะพี่ตุ่ย

หนูไม่อยากเห็นเลยคะ(ผี)

กลัวทำใจไม่ได้....

รอฟังพี่ตุ่ยมาเล่าประสบการณ์จิตไปเที่ยวอยู่นะคะ

หนูหาข้อมูลเตรียมสอบเพิ่มก่อน เย็นๆๆจะแวะเข้ามาใหม่คะ

 

สวัสดีคะ

ศิลามณี มาเล่าต่อ เรื่องเกล็ดพญานาคนะคะ เกล็ดพญานาคที่ ศิลามณี เห็นเป็นรูปทรงวงกลมรีๆคะ ขนาดประมาณ 1 -2 นิ้ว หรือ มากกว่านั้น ตรงกลางของวงกลมรี คล้ายกับมีเส้นบางๆ แบ่งผ่าครึ่งออกเป็นสองข้าง และ มีเส้นบางๆทแยงขึ้น เรียงเป็นชั้นๆขึ้นไป เหมือนกับเส้นแขนงของใบไม้

ผิวสัมผัสคล้าย กับ เกล็ดปลา แต่ที่พิเศษกว่ามากๆ คือสีของเกล็ดคะ เป็นสีขาวเงินยวงสว่างใส คือมีความขาว สว่าง สุกใส และ แวววาว มากๆ ..... สว่างเหมือนกับแสงสะท้อน ของดวงอาทิตย์ที่ต้องกับกระจกเงานะคะ

และ ถ้ามองลงไปให้ใกล้ จะเห็นว่ามีสายรุ้งเล็กๆ ที่มีความมันระยิบระยับ แทรงอยู่ตามเส้นแขนง ที่แยกออกมาด้วย.. ... ... บางเกล็ดนะคะอาจจะมีสีเหลือน้ำตาลทองอ่อนๆ แทรงอยู่ตรงกลาง เป็นเหมือนวงกลมรีๆวงเล็กซ้อนทับ วงกลมวงใหญ่อยู่...คล้ายๆกับแววมยุราของนกยูงนะคะ ..

คุณตุ๋ย และ เพื่อนๆพอจะนึกภาพตามออกไหมคะ<O</O

 

มีความเป็นไปได้นะคะ ว่าแต่สวดมนต์แล้วก็ แผ่เมตตา ให้ด้วยเขาจะได้ไม่มา แต่ถ้ามาให้เห็นก็แสดงว่าเขาคงต้องการให้ช่วยเหลือ ก็แผ่กุศลผลบุญให้อีกรอบแล้วกันนะคะ

พรุ่งนี้สอบก็ขอให้ทุกอย่างราบรื่นเรียบร้อยนะคะ โชคดีคะ แล้ว.....ถ้าได้ผลสอบอย่างไรมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ

 

ก็ช่วยเท่าที่ความรู้ ความสามารถ เรามีอย่างเต็มที่นะละคะ เป็นการสร้างบุญบารมี และ การช่วยคนนี่นะคะ ศิลามณี ว่าเราก็ได้อะไรๆหลายๆอย่างจากคนเหล่านี้ นั้นคือประสพการณ์ ซึ่งซื้อหาที่ไหนไม่ได้ อีกทั้งเป็นการฝึกจิตใจของตัวเราเองด้วย ให้มีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ไปในตัว

ส่วนบุญนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะได้อยู่แล้ว... ได้ตั้งแต่ความคิดแรกที่คิดจะช่วยเหลือเขาเหล่านั้น แล้วคะ

เพื่อนๆคะศิลามณีเอากระทู้นี้มาฝากคะ ฟังสนุกมีสาระ

http://palungjit.org/threads/เป็นชาวพุทธมืออาชีพ-อย่างฉลาด-โดย-ดร-วรภัทร-ภู่เจริญ.255817/

 

คุณตุ๋ยคะ ศิลามณีส่งเมลย์ไปหานะคะ

 

คุณ ศิลามณี และเพื่อนๆ ธรรม วันนี้ไปทำบุญที่วัดมา ไปกับเพื่อน ตุ๋ยเอาบุญมาฝากคะ ตุ๋ยก็ไม่เคยเห็นเกล็ดพยานาค เพิ่มมารู้ว่ามีที่คุณศิลามณีมาเล่าให้ฟังนี่แหละ นึกเห็นภาพแล้วคงจะสวยมาก คุณศิลามณี ไปเห็นที่ไหนเหรอตุ๋ยมีก็มณีใต้น้ำคือเพขรพยานาคเขาเรียกกันแบบนี้ วันแรกที่ได้ จะเป็นลักษณะ กลมออกรีๆ เม็ดเท่าหัวนี้วโป้มือนี่แหละ เม็ดจะขาวใสมาก ตรงกลางจะเหมือนรูปดวงตาที่ใสกว่าบริเวรอื่นๆ ตุ๋ยลองเอามาวางที่ฝ่ามือจะหนักเหมือนหินและเลื่อนมากลองเอา ถูไปถูมา บนฝามือรู้จะมีสีขาวใส ติดฝ่ามือของตุ๋ยรู้สึกมันจะขาวใสเลือม เหมือนตัวงูเลย แปลดีเลยเอามาเล่าให้คุณ ศิลามณีและเพื่อนๆ ฟังคะ

กำลังจะเข้าไปอ่านคะ

 

คุณคือ ใคร เอ่ย... อยู่ในเหตุกราณ์ ด้วยหรือค่ะ...

มีความคิดเห็น อย่างไร อีกค่ะ...

ช่วยชี้แนะ... นี่เป็นการช่วยเหลือ ครั้งแรก ของ สังขารเรา กับบารมี ของญาณปู่ ค่ะ...

 

มาคุยต่อ นะน้องและเพื่อนธรรมทุกท่าน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2539 เดือน พ ย
เช้าของวันที่ 22 บันทึกความประทับใจเอาไว้ทุกครั้ง ที่จิต ออกได้ไปเทียวเช้าวันนี้จิตออกไปเที่ยวสวรรค์ ชั้นดาวดึงห์ แบบมีสติ ทุกประการ สงสัยออกไปครั้งนั้นคงจะออกไปแบบเต็มกำลังของมโนฯ เพราะภาพที่ เห็นมันชัดเจนมาก
ช่วงเช้าหลังจากเข้าห้องน้ำกลับมานอนทำสมาธิอย่างสบายๆ มันมีความรู้สึกว่าจิตกำลังจะออกก็ปล่อยให้ออกตามปกติ ก่อนออกก็ขอบารมีองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนแล้วตั้งจิตอธิฐาน ลูกขอไปเทียวสวรรค์ชั้นดาวดึงห์ มันออกไปจริงๆ เร็วมากลอยขึ้นไปบนฟ้าเลยไปหยุดอยู่ ตรงไหนก็ไม่รู้ มันมืดเห็นแสงสลัวๆ มองไปลอบๆ เห็นมีเป็นดวงๆ คล้ายดวงดาวเต็มไปหมด ตุ๋ยคิดอยู่ในใจว่าขึ้นมากี่ครั้งๆ กี่ครั้งก็แบบนี้ทุกที ก็ขอบารมีพระต่อลูกขอไปสวรรค์ชั้นดาวดึงห์ ตุ๋ยมีความรู้สึกว่าตัวเองลอยต่ำลงมานิดหนึ่งก็หยุด พอหยุดตุ๋ยก็มีความรู้ว่าตัวเองลุกขึ้น คือว่ามันลอยขึ้นไปแบบนอนนะคะ พอลุกขึ้นก็มองไปรอบตัว
มันก็สลัวๆ อีกแล้วก็เกิดอาการอยากร้องไห้ว่าทำไมเป็นเช่นนี้ ก็เลยคิดว่ากลับดีกว่า มากี่ครั้งก็เป็นแบบนี้ทุกที ขอบารมีพระเลยเพื่อจะขอกลับร่าง แต่ไม่ทันจะกลับก็มีนกตัวหนึ่งบินมา มาร้องเรียว่าเดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อนจะรีบไปไหน ตุ๋ยหันไปมองตามเสียง นกตัวนั้นก็ถามว่าจะรีบลงไปไหนอยู่ก่อน ตุ๋ยก็เลยบอกว่าจะรีบลงไปข้างล่าง บนนี้ไม่เห็นมีอะไร ตุ๋ยก็ถามว่าท่านเป็นใครเปลี่ยนร่างให้ดูได้ไหม นกตัวนั้นก็ตอบว่าได้ นกก็เปลียนร่างมาเป็นผู้หญิงสาวสวยผมยาวแต่เปลี่ยนร่างไม่หมดเหลือแต่แขนยังเป็นปีกนกอยู่ ตุ๋ยบอกยังเปลี่ยนไม่หมดเลยเหลือแขน ถ้าแบบนี้ไม่สวย เธอก็เปลี่ยนเป็นแขนเหมือนคน แล้วถามตุ๋ยว่าสวยหรือยัง ตุ๋ยบอกสวยแล้ว ตุ๋ยก็เลยถามว่าเธอชื่ออะไร เธอตอบว่าเธอชื่อ ปักสา
แล้วเธอก็บอกให้ตามเธอไปเธอจะพาไปไหว้ ผู้เป็นใหญ่บนนี้ตุ๋ยก็เดินตามเธอไป พบผู้ชายสูงอายุคนหนึ่งมีผมสีขาว หนวดขาวใส่เสื้อผ้าสีขาวเธอก็บอกให้ตุ๋ยไหว้ท่านเพราะท่านเป็นใหญ่บนนี้ ผู้ชายสูงอายุคนนั้นถามปักสาว่าตุ๋ยเป็นใคร ปักสาก็บอกว่าตุ๋ยเป็นมนุษย์ อย่ากจะมาเที่ยวเมื่องสวรรค์ ผู้ชายสูงอายุคนนั้นก็บอกปักสาว่าเอาซิพาแม่หนูไปเที่ยวหน่อย แล้วท่านก็ถามว่าอย่าดูอะไรบนนี้ ตุ๋ยก็บอกท่านไปว่า หนูอยากมาดูพระจุฬามณีเจดีย์สถาน ท่านก็ชี้มือไปข้างหลัง บอกว่านั้นไงหันไปดูซิ พอตุ๋ยหันไปดู ตลึงเลย สวยมาก เป็นเจดีย์แก้วมณี
7 สี ยอดเจดีย์สูงมาก ส่งแสงประกายแพรวพราว สว่าง ไปทั่ว ไม่เคยเห็นอะไรจะสวยขนาดนี้ในชีวิต พอมองต่ำลงมา เห็นเทวดา นั่งอยู่กลุ่มหนึ่งอยู่หน้าพระจุฬามณี มี 5 องค์ อีก 4 องค์ ไม่เห็นชัด เห็นเป็นเงาๆ แต่มีอยู่องค์หนึ่งเห็นชัดแจ๋วเลย ใช่ชุดสีแดงรัศมีกายสว่างจ้า มีชฎาใส่ด้วย พอตุ๋ยเห็นเท่านั้นดีใจวิ่งเข้าไปหา ที่วิ่งไปหาก็เพื่อจะไปกราบท่านเพราะตุ๋ยนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อฤาษีว่าถ้าเห็นเทวดาที่ไหนก็ให้กราบท่านเพราะท่านมีความดีกว่าเราท่านจึงได้ไปเกิดเป็นเทวดา แต่ยังไม่ทันจะถึงตัวท่าน ปักสาก็ เรียกเอาไว้เสียก่อน เธอเรียกชื่อตุ๋ยว่า จันจิรา เธอจะไปไหน ตุ๋ยหยุดและแปลกใจว่าทำไมมาเรียกชื่อเราว่า
จันจิรา เทวดาองค์นั้นคงจะแปลกใจหันหน้ามามอง หน้ารูปใข่ผิวขาวละเอียด เหมือนผ้าแพรชั้นดีเลย รัศมีก็สว่างแต่งตัวเต็มยศของเทวดาเลยใบหน้านี่งามเหนือนผู้หญิงเลย ตุ๋ยก็เลยหันไปพูดกับ ปักสาว่าจะไปไหว้เทวดา
ปักสาบอกยังไม่ต้องไปไหว้ เดี๋ยวจะพาไปเทียว พอว่าปักสากำลังจะพาไปเที่ยวต่อ ตุ๋ยก็ต้องออกจากสมาธิเพราะสามีปลุกเช้าพอดี ก็เลยไม่ได้เที่ยวต่อ

นี่แหละประสพการณ์ไปเที่ยวสวรรค์ชั้นดาวดึงห์ ตอนที่ฝึกสมาธิด้วยตัวเอง
มารู้เอาเมือไม่นานนี้ เทวดาองค์นั้น คือองค์ที่ติดตามดูแลตุ๋ยอยู่ทุกวันนี้
ถึงว่านั่งอยู่ 5 องค์ตุ๋ยเห็นสว่างอยู่องค์เดี๋ยว

 

ว้า...สามีคุณตุ๋ย ไม่น่ามาปลุกเลยคะ ..ว่าแต่แฟนคุณตุ๋ย...นับถือศาสนาศริสต์ใช่ไหมคะ แล้วหยั่งงี้มีความขัดข้องไหมเวลาที่ คุณตุ๋ยไปทำบุญ หรือไป ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ไหว้พระละคะ ....แล้วคุณตุ๋ยแก้ปัญหายังไงคะ

ของศิลามณีก็มีปัญหา..... อย่าเข้าใจผิดนะคะ ไม่ใช่แฟน หรือ สามี แต่เป็นญาติผู้ใหญ่นะคะ ไว้อีกแวบจะมาเล่าให้ฟังนะคะ

 

ศิลามณี เคยเล่าให้ฟังแล้ว ว่าผู้ที่ส่ง ศิลามณี เข้าอบรม ปฏิบัติธรรมครั้งแรกในชีวิตคือคุณพ่อของศิลามณีนะคะ ท่านเป็นผู้ส่งเสริม สนับสนุนในการปฏิบัติธรรม แต่ก็เพราะความเป็นพ่อ ย่อมห่วงลูกสาวเป็นธรรมดา ประกอบกับท่านไม่มีความเชื่อมั่น และไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเทพเทวดา....เหมือนที่ศิลามณีเคยประสบ ....

อีกทั้งเรื่องของพระพุทธศาสนา ท่านก็เข้าใจว่าเป็นเพียงอุบาย เป็นการสั่งสอนของคนโบราณ...ที่ต้องการให้คนประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี อยู่ในศีลธรรม ไม่เบียดเบียนซึ่งกัน และ กัน ... ส่วนเรื่องนรก และ สรรค์ เป็นเรื่องโกหกไม่มีจริง...พิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีเหตุผล....

เพราะคุณพ่อ....ท่านคิดแบบนี้นะคะ จึงทำให้ในบางครั้ง ที่ศิลามณีต้องการไปร่วมงานบุญงานกุศล กับ ญาติ มิตรญาติธรรม เพื่อนฝูง และ ครูบาอาจารย์ จึงเป็นอุปสรรค ประกอบกับความที่เป็นพ่อห่วงลูก กลัวว่าจะไปไหลหลงกับ เรื่องพระเรื่องเจ้า แบบเกิดความศัทธา จนออกบวช โดยเฉพาะเรื่องเทพเทวดา ท่านก็ว่าเป็นเรื่องงมงาย...

เพื่อนๆอ่านมาถึงตรงนี้คงจะมีคำถาม .....แล้วศิลามณีทำอย่างไร แรกๆก็ขอไปตรงๆเลยคะ ว่าไปปฏิบัติธรรม กับ เพื่อนๆ กับครูบาอาจารย์ ศิลามณีไม่ได้ขอไปแบบนี้บ่อย หรือทุกๆวันหรอกนะคะ 2-3 เดือนถึงจะขอไปที และ บางทีคุณพ่อท่านก็ขอไม่ให้ไปคะ ....

ศิลามณี ไม่อยากขัดใจท่าน จึงยอมไม่ไปบ้าง มีมาระยะหลังนี่คุณพ่อเริ่มไม่ให้ไป อ้างโน่นอ้างนี่ตลอด.... ศิลามณีก็เลยลองใช้วิธีสื่อสารทางจิต ...กับครูบาอาจารย์ที่อยู่ กับ คุณพ่อก่อน ว่าจะขอไปทำบุญ เมื่อนั้นเมื่อนี้นะคะ ขออนุญาตให้คุณพ่อให้ลูกไปด้วย.. แล้วถึงจะออกปากพูดคุย กับ คุณพ่อทีหลังนะคะ แรกๆได้ผลคะ 80 % คุณพ่อท่านอนุญาตให้ไป แต่พักหลังวิธีนี้ก็ชักจะใช้ไม่ได้ผล บางทีมีอุปสรรค เป็นเหตุทำให้ไม่ได้ไปก็มีคะ

ศิลามณี เคยชวนท่านไปปฏิษัติธรรมด้วยกัน แต่ก็ไม่ค่อยจะยอมไป มีครั้งล่าสุด ศิลามณีเห็นท่านกังวนมากๆก็เลยชวนไปเที่ยววัดป่า ที่สุโขทัยที่ศิลามณี ไปปฏิบัติธรรมที่นั้นบ่อยๆคะ ให้ท่านไปดูว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ก็ช่วยไปได้เยอะเหมือนกันคะ

 

^______^

ได้ฟังแล้วก็อยาเร่งฝึกให้ถึงจุดที่สามารถสื่อ
ได้เร็วๆๆ คะ
แต่ช่วงนี้เป็นจิตตกยังไงก็ไม่รู้คะ
เป็นเพราะเดือนนี้หนูจะอายุ 25 หรือเปล่า

 

สื่อสารทางจิตนี่ ศิลามณีไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร แต่จะใช้ก็ต่อเมื่อรู้สึกว่า หากพูดด้วยคำพูดแล้ว จะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ อีกอย่างอาจทำให้คนฟังรู้สึกหงุดหงิดนะคะ

อืมร์..ยกตัวอย่างนะ...ศิลามณีเคยใช้วิธีนี้ เวลาไปหาช่างแกะสลัก พระพุทธรูปตอนไปรับของคะ หลังจากที่พูดคุยทักทายกันแล้ว ตอนที่เขากำลังห่อของ.... ศิลามณีจะคุยกับช่างแกะสลักในใจ ขอราคาในใจว่า ขอสัก 100 บาทได้ไหมคะ ค่าแกะสลักพระนี่นะ จะเอาไปทำบุญ..คะ

...น่าแปลกนะคะได้ผลจริงๆ... เพราะช่างแกะพระ เขาบอกราคาค่าแรงมาตามที่เราขอ .....100 บาทจริงๆด้วยคะ โดยที่ช่างแกะสลักเขาก็ไม่ทราบว่าศิลามณีพูดขอเขาในใจ กับอีกครั้งตอนไปซื้อก้อนหิน ที่ร้านแขก ก็คุยกับเขาขอราคานี้ในใจ บางทีเขาก็ให้ในราคาที่เราขอ ... แต่บางทีก็ไม่ได้คะ ศิลามณี เข้าใจเอาเองว่าที่ไม่ได้แสดงว่าเขาไม่ได้กำไลและอาจขาดทุเสียด้วยซ้ำ....

 

รู้ว่าจิตตก ก็หมั่นไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิซิคะ ถ้ายังไม่อยากนั่งสมาธิ ก็ใช้วิธีสวดมนต์หา บทสวดยาวๆ หรือไม่ก็สวด อิติปิโส สัก 100 เที่ยว .... เห็นคุณ NuTdaPorn เคยเล่าว่าชอบสวดมนต์ไม่ใช่เหรอคะ สวดมนต์นี่..ก็เป็นการทำสมาธิอีกแบบหนึ่งนะคะ เวลาสวดมนต์ก็ควรสวดแบบเพราะๆ

อายุ 25 แล้ว ถ้าไม่สบายใจก็ไปทำบุญสิคะ ทำบุญแล้วก็ให้คิดใหม่ว่าต่อแต่นี้ไปจะมีแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาในชีวิตของเรา

 

ก็อย่าเอา จิต ไปเกาะตรงนั้นอย่าไปกังวลมัน ถ้าเราไปกังวลมัน มารต่างๆ มันจะเข้าแทรก เราไม่รู้ว่าเกิดมากี่ชาติแล้วทำอะไรใว้บางเราก็ไม่รู้ เจ้ากรรมนายเวรหรือพวกมารต่างมันรอเล่นงานเรา ถ้าเราจิตตกเมือไรมันเข้าแทรกทันที่
สู้ สู้ สู้ นะจ๊ะ

 

สามีตุ๋ยเป็น คนต่างชาติ ไม่มีศาสนาอะไรเชื่อในความคิดของตัวเอง ตุ๋ยเคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ตุ๋ยเริ่ม ฝึกและรู้ว่ามีกาย อีกายหนึ่งช้อนอยู่ที่กายเนื้อก็คงจะเป็นกายทิพย์นั้นเอง สามีตุ๋ยขำใหญ่เลยหาว่าเรางมงายไปเสียอีก เขาเชื่อว่าตายแล้วสูญ ไม่เชื่อเรื่องจิต เชื่อว่าสมอง สั่งการทั้งหมด ตายไปแล้วก็หมดกัน คือหัววิทยาศาสตร์นั้นเอง ตุ๋ยขี้เกียจจะอธิบาย เพราะกำลังจิตเขาไม่ถึงพวกนี้ อธิบายไปก็เหนื่อยเปล่า ทำให้จิตเราเศร้าหมองอีกถ้าเขาพูดดูถูกพระที่เรานับถือ แต่ห้ามมายุ่งกับตุ๋ยถ้าตุ๋ยจะนั่งปฎิบัติธรรม และทำบุญ กุศล เขาดีไม่มายุ่งเรื่องนี้ แต่เรื่องเงินให้เขารู้ไม่ได้ว่าตุ๋ยเอาไปทำบุญเขาจะไม่พอใจทันที
ถ้าตุ๋ยอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ค่อยได้ไปทำบุญที่ใหนเพราะวัดอยู่ไกล นอกจากเพื่อนจะมารับไปทำบุญ ส่วนสามีเขาจะไม่ว่างพาไปเพราะกิจกรรมของลูกเยอะ
ก็เลยต้องคอยรับคอยส่งลูก ส่วนมากตุ๋ยจะอาศัย สวดมนต์นั่งสมาธิเอาที่บ้านสามีเขาไม่ว่าอะไร แต่ถ้ากลับเมื่องไทยสามีกับลูกเขาไม่ได้กลับด้วย ตุ๋ยก็อิสระ
จะไปทำบุญ บวชชีพรามที่ไหนก็ได้ไม่มีใครมาขัดขวาง ตุ๋ยคิดว่าเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของเขา แต่ตุ๋ยเชื่อเพราะประสพมาด้วยตัวเองแล้ว เอาคำพูดของหลวงพ่อธัมไชโย วัดธรรมกายมาเตือนความจำอยู่เสมอ ท่านสอนใว้ว่า จะเชื่อตอนเป็นหรือจะเห็นตอนตาย ถ้า นรก สวรรค์ ไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามี จะกลับมาแก้ไขก็คงจะสายไปเสียแล้ว นี่คือคติประจำใจของตุ๋ยคะ

 

ถ้าฝึกสมาธิไปเลื่อยๆ ก็จะรู้เองเพราะจิตเราเป็น ทิพย์ ตุ๋ยก็จะใช้เหมือนคุณศิลามณีนั่นแหละ แต่จะใช้ในตอนทำสมาธิจิตนิ่งๆ คือไม่มีนิวรณ์ กวนใจ ตอนนี้กำลังขอหลวงปู่ สด ตุ๋ยอยากบวชชีพราม โครงการอุบาสิกาแก้วหนอ่นออ่น หนึ่งล้านคน ช่วงกลางเดื่อนธันวาคมนี้ เพราะช่วงนั้นตุ๋ยต้องกลับอังกฤษ ไม่รู้จะสำเร็จหรือเปล่า ก็จะพยายามอธิฐานจิตไปเลื่อยๆ คุณศิลามณีและเพื่อนๆ ไม่สนใจบ้างเหรอ

 

คะใช่.....เวลาจะสื่อสารทางจิตนี่ ต้องทำจิตให้นิ่งก่อนแล้วถึงจะ .....อืมร์.... ศิลามณี ขอเรียกง่ายๆละกันนะ ว่าพูดในใจ เวลาพูดในใจก็พูดด้วยความสุภาพเหมือนปกติ ที่เราๆพูดออกมานี่ละคะ แล้วก็ไม่ควรพูดในใจแบบดังๆ เพราะมันเหมือนกับเรา ไปตะโกนใส่หน้าเขา คงคล้ายๆกันการสื่อสารด้วยตัวหนังสือนะคะ หากเราใส่สีตัวอักษรเป็นสีแดง มันก็เหมือนกับเรากำลัง ..โกรธ ไม่พอใจแล้วนะ. และ ถ้าใช้เป็นตัวอักษรตัวโตๆสีแดง ก็เหมือนตะโกนใส่ราวๆว่า

โกรธแล้วนะยะเธอ ​

แบบนี้ละคะ

 

ศิลามณีก็เห็นด้วยคะ ไม่ต้องให้มารับรู้อะไร เพราะมันจะพาลผิดใจไปเปล่าๆ นะคะ ความเห็นไม่ตรงกัน พูดๆอธิบายมากๆเดี๋ยวก็จะเกิดความระแวง

ของศิลามณีก็ให้คุณพ่อท่าน เข้าใจว่าไปปฏิบัติธรรม ส่วนเงินทำบุญก็ไม่ให้รับทราบเหมือนกันคะ......ศิลามณีว่าจะไปปฏิบัติธรรมช่วงเดือนธันวาคม นะคะ ไป 7 วัน วันที่ 20-27 ธันวาคม ที่สถานปฏิบัติธรรมตาณังเลณัง เพื่อนแนะนำไปนะคะ