เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

Discussion in 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' started by พี เสาวภา, Apr 7, 2008.

  1. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Nov 6, 2009
    Messages:
    1,916
    Ratings:
    +9,458
    ก่อนที่คุณลูกจะขอใช้คอมต่อ ขอลงข้อความดีๆมาให้อ่านกันครับ....

    บทความที่นำมาเสนอจากหนังสือเรื่อง Don't Sweat the Small Stuff แต่งโดย
    Richard Carlson
    ผู้แต่งเชื่อว่านิสัยเกิดจากการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า
    นิสัยเหล่านี้จะเกิดขึ้นเองตามสภาวะธรรมชาติและเกิดขึ้นบ่อยครั้งเสียจนเราไม่รู้สึกว่าเป็นสิ่งผิดปกติหรือเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข
    แต่หารู้ไม่ว่านิสัยที่ไม่ดีของเราเหล่านี้จะเป็นตัวบั่นทอนพลังชีวิต
    ทำให้เราหมดกำลังใจ และทำให้เราเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ดังนั้น
    ผู้แต่งจึงชี้ให้เห็นถึงนิสัยที่ไม่ดีและมิจฉาทิฏฐิที่ควรแก้ไข ดังนี้

    1. ความคิดที่ว่าเมื่อประสบปัญหาต้องรีบแก้ไขทันที
    ในช่วงที่ประสบปัญหาจิตใจจะวกวนสับสน เครียด อึดอัด มึนงง
    เศร้าสลดหดหู่ไม่ควรที่จะขบคิดแก้ไขปัญหาใด ๆ เพราะยิ่งคิดยิ่งมึนงง
    มองไม่เห็นทางออก หรือถ้าคิดออกความคิดที่ได้ก็ไม่เฉียบคม
    วิธีแก้ หยุดคิด ทำใจให้สบาย ๆ ปล่อยวาง เมื่อจิตใจสงบจึงค่อยเริ่มแก้ไขปัญหา
    แก้ไขปัญหาที่พอจะแก้ไขได้ก่อน
    ปัญหาที่รุนแรงและเรื้อรังยากที่จะแก้ไขได้โดยทันที ก็ให้ค่อย ๆ
    แก้ไขไปทีละเปลาะสองเปลาะ เมื่อปัญหาลดน้อยลงจะทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น
    ปัญหาที่ยากย่อมต้องใช้เวลา ความพยายาม ความอดทน และความต่อเนื่องเป็นธรรมดา

    จงยอมรับความเป็นจริงทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเรา
    คิดถึงเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น(Worst case scenario)
    แล้วทำใจยอมรับให้ได้ เมื่อนั้นจิตใจจะสงบ
    และในความเป็นจริงมันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่เราคิดไว้ก็ได้
    จะทำให้เรายิ่งมีกำลังใจที่จะขบคิดแก้ไขปัญหาต่อไป

    2. หงุดหงิดรำคาญใจ ทุกสิ่งทุกอย่างขัดหูขัดตาไปหมด ไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลย
    บุคคลที่มีความคิดประเภทนี้จะมีจิตใจคับแคบ ไม่รู้จักให้อภัยผู้อื่น
    เอาตนเองเป็นที่ตั้ง ชี้ถูกชี้ผิดอยู่ตลอดเวลา
    นิดหนึ่งก็ไม่ได้นิดหนึ่งก็ไม่ยอม จิตใจร้อนรุ่ม หาความสุขไม่ได้
    ไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรืออยากทำงานด้วย มีศัตรูเต็มไปหมด
    สุขภาพเสื่อมโทรมโรคภัยรุมเร้าเพราะมีความเครียดอยู่ตลอดเวลา
    วิธีแก้รู้จักปล่อยวางเสียบ้าง ในโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
    ไม่มีใครสามารถทำตามใจเราได้ทุกอย่าง
    ทำอะไรก็ตามให้อยู่ในระดับกลาง ๆ พอดี ๆ ไม่ต้องสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง
    พูดจาให้นุ่มนวลอ่อนหวาน สบาย ๆ ไม่ต้องเอาเป็นเอาตาย
    เอาจริงเอาจังไปเสียทุกเรื่อง

    3. บ้างาน คิดว่าตนเองมีงานล้นมือ
    ทุกอย่างมีแต่ความรีบเร่งจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง
    คนที่รีบเร่งทำงานหลาย ๆ อย่างแต่ทำไม่เสร็จซักอย่าง งานส่วนใหญ่มักจะไม่มีสาระ
    ไม่สำคัญ ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นเพราะการรีบเร่งทำงานอยู่ตลอดเวลาจิตจะไม่ว่าง
    กิริยาจะร้อนรน ขาดสติสัมปชัญญะ
    ขาดความระมัดระวังทำให้ไม่รู้ตัวว่าตนกำลังทำสิ่งที่ไร้สาระอยู่
    เมื่อพลังงานส่วนใหญ่สูญเสียไปกับการทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
    งานที่ออกมาก็ไม่มีประสิทธิภาพ
    เมื่อโดนตำหนิก็เกิดความเครียดทำให้ต้องรีบสร้างผลงานมากขึ้นเพื่อชดเชยความผิด
    แต่ยิ่งรีบก็ยิ่งผิด วนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์ไม่มีที่สิ้นสุด

    วิธีแก้เลือกทำในสิ่งที่สอดคล้องกับเป้าหมายในชีวิตถามตนเองว่าสิ่งที่กำลังทำ
    กำลังพูด และกำลังคิดอยู่นี้จะทำให้เรามีความสุขขึ้น เป็นคนดีมากขึ้น
    มีสติปัญญามากขึ้น และมีเงินทองมากขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่ก็ให้ตัดทิ้งเสียเช่น
    การนินทาว่าร้ายเจ้านาย เป็นต้น ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะสิ่งต่าง ๆ
    ที่ทำในปัจจุบันจะส่งผลไปยังอนาคตอย่างแน่นอน ให้บอกตนเองเสมอว่า
    ในโลกนี้มีงานต่าง ๆ อีกมากมายทำเท่าไรก็ทำไม่หมดหรอก
    ทำแต่สิ่งที่สำคัญเท่านั้นก็พอ ให้ตระหนักถึงสัจธรรมที่ว่า
    ถึงแม้ว่าเราจะจากโลกนี้ไป โลกมันก็ยังคงดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องมีตัวเรา
    อย่าสำคัญตัวเองมากนัก หยุดทำงานทุกอย่าง นั่งสงบนิ่งดูลมหายใจ (อาณาปาณสติ)
    สัก 15 นาที เจริญมรณานุสติโดยการคิดว่าถ้าจะต้องตายในอีก 7 วันข้างหน้า
    เราอยากทำสิ่งใดมากที่สุด
    (แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับบุคคลที่เป็นโทสะจริตเพราะมีมรณานุสติเป็นอารมณ์อยู่แล้ว)

    4. คิดเอาตนเองเป็นใหญ่และคิดอาฆาตแค้นพยาบาทคนอยู่ตลอดเวลา
    ความคิดนี้เป็นความคิดในแง่ลบ (Negative thinking) ซึ่งเป็นตัวบั่นทอนพลังชีวิต
    ทำให้เราเป็นคนย้ำคิดย้ำทำและเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายโดยที่เราไม่รู้ตัว การกระทำ
    คำพูดและแววตาจะแสดงออกมาด้วยความก้าวร้าวรุนแรง
    วิธีแก้ให้ระมัดระวังความคิดในแง่ลบ
    เมื่อมีความคิดเหล่านี้โผล่ขึ้นมาเองไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องคิดต่อ
    ให้เปลี่ยนเรื่องคิดทันที
    ให้หันมาคิดในแง่บวกแทนซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เกิดเองตามธรรมชาติจะต้องสร้างขึ้นมา
    ทำใจยอมรับว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความคิดที่เป็นอกุศลเช่น ความอิจฉาริษยา
    ความอาฆาตพยาบาท ความมีอัตตาตัวตน และความยึดมั่นถือมั่น เป็นต้น
    ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้รวมทั้งตัวเราเอง ทุกคนเท่าเทียมกันหมด
    เราจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปตัดสินผู้อื่นว่าถูกหรือผิด
    หากเรายอมรับความเป็นจริงในข้อนี้ได้
    เราจะรู้จักให้อภัยผู้อื่นและให้อภัยตัวเอง รู้จักสำรวมคำพูดและการกระทำมากขึ้น
    พยายามประคับประคองความคิดที่ดีให้อยู่นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    5. คิดดูถูกผู้อื่น และชี้ถูกชี้ผิดอยู่ตลอดเวลา
    ความคิดเหล่านี้จะทำให้เรามีจิตใจคับแคบ ไม่มีเมตตาต่อผู้อื่น
    มีความเครียดเป็นอาจิณ วิธีแก้เอาใจเขามาใส่ใจเรา เลิกเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
    หัดเข้าใจความคิดและอารมณ์ของผู้อื่นว่าทำไมเขาถึงพูดหรือทำเช่นนั้น
    และถ้าเราอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา เราอาจจะทำแบบเดียวกับเขาก็ได้ เป็นต้น
    ยอมรับว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่คิดเหมือนกับเรา ดังนั้น
    การมีความคิดที่ขัดแย้งกันย่อมเป็นเรื่องธรรมดา
    ไม่มีใครถูกใครผิดหัดฟังมากกว่าพูด สักแต่รู้สักแต่เห็น
    รับรู้ทุกอย่างแต่อย่าคิดต่อ
    ไม่ต้องหาเหตุหาผลไปซะทุกเรื่องพิจารณาอารมณ์ของตนเองว่าในขณะนี้เราสุข ทุกข์
    หรือเฉย ๆ เพื่อหยุดความคิดซึ่งป็นบ่อเกิดแห่งอัตตาตัวกูของกู

    6. คิดเอาชนะผู้อื่น
    การโต้เถียงเอาชนะผู้อื่นเพียงเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นถูกต้องเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช้เหตุ
    และยังเป็นการสร้างศัตรูโดยที่เราไม่รู้ตัว

    วิธีแก้พูดเท่าที่จำเป็นพูดแต่สิ่งที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์
    รู้จักปล่อยวางเสียบ้าง หัดฟังมากกว่าพูด และเอาใจเขามาใส่ใจเรา
    พยายามประคับประคองจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ
    หลีกเลี่ยงการโต้เถียงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

    7. คิดทวงบุญคุณจากผู้อื่น
    การทวงบุญคุณจะทำให้จิตใจคับแคบ เต็มไปด้วยความอึดอัด ไม่พอใจ ลังเลสงสัย
    จิตใจสกปรกขุ่นมัวเพราะเป็นการทำดีเพื่อหวังผลตอบแทน
    วิธีแก้ ช่วยเหลือโดยไม่ต้องคำนึงถึงผู้ให้ในที่นี้คือตัวเรานั่นเอง
    ควรให้เพราะอยากช่วยเหลือไม่ต้องมีตัวเขาเราท่าน
    ช่วยเหลือโดยไม่ต้องคำนึงถึงผู้รับ
    คนไหนพอช่วยได้ให้ช่วยไปเลยไม่ต้องจำกัดว่าช่วยเพราะเป็นญาติเรา
    หรือช่วยเพราะเขาทำดีกับเรา เป็นต้น ช่วยแล้วหันหลังกลับ ไม่หวังผลตอบแทน

    8. คิดกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
    การคิดวิตกกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงจะทำให้จิตใจว้าวุ่น สับสน
    เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จิตใจล่องลอยไม่อยู่กับปัจจุบัน
    วิธีแก้ รู้เนื้อรู้ตัวว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำแล้วเกิดผลอะไร
    ทำวันนี้ให้ดีที่สุด คิดโกรธเกลียดหมั่นไส้ผู้อื่น ความโกรธ เกลียด รำคาญ
    และไม่ชอบหน้าบุคคลที่เคยทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจเป็นนิสัยที่เกิดได้กับมนุษย์ทุกคน
    แต่เมื่อมีความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นในจิตใจเราควรระมัดระวังไม่ให้แสดงออกมาทางสีหน้า
    แววตา น้ำเสียง และการกระทำ นอกจากนั้น เราควรมองบุคคลเหล่านั้นในแง่บวกเช่น
    คนที่ตำหนิติเตียนเรานั้นอาจจะกำลังสอนให้เรารู้จักทำงานให้เป็นระเบียบมากขึ้น
    หรือคนนินทาว่าร้ายเรานั้นอาจจะกำลังสอนให้เรารู้จักวางตัว พูดเท่าที่จำเป็น
    เพราะเขารู้เรื่องของเราหมดจึงเอาไปคุยกันจนสนุกปาก เป็นต้น

    9. คิดน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง
    การคิดน้อยใจในชะตากรรมของตัวเองเช่น เกิดมายากจน รูปร่างไม่ดี หน้าตาไม่สวย
    เรียนหนังสือไม่เก่ง หรือทำอะไรก็สู้เขาไม่ได้ เป็นต้น
    การคิดเช่นนี้นอกจากจะเป็นการบั่นทอนกำลังใจตัวเองแล้วยังทำให้ชีวิตจมปลักไม่ก้าวหน้าไปไหน
    เพราะมัวแต่ย้ำคิดย้ำทำแต่สิ่งเดิม ๆ

    วิธีแก้ จงพอใจในสิ่งที่ตนมี และอย่าคิดเปรียบเทียบกับคนอื่น
    ระลึกและจดจำในสิ่งดี ๆ ที่เราได้รับจากคนรอบข้าง
    รู้จักและยอมรับตนเองทั้งจุดเด่นและจุดด้อย
    พัฒนาและใช้จุดเด่นของเราให้เป็นประโยชน์และปรับปรุงจุดด้อยหรือหาสิ่งอื่นมาทดแทน
    เรียนรู้จากประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต
    ลืมอดีตที่ขมขื่นเพื่อทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คิดในแง่บวก
    และพยายามประคับประคองจิตใจให้ผ่องใสอยู่ตลอดเวลา

    10. นิสัยมองโลกในแง่ร้ายและคิดว่ามนุษย์ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัว
    การคิดเช่นนี้จะยิ่งเป็นการตอกย้ำความคิดในแง่ลบให้มากขึ้นเป็นทวีคูณ
    มองความจริงไม่ตรงตามความเป็นจริง ปัญหาเล็ก ๆ
    ก็ตีโพยตีพายจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต จิตใจคับแคบ
    หาความสุขไม่ได้เพราะจะคอยจับผิดผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา
    วิธีแก้คิดถึงประสบการณ์ดี ๆ ที่เราได้รับจากคนรอบข้างเช่น
    คิดถึงบุคคลที่มีบุญคุณหรือมีน้ำใจกับเรา เป็นต้นพยายามมองโลกในแง่บวก
    อย่าปล่อยให้จิตมันคิดเอง

    11. คิดว่าโลกนี้มีแต่ปัญหาเต็มไปหมด แก้เท่าไรก็ไม่หมดเสียที
    การคิดเช่นนี้นอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้วรังแต่จะเป็นตัวบ่อนทำลายกำลังใจของเราเองเสียอีก
    วิธีแก้ ให้มองปัญหาเสมือนด่านทดสอบความอดทน ตัวฝึกฝนทักษะในการแก้ปัญหา
    และเป็นแหล่งปัญญาที่หาไม่ได้จากในหนังสือ
    มองปัญหาในแง่บวกว่ามันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าก่อนที่ความหายนะจะเกิดขึ้นก็ได้
    ปัญหาทำให้เราเห็นข้อบกพร่องที่เราอาจจะมองข้ามไป
    มองปัญหาเป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์ทุกคนต้องประสบ อันไหนพอแก้ได้ก็ทำไปก่อน
    คิดในแง่บวกและตั้งจิตว่าจะประคับประคองจิตใจให้ผ่องใสอยู่ตลอดเวลา

    12. คิดว่าเราเก่งกว่าผู้อื่น ฉลาดกว่าผู้อื่น หรือร่ำรวยกว่าผู้อื่น
    ความคิดเช่นนี้จะส่งผลให้พฤติกรรมที่แสดงออกมาเต็มไปด้วยความหยิ่งยะโสโอหัง
    อวดดี ถือตัว มองผู้อื่นด้วยสายตาดูถูกดูแคลน วาจาจะรุนแรงและสามหาว
    บุคคลรอบข้างจะรังเกียจ หมั่นไส้ และอิจฉาริษยา
    ซึ่งเป็นการสร้างศัตรูโดยไม่รู้ตัว
    วิธีแก้ ระมัดระวังคำพูด ความคิด และการกระทำ
    ต้องมีสติรู้เนื้อรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา หัดมองตัวเอง เลิกเปรียบเทียบกับผู้อื่น
    อยากวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น

    13. การด่าทอ เหน็บแนม ประชดประชัน และวิพากษ์วิจารณ์
    เป็นอกุศลวาจาที่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับผู้อื่น
    ซึ่งเป็นการสร้างศัตรูโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนั้น
    ความคิดเหล่านี้ยังเป็นที่มาของความโกรธ ความเกลียด
    และความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจมนุษย์อีกด้วย

    วิธีแก้ คิดก่อนพูดและไม่ต้องพูดทุกอย่างที่เราคิด
    ถ้าพูดแล้วไม่สร้างสรรค์นิ่งเสียจะดีกว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา
    ในโลกนี้ไม่มีใครชอบถูกวิพากษ์วิจารณ์แม้แต่ตัวเราเอง
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 17
    • List
  2. G.sis.t

    G.sis.t เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 31, 2007
    Messages:
    2,321
    Ratings:
    +11,307
    ให้อาจารย์ท่านเมตตาครับ...แหะๆ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 12
    • List
  3. SomeO

    SomeO เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    May 5, 2010
    Messages:
    478
    Ratings:
    +1,476
    ผมคงต้องหามาใช้บ้างแล้วละ เมือวันอังคารไปพรีเซ้นสัมนามาอย่างว่าแหละนะผมแปลอังกฤษไม่เก่งแต่ต้องแปลงานวิจัยที่เป็นภาษาอังกฤษมาพรีให้ อ. ฟัง ผมก็ยังงงเลย อ.จะไม่งงได้ไงจริงมะ ที่แรกก็ใจหายนะอ.ไม่พูดอะไรเลย ผลก็คือซ้อม แต่ไม่โดนว่ามากอะไรนัก มีประสบการณ์แบบนี้คงต้องหามาใช้บ้างแล้วละ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 14
    • List
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    Joined:
    Feb 21, 2008
    Messages:
    38,045
    Ratings:
    +146,350

    มีอนาคต........................
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 12
    • List
  5. ชาวประมง

    ชาวประมง เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jan 19, 2009
    Messages:
    4,657
    Ratings:
    +22,539
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรง หลวงปู่บุญศรี หลวงปู่อั๊บ และคณาจารย์ทุกท่านครับ

    สวัสดีครับทุกท่านยามเช้า

    ยินดีกับน้องตั้นที่นำเสนองานแล้วผ่าน แต่ต้องพยายามต่อไปนะครับ เวลาอีก 3 ปีกว่า ยังมีอะไรที่รอเราอยู่อีกเยอะสำหรับการเรียน
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List
  6. นายGEET

    นายGEET เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Feb 14, 2010
    Messages:
    486
    Ratings:
    +4,153
    <!-- google_ad_section_start -->กราบ กราบ กราบหลวงพ่อกุ่ม หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List
  7. G.sis.t

    G.sis.t เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 31, 2007
    Messages:
    2,321
    Ratings:
    +11,307
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง ครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 8
    • List
  8. gim

    gim เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Mar 9, 2010
    Messages:
    513
    Ratings:
    +2,398
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ<!-- google_ad_section_end -->
    สวัสดี พี่พี พี่น้องบ้านเหรียญบินทุกๆท่านครับ
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 7
    • List
  9. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Mar 18, 2005
    Messages:
    2,501
    Ratings:
    +12,861
    กราบๆ ๆ หลวงพ่อทรง สวัสดีครับพี่น้องบ้านเหรียญบิน สมาชิกยังอุ่นหนาฝาคั่ง อบอุ่นเหมือนเดิม
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 6
    • List
  10. พฤศจิกา

    พฤศจิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jun 19, 2010
    Messages:
    660
    Ratings:
    +3,046
    สวัสดีครับพี่พีผมก็เพิ่งรู้จักหลวงพ่อทรงหลังจากหลวงพ่อทรงท่านมรณะแล้วครับและได้ความรู้จากกระทู้ของพี่ พีครับแต่ยังอ่านไม่หมดครับ และอยากขอคำแนะนำเรี่องพระผงจันทร์ลอยของหลวงพ่อทรงครับว่าแบบไหนแรงกว่ากันครับ ระหว่างสีเทากับสีขาวครับขอบคุณมากครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 8
    • List
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    Joined:
    Feb 21, 2008
    Messages:
    38,045
    Ratings:
    +146,350

    ต้องถามคนสร้างน่ะครับ

    อยู่กระทู้วัดมะนาวหวานครับ ลองไปถามดูน่ะครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 13
    • List
  12. G.sis.t

    G.sis.t เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 31, 2007
    Messages:
    2,321
    Ratings:
    +11,307
    จะ 600,000 คลิกแล้วครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 12
    • List
  13. beleive

    beleive เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jan 19, 2009
    Messages:
    1,149
    Ratings:
    +3,410
    สวัสดีครับอาจารย์พี.....
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 12
    • List
  14. Suppasit_S

    Suppasit_S เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jun 22, 2010
    Messages:
    1,147
    Ratings:
    +3,869
    กราบนมัสการหลวงพ่อทรง และสวัสดีทุกท่านครับ

    ยังติดตามอยู่เสมอนะครับ แม้จะไม่ได้โพสต์ ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 11
    • List
  15. moo noi

    moo noi เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Mar 20, 2009
    Messages:
    6,328
    Ratings:
    +23,902
    กราบหลวงพ่อทรงยามเย็น

    แดดร่มแล้ว เมฆฝนเริ่มตั้งเค้ามาเลย...
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List
  16. SomeO

    SomeO เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    May 5, 2010
    Messages:
    478
    Ratings:
    +1,476
    กราบหลวงปู่ทรงครับ
    สวัสดีพี่น้องบ้านเหรียญบินทุกท่านครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List
  17. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    May 7, 2009
    Messages:
    7,130
    Ratings:
    +16,098
    มีของวิเศษฯอยู่๑ชิ้นครับ แต่ไม่น่าทันหลวงพ่อซำท่านปลุกเสกครับ

    เซียนวิเศษฯพอจะทราบใหมครับว่าครูบาอาจารย์ท่านใดปลุกเสกครับ
    [​IMG]
    [​IMG]
     

    Attached Files:

    • ถูกใจ ถูกใจ x 12
    • List
  18. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Mar 28, 2008
    Messages:
    4,193
    Ratings:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
    ยินดีกับสมาชิกที่นำเสนองานผ่าฉลุยด้วยนะครับ ชีวิตในวัยเรียนเป็นช่วงที่ต้องตักตวงทุกอย่าง ทั้งเรื่องเรียน เล่น เที่ยว เพราะหลังจากจบแล้วมีงานทำเรื่องเล่น เรื่องเที่ยว จะหาโอกาสได้น้อยลงครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List
  19. G.sis.t

    G.sis.t เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 31, 2007
    Messages:
    2,321
    Ratings:
    +11,307
    เดี๋ยวนี้บ้านเราเงียบๆ พี่พี คงงานยุ่ง สู้ๆนะครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 11
    • List
  20. Maestro

    Maestro เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    May 3, 2010
    Messages:
    676
    Ratings:
    +2,411
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง ครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List

Share This Page

Loading...