'สุมโน ภิกขุ' พระฝรั่งศิษย์หลวงพ่อชา ทิ้งชีวิตที่หรูหรา สู่วิถีแห่งความสันโดษ

Discussion in 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' started by aprin, Jan 4, 2011.

Tags: Add Tags
  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Oct 18, 2005
    Messages:
    7,492
    Featured Threads:
    1
    Ratings:
    +22,514
    [​IMG][​IMG]



    เป็นระยะเวลา 30 กว่าปีแล้วที่พระอาจารย์ สุมโน ภิกขุ พระฝรั่ง อดีตชาวเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยสุขสบายในชีวิตฆราวาส แล้วหันเหตัวเองสู่เส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เพื่อดำเนินชีวิตในวิถีทางที่สันโดษและเรียบง่าย ภายใต้ร่มเงาของพระพุทธศาสนา

    สิ่งที่ทำให้อดีตนักศึกษาด้านกฎหมายและนักธุรกิจด้านตีราคาที่ดินทั้งของรัฐและเอกชน ผู้เคยใช้ชีวิตระดับไฮคลาส เดินทางไปต่างประเทศด้วยเครื่องบินชั้นธุรกิจ (Business Class) พักแต่โรงแรมระดับห้าดาว และมีเงินเหลือเฟือพอที่จะเที่ยวรอบโลก ได้ตัดสินใจทิ้งชีวิตที่หลายคนพยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะไปให้ถึง เหตุเพราะเช้าวันหนึ่งเขาลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับความรู้สึกที่ว่าชีวิตช่างน่าเบื่อ ไม่มีอะไรที่ทำให้ต้องตื่นเต้นอีกต่อไปแล้ว

    พระอาจารย์ สุมโน ซึ่งอดีตเคยนับถือศาสนายิว บอกเล่าว่า รู้จักพระพุทธศาสนาครั้งแรกเมื่อตอนที่กำลังศึกษา อยู่ในชั้นมัธยมปลาย ด้วยความที่มีนิสัยเป็นคนชอบอ่านหนังสือและแสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลา กระทั่งวันหนึ่งจึงได้ไปเจอหนังสือบางเล่มที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาวางอยู่บนโต๊ะในห้องสมุด

    แรกเริ่มพระอาจารย์ให้ความสนใจเรื่องการนำหลักการฝึกสมาธิของทางพระพุทธศาสนามาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาตัวเองมากกว่า ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาศึกษาศาสนาหลายศาสนาและหลายนิกาย โดยเคยเข้าคอร์สที่มีการอบรมด้านพระพุทธศาสนาอยู่หลายคอร์ส และใช้เวลาปลีกวิเวกอยู่แต่ในห้องโดยไม่ไปไหนเลย เป็นเวลานาน 2-3 ปี

    ในวัย 32 ปี เมื่อได้ทิ้งชีวิตการเป็นนักธุรกิจแล้ว และเริ่มมีใจลึกซึ้งในพระพุทธศาสนา พระอาจารย์เห็นว่า การฝึกสมาธิอย่างเดียวช่วยอะไรได้น้อยมาก จึงมีความสนใจ อยากจะศึกษาพระพุทธศาสนาให้มากขึ้น แต่เวลานั้นยังไม่ได้มีความคิดที่จะบวช
    ช่วงเวลาที่ท่านกำลังจะเดินทางไปศึกษาพระพุทธศาสนาที่ประเทศอินเดียนั้น ระหว่างทางได้ไปแวะที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพราะเพื่อนของพระอาจารย์ได้แนะนำให้รู้จักวัดแห่งหนึ่งที่นี่ ซึ่งเมื่อสมัยที่ท่านไปเยือนครั้งแรกนั้นยังไม่ได้เป็นวัด แต่ต่อมาได้กลายมาเป็น วัดจิตตวิเวก (วัดป่าสาขาวัดป่าหนองป่าพงแห่งแรกในประเทศอังกฤษ) ที่ช่วงเวลานั้นมี พระสุเมธาจารย์ หรือท่านสุเมโธภิกขุ เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เมื่อเริ่มแรกตั้ง วัดในพ.ศ. 2522

    พระอาจารย์ยังจำได้ว่า ทุกๆเย็น จะต้องนั่งรถลีมูซีนคันหรู พื่อไปสวดมนต์ที่วัด ก่อนจะตัดสินใจนุ่งขาวห่มขาวอยู่นานถึงสามปี จึงทำให้ความตั้งใจที่จะไปอินเดียในครั้งนั้นเป็นอันต้องล้มเลิก และในที่สุดจึงตัดสินใจบวชเมื่ออายุได้ 35 ปี

    นอกจากวัดจิตตวิเวก พระอาจารย์ได้มีส่วนร่วมในการสร้างวัดอีกแห่ง คือ วัดอมราวดี แต่ด้วยสเกลที่มีขนาดใหญ่ ต้องใช้เวลาในการสร้างนาน จึงไม่อยากใช้เวลาให้หมดไปกับการเป็นช่าง แต่อยากศึกษาหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนามากกว่า

    วันหนึ่งเมื่อเดินทางสู่ประเทศไทย ทำให้พระอาจารย์มีได้มีโอกาสแวะเวียนไปกราบไหว้ และเรียนรู้ธรรมะจากพระชื่อดังหลายรูปในประเทศไทย อาทิ ท่านพุทธทาสภิกขุ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงพ่อพุธ ฐานิโย และ หลวงพ่อชา สุภัทโท

    โดยเฉพาะหลวงพ่อชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ที่พระอาจารย์รู้สึกเลื่อมใสศรัทธามากเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะเคยบวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดสาขาของท่านที่อังกฤษ พระอาจารย์จึงไม่รีรอที่จะเดินทางสู่ภาคอีสาน ไปยังที่พำนักของหลวงพ่อชา เพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์



    [​IMG][​IMG]


    สิ่งที่พระอาจารย์ได้เรียนรู้จากหลวงพ่อชาและรู้สึกประทับใจคือ

    “ในทัศนะของหลวงพ่อ พระอาจารย์ชาเป็นพระที่มีจิตบริสุทธิ์มาก และสามารถระลึกรู้ในสิ่งต่างๆได้โดยไม่ต้องคิด ทำให้หลวงพ่อรู้สึกว่าทึ่ง

    มันจะมีคำว่าดี ถูกต้อง และความเหมาะสมใช่ไหม เวลาที่เราต้องเผชิญกับอะไรสักอย่าง เรามักจะคิดก่อนว่าต้องทำอย่างไรดี ทำอย่างไรถึงจะถูก พอเป็นอย่างนั้นมันจะเกิดการคิด เพราะเราต้องคิดถึงว่า ค่านิยม กาลเทศะ กับบุคคลเหล่านี้เราต้องทำอย่างไร พอมันเกิดการคิด มันต้องคำนึงถึงอดีต ไม่ใช่ปัจจุบันขณะแล้ว เราจึงคิดตัดสิน ว่าเราต้องทำอย่างไรจากสิ่งที่เราเคยได้ยินเคยได้เห็น แต่พระอาจารย์ชาท่านไม่ได้เป็นอย่างนั้น การแก้ปัญหาของท่านเป็นการรู้จากปัจจุบันขณะและใช้คำว่าเหมาะสม”

    เมื่อหลวงพ่อชามรณภาพ พระอาจารย์จึงออกธุดงค์ไปตามพื้นที่ต่างๆทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ กระทั่งสุดท้ายได้เลือกพำนักอยู่ที่ สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำสองตา ในเขตพื้นที่เขาใหญ่ หลังจากที่เคยธุดงค์ไปพบเพียงแค่คืนเดียว ด้วยเห็นว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะต่อการปฏิบัติ การเดินทางเข้าออกค่อนข้างลำบาก แม้แต่รถยนต์ ก็เข้าไม่ได้ จึงทำให้ปลอดความวุ่นวายจากสิ่งต่างๆ นับ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมากว่า 20 ปีแล้ว

    “ตอนนี้แก่แล้ว ไปที่ไหนไม่ได้แล้ว” พระอาจารย์บอก เล่าด้วยอารมณ์ขันเมื่อถูกตั้งคำถามว่าทำไมจึงเลิกธุดงค์และเลือกสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำสองตาเป็นที่พำนักสุดท้ายของชีวิต

    วัตรปฏิบัติของพระอาจารย์ที่สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ทุกวันจะต้องตื่นจากจำวัดตอนตีสี่ เพื่อนั่งสมาธิ อ่านหนังสือ เดินจงกรม และฟังธรรมะ แม้แต่ในยามที่ย่ำเท้าไปบนถนนสายเล็กๆที่ทุรกันดารสู่หมู่บ้าน เพื่อไปบิณฑบาต ระหว่างทางก็ยังต้องอาศัยฟังธรรมบรรยายผ่านเครื่องเล่น MP3

    ลูกศิษย์บางคนที่ใกล้ชิดพระอาจารย์บอกเล่าว่า

    “แม้หลวงพ่อจะมีความลึกซึ้งในหลักธรรมจนสามารถนำมาสอนผู้อื่นได้แล้ว แต่หลวงพ่อก็ยังต้องฟังธรรมบรรยายจากพระรูปต่างๆ เพื่อนำมาสอนผู้คนอยู่ และน้อยครั้งมากที่หลวงพ่อจะเดินทางเข้าเมือง ขนาดหมอนิมนต์ให้มาทำฟัน ท่านก็ยังไม่มา”

    แต่พระอาจารย์สุมโนได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการเขียนหนังสือ เพราะเห็นว่า หน้าที่หนึ่งของพระคือการสืบทอดพระพุทธศาสนาและเผยแพร่หลักธรรมไปสู่ผู้คนให้มากที่สุด ที่ผ่านมานอกจากท่านจะมีผลงานแปลธรรมเทศนาของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงพ่อพุธ ฐานิโย และหลวงพ่อชา สุภัทโท แล้ว ยังมีผลงานเขียนชื่อ ธรรมะจากพระภูเขา (Monk in the Mountain) จิตที่สว่างไสว (The Brightened Mind) และ พบลิงแค่ครึ่งทาง (Meeting the Monkey Halfway) โดยเป้าหมายที่เหมือนกันของผลงานเขียนทั้งสามเล่มคือ ต้องการสอนให้ผู้คนรู้จักการเจริญสติ รู้จักการใช้ปัญญา เพราะถ้าคนเราไม่มีปัญญา มีแต่ตัวตนเกิดขึ้น ก็จะเกิดความเห็นแก่ตัว

    ส่วนเหตุที่ควรต้อง “พบลิงแค่ครึ่งทาง” ผลงานเขียนเล่มล่าสุดของพระอาจารย์ ซึ่งแปลและเรียบเรียงโดย อานุภาพ ทัดพิทักษ์กุล และจัดพิมพ์โดย บริษัท ฟรีมายด์ พับลิชชิ่ง จำกัด ได้บอกเอาไว้ว่า

    ในปรัชญาธรรมอันเก่าแก่ของเอเชียตะวันออก ลิงถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของจิตที่มีลักษณะไม่อยู่นิ่ง ยุกยิก คอยกระโดดจากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง ไม่เชื่อฟัง ผันแปรเปลี่ยนแปลงง่าย และด้วย “จิตที่เหมือนลิง” นี้ แนวทางการฝึกฝนจิตของโลกตะวันออก อาทิ การปฏิบัติกรรมฐาน โยคะ และการสวดท่องมนต์ ก็เป็นวิธีการต่างๆที่พยายาม จัดการกับจิตที่ซุกซน

    “ครึ่งทาง” หมายถึงอุบายอันชาญฉลาดในการบริหารจิต เป็นวิธีที่ไม่ตึงหรือแข็งกระด้างจนเกินไป และก็ไม่หย่อนยานจนเกินไป “ครึ่งทาง” เป็นทัศนคติที่ตั้งอยู่บนหลักการของความสมดุลเป็นกลาง ไม่ถูกกระทบโดยอาการไม่อยู่นิ่งของจิตที่กระโดดไปกระโดดมา

    “การพบ” แสดงออกถึงความอุตสาหะที่จะบรรลุเป้าหมาย มันหมายถึงความตั้งใจและความกระตือรือร้นในการทำจิตซึ่งเป็นสิ่งที่สงบได้ยาก ให้เกิดความตั้งมั่นและเป็นกลาง และด้วยความพยายามที่มุ่งมั่นนี้ ประกอบกับความพากเพียร ซื่อตรง ภายใต้การกำกับดูแลของปัญญา ทำให้เราสามารถเข้าถึงการเจริญในธรรมที่นำไปสู่หนทางอันถูกต้อง เพื่อที่เราจะได้ “พบลิงที่ครึ่งทาง” นั่นเอง

    ในวันที่พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ เดินทางออกจากสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำสองตา เพื่อมาบรรยายธรรมและเปิดตัวผลงานเขียน “พบลิงแค่ครึ่งทาง” ณ สวนโมกข์ กรุงเทพฯ หลังจากที่ละทิ้งความสุขทางโลกมา 30 กว่าปี พระอาจารย์ซึ่งตอนนี้พูดภาษาไทยภาคกลางได้มากแล้ว (แต่เว้าอีสานได้ชัดกว่า) ได้บอกถึงความแท้จริงในทัศนะของพระอาจารย์ให้ผู้คนได้ฟังว่า

    “ถ้าไม่มีความอยาก จะได้รับความสุขทันทีเลย”

    แล้วเราจะระงับซึ่งความอยาก ด้วยวิธีการอย่างไรบ้าง ? พระอาจารย์ได้กล่าวต่อไปว่า


    [​IMG]



    “ให้รู้ว่าความอยากมีแต่ความทุกข์ มากกว่าความสุข เพราะถ้าเรามีความอยาก เราก็ต้องไปดิ้นรนไปหาไปทำมา ตอนที่เรากำลังหากำลังทำอยู่ เรามีความสุข อย่างเช่นการ สะสมเงิน เพราะอยากจะได้แหวนเพชรสักวง ตอนที่ใกล้จะได้มา เรารู้สึกดีใจ พอไปที่ร้านถอยมันมาได้ ความสุขก็จบแล้ว เพราะช่วงเวลาที่เราอยากได้มันหมดไปแล้ว ทีนี้ก็จะดิ้นรนไปอยากได้อย่างอื่นต่อ”

    และเมื่อถูกถามว่า ถ้าโลกนี้ไม่มีความอยาก มีแต่การปล่อยวาง โลกจะไม่หยุดพัฒนา หยุดการเจริญรุดหน้าหรืออย่างไร พระอาจารย์ตอบว่า

    “เคยมีคนถามหลวงพ่อว่า ถ้าทุกคนบวชเป็นพระกันหมด โลกนี้จะพัฒนาไปอย่างไร หลวงพ่อบอกว่าไม่ต้องห่วง มีคนที่สมัครใจบวชเป็นพระ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน เหมือนกับที่ไม่ใช่ทุกคนที่อยากเป็นช่างเสริมสวย(หัวเราะ)

    และในความเห็นของหลวงพ่อ โลกนี้ไม่ต้องเจริญ อีสานที่หลวงพ่อเคยอยู่ มีคนบอกว่าความเจริญเป็นสิ่งดี โอ้.. อยากให้เมืองนี้เจริญ วารินชำราบเจริญ อุบลฯ เจริญ แต่หลวงพ่อคิดว่า ความเจริญไม่ใช่สิ่งดีเสมอไป เพราะถ้าเจริญแบบไม่มีปัญญาก็จะมีปัญหามากขึ้น อย่างเมืองไทยเจริญขึ้น แต่ความสุขกลับน้อยลงตลอด ไม่เหมือนประเทศภูฏาน ประเทศเขาไม่เจริญ แต่มีความสุข”

    แม้พระอาจารย์จะเป็นตัวอย่างหนึ่งของชาวต่างชาติจากประเทศตะวันตก ที่เดินทางมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศตะวันออก เรียนรู้และศึกษาจิตวิญญาณตะวันออก โดยเฉพาะพระพุทธศาสนา แต่พระอาจารย์ก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่า ตนเองเป็นหนึ่งในคนตะวันตกจำนวนมากที่หันมาสนใจจิตวิญญาณตะวันออก เพราะอาจจะเป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อยก็ได้ หรือแม้แต่เวลานี้ก็ตาม ถามว่าคนตะวันตกสนใจจิตวิญญาณตะวันออกมากขึ้นหรือไม่ พระอาจารย์ก็ไม่อาจทราบได้ เพราะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศตะวันตกมานานแล้ว

    “หลวงพ่อไม่ได้อยู่ในประเทศตะวันตกมาสามสิบกว่าปีแล้ว หลวงพ่อรู้แต่ว่าเมื่อก่อนคนตะวันตกอยากมาเมืองไทยเพราะสนใจในประเพณีวัฒนธรรม เป็นแบ็คแพ็คเกอร์มาเที่ยว หรือนั่งเครื่องบินไปเที่ยวทะเล เที่ยวเกาะสมุยโน่น แต่ไม่ค่อยมีใครมาวัด มาอีสาน มีแต่มาเอาอย่างเดียว ไม่มีใครอยากให้อะไร”

    หลายปีที่ผ่านมา อาจทำให้พระอาจารย์รู้จักประเทศไทย และเห็นความเป็นไปของประเทศไทยในหลายๆด้าน แต่พระอาจารย์ก็ออกตัวว่า ไม่อยากจะวิพากษ์วิจารณ์ประเทศไทยหรือคนไทยมากเท่าใดนัก มีเพียงบางสิ่งที่ทำให้รู้สึกเป็นห่วงคนไทยคือ มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่กำลังตกอยู่ในวังวนของความอยากและการโฆษณา ชวนเชื่อ ที่ทำให้รู้สึกว่าชีวิตนี้ยังไม่พอ และยังไม่ดีพอเสียที

    “ทุกคนอยากมีรถคันใหม่ อยากมีโทรศัพท์ อยากมีโน่นอยากมีนี่ มีความอยากไปในทางโลกเสียมากกว่า และการโฆษณาก็ทำให้พวกเขาคิดว่าชีวิตฉันยังไม่พอ และรู้สึกว่าฉันยังไม่ดีพอ ฉันต้องรวยให้มากกว่านี้ หรือฉันต้องสวย ต้องขาวให้มากกว่านี้”

    ปี พ.ศ.2553 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ประเทศไทยต้องประสบ กับปัญหาภัยธรรมชาติเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเพราะมนุษย์นี่เองที่เป็นฝ่ายเบียดเบียนธรรมชาติ ซึ่งพระอาจารย์ได้แนะวิธีที่จะช่วยให้เราเบียดเบียนธรรมชาติให้น้อยที่สุดว่า

    “ต้องรักษาศีลห้าก่อน เพราะถ้าไม่รักษาศีลห้า เราก็จะเป็นฝ่ายเบียดเบียนธรรมชาติ ปัญหาที่อยากแก้ก็จะไม่สามารถแก้ได้ และอยากให้ทุกคนมีสมาธิ เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะทำให้จิตใจของเราสบาย มีความอยากน้อยลง มีสติ แล้วปัญญาก็จะเกิดขึ้น

    ถ้าเราไม่มีปัญญา เราก็จะไม่เข้าใจอดีต และทำในสิ่งที่ ผิดพลาดเหมือนเดิมไปตลอด เหมือนเราเคยเสียใจ เพราะอกหักจากผู้ชายคนนี้ ถ้าเราไม่ใช้ปัญญาทำความเข้าใจว่าทำไม เราก็จะอกหักได้อีกเรื่อยๆ ดังนั้น ปัญญาช่วยให้เรา สามารถพิจารณาได้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว

    จริงๆแล้วจิตเดิมของมนุษย์นั้นประภัสสร นั่นคือบริสุทธิ์ รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่เพราะว่าจิตของเรารับอะไรเข้ามาเยอะ กิเลสมันเลยเข้ามาทำให้จิตใจเราขุ่นมัว เราก็เลยไม่มีปัญญาพอที่จะมองเห็นเหตุของปัญหา แต่ไปหลงและยึดเอาค่านิยมภายนอกมากกว่า ภัยธรรมชาติ ที่มันเกิด มันเป็นเพราะความอยากของเราที่มันไปเป็นตัวเบียดเบียนธรรมชาติ ถ้าเราไม่อยากเบียดเบียนธรรมชาติ เราต้องถามตัวเราเองก่อนว่า เราพร้อมที่จะเสีย สละไหม เช่น ถ้าเราไม่มีโรงงานนิวเคลียร์ เราก็จะไม่มีไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงานนิวเคลียร์มาใช้นะ

    ทุกวันนี้เราพึ่งพาไฟฟ้าเพราะอะไร เพราะเราต้องการความสะดวกสบาย เวลาเราเบื่อ แทนที่เราจะนั่งสมาธิ เราต้องเปิดไฟ ดูทีวี หรือ อ่านหนังสือ ตอบสนองตัวเองด้วย สิ่งบันเทิง แต่ถ้าเราพยายามอยู่กับตัวเองให้ได้บ้าง บางครั้ง สิ่งบันเทิงเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น เมื่อเราไม่ได้เปิดไฟ ใช้ มันน้อยลง เราก็จะเบียดเบียนธรรมชาติน้อยลงไปด้วย”

    ดังนั้นพรปีใหม่ที่พระอาจารย์อยากมอบคนไทย ไม่มีอะไรที่มากกว่าการลดความอยาก เพื่อความสุขที่แท้และใช้ปัญญาแก้ไขปัญหา

    “เพราะปัญญาเท่านั้นที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากตัวเราเอง”

    (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 122 มกราคม 2554 โดย พรพิมล)

    Dhamma and Life - Manager Online
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 184
    • List
  2. อวิชานาคา

    อวิชานาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Feb 8, 2009
    Messages:
    268
    Ratings:
    +345
    อนุโมทนาสาธุ ท่านเป็นตัวอย่างที่ดี และน่ายกย่องเป็นที่สุด ขอกราบท่านด้วยความปิติยินดี ที่ท่านได้พบกับธรรมที่แท้จริง
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 33
    • List
  3. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Aug 14, 2007
    Messages:
    3,427
    Ratings:
    +13,560
    ท่านเคยเล่าให้ฟัง่า หลวงพ่อชา เคยกล่าวถึงท่านว่า ในบรรดาพระฝรั่งไม่มีเกิดท่าน สุมโน หลวงพ่อพุธ กล่าวว่า พระแท้ พระจริง
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 35
    • List
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    Joined:
    Jul 14, 2010
    Messages:
    53,455
    Featured Threads:
    170
    Ratings:
    +33,096
    อนุโมทนาสาธุขอบคุณจขกทสําหรับเรื่องดีๆที่ควรเป็นตัวอย่างและเตือนใจคนไทยหลายแง่มุมค่ะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 19
    • List
  5. Mekumori

    Mekumori สมาชิก

    Joined:
    Dec 18, 2010
    Messages:
    3
    Ratings:
    +15
    ห่างไกลกันหมื่นลี้มีวาสนาได้พบพาน
    ไกล้กันแค่ย่างก้าวกับหมางเมิน
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 15
    • List
  6. pimapinya

    pimapinya เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 7, 2010
    Messages:
    883
    Ratings:
    +2,044
    อ่านแล้วได้กำลังใจ(ที่มันโงนเงน ง่อนแง่น) กลับคืนมาอีกเยอะเลยค่ะ

    ขอบคุณ และขออนุโมทนาสาธุค่ะ[​IMG]
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 22
    • List
  7. jedsadaphol

    jedsadaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Nov 19, 2010
    Messages:
    67
    Ratings:
    +102
    กรรมอะไรที่ส่งผลให้ท่านต้องพลัดพรากไปเกิดในประเทศที่ไม่มีพระพุทธศาสนา ในตอนแรกนะอยากรู้จัง
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 13
    • List
  8. nao7310

    nao7310 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Nov 8, 2005
    Messages:
    258
    Ratings:
    +931
    สาธุ สุดยอดจริงๆ ใช่เลยค่ะ ทุกวันนี้คนเรามีแต่ความอยากจึงทำให้เกิดการเบียดเบียน ถ้าหยุดความอยาก ความเบียดเบียนก็ลดหายไป โดนใจมากๆ ขอบคุณ จขกท ที่นำเรื่องดีๆ มาฝากกันค่ะ ;41
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 14
    • List
  9. อัสนี

    อัสนี เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Oct 26, 2009
    Messages:
    1,401
    Ratings:
    +3,567
    อ่านแล้วปิติเกิดเลย จริงอย่างที่ท่านกล่าวคนไทยกำลังหลงไม่ว่าจะเป็น รัก โลภะ โกรธ หลง จึงทำให้เกิดความวุ่นวาย อยู่ทุกวันนี้ ขออนุโมทนาสาธุด้วยน่ะครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 15
    • List
  10. ธรรมชาติมีพอเพียง

    ธรรมชาติมีพอเพียง Active Member

    Joined:
    Nov 11, 2008
    Messages:
    58
    Ratings:
    +86
    ต้องอนุโมทนาบุญกับท่านผู้ปฏิบัติดีเนาะ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำเสนอด้วยนะ
    หลักการของพุทธศาสนาคือ เรียนรู้ ฝึกฝน พัฒนา เพื่อให้รู้ว่าแท้จริงเราสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้ เมื่อเราทำได้ศึกษาจนรู้และพัฒนาตัวเองได้แล้ว คนอื่นก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว พุทธศาสนาสอนให้เราดูใจและกายเราเท่านั้น ไม่ต้องคอยเฝ้ามองแล้วนึกคิดฯลฯเกี่ยวกับผู้อื่นเลย(ขณะปฏิบัติ) สุดท้ายจะไม่มีเราแล้วจะทำทุกอย่างด้วยความเป็นกลางถูกต้องตามธรรม ไม่มีอัตตานั่นเอง
    ขอให้มีความสุขเจริญพร
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 18
    • List
  11. tontan759

    tontan759 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Nov 5, 2007
    Messages:
    146
    Ratings:
    +147
    “เพราะปัญญาเท่านั้นที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากตัวเราเอง”
    สาธุอนุโมทามิ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 17
    • List
  12. akojang

    akojang เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Mar 19, 2010
    Messages:
    122
    Ratings:
    +132
    กราบพระคุณเจ้า เจ้าค่ะ...
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 11
    • List
  13. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Oct 19, 2007
    Messages:
    11,698
    Ratings:
    +21,186
    <TABLE cellPadding=6 width=490><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 9
    • List
  14. Jumpa

    Jumpa Active Member

    Joined:
    Mar 23, 2008
    Messages:
    31
    Ratings:
    +71
    ยินดี และ ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ เพราะ มีคุณหมอชาวสหรัฐ เป็นคนใจดีและสนใจในเรื่องธรรมมะ ฟังบทความของหลวงตาบัว แต่ ด้วยความที่เป็นชาวต่างชาติ ก็ยังมีข้อสงสัย และ ด้วยความเป็นหมอ วิทยาศาสตร์ มักมีคำถามที่เราตอบไม่ได้ ถามแบบไม่ได้ท้าทายนะค่ะ ถามแบบอยากรู้จริง ๆ เรื่องกรรม นี่ตอบยากมาก อยากให้ท่านไปถามพระเอง ส่วนในใจนั้นก็กลัวว่า พระในเมืองไทยตอนนี้มีหลายแบบ ส่วนตัวเองก็ยิ่งไม่รู้เรื่องมากนัก คุณหมออยากไปทางสายป่า ค่ะ ในใจก็ไม่กล้าแนะนำวัดให้ไปลองอยู่ ลองศึกษา ตอนนี้เหมือนเห็นทางเลยค่ะ

    รบกวนถาม เพื่อนสมาชิกด้วยนะค่ะ ว่า ต้องทำอย่างไร และ ติดต่อยังไงดีค่ะ ถ้าต้องการไปอยู่ที่วัดสักสองสามวัน หรือ ถ้าต้องการถามเรื่องธรรมมะเป็นภาษาอังกฤษ จะพอมีหนทางไหนติดต่อท่านได้ไหมค่ะ ต้องขอขอบพระคุณล่วงหน้า ค่ะ บุญรักษาทุกท่านค่ะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 15
    • List
  15. ohake999

    ohake999 ศีล สมาธิ ปัญญา

    Joined:
    May 22, 2006
    Messages:
    136
    Ratings:
    +256
    อ่านแล้วก็ชอบมากๆๆเลยท่านเองไม่ยึดติดในสมบัติเลย กลับมองหาความสุขที่แท้จิง เห้นความสุขจากความพอดีความว่างในใจ ขออนุโมทนา สาธุนะคับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 15
    • List
  16. เพลงเพลิง

    เพลงเพลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Oct 22, 2008
    Messages:
    160
    Ratings:
    +476
    อนุโมทนาครับ หากมีวาสนาคงมีโอกาสได้กราบพระอาจารย์สักครั้ง
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 11
    • List
  17. สมพิศเปรม

    สมพิศเปรม เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Oct 28, 2010
    Messages:
    181
    Ratings:
    +361
    เราช่างมีบุญหนอที่ได้เกิดมาใต้ร่มเงา พระพุทธศาสนา ซึ่งมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเอกของบรมครู ชาวต่างชาติยังมาศึกษาเพื่อหลุดพ้น สาธุ สาธุ...
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List
  18. Santajitto

    Santajitto เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 29, 2010
    Messages:
    263
    Ratings:
    +455
    โมทนาสาธุครับ ...
    จะตะวันตก ตะวันออก สุดท้ายก็ธรรมตัวเดียวกัน ที่ทำให้พ้นทุกข์
    "ถ้ามนุษย์ทุกคน ลดความอยากลงมาบ้าง ความสุขก็อยู่ไม่ไกล "
    วลีนี้เป็นของเที่ยง
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 7
    • List
  19. toyhonda

    toyhonda เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Mar 9, 2010
    Messages:
    542
    Ratings:
    +1,782
    อนุโมทนา กับทางสว่างที่ท่านได้แนะนำมาและชี้แนวทางให้ค่ะ เป็นคำสอนที่มีคุณค่ามากจริงๆ สาธุ สาธุ สาธุ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 6
    • List
  20. ณัฐธัญพงษ์

    ณัฐธัญพงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Nov 1, 2010
    Messages:
    61
    Ratings:
    +237
    ขออนุโมทนาด้วยครับ ได้แง่คิดกับชีวิตอีกมากครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 5
    • List

Share This Page

Loading...