คำถามหลักนะครับทะเลาะกับแม่บ่อยมากไปทำกรรมอะไรมาครับ ---------------------------------------------------------------------- นี้จะเป็นการอธิบายเชิงระบายอารมณ์ด้วยครับมันเลยเยอะไปหน่อย ครอบครัวผมมีอยู่ด้วยกัน 4 คน(ปัจจุบัน) แม่ พี่ หลาน ตัวผมเอง ผมพูดจริงๆเลยผมไม่ค่อยอยากจะคุยกับในครอบครัวเลยยกเว้นกับหลาน เวลาพี่สาวนี้เดินผ่านกับผม(ในบ้าน)ทั้งผมทั้งพี่สาวทำเหมือนคนไม่รุ้จักกันเดินผ่านอะ สาเหตุเพราะไม่อยากจะคุยกันไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกันไม่รุจะคุยไปทำไมคุยแล้วอึดอัด กับพี่สาวนี้ไม่ค่อยจะทะเลาะกันเวลาทะเลาะกันก็แปปเดียวก็จบ แต่เเม่นี้สิครับ นี้เป็นฉนวนของการทะเลาะทุกเรื่องครับ เรื่องคอมพิวเตอร์ครับ เพราะเค้าใช้ไม่เป็นเลย พื้นฐานไม่ได้เลยครับทั้งการเปิดเครื่องวิธีการจับเม้าและอะไรๆอีกหลายอย่าง ผมเห็นเเม่ทำอะไรไม่ได้เลย ผมพูดว่า "แม่เดี๋ยวผมไหนซันเข้าตลาดเดี๋ยวซื้อหนังสือพื้นฐานการใช้งานมาให้ไหม" แม่พูดว่า "ไม่ต้องหรอกเปลืองเงินหน่ะ ลูกก็สอนๆแม่ไปก็ได้"ขณะนั้นกำลังทำงานword พอผมสอนแม่ว่าต้องกดตัวนี้ๆนะ พอนานเข้าแม่ตอบสวนมาว่า "เอาเหอะๆเร็วๆเข้า!!" ผม "เอ้าซะงั้นอะ งั้นเดี๋ยวผมทำให้ละกัน" พอทำไปได้สักพัก เเม่อยากทำเองอีกละ แม่เลยบอกว่า "ไหนต้องกดตัวไหนมั้ง บอกมาทีละขั้นตอนเลยนะ" ผมก็บอกทีละขั้นตอนๆไป พอผมบอกว่าแม่คลิ๊กที่นะปุ่มนนี้นะ แม่สวนมาว่า "บอกๆแล้วเเม่จะรู้ไหม!!" ผมพูดว่า "เดี๋ยวผมเขียนเป็นขึ้นตอนให้ละกันนะ" ผมเขียนไปทั้งหมด 7 แผ่น A4ครลทุกขึ้นตอนการใช้งานพื้นฐานของ word 2007 พอเขียนให้เเม่กลับไม่ดูเลย พอเเม่ไม่อ่านก็ให้ผมมาสอน ผมสอนไปได้แปปเดียวแม่พูดว่า "สอนก็ไม่รู้เรื่องแล้วยังงี้จะไปสอนเด็กได้ยังไง"(ผมเรียนคุรุศาสตร์คอมพิวเตอร์) ผมเลยพูดว่า "โห่แม่ทำไมพูดงี้อะ ก็เเม่ไม่เข้าใจเองอะ" แม่ "แล้วทำไมไม่อธิบายให้เข้าใจละสอนแบบนี้จะเป็นครูได้ยังไงสอนแบบนี้" ผม "เอ้าแม่ไม่เข้าใจพื้นฐานการใช้งานมันอะ พอผมจะซื้อพื้นการใช้งานให้เเต่เเม่ไม่เอา ซันจะสอนให้ก็ไม่เอา เขียนขั้นตอนให้ก็อ่านไม่ลองทำตาม พอสอนๆไปก็อยากให้รวบพอสอนแบบรวบๆไปแม่ก็บอกว่าทำไมไม่เอาเป็นตอนไปละพอเอาเป็นขั้นตอนแม่ก็ไม่เข้าใจหาว่าสอนไม่รุเรื่องหาว่าผมพูดทำเป็นอวดฉลาด ทั้งๆที่ผมบอกชื่อแต่ละปุ่มไปเเต่เเม่ก็ไม่รุจัก ถ้าซันสอนเด็กแล้วรู้เด็กมันไม่เปนอะไรเลยซันก็จะสอนพื้นฐานให้เด็กมันรู้เบื้องต้นก่อนแล้วค่อยเจาะลึกเข้า เเต่เเม่อะไม่อยากรู้เกี่ยวกับพื้นฐานแต่อยากรู้อะไรที่มันยากกว่านั้นเเม่ก็เลยไม่เข้าใจ สมมุตินะถ้าแม่นั้บ1-10 ยังๆเเม่ก็ต้องเลข1ก่อนอยู่ดี แม่คงไม่นับ5,6,7...ก่อนหรอก ทุกๆอย่างถ้าคนเราอยากใช้อะไรอยากจะทำอะไรมันก็เริ่มจากพื้นฐานกันทั้งนั้น เวลาซื้อของใช้อะไรมันยังมีคู่มือพื้นฐานมาให้เราศึกษาก่อนเลย แต่เเม่ละ เเม่เลือกที่จะไม่ศึกษาพื้นฐานก่อนเวลาซันอธิบายอะไรไปบอกชื่อปุ่มอะไรไปเเม่ถึงไม่เข้าใจไง" หลังจากที่ผมบ่นเสร็จ พอแม่ผมเริ่มบ่นผมกลับทุกๆครั้งจะบ่นเรื่องของการเป็นเเม่ตลอดประมาณว่าที่แม่ให้กำเนิดผมเลี้ยงดูผมมาจนโตส่งเรียน พูดเเต่เรื่องบุญคุณตัวเองตลอดและก็พูดไปยั้นนถึงอนาคตอีกเวรกรรมอีกเเช่งอีกอะไรอีก ไม่ได้เกี่ยวกับสาเหตุที่ทะเลาะกันเลย ผมเจอเเม่ผมบ่นแบบนี้ผมเองก็ไปไม่ถูกครับไปยั้นเรื่องอนาคตผมนี้โดนแม่แช่งตลอดที่ทะเลาะกัน ผมเเค่ออกความคิดเห็นมั้งเเต่ไม่เคยยอมรับอะไรเลยถึงได้ทะเลาะกันไง ผมไปทำกรรมอะไรมาถึงเจอแบบนี้แม่ผมเค้าบอกว่าแต่ก่อนไม่เคยเถียงแม่ตัวเองเลย
so sorry this happen to you, keep pray and claim down..try to control your emotion....she is the good case for you to be good teacher....because she doesn't want to admid that she is not understand and also want to learn in short cut..and shine to let you know that she is hard to follow the new technology that's why she be that way. Forgive and forget then keep continue to help her...same as the time that she train you to grow up. I hope things will getting better between you and your family.
อยากขอให้คุณใจเย็นลงหน่อยครับท่านเป็นมารดาของเรา ลองหัดนั่งสมาธิวันละห้านาทีหน้าจะได้ผล เมือก่อนผมก็เกเรใจร้อนมองหน้าก็ตีกันแล้ว หลังจากหัดนั้งสมาธิ ก็ใจเย็นผมยังอยากจะบวชด้วยซ้ำครับ)
เรียนมาสายครุศาสตร์ ผมเดาว่าท่านน่าจะมีความรู้จิตวิทยาเบื้องต้นด้วยใช่ไหมครับ ผมแนะนำให้ปฏิบัติคู่กันไป ทั้งทางจิตวิทยา และ ทางพุทธศาสนานะครับ เข้าวัด ทำบุญ ถือศีล ทำใจให้บริสุทธิ์ และนั่งสมาธิช่วงสั้นๆ อุทิศบุญให้คุณแม่เยอะๆ ถ้าทางจิตวิทยายังไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไร ถามเพิ่มได้ครับ
คือเด็กสมัยนี้ (อายุประมาณ 2- 30 ปี) เกิดมาก็มีโอกาสได้เห็น ได้เล่น computer กันแล้ว เรียกว่าหลับตาก็ทำเป็น แป้นไม่ต้องมีตัวอัษร ยังKey ได้เร็วเป็นจรวจ ในขณะที่คนเป็นแม่ เขาอาจจะต้องคอยทำกับข้าว หาอาหาร ซักผ้า ล้างจาน ทำงานบ้าน หรือทำงานหาเงินไปด้วย (ในขณะที่ลูกก็นั่งเล่นคอมไป) และตอนที่รุ่น พ่อ แม่ เป็นเด็กเขาก็ยังไม่เคยได้มีโอกาสจับ com ก็เลยดูเป็นเรื่องที่ยากและไม่คุ้นเคย สำหรับบางคน ก็อาจจะไม่เข้าใจกันไง และอาจจะผ่านวัยที่จะมาเรียนพื้นฐานอะไรมากมาย แต่ถ้าเขามีโอกาส มีเวลา มานั่งจิ้มคอมบ่อยๆ เดี๋ยวก็เป็นเอง เป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่ง อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมซื้อคอมให้เเม่มาใช้เเล้ว พร้อมหนังสือด้วย ผมก็บอกเเม่ไปว่าถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็อ่านดูเลยเเม่ต้องลองทำดูมันง่ายนะทำไปเรื่อยๆเดี๋ยวเเม่เป็นเอง วันนี้เพิ่งไปเวียนเทียนกะเเม่มีความสุขมากๆ^^
ผมเคยเป็นเหมือนคุณ thesun333 เหมือนกัน ตอนแรกๆหงุดหงิดมาก ไม่ได้ดั่งใจ ต้องใช้เวลาปรับตัวครับ บางครั้งถ้างานของแม่เร่งด่วน ผมก็ทำให้เลย ถ้างานไม่เร่ง ถึงขั้นต้องให้ผมบอกทีละคำ อย่างเช่น เลื่อนเมาส์ไปตรงนี้ คลิกซ้ายสองครั้ง อักษรตัวนี้อยู่ตรงนี้ ปุ่มนี้ใช้อย่างนี้ ปุ่มนั้นอย่าเพิ่งไปสนใจมัน เดี๋ยวนี้แม่ผมก็ทำเป็นแล้ว แต่ยังไม่คล่องตัว
ขออนุญาติเสนอเป็นแนวทางปฏิบัตินะคะ เมื่อก่อนก็ประสบแบบนี้เหมือนกัน แต่ด้วยความเราเป็นลูกท่านเป็นผู้ใช้กำเนิด ไม่ว่าท่านจะเป็นอย่างไรถูกหรือผิดก็ตาม ท่านก็ยังคือพระอรหันต์ของลูก ด้วยความที่เราก็นะไม่อยากตกนรก นรกมันน่ากลัวมันทรมานจริงๆ คนที่ทำไม่ดีกับพ่อแม่แม้จะยังไม่ตายตอนมีชีวิตอยู่ก็จะทำอะไรไม่ขึ้นชีวิตจะมีอุปสรรคปัญหาคนพาลมากมายกายกองมาตลอด เราคิดว่า ไม่เอาๆๆ กลัวไม่คุ้มเลยกับการไปเถียงไปทะเลาะเพื่อเอาความสะใจแค่ไม่กี่นาทีไปแล้ว เราเลยเอาใหม่เวลาเริ่มมีปากเสียงอย่างแรกเม้มปากเลย (บอกตัวเองไว้ว่าอย่าพูดนะไอ้ปากพร่อยถ้าไม่อยากเดือดร้อนทั้งในชาตินี้และชาติหน้า) นี่คิดอย่างนี้ความกลัวตกนรกเห็นภาพตัวเองลำบากในนรกปรกกฎทันที ไอ้อารมณ์อยากจะเถียงอยากจะโต้ตอบหายไปฉับพลัน ที่เหลือแห่งความเงียบภายในใจขออโหสิกรรมต่อท่านเลย น้อมจิตให้นึกถึงพระภาวนาเลยไม่ว่าลูกเคยทำอะไรที่เป็นกรรมไม่ดีไม่ว่าจะเป็นทั้งทางวจีกรรม มโนกรรม หรือกายกรรมทั้งหมดทั้งมวลไม่ว่าชาติไหนๆ ก็ตาม ตอนนี้ลูกได้รู้ซึ่งผลกรรมเหล่านั้นแล้ว รู้ได้รับผลกรรมซึ่งเหล่านั้นแล้ว ลูกไม่ขอปรารถนาให้เวรกรรมเหล่านี้มาเกิดขึ้นกับดวงจิตของลูกทั้งในชาตินี้และชาติหน้า นี่ทำแบบนี้ให้ได้บ่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ ระหว่างที่เราภาวนาแบบนี้หูก็ไม่มีเวลาที่จะไปสนใจอะไรภายนอกมากนัก เพราะเรากำลังกำหนดคุยกับตัวเราเองอยู่ สรุปคือเราก็ไม่ได้เถียงหรือทะเลาะอะไรกับท่านกลับกลายเป็นเรากำลังขอขมาท่านด้วยดวงจิตของเราอยู่ พยายามทำอย่างนี้ให้ได้ทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้น ทำบ่อยๆ เวลาสวดมนต์หรือทำอะไรก็แผ่เมตตาให้บุพการีของตัวเองด้วย ยึดท่านให้เป็นพระ บอกได้เลยไม่เกิน 3 เดือน ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ (ปล.อย่างนี้ทำกับคนที่เราเกลีัยดหรือเป็นศัตรูกับเราก็ได้นะ ได้ผลเหมือนกัน (ยกเว้นกรณีอาฆาตกันรุนแรง))
"นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา" ความกตัญญูกตเวทีเป็นนิมิตหมายของคนดี อย่างไรเสีย! ท่านก็เป็นผู้ให้ชีวิตเรา เราเป็นหนี้ชีวิตท่านนะครับ คิดได้ดังนี้ ลูกที่ดี ควรทำในสิ่งที่ท่านพึงพอใจ เหตุผลต้องมาก่อนอารมณ์เสมอ "ชนะผู้น้อย ด้วยการให้" "ชนะผู้ใหญ่ ด้วยการอ่อนน้อมถ่อมตน" ลองนำไปพิจารณาดู ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ควรแยกระหว่าง อกุศลจิตที่เป็นโทสะ กับ วิบาก ทีเ่ป็นผลของกรรม ครับ ผล ของกรรม ที่เป็นวิบาก คือ ขณะที่เห็น ได้ยิน ไ้ด้กลิ่น ลิ้มรส รู้กระทบสัมผัส เป็นวิบาก ผลของกรรม แต่ขณะที่ทะเลาะ ด้วยอกุศลจิตที่เป็นความโกรธ ไม่ใช่ ผลของกรรมแล้ว เป็นอกุศลจิต ที่สะสมมา เป็นกิเลสนั่นเองครับ เชิญคลิกกระทู้ที่เกี่ยวข้อง เรื่องการทะเลาะ ครับ เคยทะเลาะกับพ่อ แต่ได้ขออโหสิกรรมแล้ว
อนุโมทนา สาธุ ครับ ขอให้ทำดีไว้มากๆ ครับ แล้วทั้งตัวท่าน และ คุณแม่ของท่านจะค่อยๆ เปลี่ยนไป ชีวิตจะดีขึ้นตามลำดับครับ
เพิ่งเป็นผู้เป็นคนมาก็ 4-5ปี หลังมานี่เอง จนเกือบ 30 ไม่รู้เมื่อก่อนเป็นเพราะ อะไร แม่พูดอะไร จะไม่เข้าหูไปหมด แม่พูดอะไรเป็นเถียง เถียงแบบ เถียงคำไม่ตกฟาก บางทีแรง จนได้แอบร้องไห้กันเลย คิดย้อนหลังแล้วเป็นลูกที่ไม่ได้เรื่องเลย จนกระทั้งได้มาดูคลิป แม่ชีธนพร เหมือนกับว่าท่านสอน ตรงจุด รู้เหตุและผล หรือจะด้วยเหตุที่ว่าเรากับแม่หมดเวรหมดกรรม กันเรื่องทำร้ายจิตใจกันรึเปล่า ไม่รู้ เดี๋ยวนี้จะคิดถึงแม่ตลอด ทำดีกับแม่ตลอด ไม่เคยหงุดหงิดในสิ่งที่แม่พูดอีกแล้ว แปลก ๆ ดี มันหายไปเอง กิริยาหยาบคายกับแม่เมื่อก่อน เดี๋ยวนี้ไม่เป็นเลย อยากจะทำแต่ให้แม่มีความสุข ทุกอย่าง และเดี๋ยวนี้แม่ก็คงมีความสุขกับลูกคนนี้ จากนิสัยเมื่อก่อนมากๆ (เคยถามแม่ว่า เวลาเถียงกันแรงๆ แม่เคยแช่งลูกไหม แม่บอกว่า ไม่เคยแช่ง มีแต่ขอให้ลูกเจริญๆๆ เพราะแม่บอกว่า ถ้าแม่คนไหน สาปแช่งลูกตัวเอง ลูกก็จะเป็นอย่างที่แม่พูดทุกประการ ) ในเมื่อเราย้อนอดีต ที่เราทำไม่ดีไว้ ไม่ได้ ปัจจุบันและอนาคต เราก็ยังทำให้ดี และ ดียิ่งๆ ขึ้นไป ได้ ปล.เราเคยคุยกับแม่เรื่องคอมฯ บอกว่าจะหาข้อมูลทำอาหารอร่อยๆ ให้กิน แม่ทำหน้างง แล้ว บอกว่า เน็ต เนิต มันรู้หมดขนาดนั้นเลยหรอ เราก็อดขำ นิดนิด ในความน่ารัก น่าเอ็นดู ของคนแก่ ไม่ได้ สุดท้ายนี้ หนูรักแม่ ที่สุดเลยจ๊าๆๆๆๆๆ
เมื่อก่อนทะเลาะกับเเม่บ่อยมากเหมือนกัน เจอหน้ากันต้องมีเรื่องให้ทะเลาะ แต่พอเริ่มมีสติมีธรรมะเข้ามาก็รู้สึกใจเย็นเเละไม่ได้ทะเลาะกันแล้ว เพราะเมื่อก่อนเรามัวเเต่มาเอาชนะ แต่ตอนนี้รู้สึกไม่อยากเอาชนะเเล้วก็คิดว่าท่านคงพูดเพื่อหวังดีกับเราจริงๆเพราะไม่มีใครดีกับเราเท่าพ่อเเม่ เเละตัวเราอีกแล้ว