จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

Discussion in 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' started by ภูภู, Apr 6, 2012.

Tags: Add Tags
  1. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Mar 30, 2009
    Messages:
    1,124
    Ratings:
    +25,214
    พี่เพ็ญรอการบ้านคุณรินอยู่นะคะ
    อย่าลืมส่งการบ้านบนกระทู้น๊า
    ไม่มีไรน่ากังวลค่ะ
    จิตอนาคามีแล้วต้องไม่กลัวตาย
    เอ่อ มันเกี่ยวกันป่าวอ่ะ
    ก้าวขึ้นมาเลยค่ะคุณริน
    พวกเราพร้อมแล้ว ลุ้ย!
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 20
    • List
  2. ไทยเบล

    ไทยเบล เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 31, 2011
    Messages:
    28
    Ratings:
    +449
    สวัสดีค่ะ
    10ส.ค.55
    ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าตื่นเต้นเป็นที่สุด เง้อออไม่คิดว่าเราจะต้องมาส่งการบ้านบนกระทู้รวดเร็วเช่นนี้ 3วันมานี้รู้สึกว่าจะเกาะพระ ใด้ค่อนข้างต่อเนื่อง มีแว๊บออกไปฟุ้งบ้างนิดหน่อย แต่จะรู้ตัวเร็วแล้วรีบมาเกาะพระต่อ เห็นภาพพระเปลี่ยนเป็นภาพใสๆตั้งแต่เมื่อคืนขณะที่สวดมนต์อยู่ จนถึงขณะนี้ค่ะ วันนี้ก็มีเท่านี้อ่ะค่ะ

     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 17
    • List
  3. ทิวลิปขาว

    ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Feb 19, 2010
    Messages:
    134
    Ratings:
    +1,555
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยนะคะ
    อ่านกระทู้นี้แล้วแอบปราบเปลื้มใจจัง เนี่ยยังตามอ่านยังไม่ครบเลย
    กระทู้ไปเร็วมาก แต่หล่ะหน้าก็ยาว แต่ไม่หล่ะความพยายามเดี่ยวจะเก็บตกให้ครบ
    เข้ามากระทู้นี้ตอนแรกๆตั้งแต่หน้า หนึ่ง สองสาม ตอนนี้เกือบจะถึงสองร้อยหน้าแล้ว ช่วงนั้นกำลังติดพันศึกษา อ่านธรรมะและแนวการฝึกปฏิบัติ ของท่านหลวง พ่อโพธินันทะ แห่งอาศรมศันติ
    เกี่ยวกับทางสายกลาง โดยการฝึกสังเกตุจิตตัวเอง

    จิตทิวลิปขาว ยังไปไม่ถึงไหน ยัง โง่ๆ งงๆ งู ปลาๆ อยู่หน่ะนะคะสิ่งที่รู้สึกได้ว่าคือจิตไม่ฟุ้งซ่าน หยุดความคิดสับสนวุ่นวายได้ โดยสังเกตุเข้าไปดูที่จิตคิดตรงๆ
    ความคิดหยุดไปเลย

    ขอฝากเนื้อฝากตัว เป็นน้องใหม่ ขอความเมตตาจากท่านครูจิตบุญทุกท่าน และเพื่อนกัลยญามิตร กัลยญาธรรม ทุกท่านด้วยนะคะ
    รู้สึกเป็นบุญมากเลยที่ตามมาอ่านกระทู้นี้อีกครั้ง
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 22
    • List
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Feb 1, 2012
    Messages:
    3,042
    Ratings:
    +56,089
    สวัสดีและยินดีต้อนรับ
    คุณมาถูกทางแล้ว พยายามเรียนรู้ให้ไว
    ว่ากระทู้นี้เขาเน้นเรื่องอะไร
    เน้นแก่น หมายถึง ธรรมปฎิบัติ
    ธรรมปฎิบัติที่นี้ หมายถึง เน้นเรื่องดูจิตตนเองเพียงอย่างเดียว
    เน้นเดินมรรควิธีให้ถูกต้อง(ศีล สมาธิ ปัญญา)+เดินตรง(มรรค ผล นิพพาน)
    แต่ต้องเน้นเรื่องสร้างสติให้มาก ก่อนที่เราจะไปดูจิต
    เพราะถ้าไม่เน้นที่ตัวสติก่อน เราจะไปมุ่งเน้นกันที่จิตเลยนี่ ยากครับ
    ตราบใดที่สติของพวกเราน้อยเกิน เราก็จะยังมองไม่เห็นจิตตนเอง

    แต่ก่อนจะมาปฎิบัติจิตเกาะพระ ขอแนะนำว่า จะต้องรักษาศีล5
    เป็นอย่างต่ำให้ครบริบูรณ์ด้วย
    เพราะถ้าผู้ปฎิบัติละเลยเรื่องศีล(ไม่สนใจศีลตนเอง)
    การปฎิบัติก็จะไม่ค่อยเจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร (ไม่เชื่อลองดูก็ได้)

    สรุปแล้ว เริ่ใเลย แต่ถ้าคิดว่าพร้อมแล้ว การปฎิบัตินั้นรอไม่ได้
    เพราะเรารู้แค่วันเกิดเท่านั้น
    เรื่องจิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากจริงๆ แต่ถ้าใครไม่เข้ามาฝึกกันก็จะไม่รู้
    ว่าจิตนั้นฝึกยากหรือง่าย
    ขอให้ผู้ปฎิบัติสนใจมากๆ มีความเพียรมากๆ และต้องปฎิบัติให้ต่อเนื่องด้วย
    จิตจะพัฒนาไว จะต้องอาศัยสติตนเองนั้นเกิดบ่อยๆ เนืองๆ
    ฝึกจิตนั้นไม่ยากหรอก แต่จะยากตรงที่จะทำอย่างไรให้จิตของเรานิ่ง
    ตรงนี้แหล่ะ ยาก
    เพราะจิตจะนิ่งก็ต่อเมื่อสติเราเกิดมาก+ต่อเนื่อง
    ผู้มาใหม่ทำตรงนี้กันก่อน ทำมากๆด้วย
    ผู้ปฎิบัติที่เข้ามาฝึกจิตแบบเกาะพระนี้ ขอให้ท่านวางคำภาวนาก่อนนะ
    อย่าทำทีเดียวพร้อมกัน เช่น ทำจิตเกาะพระนี้ ใหม่ๆแค่ส่งจิตไประลึกถึงภาพพระบ่อยๆ
    แต่ถ้าภาพพระไม่ชัดให้ไปหาภาพพระมามองแบบเบาๆ
    เหมือนเวลาเราคิดถึงแฟนปุ๊บ ภาพก็ปรากฎตรงหน้าปั๊บ อะไรประมาณนั้น
    แต่ผู้ปฎิบัติใหม่ๆ ก็ต้องอาศัยตาเปล่าของเรามองไปก่อน
    แต่พอจะจำภาพพระได้แล้ว ต่อไปก็ขอให้ใช้จิตเรามองแทน ฯลฯ

    แต่ถ้าปฎิบัติจิตเกาะพระ เราไม่ต้องใช้คำภาวนาแล้วนะ
    เพราะในขณะที่เราระลึก/นึกถึงพระอยู่นั้น ก็เหมือนเรากำลังภาวนา
    คำภาวนา หรือ ในขณะที่เรากำลังระลึกถึงพระอยู่นั้น
    ต่างก็เป็นอุบายทำให้จิตนิ่ง นั่นเอง
    หรือเราเรียกกันว่า การเจริญสติภาวนา(ทำสมาธิ) นั่นเอง
    นี่แค่เราพูดแค่เรื่องสติ หรือทำให้จิตของตนเองนิ่งเฉยๆนะ
    ตรงนี้พวกเราใช้เวลาปฎิบัติกันยาวนานมาก เพื่อจิตจะนิ่งได้
    พอจิตนิ่ง จิตก็จะเกิดสมาธิ หรือถ้าจิตนิ่งมากๆ ก็เรียกว่า ฌาน
    หลังจากจิตเป็นสมาธิ หรือฌานนี้ ต่อไปเรา(จิต)ก็จะเกิดปัญญา

    นี่ไง ถึงบอกว่าให้ผู้ปฎิบัติเดินมรรคให้ถูก(ศีล สมาธิ ปัญญา)
    เมื่อทำถูกต้องกันแล้ว ต่อไปก็เดินมรรคให้ตรง(มรรค ผล นิพพาน)
    เพราะผู้ปฎิบัติชอบแวะ เช่น ในขณะจิตเป็นสมาธิ หรือจิตเดินฌานลึก
    เมื่อจิตเข้าสู่ความสงบ จิตจะไปรับรู้อะไรต่อมิอะไรมามากมาย
    หรือเราเรียกว่า นิมิต (นิมิตเปรียบเสมือนอาหารหวานของนักภาวนา)
    แค่นี้ก่อน...
    พี่ภูตอบซะยาวเลย ลืมถามไปว่า แต่ถ้าเธออยากปฎิบัติกันจริงๆ
    ขอให้เธอเลือกครูมาหนึ่งคน เพราะเรียนเองนั้น บอกได้คำเดียวว่า ยาก
    พวกเราติดงงกันเยอะ บางท่านไปปฎิบัติมาก็หลายที่ และปฎิบัติมานาน
    แต่ทำไมเข้าไปไม่ถึงกระแสจิต กระแสธรรม
    ตรงนี้นี่ไง พวกครูที่นี่ ท่านผ่านการปฎิบัติดูจิตกันมาอย่างเชี่ยวชาญ
    แต่พวกเราอย่าไปเปรียบเทียบกับฝ่ายสงฆ์นะ เราฝ่ายฆราวาส
    อินทรีย์ไม่แข็งแรงเท่าท่าน เพราะที่นี่เน้นจิตไว+สติมาก+ต่อเนื่อง
    จิตพวกเราจึงเดินอริยมรรคได้ไว
    เพราะจิตเกาะพระนี้ เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน+กสิณ
    จุดเด่นก็เลยทำให้จิตนิ่ง หรือจิตรวมได้ไว

    ขอเอาใจช่วยนะครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 22
    • List
  5. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Feb 1, 2012
    Messages:
    3,042
    Ratings:
    +56,089
    ในที่สุดก็ถึงคิวคุณwain100
    เหมือนเธอกำลังรอคุณหมอจะมาฉีดยาให้เลยนะ เสียวน่ะจิ!
    มาขึ้นเขียงซะดีๆ ครูเพ็ญเตรียมมีดอีโต้แล้ว
    ฮ่าๆ

    แหม๊! เสียดายคุณLinda2009 ยกไวไปหน่อยเดียว
    ถ้าไม่อย่างนั้นนะ จะโดนทั้งไม้ต่างๆ แบบจิตคุณหมอ ฮ่าๆ
    แต่ตอนนี้คุณหมอรอดไปแล้ว ท่านสบายแล้ว นิพพานบนดิน...

    คุณwarin100 เธอไม่ต้องเตรียมอะไรมากหรอก
    ก็แค่ให้หมั่นสร้างสติให้มาก+ต่อเนื่อง
    พยายามฝึกแยกกาย แยกจิตไว้รอเลยนะ อันนี้จะง่าย
    เพราะเข้าใจว่าทุกท่านก็จะไม่ค่อยว่างเว้นจากทางโลกกัน หนีไม่ออก
    แต่ฝึกจิตก็จำเป็น อาจจะจำเป็นมากด้วย
    เพราะฝึกจิตนั้นจะต้องให้จิตเดินต่อเนื่องให้ได้ แต่ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว
    จิตจะเดินช้า จิตจะอืด เป็นต้น
    ขอให้คุณwarin100 เตรียมแค่สติให้มาก+ต่อเนื่องเป็นพิเศษ
    ขยันมากๆ จะได้ยกไว จะได้ไม่เสียเวลามาก
    เมื่อสติมาก โอกาสก็จะตามจิตได้ทัน เมื่อสติตามดูจิตทัน จิตก็จะนิ่ง
    หรือสติก็ตามดู ตามรู้อาการหรืออารมณ์ของจิตได้ทัน
    เธอก็มีการบ้านส่งครูแล้ว
    แต่บางคนว่า ไม่มีการบ้านส่งครู นั่นก็หมายความว่า สติน้อยเกินไป

     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 24
    • List
  6. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    May 1, 2011
    Messages:
    1,075
    Ratings:
    +19,233
    โมทนาสาธุกับคุณลินดา ด้วยครับ ...

    ลินดา ... วาริน แหม ช่างคล้องจองกันจริงๆๆๆ

    คุณวาริน พยายามนะครับ .. สู้ๆๆ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 19
    • List
  7. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    May 1, 2011
    Messages:
    1,075
    Ratings:
    +19,233
    ยินดีต้อนรับครับ .....
    มีอะไรก้อสอบถามได้ครับ
    ครูจิตบุญใจดีทุกคน ...
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 19
    • List
  8. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jun 19, 2011
    Messages:
    1,127
    Ratings:
    +12,745
    โมทนาสาธุการกับคุณลินดาค่ะ
    เสร็จกิจไปซะที เดี๋ยวดัชส่งเมลล์เรื่องการวางกำลังใจไปให้อีกทีค่ะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 20
    • List
  9. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jun 19, 2011
    Messages:
    1,127
    Ratings:
    +12,745
    หายไปลุ้นสามสาวอนาคามีนะสิ เหลืออีกสอง ไม่ยกไม่ได้ไปวัดแน่เลย ชายรองสบายจิตดีนะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 18
    • List
  10. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jun 19, 2011
    Messages:
    1,127
    Ratings:
    +12,745
    55555 ไม่ได้หายไปไหนจ๊ะ รายงานครูเพ็ญตาหลอด
    ไปหนึ่งเหลืออีกสอง แล้วดัชจะไปบำเพ็ญ 7 วัน ชนิด
    แตกเป็นแตกตายเป็นตายเจ้าค่ะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 23
    • List
  11. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jun 19, 2011
    Messages:
    1,127
    Ratings:
    +12,745
    คุณริน ขึ้นมาอยู่บนนี้ตามครูเพ็ญเลยนะ
    เดี๋ยวดัชตามมาตอบด้วย
    แต่เมลล์ไหนไม่อยากลงกระทู้ เอาไปเข้าเมลล์ดัชได้เลยค่ะ
    เดี๋ยวตามตอบไปตามนั้น
    สติค่ะ อย่าลืม เอาให้เข้มที่สุด เกาะพระอย่างเดียวไม่ได้
    ต้องเน้นที่สติด้วย เดี๋ยวมาเข้าคอร์สแยกกายแยกจิตอีกหน่อย
    ผ่านฉลุยค่ะ
    โมทนาสาธุการ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 22
    • List
  12. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    May 1, 2011
    Messages:
    1,075
    Ratings:
    +19,233
    สุขกายสบายจิตดีครับ ....
    ช่วงนี้ช่วยกันลุ้นอนาคามีพรหมกันครับ
    ช่วยทั้งผลัก ทั้งดัน ....
    ในช่วงนี้เราคงต้องใช้พลังเยอะ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 21
    • List
  13. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jan 1, 2012
    Messages:
    4,245
    Ratings:
    +10,252
    ช่วยแนะนำวิธีพิจารณา ความจำ ให้หน่อยครับ
    ขอกราบขอบคุณครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 16
    • List
  14. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    May 1, 2011
    Messages:
    1,075
    Ratings:
    +19,233
    ช่วงนี้คุณวาริน ต้องทำจิตให้นิ่งที่สุดนะครับ อย่า ลน อย่าสั่น ... สบายๆ
    ทำตามที่ครูแนะนำ ...เราทำได้ๆๆๆ

    จิตบุญทุกคนเอาใจช่วยนะครับ ....
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 18
    • List
  15. preechaniy

    preechaniy เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    May 16, 2009
    Messages:
    345
    Ratings:
    +2,356
    ขออนุโมทนาในบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวลด้วยนะครับ สาธุ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 17
    • List
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Feb 1, 2012
    Messages:
    3,042
    Ratings:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=_lNjLIBfOsc&feature=related]ดอกบัวงามเมื่อบำเพ็ญ - YouTube[/ame]

    รูปวาดหรือประติมากรรมทางพุทธศาสนาใช้สีของดอกบัว หมายถึง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์
    ระดับของดอกบัว หมายถึง ระดับภูมิปัญญาคน
    ในทางพุทธ เปรียบมนุษย์ สุดหลากหลาย
    ดุจบัวมาก หลากสี มีให้เห็น
    ดูต่างพันธุ์ ต่างเผ่า เข้าประเด็น
    เปรียบเทียบเป็น เชื้อสาย หลายเหล่ากอ
    ดอกบัวมี สี่ระดับ นับให้เห็น
    เปรียบประเด็น กับปัญญา มนุษย์หนอ
    บ้างในตม จมมิด ติดกับกอ
    บ้างชูช่อ เหนือน้ำ ล้ำปัญญา
    บัวในตม ระทมทุกข์ ทุกเช้าค่ำ
    บัวใต้น้ำ ยังดิ้นรน ปนตัณหา
    บัวเหนือน้ำ กล้ำเกลือก เลือกเวทนา
    บัวบานอ้า อาบแสง แรงนิพพาน
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 24
    • List
  17. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    May 1, 2011
    Messages:
    1,075
    Ratings:
    +19,233
    คุณวัฒ .... เตรียมจิตดีๆนะ
    เราจะขึ้นกระทู้มั่งดีไหมครับ

    ของคุณก้อแก่เต็มทีแล้วนะครับ ....
    พยายามนะครับ

    ช่วงนี้ รายงานถี่ๆเลยนะครับ
    เอาให้ละเอียดที่สุด ....

    ช่วงนี้จิตบุญฝ่ายหญิง ... ชุดต่อไป จิตบุญฝ่ายชายนะครับ คุณเอิ้น คุณวัฒ คุณปรีชา ....

    มาครับ ... กลับบ้านด้วยกัน

    ท่่านพ่อรอยู่ครับ .... สาธุ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 24
    • List
  18. ่jarunee

    ่jarunee เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Apr 26, 2012
    Messages:
    118
    Ratings:
    +1,917
    คุณริน สู้ๆนะคะ ส่งพลังใจและพลังบุญให้คุณรินยกจิตไวๆคะ
    ว่างๆ กลางๆ เบาๆ สบายๆ และ อย่าอยาก ตามที่ครูวิทย์แนะนำคะ

    chearr chearr chearr
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 17
    • List
  19. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Apr 27, 2012
    Messages:
    413
    Ratings:
    +8,932
    โมทนาสาธุครับ.. กับคำถามท่านUncleGee 
    "ความจำ" ในขันธ์5ของเรานี้ก็คือ"สัญญา" หรือเรื่องราว"ในอดีต"ที่ขันธ์นี้ยังคงจดจำได้ (คือเรามีสมองก็เหมือนเมมโมรี่ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ตราบที่ยังมีไฟฟ้าเลี้ยงมันอยู่มันก็จะยังพอจดจำได้ เว้นแต่ไฟดับหรือตาย ความทรงจำก็หายไป คนละส่วนกับ"จิตรู้"นะครับ อีอันนี้จะจดจำไปข้ามภพข้ามชาติเลย) ไม่ว่าจะเป็นความรู้วิชาการใดๆ หรือความทรงจำเรื่องราวในอดีตทั้งสุข ทุกข์ เฉย มันก็อยู่ในขันธ์5นี้
    หลักการพิจารณาก็คือ การพิจารณาไตรลักษณ์โดยการนำ"ความจำ" เป็นโจทย์
    "ความจำ" เป็น"อนิจจัง" เกิดขึ้นจากเหตุและปัจจัย(คือเราไปรับรู้มามันก็ไปเก็บไว้ที่สมอง)
    "ความจำ" เป็น"ทุกขัง" ไม่สามารถคงทนอยู่ในสภาพเดิมได้ ต้องเสื่อมสลายดับสูญไปตามเหตุปัจจัยเช่นเซลล์สมองเสื่อมลงหรือตายจากไป
    "ความจำ" เป็น"อนัตตา" เมื่อดับสูญไปก็ไม่มีตัวไม่มีตน คงเหลือแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นเอง

    ต่อภาคปัญญา: เมื่อเห็นวงรอบของ"ความจำ"แล้ว สุดท้ายก็เป็นอนัตตา แล้วเราจะไปอะไรกับมันนักหนา.. มันก็เป็นของมันอยู่เช่นนั้นเอง เป็นธรรมดา เป็นไปตามธรรมชาติและท้ายสุดก็เป็นเพียงความว่างเปล่า.. 
    ปัญหาคือ ตอนที่มันยังไม่เสื่อมสลายหายไปนะซิ? แล้วเราจะทำอย่างไรกับมัน?
    ถ้าอย่างนั้นก็อย่าไปจำมันเลยเรื่อราวต่างๆนี่? หรือเรายิ่งอ่านมากยิ่งรู้มากยิ่งจำมาก(ก็เป็นทุกข์มากด้วย)เราก็เป็นพหูสูตร? 
    หรือความทรงจำอันเลวร้ายในอดีต(ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่), ความทรงจำอันดีงามประเสริฐเลิศลำ้สุขโขสโมสร(ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่), ความทรงจำที่แบบเฉยๆซุปเปอร์เฉย(ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่) ตรูไม่อยากจะจดจำมันอีกแล้ว"ขอลืม"ไปให้หมดเลยดีกว่า?

    ท่านทั้งหลาย.. อันความทรงจำน่ะมันก็เป็นธรรมชาติของร่างกายของขันธ์5 (ไม่ว่าจะเรื่องดี-ร้ายอะไรก็แล้วแต่)มันก็แค่จำของมันอยู่ดีๆอยู่แล้ว.. แต่ปัญหาคือว่าอัน"จิต" ของเราดันไปเอาความทรงจำเรื่องนั้นๆออกมาแล้วดันไป"อุปทานสังขาราปรุงแต่งต่อยอดสร้างจินตนาการกันไปเอง".. 
    ถ้าเรื่องดีปรุงแต่งไปแล้ว จิตมันก็เป็น"สุข" ยิ้มกรุ่มกริมในใจ..
    แต่ถ้าเป็นเรื่องร้ายปรุงแต่งไปมา จิตมันก็เป็น"ทุกข์" กินไม่ได้นอนไม่หลับหรือน้อยหน่อยสำหรับนักปฎิบัติ(เช่นคุณUncleGeeและท่านอื่นๆ)มันเหมือนมีเรื่องบางเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจแล้วยังแงะไม่ออก.. แค่ไม่ค่อยสบายใจเล็กๆอยู่ตลอด..
    นั่นเป็นเพราะว่าเราดันไป"ยึดติด" กับสิ่งนั้นๆ..
    การที่เราจะไปพยายาม"ลืม"ความทรงจำนั้น(เปรียบไปก็แค่แก้ปัญหาแบบชั่วคราวเท่านั้น) เราต้องใช้ปัญญาแลเห็นแล้วเข้าใจในสิ่งนั้นๆ จนเราไม่ไปยึดติดถึงจะเรียกว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบถาวร.. 
    การไม่ยึดติด มิได้หมายถึงแต่การปฎิเสธอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงการรับรู้เข้ามาแล้วใช้ปัญญาเข้าพิจารณาแล้วก็วางลง..
    (เราเคยเขียนเรื่อง"การไม่ยึดติด"ไปแล้ว ลองย้อนกลับไปอ่านใหม่ดู..อยู่หน้าไหนจำบ่ได้แล้ว)

    ความจำน่ะ มันไม่ผิดหรอก.. แต่จิตที่ยัง"หลง"อยู่น่ะ มันนั่นแหล่ะที่ผิด! (อวิชชาครอบอยู่เต็มๆ)
    แถมยังไม่รู้ตัวอีก ดันไปโทษคิดว่าเป็นความผิดของความจำที่มันดันจำเอาไว้ในเรื่องที่เรา(จิต) มันไม่อยากจะจำ..

    คนเราทุกคนสามารถอยู่ร่วมกับความจำหรือกิเลสต่างๆได้อย่างไม่มีปัญหา ขอเพียงแต่เรามีปัญญาที่รู้และเข้าใจเรื่อง"การไม่ยึดติด" 
    ถ้าจำเป็นก็ไปหยิบฉวยความทรงจำในอดีตขึ้นมาใช้งานใช้การได้แบบไม่ยึดติด..
    ทุกๆท่านก็สามารถอยู่ร่วมกับความจำ/กิเลส/สุขทุกข์ต่างๆได้อย่างมีความสงบสุขนะครับ.. 


    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 16
    • List
  20. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Mar 30, 2009
    Messages:
    1,124
    Ratings:
    +25,214
    ธรรมทานจากจิตบุญดวงที่ 13 คำแนะนำจากจิตครู2

    แห่ะ.....เห็นใครเป็นอาจารย์ก็<WBR>อดเรียกอาจารย์ไม่ได้ครับ
    ชีวิตผมที่เป็นนายจักร์พงศ์ มีงานมีการทำก็เพราะอาจารย์ที่<WBR>เป็นคณะบดี
    ท่านช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุ<WBR>นตั้งแต่สมัยเรียนจนกระทั่งทุ<WBR>กวันนี้
    ผมจึงเคารพผู้ที่เป็นครูเป็<WBR>นอาจารย์มากครับ

    จากวันเดือนปีเกิด พี่ดวงพรเกิดวันจันทร์ใช่มั้ย
    เหมาะมากเลยครับ ต่อไปนี้เรามีครูบรรยายธรรมะ ที่จะรียกศรัทธา
    ความเชื่อถือจากผู้คนได้มากๆ เพิ่มอีกหนึ่งคน นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ
    พูดจริงอิงตำรา เพราะพี่เพ็ญก็เกิดวันจันทร์<WBR>เหมือนกัน
    คนเกิดวันจันทร์นี่เหมาะกับอาชี<WBR>พที่ต้องใช้วาทะศิลป์ พูดแล้วคนเชื่อถือครับ

    ผมคิดว่าพี่เพ็<WBR>ญอยากตอบคำถามในอีเมลล์นี้ให้กั<WBR>บพี่ดวงพรแน่นอน
    แต่พี่เพ็ญคงหมดพลังแล้วล่ะ ผมมั่นใจ ดังนั้นผมขอเป็นตัวแทน

    วิธีเจริญอิทธิบาท ๔
    เบื้องต้นให้พี่ดวงพรกำหนดจิ<WBR>ตบอกกล่าวกับสมเด็จพ่อ
    และพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ว่าจะขอทำหน้าที่สั่<WBR>งสอนธรรมะให้กับ
    ญาติธรรมทั้งหลายที่มีบุญวาสนา ขอใช้ร่างกายขันธ์ ๕ ของตนนี้เป็นสื่อกลาง
    ในการถ่ายทอดความรู้ธรรมะสู่ผู้<WBR>คน ขอให้ทุกครั้งที่สอนธรรมะ บรรยายธรรมะ
    สมเด็จพ่อท่านสื่อสัญญาณผ่านตั<WBR>วพี่ดวงพรโดยที่ไม่ต้องกำหนดจิ<WBR>ตถามอีกต่อไป

    การเจริญอิทธิบาท ๔ ก็คือให้ขยันตั้งใจใส่ใจกับหน้<WBR>าที่ของการเป็นครู<WBR>สอนธรรมะไปตลอด
    พร้อมทั้งเจริญพรหมวิหาร ๔ และสังคหวัตถุ ๔ เพื่อช่วยเผยแพร่ธรรมะเป็นการทิ<WBR>้งทวน
    เป็นการขอทำหน้าที่เป็นชาติสุ<WBR>ดท้าย

    ตอนนี้พวกเราก็เหมือนเรียนปริ<WBR>ญญาจบแล้ว สอบปลายภาคเรียบร้อย
    คะแนนและเกรดผ่านหมดทุกอย่าง มีความรู้ประดับตัว
    สามารถทำมาหากินเอาตัวรอดได้แล้<WBR>ว แต่ยังไม่ได้รับปริญญาบัตร
    ถ้าพูดกันภาษาธรรมก็คือเราได้นิ<WBR>พพานดิบแล้ว แต่ยังไม่ได้นิพพานสุก (ใบปริญญา)
    เพราะยังไม่ได้ทิ้งขันธ์ ๕ อย่างเป็นทางการ วิมารก็มีรออยู่แล้วแต่ยังไม่<WBR>ได้ไปอยู่
    หรือยังไปอยู่ไม่ได้เพราะยังไม่<WBR>ถึงเวลา ตอนนี้นิพพานที่เราได้ก็ยังไม่<WBR>เที่ยง
    ยังเป็นสอุปาทิเสสนิพพาน ยังเปลี่ยนได้ก็อยู่ที่ตัวเราทำ แต่นิพพานที่เที่ยงจริงๆ
    คือการที่ดวงจิตนั้นละทิ้<WBR>งกายหยาบแล้วลอยเด่นมุ่งไปสู่<WBR>แดนนิพพาน สถานที่ไร้ทุกข์
    สถานที่ที่ไม่มีการเกิดแก่เจ็<WBR>บตายอีกต่อไป เรียกว่าเข้าสู่อนุปาทิเสสนิ<WBR>พพาน
    ถึงตอนนั้นจะไม่มีอะไรเปลี่<WBR>ยนแปลงอีกแล้วครับ วิมานที่สร้างมาหลังเล็กหลั<WBR>งใหญ่
    สวยมากสวยน้อย สว่างมากสว่างน้อยยังไงก็ยั่งงั<WBR>้น

    แม้ตอนนี้จิตยกแล้ว แต่จิตก็ยังอยู่ในขันธ์ ๕ อยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับกิเลส
    ต่อไปพี่ดวงพรจะรู้สึกว่ามันเป็<WBR>นเรื่องที่น่าเบื่อมากๆ คือเราจะเหมือนเป็นพี่เลี้ยงเด็<WBR>ก
    ที่คอยตามรู้ตามดูพฤติ<WBR>กรรมของเด็ก เขาจะดื้อจะซุกซนเราก็รู้และเข้<WBR>าใจว่าธรรมชาติ
    ของเด็กก็เป็นเช่นนั้น ธรรมชาติของขันธ์มันก็เป็นเช่<WBR>นนั้นเหมือนกัน แต่เด็กบางทีมันดื้อมากๆ
    ซนมากๆ เนี่ย พี่เลี้ยงก็อดรำคาญไม่ได้เหมื<WBR>อนกัน อยากจะขอสละตำแหน่งสละหน้าที่<WBR>จะได้มั้ย
    (ขอตายวันนี้เลยได้มั้ย) นี่นะจิตมันจะคิดไปยั่งงั้นครั<WBR>บ เราต้องคอยประคองจิตให้อยู่กั<WBR>บขันธ์ ๕
    ไปได้อย่างสมานฉันท์ ประคองจิ<WBR>ตอย่าให้ตก อย่าให้ไหลไปกับกิเลส เพราะแท้จริงแล้วกิเลสยังคงมี<WBR>อยู่
    ถ้าเราเผลอหรือปล่อยตัวปล่อยใจ จิตมีโอกาสไหลไปตามกระแสของกิ<WBR>เลสได้เหมือนกัน
    พระที่ท่านสำเร็จแล้วท่านจึงนิ<WBR>ยมเข้าฌานกันทั้งวันทั้งคืน หนึ่งเพื่อระงับทุ<WBR>กขเวทนาจากกายสังขาร
    เพราะท่านแก่ชรามากแล้ว สองเพื่อให้มีสมาธิตั้งมั่นกิ<WBR>เลสในขันธ์จะได้ไม่กระพือ สำหรับพระน่ะทำง่ายครับ
    แต่สำหรับจิตอรหันต์ที่เป็<WBR>นฆราวาสนี่ก็ยากหน่อย เพราะเจอกิเลสมารเต็มไปหมด ต้องระมัดระวัง
    เราต้องรักษาใจให้ดีไปจนกว่<WBR>าจะทิ้งสังขาร เมื่อนั้นจึงเป็นอันว่าหลุดพ้<WBR>นจริงๆๆๆ พ้นอย่างถาวร

    แรกๆ พี่ดวงพรอาจจะยังทำตัวไม่ถูก อาจจะยังกลัวๆ เกร็งๆ ยังบังคับยังฝืนควบคุมอยู่บ้าง
    กลัวจะผิด กลัวจะบาป กลัวจะเป็นการกลับไปหลงกับ รูป รส กลิ่น เสียง โลภะ โทสะ โมหะ
    กลัวเสียตำแหน่งจิตบุญ กลัวเสียวิมาน ซึ่งไม่แปลกสำหรับจิตที่ยกใหม่ๆ ก็มันยังไม่ชินนี่นา
    จริงๆ ก็คือสติยังไม่ทันจิต100เปอร์<WBR>เซ็นต์ ยังไม่ท่องแท้ในความหลุดพ้<WBR>นของจิต ขอให้ลองหมั่นดูจิตตนเอง
    เหมือนที่ผ่านมานะครับ ยังไม่ทิ้งการปฏิบัติใดๆ ทั้งสิ้น แต่ให้สังเกต "ความยึดติดของจิต"
    เป็นเกณฑ์เป็นหลักใหญ่ เราไม่พิพากษากันที่กิริ<WBR>ยาอาการของขันธ์ (กาย) แม้แต่การปรุงแต่งของขันธ์
    เราก็ไม่นับนะครับ (สังขาร+วิญญาณ) เพราะตอนนี้ขั<WBR>นธ์ ๕ กับเรา มันแยกกันเป็นคนละส่วนแล้ว

    ขอให้ใช้ชีวิตไปตามปกติอย่างที่<WBR>เคยเป็นมา เคยชอบกินอะไรก็กิน เคยชอบฟังอะไรก็ฟัง เคยบริโภคอะไรก็บริโภคไปโล้ดดด
    ไม่ต้องกลัวไม่ต้องกั๊ก แต่ให้ถือเอาความยึดติดในสิ่งนั<WBR>้นของจิตเป็นหลักสังเกต เช่นเรากินอาหารบางอย่างแล้วรู้<WBR>สึกอร่อย
    รู้สึกชอบ ก็มันอร่อยน่ะมันก็ต้องถูกใจซิ เราก็ไม่ได้ผิดแต่อย่างใดที่<WBR>ไปยินดีในรสชาดนั้น นี่คือการปรุงแต่งไปเรียบร้อย
    แล้วของขันธ์ ๕ แต่ถามจิตเราซิว่าถ้าไม่ได้กิ<WBR>นจะหงุดหงิดมั้ย ถ้าต้องลำบากขวนขวายไปหามากิ<WBR>นเราจะทำมั้ย
    จิตจะตอบว่า "ก็อร่อยนะ แต่ไม่ได้กินก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องขวนขวายดิ้<WBR>นรนไปหาซื้อมากินให้ลำบาก
    เพราะอร่อยมันก็อร่อยชั่วแป๊<WBR>บเดียว มีก็กิน ไม่มีก็ไม่กิน" อย่างนี้คือจิตหลุดพ้นจากกิเลส ไม่ติดอยู่กับกิเลส
    เปรียบเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบัว ของอร่อยมีเราก็กิน กินแล้วก็รู้ว่าอร่อยด้วย ชอบด้วยจะผิดอะไร
    แต่ใจเราไม่ยึดติดก็เท่านั้น คือจิตมันไม่ได้ยึดติดกับถูก-ผิ<WBR>ด บุญ-บาปแล้วนะครับ
    อยากดูหนังฟังเพลงก็ดูไปโล้ด มันไม่ใช่กิเลสหรือบาปทีทำให้<WBR>เราตกนรกตกสวรรค์
    แต่ให้หมั่นสำรวจตรวจจิตอยู่<WBR>ตลอดว่ายึดติดมั้ย จริงๆ ก็ไม่ยึดแล้วล่ะ แต่เราก็ไม่ประมาท
    คอยเช็คอยู่เรื่อยๆ เพื่อความชัวร์


    พี่ดวงพรอธิษฐานขอทำหน้าที่ ขอเจอศิษย์ทางธรรมสายบุญของตั<WBR>วเอง กับท่านพ่อบ่อยๆ นะครับ
    ขอพรท่านด้วย ขอให้ท่านประทานฌานสมาบัติขั้<WBR>นสูง และญาณทิพย์ทั้งปวงเพื่อทำหน้<WBR>าที่
    ผมก็ขอแล้ว ท่านก็ประทานให้แล้ว แต่ของยังส่งมาไม่ถึงน่ะซิครับ คือยังไมถึงเวลาน่ะ
    แต่ท่านรับรองแล้วว่าให้ตามที่<WBR>ขอ พี่ดวงพรก็ขอไปตามนี้เช่นกั<WBR>นนะครับ เพื่อจะได้สามารถทำหน้าที่ได้ง่<WBR>ายขึ้น

    จิตยังคงเกาะพระไม่ปล่อย สมาธิต้องนั่ง เดินจงกรมก็ทำไปตามวัตรปฏิบัติ<WBR>เดิมของตน
    แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือหน้าที<WBR>่ช่วยยกจิตคนครับ


    นก ชาย
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 24
    • List

Share This Page

Loading...