เหตุการณ์นี้ เป็นปรากฏการณ์ของวิญญาณ ที่มาสำแดงให้เห็น ในลานบริเวณที่จอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในเวลากลางวัน ขณะที่ผมได้จอดรถเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเดินเข้าไปในห้าง ผมได้พบกับ ผู้ชาย คนหนึ่ง กำลังจะกระโดดจากลานจอดรถ ผมจึงได้เรียกตะโกนให้ รปภ.ที่ยืนอยู่บริเวณนั้น และชี้นิ้ว ให้ช่วยชายคนนั้นที่กำลังจะกระโดดลงไป ปรากฏว่า รปภ.กลับทำทาทางยืนงง เหลิกหลัก สุดท้าย ชายคนนั้น ก็กระโดดลงไปจากอาคารจอดรถ ผมได้เดินเข้าไปถาม รปภ. ว่าทำไมไม่ช่วยจับ ชายคนนั้น รปภ. บอกว่าไม่เห็นมีใคร สุดท้ายผมถึงรู้คำตอบ ว่าเมื่อสองสามวันก่อนเพิ่งมีผู้ชายกระโดดฆ่าตัวตายจากลานจอดรถ ตรงบริเวณนั้นพอดี สรุปแล้ว วิญญาณ ยังวนเวียนอยู่บริเวณนั้น และยังมาปรากฏท่าทางขณะที่กำลังฆ่าตัวตายให้เห็น วิญญาณเหล่านี้มาปรากฏร่างเพือขอส่วนบุญ
ตึก ยังประโยชน์ให้ คนดีมากและคนดีน้อย ทั้งหลาย ได้อีกนาน จะทุบทำลายเพื่อยังประโยชน์ให้คนดีน้อย คนเดียว ฤๅ ท่าน
คุณ chaokhun ช่วยไปหรือยังคับ.ถ้าอุทิศแล้วก็ขอโมทนาด้วยครับ. และถ้าช่วยได้และแม้ว่าเค้าจะสามารถรับได้ก็ตาม. ก็จะรับได้น้อยมากๆๆ.ไม่สามารถทำให้เปลี่ยนภพภูมิได้. ไม่สามารถทำให้จิตมีความเป็นทิพย์เพิ่่มขึ้นและมีความสบายได้. แต่จะช่วยบรรเทาความรู้สึกเจ็บปวดที่วิญญานจะได้รับ..คือถ้าวิญญานนี้พอที่จะรับบุญที่อุทิศส่วนกุศลได้...อย่างน้อยพอกระโดดลงมาจากตึก ก็อาจจะมาหยุดอยู่ในตำแหน่งก่อนที่จะถึงพื้น.โดยที่วิญญานไม่กระทบพื้น.. แต่ก็จะต้อง วนเวียน และ ก็วนเวียน กลับขึ้นมากระโดนซ้ำๆๆๆๆๆ อีกอยู่อย่างนั้น เป็นเหตุให้เมื่อผ่านไปกี่ปีก็ตาม ใครที่ได้เห็นก็จะเห็นเค้าในสภาพการกระโดดตึกอยู่อย่างนั้น ความหมายก็คือ วิญญานดวงนี้ทำเป็นปกติเนื่องจากวาระกรรมของเค้าอยู่อย่างนั้น ซึ่งวันหนึ่งจะต้องมากระโดดอยู่อย่างนั้นไม่รู้กี่ร้อยครั้ง. จนกว่าจะหมดวาระกรรมของตัวเองซึ่งก็ไม่รู้อีกปี.กี่ชาติ.แต่ก็ยังดีกว่าอยู่ในสภาพ ที่ต้องกระโดดลงมาแล้ววิญญานกระแทกพื้น..เหมือนก่อนที่ยังไม่ได้รับบุญจากการอุทิศส่วนกุศล ปล.จุดนี้เพียงเล่าให้ฟังนะครับ..จะจริงไม่จริงไม่ใช่ประเด็นหลัก. ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคลครับ.
... สาธุคะ กับ ความใจบุญที่จะช่วยเขาคะ ... แต่กรรมใดใครก่อคนนั้นต้องรับ เขาสร้างกรรมหนัก นั้นคือ ความทุกข์ทรมานที่เขาได้รับจนกว่าจะหมดวาระแห่งกรรม หรือ เขาสำนึกได้ และ ปล่อยวางเขาถึงจะพ้นจากจุดนี้ไปรับกรรมในภพภูมิอื่นต่อไป
ถ้ายังไม่ถึงกำหนด วิญญาณเขาก็ต้องวนเวียนอยู่อย่างนี้ จนกว่าจะถึงกำหนดไปเกิดใหม่ แต่ส่วนมากแล้วเมื่ออุทิศส่วนกุศลให้เขาแล้ว เขาจะไปเกิดใหม่เร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะเคยมีวิญญาณหลายดวงที่เราอุทิศส่วนกุศล ถวายสังฆทานให้เขา หลังจากถวายไปแล้ว 2-3 วัน วิญญาณเขาก็มาเข้าฝันว่า จะไปเกิดใหม่แล้ว
ขออนุโมทนา..สาธุค่ะ มันเป็นเช่นนี้เองเพราะกุศลผลบุญอย่างแท้จริงเลย แล้วทีนี้ถ้าเผื่อบังเอิญ..นะคะ เราไปเจอคนที่เสียชีวิต และหรือใก้ลจะเสียชีวิตที่เราไม่รู้จัก เราควรจะพูดยังไงดีคะ เห็นแล้ว มันหดหู่มากมายเลย บางทีบางคนอายุยังน้อยอยู่ แต่อยู่ๆ ก็หัวใจหยุดเต้นไปช่วงที่มาถึง รพ. เพราะช่วงนี้จะเจอบ่อย คือต้องไปเฝ้าญาติที่ รพ. หนะค่ะ รอหน้าห้องฉุกเฉินตลอด เจอบ่อย ๆ เผื่อว่าจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ / ขอให้เจริญยิ่งในบุญนะจ้าวคะ^^
กรณี คุณ สีลสิกขา ต้องขออนุญาตเบียดปาดหน้า คุณ chaokhun แซงขึ้น มาเพื่อขอ.แนะนำโดยที่ไม่ต้องถามเลยนะครับ เพราะเห็นว่าเป็นประเด็นที่ค่อน ข้างสำคัญและมันจะทำให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันกับ คุณ สีลสิกขา ได้อย่างที่คุณ คาดไม่ถึง.และคิดไม่ถึงแม้ว่าเจตนาเริ่มต้นเราจะดีก็ตาม..... กรณีที่ ๑ ถ้าเป็นคนที่พึ่งเสียชีวิต.โดยที่ร่างกายพังหรือเสื่อมไปตามกาลหรือตามธรรมชาติอุทิศส่วนกุศลได้ไม่เป็นไร.. แต่กรณีที่ ๒ ถ้าไปเจอผู้ป่วยที่กำลังใกล้จะเสียชีวิต..ขอบอกว่าถ้ายังไม่เข้าหลัก การณ์หรืออ่านที่กำลังแนะนำให้..อย่าพึ่งรีบตัดสินใจทำอะไรนะครับ.. อันดับแรก เราต้องเข้าใจว่า การช่วยเหลือคนที่เจ็บป่วยหรือกำลังจะเสีย ชีวิต..ไม่ง่ายเหมือนกับการช่วยวิญญานนะครับ..เพราะวิญญานไม่ มีส่วนของกาย..ส่วนคนยังมีร่างกายอยู่และผลกรรมในรูปแบบนามธรรม ของเค้าได้มาร่วมกับส่วนร่างกายแล้ว.. การที่เราจะไปช่วยได้กำลังสมาธิ เราต้องเข็มแข็งพอตัว..เข็มแข็งในระดับที่ว่า คุณ ต้องมีครูบาร์ อาจารย์ ทางภพภูมิคอยกำกับด้วย.และคุณต้องมั่นใจว่าคุณ มีศีลดีพอ กำลังสมาธิคุณแข็งแรง.และระดับจิตคุณถึงขั้นที่ว่าผลกรรมเก่าของคุณเอง ยังตามคุณไม่ทันตอนนี้ และต้องมั่นใจว่าเจ้ากรรมนายที่คุณจะไปช่วยจะเกรงใจสภาวะจิตคุณในตอนนี้. .ไม่ใช่ว่าเราจะมีเจตนาที่ดี รู้จักการอุทิศส่วนกุศล พอมีกำลังสมาธิบ้าง เคยฝึกสมาธิมาบ้าง..แล้วเราจะไปช่วยได้เลย..อย่างน้อยๆกำลังสมาธิคุณ ต้องถึงขั้นที่จะทำนามธรรมบางอย่างให้เป็นรูปธรรมได้เป็นอย่างน้อย.. ไม่งั้นส่วนของวิบากกรรมที่กำลังเล่นงานร่างกาย คนที่คุณกำลังคิดจะช่วย..จะเปลี่ยนเป้าหมายมายังคุณ ทันที..ถามว่าจุดนี้ คุณ รับแทนคนนั้นไหวไหม.. ส่วนมากกรณีอย่างนี้ควรต้อง อุเบกขา ครับเพราะเป็นเรื่องกฏแห่ง กรรมที่เราไม่ควรจะไปแทรกแซงไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม.. เอาไว้ถ้าคุณอยากช่วยจริงๆค่อยว่ากันอีกทีครับ.แต่ก็ต้องทำใจยอมรับ ไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ..ว่าวันใดก็ตามถ้า ศีลคุณตก กำลังสมาธิคุณหย่อน คุณจะโดน แน่ๆ..บอกไว้ก่อนล่วงหน้าได้เลยครับ..แต่ถ้าใจรักก็ไม่ว่ากันครับ..
:'( ไม่รู้จะขอบพระคุณ คุณ nopphakan เช่นไรกับคำแนะนำอันมีค่ามากอย่างนี้ เบียดปาดหน้าบ่อย ๆก็ดีค่ะ เพราะหลาย ๆ ครั้งที่ดิฉันมักจะทำอะไรโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์บ่อยมาก และตัวดิฉันเองก็ป่วย เหนื่อย ไร้พลัง ใช่ยิ่งกว่าแช่แป้งที่ดิฉันไม่ควรไปก้าวล่วงถึงสิ่งที่มองไม่เห็นแบบนั้นโดยเฉพาะเป็นเจ้ากรรมนายเวร กราบขอบพระคุณที่เตือนสติ เพราะช่วงเวลานี้หรือก่อนหน้านี้ สภาวะจิตไม่ค่อยดีค่ะ มีกังวล อดนอน จิตตก และหดหู่ กับสภาพที่เห็นตรงหน้า จะดีอยู่บ้างก็ตรงที่รักษาศีลนี่ละค่ะ แต่น่าจะด่างข้อ 4 นะคะ อิอิ ไม่ใช่มุสา แต่ว่าบางทีชอบตำหนิคนค่ะ ขอย้อนไปเมื่อวันก่อนที่หน้าห้องฉุกเฉิน ประมาณ 5 ทุ่มของวันพุธที่ 10 มีเด็กหนุ่มอ้วนนะคะ ถูกหามลงจากรถ ซึ่งตอนนั้นเขาไม่หายใจแล้ว เวรเปลของโรงพยาบาลก็รีบเข็นเข้า ER และตะโกนบอกว่าหลีกทางเขาไม่หายใจแล้ว ณ ตอนนั้นสิ่งที่ดิฉันคิดเพราะอยู่ใก้ลมาก คือหดหู่ เสียดายชีวิตเขา ญาติเขาจะเป็นยังไงถ้ารู้ ดิฉันได้แต่คิดอยู่ในใจ ว่าอยากขอชีวิตเด็กคนนี้จังเลย เท่านั้นหละค่ะ ขนลุกซู่เลย ก็เลยโทรหาเพื่อนๆ บอกเพื่อนว่าถ้าฉันมีตาทิพย์ ฉันคงได้เห็นเจ้ากรรมนายเวรของเด็กคนนั้น เพื่อนบอกอย่าไปยุ่งกับเขา กรรมของเขา พอดีเด็กที่มาเป็นเพื่อนดิฉันเขาถามดิฉันว่า เขาจะตายไหม ดิฉันก็ตอบเขาว่า ก็ภาวนาว่าขอให้เขารอด จากนั้นดิฉันก็เดินไปที่อื่น แต่ก็รู้สึกแปลก ๆ คือเดินไปซื้อกาแฟ ที่ 7-11 ในโรงพยาบาลค่ะ ระหว่างทางที่เดินก็รู้สึกขนลุกตลอด เหมือนมีใครอยู่ใก้ลดิฉันมาก ก็เลยพูดขึ้นมาว่า ดิฉันขออโหสิกรรมต่อท่านทั้งหลายที่กำลังตามดิฉันอยู่ หากว่าดิฉันได้ก้าวล่วงพวกท่าน ขอให้รับทราบว่าดิฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อท่าน บุญกุศลใดที่ดิฉันได้ทำมาขอพวกท่านจงรับและอนุโมทนาบุญกับดิฉันด้วย ดิฉันพูดเท่านี้ และก็นึกถึงครูบาอาจารย์ของดิฉัน และขอบารมีท่านช่วยคุ้มครอง ที่หนูทำไปเพราะหนูมีเจตนาดีต่อเด็กคนนั้น หนูจะไม่ทำอีกหากบุญและบารมีหนูมีไม่พอ จากนั้นก็ไม่มีอะไร แต่เวลาที่คิดตัดสินใจทำอะไรนะคะ มักจะมีอาการขนลุกที่ศีรษะด้านซ้าย ไม่ทราบเหมือนกันว่า ครูฯ ท่านมาเตือนดิฉันหรือเปล่า หลายๆ หนที่มีอาการนี้ มักจะมีเรื่องไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (กะว่าจะไม่เล่านะคะ เพราะแล้วแต่ความเชื่อหรือวิจารณญาณของแต่ละท่าน) ไม่อยากอ่านอะไรที่ทำให้เกิดความแตกแยกหนะค่ะ แต่สิ่งที่ท่าน nopphakan และ ท่าน chaokhun แนะนำ ถือเป็นสิ่งดีและช่วยเตือนสติดิฉัน ให้รู้จักประมาณตน ยังไงก็ต้องกราบขอบพระคุณมากค่ะ เพราะชีวิตผูกติดอยู่หน้าห้อง ER ค่ะตอนนี้..ขอน้อมรับทุกคำแนะนำของท่านไว้อย่างสุดใจค่ะ ^^ ขออนุโมทนา..และขอให้ท่านเจริญยิ่งในบุญด้วยจ้าวค่ะ
คุณก็ท่องบทกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เขาเลย จะรวดเร็วดีมาก ที่เขาจะได้รับส่วนกุศลจากคุณทันทีที่เขาหมดลมหายใจ
อ่ออีกนิดๆ.สำหรับ คุณ สีลสิกขา.เอาว่าพอเข้าใจพื้นฐานด้านจิตใจนะครับ.. ส่วนเรื่องนิสัยส่วนตัวที่เหลืออยู่ ถือว่าเป็นเฉพาะบุคคลไม่ขอแสดงความเห็น....อาการที่คุณ ขนลุก ด้านซ้ายนั่นหละครับ.คือการเปลี่ยนเป้าปลายหรือสิ่งที่คุณเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เข้ามาหาคุณโดยตรงเป็นการสื่อสารประเภทหนึ่งในเรารับรู้ครับ.. ถ้าเป็นครูบาร์อาจารย์ ทางภพภูมิมาเตือนจะขนลุกทางด้านขาวครับ.. แต่คุณเนี่ยยังโชคดีนะ.ที่ยังพอมีคารมย์รู้จักพูด และรู้จักขอบารมีครูบาร์อาจารย์เสริมในการเอาตัวรอด. .ส่วนกิริยาทางกายที่สังเกตุง่ายๆ.ก็คือ เราจะเหนื่อยมากกว่าปกติ. เวลานอนแทบจะปิดสวิทต์ทันที.อย่าคิดว่าจะกลับมานั่งสมาธิเลยครับ ส่วนมากจะกลายเป็นฌานสมาหลับซะมากกว่า.ยิ่งถ้าฝึกสมาธิอยู่แล้วด้วยการเข้าถึงอารมย์ที่เคยทำได้ปกติ ก็จะต้องรออีกอย่างน้อย ๒ ถึง ๓ วันถึงจะเหมือนเดิม.. ยิ่งถ้าคุณ ได้เคยไปช่วยระดับที่สูงกว่านี้ อย่างเช่น ภูมิรุกขเทวดานะครับ ที่ต้นไม้โดนตัด หรือเทวดาอากาศเพื่อขอให้ท่านดูแลบ้านที่ไม่มีศาลพระภูมิให้ หรือพวกโอปาติกะบางประเภท หรือ ระดับสูงกว่านี้ที่มิใช่ญาติตัวเอง และถ้าสามารถเห็นได้ด้วย.จะเข้าใจอาการทางกายและผลทางสมาธิอย่างที่บอกได้เลยอย่างชัดเจน อนาคตให้ลองสังเกตุได้.ซึ่งจุดนี้ถ้าทำได้ก็แนะนำให้ทำ.แต่ต้องทำด้วยสติและ ใช้ปัญญาพิจารณาเป็นกรณีๆไป ..ส่วนการที่มันอดใจที่จะเข้าไปช่วยเหลือไม่ได้ก็เข้าใจดี.เพราะก็เป็นอยู่.พยายามวางเหมือนกัน.แต่ก็อดไม่ค่อยได้ ฮ่าๆๆ. เพราะบางครั้งมันก็เป็นอัตโนมัติ..แกล้งทำเป็นลืมคำสอนคำเตือนบ้าง. แต่ถ้าตอนนี้พอรู้บ้างแล้ว..จะได้ฝึกอุเบกขาไว้บ้าง.ปล่อยให้เป็นเรื่องกฏแห่งกรรม. เด่วไว้ให้เราแน่นๆ.ทั้งทานบารมีเป็นเสบียง ศีลที่มั่นคงเป็นกำลัง สมาธิที่เข็มแข็งเป็นอาวุธแล้วหละก็...ถึงเวลานั้นอยากจะช่วยค่อยว่ากันอีกทีก็ยังไม่สายครับ.
น้อมรับค่ะ ต่อไปจะท่องบทกรวดน้ำและอุทิศส่วนกุศลให้เลยถ้าหากเจอได้พบอคนที่เพิ่งจะเสียชีวิต หรือมีอาการขนลุก เพราะมักจะห่วงแต่วาระจิตเขาก่อนตาย ว่าเขาจะไปอยู่ภพภูมิไหนหนอ ก็ภาวนาว่าขอให้คุณได้เบากายเบาใจขอดวงจิิตของคุณได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีด้วยเถิด.. ต้องใช้เวลาพักหลายวันค่ะ เพราะดิฉันเองไม่มีพลังหรือจิตที่แข็งขนาดนั้นเลยค่ะ และก็ไม่กล้าำช่วยทำการเรื่องใหญ่ ๆ แบบนั้นได้เลย :'( กลัวค่ะ ดิฉันยังเป็นผู้น้อยด้อยปัญญา ที่กำลังสร้างความเพียร ปฏิบัติภาวนา ทั้งบุญ ทาน รักษาศีล แต่ที่ท่าน nopphakan บอกเรื่องเพลียเหนื่อยนั่นแหละค่ะ คืออยากจะบอกว่า อาการเหนื่อยเพลีย คือแทบจะเดินหลับเลยดีกว่า หลับก่อนหัวถึงหมอนด้วยนะคะ 555 โดยดิฉันไม่ค่อยจะรู้ตัวหรอกค่ะว่าเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ เพราะบางทีแค่ให้คำแนะนำคนที่มีปัญหาและเขาอยากให้เราแนะนำ ดิฉันก็จะบอกให้ไปทำอย่างนี้นะ น่าจะแก้ไขได้ แต่ไม่รู้หรอกค่ะว่าได้โดนเล่นงานด้วยแล้วเหมือนกันที่ไปปลดล็อคบางอย่างโดยไม่ตั้งใจ และเรื่องขนลุกเป็นบางจุด บางส่วน บางตำแหน่ง อันนี้ดิฉันก็ยังไม่ทราบว่าเกิดจากเรื่องใด แต่ที่สำคัญถ้าศีรษะซีกซ้ายจะบ่อยมาก(รู้ว่าไม่ค่อยดี) และที่ขาล่างใต้เข่าด้านซ้ายจะบ่อยๆ ยังไง ดิฉันขออนุโมทนา ขอขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ กับความรู้ใหม่ในอีกแง่ และำคำแนะนำที่สำคัญมาก ซึ่งดิฉันขอน้อมรับและปฎิบัติตาม ขออานิสงส์ความมีเมตตาของท่านนำพาให้ท่านประสบแต่สิ่งที่ดี เปี่ยมล้นด้วยบุญบารมีและปัญญาญาณตามติดท่านไปทุกภพทุกชาติด้วยเถิด..สาธุค่ะ ^^ แล้วดิฉันจะมารบกวนอีก >_<