เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

The judgement day has begun.

 

วันนี้ยุ่งๆ เข้ามาดึกหน่อยน่ะครับ โพสท์กันหลายเรื่อง...แหะๆ ภาพของเสี่ยโจ สวยทุกภาพครับ

 

ตะโพนชนิดนี้กลึงเอา เป็นวัตถุมงคลหลวงพ่อทรงที่มีคนถามหามาตลอด ยืนหยัดเหนือคำปรามาสทั้งปวง ว่าผมเป็นนายทุนทำขาย...เหอๆๆ

หายากสุดๆ และ ความต้องการมีมาก แม้วันนี้ก็มีคนถามหาจากผม และคำตอบมีแค่คำเดียว

หายากครับ

 

สมเด็จองค์ปฐม หารุ่น ๑ ๒ และ ๓ ไม่ได้ รุ่นนี้น่าจะยังมีเหลือน่ะครับ ไม่ต้องหาของแพงๆครับ

 

พระศรีอาริยเมตไตรย สมเด็จโต พรหมรังสี วัดอินทรวิหาร​

 

กราบ กราบ กราบ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ ค่ะ​

 

ขอบคุณมากครับ

 

ขอบพระคุณมากครับ
ตอนนี้ผมกำลังทำ กล่องถ่ายพระเครื่องแบบเคลื่อนย้ายได้ เพื่อสะดวกในการนำไปถ่ายนอกสถานที่
หากพี่พีมีพระจะให้ถ่าย ให้ ผมยินดีรับอาสาครับ

 

​

เหรียญพัดยศ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ​

quote=พี เสาวภา;8292572 ภาพนี่สวยงามมากครับ

เหรียญรุ่น สอง วัดสร้าง พัดยศ พิเศษ สร้างก่อนหล่อ พระพุทธสิหิงค์ หลายปี พระพุทธรูปด้านหลัง ปางสมาธิมาเหมือนกัน ตามสไตล์ หลวงตา ที่รู้อะไรก่อน ....ทุกครั้งไม่มีพลาด

ส่วนยันต์เจ้าคุณ นรฯ ยันต์น้ำเต้า มะ อะ อุ พ ฆ อ ( หมายถึงสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และ อุล่าง ( ความหมายถึงเจ้าคุณ อุดม )

เจ้าคุณอุดม สร้างความดีมาตลอด มาโดยข้อหาจับยัด ต้องสึกมาเป็นทิด ข้อหา เครื่องราชฯ ตอนท่านสร้างวัด สร้างวัตถุมงคลเจ้าคุณนรฯแจก ท่านเอาตัว อุ มาลงไว้ใต้ยันต์ หมายถึงท่านสร้าง

ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านได้ เมตตาทำนายไว้ก่อนว่าท่านเจ้าคุณ อุดม จะ เดือดร้อนเพราะบริวาร

เหรียญนี้ มีปริศนาซ่อนไว้หลายชั้น ค่อยๆคิดไปน่ะครับ ท่านเจ้าคุณนรฯ เคยรู้จักหลวงปู่บุดดา ท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นพระธรรมยุต ส่วนหลวงปู่บุดดาเป็นพระมหานิกาย พอมารู้จักกัน ท่านเจ้าคุณนรฯ เห็น หลวงปู่บุดดา เป็นเหมือนพญานกอินทรีย์ ในป่าใหญ่ โบยบินไปไหนตามอิสสระ แสวงหา โมกธรรมและสันโดษ ( หลวงปู่บุดดา ท่านสำเร็จมาก่อนหน้าแล้ว ) เลยต้องการ จะตามหลวงปู่บุดดาไป แต่ พระเดชพระคุณ สมเด็จพุฒโฆษาจารย์ ไม่ทรงอนุญาตให้ไป ( ตอนนั้นผมเข้าใจว่า ท่านเจ้าคุณนรฯ อาจจะยังอายุไม่มาก พึ่งพ้นนวกะมา น่าจะบวชมา ๖ ปี )

หลวงตาเล็กน่าจะเป็นพระยุคเดียวกับหลวงปู่ บุดดา เป็นพระภิกษุ ๕ แผ่นดินเหมือนกัน แต่หลวงตาอ่อนอาวุโสกว่า อย่างน้อย ๑ รอบ การแยกมหานิกายของหลวงปู่บุดดา น่าจะเกิดไม่นานหลังจากที่ พระบาทสมเด็จ รัชกาลที่ ๔ ทรง แยก ออกเป็นสองนิกาย

ผมเองก็ไม่ทราบว่า หลวงตาไปเกี่ยวข้องกับท่านเจ้าคุณนรฯได้อย่างไร??? ท่านถึงเอายันต์น้ำเต้าของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และ เจ้าคุณนรฯมาไว้ หลังเหรียญรุ่น ๑ และ รุ่น ๒ แต่ เหรียญสองรุ่นนี้สำคัญครับ เพราะหลวงตาท่านมีดำริห์ และมี นัยยะ ซ่อนอยู่ น่าจะมีอะไร ซ่อนๆอยู่ด้วย ยันต์ท่านเองมีเพียบ แต่ไม่เอา และ เหรียญรุ่น ๑ ออกมาหลังเจ้าคุณนร ฯ ล่ะสังขารในปีเดียวกัน เรียกว่าไล่ตามกันมา ยุคนั้น หลวงตามาที่วัดใหม่แล้ว ยังไม่มีคนที่เรียกว่า คนใน ไปเป็นคณะศิษย์แน่นอน ส่วนใหญ่น่าจะยังเป็นวุ้นอยู่ ท่านอยู่ที่นั่นเงียบๆ ทำเหรียญแจก ซึ่งคงเป็นชาวบ้านแถวนั้น ยังไม่มีคนมารู้จักท่านมากมายอย่างไร

ท่านแม่ชีก็ไปเจอหลวงตา หลังปี ๒๕๓๕ มาแล้ว ซึ่งหลัง เหรียญรุ่น แรก ร่วม ยี่สิบกว่าปี

ส่วนหลวงปู่บุดดาก็ไม่แน่ใจว่ามาเกี่ยวข้องกับ หลวงตาตรงไหน แต่ หลวงปู่บุดดา ท่านสนิทสนมกับ หลวงพ่อวัดท่าซุงมากครับ จนครั้งหนึ่งคนคิดว่าเป็นหลวงพ่อ ฤาษีลิงขาว แต่ด้วยวัยที่ต่างกันมาก ข่าวลือจึงหยุดไปเอง[/quote]

******************************************​

เหรียญพัดยศ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ โดยคุณพีเสาวภา ขออนุญาตยกมาค่ะ

 

บัญชีธนาคารที่ให้ร่วมทำบุญอยู่หน้าไหนครับ ถ้าใครผ่านมาพอทราบ รบกวนนิดนึงครับ
อยากร่วมทำบุญด้วย บัญชี มีกำหนดปิดมั๊ยครับ เผื่อสะดวกได้ร่วมทำบุญเรื่อยๆครับ อาจจะไม่เยอะมากนะครับ
ขอบคุณมากครับ
(ถ้ามีบัญชี ของวัดศาลาดิน ผมขอด้วยนะครับ)

 

***กราบ กราบ กราบ หลวงตา หลวงปู่ อั้บ หลวงพ่อ ทรง ครับ***

 

ขออนุญาตเรียนคุณศิษย์ค่ะ

ด้วยทางเวปจะอนุญาตให้แจ้งเลขที่บัญชีร่วมบุญเฉพาะที่ห้องประมูลเพื่อการกุศล เรียนเชิญและขอโมทนา สาธุค่ะ

คุณพี เสาวภา วางเป้าหมายโครงการบุญไว้ ๑๐๐๐ บุญ ตามรายละเอียดตารางบุญที่ได้สร้างไว้แล้วนี้ค่ะ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อ ค่ะ​

 

quote=พี เสาวภา;4759558

พื้นเรื่องเดิม

ก่อนจะต่อกันไปลึกๆ ขอบอกก่อนว่า ผมจะเขียนเรื่องตามความเชื่อถือของผม ที่เชื่อมานานตั้งแต่ก่อนพบหลวงปู่พระครูบุญศรี การเชื่อนี้เป็นความเชื่อส่วนตน แต่มีหลักฐานอ้างอิงตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ ซึ่งในตอนนั้น ผมเรียนซักถามไว้เป็นความรู้ส่วนตน ไม่ได้คิดจะเขียนให้คนอื่นอ่าน

หลังจากผมฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่จะเป็นอาจารย์องค์แรกในชีวิตของผมที่เป็นฆราวาส และ ฝากตัวด้าน ไสยศาสตร์ ซึ่งบอกตามตรงเรียนมาไม่มาก เพราะตอนนั้นก็เริ่มมีอายุ มีภาระมาก เรียนมาแค่ตัวสองตัว ส่วนอาจารย์องค์แรกตอนบวชเป็นพระ ก็คือ พระอาจารย์แม้น ตอนบวชเป็นพระครั้งแรก ก็บวชที่วัดหน้าต่างนอก มี หลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีพระอาจารย์แม้น และ พระอาจารย์อีกท่านที่ผมลืมชื่อท่านไปซะแล้ว เป็นคู่สวด คือพระกรรมวาจาและพระอนุสาสนาจารย์ เพราะนานหลายสิบปีเลยลืมๆ และ ผมบวชแค่ระยะสั้นๆ แค่สองอาทิตย์ ตามเวลาที่ลามาบวชได้

ผมเชื่อเรื่องกรรม ว่ากรรมทั้งหลายจะดึงดูดคนที่เคยมีกรรมร่วมกัน ทั้งกรรมดี กรรมชั่ว อย่างเช่นเมื่อทำกรรมดีร่วมกัน เคยเป็นศิษย์อาจารย์กันมา ยังไม่เข้าพระนิพพาน ยังวนเวียนอยู่ใน วัฏสงสาร ก็มาเกิดร่วมกัน แบบ ศิษย์ อาจารย์ หรือ แม่ พ่อ ลูก ร่วมกันอีก

ในทางอุปมาอุปมัย ถ้าเคยทำชั่วๆร่วมกันมา คือ ทำกรรมชั่วต่อกันมา ก็ต้องเกิดมาล้างตากันต่อในชาติต่อไป ตามแรงกรรม แรงอาฆาต อันนี้น่าจะเห็นตัวอย่างกันมาหลายครั้ง

ผมเองก็ต้องน่าจะเคยทำกรรมด้านดีไว้กับวัดหน้าต่างนอก เคยร่วมสร้าง ร่วมทำบุญไว้ โอกาสนี้ก็เลยต้องมาวนเวียนเป็นลูกศิษย์วัดหน้าต่างนอก อยู่หลายสิบปี ไปๆมาๆ ก็ครูบาอาจารย์ เทพยดา ที่นับถือก็อยู่วัดนี้นี่เอง และวัดนี้ มีปรมาจารย์ใหญ่ ที่ชื่อเสียง คุณธรรม ยิ่งใหญ่และเกรียงไกรอย่างยิ่ง อยู่ท่านหนึ่ง ท่านนี้คือพระเดชพระคุณท่านนี้ คือ หลวงพ่อ จง นั่นเอง



View attachment 1517889
ถ้าเอาแบบเข้าข้างกัน...แหะๆ ถ้านับพระสงฆ์ ที่ระดับ top ten ในประเทศไทยแล้ว เอาทั้งแบบ ที่ไม่มีสังขารอยู่แล้ว และยังที่มีสังขารอยู่ เอามา rating กันแบบ ฝรั่งทำ ด้านคุณธรรม ชื่อเสียง ความสามารถด้านอภิญญา ความเมตตาต่อ เหล่าสรรพสัตว์ ฯลฯ ที่แน่ๆคือมีสององค์ อันดับแรกคือ

ท่านแรก
๑) หลวงพ่อทวด วัด ช้างให้ มาเต็งๆหนึ่ง แน่นอน ทั้งชื่อเสียง คุณธรรม ด้านอาวุโส ประสบการณ์ ด้านวัตถุมงคล ด้านราคา อันนี้ คงไม่มีใครเถียง ถึงมีคงไม่มาก ว่า หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ท่านเกรียงไกรเป็นอย่างยิ่งโปรดไปกระทั่ง ต่างประเทศ คนต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างได้รับ คุณธรรมของท่านมาโดยทั่วถ้วนหน้า

๒) ตามจี้มาแบบหายใจรดต้นคอ ไม่มีทางพลาด สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) พรหมรังสี แน่นอน องค์นี้ไม่ต้องโฆษณามาก เพราะดังสุดๆ พระเครื่องของท่าน อันดับหนึ่ง ด้าน อิทธิฤทธิ์ บุญญฤทธิ์ ด้านราคา ด้านบารมี จาระนัยไม่หมด ศิษย์มีทุกชาติ ทุกภาษา บารมีรอบโลก

องค์ที่สาม ไปถึงสิบ อันนี้แหละ ต้องมาว่ากัน เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อ ศุข วัดมะขามเฒ่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ครูบาศรีวิชัย หลวงปู่แหวน หลวงปู่ฝั้น หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงปู่ บุญวัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางฯ อีกเหมือนกัน ท่านพ่อลี หลวงพ่อวัดปากน้ำ หลวงพ่อปาน ( ปานแรก วัดบางเหี้ย ) หลวงพ่อ ปาน วัดบางนมโค และน่าจะมีอีกหลายหลวงปู่หลวงพ่อ ฯลฯ ถ้าจะเอามาแสดงกันจริงๆ

แต่ถ้าถามผมแบบเชียร์กันเอง...แหะๆ อันดับสาม ต้องเป็น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ครับไม่มีพลาด ไม่ได้เชียร์ครูบาอาจารย์ ตัวเอง แต่หลวงพ่อ จง ท่านมีครบคุณสมบัติครบถ้วน แบบสูงสุดคืนสู่สามัญ เมตตา แบบพระโพธิสัตว์ ทำให้และให้ทุกอย่างที่ญาติโยมขอ ขนาดตายไปแล้ว โยมมากัดนิ้วมือไปบูชาก็ให้ครับ ที่ให้ไม่ได้ก็ยกเว้นเดือนกับดาว ซึ่งเหาะไปเอามาไม่ได้เท่านั้น นอกนั้น อยากได้อะไรก็บอก ส่วนด้านอภิญญามีครบ ทำได้ แบบจิ้บๆ เป่า พ้วงเดียว เอาไปติดตัวได้มีครบ คงกระพัน มหาอุตม์ ชาตรี แคล้วคลาด เมตตา ส่วนด้าน คุณธรรม ธรรมมะ ท่านเป็นพระอริยบุคคล ระดับใดระดับหนึ่งแน่นอน ( บำเพ็ญบารมีด้านพระ โพธิสัตว์ ) ช่วยเขาทุกอย่างขนาด นอนป่วยก็ช่วย กำลังสวดมนต์อยู่ ก็หยุดมาช่วยเขา ลูกศิษย์มีเพียบ พระดังๆ ยุคต่อมา มาสืบประวัติดูกัน ต่างเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อจงแทบทั้งสิ้น จะมีบุญวาสนาไปเรียนอะไรมาจากหลวงพ่อจงเท่านั้น ความรู้ด้านปรมาจารย์ คาถาอาคม พิธีกรรม มีเพียบ ใครไปเรียนด้วยไม่มีทางได้มาหมด เคยธุดงค์ ไปไกลถึงพม่า ช่วยทหารๆหาญยุคสงครามไว้จนนับไม่ถ้วน ได้โปรดถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ขนาดถูกนิมนต์เข้าไปวัง มีตราตั้ง มอบมาให้ติดรถ เรือ ว่าเข้าวังได้ทุกเวลา เครื่องรางของขลังมีเพียบ ประสบการณ์เพียบ ผ่านศึกสงครามหนักๆมาแล้วทั้งสิ้น


เหรียญ เงินลงยา ปี ๒๔๘๕ เซียนใหญ่ขายเหรียญล่ะ ล้านห้า เครื่องรางของขลัง คนก็ยังหากันอยู่จนวินาทีนี้ เก่งด้านน้ำมนต์ เก่งด้านคงกระพันชาตรี เก่งด้านเมตตา ค้าขาย ด้านพระศาสนา และด้านธรรมมะ พระในยุคนั้น ต่าง ยอม หลวงพ่อ จง ทั้งสิ้น เป็นคนนอบน้อมถ่อมตน ไม่อวดอภินิหาร ไม่โอ้อวดคุณธรรม พูดน้อย ( ต่อยหนัก อันนี้ผมว่าเอง หมายความว่า ทำของและวิชาขลังมาก ) โอ้ย จิปาถะ จาระไนไม่มีทางหมด ต้องว่ากันอีกเป็นสิบๆหน้า...แหะๆ ก็จะไม่ได้ครึ่งที่หลวงพ่อจงท่านมี

แล้วหลวงพ่อจงมาเกี่ยวอะไรกับหลวงปู่พระครูบุญศรีครับ ....แหะๆ เกี่ยวครับ

หลวงพ่อจงเป็นอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงปู่บุญศรีครับ และเป็นองค์สำคัญ ต่อจาก หลวงพ่อปานและหลวงปู่สุ่น ด้วยครับ

ตามประวัติหลวงปู่พระครูบุญศรี ท่านมาเรียนและโตที่อ่างทอง ถ้าความเชื่อของผมถูก น่าจะประมาณปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ถึง ๒๔๖๐ กว่า จนครบบวช หลวงปู่ท่าน เป็นคนมีกระตังค์ครับ ครอบครัวท่านเป็นเศรษฐี เป็นคนมีการศึกษามาตั้งแต่เด็ก เรียนจบ ถึง ม.๓ ตอนพ.ศ.นั้นมาเทียบยุคนี้ น่าจะใกล้ระดับ ปริญญา ตรี ออกมาเป็นครูเข้าได้ ชาติตระกูลมี คือ ตระกูล สังขะพานิช กิริยามารยาท เป็นคนมีชาติตระกูล ไม่ใช่ตาสี ตาสา ครอบครัวท่าน ค้าขายทางเรือ ขนข้าวมาขาย กทม และ ขนของจาก กทม ไปขายที่ชัยนาท เศรษฐีน่ะแหละ เพราะฉนั้นที่ท่านมาบวชไม่ใช่ บวชตามประเพณี หรือ แก้บน แต่บวชเพราะอยากเรียน วิชาครับทางพระครับ เพราะทางโลกมีครบแล้ว และตามประวัติ ไม่มีเมียมาก่อนน่ะครับ บริสุทธิ์มาตั้งแต่ฆราวาส

และถ้าท่านบวช ตามปี ที่ผมประมาณ คือ ๒๔๗๑ ในยุคนั้น ท่านก็ยังนั่งเรือของครอบครัวท่านเที่ยว ธุดงค์อยู่ครับ ท่านบอกผมว่า

ท่านบอกว่า ท่านเกิดที่วัดสิงห์ และคุณยายอยู่สรรพยา เป็นผู้บวชให้ท่าน ท่านเคยค้าขายที่ตลาด บ้านหลวง จ. อ่างทอง หลัง พ.ศ. ๒๔๗๕ ( อายุ ๒๗ ปี ) ค้าขายทางเรือมาประมาณ ๑๐ ปี เคยเอาข้าวมาขายที่ อยุธยา และ กรุงเทพฯ เคยนั่งเรือกลไฟมา กทม และเคยผูกเรือโยงที่บ้านแขก? ท่านบอกว่าที่ กทม ในยุคนั้น มีน้ำก๊อก ทุกถนน และมีต้นไม้เยอะทุกถนน ท่านยังเคยมาวัดหน้าต่างนอก ( ทางเรือ ) และรู้จักหลวงพ่อสุ่นด้วย อันนี้อาจจะเป็นอีกทาง ที่รู้จักกันกับหลวงพ่อปาน หลวงพ่อจงและพระเดชพระคุณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ผมหาข้อมูลหลวงปู่สุ่น ปฐมปรมาจารย์สายนี้ไม่ได้เลย พระเครื่องสักองค์ยังหาไม่ได้เพราะท่านเป็นพระยุคเก่ามาก ที่ยากทราบคือว่า ท่านล่ะสังขาร พ.ศ. อะไร จะได้ กำหนดจุดให้ชัดเข้าว่า หลวงปู่ บุญศรี ไปหาหลวงปู่สุ่น ท่าน พ.ศ. อะไร และในการไปนั้น ได้ไปหา หลวงพ่อ ปาน และ หลวงพ่อจงด้วยครับ และคงไม่ได้ไปแบบแวะเที่ยวเล่นธรรมดา ส่วนพระเดชพระคุณ หลวงพ่อปานนั้น ล่ะสังขารเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๐ ซึ่งหลวงปู่บุญศรี เกิดทัน และ โตทันแบบสบายๆ

ตามประวัติของหลวงปู่ ท่านบวชกับหลวงปู่ บุญธรรม ( พระมอญ ) บวชด้วยกัน ๕ รูป สาเหตุที่บวชเพราะอยากจะเรียนวิชา หลวงปู่บุญธรรม ท่านบอกว่าต้องบวช ผมไม่ได้ถามว่า บวชแล้วต้องสึกหรือไม่ ลืมถามเพราะไม่คิดว่าจะต้องมาเขียนเรื่องใน พ.ศ.นี้ ใน ๕ รูปที่บวช เหลือ หลวงปู่ บุญศรี องค์ เดียวที่เหลือ ( อันนี้ อาจจะหมายความว่ายังมีชีวิตอยู่ในตอนที่เล่า หรือ เหลือรอดได้วิชา มาองค์เดียว ) หลวงปู่ท่านชอบเรียนวิชาครับ วิชาที่เรียนมา เป็นด้านน้ำมนต์ ( น้ำมนต์ เป็นวิชาเอกของหลวงปู่บุญศรี ) ด้าน หมอยา และ ด้านคงกระพัน สักเสก เลข ยันต์

หลวงปู่ชอบเรียนวิชาครับ ชอบศึกษา ชอบอ่าน ชอบค้นคว้า ทดลอง และการที่ท่านไปหา หลวงปู่สุ่น และต่อไปหลวงพ่อ ปาน และ หลวงพ่อ จง ก็คงไปเรียนวิชาครับ ซึ่งต่อมา หลวงปู่บุญศรีก็เป็นหมอยาในยุคนั้นครับ เก่งด้านน้ำมนต์ ด้านหมอยา และ สักอักขระเลขยันต์ เหมือนตามสมัยนิยม ความนิยม สำหรับปรมาจารย์ในยุคนั้น

การที่หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ เอ่ยถึง ท่านคุณแม่ประทุม ว่าให้มาหา หลวงปู่ พระครู บุญศรี ก็คงเป็นเพราะท่าน คงเคยรู้จักกัน และ เป็นศิษย์ อาจารย์เดียวกัน สายเดียวกัน และ รู้คุณธรรมของกันและกัน





View attachment 1517890 View attachment 1517891 View attachment 1517892


View attachment 1517893

โบถส์เก่าสมัยหลวงพ่อจง ที่ผมเคยบวช ตอนนี้กลายเป็นพระวิหาร เพราะมีโบสถ์ใหม่ มีพระสำคัญ คือ หลวงพ่อ สัพพัญญู พระประธานศักดิ์สิทธิ์อยู่ และหลวงปู่บุญศรีต้องเคยมายังสถานที่แห่งนี้

ยังมีต่อน่ะครับ กำลังจะเข้าเรื่อง ข้างในไปเรื่อยๆและมันส์อย่างยิ่ง ผมจะเขียนแบบหมดเปลือก ถวายหลวงปู่อาจารย์ผม [/quote]

*****************************************​

คุณพี เสาวภา กับบทความที่เขียนระลึกถึงคณาจารย์ที่เคารพบูชา ขออนุญาตยกมาค่ะ

 

กราบโมทนาในกุศลจิตน่ะครับท่าน มาร่วมช่วยกันให้ถึง พันบุญตามกำลังจริงๆ ห้าบาท สิบบาทก็ ได้ตามกำลังจริงๆครับ

ขอให้ท่านมาร่วมบุญด้วยเจตนาของท่านเอง ทางพี่น้องกระทู้ ไม่มีการเรี่ยไร ท่านแต่อย่างใดน่ะครับ...แหะๆ

สุวรรณบัญชี อยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ประมูลน่ะครับ

http://palungjit.org/threads/ประมูล...-หลวงพ่อทรง-สีผึ้งพระอินทร์-เบี้ยจั่น.329652/

 

*****************************************​

คุณพี เสาวภา กับบทความที่เขียนระลึกถึงคณาจารย์ที่เคารพบูชา ขออนุญาตยกมาค่ะ[/QUOTE]

ไม่ทราบว่าหน้าไหนครับ อ่านกำลังสนุกๆเรย แฮะๆ

 

ไม่ทราบว่าหน้าไหนครับ อ่านกำลังสนุกๆเรย แฮะๆ[/QUOTE]

น่าจะยังไม่ได้เขียนเลยครับ...แหะๆ

เนื่องจากมีภาระกิจมาก แต่ประวัติของท่าน ...น่าทึ่ง

และยังเขียนไม่ได้ครับ เพราะข้อมูลของผม อาจจะไปคัดง้างกับขอมูล ของท่านอื่น ซึ่งเขียนมา

อาจจะไปยังการขัดแย้ง และ สื่อไปด้านค้าขายวัตถุ ของหลวงปู่ ( ที่ท่านแจกฟรี ) ที่จะมาอ้างอิงข้อมูลของผม

ผมจึงเลิกเขียนไว้ระยะหนึ่ง ครับ จนทุกอย่างดูว่า เขียนต่อได้

ท่านไม่ได้ดังอะไร เงียบมาสิบๆปี จะเงียบต่อไปไม่น่าจะเป็นปัญหาใด

 

กราบกราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ

 

วันนี้เหนื่อยหน่อยน่ะครับ

ขอกราบลาไป เข้า ชาน ก่อน...แหะๆ

 

​

สาธุ กราบโมทนาบุญค่ะ​