ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ยาตัวนี้เป็นยาที่สุดยอดตัวหนึ่งทีเดียว
กระเทียม + ข่า แก่ๆ + รากมะกรูด(ใช้ใบและกิ่งก็ได้)+เกลือหน่อยหนึ่ง(ได้เกลือตัวผู้ยิ่งดี) นำไปต้มเคี่ยวในน้ำกระทิ จนงวดเป็นน้ำมัน (วิธีทำแบบโบราณ)
และช้อนเอาน้ำมันมาทา แผลอันเกิดจากโรคผิวหนังชนิดต่างๆ (โรคเรื้อนและสะเก็ดเงิน ก็ยังรักษาหายนะ)

ยาตัวนี้ ทำแบบโบราณ ก็ต้องเอาไปต้มในหัวกะทิ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆจนแตกมัน เวลาเอามาใช้ ก็ช้อนเอาแต่น้ำมันกะทิ(น้ำมันมะพร้าว) มาใช้
ยานี้ "กินก่ได ทาก่ได"
นี่เป็นภาษาโบราณนะ คนสมันใหม่นี่อ่านแล้ว ก็พาซื่อ นึกว่าเป็นเคล็ดวิชา จึงอาน้ำมันที่ทำแล้วเอาไปทาที่กระไดบ้าน และกินยาตรงข้างกระได นั่นเอง)
แต่มันก็หายนะ เรื่องก็เล่าลือกันไปว่า คนเป็นโรคเรื้อน เอายาไปทาที่กระไดบ้าน แล้วเอามีดถากกระไดบ้านมาต้มกิน

สมันใหม่นี้ มานั่งเคี่ยวกะทิ กว่าจะเป็นน้ำมันนี่ ใช้เวลาเป็นวัน สองวันเลยนะ มันไม่ทันกิน
สู้เอาน้ำมันมะพร้าว ที่เขากลั่นเย็น มาต้ม กับยาเลย มันเร็วดี
กระเทียม กับข่า และ กิ่งก้านมะกรูด ก็เอามาทุบมาโขลก ให้แหลกๆหน่อย เวลาต้มเวลาเคี่ยว ตัวยาก็จะออกมาเร็วขึ้น จะได้ใช้เวลาน้อยหน่อย

สรุปยาตัวนี้ ใช้ได้ทั้งกินและทานะ

 

เห็นอาจารย์ เอาภาษาโบราณ มาพูดถึง
ผมเคยได้ ตำรา โบราณ ที่เขียนเป็นภาษาขอมไทย และ ภาษาไทย เป็นของคนโบราณ ท่านจดบันทึก วิชาความรู้ไว้

หนังสือโบราณ อ่านยาก ครับ แค่ อ่านให้ออก ก็ ยังยาก ที่เค้าเขียนเป็น ขอม ก็ อ่านยากอยู่แล้ว ที่เขียนเป็น ไทย อ่านง่ายหน่อย
อ่านออกแล้ว ยังต้องมาคิด ตีความ ว่า ที่เค้าเขียน อ่านออกมา แล้ว แปลว่าอะไร หว่า

คนโบราณ ท่านเขียน แบบภาษาในยุคนั้น พวกเรา ฟัง ก็อาจจะแปลกๆ หู
เผลอ ไป เข้าใจความหมายผิด อีก

กับที่ เค้าเขียน แบบเจ้าบทเจ้ากลอน ใช้คำคล้องจอง หากไม่มีพื้นความรู้ ด้านนั้นๆมาก่อน เดาไม่ถูก ทีเดียว ว่า นั้นคืออะไร

"ให้ เอาน้ำตาลิง หรือน้ำพิงกะได" มาเป็นกระสัยยา
หากเราเจอตำรายา อย่างนี้

เห็นที อาจจะต้องทำบาป จับลิงมา ตี ให้ มันเจ็บจนน้ำตาไหล หรือไม่ ก็ คง ต้องไปหาน้ำล้างเท้าหัวบันไดบ้าน มา ทำ กระสัยยา กันละ.............55

อาจารย์ เห็นเข้า คงยิ้มๆ .... แล้ว บอกว่า
โฮ้ย... มันแปลว่า น้ำตำลึง หรือ น้ำผึ้ง ก็ได้.

ได้ ฮา กันใหญ่ ละ........55

 

ผมแจ้งข่าวแก่สมาชิกทุกท่านครับ
"อาจารย์หมอสุวิ ได้เปิดบัญชีธนาคาร เอาไว้ให้ผู้เจ็บป่วยทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์ทั้งเล็กใหญ่
โดยท่านอาจารย์หมอสุวิจะเป็นธุระเอาไปทำบุญไถ่ชีวิตให้ พร้อมการอธิษฐานบุญขอรักษาโรค หรือขอต่อชีวิต หรือขอไถ่โทษ ผ่อนหนักให้เป็นเบา

บัญชีเพื่อ กองทุนไถ่ชีวิตสัตว์

ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาโฮมเวร์ค ราชพฤกษ์

บช.ออมทรัพย์ เลขที่ 405-567090-1

ชื่อบัญชี นาง พัชรินทร์ วงค์เอนกอนันต์"

รายละเอียดอยู่ที่ลิ้งบอร์ดข้างล่างนี้ครับ
http://palungjit.org/threads/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86.246180/page-97#post9327357

 

อนุโมทณากับอ.หมอสุวิ

 

เรียนทุกท่านเพื่อทราบ
หมอสุวิ ได้เปิดบัญชีบุญ ขึ้นสามบัญชี

๑. บัญชี กองทุนยาและบูชาครู เงินจากบัญชีนี้ ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในเรื่องแจกยา และการบุญทั้งปวงเช่น
การก่อสร้าง/บูรณะ โบสถ์วิหาร พระพุทธรูป ห้องน้ำห้องส้วม ค่าไฟฟ้า เลี้ยงพระ ถวายภัตราหาร สังฆทาน ฯลฯ ตามแต่หมอสุวิจะเห็นสมควร
อีกส่วนหนึ่งจะเป็นเงินที่หล่องเลี้ยงกายสังขารของหมอสุวิเอง

บัญชี กองทุนยาและบูชาครู หมอสุวิ
ธ.ไทยพานิชย์ สาขาย่อย พันทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน
บช.ออมทรัพย์ เลขที่ 388-2-18293-7
ชื่อ นาย วินันท์ วงศ์เอนกอนันต์

๒. บัญชี เพื่อสร้างพระประธาน วัดป่ากังวาลไพร ชัยภูมิ (เงินที่ได้รับจะเป็นไปเพื่อสร้างพระ ตามวัดที่ระบุเพียงอย่างเดียว)

บัญชีเพื่อ ร่วมสร้างพระประธาน วัดป่ากังวาลไพร จ.ชัยภูมิ
ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาแฟชั่น ไอส์แลนด์
เลขที่บัญชี 865-0-39663-6
นาง พัชรินทร์ วงศ์เอนกอนันต์

๓. บัญชี กองทุนไถ่ชีวิตสัตว์ (เงินที่ท่านให้มา จะเป็นไปเพื่อการไถ่ชีวิตสัตว์ ใหญ่เล็กทั้งปวง

บัญชีเพื่อ กองทุนไถ่ชีวิตสัตว์
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาโฮมเวร์ค ราชพฤกษ์
บช.ออมทรัพย์ เลขที่ 405-567090-1
ชื่อบัญชี นาง พัชรินทร์ วงค์เอนกอนันต์"

เพียงไม่กี่วันที่หมอสุวิ ประกาศตั้งกองทุนไถ่ชีวิตสัตว์ ก็มีผู้ร่วมบุญมากมาย ทำให้ยอดเงินที่เช็คครั้งสุดท้ายเมื่อเย็นวันพฤหัส สูงเกือบ สองหมื่นบาท
ดังนั้น จึงตั้งใจไว้ว่า วันอาทิตย์นี้(๙ พ.ย.๕๗) จะไปไถ่ชีวิตวัวสักตัวหนึ่ง ที่วัด บางบัวทอง
เขาตั้งราคาไว้ ลูกวัว ๕,๐๐๐.- ตัวย่อมหน่อย ก็ ๑๐,๐๐๐.- โตหน่อยก็ ๑๕,๐๐๐.-ไอ้ตัวยักษ์ๆนี่เขาตีราคาไว้ ๒๐,๐๐๐.-

ครั้งนี้ ว่าจะขอปล่อยไอ้ตัวยักษ์ใหญ่ให้ได้สักตัวหนึ่ง
ที่วัดนี้ หมอสุวิ มาไถ่ชีวิตสัตว์หลายครั้งแล้ว ก็ได้เพียงลูกวัวตัวหนึ่งบ้าง ได้ขาข้างหนึ่งบ้าง(ก็มีเงินไม่ครบตัวนิ)
ก็เพื่อต่อชีวิตบ้าง เพื่อเปิดทางการรักษาโรคบ้าง ไห้คนไข้ในเคสพิเศษ ที่กรรมตัดรอนจนหมดทางไป


และมีบางท่านได้โอนเงินมาทำบุญร่วมกับหมอสุวิ โดยโอนเงินมาเพียงบัญชีเดียว
และขอให้หมอสุวิ กระจายเงินเป็น ๑.กองทุนยาฯ ๒.เป็นเงินสร้างพระ และ๓.เป็นเงิน ไถ่ชีวิตสัตว์

ในกรณีแบบนี้ ขอให้ โอนเงินมาใน "บัญชีกองทุนยาและบูชาครู" เท่านั้น
แล้วหมอสุวิและคุณพัชรินทร์ จะแยกเงินออกไปให้ ตามบัญชีที่ผู้บริจาคต้องการ

หากโอนเงินมาในบัญชีสร้างพระ หรือ ไถ่ชีวิตสัตว์ หมอจะไม่ดำเนินการแยกเงินไปทำบุญตามที่ท่านต้องการ

 

สวัสดีครับขอเล่าให้ฟังดังนี้ครับ
คือจู่ๆเข่าขวาผมมันก็ปวดดื้อเลยครับ ทั้งๆที่ช่วงนั้นผมไม่ได้เล่นกีฬาไรเลย ไม่ได้วิ่งเลย ตื่นนอนมาเข่าก็ปวด พอวันที่สองเริ่มบวมขึ้น วันที่สามบวมใหญ่ชัดเจนและปวดตลอดเวลา เดินก็ไม่ได้ปวดมาก จนต้องไป รพ หมอได้เจาะเอาน้ำในเข่าออก อาการปวดก็หายไปเลย และนำน้ำนั้นไปตรวจหาเชื้อ ปรากฏว่าไม่พบเชื้อ แต่หมอสันนิฐานน่าจะติดเชื้อเพราะมีอาการไข้จึงให้แอดมินรอดูอาการสามวัน ปรากฏว่า ไข้ขึ้นทุกวัน เดี๋ยว37องศาบ้าง38องศาบ้าง วันที่สามหมอเลยให้ไปผ่า และก็ตรวจหาเชื้ออีกรอบหนึ่ง ก็ยังไม่เจอเชื้อเหมือนเดิมครับ แต่มันมีไข้หมอก็บอกว่าน่าจะติดเชื้อ แต่ตรวจแล้วไม่เจอ ถึงตอนนี้ ผ่านมาแล้วหนึ่งเดือนกว่า เข่าก็ยังบวมอยู่แต่ไม่มากเหมือนก่อน และยังรับน้ำหนักไม่ไหว

คือผมสงสัยครับว่า จู่ๆเข่าปวดขึ้นมาเองได้ไง และอาการเหมือนเข่าจะติดเชื้อแต่ก็ตรวจหาไม่เจอถึงสองครั้ง ผมคิดว่ามันแปลกๆครับ

หากท่านมีเวลาว่าง ขอรบกวนท่านตรวจดูผม ได้ไหมครับ ว่าเกิดจากอะไร มีวิธีรักษาไหม
กราบขอบพระคุณครับ

 

ติ่งเนื้อบนผิวหนัง


พอเราอายุมาก หรือในบางคนที่อาจมีปัญหาผิวหนัง สามารถมีจะมีติ่งเนื้อ ตั้งแต่ขนาดจิ๋วแทบไม่เห็น แต่เจ้าของติ่งเกิดความรำคาญเวลาถูสบู่แล้วผิวมันไม่เรียบลื่น จนไปถึงติ่งขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย


ดิฉันเห็นว่าบางเว็บมีการลงข้อความเขียนถึงวิธีการรักษาด้วยตัวเองเอาไว้ด้วย (ถ้าติ่งใหญ่กว่านิ้วก้อย ก็ไปพบแพทย์เถอะนะคะ)

http://beauty.spokedark.tv/2013/11/12/remove-your-skin-tags/#.VGQIyzSsVc4


แต่ทว่าติ่งเหล่านี้เนี่ย จะรักษาให้หายไปได้ด้วยตัวเองจริงๆ ตามข้อมูลที่อยู่ในเว็บจริงๆ รึ? ชัวร์หรือมั่วนิ่ม? เราไปคุยกับหมอสุวิ กันดีกว่านะคะ


คุณหมอสุวิตอบค่ะ :

วิธีขจัดติ่งเนื้อด้วยวิธีดังกล่าว มีทั้งที่ได้ผลและไม่ได้ผล

วิธีตัดออก ก็ได้ผลนะ วิธีนี้แพทย์แผนปัจจุบันก็ใช้กัน

วิธีเอาเชือกผูก นี่ก็ได้ผล

ส่วนอีกสองวิธี น้ำมันละหุ่ง+เบ๊กกิ้งโซดา และน้ำส้มสายชูหมัก+แอปเปิลชะไนเดอร์ ใช้ไม่ได้ผลดังใจ (ความจริงน้ำแอปเปิลชะไนเดอร์ ก็เป็นน้ำส้มสายชูหมักชนิดหนึ่ง)


ที่น่าสนใจคือ น้ำสมสายชูหมัก + เบ๊กกิ้งโซดา อันนี้ได้ผลแฮะ แต่เสบชมัด

น้ำส้มสายชูหมัก ที่มีขายในบ้านเรามีอยู่ 2 ชนิด

1. น้ำสมสายชูหมักจากแอปเปิล(แอปเปิลชะไนเดอรฺวิก้า)

2. น้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรด



น้ำสมสายชูหมัก+เบ้กกิ้งโซดา ที่ได้ผลที่สุด คือใช้น้ำสมสายชูหมักจากสับปะรด รองลงมาคือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (แต่แตกต่างกันไม่มากนัก)



ถาม : อันไหนแสบน้อยกว่าคะ? (คิดถึงความอดทนของมนุษย์เป็นเกณฑ์นะคะ) ดิฉันใช้กรรไกรตัดเล็บตัด แต่หวาดเสียวมาก แต่ถ้ามันมีเยอะมากๆ เหมือนที่คนสูงอายุชอบเป็นก็อาจต้องพึ่งการใช้ป้ายยาเอาหนะค่ะ

ตอบ : ก็แสบพอๆกันนั่นแหละ น้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรด ทำในเมืองไทย(ถู้กถูก) น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล นำเข้า แพงกว่าแยะ


ปล. อนึ่งหากนำมากินลดความอ้วนนี่ คนทั่วไปชอบรสชาติ ของแอปเปิล ว่าน่ากินกว่า แต่ก็อยูที่รสนิยมแล้ว เพราะบางคนก็ว่า ชั้นชอบสับปะรด



ถาม : เฉพาะงานนี้หนะค่ะ เรากำลังพูดถึงเรื่องเอามาทาไม่ใช่รึคะ?

ตอบ : น้ำส้มสายชูหมักนี่ "กินก่ได ทาก่ได" แต่สูตรยาคนละอย่างกันนะ (ย้ำ) อย่าสับสน


ถาม : น้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรด ล่ะคะ มันกัดลำไส้บ่อ?

ตอบ : น้ำส้มสายชูหมัก มันกัดกระเพาะและลำไส้อยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับความเข้มข้น โดยปกติเขาจะเอามาผสมน้ำผึ้ง +มะนาวหรือมะกรูด(แต่งรสหน่อย) +น้ำร้อน ให้ความเข้มข้นพอเหมาะ แค่นี้ก็กินได้สบายแล้ว(หย่อย) มันไม่กัดเนื้อเยื่อ แต่กัดเมือกมันที่เคลือบลำใส้ออกซะบ้าง การดูดซึมก็จะดีขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมเรื่องความสมดุลย์ระหว่างกรดและด่างของร่างกายด้วย(เคยบอกไว้แล้ว)

 

ขอบคุณมากๆ ค่ะที่นำวิธีดีๆ มาบอกกัน เป็นอยู่พอดี ขึ้นเต็มคอเลยค่ะ รำคาญด้วย ไม่ได้อายุเยอะแต่ว่าอ้วน อิอิ จะเป็นหนูทดลองให้นะคะ ถ้าได้ผลจะมาบอกกล่าวค่ะ แต่ขอเป็นแบบทาเอาดีกว่า กลัวเจ็บแต่ไม่กลัวแสบค่ะ

 

เมื่อหลายวันก่อน ให้นาย กรรมะ นิยาม ไปเจรจาความบ้านความเมือง
และที่สำคัญนาย polich68 ได้สะสมบุญไว้มากพอ
การเจรจา จึงสำเร็จได้ด้วยดี

ให้ขยันทำบุญไว้ รักษา กุศลกรรมบท ๑๐ ไว้ให้ดี
หากกระทำผิดในกุศลกรรมบท ๑๐ ก็เหมือนดังยก นรก มาวางไว้ในตัวทีเดียว

วันนี้ คุณ polich68 คงดีขึ้นบ้างแล้ว และคงจะหายขาดในไม่นานนี้
แต่หากอยากได้ยาหมอสุวิไปบำรุงร่างกาย ให้หายเร็วขึ้น ก็ติดต่อมานะ

 

แจ้งโอนเงินร่วมบุญ กองทุุนไถ่ชีวิตสัตว์ค่ะ
วันที่ 21 พ.ย. 2557 เวลา 16.58 น. โอนเงิน 355 บาท
เข้าบัญชี ธ. ไทยพาณิชย์ ในนาม สุชาดา คุณแม่ และเพื่อนค่ะ

โมทนาสาธุการกับอ.สุวิ และ ภรรยา คุณกะทิ คุณดาว และทุกท่านค่ะ

 

รบกวนหมอสุวิด้วยครับ ผมปวดแสบปวดร้อนที่เท้าทั้งสองข้างและเรื่อยมาถึงหน่อง ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ความดันปรกติ น้ำตาล132 เลือดปรกติ หมอก็ให้วิตามินกับยาแก้ปวดมาทาน ก็ยังปวด ตอนเย็นเท้าบวมตอนเช้ายุบ ตอนเช้าตื่นนอนจะปวดมากคุณหมอมียารักษาหรือเปล่าครับ

 

ยารักษามีอยู่ แต่การป่วยของคุณ มันเกี่ยวกับเรื่องของวิบากกรรม มีเจ้ากรรมนายเวรกำมะลอ ทวงหนี้อยู่(ตามวิบากที่ต้องชดใช้)
ให้คุณทำบุณ บ่อยๆ ตามที่หมอได้เขียนไว้ ให้มีปริมาณบุญเกินพอ เพื่อใช้ในการต่อรองและประกอบยาในการรักษา

ตอนนี้ยังอยู่ในช่วการเจรจา(ค่อนข้างจะพูดยากอยู่) ขอให้คุณอดทนอีกนิด
แต่หากมันยืดเยื้อ ก็อาจจะต้องจัดยาบันเทาให้ก่อน

 

เมื่อวานผมได้โอนเงินเข้าบัญชีกองทุนยาและบูชาครูหมอสุวื จำนวน 150บาท ขอให้คุณหมอใช้จ่ายตามเห็นสมควรครับ

 

การต่อรองเสร็จสิ้นแล้ว
แต่คุณยังคงต้องทำบุญเป็นกิจวัตร ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา เป็นประจำจึงจะหายขาด
เมื่อทำบุญแล้ว ให้อุทิศให้ตนเอง และครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุข
หลังจากนั้นให้อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ให้เขาเป็นสุข
และอุทิศให้เจ้าหน้าที่กฏแห่งกรรมทั้งหมด ให้เขาเป็นสุข(อุทิศให้เขาด้วยความบริสุทธิใจ-ห้ามติดสินบนเด็จขาด)

ให้รักษาไปตามอาการ
อาการต่างๆ(ตอนนี้น่า)จะค่อยๆดีขึ้นแล้ว อย่างช้าๆ

ไม่จำเป็นต้องกินยาพิเศแต่อย่างใด

 

กราบสวัสดีอาจารย์สุวิครับ
ขอรบกวนสอบถามในเรื่องของยา
ผง อบเชย ชงผสมน้ำผึ้งในน้ำอุ่น
ที่รักษาอาการได้หลายโรค
ซึ่งมีเรื่องของลดคลอเรสเตอรอลในเลือด
และช่วยในการลดไขมัน ลดน้ำหนัก
ว่า สรรพคุณของยาสูตรนี้ตามที่ว่า
สามารถช่วยลดได้ตามที่อ้างสรรพคุณหรือไม่ครับ
แล้วในส่วนของผงอบเชยที่ไม่ละลาย
ทั้งลอยหน้าและตกตะกอนด้านล่าง
หากกินเข้าไป มีผลกับระบบขับของเสียของร่างกายหรือไม่ครับ
รบกวนขอคำแนะนำในการใช้ยาสมุนไพรสูตรนี้ด้วยครับ

กราบขอบพระคุณอาจารย์ครับ

 

ผง อบเชย ชงผสมน้ำผึ้งในน้ำอุ่น กินแล้วรักษาอาการได้หลายโรค
สามารถลดคลอเรสเตอรอลในเลือด และช่วยในการลดไขมัน ลดน้ำหนักจริงหรือ

ตอบ
ไม่จริงเลยผงอบเชย ไม่สามารถลดไขมันได้ ไม่สามารถลดคลอเลสเตอรอล ในเลือดได้
และในเมื่อไม่มีอะไรเกี่ยวกับไขมัน มันจึงไม่สามารถลดน้ำหนัก อันเกิดจากไขมันส่วนเกินได้

แต่ ผงอบเชย เมื่อดื่มกับน้ำอุ่นมันจะช่วยลด น้ำตาลในเลือดได้เร็วมาก และกระตุ้นให้ร่างกายเผาพลาญ น้ำตาลได้เร็ว ทำให้รู้สึกอิ่ม ไม่อยากอาหาร
นี่จึงเป็นผลข้างเคียง ทำให้ลดน้ำหนักได้

การดื่มผงอบเชยเป็นประจำในปริมาณที่มากเกิน(กินวันละหลายๆครั้ง) กลับเป็นโทษ ทำให้ปริมาณน้ำตาลในกระแสโลหิต ลดลงไม่พอเลี้ยงร่างกายและสมอง
นี่ทำให้เกิดการช๊อก อันเกิดจากสมองขาดน้ำตาลได้

ในเมื่อผงอบเชยลดน้ำตาลได้ จึงมีผู้ใช้ผงอบเชย ในการรักษาเบาหวาน ควบคู่กันไปกับการกินยาคุมน้ำตาลของแพทย์แผนปัจจุบัน
ผู้ที่ใช้ ผงอบเชยในการลดน้ำตาลดังกล่าว ต้องระมัดระวังปริมาณการใช้ให้มาก เพราะอาจเกิดอาการช๊อกอันเกิดจากการขาดน้ำตาลฉับพลันได้

ดังนั้นจึงมีผู้เอาผงอบเชย ผสมน้ำผึ้ง(นิดหน่อย)ผสมน้ำอุ่นดื่ม เพื่อลดภาวะการขาดน้ำตาลในเลือด

อีกประการ ผงอบเชย ลดน้ำตาลได้
แต่ไม่สามารถรักษาต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้
ดังนั้นผงอบเชยจึงเป็นเพียงบันเทาอาการของเบาหวานได้เท่านั้น ไม่สามารถรักษาต้นเหตุแห่งโรคได้เลย

ส่วนผงอบเชยที่ชงในน้ำร้อนแล้ว มีผงมีกากเหลือ ที่ก้นถ้วย
มันก็เหมือน เราชงยาเขียว หรือยาหอม มันก็จะเหลือกากยาที่ไม่ละลายน้ำ
เราจะกินหรือไม่กิน กากยานั้นก็ได้ ไม่มีอะไรในเรื่องของตัวยา
แต่ผงกากเหล่านั้น ก็เป็นเซลลูโรส เป็นกากไยช่วยการขับถ่ายได้

 

รับทราบครับอาจารย์
กราบขอบพระคุณอาจารย์ครับ

 

ขอบพระคุณ คุณหมอมากครับ ตอนนี้อาการก็ดีขึ้นมาก ผมปฎิบัติตามที่คุณหมอแนะนำตอนนี้ก็ใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลตามที่คุณหมอแนะนำทุกวัน ผมไม่ได้เข้าเน็ตทุกวัน2-3วันจึงมาเปิดดูที ที่อยู่ที่ส่งยา ณัฎฐชัย พงศ์ทวีพรกิจ 14หมู่3 ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา24180 ครับ แล้วพรุ่งนี้จะโอนค่ายาไปให้ครับ

 

ครับ พรุ่งนี้จะส่งยาให้ตามที่อยู่ดังกล่าว

 

วันที่17 เวลา 19.15น ผมโอนเงินเข้ากองทุนยาจำนวน 1800บาทครับ