1.เรื่องของคุณเนี่ยมันเป็นเรื่องของกรรม ที่ตามกันมาทวงหนี้กัน 2.เรื่องอดีตที่ทำไปแล้วก็แล้วไป แต่คุณต้องให้อภัยตัวเอง และตัวแม่คุณนะ...
พระคำข้าวนั้น อานุภาพแรกคือ มหาลาภ อานุภาพที่ 2 คือแล้วแต่จะอธิษฐานเอา คำข้าวนั้น อานุภาพแรก คือคงกระพัน ป้องกัน อานุภาพที่ 2...
พุทธิมาเรโส วิธีทำคือ 1.จับพระ 2.ภาวนา 3.เข้าสมาธิพอลมระเอียดเข้าก็รู้พุทธคุณเอง
ผมคิดว่าไม่ควรที่จะเสพกามตรงสถานที่นังปฎิบัติ เพราะพลังงานของกามมันจะคลุมตรงนั้น ถ้าท่านปฎิบัติมาถึงจุดๆหนึ่งระดับ 10 ปีท่านจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด...
ผมต้องขอโทษคุณด้วย ผมเช็คคุณดูว่าของจริงหรือไม่ 1.ของจริงครับคุณมีภูมิทางนี้ คุณได้ฌาน 4 จริงๆๆ 2.แต่ผมเห็นจิตที่ค้างที่ยังติดอยู่ในจิตคุณ...
ผมจะขยายให้ฟังเพราะท่านต่างๆๆท่านได้แล้วและสรุปเลย ท่านไม่ได้อธิบายให้คุณฟัง **ก็คือคนที่จะสามารถรู้ความแตกต่างของคาถาอาคม...
ไม่แปลกหรอกครับ เป็นสายทางอีสานครับ แล้วแต่ใครจะปประยุคมาใช้ แต่ต้นฉบับก็คืออีสาร เขาเรียกว่า วิชาดวงธรรม.... ภาวนาให้มีเสียง การประยุกต์...
ระตะนัง ปุระโต อาสิ คาถานี้ ผมเช็คดูแล้ว ถ้าใช้ สิ ฟ้ายังไม่เปิดยังปิดอยู่ ต้องใช้ โส ระตะนัง ปุระโต อาโส ฟ้าจะเปิด
จะปฎิบัติสายไหนก็แล้วแต่ ก็เป็นสมาธิเหมือนกัน แต่แตกต่างกันด้านฤทธิ์ แต่เรื่องเป็นสมาธินั้นเหมือนกัน คนที่เล่นอานาปา หรือ กสิน ถ้าจะเอามาเล่น...
ไม่ได้เผลอ คุณมีสติอยู่ตลอดเวลาน่ะแหล่ะ และมีสมาธิด้วย แต่จิตคุณผ่านเวทนาได้ แล้วคุณรู้สึกไหมว่าร่างกายเบาขึ้น ลมหายใจคุณเบาขึ้น...
ผมก็ไม่รู้ผมยังบ่ได้เลย
หรือเล่นอย่างนี้ก็ได้ คนส่วนใหญ่สังเกตุไหมว่าบางคน ก็มีแฟนเยอะ มีคนมาชอบเราเยอะ บางคนก็น้อย...
คนที่สามารถดับความคิดได้ทันทีนั้น คนผู้นั้นจะต้องผ่าน ปีติตัวที่ 4 เกือบเข้าปีติตัวที่ 5 หรือใกล้ๆจะได้ฌาน 1 **ขนิกสมาธินั้น จะต้องจบ...
แต่ผมอ่านของท่าน oatthidet ผมเข้าใจหมดเลย เป็นภาษาที่ง่ายๆๆมาก เอามาจากประสบการณ์ที่ตัวเองเฝ้าสังเกตุมาอธิบาย แต่ในบางครั้งก็มีปริยัติ เหมือนกัน...
เดี๋ยวผมได้ฌาน 4 ก่อนเดี๋ยวไปฝึก เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าเป็นไง.......ตอนนี้ก็ลุยมา 8ปีแล้ว เมียไม่มี เพราะไม่เอา จะไปนิพพาน ลุยมาตั้งแต่ อายุ 26...
นักปฎิบัติที่มีเมีย กับนักปฎิบัติที่ไม่มีเมีย .....ไม่เหมือนกันหรอก นักปฎิบัติที่มีเมีย กามจะน้อยกว่าเฉพราะผิวบนๆๆ...
1.มันไม่บาปหรอกครับ แต่มีผลอย่างนี้ครับ ถ้าคุณลองสังเกตุจิตใจดู คุณจะเห็น เพราะมันระเอียดมาก แทบจะไม่เห็น...
ผมอ่านแล้วถ้าผมวิจารย์ผิด ผมต้องขออภัยด้วยครับ ถ้าผมเดาผิด เพราะผมยังไม่ได้ไปเรียนมา คนที่จะทำถึงจุดตรงนี้ได้นั้นจะต้องเห็นดวงปฐม...
ดวงเห็น-จำ-คิด-รู้ เนี่ยความเข้าใจของผมก็คือ นิวรณ์......เมื่อไหร่เจ้าทั้ง 4 ตัวหยุดนิ่ง นั่นก็คือเราได้ ฌาน 2 เพราะคำภาวนามันหยุด...
เนี่ยผมลองท่องตาม นะ หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ใสในใส จิตผมกำลังคิดอยู่ความคิดเริ่มค่อยๆดับเลยคุณ เจ๋งจริงๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆแสดงว่าคุณต้องได้วิชชาแล้วแน่นอน...
--> ต่อมา เมื่อเราฝึกเดินวิชชาเข้ากายในกาย ด้วยวิธีลำดับฐาน-ลำดับดวง-ลำดับกายในกาย วิทยากรจะนำเราท่องวิชชา เปลี่ยนจาก “สัม มา อะ ระ หัง”...
ผมขอถามท่านหน่อยครับ ถ้านั่งสมาธิผ่านกายที่สั่นได้แล้ว เราจะได้ฌานที่เท่าไหร ผมไม่รู้นะ แต่ของผมเหลือ คิดว่าเหลือตัวสั่นอยู่นิดหน่อย น่าจะซัก 3 ปี...
ถ้าน้องจะมาเล่นทางสติ นั้นไม่ต้องมีอะไรมากเลย เวลาเดินก็รู้สึก นั่งนอน ยืน ใช้ชีวิต/รู้สึกกาย-และใจคือ โมโห ไม่ได้ดั่งใจ...
โอ้โฮสุดยอดไปเลยครับ แสนคนจะมีซัก 1 คนที่สามารถทำฌาน 4 ได้ ผมอ่านแล้ว ผมเข้าใจเลย แต่ผมยังทำฌาน 4 ไม่ได้หรอกครับ แต่ผมรู้ว่าทำไมถึงทำฌาน 4 ไม่ได้...
ดีครับเป็นปัญญาที่ดีครับ .........ขอบคุณท่านมากครับ...
การเดินธุดงค์ ผมเดินมา 6ปีแล้ว เดินวันที่ 3 ของเดือนมกราคมทุกปี เดินประมาณ 1เดือน กับอีก 5-9 วันประมาณนี้นะ เดินกับพระ แม่ชี ฆราวาสชาย-หญิง...
อุปจารสมาธิ มี 5 ขั้น ระดับ 4 ไม่ได้เป็นวสีนะ เอามาใช้งานยังไม่ได้เลย มันขึ้นกับแต่ระคนว่าจะผ่านระดับ 4 หรือเป็นวสี นั้นกี่ปี ผมปฎิบัติ 3...
มันบอกไม่ได้หรอกว่า จะเอาอันไหนก่อน ต้องไปพร้อมๆกัน ศีล สมาธิ ปัญญาด้านการวิเคราะห์ พิจารณา ตัดสินใจ จะต้องเอาศีลมาครอบ ส่วนศีลจะทรงตัวได้นั้น...
จิตในช่วงนั้นแวบเข้าไปในเขต อุปจารสมาธิ ระดับ 4 อยู่ไม่นานพอเผลอนิดเดียวก็ไม่แสดงแล้วใช่ไหม ลมหายใจที่ปลายจมูกความหนาแน่นของลมจะหยาบลง...
ถ้าที่บอกนั้น มันเหมือนฌาน 4 ครับ แต่มีแต่กำลังสมาธิ แต่สติรู้ตัวมันน้อยครับ มันจึงมืด แต่ถ้าสติรู้ตัวมีค่าเท่ากับสมาธิ มันจะสว่าง .......
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา