กระทู้ธรรม

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ราศีสิงห์, 27 กรกฎาคม 2009.

  1. ราศีสิงห์

    ราศีสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    815
    ค่าพลัง:
    +2,118
    เลขที่....๑๖๐.....
    ประโยคนักธรรมชั้น...เอก...
    วิชา....กระทู้ธรรม......
    สอบในสนามหลวง
    วันที่..๑๕..เดือน..พฤศจิกายน...พ.ศ...๒๕๔๓

    ..........................................................................

    สงฺเกยฺย สงฺกิตพฺพานิ รกฺเขยฺยานาคติ กายํ
    อนาคตยา ธีโร อุโภ โลเก อเวกฺขติ

    พึงระแวงภัยที่ควรระแวง พึงระวังภัยที่ยังมาไม่ถึง
    ผูฉลาดย่อมมองดูโลกทั้ง ๒ เพราะกลัวต่ออนาคต

    ณ.บัดนี้ จักได้จักได้อธิบายขยายเนื้อความตามกระทู้ธรรมสุภาษิต ที่ได้ลิขิตไว้ ณ.เบื้องต้น พอเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและนำมาปฏิบัติสืบต่อไป

    ดำเนินตามเนื้อความกระทู้ธรรมสุภาษิตพอจะอธิบายได้ว่า ผู้ฉลาด พึงระวังภัยในโลกทั้ง ๒ ผู้ฉลาด คือใคร ภัยที่ควรระวัง คืออะไร โลกทั้งทั้งนี้หมายถึงอะไร จะของกล่าวไปตามลำดับ ผู้ฉลาดคือผู้มีปัญญามองเห็นในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และไม่เป็นประโยชน์ ส่วนคำว่า ภัยนี้ หมายถึง ผลของการทำชั่วที่จะติดตามมาให้ผลแก่ตนในโลกทั้ง ๒ คือในโลกนี้ และโลกหน้า ผู้มีปัญญาเห็นแจ้งอยู่ว่า การทำดี มีผลเป็นสุข ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ก็หมั่นประกอบแต่กรรมดี เว้นเสียจากทำความชั่ว เพราะกลัวต่อภัยของการทำความชั่ว ในการทำความดีนั้น ต้องเป็นคนหนักแน่นไม่ไขว้เขวไปกับสิ่งยั่วยวน เพราะถ้าเป็นคนใจเบาแล้ว ย่อมตกอยู่ใต้อำนาจของความชั่ว รวนเรกลับกลอกอยู่ไม่เป็นสุข สมดังสุภาษิตที่มาใน ขุททกนิกาย ชตกจตุกกนิกายว่า

    อนวฏบิตจิตตสฺส ลหุจิตตสฺส ทุพพิโน
    นิจฺจํ อทฺรุวสีลสฺส สุขภาโว น วิชฺชติ

    เมื่อจิไม่หนักแน่น เป็นคนใจเบา มักประทุษร้ายมิตร
    มีความประพฤติกลับกลอกเป็นนิตย์ ย่อมไม่มีสุข

    คำว่าจิตไม่หนักแน่น ใจเบา คือคนที่มีจิตใจรวนเร หาความแน่นอนไม่ได้ ไม่มั่นคงในความดี คือจิตใจที่แพ้ต่อกิเลส ผู้ที่แพ้ต่ออำนาจของกิเลส การทำ การพูด การคิด ก็ย่อมมีโทษไม่เฉพาะแก่ตนเท่านั้น ยังส่งผลกระทบไปสู่คนรอบข้างเราด้วย เช่นคนสมาทานศีลมาแล้ว แต่ไม่มีใจหนักแน่น เมื่อเห็นของมีค่าคนอื่นก็โลภอยากได้หยิบฉวยเอาเสีย เจ้าของทรัพย์ก็เดือดร้อนเสียดายของ แม้หากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับเราได้ เราก็เดือดร้อน เมื่อเราเดือดร้อน พ่อ แม่ พี่ น้อง ก็เดือดร้อนตาม นี่เพียงเราทำชั่วคนเดียว คนอื่นก็เดือดร้อนตาม ดังนั้นเราต้องเป็นยึดมั่นหนักแน่นในความดี โดยเฉพาะศีลเป็นหลักปฏิบัติพื้นฐานที่จะทำให้เราเจริญรุ่งเรืองด้วยความดีงาม อีกทั้งผู้รู้ทั้งหลาย ก็ยกย่องผู้มีศีล สมดังสุภาษิตที่มีมาใน ขุททกนิกานเถรคาถา ว่า

    ปญฺญวนฺตํ ตถาวาที สีเสสุ สุสมาทิตํ
    เจดตสมถมนุยุตฺตํ ตํ เว วิญญู ปสํสเร

    ผู้รู้ย่อมสรรเสริญคนมีปัญญา พูดจริง ตั้งมั่นในศีล
    ประกอบความสงบนั้นแล ฯ

    ปัญญาคือความรู้ เป็นเครื่องกำจัดอวิชชา คือความมืดในจิตใจ ดุจแสงประทีบกำจัดความมืด พุดจริง คือการยึดถือแต่ความสัตย์ ไม่ป้อปดมดเท็จ มีความจริงใจต่อกัน ศีล คือการรักษา กาย วาจา ใจ ให้เรียบร้อย ไม่เบียดเบียนคนอื่นให้เดือดร้อน ผู้ประกอบด้วยความสงบ คือผู้ดำรงชีวิตด้วยสมควรตามกำลัง ไม่ทะเยอทะยานเกินกำลังตน ผู้ใดประกอบด้วยธรรมที่กล่าวมาแล้ว ผู้รู้มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ก็ย่อมสรรเสริญ อนึ่งเมื่อปรารถนาโภคทรัพย์ พึงฝักใฝ่ในการงานที่สะอาดตั้งอยู่ในธรรม เพราะผู้มีการงานสะอาด มีธรรมย่อมเจริญและมีเกียรติ สมดังสุภาษิตที่มีมาในธรรมบท ขุททกนิกายว่า

    อุฏฺฐาวโต สติมโต สุจิกมฺมสส นิสมฺมการิโน
    สญฺญตสฺส จ ธมฺมชีวิโน อปฺปมตฺตสฺส ยโสภิวทฺฒติ

    เกียรติย่อมเจริญแก่ผู้ขยัน มีสติ มีการงานสะอาด
    ใคร่ครวญแล้วจึงทำ สำรวมแล้ว เป็นอยู่โดยธรรม ไม่ประมาท

    ผู้ประสพความเจริญรุ่งเรืองได้อันดับแรกต้องมีความขยันหมั่นเพียร มีสติปัญญา ประกอบกรรมการงานที่สุจริต มีชีวิตอยู่ตามทำนองคลองธรรม และเป็นผู้ไม่มีความประมาทในการงานทั้งปวง

    สรุปความว่า ผู้ฉลาด เล็งเห็นภัยอันเกิดจากความชั่ว ว่าเป็นสิ่งน่ากลัว ก็พยายามหลีกเลี่ยงจากการทำชั่วทั้งปวง ก่อแต่กรรมดี มีผลเป็นสุข ผู้ที่ทำดีย่อมเป็นในโลกทั้ง ๒ สมดังสุภาษิตที่ยกขึ้นมาในเบื้องต้นว่า

    สงฺเกยฺย สงฺกิตพฺพานิ รกฺเขยฺยานาคติ กายํ
    อนาคตยา ธีโร อุโภ โลเก อเวกฺขติ

    พึงระแวงภัยที่ควรระแวง พึงระวังภัยที่ยังมาไม่ถึง
    ผูฉลาดย่อมมองดูโลกทั้ง ๒ เพราะกลัวต่ออนาคต

    ดังพรรณนามาก็จบลงด้วยประการฉะนี้แลฯ


    หมายเหตุ
    ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ บูรณาการแผนใหม่
    นักธรรม ชั้นเอก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Buddha16.jpg
      Buddha16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.5 KB
      เปิดดู:
      1,098
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กรกฎาคม 2009
  2. gguunn

    gguunn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    พระคาถาบูชาพ่อรัชกาลที่ 5

    พระคาถาบูชาพ่อรัชกาลที่ 5<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    (ธูป9 ดอก ตั้ง นะโม3 จบ)<o:p></o:p>
    พระสยามมิน ทะโร วะโร อัตตัง พุทธสังมิ อิติ อรหัง<o:p></o:p>
    วะรังพุธโธ นะโมพุทธธายะ ปิโยเทวา มนุสานัง<o:p></o:p>
    ปิโย พรหมานะ มุตตโม ปินัน หริยัง นะมามิหัง<o:p></o:p>
    ข้าพเจ้าได้พบหนังสือแผ่นนี้เข้าด้วยความบังเอิญเมื่ออ่านดูแล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงได้พิมพ์แจกเป็นกุศลทาน ซึ่งในใจความหนังสือ มีอยู่ว่า วันหนึ่งในโบสถ์ของวัด ศิริประสุประตินาถ ได้มีหลวงพ่อองค์หนึ่งได้นั่งสวดมนต์อยู่ ในโบสถ์ของวัด ในเวลานั้นก็มีงูตัวหนึ่งเลื้อยออกมาจากหน้าพระพุทธรูปในโบสถ์ หลวงพ่อเมื่อเห็นงูก็เกิดอาการกลัว หลังจากนั้นงูก็ได้กลายเป็นมนุษย์ ในรูปของพราหมณ์ แล้วก็พูดกับหลวงพ่อว่า เจ้าไม่ต้องกลัวและตกใจ เจ้าจงฟัง ข้าพเจ้าคือพญานาคราช และได้จุติ ณ วัดแห่งนี้ เพื่อบำบัดปัดเป่าความชั่วร้าย และคนบาปที่ทำกรรรมไว้มากจะให้พินาศหายไปจากโลกนี้ และให้รู้ทั่วว่า ผู้ใดนำเรื่องของข้าพเจ้าไปพิมพ์แจก 1,000 ใบภายใน 15- 30 วัน มันผู้นั้นจะมีโชคลาภ มีความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดสมความปรารถนาทุกประการ และผู้ใดได้รู้ อ่านคิดว่าเป็นการหลอกลวง หรือไม่เชื่อ หรืออ่านแล้วฉีกทิ้ง ให้พิมพ์แจกต่อๆ ไป(หรือเก็บไว้สวดมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคลต่อตนเอง และครอบครัว)<o:p></o:p>
    จากนั้นหลวงพ่อได้พิมพ์แจก 1,000 ใบ หลังจากนั้นประมาณ 3-4 วันเท่านั้น ท่านได้สำเร็จวิชาต่างๆ และคุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:smarttags" /><st1:personName w:st="on" ProductID="โกบินตะ ปราสาทคุปตา">โกบินตะ ปราสาทคุปตา</st1:personName> ได้พิมพ์แจก 1,000 ใบ เขาได้เงินทองที่หยิบยืมไปคืนมา อีกรายหนึ่งก็พิมพ์แจก 500 ใบ รายนี้เป็นชาวนา วันหนึ่งเขาไปไถนา เขาได้พบไหใบหนึ่ง มีเงินทองเมไปหมด ส่วนอีกรายพิมพ์ 100 ใบ เขาได้เจอแจกันทอง อีกรายหนึ่งเป็นคนตกงาน ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ พอเขาพิมพ์แจก 3-4 วัน เขาก็หางานทำได้ เป็นงานที่ดี และอีกราย ได้อ่านแล้วไม่เชื่อฉีกทิ้ง หลังจากนั้น ประมาณ 1-2 วัน ลูกชายเขาก็ตาย และอีกรายได้อ่านแล้วคิดว่าจะพิมพ์แจก แต่ผลัดวันประกันพรุ่ง จนเลยกำหนด ผู้นั้นเป็นพ่อค้า ทำการค้าขายก็ขาดทุน และพ่อเขาก็ตายจากไปอีกคน อีกรายหนึ่งก็พิมพ์แจก 1,000 ใบ และอีกรายหนึ่งก็พิมพ์แจก 100 ใบ ไม่กี่วันก็มีเงินทองแบบไม่น่าเชื่อ อยู่ๆ ก็มีเงินทองขึ้นมาเอง เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นมาในโบสถ์ ในวัดศิริประสุประตินาถนี้ ต้องคิดด้วยความสัตย์จริง และศรัทธา อ่านแล้วต้องพิมพ์แจก อ่านแล้วอย่าฉีกทิ้ง ให้แจกต่อๆ กันไปด้วยความศรัทธา และเชื่อถือ ก็จะเป็นผลดีแก่ตนเอง <o:p></o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...