การจัดงาน "แซยิด"

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 28 พฤษภาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,186
    มีเด็กมาขอวัตถุมงคลเนื่องในวันคล้ายวันเกิด พระอาจารย์ กล่าวว่า "เรื่องของเด็กๆ เราควรทำให้เขารู้สึกว่ามาวัดหรือมาหาพระแล้วได้อะไรไปบ้าง โดยเฉพาะในวันเกิดของเขา

    เด็กรุ่นหลังนี้วันเกิดเป็นเรื่องสำคัญ บางคนเป็นเด็กอนุบาลอยู่ ยังไม่ทันจะรู้เรื่องเลยก็จัดงานวัดเกิดแล้ว บางทีเด็กๆ เขามาจัดงานวันเกิดให้อาตมา เขาปักเทียนแบบที่เป่าแล้วติดใหม่ ช่วยกันจุดกลั่นแกล้งหลวงตา อาตมาเป่าพรวดเดียวเทียนดับเกลี้ยง เด็กๆ บอกว่าหลวงตาใช้ไสยศาสตร์ แล้วสงสัยว่าอาตมาเป่าดับได้อย่างไร เพราะตัวเขาเองเป่าเท่าไรก็ไม่ดับ พอดับแล้วก็ติดใหม่

    คนสมัยก่อนจะจัดงานวันเกิดก็ต่อเมื่ออายุครบ ๖๐ ปี เพราะว่าการสาธารณสุขต่างๆ ช่วงนั้นยังไม่เจริญ คนมักจะตายตั้งแต่อายุน้อยๆ อีกอย่างหนึ่งเขานิยมแต่งงานกันตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ฉะนั้น..คนสมัยก่อนพออายุ ๓๐ ปีนี่ดูแก่มากเลย อายุ ๖๐ ปีก็คือคุณปู่ คุณตา คุณทวดแล้ว จึงมีการจัดงานวันเกิดแล้วก็จัดงานทำบุญ

    คนจีนเขาเรียก วันเกิด ว่า "แซยิด" จริงๆ เขานิยมจัดแซยิดตอนอายุ ๖๐ ปี พอจัดงาน ๖๐ ปีไปแล้ว ต่อไปก็อยู่ในลักษณะแบ่งเป็น ๒ อย่าง อย่างหนึ่งก็คือจัดทุก ๑๐ ปี เช่นว่า ๗๐ , ๘๐ , ๙๐ อีกอย่างหนึ่งก็จัดทุก ๑๒ ปี ก็เป็น ๗๒ , ๘๔ , ๙๖ เป็นต้น"

    "ที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่าคนโบราณเขารอบคอบ คนที่จะจัดงานบุญฉลองอายุใหญ่ๆ โตๆ ได้ ส่วนใหญ่เป็นท่านที่มียศมีอำนาจ คราวนี้คนที่มียศมีอำนาจส่วนใหญ่ก็มีบริวารมาก เวลาจัดงานบริวารก็ต้องมา บางทีบริวารอยู่หัวเมืองไกลๆ ต้องพายเรือ ต้องขี่เกวียน ต้องเดินเท้ามา ทำให้เขาลำบาก ฉะนั้น..การจัดงานทุกปีจึงเป็นการรบกวนบริวารตัวเองมากจนเกินไป ก็เลยเปลี่ยนเป็นจัด ๑๐ ปีครั้งหนึ่ง หรือว่า ๑๒ ปีครั้งหนึ่ง

    สมัยนี้รถราม้าช้างไม่ค่อยได้ใช้แล้ว ส่วนใหญ่มีรถส่วนตัวกัน เดินทางสะดวก ผู้ใหญ่ท่านจะจัดงานวัดเกิดทุกปีก็ไม่มีใครว่าอะไร ไปให้ท่านเห็นหน้าเสียหน่อย “ไม่ไปก็ไม่ว่า..แต่ผมจำแม่นนะ” อะไรอย่างนี้ มีการขู่อีกด้วย

    เพราะฉะนั้น..งานวันเกิดก็เลยกลายเป็นงานที่ค่อนข้างเกร่อเป็นสาธารณะ ไม่เหมือนโบราณที่โอกาสจัดงานวันเกิดคนหนึ่งมีแค่ไม่กี่ครั้ง สมัยนี้เด็กๆ ปักเทียน ๒ เล่มก็เป่าเค้กกันแล้ว ต่อไปถ้าจะให้อาตมาเป่าเค้ก ขอให้เปลี่ยนเป็นขนมครกนะจ๊ะ ถ้าไม่ใช่ขนมครกจะเป็นขนมชั้นก็ได้

    อาตมาฉันเค้กได้อย่างเดียวก็คือเค้กผลไม้ ต้องใส่ผลไม้เยอะๆ ด้วยนะ เวลาอาตมาสั่งเค้กผลไม้พิเศษ จะเป็นเค้ก ๑ ปอนด์ ใส่ผลไม้ไป ๓ ปอนด์ เค้กเป็นอาหารฝรั่ง เด็กรุ่นหลังๆ กินอาหารตามแบบฝรั่งโดยที่ไม่ได้ดูดินฟ้าอากาศ บ้านเขาอากาศหนาวก็ต้องกินนมกินเนย กินไอศกรีม เพื่อที่จะเอาพลังงานไปสู้ความหนาว บ้านเราอากาศร้อน กินเข้าไปร่างกายก็เก็บหมด จึงกลายเป็นโรคอ้วนกันมาก

    วันเกิดอาตมาไม่ค่อยได้นึกถึงหรอก บางคนมาบอกว่าวันนี้วันเกิดอาจารย์ อาตมาถึงนึกได้ เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญเลย ที่ให้ความสำคัญคือวันตาย กำลังรออยู่ ถึงคิวเมื่อไรก็..ไปละนะ"


    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๕



    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๕ - หน้า 6 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน




    .
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...