การปรากฎในพระนิพพาน / ชีวิตอันเนื่องมาจากกรรม (วิสัชนาโดย พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 30 กันยายน 2018.

  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    24,012
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,220
    ค่าพลัง:
    +70,717
    39992235_2134690459934581_274029844176568320_n.jpg

    ถาม : ผมสงสัยครับว่า ที่แดนพระนิพพานนี้มีการจัดลำดับบุญเหมือนกับแดนสวรรค์ชั้นอื่นหรือเปล่าครับ ? อย่างเช่น เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดพุทธมารดา พอเทวดามากันมากขึ้น เทวดาสององค์ที่นั่งข้างพระพุทธเจ้ามีองค์หนึ่งที่มีบุญน้อยกว่า ต้องถอยห่างออกไปเรื่อย ๆ
    ตอบ : เรื่องของพระนิพพานไม่มีการจัดลำดับแบบนั้น เพราะว่าท่านเป็นผู้ที่หมดกิเลสแล้ว แต่เพื่อป้องกันผู้ที่ไม่หมดกิเลสเกิดโทษขึ้นมา เพราะว่าไปนึกปรามาส ดังนั้น..เวลาขึ้นไปท่านก็จะจัดลำดับให้ตามกิเลสในใจของเราที่ยังมีอยู่

    ถาม : บางทีผมมีความคิดว่า ควรจะสั่งสมบุญในการให้ทานให้มากกว่านี้ ถึงค่อยปรารถนาพระนิพพาน ถูกต้องไหมครับ ?
    ตอบ : แบบนี้ก็โง่เกินเหมือนกัน..! เราตั้งใจจะไปที่ไหน ก็ตั้งเป้าเอาไว้แล้วสะสมแต้มเก็บไปเรื่อย ๆ หรือไม่ก็สะสมไมล์เดินทางเพื่อสู่เป้าหมายไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่ไปทำนั่นทำนี่เสียจนพอใจก่อน แล้วค่อยตั้งเป้าว่าจะไป แบบนั้นเมื่อไรจะได้ไปเสียที ?

    ถาม : ชีวิตมนุษย์ที่ดำเนินในแต่ละวัน เราต้องเจอเรื่องทั้งสุขและทุกข์ สิ่งเหล่านี้เกิดจากกฎแห่งกรรมหรือไม่ครับ ?
    ตอบ : ทั้งหมดทั้งมวลที่เรามีชีวิตอยู่เกิดจากกรรม คือ การกระทำของเรา ส่งผลให้เกิดผลของกรรมที่ส่งให้ เรียกว่าวิบาก ทั้งกรรมและวิบากเกิดขึ้นเพราะกิเลสในใจของเรายังเต็มเปี่ยมอยู่ ตราบใดที่ รัก โลภ โกรธ หลงยังไม่หมด ก็จะเป็นตัวชักนำให้เรากระทำทั้งดีและชั่ว แต่ที่ดีไม่ทั่วที่ชั่วไม่หมด เราก็เลยต้องเวียนว่ายตายเกิดไปตามกำลังที่เราทำอยู่ตลอดเวลา จนกว่าเราจะทำดีได้ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้ง ศีล สมาธิ ปัญญา ก็จะหลุดพ้นวงโคจรไปได้เอง

    เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๑
    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    24,012
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,220
    ค่าพลัง:
    +70,717
    38516105_2060563343994336_6275902634930995200_n.jpg

    ถาม : ช่วงนี้กำลังได้รับวิบากกรรมที่ทำมาในอดีต โดยไม่รู้ว่าอันไหนดีหรืออันไหนชั่ว หนูควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรดีคะ ?
    ตอบ : ต้องบอกว่า "อดทน" อย่างเดียว เพราะว่าสิ่งที่เราทำไปถึงเวลาเราก็รับ ก็แปลว่าเราทำตัวเราเอง ยุติธรรมที่สุดแล้ว ก็ทนรอจนกระทั่งผลของวิบากจะผ่านไป ในระหว่างนี้ก็อดทนสร้างกุศลไปก่อน พอถึงเวลาช่วงกุศลเข้ามาสนองจะได้รวมกันพาให้ห่างจากวิบากกรรมไปได้

    ถาม : ทุกวันนี้หนูต้องนอนร้องไห้ ?
    ตอบ : ต่อไปนั่งร้องบ้างก็ได้ ...(หัวเราะ)... เป็นเรื่องปกติ มีใครบ้างที่ไม่เป็น พระพุทธเจ้าตรัสกับปฏาจาราเถรีว่า น้ำตาของแต่ละชาติที่เธอต้องร้องไห้ ถ้ารวมกันแล้วมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ เป็นไหน ๆ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เราคนเดียว

    ถาม : ระหว่างที่หนูโดนกรรมแทรก หนูต้องทำอย่างไรให้ตัวเองมีสติอยู่ตลอดเวลา ?
    ตอบ : ภาวนา ถ้าหากว่าอารมณ์ภาวนาทรงตัวก็มีสติ คนที่อารมณ์ภาวนาทรงตัวก็จะไม่ไปนอนร้องไห้ แต่จะนั่งร้องแทน ...(หัวเราะ)...

    พระพุทธเจ้าสอนให้เราเชื่อกรรม คือการกระทำของเรา สอนให้เชื่อผลของกรรมที่เรียกว่าวิบาก ก็คือเราทำดีเราก็ได้ดี ถ้าเราทำชั่วเราก็ได้ชั่ว สอนให้รู้ว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเอง มีกรรมเป็นเครื่องนำชีวิต และท้ายที่สุดก็ต้องเชื่อว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้นเป็นความจริงแท้

    ฉะนั้น...ความเชื่อในพุทธศาสนาจริง ๆ แล้วมีอยู่แค่นี้แหละ เรียกว่า กัมมสัทธา เชื่อกรรม วิปากสัทธา เชื่อการส่งผลของกรรม กัมมัสสกตสัทธา เชื่อว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเอง ก็คือทำอะไรไว้ก็ได้ผลอย่างนั้น ท้ายที่สุดก็คือ ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อในความรู้จริงของพระพุทธเจ้า

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านเติมบุญ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑

    ที่มา www.watthakhanun.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...