การเดินทางในอนันตจักรวาล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Fullmoonman, 4 สิงหาคม 2006.

  1. Fullmoonman

    Fullmoonman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +1,221
    การเดินทางในอนันตจักรวาล
    Star-01.jpg

    การเดินทางในอนันตจักรวาล มีด้วยกัน 3 วิธี คือ
    <DIR><DIR>1.การเดินทางด้วยจิต
    2.การเดินทางด้วยยานอวกาศ
    3.การเดินทางโดยหลุมดำ

    </DIR></DIR>1. การเดินทางด้วยจิต
    <DIR> การเดินทางด้วยจิต
    เป็นการเดินทางที่ใช้สมาธิของมนุษย์ คือ มนุษย์ผู้นั้นจะต้องมีความบริสุทธิ์แห่งจิต เมื่อจิตนิ่งเป็นเอกะแล้วไซร้ปัญญาย่อมเกิด เมื่อเกิดผลแห่งปัญญาแล้วจิตก็จะสามารถนึกคิดวินิจฉัยศึกษา ความเป็นไปของจักรวาลและเรื่องอื่นๆ ในระยะทางอันไกลโพ้นได้ การสำรวจ 7 จักรวาลพิภพนี้ ก็เป็นการเดินทางและสำรวจ ศึกษาข้อมูลความเป็นไปในจักรวาลพิภพ ด้วยวิธีนี้


    การสำรวจด้วยจิตนั้น ต่างยืนยันได้ดั่งพุทธพจน์ว่า จิตที่ฝึกแล้วเพียงลัดนิ้วมือ สามารถท่องไปทั่วขอบจักรวาล และสามารถลูบคลำพระจันทร์ พระอาทิตย์ได้


    จากการสำรวจ 7 พิภพจักรวาล จะสังเกตได้ว่า จักรวาลที่มีสิ่งมีชิวิตอาศัยอยู่ได้ ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ตามบริเวณทางโดมใหญ่ ใกล้กับแกนกลางของอนันตจักรวาล สาเหตุนี้ก็เพราะว่า ธรรมชาติของอนันตจักรวาลที่มีลักษณะคล้ายจาน 2 ใบ ประกบกันนี้ จะมีการหมุนโดยธรรมชาติ คือหมุนทั้งระบบอนันตจักรวาล ในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาโดยการมองจากด้านบน และในทฤษฎีการเคลื่อนไหวของวัตถุเชิงมุมตามปีกขอบนอกสุดจะมีการเคลื่อนไหว เคลื่อนที่แรงมาก เร็วมาก และร้อนมาก ในขณะที่วัตถุที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลาง หรือแกนกลางจะมีความเร็วและความร้อนต่ำกว่าวัตถุที่อยู่ไกล ในลักษณะเชิงมุมของวัตถุที่อยู่ในระนาบเดียวกัน


    Star-02.jpg
    <DIR>ความเร็วเชิงมุมของวัตถุ C มากกว่า B และ Aทำนองเดียวกัน B มากกว่า A น้อยกว่า C
    และ A ความเร็วเชิงมุมน้อยกว่า B และC


    </DIR></DIR> เนื่องจากทฤษฎีในข้อนี้ ทำให้ตามปีกของจักรวาลมีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง มีทั้งความเร็ว ความร้อน การเสียดสีกันและกันอย่างรุนแรงสภาพของกาแล็กซี่ และจักรวาลในแถบนี้จะมีความแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา ผลกระทบนี้เกิดขึ้นมากเกินกว่าร่างกายมนุษย์และสิ่งมีชีวิตจะรับและต่อต้านได้ แต่ในภาวะเดียวกัน ตามบริเวณทรงโดมใกล้กับแกนกลางอนันตจักรวาล จะมีการเคลื่อนไหว เคลื่อนตัวการเสียดสีที่พอเหมาะไม่รุนแรง ไม่ร้อนมาก อบอุ่น ความแปรปรวนของสนามแม่เหล็กจักรวาลต่ำ ลมสุริยะไม่แรงมาก กาแล็กซี่ที่มีความร้อนอุณหภูมิที่เหมาะสมมีความแปรปรวนของกาแล็กซีต่ำ ในบรรดาจักรวาลที่อยู่ในกาแล็คซี่นั้นก็สามารถก่อให้เกิดสิ่งมีชีวิตและมนุษย์ขึ้นมาได้ สังเกตได้ว่าจักรวาลที่มีสิ่งมีชีวิตและมนุษย์อาศัยอยู่ได้นั้น จะอยู่ห่างกันไม่มากนักอย่างน้อยก็ห่างกัน 100,000 ปีแสง

    2. การเดินทางด้วยยานอวกาศ
    การเดินทางด้วยยานอวกาศนั้น ก็เดินทางได้ตั้งแต่ระยะสั้นจนถึงระยะไกล ก็แล้วแต่ความเจริญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของดาวดวงนั้น เช่น ยานอวกาศของโลก หรือจานบินของมนุษย์ดาวอังคารและดาวศุกร์ ของจักรวาลสิทธัตถะเมดา และในจักรวาลอื่น ก็มียานอวกาศรูปร่างแตกต่างกันไป แต่ไม่ว่ายานอวกาศจะมีรูปแบบใดก็ตามข้อสรุปที่ได้ ยานอวกาศที่สามารถบินได้ไกลที่สุด สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยที่สุด ก็คือ จานบิน หรือ UFO ตามภาษาโลกมนุษย์

    จานบิน เป็นยานอวกาศที่บินได้เร็วที่สุด ไกลที่สุด สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยที่สุด สามารถเร่งความเร็วได้เกินกว่าความเร็วแสง เพราะจานบินบินโดยอาศัยหลักการของพลังงาน มีเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดพลังงานแสง แล้วก็บินโดยพลังงานแสง

    จานบินสามารถบินข้ามจักรวาลและกาแล็กซี่ไปสู่กาแล็กซี่อื่นได้โดยวิธีการบิน ที่อาศัยแหล่งกำเนิดของแสง คือ เมื่อจานบินบินในระบบสุริยจักรวาล ก็อาศัยแหล่งความร้อนจากดวงอาทิตย์ การอาศัยแหล่งความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้จานบินสามารถบินตัดตรงระหว่างดวงดาวในจักรวาลได้เลย โดยไม่ต้องอาศัยแรงดึงดูด แนงโน้มถ่วง และแรงเหวี่ยงของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ แต่ต้องมีเชื้อเพลิงคือน้ำที่เพียงพอ
    ส่วนการบินของจานบินที่บินข้ามสุริยจักรวาลนั้น ก็มีวิถีการบินต่างไปจากเดิมแต่ก็อาศัยหลักการเดียวกัน คือ จานบินจะสำรวจก่อนว่าดาวดวงใดเป็นดาวฤกษ์ ดาวดวงใดเป็นดาวเคราะห์ เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ในจักรวาล หรือดาวเคราะห์ที่เป็นอิสระ ไม่เป็นบริวารของดาวดวงใด ก็คือสำรวจแหล่งพลังงานความร้อนจากดาวฤกษ์ และแหล่งเชื้อเพลิงจากดาวเคราะห์ เมื่อจานบินบินข้ามจักรวาล จานบินจะเปลี่ยนแหล่งพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์มาเป็นดาวฤกษ์ และแวะเติมเชื้อเพลิงจากดาวที่มีน้ำ หรือดาวที่มีก๊าซออกซิเจนและไฮโดรเจน จานบินก็สามารถผลิตน้ำมาเป็นเชื้อเพลิงได้ และบินต่อเนื่องในอนันตจักรวาลได้ จานบินจะบินได้ไกลแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจต้องการบินของมนุษย์ที่อยู่ในจานบิน และประสิทธิภาพของจานบิน


    3. การเดินทางโดยหลุมดำ
    การเดินทางโดยหลุมดำนั้น การเดินทางโดยวิธีนี้ต้องอาศัยหลักการพื้นฐานของดวงดาว และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของดาวดวงนั้น
    กล่าวคือหลักการพื้นฐานของดวงดาวที่ทำให้เกิดหลุมดำ ก็คือ บริเวณใดบริเวณหนึ่งมีกาแล็กซี่และดวงดาวรวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นมากๆ ทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก แรงดึงดูดระหว่างดวงดาวและแกแล็กซี่ครอบคลุมไปทั่วบริเวณกลุ่มกาแล็กซี่นั้น เรียกว่าหลุมดำ ซึ่งการเกิดหลุมดำไปทั่วบริเวณ ในขณะเดียวกัน หากมองย่อยลงไป คือดวงดาวในกาแล็กซี่ ณ จุดใดจุดหนึ่งของผิวบริเวณที่สนามแม่เหล็กรุนแรง ก็จะปรากฏหลุมดำ ณ ส่วนผิวบริเวณของดวงดาว ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่ง


    อีกส่วนประกอบหนึ่ง เป็นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของดาวดวงนั้น
    ได้แก่ เครื่องมือตรวจวัดสนามแม่เหล็ก ว่ามีความเข้มที่ก่อเป็นหลุมดำในระดับความเข้มเท่าไร และความเข้มของหลุมดำไปสุดปลายทาง ณ ดาวดวงใด กาแล็กซี่ใด จากนั้นการเดินทางไกลก็เริ่มขึ้น คือมนุษย์จะต้องเตรียมสิ่งของสัมภาระต่างๆ ของการเดินทางให้พร้อมแล้วจึงเดินทางไปสู่บริเวณหลุมดำ จากนั้น หลุมดำก็จะดูดนำพาตัวเราไปสู่ดาวอีกดวงหนึ่งอย่างรวดเร็ว เพียงแค่กระพริบตาก็ถึงแล้ว
    ตัวอย่างง่ายๆก็คือ เครื่องบินและเรือรบของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยจากสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ปัจจุบันก็บินกันกลาดเกลื่อนอยู่บนดาวจันนาดาของจักรวาลเทคเคอร์นากา ซึ่งก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของการเดินทางโดยหลุมดำ ( Black Hole )


    IS..jpg

    ไอสไตน์ก่อนสิ้นจากโลกมนุษย์ได้อุทานว่า
    ทุกอย่างในโลกนี้ เคลื่อนไหวเร็วสู้จิตวิญญาณ ไม่ได้ทั้งสิ้น ข้าพเจ้าโง่มานานแล้ว
     
  2. Fullmoonman

    Fullmoonman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +1,221
    สุดขอบฟ้าอนันตจักรวาล

    สุดขอบฟ้าอนันตจักรวาล

    สุดขอบฟ้าอนันตจักรวาลคือส่วนที่เกินจากรูปทรงอนันตจักรวาล เรียกว่า ฉากดำ (Dark shade)

    ฉากดำเป็นส่วนที่เกินจากรูปทรงอนันตจักรวาล เป็นบริเวณที่ไม่มีกาแล็กซีและดวงดาวอยู่ ฉากดำเป็นส่วนบริเวณที่ดำมืดสนิท ไม่มีแม้แต่ดวงดาวและแสง แสงก็ยังไม่สามารถเดินทางเจาะลึกเข้าไปได้ ไม่มีแม้แต่สิ่งใด ๆ ดำมืดสนิท

    สนามแม่เหล็กก็ไม่มี ตามลักษณะรูปการณ์ทางธรรมชาติ แต่ภายในฉากดำจะมีความมหัศจรรย์ คือ หากมองโดยกระแสจิด จะมีความสว่างไสวยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ เจิดจ้าเป็นประกายสีเงิน สีทอง สวยงามมาก และจะพบพระพุทธเจ้าหลายองค์ทรงจุติอยู่ที่นั่น ว่าตามหลักการศาสนา แล้ว ฉากดำเป็นศูนย์กลางของจิตวิญญาณที่หลุดพ้นไปแล้ว จากสังสารวัฏ หรือเป็นที่สถิตของเหล่าวิญญาณที่บำเพ็ญตบะสำเร็จไปแล้วทั้งสิ้น จนเรียกว่าแดนของพระเจ้า แดนอรหันต์ แดนนิพพาน หรือสรวงสวรรค์นั่นเอง ( World of Gods )

    ฉากดำนี้ไม่พูดเกินความจริง ดังภาพและข่าวที่จะให้ท่านอ่านต่อไปนี้ ซึ่งถ่ายจากกล้องถ่ายภาพในอวกาศที่มีปราสาทพิมานของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยโดยองค์การนาซา
    พบสรวงสวรรค์ ณ ขอบจักรวาล


    พรหมโลก เทวโลก มนุษยโลก นรกโลก มารโลก ตลอดทั่วขอบรอบจักรวาล ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงมีแต่ความสุขกาย สุขใจ อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงมีแต่ความสบายจิต สบายใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยพิบัติทั้งหลายเทอญ

    ขอให้มนุษย์ทั้งโลกอยู่อย่างสันติด้วยเถิด
    ส.อริยวังโส
    ส.พรหมนิล
    8 กุมภาพันธ์ 2540
    อนันตจักรวาลมองด้านข้าง
    อนันตจักรวาลมองด้านบน
     

แชร์หน้านี้

Loading...