ขอสอบถามเรื่องการสอบนักธรรมตรีค่ะ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย กัณตา, 14 พฤศจิกายน 2010.

  1. กัณตา

    กัณตา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +28
    คือที่มหาวิทยาลัยมีการสอนวิชาพระพุทธศาสนาแล้ววันที่26 พฤศจิกายนนี้ จะมีการสอบนักธรรมชั้นตรี คืออยากทราบว่าข้อสอบยากไหมใครเคยสอบช่วยให้ความรู้ด้วยค่ะ อาจารย์บอกว่าถ้าเคยสอบชั้นตรีก็ต้องสอบชั้นโทต่อถ้าเคยสอบโทก้อต้องสอบชั้นเอก คือข้อสอบเพื่อนบอกว่ายากมากๆ เมื่อตอนมัธยมปลายพระอาจารย์ให้ไปสอบแต่ไม่ได้ไปอ่ะคะ คือตอนนั้นเลือกที่จะทำกิจกรรมแทน แต่ตอนนี้ต้องสอบ คือกลัวตกค่ะอย่างเดียวเลย อยากทราบคร่าวๆว่าออกเกี่ยวกับเรืองอะไรบ้าง จะได้อ่านไปเยอะๆค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
     
  2. พระดนัย

    พระดนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +1,478
    เจริญพร การสอบของคุณโยมเขาเรียกว่า สอบธรรมศึกษา ถ้าเป็นพระ หรือเณร

    จึงเรียก นักธรรม

    ไม่ยากหรอก วันแรกก็สอบ กระทู้ คุณโยมก็จำบาลีเข้าไป ท่องเข้าไป

    สัก บทหนึ่ง เช่น "อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ แปลว่า ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน"

    แล้วคุณโยมก็เชื่อม บาลีที่เขาให้มาให้ได้ เขียนให้สอดคล้องกัน

    ส่วนใหญ่ เข้าจะเริ่มต้นว่า "บัดนี้ จะขอขยายความตามกระทู้สุภาษิต ที่ได้ลิลิตไว้ ณ

    เบื้องตน เพื่อเป็นเครื่องเจริญในธรรม ดังว่า แล้วก็ขยายความไป เอาเป็นว่าคุณโยมทำใจว่ากำลังนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ อย่านึก

    ว่าสอบ เหมือนอาตมาตอนสอบ พอจะเขียนกระทู้ ก็ทำใจว่าตอนนี้เรากำลังเทศสนาอยู่

    มันก็เขียนไปได้

    อย่างอื่นไม่ยาก ส่วนใหญ่ถ้าไม่ผ่านจะไม่ผ่านกระทู้กัน

    เป็นกำลังใจให้ โชคดีนะคุณโยม สู้ สู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2010
  3. สายน้ำฝน

    สายน้ำฝน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +44
    ไม่ยากค่ะ ตามที่พระดนัยท่านบอกไว้เลยค่ะ
    ไม่ต้องกังวลค่ะ

    การสอบที่ยากที่สุดคือการเขียนกระทู้ธรรม
    คือจะให้คำภาษาบาลีมา แล้วให้เราเขียนขยายความ
    ยกตัวอย่าง ประโยคที่ให้มากล่าวถึงอะไร


    ส่วนข้อสอบที่เหลือจะเป็นแนวเหมือนข้อสอบพระพุทธศาสนาม.ปลายของรร.ค่ะ
     
  4. ธรรมภัฎ

    ธรรมภัฎ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +734
    ผมจบนักธรรมตรี โท เอก ซ้อนกันสามปีติดเลย อ่านหนังสือบ้างนิดหน่อย ไม่เคยเข้าชั้นเรียนเลยสักครั้ง แต่ก็สอบผ่านมาได้ตลอด เพราะหมั่นศักษาด้วยตัวเองอยู่เป้นนิจอยู่แล้ว ตอนรับใบประกาศก็รับกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ทั้งสามชั้นปี

    ขั้นตอนบางส่วนพระดนัยก็แนะนำไว้บางส่วนให้ได้เตรียมพร้อมแล้ว เป็นประโยชน์มากเช่นกัน ที่สำคัญคือต้องตั้งใจอ่านหนังสือให้มาก ส่วนใหญ่แล้ว ชั้นตรีก็เป็นความรู้ในหมวดที่เราเคยเรียนในวิชาพระพุทธศาสนาตั้งแต่ป.1 ถึง ม.6 เลย ส่วนชั้นโทและเอกก็จะลงลึกไปบ้าง แต่ก็ไม่ยากเกินความตั้งใจ เพราะเป็นเรื่องที่ชาวพุทธเรารู้และเข้าใจดีอยู่แล้ว

    เคล็ดไม่ลับคือ
    1. แบบกา ต้องหัดทำแบบฝึกหัดด้านหลังบทเรียนให้มาก ดูเฉลยหลังเล่มแล้วอ่านตามนั้นเลยก็ได้ เพราะมักเป็นแนวให้ผู้สอบอยู่แล้ว
    2. แบบเขียนบรรยาย ต้องลองเขียนบรรยายขยายความกระทู้ธรรมให้เป็นด้วย ก็เป็นเหมือนกับเขียนเรียงความแหละครับ แต่จะมีบางส่วนที่เป็นข้อความบังคับที่เราต้องเอาเป็นแบบ อันนี้ไปศึกษาและจำมาเป็นแบบอย่างกันเอาเอง ชั้นตรีบรรยายกระทู้ธรรมเดียว พร้อมยกตัวอย่างประกอบอีกหนึ่งพุทธภาษิต พร้อมบรรยายความสอดคล้องกับพุทธภาษิตของโจทย์ที่ได้มา ชั้นโทต้องยกตัวอย่างภาษิตอีกสองภาษิตพร้อมบรรยาย และชั้นเอกก็สามภาษิตพร้อมบรรยาย

    สิ่งสำคัญที่ผมอยากแนะนำคือ เมื่อเรียนแล้ว สอบแล้ว ผ่านแล้ว อย่ามัวแต่ดีใจว่าเราเป็นผู้รู้ เปิดโลกได้ เพราะจริงๆแล้วตัวอรรถตัวธรรมนั้นเป็นเพียงสื่อ แต่สิ่งที่ยิ่งกว่าคือให้ใจเราเป็นธรรมด้วย ธรรมนั้นเขียนไว้ให้ศึกษา รู้อรรถรู้ธรรมมากแต่กิเลสมากก็ยังอยู่ในสงสารวัฏ อันนี้ใช้ไม่ได้ แต่ต้องเอาให้รู้ให้เห็นจริง รู้ใจเราให้จริง เข้าใจการเกิด ดำรง และดับ แล้วสิ่งที่จะได้คือความเป็นผู้แจ้งผู้เบิกบาน

    ที่ผ่านๆมา มีมิจฉาทิฏฐิหลายคนรู้ว่าผมจบนักธรรมชั้นเอกมา ก็อยากลองภูมิธรรม ตั้งปัญหามาให้เราตอบ เราก็ตอบตามที่เรารู้และเข้าใจ พอเจอคำตอบของเราก็หงายตึ้งไปหลายรายเหมือนกัน เพราะเป็นเพียงแค่ความอยากลองอยากถาม มิได้ถามแล้วเอาไปปฏิบัติให้รู้ตาม อย่างนี้นักปฏิบัติก็ต้องเจอกันทุกรายเช่นกัน

    สมัยนี้ในเมืองไทยเราก็เริ่มมีองค์กรและบริษัทส่วนหนึ่งอ้าแขนรับคนที่มีใบเบิกทางกับกระดาษประกาศนักธธรรมอยู่บ้างแล้ว เพราะการทำงานกับคนดี เข้าใจหลักธรรมชาติ ปรับตัวง่าย จะช่วยให้องค์กรไม่มีข้อขัดแย้งมาก แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ใครๆก็อยากได้คนเก่งไว้ก่อน แต่ถ้าได้ทั้งคนดีและเก่งด้วย องค์กรก็จะบรรลุเป้าหมายได้ดีอีกขั้น เสียดายที่เมืองนอกยังไม่ยอมรับกับประกาศนียบัตรอันนี้ เพราะเขาไม่รู้เรื่อง ไม่งั้นผมคงก้าวกระโดดไปได้หลายขั้น

    ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับจ.ข.ก.ท. ด้วยนะครับ หมั่นทำหมั่นสร้าง หมั่นพิจารณาเอา แล้วก็จะพบกับแสงสว่างเอง
     
  5. กัณตา

    กัณตา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +28
    ขออนุโมทนา ทุกความคิดเห็นค่ะ ตอนนี้เร่งอ่านหนังสือ อ่านภาษาบาลีจำให้ขึ้นใจเพราะลืมตัวอักษรภาษาบาลีจนหมดต้องรื้อฟื้นกันหน่อยล่ะค่ะ ถ้าศึกษาบ่อยๆจะเข้าใจได้ไม่ยากคุณพ่อบอกอย่างนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ ผลสอบออกมายังไงจะเรียนให้ทราบนะคะ chearr
     
  6. เสถียน

    เสถียน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +1,084
    ตัวอย่าง เรียงความแก้กระทู้ธรรมffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>


    ธรรมศึกษาชั้นตรี <O:p></O:p>


    วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ <O:p></O:p>


    คนจะล่วงทุกข์ได้ เพราะความเพียร <O:p></O:p>

    บัดนี้ จักได้อธิบายขยายเนื้อความแห่งพุทธสุภาษิตที่ได้ลิขิตไว้ ณ เบื้องต้น พอเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและปฏิบัติ เป็นลำดับไป
    คำว่าทุกข์............บรรยาย 5- 10 บรรทัด............... สมดังพระพุทธภาษิตที่มาในขุททกนิกาย ธัมมปทคาถาว่า <O:p></O:p>

    ทนฺโต เสฏฺโฐ มนุสฺเสสุ <O:p></O:p>


    ในหมู่มนุษย์ ผู้ฝึกตนได้แล้ว เป็นผู้ประเสริฐ <O:p></O:p>

    มนุษย์เรานี้.................บรรยาย 5-10 บรรทัด <O:p></O:p>
    สรุป 5- 10 บรรทัด ต่อท้ายด้วยสมดังพุทธสมดังนัยพุทธภาษิตที่ได้ยกขึ้นไว้ ณ เบื้องต้นนั้นว่า <O:p></O:p>

    วิริเยน ทุกฺขมจฺ เจติ <O:p></O:p>


    คนจะล่วงทุกข์ได้ก็เพราะความเพียร <O:p></O:p>

    ดังมีอรรถาธิบายมาแล้ว เอวํ ก็มีด้วยประการ ฉะนี้. <O:p></O:p>
    ( เขียนให้ได้ ๒ หน้ากระดาษ เว้นบรรทัด )<O:p></O:p>

    <O:p></O:p>​
     

แชร์หน้านี้

Loading...