ขอสอบถามเรื่องข้อห้ามการบวชและเงินสงฆ์

ผมมีเพื่อนคนนึงมีความต้องการที่จะบวชแต่ตอนนี้มีหนี้อยู่จำนวนนึง ก่อนหน้านี้เพื่อนได้ไปปฏิบัติธรรมแล้วได้คุยกับพระอาจารย์ถึงเรื่องการบวชแล้วมีหนี้
พระอาจารย์ได้เล่าให้ฟังว่าก่อนบวชท่านก็มีหนี้และพอบวชเข้ามาก็ได้ปัจจัยจากญาติโยมที่ถวายเป็นเงินส่วนตัวและได้นำมาใช้หนี้จนหมด... ผมเองก็บอกเค้าว่าเท่าที่รู้จะมีข้อห้ามเกี่ยวกับการบวช เรื่องคนมีหนี้อยู่ด้วย แต่เค้าก็ยังปักใจว่าเค้าบวชได้ และไม่ผิดถ้าเอาเงินปัจจัยที่ได้จากการรับถวายส่วนตัวมาใช้หนี้

ผมเลยอยากขอความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยนะครับ ว่าถูกผิดยังไงครับ

 

อืมม์ ว่ากันตามวินัยพระบัญญัติ คนมีหนี้ห้ามบวช ภิกษุใดบวชให้ต้องอาบัติ แต่คนมีหนี้ที่ได้
อุปสมบทเป็นพระแล้วก็เป็นอันอุปสมบทไป... เมื่อเป็นพระแล้วก็ห้ามรับเงินอีก ถ้ารับมาต้อง
ปลงอาบัติและสละออกไป ...ว่าโดยย่อก็เท่านี้นะครับ แต่ถ้าต้องการยืนยันชัดลงไปว่า
ถูก-ผิดอย่างไร ผมแนะนำให้ไปหาศึกษาวินัยปิฎกนะ วินัยแต่ละข้อมีปริยายละเอียดมาก
มีเรื่องต้นบัญญัติ มีอธิบายอักษรต่ออักษรและอื่นอีกมาก ถ้าไปค้นดูรับรองต้องกระจ่าง

 

เชื่อตามพระพุทธองค์จะดีที่สุด

 

ความคิดเห็นส่วนตัวนะ ไม่ได้อ้างอิงจากข้อมูลใดๆ
การเป็นสงฆ์ ไม่ใช่อาชีพ ไม่ใช่เพื่อหาเงิน แต่เพื่อการหลุดพ้น

ศาสนาพุทธห้ามบวชเพราะมีหนี้สิน
เพราะสงฆ์อาจต้องเสื่อมเสีย เพราะถูกกล่าวหาว่าบวชเพื่อหาเงินใช้หนี้
ทำให้ญาติโยม เสื่อมศรัทธาได้

 

เรื่องข้อห้ามการบวชและเงินสงฆ์

เจ้าของกระทู้อยากบวชแต่มีความกังวลเรื่องหนี้สิน จึงไม่อาจจะตัดสินใจได้ หลวงพี่เคยรู้สึกอย่างนี้เหมือนกัน เพราะมีหนี้หลายล้าน แต่ก็ได้รับการบอกกล่าวจากพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า ในยุคของการแข่งขันกันทำการค้าหรือทำธุรกิจในสมัยนี้ ไม่มีใครเลยสักคนที่ไม่มีหนี้ เพราะต้องอาศัยธนาคารหรือแหล่งเงินทุนมาทำการค้าเพื่อเสริมสร้างรายได้ แม้แต่ผู้ที่เป็นหมอผู้ซึ่งมีรายได้ดี ก็ยังต้องเป็นหนี้แบ็งค์ คือมีบัตรเครดิต

แต่การบวชก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดความสามารถใช้หนี้ได้ นั่นคืออานิสงส์ของการบวช ทำให้ชีวิตมีบุญมากขึ้น ยิ่งบวชแล้วเป็นพระแท้ไม่ทุศีล เป็นพระบริสุทธิ์ ก็ย่อมมีบุญมากขึ้น การได้รับบุญจากอานิสงส์ที่บวช ส่งผลให้มีชีวิตดีขึ้น อธิษฐานจิตให้บุญช่วยคลี่คลายสถานการณ์เลวร้ายต่างๆได้ ที่เคยมีหนี้ ก็อาจจะได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ ยกหนี้ให้เพื่อการทำบุญให้ตัวเขาเอง หรือไม่ก็อาจจะได้มีผู้ใจบุญบริจาคถวายปัจจัยให้

ตัวหลวงพี่เอง บวชมาเข้าปีที่สามแล้ว ก่อนบวชก็กังวลเรื่องหนี้สินตลอดเวลาเหมือนกัน แต่ก็ทำใจใสนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมและรับบุญตลอด ปรากฏว่าด้วยอานิสงส์ของบุญจากการบวช ครอบครัวก็ไม่ได้มีความเดือดร้อนแต่ประการใด กลับมีโชคดีขึ้น ซื้อง่ายขายคล่อง จนโยมสีกา บอกว่าอย่าสึกออกไปนะ อยู่เป็นพระนั่นแหละถือว่าได้ช่วยครอบครัวดีที่สุดแล้ว

อยากสรุปว่า หนี้กับบวช มันคนละเรื่อง อยู่ที่เจตนาของตัวเราว่าเราบวชเพื่อหนีหนี้ หรือว่าบวชเพื่อเติมบุญ ให้บุญเป็นที่พึ่งให้สามารถชำระหนี้ได้ บุญบวชเป็นบุญใหญ่ที่สามารถปิดนรก เปิดสวรรค์ให้กับผู้บวช และหากตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ บุญจะนับประมาณมิได้ ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสว่า "ถึงแม้จะมีผู้วิเศษเก็บดอกไม้จากป่าหิมพานต์ แล้วนำมาบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้ง ๑,๐๐๐ พระองค์ กระทำดังนี้ทุกวัน ผลบุญจากการบูชานั้นก็ไม่เท่าผลบุญจากการบวชเป็นพุทธบูชาในพระพุทธศาสนา (ที่มา: การบวชในพระพุทธศาสนา พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส) "

ใหนๆก็ได้พูดเรื่องบวชแล้ว จึงอยากบอกข่าวการบวชหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ในต้นเดือนมกราคมนี คือการบวชพระ 100,000 รูปทั่วไทย จัดโดยวัดพระธรรมกาย ผู้สมัครบวชไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และสามารถเลือกจำวัดที่ใกล้บ้านตนเองได้ มีรายละเอียดอยู่ในเวป www.dmycenter.com การบวชครั้งนี้มีการอบรมทางไกลผ่านดาวเทียมไปยังวัดที่พระจำวัดทุกๆวัด ตามรายชื่อที่ได้แจ้งให้เลือก

เพื่อความผาสุขของชาวไทยและชาวโลก และเพื่อการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ทำวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง ทั่วประเทศ เจ้าของกระทู้นี้ น่าจะฉวยโอกาสร่วมเป็นบุคคลประวัติศาสตร์ บวชหมู่ 100,000 รูปในครั้งนี้ด้วย นะ

 

ขอกรานมัสการพระณเจ้า และขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ช่วยให้คำตอบด้วยนะครับ ผมจะลองส่งข้อมูลให้เพื่อนได้ลองอ่านดูเค้าจะได้บวชแบบไม่มีปัญหาครับ

 

ผมเองก็มีหนี้ก่อนที่จะบวช พระอาจารย์ท่านแนะนำให้บอกพ่อแม่หรือญาติหรือใครก็ได้ ให้รับภาระหนี้แทนไปก่อน(เฉพาะช่วงเวลาที่บวชอยู่) หลังจากสึกออกมาผมก็เอาหนี้กับมาเป็นสมบัติส่วนตัวเหมือนเดิม (ผมบวชประมาณ ๑ เดือนครับ) ๕๕๕


ส่วนที่เพื่อนคุณไปถามเพราะอาจารย์รูปนั้นแล้วท่านบอกว่าเอาเงินที่ญาติโยมถวายเป็นการส่วนตัวไปใช้หนี้สมัยที่เป็นฆราวาสนั้น ผมว่ามันน่าจะป้วนเปี้ยนแถว ๆ อเวจีเสียมากกว่า

หากเอาคำสอนของหลวงพ่อวัดท่าซุง เท่าที่ผมพอจะจำใจความได้ว่าถึงแม้เงินนั้นญาติโยมจะถวายพระเพื่อใช้เป็นการส่วนตัว พระก็ควรจะใช้เงินนั้นตามสมณะสารูปเท่านั้น และควรจะนำเงินนั้นไปทำบุญต่อเพื่อให้ญาติโยมได้บุญยิ่ง ๆ ขึ้นไปครับ

 

ผมเองก็ระแวงเรื่องนี้เหมือนกัน ครับ

ตอนนี้ผม อายุ 19
ผมตั้งใจว่า เกณฑ์ทหารตอนอายุ21 ได้หรือไม่ได้เป็นทหารก็ตาม
หลังจากนี้ ประมาณ1-6 เดือน ผมก็จะบวช ครับ

แต่ตอนนี้ ผมก็เป็นหนี้เหมือนกัน
คือ ตอนที่เรียนอยู่ ยืมตังเพื่อนบ้าง แม่ส่งเงินมาให้จ่ายค่าเรียนพิเศษ ผมก็ไม่จ่าย เอาไปใช้หมด
จนวันนี้ ผมยังไม่ได้ใช้หนี้เค้าเลยครับ ตั้งใจว่าระหว่างรอบวชนี่
ผมจะเก็บตัง ใช้หนี้ให้หมด เป็นหนี้ก็ประมาณ 5000-6000 บาท ครับ


อิอิ

ผมก็จะพยายามใช้ให้หมดๆไปซะ แล้วจะได้บวชได้อย่างภูมิใจ ครับ