###ขอเชิญร่วมสร้างรูปหล่อพ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย ###

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย jummaiford, 15 ตุลาคม 2010.

  1. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสมทบทุนสร้าง


    1.รูปเหมือนพ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย สงขลา ขนาดเท่าจริงถวาย ไว้ ณ วัดสะบ้าย้อย สงขลา 1องค์
    งบประมาณ65000บาท

    2.เหรียญ พ่อท่านหวาน ด้านหลังเป็นรูปโยมพ่อเเก้ว เดชพุฒ หมอฆราวาส ยุคโบราณ เหรียญนี้เป็นความปราถนาของหลวงปู่โดยตรงที่อยากสร้างเป็นรูปโยมพ่อของท่าน

    จำนวนการสร้าง2000เหรียญ

    งบประมาณ ไม่เกิน30000บาท



    [​IMG]

    [​IMG]


    หากใครมีจิตศรัทธา
    กรุณาโอนเข้าบัญชีของนายเเพทย์ประพล เองชวน โรงพยาบาลสงขลา
    ซึ่งท่านเองเป็นอาจารย์เเละเป็นประธานชมรมคนรักหลวงปู่ทวด





    ชื่อบัญชี นายประพล เองชวน

    บัญชีออมทรัพย์ ธนาคาร กรุงไทย
    สาขา โรงพยาบาล สงขลา
    เลขที่บัญชี 980-1-06355-6



    สอบถามรายละเอียดได้ที่0819299151
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • FIL1301.JPG
      FIL1301.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.2 MB
      เปิดดู:
      3,840
    • DSC_0022.JPG
      DSC_0022.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.1 MB
      เปิดดู:
      3,783
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 ตุลาคม 2010
  2. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    การจัดสร้างพระชุดนี้สร้างถวายในนาม ชมรมคนรักหลวงปู่ทวด
    เพื่อเป็นอาจาริยบูชาคุณเเด่พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย ซึ่งท่านเองเป็นศิษย์องค์สุดท้ายของหลวงพ่อสีพุฒ วัดมะเดื่อทอง ซึ่งเป็นอาจารย์ของพ่อท่านเเดง วัดศรีมหาโพธิ์ ปัตตานี

    [​IMG]
    พ่อท่านหวานยังเป็นพี่ชายที่เป็นที่เคารพนับถืออย่างมากกับพ่อท่าน นอง วัดทรายขาว สหธรรมิกท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ผู้สร้างหลวงพ่อทวด ปี2497อันโด่งดังอีกด้วย พ่อท่านหวาน ท่านไปเรียนพระกรรมฐาน จากเจ้าคุณโชดก เเละท่านรับพระกรรมฐานนี้มาปฏิบัติตลอดชีวิตของท่าน เเละท่านเองสร้างคุณประโยชน์โดยทั่ว เเละ คนพื้นที่ให้ความเคารพนับถือท่านมาก ท่านมีพระยันต์เอกลักษณ์คือตัวหัวด่าน อันเป็นยันต์สำคัญสายเขาอ้อ เรียกได้ว่าท่านเป็นหนึ่งในสายเขาอ้อที่ปิดตัวก็ไม่ผิดเเต่อย่างใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 ตุลาคม 2010
  3. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]พ่อท่านหวาน หรือหลวงปู่หวาน ปัจจุบันท่านอายุ 93 ปี 72 พรรษาเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการปลุกเสกพระหลวงพ่อทวด พระหลวงพ่อทวดทุกรุ่นที่ท่านปลุกเสกทุกรุ่นล้วนมีประสบการณ์เป็นที่ล่ำลือและเชื่อถือได้อย่างยิ่ง ที่โด่งดังไปทั่วประเทศ คือรุ่นเครื่องบินตกหรือที่กล่าวขานนามกันว่า พระหลวงพ่อทวด วัดสะบ้าย้อย รุ่นเสินเจิ้น ที่สำคัญยิ่ง และท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวดอีกรูปหนึ่งที่ร่วมปลุกเสกพระหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดเนื้อว่านรุ่นแรกปี พ.ศ. 2497 ร่วมกับท่านพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้,ท่านพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว และหลวงปู่แดง วัดพระศรีมหาโพธิ์ นอกจากนั้นหลวงปู่หวานท่านยังได้ร่วมกับท่านอาจารย์ทิม พระอาจารย์นอง พ่อท่านดำ วัดตุยง ปลุกเสกพระหลวงพ่อทวดอีกหลายรุ่น เช่นรุ่นต่างๆในปี พ.ศ. 2505 ปี พ.ศ. 2508 เป็นต้น และต่อเนื่องยาวนานมาถึงปัจจุบัน นับว่าหาได้ยากยิ่งที่จะมีพระเกจิในสายหลวงพ่อทวดในสมัยนี้ [/FONT]




    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 ตุลาคม 2010
  4. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
     
  5. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    [​IMG]

    ด้านหน้าเป็นพระพุทธปางปาฏิหาริย์ ที่ผู้สร้างคนแรกคือ ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ที่กล่าวกันว่าพระพิมพ์นี้เป็นพิมพ์พระกรุที่ท่านอาจารย์คง ปรมาจารย์ของท่านขุนแผนสร้างไว้ เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา คนโบราณบอกว่ายอดที่สุดแห่งยอดขุนพล

    [​IMG]
    ด้านหลังเป็นลายใบไม้แต่เดิมเมื่อครั้ง2497เมื่อสร้างครั้งเเรกนั้นใช้ใบโพธิ์ แต่ครั้งนี้เพื่อไม่ให้วัดรอยเท้าครู จึงใช้ใบยอ ซึ่งเป็นใบมงคลหรือความเป็นมหานิยมนั่นเอง ส่วนของมงคลที่โรยนั้นจะเป็นของดีเเห่งเมืองศรีวิชัยแบบเต็มๆ
    ประกอบด้วย

    1อิฐฐานพระอุโบสถสมัยอยุธยาของสำนักตักศิลาเขาอ้อ จาก พ่อท่านห้อง เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
    2ฐานพระสมัยอยุธยาจาก วัดจะทิ้งพระ รับมอบจากเจ้าอาวาสวัดจะทิ้งพระ
    3ผงตะไบกริชศรีวิชัย เป็นของมรดกตกทอดของบุคคลท่านหนึ่งในเมืองสงขลาซึ่งมอบให้ด้วยความยินดี
    4ชิ้นส่วนพระพุทธรูปแตกหักที่สร้างโดยสมเด็จพระราชมุนี หรือหลวงพ่อทวดนั่นเอง

    พระชุดนี้สร้างเพียง227องค์เท่านั้น สร้างจากมวลสารล้วนๆไม่ผสมอย่างอื่นเลย


    ที่มาพระนามพระยอดขุนพลอันเข้มขลัง

    จากการที่ได้ไปรวบรวมมวลสารเพื่อจัดสร้างพระยอดขุนพลซึ่งแน่นอนว่าของยอดๆคงไม่พ้นเสาหลักเมืองดังนั้นหลักเมืองที่มีความเกี่ยวข้องกับเขาอ้อหรือตักศิลาแห่งศรีวิชัยก็คือหลักเมืองเก่าแก่แห่งชัยบุรี เชื่อหรือไม่ว่าต้องเข้าไปในป่าและต้องข้ามธารน้ำซึ่งผูกด้วยไม่ไผ่เพียงสามลำและเบื้องล่างอันประกอบด้วยน้ำที่เชี่ยวแน่นอนว่าหากพลาดลงไปแล้วคงจมน้ำเป็นแน่เพราะน้ำลึกหลายเมตร สารภาพอย่าไม่อายว่ากลัวจริงๆแต่ทำไงได้เมื่ออยากได้ของยอดดวงใจเราต้องกล้า จึงตั้งจิตขออธิษฐานพรหมเทพเทวดาที่รักษาสถานที่ให้ข้ามน้ำสำเร็จ พอข้ามไปสำเร็จก็พบ ศาลมุงสังกะสีและเสาหลักเมืองเก่าแก่มาเพียงต้นเดียวจึงอธิษฐานจิตขอเศษไม้หลักเมือง ทันทีที่อธิษฐานจิตเสร็จ ฟ้าที่โปร่งสว่างกลางวันเเสกๆนั้น ฟ้าได้ลั่นดังสนั่นถึงสามครั้ง เเสดงถึงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ หรือเรียกว่าธรรมชาติรับรู้ นั่นเอง หลังจากกลับออกมาถึงรถและเดินทางกลับนั้น ทางคณะศิษย์หลวงพ่อทวดยังกล่าวถึงความอัศจรรย์ว่าบังเอิญยากจริงๆ และเมื่อถึงที่พักได้จัดการจุนเจิมผงมวลสารที่ได้และกล่าวอธิษฐานก่อนมอบมวลสารให้ศิษย์หลวงพ่อทวดผสมมวลสารกันสดๆขณะประสิทธิเมนั้นเอง ฟ้าลั่นอีกสามครั้ง จึงเป็นอันว่า พระยอดขุนพลไชยบุรีฟ้าลั่นจึงเป็นพระนามที่เหมาะสมเเละลงตัวมากที่สุด พร้อมทั้งลงใจในพระรุ่นนี้ว่าฟ้าดินธรณีนี้เป็นพยาน

    สมกับพระนามว่า


    พระยอดขุนพลไชยบุรีฟ้าลั่น
    <!-- google_ad_section_end -->มวลสารชั้นครูที่อัญเชิญมาเพื่อการสถาปนาพระยอดขุนพลไชยบุรีฟ้าลั่น<O:p</O:p
    1.ยอดพระเจดีย์วัดดีหลวงอันเป็นวัดดั้งเดิมที่สมเด็จเจ้าพะโคะได้<O:p</O:p
    บรรพชาที่วัดแห่งนี้<O:p</O:p
    - ผงพระหลวงพ่อทวดแตกหักปี2505ที่จัดสร้างโดยพระอาจารย์ลั่น ผู้แต่งตำนานสมเด็จเจ้าพะโคะ และเป็นหนึ่งในสามองค์ที่เกี่ยวข้องกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ เมื่อคราวที่พระอาจารย์ทิม ค้นหาประวัติหลวงพ่อทวด โดยเทียบเคียงประวัติ จากพระประวัติสมเด็จพระราชมุนี<O:p</O:p
    - ผงอิฐโบราณพระเจดีย์ห้ายอดสมัยอยุธยาหรืออีกนัยหนึ่งคือสมัยสมเด็จพระราชมุนี<O:p</O:p
    -ผงพระพุทธรูปแตกหักสมัยพระอาจารย์แก้ว วาจาสิทธิ์ สมภารองค์เก่าแก่ของวัดดีหลวงที่กล่าวกันว่าเพียงวาจาและชื่อเสียงท่านเองนั่น ผียังเกรงในบารมีท่านจึงได้รับสมญานามว่า อาจารย์แก้ว ศักดิ์สิทธิ์ อาจารย์แก้ว ผีกลัว<O:p</O:p
    -ผงหนังสือบุตซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนที่จารึกพระคาถาอาคมเลขยันต์เอาไว้รวมถึงพระตำรายาสมุนไพรต่างๆที่สำเร็จด้วยอาคม และคำสอนใจพระพุทธศาสนาต่างๆจึงนับว่าเป็นมงคลเสริมความศักดิ์สิทธิ์ด้านปัญญาโดยเฉพาะ<O:p</O:p
    2.อิฐพระเจดีย์วัดพะโคะ วัดดั้งเดิมที่สมเด็จพระราชมุนีเคยพำนัก<O:p</O:p
    และบูรณะพระเจดีย์ ยอดพระเกศพระสมัยอยุธยา ณ ศาลา<O:p</O:p
    ตัดสินความสมเด็จเจ้าพะโคะ<O:p</O:p
    -อิฐพระเจดีย์องค์เล็กสมัยโบราณ หน้าสุวรรณมาลิกเจดีย์<O:p</O:p
    -ว่านยาสมัยสมภารเขียว องค์สร้างหลวงพ่อทวด ปี2506<O:p</O:p
    ของวัดพะโคะ ทั้งยังเป็นสหธรรมมิกกับพระอาจารย์ทิม <O:p</O:p
    วัดช้างให้อีกด้วย<O:p</O:p
    3.หินศิลาโบราณและฐานพระศิวลึงค์ อายุนับพันๆปี ภายในถ้ำเขาคูหา อารยธรรมโบราณชุมชนสทิงพระซึ่งถ้ำแห่งนี้อยู่ใกล้กับวัดพะโคะ อีกทั้งเป็นถ้ำขุดไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่เหมือนกับถ้ำอจันตาร์ที่ประเทศอินเดีย<O:p</O:p
    4.ฐานดินดำโบราณพระบุเงินสมัยอยุธยา จากวัดจะทิ้งพระ หรือสทิงพาราณสี วัดโบราณที่มีตำนานการสร้างพระเจดีย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช<O:p</O:p
    5.อิฐโบราณฐานพระอุโบสถมหาอุตจ์ สมัยอยุธยา ของวัดสีคูหยัง หรือ วัดสีหยัง วัดเดิมที่สมเด็จพระราชมุนีเคยพำนักและศึกษาพระธรรมกับพระชินเสน ผู้เป็นอาจารย์<O:p</O:p
    -ดินจอมปลวกในโบสถ์มหาอุตจ์<O:p</O:p
    -ไม้คานโบสถ์โบราณของโบสถ์มหาอุตจ์<O:p</O:p
    -ใบเสมาดินเผาที่ขุดพบรอบพระอุโบสถ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    6.อิฐโบราณสมัยอยุธยา ของสำนักตักศิลาไสยเวท เขาอ้อ<O:p</O:p
    ชิ้นส่วนพระเกศพระโบราณภายในถ้ำฉัตรทันต์ <O:p</O:p
    ดินภายในถ้ำฉัตรทันต์ <O:p</O:p
    ว่านยามวลสารสำคัญจากเจ้าสำนักเขาอ้อ<O:p</O:p
    7.ดินใต้พระนอนสีหไสยาสน์ และชิ้นส่วนพระพุทธรูปปูนตำ <O:p</O:p
    สมัยสมเด็จพระราชมุนี ไหดินเผาโบราณสมัยอยุธยา<O:p</O:p
    วัดคูหาสรรค์ พัทลุง <O:p</O:p
    8. อิฐโบราณบริเวณหลักเมืองชัยบุรี หลักเมืองเก่าพัทลุง<O:p</O:p
    9. อิฐพระเจดีย์ วัดบรมธาตุ นครศรีธรรมราช<O:p</O:p
    ดินฐานพระพุทธรูปโบราณรอบพระเจดีย์<O:p</O:p
    10.อิฐฐานพระสยมพันปี นครศรีธรรมราช<O:p</O:p
    11.อิฐฐานพระอุโบสถ วัดท่าเรือ นครศรีธรรมราช<O:p</O:p
    ปัจจุบันเป็นวิทยาลัยนาฏศิลป์ <O:p</O:p
    12.อิฐโบราณจากกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี กรุพระหูยาน<O:p</O:p
    13.อิฐโบราณจากกรุนครโกษา วัดนครโกษา ลพบุรี<O:p</O:p
    14.อิฐโบราณจากกรุวัดปืน ลพบุรี<O:p</O:p
    15.อิฐโบราณจากศาลสูงหรือศาลพระกาฬ ลพบุรี<O:p</O:p
    16.อิฐโบราณจากพระปรางค์สามยอด<O:p</O:p
    17.อิฐโบราณจากปรางค์แขก<O:p</O:p
    18.อิฐโบราณจากปราสาทพนมรุ้ง<O:p</O:p
    19.ดินฐานชุกชีวัดใหญ่ชัยมงคล หรือ วัดป่าแก้ว เป็นชุกชีเดิมของแท้ที่กรมศิลปากรขุดสำรวจชั้นดินซึ่งดินนี้เองนับว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอันมากเนื่องด้วยผ่านพิธีกรรมอันเข้มขลังแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาซึ่งแน่นอนว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชย่อมอธิษฐานบารมี ณ ที่แห่งนี้ ร่วมกับ สมเด็จพระพนรัต หรือ มหาเถรคันฉ่อง <O:p</O:p
    พระอาจารย์ต้นพระตำรับวิชชาต่างๆที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน <O:p</O:p
    20.ดินฐานชุกชี สมัยอยุธยา วัดกลางบางแก้ว นครชัยศรี ซึ่งเป็นพระอุโบสถเก่าซึ่งในยุคหลวงปู่บุญ ก็ยังคงอยู่และได้ใช้พระอุโบสถแห่งนี้เช่นกัน หากเพียงแค่คิดว่าหลวงพ่อบุญเคยอธิษฐานจิตนั่งปรกภายในโบสถ์แห่งนี้ก็นับว่าเป็นมหามงคลอย่างหาที่สุดมิได้แล้วยังไม่พอ บรรดาพระเถราจารย์ผู้ทรงอิทธิจิต ทรงอริยศักดิ์ <O:p</O:p
    อาทิ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ หลวงปู่ต่างๆรวมทั้งสมเด็จพระสังฆราชแพ ล้วนเป็นสหธรรมิกในเจ้าคุณพระพุทธวิธีนายกด้วยกันทั้งหมดล้วนเคยมานั่งหนัก ณ โบสถ์นี้เช่นกัน<O:p</O:p
    -ใบเสมาหินชนวนสมัยอยุธยาของวัดกลางบางแก้วซึ่งใบเสมานี้นับเป็นอีกหนึ่งเคล็ดที่น้อยคนมักจะรู้ว่านี่แห่งความสำเร็จ ที่มาเนื่องจากความเชื่อเรื่องการบวชพระนั่นเองต้องบวชภายในพระอุโบสถที่รายล้อมดัวยเสมาอันเป็นสิ่งบอกเขตความเป็นพุทธาวาสนั่นเอง<O:p</O:p
    -หีบสมบัติของพระพุทธวิธีนายกซึ่งนับว่าเป็นอีกสิ่งที่หาได้ยากคิดเอาแค่ว่าหีบสมบัติก็นับว่ามีความเป็นมงคลอยู่แล้วยังเป็นสมบัติหลวงปู่บุญ ซึ่งเป็นพระ ที่เป็นพระจริงๆนับได้ว่าเป็นมหามงคลที่หาน้อยคนจักได้ครอบครอง<O:p</O:p
    21.อิฐพระราชวังบวรสถานมงคลหรือวังหน้า
    22.ดินจากดินแดนพุทธภูมิจากที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และปฐมเทศนา รวมทั้งอิฐดินจากคันธกุฏี และดินจากสถานที่สำคัญตามพุทธประวัติ รวมถึงดินร้อยหมื่นสังขารของคงคามหานทีที่ไม่เคยหลับใหลหลายพันปี รวมถึงน้ำจากแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่รวมจิตวิญญาณของชาวอินเดียกว่าพันๆปี<O:p</O:p
    23.ผงกะลามหาอุตจ์ และกะลาตาเดียว ศิษย์อาจารย์ปาลเป็นผู้มอบให้ซึ่งเป็นของทนสิทธิ์ที่เด่นด้านมหาอุตจ์ แคล้วคลาด <O:p</O:p
    24.ผงงาช้างแท้ๆที่เหลือจากการทำมีดหมอยุคเก่าของช่างพยุหคีรี นครสวรรค์ ซึ่งเสกเดี่ยวโดยหลวงปู่ถมหลายสิบปี<O:p</O:p
    25.ไม้เสาวิหารหลวง อายุกว่า700ปี ของวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ซึ่งพระพุทธพจนวราภรณ์ เจ้าอาวาส เป็นผู้มอบให้ ซึ่งไม้นี้เป็นไม้ฐานพระวิหารหลวงที่ขุดพบขึ้นเมื่อคราวที่มีการบูรณะวิหารซึ่งวิหารนี้เมื่อเจ็ดสิบกว่าปีก่อนเป็นที่ชุมนุมพระสุดยอดพระอริยเจ้าอย่างท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตโต, เจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ ,ครูบาเจ้าศรีวิชัย ซึ่งแน่นอนว่าทุกองค์ย่อมเจริญพระกรรมฐานภายในพระวิหารหลวงอันสำคัญเยี่ยงนี้อย่างแน่นอนนับว่าเป็นของดีที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระองค์สำคัญๆอย่างชัดเจนและวัดนี้ยังเป็นวัดสำคัญที่อดีตพระบูรพมหากษัตริยาเจ้าทั้งหลายเสด็จมานมัสการอย่างแน่นอนที่สุด
    <O:p26.ผงพระพุทธคุณที่เหลือจากการสร้างพระวัดปากน้ำ1-2-3 ของเจ้าคุณพระมงคลเทพมุนี ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายอันลือลั่น ซึ่งพระที่พระเดชพระคุณที่หลวงพ่อท่านสร้างประจักษ์ชัดถึงอภินิหารเป็นอันมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมตตาค้าขาย แคล้วคลาด <O:p</O:p
    27.ผงจักรพรรดิ์ของหลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา<O:p</O:p
    ที่กล่าวกันว่าผงนี้มีอานุภาพมากท่านเคยบอกว่าผงนี้แค่ช้อนเดียวสร้างพระได้เป็นหมื่นๆองค์โดยที่ไม่ต้องเสกเลย รวมทั้งยังมีข้าวสารเสกบูชา พระ และข้าวก้นบาตรของหลวงพ่อดู่ แท้ๆ ซึ่งนับวันจะหาได้ยากยิ่งเช่นกัน ยังไม่นับถึงอัฐิธาตุของหลวงพ่อดู่แท้อันถือว่าเป็นองค์ท่านจริงที่ศิษย์ต่างหวงแหนมากๆอัญเชิญมาผสมเพื่อความเป็นมงคลในครั้งนี้ด้วย<O:p</O:p<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...