ข้อความจากต่างมิติ - อนุภาคควอนตัมก็มีความนึกคิด และ DNA ก็คือควอนตัม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 15 กันยายน 2011.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เนื้อหาในกระทู้นี้ เป็นส่วนขยาย และคำอธิบายแบบหลากมิติของครายออน
    เกี่ยวกับเรื่องของ "อนุภาคระดับควอนตัม" ก็ว่าได้ เพราะว่าเมื่อราวๆ 60 ปีก่อน
    เหล่านักวิทยาศาสตร์ รวมถึงไอสไตน์ด้วย ได้พากันทดลองที่ชื่อว่า
    "Double Slits Experiment" และก็ได้ผลการทดลองที่น่าแปลกประหลาดใจ

    คือพวกเขาพบว่า และ สรุปว่า "อนุภาคควอนตัม มันรู้ว่าเรากำลังแอบสังเกตมันอยู่"
    และเมื่อใดที่มันรู้ว่าเรากำลังแอบดูมันอยู่ มันจะแสดงพฤติกรรมที่แปลกไป
    ไม่ใช่พฤติกรรมตามธรรมชาติของพวกมัน..อะไรแบบนั้นหนะครับ

    จนทุกวันนี้ เหล่านักวิทยาศาสตร์ จึงเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า "ผู้ทดลอง มีอิทธิพลต่อสิ่งทดลองเสมอ"

    และเนื้อหาในกระทู้นี้ ก็เป็นอีกข้อมูลด้านหนึ่งที่พูดถึงเรื่องนี้ จากครายออนลองอ่านดูนะครับ
    และลองใช้วิจารณญาณของท่านเอาเองด้วยนะครับ..

    ด้วยความปราถนาดีครับ..


    ปล.กระทู้ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับกระทู้นี้คือ

    1). “การเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมและซ่อมแซม DNA ด้วยคลื่นเสียง”

    http://palungjit.org/threads/การเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมและซ่อมแซม-dna-ด้วยคลื่นเสียง.255677/

    2). “ผลงานวิจัยจากรัซเซีย-ใช้เสียงเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางพันธุกรรมใน DNA ได้ (2)”

    http://palungjit.org/threads/ผลงานว...นแปลงข้อมูลทางพันธุกรรมใน-dna-ได้-2-a.255487/

    3).http://palungjit.org/threads/ร่างกา...ากจิตสำนึก-ความตระหนักรู้ของมนุษย์เอง.542467/

    4). http://palungjit.org/threads/ผลงานวิจัยชี้ว่า-ความคิด-สามารถส่งผลกระทบต่อ-dna-ในยีนได้.497792/



    ...........................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2014
  2. Dont"

    Dont" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    434
    ค่าพลัง:
    +17
    น่าคิดครับ....................:cool::cool:
     
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขออนุญาตปูพื้นฐานเรื่อง Double Slit Experiment ก่อนนะครับ

    ที่มา:

    "2012-ปีทองของยุคพลังงานใหม่-ยุคศิวิไลซ์แห่งการเลื่อนระดับขึ้น-ascension-ไปสู่มิติที่-5"

    http://122.155.0.138/f2/2012-ปีทองข...ขึ้น-ascension-ไปสู่มิติที่-5-a-217055-3.html

    ....................................................................................


    การทดลองสลิทคู่ (Double Slit Experiment)

    อ่านคำแปลสรุปนี้ก่อนก็ได้นะครับ แล้วค่อยชม VDO

    ก่อนที่จะเริ่มทำการทดลองกับอนุภาคระดับควอนตัมจริงๆ
    เขาอธิบายให้เราเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของอนุภาค และของคลื่นที่ถูกยิ่งผ่านช่องสลิทก่อนว่า

    1). สำหรับอนุภาคของสสารทั่วไป เช่น ก้อนหิน เป็นต้น เมื่อถูกยิงผ่านช่องสลิทเดี่ยว
    ผลการทดลองที่ได้ ก็จะเป็นแถบของก้อนหินที่กระทบกับฉากรับเพียงแถบเดียว
    แต่ถ้ายิงผ่านช่องสลิทคู่ ก็จะได้แถบของก้อนหิน 2 แถบบนฉาก

    2). ส่วนคลื่น เมื่อผ่านช่องสลิทเดี่ยว ก็จะได้แถบเดี่ยว ปรากฎอยู่บนฉากแต่ถ้ายิงผ่านช่องสลิทคู่
    ก็จะได้ผลเป็นแถบมากมายบนฉาก เพราะว่าคลื่นแต่ละคลื่นจะแทรกสอดซึ่งกันและกัน
    จึงเกิดเป็นแถบมากมายอย่างที่เห็น

    การทดลองจริงกับควอนตัม (Quantum) โดยใช้อนุภาคของอิเล็กตรอน

    1). ยิงผ่านช่องสลิทเดี่ยว => เกิดแถบเดี่ยวบนฉากรับ เหมือนพฤติกรรมของอนุภาค
    2). ยิงผ่านช่องสลิทคู่ => เกิดเป็นแถบมากมายบนฉากรับ เหมือนพฤติกรรมของคลื่น

    นักวิทยาศาสตร์จึงพากันงง ว่าเกิดอะไรขึ้น และจึงสัณนิษฐานว่า
    สงสัยอนุภาคของอิเล็กตรอนที่ยิงออกไปพร้อมๆกันหลายๆอนุภาคนั้นเกิดการชนกัน
    แล้วจึงเกิดการกระเด้งไปมา และจึงเกิดแถบขึ้นมามากมายอย่างที่เห็น

    เพราะฉะนั้น นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย จึงพากันเริ่มการทดลองใหม่อีกครั้ง
    แต่ตอนนี้ ยิงอนุภาคอิเล็กตรอนออกไปทีละอนุภาค ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้มันจะไม่สามารถไปชนกับใคร
    แล้วกระเด้งไปไหนได้อีกแล้ว

    แต่ผลการทดลองก็คือ

    1). ยิงผ่านสลิทเดี่ยว => เกิดแถบเดี่ยว เหมือนพฤติกรรมของอนุภาค
    2). ยิงผ่านสลิทคู่ => เกิดแถบมากมายเหมือนเดิมอีก เหมือนพฤติกรรมของคลื่น

    นี่ก็ยิ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์งงไปกันใหญ่อีก ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
    เพราะมันขัดแย้งกับสามัญสำนึกปกติของเรา มันไม่น่าจะเป็นไปได้
    ดังนั้นพวกเขาจึงสัณนิษฐานจากผลการทดลองนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า
    อาจจะเป็นเพราะว่า อนุภาคอิเล็กตรอนเมื่อมันถูกยิงไปถึงสลิท มันแบ่งออกเป็นสองส่วน
    แล้วมันก็เข้าไปได้ทั้งสองสลิท แล้วเกิดการแทรกสอดกันขึ้น จึงได้ผลอย่างที่เห็น

    แต่ว่าในทางคณิตศาสตร์นั้น ตามหลักความน่าจะเป็นแล้ว โอกาสที่อนุภาคอิเล็กตรอนจะเข้าไปทั้ง 2 สลิท
    หรือ เข้าไปเพียงสลิทเดียว หรือ ไม่เข้าไปทั้งคู่เลย มันก็มีความน่าจะเป็นอยู่มากมาย
    เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงเริ่มทำการทดลองใหม่อีกครั้ง เพื่อดูว่าอนุภาคอิเล็กตรอนดังกล่าวนั้น
    มันเข้าไปสลิทไหนกันแน่ หรือว่าทั้ง 2 สลิท หรือไม่เข้าทั้งคู่เลย
    โดยการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับไว้ที่สลิทข้างหนึ่ง แล้วค่อยเริ่มยิงอนุภาคเข้าไปเหมือนเดิม

    แต่เพราะโลกควอนตัม มันน่าอัศจรรย์และน่าพิศวงกว่าที่เราคิดเอาไว้มากนัก
    ดังนั้น ผลการทดลอง จึงปรากฎว่า

    1). ยิงผ่านสลิทคู่ => ได้แถบบนฉาก เพียงแค่ 2 แถบ เท่านั้นเอง
    (เหมือนพฤติกรรมของอนุภาค ซึ่งก่อนหน้านี้ มันเพิ่งแสดงพฤติกรรมเหมือนเป็นคลื่นให้เห็นอยู่หยกๆ ??)

    เมื่อผลการทดลองเป็นเช่นนี้ นักวิทยาศาสตร์ ก็ยิ่งปวดหัวหนักไปอีก
    เพราะเหมือนกับว่า อนุภาคอิเล็กตรอนเหล่านั้น มันรู้ว่ากำลังถูกจับตาดูอยู่
    เพราะฉะนั้น มันจึงเลือกที่จะแสดงตัวเป็นอนุภาคแทน

    มันแน่ชัดว่า ผู้สังเกต มีอิทธิพลต่อผลการทดลองจริงๆซึ่งจากการทดลองนี้
    ผู้สังเกตได้ทำให้ผลการทดลองล้มเหลวลงได้เพียงแค่ได้ "สังเกตการณ์" ดูมันอยู่เท่านั้นเอง ???

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=DfPeprQ7oGc&feature=player_embedded]Dr Quantum - Double Slit Experiment - YouTube[/ame]

    .........................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2014
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!


    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    The Quantum Factor - Physics with an attitude! > Kryon


    ตอนที่ 1:



    สวัสดี ที่รักทั้งหลาย ฉันคือครายออนแห่งหน่วยบริการแม่เหล็ก และข้อความในเย็นวันนี้
    ก็จะเหมือนกับข้อความในเย็นวันก่อน และมันก็ขึ้นอยู่กับผู้รับสารของฉัน ว่าจะตัดสินใจนำไฟล์เสียง
    มาถอดความเป็นตัวหนังสือต่อหรือไม่ เพราะฉันได้สื่อสารกับเขาไปรอบหนึ่งแล้วเมื่อคืนนี้
    ดังนั้นเขาก็น่าจะเข้าใจเรื่องนี้แล้ว และไม่รู้สึกประหลาดใจมากนักในวันนี้

    ดังนั้น มันจึงมีแต่ความเข้าใจที่มากขึ้นและภูมิปัญญาที่ดีขึ้น เพราะสิ่งต่างๆที่พวกเราอยากจะนำเสนอในเย็นวันนี้
    อาจจะเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับใครหลายๆคน

    ในตอนนี้พวกเราจะมาพูดถึงหลักฐานอะไรบางอย่าง ที่พวกเราไม่เคยพูดเจาะลึกในรายละเอียดมาก่อน
    ดังนั้น มันจึงอาจจะดูเหลือเชื่ออยู่สักหน่อย มันเป็นหลักฐานทางฟิสิกส์ แต่มันก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพวกคุณด้วย
    มันเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานที่โอบล้อมพวกคุณอยู่ในตอนนี้


    ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้ ตอนที่เราเปิดประตูการสื่อสารนี้ พวกเราถามว่า

    "ผู้ชายคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนั้น กำลังเสแสร้งอยู่หรือเปล่า?"

    [พูดถึงการสื่อสารทางโทรจิตของนาย Lee] พวกเราถามดังนั้น ก็เพื่อให้พวกคุณได้ใช้วิจารณญาณดู
    แล้วพวกคุณก็จะรู้ความจริง เพราะนี่เป็นข้อความที่จะเข้าสู่แก่นแท้ของโลกแห่งความเป็นจริง

    นี่เป็นข้อความที่อาจจะดูเหมือนไม่น่าเชื่อถือนักสำหรับใครบางคน และเพราะว่าธรรมชาติของมันเป็นแบบนั้นเอง
    พวกเราจึงได้นำข้อมูลในทางปฏิบัติมานำเสนอให้กับพวกคุณด้วย คือพวกเราจะอธิบายบางส่วนของมัน
    ด้วยวิทยาศาสตร์ของพวกคุณ ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์แบบสามมิติ เพื่อใช้มันอธิบายถึงสิ่งต่างๆที่อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อ

    พวกเราจะนำเสนอเรื่องราวที่ซักวันหนึ่งเหล่านักวิทยาศาสตร์ของพวกคุณจะเข้าใจ
    แต่ว่าในตอนนี้ ก็มีพวกเขาบางคนที่เริ่มจะเข้าใจมันบ้างแล้ว แต่ว่าพวกเขาก็ยังไม่เข้าใจมันทั้งหมด
    ว่ามันหมายความว่าอย่างไร และมันทำงานหรือมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร

    แต่พวกคุณก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธการมีอยู่ของมันได้
    ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเหมาะสม พวกเราจึงจะนำเสนอรายละเอียดของมันที่ละส่วนๆ


    …………………………............................
     
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!


    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    http://spiritlibrary.com/kryon/the-quantum-factor-physics-with-an-attitude


    ตอนที่ 2:



    ภาพรวม (Overview)

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - Double Slits Experiment)

    นี่คือหลักฐานที่ว่านั้น : ในขณะที่พวกคุณเปิดประตูสู่ความเข้าใจต่อสิ่งที่เป็นควอนตัมในวิทยาศาสตร์ของพวกคุณ
    พวกคุณกำลังจะค้นพบฟิสิกส์ชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติของความเมตตากรุณา (benevolent)
    อันเป็นคุณสมบัติในตัวของมันเองอยู่เสมอ กล่าวได้ว่า พวกคุณกำลังเปิดประตูออกไป
    และมองเห็นบางอย่างที่มีกาลเวลาที่ไม่เป็นเส้นตรง และนั่นคือ ความมีอคติ
    ซึ่งเป็นความมีอคติเอนเอียงเข้าหาความเมตตากรุณา

    มันจะเป็นไปได้หรือ ที่จะมีพลังงานจริงๆในฟิสิกส์ ที่มีอคติเอนเอียงเข้าหาความเมตตากรุณา?
    สิ่งนี้ดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย เพราะฟิสิกส์สมควรที่จะเป็น ระบบของกฎต่างๆ ความสัมพันธ์ต่างๆ
    ไม่ใช่ระบบที่มีจิตสำนึกชนิดใดๆทั้งสิ้น

    ดังนั้น สำหรับพวกคุณแล้ว มันจึงเป็นปริศนาที่ซับซ้อนยิ่งนัก

    แต่ตอนนี้ อันดับแรกมันมีสิ่งหนึ่งที่พวกคุณจะต้องยอมรับซะก่อนว่า
    โลกของควอนตัมมันอาจจะมีคุณสมบัติอะไรอย่างอื่นอีก ที่มากกว่าการเป็นแค่
    "เซ็ทของกฎเกณฑ์ต่างๆ" เท่านั้นก็ได้ เพราะว่าถ้ามันเป็นแค่ "ระบบ" เฉยๆแล้ว
    มันจะสามารถมีความลำเอียงได้อย่างไร?

    แม้ว่าเรื่องนี้มันจะดูเหมือนเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ แต่มันก็ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ในแบบที่พวกคุณคาดหวังซะทั้งหมด
    มนุษย์ที่รักทั้งหลายเอ๋ย ที่พวกเราต้องการจะบอกข้อมูลนี้แก่พวกคุณ ก็เพราะว่า
    มันเกี่ยวพันถึงพลังงานแห่งการสรรสร้าง ที่พวกคุณกำลังประสบกันอยู่ในขณะนี้ด้วย


    ………………….................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!


    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    http://spiritlibrary.com/kryon/the-quantum-factor-physics-with-an-attitude


    ตอนที่ 3:


    คำจำกัดความของควอนตัม

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    มันเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่า ควรจะเริ่มต้นอย่างไร และควรจะอธิบายอย่างไร พวกคุณถึงจะสามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้จริงๆ
    ดังนั้นพวกเราจึงจะขอเริ่มต้นด้วยเรื่องนี้ก่อนก็แล้วกัน

    วิทยาศาสตร์ของพวกคุณมีความเชื่อในขณะนี้ว่า ควอนตัมฟิสิกส์
    คืออะไรที่เกี่ยวข้องกับวิธีการที่อนุภาคขนาดเล็กทั้งหลายมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
    ซึ่งอนุภาคที่ว่านี้ก็มีขนาดเล็กมากๆ พวกมันเป็นได้แม้กระทั่งอนุภาคของแสง,
    โมเลกุลของ DNA และ ผลผลิตอื่นๆของทฤษฏีอนุภาคคลื่น (wave particle theory)

    อนุภาคเหล่านี้มีขนาดเล็กมากๆ ซึ่งพวกคุณจะสามารถมองเห็นพวกมันได้
    โดยผ่านทางกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนเท่านั้น นี่คือสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า
    “กลศาสตร์ควอนตัม” (quantum mechanics) และกลศาสตร์ควอนตัมนี้
    ก็จะสามารถถูกพบเห็นได้เฉพาะในอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากๆเท่านั้น



    ปริศนามันอยู่ตรงนี้..
    พวกคุณเคยรู้มาก่อนหรือยังว่า โดยปกติแล้ว แสงและสสารอื่นๆ
    จะเปลี่ยนจากการเป็นคลื่นมาเป็นอนุภาคอยู่เสมอ?

    พวกคุณเคยรู้มาก่อนหรือยังว่า แสงจะเปลี่ยนเป็นอนุภาค
    เมื่อมันกำลังถูกสังเกตโดยมนุษย์อยู่?


    แล้ว ระบบทางคณิตศาสตร์ใดๆ จะสามารถ "รับรู้" ได้อย่างไรว่า มันกำลังถูกสังเกตการณ์อยู่?

    พวกคุณรู้อยู่แล้วว่าพลังงานควอนตัมอาจจะแตกต่างไปจากในแบบที่พวกคุณเคยคิดเอาไว้อย่างมาก

    แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามันไม่ใช่เรื่องของฟิสิกส์เลย?
    จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพลังงานควอนตัม คือ "ลายนิ้วมือของพระผู้สร้าง” (creator's fingerprint)?
    มันจะเป็นทั้งฟิสิกส์และมันก็จะมีจิตสำนึกอีกด้วย แต่ทว่า บางทีเรื่องนี้มันอาจจะดูแปลกเกินไปหน่อยกระมัง?

    ……………………..................................

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!

    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    http://spiritlibrary.com/kryon/the-quantum-factor-physics-with-an-attitude


    ตอนที่ 4:


    พลังงานควอนตัมขนาดใหญ่ของกาแล็กซี่


    ฉันจะบอกข้อมูลเพื่อให้พวกคุณเก็บเอาไปคิดดู

    พลังงานควอนตัมที่พวกคุณพบเห็นได้ในอนุภาคขนาดเล็กมากๆนั้น
    มันก็สามารถที่จะเกิดขึ้นกับอนุภาคที่มีขนาดใหญ่มากๆได้เหมือนกัน
    อันที่จริงแล้ว พวกเราก็ชักจะเริ่มไปไกลเกินไปซะแล้ว
    เพราะว่าพวกเรากำลังจะบอกกับพวกคุณว่า
    จริงๆแล้วในแต่ละส่วนของจักรวาล มันก็จะมีกฎทางฟิสิกส์ ที่แตกต่างกันไป
    ขึ้นอยู่กับว่า สิ่งที่เป็นศูนย์กลางของกาแล็คซี่นั้นๆคืออะไร


    เรามาเริ่มกันที่หลักฐานนั้นดีกว่า..ที่ว่า ฟิสิกส์ไมใช่กฎเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานสากลแต่อย่างใด
    เพราะว่ามันจะแปรผันไปตาม “ตราประทับทางควอนตัมของพลังงานของพระผู้สร้าง”
    (quantum stamp of the creator energy) ของแต่ละแห่ง ซึ่งบางแห่งก็อาจจะคล้ายคลึงกันมากๆ
    แต่ทุกๆแห่งก็จะมีความแตกต่างกันอยู่เล็กๆน้อยๆ และถ้าพวกคุณรู้ถึงความแตกต่างเหล่านั้น
    พวกคุณก็จะสงสัยว่าทำไม ซึ่งฉันก็เพิ่งบอกพวกคุณไปแล้วเดี๋ยวนี้เองว่า

    มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงกลางยังไงหละ

    เพราะว่าฟิสิกส์ของพวกคุณ อยู่ใน 3 มิติซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นพวกคุณจึงมีปัญหากับเรื่องที่ว่า
    จริงๆแล้วสิ่งต่างๆมันทำงานได้อย่างไร และควอนตัมฟิสิกส์ ก็เป็นเพียงเงื่อนงำเดียวที่พวกคุณมีอยู่
    เกี่ยวกับอนันตจักรวาลนี้ (multi-verse) และก็เป็นเงื่อนงำเดียวของความเป็นไปได้ที่ว่า
    กฎบางกฎของมวลและแรงโน้มถ่วง ถูกกำหนดโดยสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงศูนย์กลางของแต่ละกาแล็คซี่


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    พลังงานแห่งการสร้างสรรค์ก็อยู่ที่ตรงกลางนั้นด้วย พลังงานที่ว่านี้ มันเป็นพลังงานที่มีสองขั้ว
    ที่คอยผลักและดันสิ่งที่พวกเราเรียกว่า "ฝาแฝด” (twins) อยู่ และมันก็อยู่ตรงกลางของกาแล็คซี่ของพวกคุณด้วย


    แม้ว่าในโลก 3 มิติของพวกคุณ พวกคุณจะเห็นว่ามันเป็น “เอกพจน์”
    แต่จะว่าไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะว่าจริงๆแล้ว
    มันเป็นเหตุการณ์ที่อยู่กันเป็นคู่ๆต่างหากหละ


    วิทยาศาสตร์ของพวกคุณยังไม่รู้ถึงเรื่องนี้ ดังนั้นที่พวกเราบอกเรื่องนี้แก่พวกคุณ
    ก็เพื่อที่ว่า เมื่อใดที่พวกเขาค้นพบมันแล้ว พวกคุณก็จะได้พูดได้ว่าพวกคุณเคยได้ยินมาก่อนแล้วจากที่นี่
    แล้วมันก็จะทำให้สิ่งอื่นๆที่ฉันกำลังจะกล่าวต่อไปทั้งหมดนี้ ดูน่าเชื่อถือด้วย


    เอาล่ะ.. มันจะเป็นยังไงนะ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างในฟิสิกส์ของพวกคุณ
    มันอยู่กันเป็นคู่ๆ แม้แต่กฎทางฟิสิกส์ในปัจจุบันนี้ของพวกคุณเองก็ตาม
    ที่พวกคุณบอกว่าตรงกลางกาแล็กซี่นั้น มันเป็นเอกพจน์หนะ?
    มีใครเคยคิดบ้างไหมว่า มันอาจจะเป็นอีกคู่หนึ่งก็ได้?



    เรามาเริ่มกันที่นักดาราศาสตร์กันก่อนดีกว่า ถ้าเราถามพวกเขาว่า

    "นักดาราศาสตร์ที่รัก พวกคุณเชื่อในพระเจ้ากันไหม?"

    นักดาราศาสตร์อาจจะคิดอยู่ครู่หนึ่ง และก็อาจพูดว่า

    "ฉันไม่ใช่คนที่จะมาพูดถึงเรื่องพระเจ้าได้หรอกนะ เพราะว่ามันไม่ใช่วิทยาศาสตร์สำหรับฉัน
    และแม้ว่าฉันอาจจะเชื่อในพระเจ้าอยู่ก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันศึกษาอยู่
    เพราะว่าฉันยึดถือแต่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น”

    ถ้าอย่างนั้น พวกคุณอาจถามเขาแบบนี้แทนว่า

    "โอเค, งั้น คุณเห็นอะไรที่น่าสนใจในทางวิทยาศาสตร์ ที่เกี่ยวกับกาแลกซี่ของเราบ้างล่ะ?"

    สิ่งนี้อาจทำให้นักดาราศาสตร์ตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อยและกล่าวว่า

    "ได้, ฉันจะบอกพวกคุณถึงสิ่งทีน่าสนใจสำหรับพวกเราทั้งหมดในตอนนี้ว่า
    พวกเราได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่พวกเราไม่เข้าใจ นั่นก็คือ

    มันมีกฎทางฟิสิกส์สำหรับวัตถุขนาดใหญ่อยู่หลายข้อ
    ที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับกลศาสตร์การโคจรของเทหะวัตถุต่างๆได้
    มันไม่เหมือนกับที่เคยเรียนรู้มาจากกฎทางฟิสิกส์ของนิวตันและยูคลิด
    (Newtonian and Euclidian) เลย

    มันเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมากสำหรับพวกเรา
    ที่กาแลกซี่นั้นเคลื่อนที่เหมือนเป็นจานใบหนึ่ง
    ซึ่งเกือบจะดูเหมือนว่าดวงดาวทั้งหลาย เป็นเพียงก้อนกรวดก้อนหิน
    ที่เกาะติดอยู่กับมันอย่างนั้นแหละ เพราะว่าพวกมัน
    ทั้งหมดจะโคจรไปด้วยกัน


    มันจะต้องมีพลังงานอะไรบางชนิดที่ทำให้มันคงรูปร่างอยู่แบบนั้นได้
    เพราะกลศาสตร์การโคจรแบบที่พวกเรารู้จักนั้น
    มันจะเกี่ยวข้องกับแรงโน้มถ่วง และมวล และรวมถึง
    เกี่ยวข้องกับการโคจรของวัตถุใดๆรอบๆจุดฟัลครั่ม (Fulcrum) จุดหนึ่งด้วย
    จุดฟัลครั่มที่ว่านี้ก็เช่น ดวงอาทิตย์ของพวกเราเป็นต้น


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - solar system)

    ดังนั้น มันก็จะไปสร้างวงโคจรหลายๆวงโคจรที่ไม่ซ้ำกันเลยให้เกิดขึ้น
    เพราะว่าวัตถุทั้งหมดที่อยู่รอบๆจุดศูนย์กลางที่มีแรงดึงดูดใดๆ
    ต่างก็จะเสาะหาวงโคจรเป็นของตัวมันเอง ขึ้นอยู่กับมวลและความเร็วของพวกมัน

    นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมดาวเคราะห์ทั้งหลายจึงมีวงโคจรที่แตกต่างกัน
    นั่นคือฟิสิกส์ที่พวกเราคาดคิดไว้ นั่นคือในแบบที่ระบบสุริยะของพวกเราเป็น
    แต่มันไม่ใช่ในแบบที่กาแล็กซี่เป็น!


    กาแล็คซี่ทั้งหลาย ต่างก็มีบางสิ่งที่มีแรงดึงดูดอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของพวกมันด้วยเหมือนกัน
    แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง กลับเคลื่อนที่ไปรอบๆจุดศูนย์กลางนั้น อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
    มันจะต้องมีแรงโน้มถ่วงและแรงดึงดูดบางชนิดที่มีความเป็นเอกภาพอยู่ที่นั่นแน่ๆ นี่แหละที่พวกเราไม่เข้าใจ”

    ……………………...................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!


    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    http://spiritlibrary.com/kryon/the-quantum-factor-physics-with-an-attitude


    ตอนที่ 5:

    การออกแบบอันเหลือเชื่อ – ท้าทายทุกความเป็นไปได้ยาก
    (The Incredible Design - Against All Odds)


    แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด แล้วพวกเขาก็จะบอกอะไรบางอย่าง ที่พวกคุณไม่สามารถเชื่อได้อีกว่า
    มันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกคุณเรียกว่า “ความบังเอิญ” ดังนั้น พวกเราจึงจะตั้งชื่อให้กับข้อความสื่อสารในครั้งนี้ว่า


    "ปัจจัยแห่งควอนตัม" (The Quantum Factor)

    มันมีอะไรบางอย่าง ที่พวกคุณคาดไม่ถึง กำลังเกิดขึ้นอยู่รอบๆตัวพวกคุณในขณะนี้
    ในโลกแห่งความเป็นจริง 3 มิติของพวกคุณ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลก
    ดูเหมือนจะอยู่ในสภาวะของการสุ่ม หรือความบังเอิญแทบทั้งสิ้น

    กล่าวคือ โลกแห่งความเป็นจริง จะตอบสนองออกมาในรูปแบบของกราฟทรงระฆังคว่ำตามที่ถูกคาดหมายไว้นั่นเอง


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - Normal curve)

    สิ่งปกติธรรมดา จะเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งกว่าสิ่งที่ไม่ธรรมดา
    และสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก ก็จะเป็นไปในรูปแบบของการสุ่มที่คาดหมายได้


    ถ้าพวกคุณโยนลูกเต๋าซ้ำไปซ้ำมาเป็นพันๆครั้ง พวกคุณก็จะพบว่าการสุ่ม หรือความบังเอิญ
    มันเกิดขึ้นแบบคงเส้นคงวา นั่นแหละคือสิ่งที่พวกคุณเรียกว่า “วิถีที่สิ่งต่างๆเป็นไป”
    นั่นแหละคือแบบที่พวกคุณคาดหมายหละ แบบที่มันไม่มีความลำเอียงใดๆมาเกี่ยวข้องด้วยเลย



    กลับมาไปที่นักดาราศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง – นักดาราศาสตร์กำลังพูดว่า

    "ทุกๆที่ที่พวกคุณมองออกไป เพื่อตรวจสอบสิ่งที่พวกคุณอาจเรียกว่า
    ‘พลังงานในการสร้างสรรค์ของจักรวาล’ นั้น พวกคุณก็จะพบว่า
    มันคือ “ความเหลือเชื่อในทางคณิตศาสตร์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้”
    (incredibly mathematically improbable) ทั้งนั้นเลย

    เพราะมันจะเหมือนกับว่าเวลาที่พวกคุณโยนลูกเต๋า
    แล้วคุณก็ได้เลข 6 และก็เลข 6 และก็เลข 6 เป็นพันๆครั้ง อะไรแบบนั้น
    ซึ่งมันอยู่นอกเหนือขอบเขตของความบังเอิญ
    มันแสดงให้เห็นว่ามันจะต้องมีการออกแบบอันชาญฉลาดอย่างแน่นอน”


    ตอนนี้ฉันไม่ได้กำลังพูดถึงนักอภิปรัชญาคนหนึ่งนะ แต่ฉันกำลังพูดถึงนักดาราศาสตร์คนหนึ่งอยู่
    ทุกๆที่ที่พวกเขามองดู ท่ามกลางความเป็นไปไม่ได้ทั้งปวง พวกเขาพบว่า
    จักรวาลถูกออกแบบมาด้วยความเมตตากรุณาเพื่อค้ำจุนชีวิต

    พวกเขาใช้คำว่า "การออกแบบอันชาญฉลาด"
    แต่ฉันเรียกว่า "การออกแบบแห่งเมตตาธรรม"


    และฉันจะบอกกับพวกคุณว่า พลังงานนี้แหละ
    ที่เชื่อมระบบสุริยะทั้งหลายในกาแลกซี่ของพวกคุณเอาไว้ด้วยกัน
    ด้วยจำนวนดวงดาวกว่า 100 พันล้านดวง

    พลังงานนี้แหละคือมือของควอนตัมอันใหญ่ยักษ์
    ที่มีอิทธิพลต่อกาแลกซี่ทุกๆกาแล็กซี่ในจักรวาลของพวกคุณ
    เหมือนดังเป็นหัตถ์แห่งพระเจ้า มันคือควอนตัมอย่างหนึ่ง
    มันคือมือแห่งความเมตตากรุณา



    แล้วมันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร? มันคือตัวอย่างแรกในจำนวนหลายๆตัวอย่าง ที่พวกเรากำลังจะบอกพวกคุณอยู่นี่แหละ
    เพราะนี่คือ “ปัจจัยแห่งควอนตัม” นี่คือลายนิ้วมือแท้ๆของพระผู้สร้างของจักรวาล
    มันถูกทำให้มีอัคติโน้มเอียงเข้าหาความรัก โน้มเอียงเข้าหาชีวิต โน้มเอียงไปทางความเมตตากรุณา

    ตอนนี้ พวกคุณกำลังอยู่บนโลกที่ไม่ควรจะมีอยู่จริงๆ เพราะว่าสิ่งเดียวที่ยอมให้มันมีอยู่ก็คือ การออกแบบอันชาญฉลาดนั่นเอง


    วิทยาศาสตร์ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะรู้เรื่องนี้ได้? สำหรับพวกเขา มันยังคงเป็น ปริศนาอยู่
    สำหรับพวกเขา มันไม่ใช่ถ้อยแถลงของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันอยู่นอกเหนือความน่าจะเป็นทางสถิติ
    และดูเหมือนว่าสิ่งเดียวที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือ "เป็นการออกแบบ"
    คือเมตตาธรรมที่เป็นพลังงานของพระผู้สร้างของจักรวาลนี้


    ลองคิดดู พวกคุณคิดว่ามันหมายความว่าอะไร?
    ถ้ามันมีความเมตตากรุณาอยู่ในการสร้างสรรค์ทั้งมวลของจักรวาล
    ที่ยอมให้สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้ ยอมให้โลกนี้เกิดขึ้นมาได้แล้ว
    มันก็หมายความว่า โลกอื่นๆก็จะต้องมีอยู่ด้วย
    มันมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในทุกแห่งทุกหน!


    ซึ่งพวกเราก็เคยบอกเรื่องนี้กับพวกคุณมาหลายครั้งแล้วด้วย
    แต่อย่างไรก็ตาม พวกเราก็กำลังอยู่บนโลกที่พิเศษมากๆใบหนึ่ง
    เพราะว่ามันเป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีทางเลือกอิสระในทุกๆเรื่อง
    ซึ่งในแต่ละจักรวาลนั้น จะมีดาวเคราะห์ที่เป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี
    อยู่เพียงดวงเดียวเท่านั้น

    และมันก็มีดาวเคราะห์หลายดวง ที่เคยเป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรีมาก่อนเช่นกัน
    และมันก็ยังมีดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี ที่เลื่อนระดับขึ้นไปแล้วอยู่อีกมากมายด้วยเช่นกัน
    ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าที่จัดเตรียมเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตให้กับดาวเคราะห์ดวงอื่นๆอยู่
    ซึ่งดาวเคราะห์ดวงอื่นๆที่ว่านี้ ก็จะกลายไปเป็น “ดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรีอันศักดิ์สิทธิ์” ดวงใหม่ต่อไป



    ดังนั้น ตอนนี้ พลังงานแห่งการสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในพวกคุณ จึงเปี่ยมไปด้วยภูมิปัญญาจากหลากหลายยุคสมัย
    มันคือภูมิปัญญาจากหลากหลายยุคสมัยของกาแลกซี่ของพวกคุณ ไม่ใช่ของโลกของพวกคุณ
    เพราะว่านับตั้งแต่หลายพันล้านปีที่ผ่านมาจนถึงบัดนี้ ที่มีกาแล็กซี่นี้ขึ้นมา ได้เคยมีผู้ที่มาก่อนพวกคุณแล้วจำนวนมากมาย
    และพวกเขาก็ได้เคยมีส่วนร่วมในบททดสอบต่างๆด้านจิตสำนึกไปแล้ว พวกเขาได้เลื่อนระดับขึ้น
    ไปสู่ระดับจิตสำนึกแห่งเมตตาธรรมระดับใหม่แล้ว และได้ส่งผ่านมันไปให้กับดาวเคราะห์ดวงใหม่แล้ว

    มันเป็นเหตุการณ์ระยะยาว แต่ในที่สุดแล้ว พวกคุณก็จะทำเหมือนอย่างที่พวกเขาทำนั่นแหละ
    ซึ่งด้วยวิธีนี้ พวกคุณจึงกำลังสร้างประชากรให้กับกาแลกซี่อยู่ ด้วยเมล็ดพันธุ์ของพวกคุณเอง
    และด้วยเมล็ดพันธุ์ของบรรดาผู้ที่อยู่มาก่อนหน้าพวกคุณ – เมล็ดพันธุ์แห่งเป้าหมายอันศักดิ์สิทธิ์

    เมื่อพวกคุณผ่านระดับจิตสำนึกแห่งความเมตตากรุณานี้แล้ว มันก็จะไปมีผลกระทบต่อจักรวาลถัดไปจริงๆ
    และจะไปมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ของวิธีการออกแบบอย่างชาญฉลาดด้วย

    มันได้เข้ามาใกล้จุดนี้นานมาแล้ว ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ จุดที่ “ฟิสิกส์” สามารถแสดงให้เห็นว่ามันมี “เจตนคติ” ได้
    มันเป็นเจตนคติแห่งความเมตตากรุณา นั้นแหละคือภาพใหญ่หละ เดี๋ยวเราไปกันต่อที่ช่วงกลางกันดีกว่า

    ………………...................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!


    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    http://spiritlibrary.com/kryon/the-quantum-factor-physics-with-an-attitude

    ตอนที่ 6:


    พลังงานควอนตัมที่ยั่งยืนเพียงอย่างเดียวบนโลกนี้


    ฉันขอนำพวกคุณมาที่การทดลองๆหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อกว่าทศวรรษมาแล้วสักหน่อยเถอะ
    การทดลองนี้มีผู้ชายสองคนในสก๊อตแลนด์ที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วย คนหนึ่งเป็นนักฟิสิกส์
    และอีกคนหนึ่งเป็นนายแพทย์ นายแพทย์ คือ ดร.ทอดด์ โอโวไคทิส (Dr. Todd Ovokaitys)

    ดร.ทอดด์ เป็นเพื่อนร่วมงานของผู้รับสาส์นของฉันเอง (นาย Lee) มันช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้
    ที่ผู้ชายในวงการวิทยาศาสตร์ทั้งสองคน มาพบกันในภพชาตินี้..ว่าไหม..[ครายออนยิ้ม]

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - Dr. todd)

    (Dr. Todd Ovokaitys : นายแพทย์อัจฉริยะ ชาวอเมริกัน ผู้คิดค้น Laser Enhanced Technology,
    ผลิตภัณฑ์เซลล์ฟู้ด ดีเอ็นเอ อาร์เอ็นเอ และ เซลล์ฟู้ด มัลติไวตามิน สเปรย์ – ผู้แปล)


    นักฟิสิกส์ และนายแพทย์ดังกล่าวนี้ คือคนกลุ่มแรก
    ที่ร่วมกันพัฒนาวิธีการทดลองทางควอนตัม
    ที่สามารถให้ผลการทดลองออกมาอย่าง ยั่งยืน,
    มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน, สามารถควบคุมได้,
    และทำให้เกิดขึ้นซ้ำอีกได้

    กล่าวได้ว่า พวกเขามีสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างพลังงานควอนตัม
    ที่สามารถถูกเก็บรักษาไว้ได้, ถูกทำซ้ำได้ และถูกนำไปใช้ได้


    พวกเขาทำมันขึ้นมาโดยใช้วิธีการบังคับให้พลังงานเลเซอร์ออกนอกเฝส
    แล้วผ่านเข้าไปในสิ่งที่พวกเราเรียกว่า ชุดของเลนส์ภาพสามมิติควอนตัม
    (quantum holographic lens arrangement)

    การเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ และ ซุปควอนตัมที่เกาะตัวกันแน่นนั้น
    แม้ว่ามันจะมีขนาดเล็กมากๆก็ตาม แต่มันก็สามารถที่จะควบคุมได้ และทำซ้ำขึ้นมาใหม่ได้
    รวมถึงสามารถจัดการได้ และส่งมันไปยังที่ๆพวกเขาต้องการได้

    Todd Ovokaitys bio

    แต่พวกเขาก็ยังไม่ใช่มนุษย์กลุ่มแรกบนโลก ที่สามารถสร้างพลังงานควอนตัมได้หรอกนะ
    พวกเขาเป็นเพียงมนุษย์กลุ่มแรก ที่สามารถสร้างพลังงานควอนตัม ที่ถูกออกแบบไว้แล้วได้
    และสามารถสร้างมันขึ้นมาซ้ำได้อีกเท่านั้นเอง เพราะว่ามนุษย์คนแรกบนโลกที่สามารถสร้างพลังงานควอนตัมได้
    ก็คือ นิโคลา เทสล่า (Nikola Tesla) แต่ตอนนั้นเขายังไม่สามารถควบคุมมันได้ แต่เขาก็รู้ว่ามันอยู่ที่นั่น
    และเขาก็มองเห็นมันซ้ำแล้วซ้ำอีกในการทดลองที่เกี่ยวกับแม่เหล็กของเขา


    สิ่งที่นักฟิสิกส์และนายแพทย์ได้ทำไว้ ในทศวรรษต่อมา
    ได้แสดงให้เห็นถึงปัจจัยแห่งควอนตัม (quantum factor)
    เพราะพวกเขาได้ประยุกต์ใช้ “ซุปควอนตัม” (Quantum Soup)
    ที่พวกเขาได้ออกแบบและคิดค้นขึ้นมานี้ กับด้านชีวภาพด้วย
    ซึ่งทุกครั้งที่พวกเขาอาบพลังงานนี้เข้าไปในตัวอย่างทดลอง
    หรือการทดลองทางชีวภาพ พวกมันก็จะได้รับการบำบัดรักษา!


    ลองคิดดูซิว่า มันเป็นไปได้ยากมากสักแค่ไหน ที่พวกคุณจะสามารถพัฒนาพลังงานอะไรแบบนี้ขึ้นมาได้ บนโลกใบนี้
    ที่เมื่อพวกคุณจี้มันลงไปตรงไหนก็ตาม ตรงนั้นก็จะถูกบำบัดรักษา?

    มันเป็นไปได้ยากมากสักแค่ไหน? มันก็เหมือนกับการโยนลูกเต๋าแล้วได้แต่เลข 6 แล้วก็เลข 6 แล้วก็เลข 6 อีกนั่นแหละ

    พวกคุณเริ่มเข้าใจรูปแบบของมันหรือยัง?

    ……………………………………………………………………………………………….
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Dr todd.jpg
      Dr todd.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.2 KB
      เปิดดู:
      1,858
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!


    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    http://spiritlibrary.com/kryon/the-quantum-factor-physics-with-an-attitude


    ตอนที่ 7:


    เมื่อพลังงานควอนตัมชนิดนี้ สามารถที่จะถูกผลิตขึ้นมาใหม่ได้อีก ในห้องทดลองอื่นๆ
    มันก็เลยจะมี (และก็จะมีอยู่เสมอ) คนที่พยายามจะเอามันมาทำเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์


    แต่ตรงนี้คือสิ่งที่พวกคุณควรรู้ไว้..ว่า..มันจะเป็นพลังงานชนิดแรก
    ท่ามกลางพลังงานทุกๆชนิดที่เคยถูกค้นพบมา
    ที่จะไม่ยอมให้พวกเขาทำแบบนั้นได้
    มันไม่สามารถที่จะถูกทำให้กลายเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ได้
    เพราะว่ามันมีเมตตาธรรม


    ลองจินตนาการดูสิว่าพลังงานควอนตัมชนิดหนึ่ง ที่เป็นแค่ฟิสิกส์พื้นๆเท่านั้นเอง แต่กลับมีเจตนคติ!

    สิ่งนี้มันบอกอะไรให้กับพวกคุณบ้าง? มันควรจะแสดงให้พวกคุณเห็นว่า มันมีบางสิ่งบางอย่าง
    ที่กำลังเกิดขึ้นในฟิสิกส์ขั้นสูงอยู่ ที่เป็นมากกว่าคณิตศาสตร์ และเป็นมากกว่าคุณสมบัติของสสาร


    เมื่อถึงเวลา ปัจจัยแห่งควอนตัม (quantum factor) นี้
    ก็จะถูกค้นพบบนโลกใบนี้ และเมื่อมันเกิดขึ้น
    มันก็จะเป็นกรณีพิพาทอย่างแรง
    และมันก็จะขัดแย้งกับหลักตรรกศาสตร์ด้วย
    และขัดแย้งกับโลกในแบบ 3 มิติ
    และขัดแย้งกับวิถีความเป็นไปของสิ่งต่างๆ
    ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้วย


    การกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการของสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นบันดาจิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย
    ที่อยู่ตรงหน้าฉันในขณะนี้ จึงได้พากันอาสาสมัครมาทำงานกับยุคพลังงานใหม่นี้
    และพวกเขาก็ได้บุกน้ำลุยไฟกันมานานหลายภพหลายชาติแล้วด้วย เพียงเพื่อรอคอยสิ่งนี้อยู่

    พวกคุณจะทำอย่างไรในฐานะที่เป็นนักวิทยาศาสตร์
    ถ้าการทดลองที่อยู่ตรงหน้าพวกคุณนั้น "มันมีชีวิตจิตใจของมันเอง"?

    พวกคุณจะคิดอย่างไรถ้าแรงแม่เหล็ก, แรงโน้มถ่วง และแสง
    สามารถถูกนำมารวมกันได้ ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง
    อันเป็นไปเพื่อก่อให้เกิดการเยียวยารักษาเท่านั้น
    และจะไม่สามารถนำมารวมกันเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายใดขึ้นได้เลย?

    ซึ่งทั้งหมดนี้ กำลังจะนำไปสู่การให้คำนิยามของพลังงานพื้นฐานบางชนิดในจักรวาลกันใหม่
    เรื่องการออกแบบอันชาญฉลาดนี้ เป็นเพียงเรื่องแรกเท่านั้น และแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้
    นักดาราศาสตร์และนักฟิสิกส์ส่วนใหญ่ ก็ยังคงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดอยู่เลย

    นั่นจะเป็นการค้นพบครั้งต่อไปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้
    ที่มันได้ถูกเก็บงำไว้เป็นความลับสำหรับพวกคุณมาโดยตลอด
    ก็เพราะว่า มันต้องอาศัยระดับความสั่นสะเทือนของจิตสำนึกที่สูงขึ้น
    เพื่อที่จะทำให้มันเกิดขึ้นได้และเข้าใจมันได้


    เมื่อดาวเคราะห์ดวงใดสามารถค้นพบพลังงานควอนตัม และสามารถใช้งานมันได้แล้ว
    พวกคุณก็สามารถที่จะไปยังดาวเคราะห์ดวงนั้นได้ และจงรู้ไว้เลยว่า พวกคุณจะได้พบกับ
    รูปธรรมชีวิตที่มีระดับจิตสำนึกขั้นสูง


    และก่อนหน้าที่พวกคุณจะไปถึงระดับจิตสำนึกระดับนั้น
    การค้นพบพลังงานควอนตัมนี้ ก็ไม่อาจที่จะเกิดขึ้นได้
    เพราะว่าภายใน “ปัจจัยแห่งควอนตัม” (quantum factor) เอง
    มันบรรจุความลับเกี่ยวกับการเดินทางระหว่างดวงดาว
    โดยใช้สภาวะ large entangled state เอาไว้อยู่

    มันมีวิธีการอยู่มากมาย ที่จะทำสิ่งต่างๆ ที่พวกคุณไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้
    พวกคุณสามารถโยนกระสวยอวกาศของพวกคุณทิ้งไปได้เลย เพราะว่าพวกคุณมาถึงสุดขอบ (ทางตัน) แล้ว

    ……………………….....................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2011
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!


    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    http://spiritlibrary.com/kryon/the-quantum-factor-physics-with-an-attitude


    ตอนที่ 8:


    DNA – พลังแห่งควอนตัม


    ในตอนนี้ ขอให้ฉันนำพวกคุณมาสู่เรื่องที่เล็กมากๆซะหน่อย กว่าทศวรรษมาแล้วที่ Vladimir Poponin
    นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย ได้ทดลองใช้คลื่นแสงกับ DNA จำนวน 1 โมเลกุล ซึ่งตลอดการทดลองนี้
    เขาได้ค้นพบสนามพลังงานหลากมิติที่อยู่รอบๆ DNA คลื่นแสงได้สร้างรูปแบบของตัวมันเองขึ้นมา
    ตามสมการทางคณิตศาสตร์สมการหนึ่ง [sine wave.. คลื่นไฟฟ้ากระแสสลับที่เปลี่ยนแปลงตามค่ามุมไซน์ – ผู้แปล]
    เมื่อมี DNA อยู่ตรงนั้น

    เขาได้ค้นพบว่า DNA มีสนามพลังงานควอนตัมอยู่
    และไม่เพียงเท่านั้น มันยังเป็นสนามพลังงานควอนตัม
    ที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารอีกด้วย


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - Phantum DNA)

    (อ่านเนื้อหาสรุปเกี่ยวกับการทดลองนี้ได้ที่กระทู้ข้างล่างนี้นะครับ - ผู้แปล)

    1). “การเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมและซ่อมแซม DNA ด้วยคลื่นเสียง”

    http://palungjit.org/threads/การเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมและซ่อมแซม-dna-ด้วยคลื่นเสียง.255677/

    2). “ผลงานวิจัยจากรัซเซีย-ใช้เสียงเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางพันธุกรรมใน DNA ได้ (2)”

    http://palungjit.org/threads/ผลงานว...นแปลงข้อมูลทางพันธุกรรมใน-dna-ได้-2-a.255487/


    มีวิธีอื่นอีกไหม ที่สนามพลังงานควอนตัม สามารถทำให้แสงเปลี่ยนรูปแบบเป็นคลื่นไซน์ได้?
    เรื่องนี้มาจากการค้นพบของนักชีววิทยาด้านควอนตัมนะ ไม่ได้มาจาก Kryon

    แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายคนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทดลองนี้ เพราะว่ามันแสดงให้เห็นอะไรบางอย่าง
    ที่ไม่มีมนุษย์คนไหนเคยคาดคิดมาก่อน และมันก็มีอีกหลายคนเหมือนกัน ที่แค่ไม่อยากจะหันมามองดูข้อเท็จจริง
    ที่เหล่านักชีววิทยาควอนตัมได้ทำการทดลองไว้จริงๆเฉยๆอย่างนั้นแหละ!

    พวกเขาเลือกที่จะผลักไสข้อมูลทั้งหมดให้ไปเป็นเรื่องของ New age ไป ว่ามันไม่ใช่วิทยาศาสตร์
    สิ่งที่มนุษย์ปฏิบัติต่อวิทยาศาสตร์ มักจะน่าสนใจเสมอๆ ใช่ไหม? เพราะว่าถ้ามันไม่สามารถเข้ากันได้
    กับแบบจำลอง 3D ของโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขาหละก็ พวกเขาก็มักจะปฏิเสธการมีอยู่ของมัน

    Dr. Pjotr GARAJAJEV & Vladimir POPONIN -- DNA BioComputer Reprogramming

    The DNA Phantom Effect


    เมื่อรหัสพันธุกรรมทั้งหมดของมนุษย์ถูกถ่ายทอดออกมา เราก็จะเห็นองค์ประกอบทางเคมีของมันทุกๆองค์ประกอบ
    ซึ่งจำนวนของมันฟังแล้วน่าตกใจมาก เพราะว่าแค่ใน 1 โมกุลของมัน ที่เล็กมากๆจนคุณไม่สามารถมองเห็นได้
    ถ้าไม่ใช้กล้องจุลทรรศน์นั้น มันมีองค์ประกอบทางเคมีอยู่มากกว่า 3 พันล้านหน่วยเลยทีเดียว!

    สวยเกลียวคู่นั้น มีความซับซ้อนเกินกว่าที่พวกคุณรู้ซะอีก
    โมเลกุลนี้มีขนาดเล็กมากๆ จนเพียงพอที่จะมีสถานะของควอนตัมได้
    และ Vladimir Poponin ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า
    มันมีสนามพลังงานบางอย่างอยู่รอบๆ DNA จริงๆ
    แม้แต่กับโมเลกุลของ DNA เพียงโมเลกุลเดียวก็ตาม


    บรรดาผู้ที่เคยทำการทดลองถอดรหัสพันธุกรรมในมนุษย์ (Human Genome Project) เคยอยากรู้ว่า
    องค์ประกอบทางเคมีของ DNA ทั้ง 3 พันล้านหน่วยนั้น สร้างยีนส์ขึ้นในร่างกายมนุษย์ มากกว่า 26,000 หน่วยได้อย่างไร

    แต่จะว่าไปแล้วนะ มันมีจำนวนยีนส์ที่มากกว่านั้นซะอีก แต่ฉันกำลังใช้ตัวเลขของนักวิทยาศาสตร์
    ที่ไม่ใช่ตัวเลขของฉันเองอยู่ ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พวกเขาให้ความสนใจ

    พวกเขาไม่เคยเห็น DNA ในสถานะของควอนตัมเลย เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ค้นหาสิ่งนั้น
    แม้ว่าวิทยาศาสตร์แท้ๆของ DNA เอง จะตะโกนบอกด้วยตรรกะข้อเท็จจริงอยู่ว่า มันจะต้องเป็นควอนตัมก็ตาม


    พวกเขาไม่เคยมองหาสิ่งนั้น แต่พวกเขากลับไปนั่งนับจำนวนองค์ประกอบทางเคมีของมัน
    และมองหาแต่รหัสของพวกมันแทน และพวกเขาก็ได้พบว่า พวกมันมีการจัดเรียงตัวที่แปลกประหลาดมากๆ

    พวกเขาได้ค้นพบว่า ภายในองค์ประกอบทางเคมีทั้ง 3 พันล้านหน่วย ในสายเกลียวคู่ของ DNA นั้น
    ยีนส์ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นใน DNA ส่วนที่ทำหน้าที่ “เข้ารหัสโปรตีน” เท่านั้นเอง

    3.5% ของ DNA ทำหน้าที่สร้างยีนส์ทั้งหมด ส่วนอีกกว่า 90% ของสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบของ DNA นั้น
    ดูเหมือนว่าจะเรียงตัวกันแบบสุ่ม มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ นั่นแหละคือสิ่งที่พวกเขาสามารถเห็นและเข้าใจได้

    แม้กระทั่งทุกวันนี้ วิทยาศาสตร์ก็ยังมองไม่เห็นความชัดเจนนั้นเลยว่า
    90% ของ DNA นั้นเป็นควอนตัม ส่วนอีก 3.5% นั้นเป็นแบบ 3 มิติ (linear)


    …………………….................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • new_pa05.jpg
      new_pa05.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.1 KB
      เปิดดู:
      1,832
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!


    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    The Quantum Factor - Physics with an attitude! > Kryon


    ตอนที่ 9:


    ทุกวันนี้ นักควอนตัมฟิสิกส์ของพวกคุณมักจะปักใจอยู่แต่กับทฤษฎีสตริง (String theory)
    ซึ่งเป็นทฤษฎีทางฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นหลากมิติที่โด่งดังมากที่สุด และพูดถึงเรื่องการมี 10 มิติ + เวลา (11 มิติ)

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - String theory)


    (Note : String Theory… ทฤษฎีนี้มีสมมุติฐานว่าอนุภาคต่างๆไม่ได้มีลักษณะเป็นจุด (Point-like particle)..
    แต่เป็นเส้นหนึ่งมิติ โดยการสั่นของเส้นเชือกนี้ ทำให้เกิดเป็นตัวโน๊ตต่างๆ ตัวโน๊ตหนึ่งตัว
    สามารถแทนอนุภาคได้หนึ่งตัว ตัวโน๊ตที่ต่างคีย์กัน ก็จะให้อนุภาคที่ต่างชนิดกัน – ผู้แปล)


    ถ้าพวกคุณเริ่มถามคำถามพวกเขา เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ว่ามันจะมีหน้าตาอย่างไร
    พวกเขาก็จะบอกว่ามันคือ "ความโกลาหล” (chaos) และ "รูปแบบของการสุ่ม” (random patterning)
    เพราะนี่คือวิถีความเป็นไปของสนามพลังงานควอนตัม พวกมันเต็มไปด้วยความน่าจะเป็น
    แทนที่จะเป็นความแน่นอน (absolutes) และพวกมันก็แปรผันไปตามเหตุปัจจัยที่มีอยู่อย่างมากมายอีกด้วย...


    ซึ่งรวมถึงปัจจัยด้าน “จิตสำนึกของมนุษย์” ด้วย

    สักวันหนึ่งมันจะเป็นที่ประจักษ์ว่า มันมีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่ DNA แม้ว่ามันจะเป็นสารชีวโมเลกุลชนิดหนึ่งก็ตาม
    แต่มันก็อยู่ในสถานะของควอนตัมด้วย และเมื่อนั้น มันก็จะไปทำลายกฎเกณฑ์ด้าน "ขนาด "
    ของสิ่งที่จะอยู่ในสถานะควอนตัมไป

    เพราะว่าจริงๆแล้ว DNA ก็จะอยู่ในสถานะของควอนตัมเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว
    และมันก็สามารถส่งผลกระทบต่อการหมุน (spin) ของอะตอมต่างๆ
    ที่เข้ามาอยู่ในสนามพลังงานของมันได้ด้วยซ้ำไป

    แล้วจากนั้น คำถามที่จะตามมาแน่ๆก็คือ
    "มีข้อมูลข่าวสารอะไรที่อยู่ในส่วนที่เป็น 90 % ของ DNA ที่เป็นควอนตัมบ้าง?"


    ตอนนี้พวกเราก็มาถึงข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญแล้วใช่ไหม?
    ดังนั้น ฉันจะบอกพวกคุณว่า 90 % ของ DNA ที่เป็นควอนตัม
    มันบรรจุข้อมูลที่มีความลี้ลับและไร้กาลเวลาเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม
    มันคือแบบพิมพ์เขียวทางควอนตัมของทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณเป็นและเคยเป็นมา
    ตั้งแต่ครั้งแรกๆที่พวกคุณลงมาเกิดยังโลกมนุษย์

    DNA จะมีชุดคำสั่งต่างๆสำหรับชีวิตของพวกคุณบรรจุอยู่ ซึ่งหมายถึงข้อมูลทุกๆอย่าง
    ทั้งที่มาจากบันทึกแห่งฟ้า (Akashic record) ฉบับเต็มของพวกคุณ
    สำหรับทุกๆชาติภพที่พวกคุณเคยมีมาทั้งหมด และหมายถึงข้อมูลที่เป็น
    “ลายนิ้วมือของพระผู้สร้างผู้มีเมตตากรุณา” ที่อยู่ในเมล็ดพันธุ์แห่งการสร้างสรรค์เองด้วย

    ทุกๆทักษะความสามารถที่พวกคุณเคยมีก็อยู่ที่นั่นด้วย แม้ว่าในตอนนี้
    พวกคุณอาจจะไม่มีทักษะความสามารถนั้นอยู่แล้วก็ตาม...
    แต่บันทึกนั้นก็ยังคงอยู่ที่นั่น แนวโน้มของลักษณะเด่นและลักษณะด้อยทั้งหมด
    ก็อยู่ที่นั่นด้วย และในทางชีวภาพแล้ว ทุกๆคำสั่งของสเต็มเซลล์ (Stem Cell) ทุกๆเซล ก็อยู่ที่นั่นด้วย


    Note : (Stem Cell) หรือที่เรียกว่าเซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์อ่อนที่พร้อมจะเจริญเติบโต
    แบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ และเปลี่ยนแปลงเพื่อไปทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง....อ่านต่อ




    พวกคุณเคยสงสัยไหมว่า สเต็มเซลล์ทั้งหลาย
    พวกมันไปได้ข้อมูลในการสร้างมนุษย์มาจากที่ไหน?

    มันอยู่ใน DNA ส่วนที่เป็น 90% นั้นของพวกคุณนั่นแหละ
    และทั้ง 90% นั้นก็เป็นควอนตัม


    แล้วทำไมบางควอนตัม DNA จึงบรรจุคำสั่งในการสร้างร่างกายที่อ่อนแอเอาไว้หละ?
    ทำไมแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโรคบางอย่างจึงไปอยู่ที่นั่นได้หละ?

    ตอนนี้ฉันกำลังให้ข้อมูลนี้แก่พวกคุณเพื่อที่ว่าพวกคุณจะได้เข้าใจถึงบางสิ่งที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้...
    ซึ่งบางทีมันอาจจะเป็นคุณสมบัติทางชีวภาพที่สำคัญที่สุดเท่าที่เคยถูกนำเสนอมาก็ได้

    …………………...........................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!

    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    The Quantum Factor - Physics with an attitude! > Kryon


    ตอนที่ 10:


    DNA คือโมเลกุลที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่โมเลกุลที่อยู่นิ่งๆ

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - DNA double helix)

    มนุษย์มักจะติดอยู่ในส่วนที่เป็นสามมิติของความคิดทางชีวภาพของพวกเขา
    ในชีวิตที่เป็นแบบ 3-D ของพวกคุณ พวกคุณพากันยอมรับคุณสมบัติทางเคมีของ DNA
    ที่ถูกบอกสอนกันมานี้อย่างง่ายดาย พวกคุณทำราวกับว่าส่วนที่ทำหน้าที่ผลิตยีนแค่ 3% นี้
    คือทั้งหมดที่มันมีอย่างนั้นแหละ

    พวกคุณเชื่อว่ามันเป็นกระบวนการทางเคมี ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และนั่นก็คือคุณ


    พวกคุณมองไม่เห็นมัน ในแบบที่มันถูกออกแบบมา
    มันเป็นไดนามิ กและก็เป็นเช่นนี้เสมอมา
    มันไม่ได้ถูกกำหนดไว้อย่างแน่นอนตายตัว
    แต่มันแค่จะทำแบบเดิมๆซ้ำๆไปเรื่อยๆเท่านั้น
    จนกว่าจะมีควอนตัมอย่างอื่นมาส่งผลกระทบต่อมัน


    ด้วยเหตุนี้ พวกคุณจึงใช้ชีวิตอยู่กับส่วนที่เป็น 3% นี้ ราวกับว่ามันคือทั้งหมดที่มีอยู่อย่างนั้นแหละ
    และเพราะว่าแค่มัน “มีมาพร้อมกับร่างกายของพวกคุณ” อยู่แล้ว และดูเหมือนว่า
    มันจะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ด้วย ดังนั้น พวกคุณจึงไม่เคยคุยกับมันเลย

    พวกคุณหลายๆคน เกิดมาพร้อมกับความไวในการรับโรคที่เกิดจากกรรมที่ติดมาจากอดีตชาติ
    พวกคุณไม่ได้มาแบบใสสะอาด [ปราศจากพลังงานกรรมเก่า] แต่พวกคุณมาพร้อมกับความโน้มเอียงต่อการเกิดโรค,
    มาพร้อมกับความกลัวและความหวาดวิตก

    แต่บางอย่างก็เป็นไปในด้านบวก บางทีพวกคุณก็มาพร้อมกับความเป็นอัจฉริยะที่ต่อเนื่องมาจากชาติภพล่าสุด...
    เช่น เด็กอายุ 8 ขวบสามารถวาดรูปได้เหมือนกับศิลปินมืออาชีพ และวาดลวดลายที่ปกติต้องใช้เวลาถึง 30 ปี
    ในการพัฒนาฝีมือได้ สิ่งเหล่านี้บอกอะไรกับพวกคุณบ้าง ว่ามันจะต้องมีอะไรอยู่ใน DNA?

    บางทีพวกคุณก็มาเพื่อเป็นนักแต่งเพลง, เป็นจิตรกร, เป็นอัจฉริยะบุคคล, เป็นนักไวโอลิน,
    แต่พวกคุณเพียงแค่รอที่จะได้จับเครื่องดนตรีนั้น และแสดงฝีไม้ลายมือลงไปบนตัวโน๊ตเท่านั้นเอง
    บางทีพวกคุณก็มาพร้อมกับการรู้วิธีเล่นเปียโนอยู่แล้ว แต่เพียงแค่รอให้มือของพวกคุณใหญ่พอ
    ที่จะทำในสิ่งที่พวกคุณเคยทำมาก่อนเท่านั้นเอง... โดยไม่ต้องเรียนรู้บทเรียนใดๆเลย

    พวกคุณจะอธิบายเรื่องนี้ว่าอย่างไร ที่รักทั้งหลาย?
    คำตอบก็คือ ทั้งหมดนี้ ได้ถูกบรรจุอยู่ในชุดคำสั่งของควอนตัมไดนามิก
    ใน DNA ของพวกคุณเรียบร้อยแล้วนั่นเอง...
    อยู่ใน DNA ส่วนที่พวกคุณไม่เคยพูดคุยกับมันเลยนั่นแหละ

    …………………........................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!

    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    The Quantum Factor - Physics with an attitude! > Kryon


    ตอนที่ 11:

    การแบ่งเซลล์ เป็นกระบวนการที่แน่นอนตายตัวอย่างนั้นหรือ?

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - กระบวนการ Mitosis)

    ฉันขอนำพวกคุณมาที่กระบวนการแบ่งเซลล์สักหน่อย และแม้ว่าพวกเราจะเคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนแล้วก้ตาม
    แต่ตอนนี้พวกคุณจำเป็นจะต้องได้ฟังสิ่งนี้อีก เพื่อที่จะได้เข้าใจวิธีการทำงานของพวกมัน

    เซลล์ต่างๆมีความพร้อมที่จะแบ่งตัวอยู่แล้ว เพราะว่าร่างกายของมนุษย์
    และเนื้อเยื่อทั้งหมดของมนุษย์ ถูกออกแบบมาให้สามารถซ่อมแซมตัวเองได้

    พวกคุณเคยถูกสอนว่ามีเนื้อเยื่อบางอย่างที่ไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้
    แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่เลย เพราะว่าเนื้อเยื่อทั้งหมดสามารถซ่อมแซมตัวเองได้
    ในอัตราเร็วที่แตกต่างกัน ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และด้วยวิธีที่แตกต่างกันด้วย

    แต่ยังไงพวกมันก็ซ่อมแซมตัวเองได้

    ดังนั้น ในตอนนี้ พวกคุณก็รู้แล้วว่า ร่างกายของมนุษย์ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีชีวิตที่ยาวนาน
    แต่ว่าช่างโชคไม่ดีเอาเสียเลย ที่พลังงานที่พวกคุณได้สร้างกันขึ้นมาบนโลกใบนี้ และสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกคุณนั้น
    ได้ทำร้ายมันอย่างรุนแรง จนทำให้พวกคุณไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 80 ปีได้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ถูกออกแบบมา

    บุคคลต่างๆที่มีชื่อปรากฎอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ที่บ้างก็เป็นเหล่าศาสดา และบ้างก็เป็นเหล่าคุรุ
    และบ้างก็แค่มีชื่อปรากฎอยู่ในนั้นเฉยๆ... และมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวหลายร้อยปีนั้น พวกเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า?
    หรือว่าบางทีเรื่องนี้อาจจะเป็นเพียงแค่การอุปมาเท่านั้น?
    พวกเขาเป็นอย่างที่ในพระคัมภีร์กล่าวไว้จริงๆหรือไม่ ไม่ใช่เกิดจากความผิดพลาดในการจารึกพระคัมภีร์จริงๆใช่ไหม?

    ฉันจะบอกความจริงให้พวกคุณฟังว่า มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
    เพราะว่าเมื่อหลายพันปีก่อนหน้านี้ พวกคุณเคยมีชีวิตที่ยืนยาวมากๆ
    ชาวเลมูเรียทั้งหลายเอ๋ย ถ้าพวกคุณรู้อายุขัยของตัวเองแล้ว
    พวกคุณจะตกใจ แต่มันไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้วหละ

    คำสั่งต่างๆจะถูกถ่ายทอดผ่านกาลเวลามาสู่ DNA ของพวกคุณจริงๆ โดยผ่านทางพลังงานของโลกใบนี้..
    ซึ่งเป็นพลังงานที่พวกคุณได้สร้างมันขึ้นมาด้วยจิตสำนึกของพวกคุณเอง


    การแบ่งเซลล์ของเซลล์ใดๆก็ตาม ก่อนที่มันจะแบ่งเซลล์ได้
    มันจะต้องมีแบบพิมพ์เขียวเพื่อที่จะโคลนตัวมันเองขึ้นมาซะก่อน
    ซึ่งแบบพิมพ์เขียวที่ว่านี้ก็มาจากสเต็มเซลล์นั่นเอง
    และสเต็มเซลล์เอง ก็ได้รับข้อมูลข่าวสารพวกนี้
    มาจากส่วนที่เป็นควอนตัมของ DNA อีกที

    แต่ข้อมูลข่าวสารพวกนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนับตั้งแต่ที่พวกคุณเกิด
    ที่มันคงอยู่อย่างนั้น เพราะว่าไม่เคยมีอะไรไปเปลี่ยนแปลงมันเลย...
    และเพราะความจริงที่ว่า พวกคุณไม่เชื่อว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงได้
    และเพราะว่า พวกคุณยอมรับกระบวนการแก่ไปแล้วโดยปริยายด้วย

    เพราะว่ามันไม่มีความพยายามอย่างมีจิตสำนึกใดๆไปทำอะไรกับมัน
    มันก็เลยอยู่นิ่งๆอย่างนั้น อย่างที่มันเคยเป็นมาตลอด


    เซลล์ที่กำลังแบ่งตัว "พูด" กับสเต็มเซลล์ว่า

    "ให้ทำเหมือนอย่างที่คุณเคยให้ทำมาตลอดใช่ไหม? มีอะไรตรงไหนเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม?"

    แล้วสเต็มเซลล์ก็ตอบเซลล์ที่กำลังแบ่งตัวว่า "จงสร้างอีกเซลล์หนึ่งขึ้นมาให้เหมือนกับเซลล์เดิมนั่นแหละ"
    แล้วพวกคุณก็สร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ ที่เหมือนกับเซลล์เดิมทุกประการ และยอมรับทุกสิ่งสิ่งทุกอย่าง
    ที่พวกคุณรับเอามาเมื่อตอนที่พวกคุณเกิด

    ………………....................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • mitosis.jpg
      mitosis.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.4 KB
      เปิดดู:
      1,123
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!

    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    The Quantum Factor - Physics with an attitude! > Kryon


    ตอนที่ 12:


    มันมีพลังงานควอนตัมอย่างอื่นอีก ที่อยู่ในโลกใบนี้ ที่มี “ปัจจัยแห่งควอนตัม” อยู่
    นั่นก็คือ “การเลื่อนระดับขึ้นครั้งใหญ่” (The Great Shift)

    มันคือ ความเมตตากรุณาที่พวกคุณได้สร้างเอาไว้ และนั่นคือพลังงานใหม่
    ตอนนี้พวกคุณกำลังอยู่ในการเปลี่ยนแปลงของวัฏจักรอยู่
    และพวกคุณบางคนก็รับรู้ และกำลังรู้สึกถึงมันอยู่

    มันคือการเลื่อนระดับด้านจิตสำนึกของมวลหมู่มนุษยชาติ
    และมันกำลังเลื่อนระดับตรงไปสู่ “ปัจจัยแห่งควอนตัม” (Quantum factor)

    เพราะว่าพวกคุณกำลังมีจิตสำนึกที่เป็นควอนตัมมากกว่าแต่ก่อนแล้ว...
    และมันก็กำลังจะกลายเป็นความเมตตากรุณาด้วย นั่นคือเหตุผลว่าทำไม
    พวกคุณจึงกำลังเห็นโลกใบนี้ เป็นอย่างที่มันกำลังเป็นอยู่นี้

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - การประท้วงที่ประเทศอียิปต์)

    พวกคุณกำลังเริ่มที่จะเห็นว่า มีผู้ที่ไม่ยอมรับระบบเก่าๆบ้างแล้ว พวกคุณจะไม่มีผู้กดขี่ข่มเหงอีกต่อไปแล้ว
    ประชาชนทั่วทั้งโลกต้องการที่จะควบคุมชีวิตของพวกเขาเอง พวกเขาทั้งหลาย ไม่ต้องการสงคราม
    พวกเขาต้องการให้ครอบครัวของพวกเขาปลอดภัย! พวกเขาต้องการสันติภาพและความอุดมสมบูรณ์
    พวกเขาต้องการให้ลูกหลานของพวกเขามีความหวังกับชีวิตที่ดีขึ้น มากกว่าที่พวกเขาเคยมี

    พวกคุณกำลังเริ่มมองเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ในหลายๆสถานที่ ที่มีจอมเผด็จการปกครองอยู่หลายปีแล้ว

    ……………….....................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • egypt2.jpg
      egypt2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.7 KB
      เปิดดู:
      1,785
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!

    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada

    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    The Quantum Factor - Physics with an attitude! > Kryon


    ตอนที่ 13:


    แล้วคำถามก็ถูกถามขึ้นมาว่า "แล้วเมื่อไหร่ทวีปแอฟริกาจึงจะได้มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้บ้างหละ?
    มันจะมีการปฏิวัติด้วยความความเมตตากรุณาบ้างไหม?"

    ดังนั้น ฉันจะบอกกับพวกคุณอีกครั้งหนึ่ง ถึงเรื่องราวของคนรุ่นถัดไป ลองเดาดูซิว่า ใครจะมาอยู่ที่นั่น
    เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้น? ก็ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนี้นี่แหละ! [กล่าวถึง Lee]
    นี่คือทางเลือกของเขา และเขาก็พร้อมแล้ว เขาจะมีผิวสีดำอย่างที่เขาเคยเป็นมาก่อน
    และเขาก็จะได้ไปอยู่ในที่ๆเขาจำเป็นต้องไปอยู่ด้วย

    75 ปีหลังจากนี้ เขาจะได้ไปอยู่ที่นั่น และพร้อมที่จะลุย และเขาก็จะไม่ได้เป็นผู้รับสาส์นอีกต่อไปแล้ว
    มันไม่มีทางที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ได้หรอก จริงไหม? เขาจะไม่รู้ว่าเขาเคยเป็นใครมาก่อน...
    แต่เขาจะแค่รู้ในสิ่งที่เขาควรจะทำเท่านั้นเอง

    ก็เหมือนกับคนที่มีความสามารถพิเศษทั่วไป เพราะมันถูกเขียนไว้ใน DNA ของเขาแล้ว
    และเขานั่นแหละที่เป็นคนเขียนมันขึ้นมาเอง! เขาจะไม่โดดเดี่ยว เพราะว่าจะมีคนที่เขารู้จักอีกหลายคน
    ไปอยู่ที่นั่นกับเขาด้วย บางทีหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นคุณหมอคนนั้นก็ได้? (กล่าวถึง Dr. Todd Ovokaitys)

    ดังนั้น ในแง่ของกรรมแล้ว พวกคุณจึงมักจะท่องไปด้วยกันอยู่บ่อยๆ ยกเว้นคู่หูของฉันที่เขาได้หมดกรรมไปแล้ว!
    ถ้าเช่นนั้น แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นหละ? คำตอบก็คือทางเลือกเสรี และการควบคุมในสิ่งที่พวกคุณจะเป็น
    เขาจะไปถึงที่นั่นในแบบที่ "พร้อมที่จะเล่นบทบาท ในทวีปแอฟริกาที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และมีเมตตาธรรม"

    ในตอนนั้น ทวีปแอฟริกาจะถูกเยียวยา สงบสุข
    และพร้อมที่จะพัฒนาให้กลายเป็นหนึ่งในทวีปที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด
    และเต็มไปด้วยแหล่งทรัพยากรมากที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา...

    โดยปราศจากประวัติศาสตร์ใดๆ..นั่นคือประชาธิปไตย
    พวกเขาจะไม่จำเป็นต้องไปแก้ไขข้อเท็จจริงใดๆเลย!
    พวกเขาจะเริ่มจากความไม่มีอะไรเลย
    พวกเขาจะสามารถนำสิ่งที่ดีที่สุดของระบบต่างๆ
    ที่พวกเขาเคยเห็นและสร้างมันขึ้นมามาใช้ได้

    ทวีปแอฟริกาจะกลายเป็นทวีปๆหนึ่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก
    และอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาจะใช้เงินตราเพียงแค่สกุลเดียวเท่านั้น [Kryon ยิ้ม



    บางคนอาจจะกล่าวว่า "เออ, แล้วประเทศจีนล่ะ? พวกเขาเป็นประเทศที่ใหญ่มาก มองดูสิ่งที่พวกเขาได้ทำมาแล้วซิ "

    [​IMG]
    (China map)


    ฉันจะพูดอีกครั้งหนึ่งว่า จงมองดูสิ่งที่พวกเขาจะต้องปรับปรุงแก้ไขใหม่ซะก่อน
    พวกเขาจะต้องเขียนวัฒนธรรมซึ่งมีมานับพันๆปีขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลง

    แต่แอฟริกาจะมีเพียงประวัติศาสตร์เดียว ก็คือประวัติศาสตร์ที่พวกคุณเห็นกันอยู่นี่แหละ
    นั่นก็คือ ความเจ็บป่วย, โรคภัยไข้เจ็บ,การกดขี่ข่มเหง... และการเอาชีวิตรอด
    มันจะไม่มีสถาปนาการใดๆ ที่จะต้องจดจำหรือเขียนกันขึ้นมาใหม่ มันจะเป็นประวัติศาสตร์ต้นฉบับ...
    และเป็นประวัติศาสตร์แห่งความเมตตากรุณา!

    นี่คือพลังงานแห่งความเมตตากรุณาที่อยู่บนโลกใบนี้ ที่กำลังทำงานกันอย่างสอดประสานกันเพื่อพวกคุณอยู่
    พวกคุณเคยประหลาดใจบ้างไหมว่า พลังงานสามารถถูกพัฒนาให้เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?

    เพราะว่ามันรักพวกคุณ และเพราะว่าพวกมันมีเจตนคติ!

    ………………….........................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • chinamap.jpeg
      chinamap.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      1,873
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!

    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada

    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    The Quantum Factor - Physics with an attitude! > Kryon


    ตอนที่ 14:


    การเลื่อนระดับขึ้นครั้งยิ่งใหญ่ (The Great Shift)

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - ascension)


    นี่คือสิ่งที่พวกคุณควรรู้ : ภายใต้การเลื่อนระดับขึ้นด้านจิตสำนึกแห่งมวลหมู่มนุษยชาติในครั้งนี้
    พวกคุณกำลังเริ่มที่จะได้รับปัจจัยแห่งควอนตัมของความเมตตากรุณาในจิตสำนึกของมนุษย์แล้ว
    กล่าวได้ว่า ธรรมชาติของมนุษย์ กำลังจะมีความเมตตากรุณาที่มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

    สิ่งนี้ยังหมายถึงว่า ตอนนี้พวกคุณสามารถเชื่อมต่อกับสนามพลังงานควอนตัมอื่นๆได้แล้วอีกด้วย...
    ซึ่งเป็นสนามพลังงานที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ ที่เรียกว่า Merkabah และเป็นสนามพลังงานของ DNA ของพวกคุณด้วย

    สิ่งนี้จะก่อให้เกิด "การมาบรรจบกันของความเป็นควอนตัมที่เกี่ยวเนื่องกัน"
    (confluence of quantumness interfacing with another) ขึ้น
    ฉันไม่รู้ว่า พวกคุณจะรู้ว่า มันความหมายว่าอย่างไร ในทางฟิสิกส์หรือไม่
    แต่ฉันจะบอกพวกคุณว่า สิ่งที่พวกคุณคิด นั่นแหละคือสิ่งที่พวกสร้างมันขึ้นมา

    ดังนั้น อะไรคือสิ่งแรกที่พวกคุณอยากจะสร้างล่ะ มนุษย์เอย?
    พวกคุณอยากจะปรับปรุงแก้ไขศักยภาพต่างๆใน DNA ของพวกคุณไหม...
    DNA ส่วนที่เป็นควอนตัม ที่คอยพูดคุยกับสเต็มเซลล์
    และทำให้ชีวิตของพวกคุณยืนยาวขึ้นได้นั่นแหละ?

    พวกคุณอยากมีชีวิตอยู่ไปอีกร้อยปีไหม?


    ทุกๆครั้งที่ฉันถามแบบนี้ มนุษย์ทั้งหลายก็มักจะส่งมอบพลังงานเก่าๆมาให้กับฉัน ด้วยคำตอบแบบ 3-D
    และฉันก็เพิ่งจะได้ยินมันที่นี่อีกด้วยว่า ..

    "นั่นไม่ใช่ฉัน! ฉันไม่ต้องการที่จะเป็นแบบนั้น เพราะว่าสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้มันก็แย่พอแล้ว
    ฉันจะแก่ชราและอ่อนแอลง นอกจากนี้ โลกก็จะไม่สนับสนุนให้มันเป็นอย่างนั้นด้วย
    และจำนวนประชากรของโลกก็จะมากเกินไปด้วย มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้มีความรับผิดชอบควรจะทำกัน
    เพราะว่าพวกเราจะไม่สามารถเลี้ยงดูคนทั้งหลายเหล่านั้นได้"

    โอ.. พวกคุณช่างเป็น 3-D อะไรขนาดนี้! พวกคุณเห็นอคติของพวกคุณไหม?


    ผู้ที่มองเห็นแต่สีดำและสีขาวมาตลอดชีวิตของพวกเขา ก็จะกลัวความมีสีสัน พวกเขาอาจจะพูดว่า
    “พวกเราจะทำอะไรกับสิ่งเหล่านั้นได้บ้าง? มันจะทำให้เกิดความสับสน มันจะทำให้พวกเราไขว้เขว
    และพวกเราก็จะไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะทำอย่างไรกับมันดี! พวกเราอาจแม้กระทั่งทำลายตัวเอง”


    จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าสมมุติว่า..เพียงแต่สมมุติว่าเฉยๆนะ... ถ้าพวกคุณมีสติปัญญาสูงขึ้นด้วยเช่นกัน?
    จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกคุณเริ่มที่จะควบคุมประชากรของพวกคุณเอง และควบคุมการใช้ทรัพยากรโลกของพวกคุณ
    ให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่านี้ได้

    จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกคุณหยุดล้างผลาญทรัพยากรของโลก แล้วหันมาพึ่งพาพลังงานจากน้ำในมหาสมุทรแทน
    อย่างที่ฉันได้เคยบอกวิธีการกับพวกคุณไปแล้ว?

    จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกคุณตัดสินใจที่จะเจาะรูลงไปใต้พื้นโลก แล้วผลิตไอน้ำโดยใช้ความร้อนจากใต้พื้นโลก
    แทนที่จะไปสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์?

    จะเกิดอะไรขึ้นถ้าในท้ายที่สุดแล้ว พวกคุณก็ประจักษ์ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ คือเครื่องจักรผลิตไอน้ำ
    ที่มีราคาแพงและอันตรายที่สุดในโลก! มันมีหลากหลายวิธีที่จะผลิตไอน้ำ โดยไม่เป็นอันตรายต่อโมเลกุลของอากาศ
    หรือสัตว์แม้แต่เพียงตัวเดียว และกระบวนการที่ว่านั้น มันก็นอนรอให้พวกคุณไปค้นพบมันอยู่ที่นั่นแล้ว

    จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกคุณกลายเป็นคนที่มีความเมตตากรุณาและมีความรับผิดชอบ
    และไกอาก็คอยค้ำจุนให้เกิดความสมดุลต่อจำนวนประชากรของพวกคุณ? นี่แหล่ะคือความคิดรวบยอด!


    แล้วเรื่องที่สอง ที่พวกคุณอยากจะเปลี่ยนแปลงหละ คืออะไร?
    ใช่ การสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นบนโลกไหม?

    เชื่อหรือไม่ว่า เรื่องนี้มันกำลังเกิดขึ้นอยู่แล้ว
    และก็ได้เริ่มเกิดขึ้นมานานกว่า 50 ปีแล้วด้วย!


    ………………....................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ascension2.jpg
      ascension2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      167.4 KB
      เปิดดู:
      1,953
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!


    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    The Quantum Factor - Physics with an attitude! > Kryon


    ตอนที่ 15:


    การเปลี่ยนแปลงสิ่งที่อยู่ใน DNA ของพวกคุณ

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    สเต็มเซลล์ เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะต้องเปลี่ยนแปลง ใน DNA ของพวกคุณ

    แล้วบันทึกอันปวดร้าวทางอารมณ์ (emotional engram) ของพวกคุณ
    ซึ่งเป็นพลังงานที่จะส่งไปให้กับจิตสำนึกของพวกคุณหละ เป็นอย่างไรบ้าง?

    มีหลายคนในห้องนี้ที่จะต้องได้ฟังเรื่องนี้ ใครคือผู้ที่พวกคุณจะไม่ยอมให้อภัยเลย?
    ใครคือผู้ที่ได้ฝากรอยจารึกอะไรบางอย่างไว้ในชีวิตของพวกคุณ ที่พวกคุณจะไม่มีวันลืมเลย
    และพวกคุณก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับมันในทุกๆเช้า? ฉันรู้ว่าที่นี่มีใครบ้าง

    จงจำไว้ว่า... เมื่อเซลล์ทำการแบ่งตัว สมมุติว่ามันเป็นเซลล์สมองก็แล้วกัน มันก็จะร้องถามว่า
    "ให้ทำเหมือนเดิม หรือว่าให้ทำแบบใหม่หละ?" พวกคุณเคยพูดคุยกับเซลล์ของตัวเอง เกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม?
    พวกคุณต้องการให้มันเป็นไปแบบนี้ชั่วชีวิตของพวกคุณอย่างนั้นหรือ?

    "ให้ทำเหมือนเดิม หรือว่าให้ทำแบบใหม่หละ?"

    DNA ของพวกคุณ สามารถที่จะมีความเมตตากรุณาได้มากกว่านี้ ถ้าพวกคุณต้องการให้มันมี
    มันจะมีความสงบสุขมากขึ้น ถ้าพวกคุณต้องการให้มันมี แม้แต่เหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุของร่องรอยแห่งความหวาดกลัว
    ที่ถูกจารึกเอาไว้ในสมองของพวกคุณ ที่พวกคุณรู้สึกว่าไม่สามารถที่จะลืมมันได้นั้น
    พวกคุณก็สามารถที่จะจารึกมันขึ้นมาใหม่ ให้มีความสมดุลได้!

    พวกคุณเข้าใจในสิ่งที่พวกเรากำลังบอกพวกคุณไหม?
    ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของพวกคุณทั้งหมด!
    พวกคุณกำลังตั้งใจฟังอยู่ใช่ไหม?
    พวกคุณสามารถเขียนมันขึ้นมาใหม่ได้ทั้งหมด
    นั่นแหละคือพลังอำนาจของมนุษย์ในยุคพลังงานใหม่นี้


    …………….................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!

    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada


    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    The Quantum Factor - Physics with an attitude! > Kryon


    ตอนที่ 16:

    จิตวิญญาณเก่าแก่ที่เคยมีประสบการณ์


    ในพลังงานใหม่นี้ จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย จะนำสิ่งนี้ขึ้นมาเปลี่ยนแปลงแก้ไขก่อนเป็นอันดับแรก
    บางทีคุณก็อาจจะเป็นจิตวิญญาณเก่าแก่คนหนึ่งด้วยก็ได้... ที่มีสติปัญญาและอยู่บนโลกนี้
    และพวกคุณก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว

    คนอื่นๆรอบๆตัวพวกคุณ จะเห็นมันในรหัสทางพันธุกรรม q2w3e4r5t6y7u8i9 ในตัวของพวกคุณ...
    หรือบางทีอาจแม้แต่เห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ด้วยซ้ำไป
    และพวกเขาก็จะถามว่า "พวกคุณได้มันมาอย่างไร? ฉันอยากได้มันบ้าง" แล้วพวกคุณจะตอบว่าอย่างไร?

    พวกคุณไม่จำเป็นต้องไปมอบหนังสือ Kryon ให้กับพวกเขาด้วยซ้ำไป!
    พวกคุณไม่จำเป็นต้องไปกล่าวคำพูดใดๆ ที่เกี่ยวกับระบบความเชื่อของพวกคุณให้พวกเขาฟังเลย

    แต่ให้พวกเขาได้เห็นสิ่งที่พวกคุณปฏิบัติต่อมนุษย์คนอื่นๆ
    ให้พวกเขาได้เห็นว่าพวกคุณรักผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่น่าจะรักลงได้เลย
    ให้พวกเขาเห็นพวกคุณ เอาใจใส่ดูแลคนอื่นๆที่พวกคุณไม่เคยใสใจดูแลมาก่อนเลย


    ธรรมชาติของมนุษย์จะมีความเมตตากรุณามากขึ้นใช่ไหม?

    บางที พวกคุณก็คงจะเริ่มมองเห็นมันบ้างแล้ว แม้ในที่ที่พวกคุณไม่เคยคิดว่าจะมองเห็นมันได้ก็ตาม
    การเมืองจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป วิธีการทำธุรกิจของพวกคุณก็ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
    สิ่งที่พวกคุณคาดหวังจากกันและกันก็เริ่มที่จะเป็นไปโดยสันติมากขึ้นและมีความขัดแย้งน้อยลงแล้ว


    โอ..ที่รักทั้งหลาย แต่มันก็ยังจะมีบางคน ที่ยังขาดความสมดุลอยู่เสมอๆนั่นแหละ
    มันยังจะมีบางคนที่พวกคุณไม่สามารถควบคุมได้อยู่เสมอๆนั่นแหละ
    มันจะมีทั้งทางเลือกเสรี และกรงขังให้กับมนุษย์เสมอๆ

    มันจะมีหลายคนที่เพิ่งมายังโลกเป็นครั้งแรก ผู้ที่ไม่เคยระแคะระคายใดๆมาก่อนเลยว่าสิ่งต่างๆมันเป็นไปอย่างไร
    และพวกเขาก็จะทำสิ่งต่างๆผิดไปหมด เหมือนกับที่พวกคุณเคยเป็นมาก่อน

    ฉันกำลังพูดถึงพัฒนาการอย่างช้าๆของจิตสำนึกมวลรวมของมวลหมู่มนุษยชาติอยู่
    และจิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายก็คือคนกลุ่มแรกที่จะต้องเข้าใจมัน และทำให้การเลื่อนระดับขึ้นนี้เกิดขึ้นได้

    มีวงศ์วานอยู่เชื้อสายหนึ่งในห้องนี้ ที่ไม่ใช่เชื้อสายที่มีหลากหลายภพชาติ แต่เป็นเชื้อสายแห่งภูมิปัญญา
    ที่นำพวกคุณมาอยู่ที่นี่ คำถามต่างๆที่พวกคุณถามเกี่ยวกับอารยธรรมและโลก ก็เป็นคำถามที่ฉลาดอีกคำถามหนึ่ง

    พวกคุณถามว่า "เมื่อไหร่พวกเราถึงจะได้เรียนรู้บทเรียนต่างๆซะที"

    ดีแล้ว..ก็มันกำลังเริ่มอยู่นี่ไง พวกคุณต้องมองเห็นปัญหาซะก่อน ก่อนที่จะหาถามคำถามนี้ ถูกไหม?
    มีบ่อน้ำแห่งภูมิปัญญาอันมโหฬารอยู่บ่อหนึ่งในห้องนี้ พวกคุณไม่รู้สึกถึงมันบ้างหรือ?

    และดังนั้น มนุษย์ที่รักทั้งหลายเอ๋ย พวกคุณมีความสามารถที่จะเริ่มย้อนกลับไปสู่พลังงาน
    ที่พวกคุณคิดว่ามันได้สูญหายไปแล้วได้ ย้อนกลับไป ณ.จุดที่มนุษย์สามารถมีชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้น
    และสามารถอยู่แบบไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้ เพราะว่าพวกเขาจะไม่ทำให้ประชากรของพวกเขาหนาแน่นจนเกินไป
    เพราะว่าพวกเขาจะสามารถควบคุมมันได้ โดยใช้จิตใจและภูมิปัญหาของพวกเขาเอง แทนการใช้กฎหมายต่างๆ


    สักวันหนึ่งพวกคุณจะได้พบกับเหล่า star seeds ซึ่งเป็นพี่น้องชาวเพลี้ยะเดี้ยน (Pleiadian) ของพวกคุณ
    ตอนนี้พวกเขาได้มาอยู่ที่นี่แล้วด้วยซ้ำไป เพราะว่าพวกเขาอยู่ในสภาวะควอนตัม

    พวกคุณมีบรรพบุรุษที่เป็นชาวเพลี้ยะเดี้ยน ผู้ที่มีอายุขัยยืนยาวมากๆ
    และอยู่ในสถานะของผู้ที่เลื่อนระดับขึ้นไปแล้ว
    บนดาวเคราะห์ที่เคยผ่านบททดสอบต่างๆมาเช่นเดียวกัน
    กับดาวเคราะห์ของพวกคุณนี่แหละ
    และปัจจัยแห่งควอนตัมของพวกเขาก็ได้รับการพัฒนาแล้ว


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    พวกเขามีความเมตตากรุณา และพวกเขาก็มีพลังงานแห่งควอนตัมด้วย
    นั่นจึงทำให้พวกเขาสามารถมาที่นี่ได้และกลับไปได้ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

    และพวกเขาก็จะไม่มาก้าวก่ายทางเลือกเสรีของพวกคุณเลย
    นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงไม่ลงมาที่พื้นดิน และกล่าวคำทักทายแก่พวกคุณ
    แต่พวกเขาจะนั่งคอยให้กำลังใจพวกคุณอยู่ข้างๆขอบสนาม สำหรับงานชิ้นนี้
    ที่ในท้ายที่สุดแล้วพวกคุณก็จะทำสำเร็จ

    พวกเขากำลังรอคอยที่จะฉลองความสำเร็จพร้อมๆกับพวกคุณ
    ในวันเหมายันของเดือนธันวาคม ปี 2012 ( December solstice of 2012)...
    ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลาง 36 ปีแรก ของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของพวกคุณ

    (กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นจะใช้เวลา 72 ปี ครึ่งแรก 36 ปี ครึ่งหลังอีก 36 ปี
    และปี 2012 นี้จะเป็นจุดครบรอบ 36 ปีแรก – ผู้แปล)


    http://en.wikipedia.org/wiki/2012_phenomenon

    ………………………………………………………………..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • elf36ao7.jpg
      elf36ao7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.9 KB
      เปิดดู:
      1,625
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: The Quantum Factor – Physics with an attitude!

    วันที่: 10 เมษายน 2011
    ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
    สถานที่: Alberta, Canada

    ผู้แปล: คุณ kindred

    ที่มา:
    The Quantum Factor - Physics with an attitude! > Kryon


    ตอนที่ 17: จบครับ



    ก่อนที่พวกเราจะจบการสื่อสารในครั้งนี้ ที่รักทั้งหลาย พวกเราจะขอบอกพวกคุณอีกครั้งหนึ่งว่า
    นี่เป็นกระบวนการที่จะเป็นไปอย่างช้าๆ ซึ่งพวกเราก็เคยเห็นกระบวนการนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว
    มันเกิดขึ้นผ่านรุ่นลูกรุ่นหลานมาหลายชั่วอายุคน มันไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณจะเห็นผลได้อย่างปุบปับทันใจ
    มันอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างถอยหลังย้อนกลับไปบ้าง ซักชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่มันจะเคลื่อนต่อไปข้างหน้าอีกครั้ง

    แต่ถ้าพวกคุณมองดูภาพรวมทั้งหมดของมัน มันก็จะคือเรือที่กำลังล่องไปอย่างช้าๆ
    โดยมีหางเสือแห่งภูมิปัญญาคอยนำทางอยู่ เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดที่ความเกลียดชังจะถูกทิ้งไว้ให้โดดเดี่ยว
    และมันจะไม่มาแอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ในวัฒนธรรมและศาสนาอีกต่อไป

    มันเป็นเพราะว่าพลังงานควอนตัมคือความเมตตากรุณา และมนุษยชาติ ก็กำลังเริ่มที่จะมองเห็นสิ่งนี้แล้ว

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    นั่นคือ สัจจะความจริงสำหรับวันนี้ นั่นคือพลังงานสำหรับวันนี้
    สิ่งเหล่านี้แหละคือศักยภาพที่พวกเรามองเห็นในวันนี้
    และนี่คือเหตุผลที่พวกเรานำข้อความนี้มามอบให้กับพวกคุณในวันนี้

    จงออกจากสถานที่นี้ไป ให้แตกต่างไปจากตอนที่พวกคุณเข้ามา
    เพราะพวกคุณรู้มากขึ้นแล้วว่า พวกคุณเป็นใคร
    และรู้แล้วว่าพวกคุณได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว
    และรู้แล้วว่าอะไรที่กำลังรอคอยพวกคุณอยู่ข้างหน้า

    ฉันคือ ครายออน มิ่งมิตรแห่งมวลมนุษยชาติ

    และมันก็เป็นเช่นนั้นแล

    Kryon
    ...........................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...