ความจริงของจิต และ หลักของใจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 10 ธันวาคม 2008.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    จิต นี้มีความอัศจรรย์ และแปลกประหลาดมากจะให้มันวิ่งไปทางใด ก็ได้
    จะเสกสรรค์ปั้นแต่งอย่างไรก็ได้ ซึ่งจิตนี้มีเครื่องมืออยู่ 5 ประการอันได้แก่ ขันธ์ทั้ง 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ

    ทีนี้ ก็มีหลักเกณฑ์อยู่ว่า หากผู้ใดรู้จักและแยก ความรู้สึกต่างๆ ออกเป็นกองแห่งขันธ์ 5 อย่างนี้ได้ ก็เท่าักับว่า เรานั้นเริ่มจะใช้จิตได้อย่างถูกต้อง ก็เปรียบกับว่ามีของอยู่ แยกออกเป็นส่วน จะหยิบใช้อย่างไรก็สะดวกมือ แต่ถ้าเอาไว้รวมๆ กันก็จะหาไม่เจอหยิบใช้ไม่ได้ดังใจ

    ปัญหาของโลก ปัญหาของคน ก็คือ การไม่รู้จักเลือกที่จะหยิบใช้ จิตตนเองให้เป็นประโยชน์ บ้างก็ใช้จิตตนไม่เป็น จนกลายไปเป็นการหลอกตัวเองว่า มีจิตอื่นเข้า จิตอื่นแฝง ว่าเป็นองค์ลงบ้าง อะไรต่างๆ นาๆ เพราะเอาสังขาร เอาเครื่องมือของตนนั้นแหละ ปิดตาตนเอง พูดง่ายๆ ก็คือ คนมีมีดแต่ใช้มีดไม่เป็นมันก็บาดมือ

    คนมีองค์หรือ จิตดวงอื่นจะเข้ามาแทนที่จิตดวงนี้เป็นไปไม่ได้เลย เว้นแต่จะเป็นเนื้อเดียวกัน คือ บริสุทธิ์ก็จะเป็นจิตเดียวกันได้สนิท แต่ตราบใดที่ยังมีกิเลสทั้งคู่ ก็จะทำได้แค่ล่อลวง ให้จิตดวงนั้นเห็นผิดทางและเชื่อตนจนถูกครอบงำด้วยอาการหลับไหล เช่นเดียวกับการสะกดจิตนั้นแหละ องค์จะลง เทพจะเข้า ล้วนแล้วแต่ ล่อลวง ให้ขาดสติ จนเข้ามาครอบงำได้
    ถ้าเป็นคนสติกล้าแล้ว อย่างไรเสียก็จะลงไม่ได้ เพราะจิตเดิมแจ้งอยู่ทนโท่อยู่จะให้มันหลับได้อย่างไร แม้กระทั่งหลับก็เข้าไม่ได้ เพราะว่าจิตที่หลับนั้นก็ไม่ถูกล่อลวง เพราะพักจิตพักใจอยู่

    ก็เทพ หรือองค์ นี้มักจะเข้ามาล่อ เมื่อเราขาดสติ จึงต้องมีพิธีการ ทำให้จิตล่อลอยก่อนองค์จะลง เช่น สั่น หรือ ทำกึ่งหลับกึ่งตื่น นี่พอขาดสติปั๊บ ก็ว่าองค์ลง
    ทีแท้ โดนล่อลวง โดนชักจูง ด้วยอำนาจแห่งอวิชชา

    ปัญหาคือ คนยุคนี้อ่อนแอมาก อ่อนแอทางด้านจิตใจ เมื่อเจอมากระทบนิดหน่อยก็กลัว อีกทั้ง คนยุคนี้หลอกตัวเอง คือ มักหลอกตัวเองว่าเราไม่เป็นอะไร
    คนยุคนี้มักจะถือดี คือ ไม่ถ่อมตัว แต่ดันยอมโง่ให้เจ้าให้หมอดู แต่ไม่ยอมโง่ให้พระ พอพระท่านอบรมก็ถือดีว่าเราไม่ได้เป็นอะไร
    คนยุคนี้ ไม่ศรัทธาเลย คำว่าศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี้ ไม่ใช่แค่ปากพูด แต่ จะต้องเอามาฝึก เอามารู้สึกว่า ไม่ว่าภัยใดๆ จะเกิดแก่ตน เราจะต้องยึด พระรัตนไตรนี้ ว่าแก้ได้แน่นอน เมื่อศรัทธาแล้วเราก็จะวิ่งเข้าหา พระรัตนไตร ไม่ใช่ ไปวิ่งเข้าหา เจ้า หาองค์ หาหมอดู

    ผมเห็นแล้วอนาจใจ ว่า ศรัทธาคนเดี๋ยวนี้ ที่ว่า ศรัทธาพระพุทธศาสนานั้น มัน ศรัทธาแต่ปาก เมื่อมีปัญหาอะไรขึ้นมา มีอยู่ไม่กี่เปอร์เซนต์ที่ ยึด พระรัตนไตรนี้ นอกนั้น แตกออกไปหาเจ้า หาองค์ หาหมอดู หาเครื่องราง หาอิฐ หาหินแขวนกันให้ควัก แตกออกไปในทางสีลพตรปรามาสกันหมด

    ศรัทธานี้จะเป็นกำลัง พยายามต่อสู้กับภัยที่เข้ามาด้วย ขันติ คือบรมธรรม คืออดทน และ ศรัทธา ในพระรัตนไตร แล้ววิ่งเข้าหา พระรัตนไตร ด้วยการ ระลึกว่า พระพุทธองค์ ทรงมีบารมีช่วยเราได้แน่ พระธรรม นี้ช่วยเราได้ด้วยการศึกษาหาเหตุ หาผล และ พระสงฆ์ นี้จะเป็นผู้แนะนำเราได้แน่นอน อย่าไปเชื่อคนอื่น เพราะคนอื่นมันยังเอาตัวไม่รอด ทั้งเจ้า ทั้งองค์นั้นแหละ ผมการันตีว่า มันนั่งอมทุกข์ทุกวัน ไอ้ที่ภายนอกทำดูสงบเสงี่ยม ทำเป็นปีติสุข เป็นผู้มีบุญนั้นแหละตัวดี นั่งอมทุกข์เป็นทาสให้ใจตัวเอง ทุกวัน แล้วหากท่านใดยังไปเชื่อถือ ยึดเป็นสรณะ แล้วก็เท่ากับ เอาเตี้ยอุ้มค่อม หรือ ตาบอดนำทาง
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อนุโมทนา สาธุ เจ้าค่ะ

    ฟังธรรม แล้ว มีสุข มีสติ มีศรัทธา มั่นคงในพระรัตนตรัย ยิ่งๆขึ้นไป เจ้าค่ะ
     
  3. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,201
    ค่าพลัง:
    +235
    อ.ขันธ์ เคยโดนวิญญาณ์เข้าสิงหรือไม่?

    ในฐานะที่ผมเคยโดนวิญญาณเข้าสิง แต่โชคดีที่เป็นวิญญาณของบรรพบุรุษเลยไม่ได้มีอะไรมากมาย วิญญาณเขามาเยี่ยมลูกหลานเหลนโหลนหล่อน.... ในสภาพนั้นทำอะไรได้บ้างหล่ะ มีปัญญามีหัวคิด แต่ทำอะไรได้บ้าง?

    เมื่อครั้นที่ผมตัวเล็ก ประมาณ 6-7 ขวบ จำได้เลาๆว่า พ่อแม่ของผมต้องรีบทำพิธีบายศีรสู่ขวัญ เรียกขวัญ และตั้งศาลเพียงตา พร้อมเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษเผ่าพันธุ์ต้นกำเนิด เรื่องที่ไม่น่าเชื่อมีอีกมากมาย ผมโดนมากับตัว ผมยังไม่อยากเชื่อเลย แต่ผมต้องเชื่อถึงแม้นกาลเวลาที่ผ่านมาแล้วเนิ่นนานโข ถึงวันนี้ผมจึงอยากจะถามผู้รู้ในปริยัติต่างๆว่า สิ่งเหล่านี้เทียบเคียงกับคัมภีร์ทางศาสนาได้อย่างไร?

    ผมจึงเรียนถาม อ.ขันธ์ และย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ที่ท่าน อ.ขันธ์พูดๆมาทั้งหมด เคยโดนประสบการณ์โดนวิญญาณ์เข้าสิงหรือไม่?

    อยากฟังจากประสบการณ์ตรง

    ครับท่าน
     
  4. krit59

    krit59 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +346
  5. j147852

    j147852 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +609
    คนไม่มีองค์ จะรู้เรื่องคนที่เขามีองค์ได้ไง
    คนไม่โดนผีเข้า ผีสิง จะรู้ดีเหมือนคนที่เขาเคยโดนไงได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2008
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    สำหรับ คนที่บอกว่า คนไม่มีองค์จะเข้าใจคนมีองค์ได้อย่างไร

    เรื่องนี้เห็นที คุณควรจะไปถามพระพุทธองค์ว่า ท่านเข้าใจสรรพสิ่งได้อย่างไร
    และคุณคิดว่า พระพุทธองค์ท่านมีองค์หรือเปล่าหละ

    การเข้าใจ ในสิ่งที่สูงกว่า ย่อมเห็นภาพของสิ่งที่ต่ำกว่าเป็นสัจธรรม

    คนที่ไม่เข้าใจ ในปัจจุบัน ไม่รู้ตัวเองในปัจจุบัน แล้วจะหันหน้าไปหาอดีต หรือ อนาคต มันจะช่วยอะไรได้ ในเมื่อ เหตุปัจจัยที่สำคัญที่สุดนั้นอยู่ที่ปัจจุบันนี้

    จะสุข จะทุกข์ก็เรื่องของปัจจุบัน ไปฟื้นฝอยหาตะเข็บอดีตชาติ มันก็มาช่วยอะไรไม่ได้เลย ไม่เกี่ยวกัน ทำดีได้ดี ก็ทำดี ณ ตอนนี้เลย ไม่ใช่ ต้องรอคำตอบจากอดีตแล้วค่อยทำดี
    ปฏิบัติธรรม ก็ทำได้ตอนนี้เลย ไม่ต้องรอคำตอบว่าอนาคตหรืออดีตจะเป็นอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2008
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คนที่ ทำอะไรก็มีปัญหา ทำอะไรก็ประสบแต่ความผิดพลาด ก็เพราะว่า เห็นเหตุ เห็นปัจจัยต่างๆ ไม่ครบ เนื่องจากว่า จิตใจ เต็มไปด้วย นิวรณ์ ทำอะไรไม่มีพลัง ไม่มีกำลัง
    ทีนี้มันก็จะประสบแต่ความผิดพลาด พอผิดพลาดบ่อย เกิดเรื่องเกิดราวบ่อย แทนที่จะดูที่ตัวเองโน่น ไปโทษเรื่องแต่อดีต จริงอยู่ว่า มันอาจจะเป็นเหตุกรรมเก่าได้ แต่เรามักจะไม่ปล่อย แต่โยงเรื่องจนกลายเป็น อีรุงตุงนัง ไม่รู้เหตุไหนเป็นเหตุไหน ก็สรุปเอาไปเรื่อย
    การที่จะสางเรื่องราวและแก้ไขเหตุได้ตรงกับความเป็นจริง ก็มีแต่ ศีล สมาธิ และ ปัญญา
    จะไปพึ่งพา เจ้า มันไม่จบ เพราะความสับสนและนิสัยต่างๆ มันอยู่ที่ตัวเรา อย่างมากที่เราสบายใจและ หายจากเคราะห์ ก็เพราะว่า จิตใจเราหยุดฟุ้งซ่านไปพักหนึ่งเนื่องจากเชื่อไปว่า สิ่งเหล่านั้นจะช่วยเราได้ แต่ไม่นานก็ต้องกลับมาเป็นดังเดิม
    คนที่พึ่งพาสิ่งเหล่านี้ สังเกตุดูให้ดีว่า จะต้องไปมาหาสู่ไม่จบไม่สิ้น หมดคนนี้ ไปหาคนนั้น หมดเรื่องนั้นไปเรื่องนี้

    ชีวิตนี้จะไม่สงบหรอก หากไม่วิ่งหา ศีล สมาธิ ปัญญา
     
  8. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    จิต นี้มีความ ธรรมดาหนอ และ เรียบง่ายหนอ จะ ถูก มัน หลอกล่อให้ วิ่งไปทางใด ก็ได้
    จะ ถูกหลอกล่อ เสกสรรค์ปั้นแต่งอย่างไรก็ได้ ซึ่งจิตนี้มีเครื่อง ปรุงแต่ง อยู่ 5 ประการอันได้แก่ ขันธ์ทั้ง 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ
     
  9. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    ทีนี้ ก็มี ความธรรมดา อยู่ว่า หากผู้ใดรู้จักและแยก ความรู้สึกต่างๆ ออกเป็นกองแห่งขันธ์ 5 อย่าง เป็นธรรมดา ก็เท่าักับว่า เรานั้นเริ่มจะ เข้าใจ จิตได้อย่าง ธรรมดาตรงไปตรงมา ก็เปรียบกับว่ามีของอยู่ แยกออกเป็นส่วน จะหยิบใช้อย่างไรก็สะดวกมือ แต่ถ้าเอาไว้รวมๆ กันก็จะหาไม่เจอหยิบใช้ไม่ได้ดังใจ
     
  10. จะเป็นคนดี+++

    จะเป็นคนดี+++ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +30
    ตนเป็นที่พึ่งของตน

    กายเป็นที่พึ่งของจิต จิตเป็นที่พึ่งของกาย โมทนาบูญกับท่านขันธ์ครับ
     
  11. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    ธรรมดา ของโลก ธรรมดา ของคน ก็คือ การไม่รู้จักเลือกที่จะหยิบใช้ จิตตนเองให้เป็นประโยชน์ บ้างก็ใช้จิตตนไม่เป็น จนกลายไปเป็นการหลอกตัวเองว่า ต้องไม่มี จิตอื่นเข้า จิตอื่นแฝง เพราะหลงยึดเอาว่า "จิตนี้เป็นอัตตา" ตัวกูของกู ไม่ใช่ของใครอื่น คิดว่าเป็นองค์ลง นั้นไม่มีจริง บ้าง อะไรต่างๆ นาๆ เพราะเอาสังขาร เอาเครื่องมือของตนนั้นแหละ ปิดตาตนเอง พูดง่ายๆ ก็คือ คนมีมีดแต่ใช้มีดไม่เป็นมันก็บาดมือ เลยกลัวมีด จึงว่ามีดไม่มี กลัวจิตนอก จึงว่าจิตภายนอกไม่มี
     
  12. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    คนมีองค์หรือ จิตดวงอื่นจะเข้ามาแทนที่จิตดวงนี้เป็นไปได้ แต่ต้องมีเหตุปัจจัย คือ บุญกรรมที่ทำมาแต่กาลก่อน แต่ตราบใดที่ยังมีกิเลสทั้งคู่ ก็จะทำได้ ถึงขั้นไหนขึ้นอยู่กับกำลังจิตของทั้งสองดวงนั้น ดวงไหนมากกว่าก็ครอบงำดวงที่มีกำลังจิตน้อยกว่า ให้จิตดวงนั้นเห็นผิดทางและเชื่อตนจนถูกครอบงำด้วยอาการหลับไหล นั้น คือ การครอบงำโดยสมบูรณ์ แต่ไม่เสมอไปว่าจะต้องครอบงำโดยสมบูรณ์ 100% ต่างกับการสะกดจิต เพราะจิตนอกบังคับจิตใน กับจิตในสองดวงบังคับกันเองย่อมต่างกันอยู่โดยรายละเอียด องค์จะลง เทพจะเข้า ไม่อาจสรุปเหมารวมได้หมดว่า ล้วนแล้วแต่ ล่อลวง ให้ขาดสติ จนเข้ามาครอบงำได้ เพราะต้องแยกแยะเป็นกรณีๆ ไป ไม่อาจยึดหลักการใดหลักการหนึ่งได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 ธันวาคม 2008
  13. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    ก็เทพ หรือองค์ นี้มักจะเข้ามา สร้างบุญบารมี เมื่อเรา มีบุญบารมีถึงร่วมกับท่าน จึงต้องมีพิธีการ รับขันธ์เพื่อให้มนุษย์รู้ตัวก่อน ไม่ใช่เข้าบ้านผู้อื่นไม่เคาะประตูนั้น ไม่ใช่เทพแน่นอน การ ทำให้จิตล่อลอยก่อนองค์จะลง เช่น สั่น หรือ ทำกึ่งหลับกึ่งตื่น นี่พอขาดสติปั๊บ ก็ว่าองค์ลงทีแท้ โดนล่อลวง โดนชักจูง ด้วยอำนาจแห่งอวิชชา นั้นเป็นการสรุปด้วยตาเนื้อภายนอก อันหยาบโดยแท้

    ปัญหาคือ คนยุคนี้ ขาดประสบการณ์ทางจิตวิญญาณมาก จึงมีความ อ่อนแอทางด้านจิตใจ เมื่อเจอมากระทบนิดหน่อยก็กลัว อีกทั้ง คนยุคนี้ ถูกโน้มน้าวให้หลอกตัวเอง คือ มักได้รับอิทธิพลภายนอกกระทบอายตนะหก แล้วจึง หลอกตัวเอง ไปต่างๆ นานา ได้ทั้งเป็นอะไร และไม่เป็นอะไร
    คนยุคนี้มักจะถือดี คือ ไม่ถ่อมตัว แต่ดันยอมโง่ให้เจ้าให้หมอดู ด้วยเพราะบุพกรมเก่าที่เขาทำกันมา นั้นเป็นธรมดาอยู่เอง แต่ไม่ยอมโง่ให้พระ พอพระท่านอบรมก็ถือดีว่าเราไม่ได้เป็นอะไร ก็อาจเพราะกรรมปัจจุบันยังสร้างมาไม่ถึงกัน
     
  14. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    คนยุคนี้ มี ศรัทธาในส่วนมิจฉามากกว่าในส่วนสัมมา คำว่าศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี้ ไม่ใช่แค่ ศรัทธา โดยขาด สัมมา เพราะหาดขาดสัมมาศรัทธาแล้ว สัมมาทิฐิย่อมเกิดไม่ได้ จึงมีเหตุว่า ปากพูด แต่ ไม่ปฏิบัติ ที่จะต้องเอามาฝึก เอามารู้สึกว่า ไม่ว่าภัยใดๆ จะเกิดแก่ตน เราจะต้องยึด พระรัตนไตรนี้ ว่าแก้ได้แน่นอน เมื่อศรัทธาแล้วเราก็จะวิ่งเข้าหา พระรัตนไตร ไม่ใช่ ไปวิ่งเข้าหา เจ้า หาองค์ หาหมอดู นั้น เป็นด้วย บุญสัมพันธ์กับการปฏิบัติทางพุทธโดยตรง แต่สำหรับท่านที่ต้องชำระกรรมผ่านทางศาสนาอื่นๆ ก่อนก็มี เช่น พระพุทธเจ้า ที่ทรงบวชเป็นพราหมณ์ ทรมานทุกขกริยาอยู่ถึง 6 ปี ก่อนบรรลุธรรม
     
  15. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    ผมเห็นแล้วก็เป็นธรรมดา ว่า ศรัทธาคนเดี๋ยวนี้ ที่ว่า ศรัทธาพระพุทธศาสนานั้น มัน ศรัทธาแต่ปาก เมื่อมีปัญหาอะไรขึ้นมา มีอยู่ไม่กี่เปอร์เซนต์ที่ ยึด พระรัตนไตรนี้ นอกนั้น แตกออกไปหาเจ้า หาองค์ หาหมอดู หาเครื่องราง หาอิฐ หาหินแขวนกันให้ควัก แตกออกไปในทางสีลพตรปรามาสกันหมด นั้น เป็นเหตุปัจจัยของโลกในยุคที่มนุษย์มีกรรมมากมาเกิด ไม่ใช่เรื่องน่าหนักอกหนักใจอะไร

    ศรัทธานี้จะเป็นกำลัง พยายามต่อสู้กับภัยที่เข้ามาด้วย ขันติ คือบรมธรรม คืออดทน และ ศรัทธา ในพระรัตนไตร แล้ววิ่งเข้าหา พระรัตนไตร ด้วยการ ระลึกว่า พระพุทธองค์ ทรงมีบารมีช่วยเราได้แน่ พระธรรม นี้ช่วยเราได้ด้วยการศึกษาหาเหตุ หาผล และ พระสงฆ์ นี้จะเป็นผู้แนะนำเราได้แน่นอน อย่าไป ยึดว่าต้องเชื่อหรือไม่เชื่อ คนอื่น ควรใช้โยนิโสมนสิการเสมอกับทุกคน ทุกข่าวสารที่มากระทบอายตนะหก เพราะคนอื่นมันยังเอาตัวไม่รอด ก็มีและไม่มีปนกัน ทั้งเจ้า ทั้งองค์นั้นแหละ ผมอาจเห็นบ้างว่า มันนั่งอมทุกข์ทุกวัน ไอ้ที่ภายนอกทำดูสงบเสงี่ยม ทำเป็นปีติสุข เป็นผู้มีบุญนั้นแหละตัวดี นั่งอมทุกข์เป็นทาสให้ใจตัวเอง ทุกวัน แล้วหากท่านใดยังไปเชื่อถือ ยึดเป็นสรณะ แล้วก็เท่ากับ เอาเตี้ยอุ้มค่อม หรือ ตาบอดนำทาง อันนั้น เรานี้มีจิตเมตาคิดให้เขาบำเพ็ญได้สูงขึ้นทั้งคนทรงและเทพที่ประทับทรง
     
  16. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295

    ยังไม่ขออนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ เพราะยังไม่ได้ใช้โยนิโสมนสิการให้แคบคายพอ ฟังแล้วเคลิ้มจนขาดสติพิจารณาเจ้าค่ะ จึงขาดความมั่นคงใน "สัมมาศรัทธา" ยิ่งๆ ขึ้นไปเจ้าค่ะ
     
  17. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    ขันธ์ เค้าพูดถูก จริงๆ หรือ?


    โยนิโสมนสิการ....
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    บางคนรู้ว่าเขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก เพราะ ยึดโลกธรรม 8 หรือเปล่าหนอ

    บางคนไม่รู้ว่าหลอก แต่เต็มใจเดินไป เพราะ ยึดในโลกธรรม 8 หรือเปล่าหนอ

    บางคนไม่รู้จะไปทางไหน ไม่มีวิจารณญาณ ญาณทัศนะ จะพาตนให้พ้นทุกข์ เพราะ วิบากกรรม พาไปหรือหนอ

    บางคนรู้ว่าไม่ดี ยังไม่อาจหักห้ามใจไม่ให้หลงไป เพราะไม่รู้ตัวว่ายึดในโลกธรรม 8 หรือหนอ

    รู้ว่าทางพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นเลิศ ปลดทุกข์ได้จริง แต่ไม่ชอบเพราะ ไม่สนองตอบ โลกธรรม 8 หรือเปล่าหนอ

    ลาภสัการะ สรรเสริญ แม้มิใช่มนุษย์ ก็ยังหวังอยู่ในโลกธรรม 8 ควรหรือไม่ควร จะรู้ตัวไหมหนอ

    ฟุ้ง ฟุ้ง ฟุ้ง แระหนอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2008
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อ่าวหรอ ก็รู้สึกยังงั้น ก็ว่าไปตามที่รู้สึก

    โลกความคิด ต่างจิต ก็ต่างใจ
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ คนบาป ถ้าคิดว่าผมพูดไม่ถูก ก็ไม่ผิดหรอก
    เพราะแม้แต่ เทวทัต ก็ยังไม่เชื่อพระพุทธองค์ แต่เชื่อในความยึดมั่นถือมั่นของตน หากตนเองยังเข้าใจผิด หากตัวเองยังหลง มีหรือ จะเข้าใจในหนทางสว่าง

    แต่ ผมไม่เคยสั่นคลอน หรือต้องหาหลักหาเกณฑ์ที่ผิดทาง
    ไม่เคย พึ่งอย่างอื่นนอกจาก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ไม่เคยกลัวแม้มี เคราะห์กรรม เพราะถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา

    ถ้าคนเรา ไม่กลัวเสียอย่างเดียว หรือ ไม่ปรุงแต่ง ก็จะไม่ต้องหาเจ้า หาองค์มาพึ่ง
    ตั้งจิตให้สงบก่อน ละสิ่งที่เป็นอดีตหรืออนาคตทั้งหมดก่อน เอาแต่ปัจจุบันนี้ แล้วจะเห็นเองว่า ทำไมเราต้องหาเจ้าเข้าทรง ทำไมเราต้องพึ่งหลักปักเลน ในเมื่อหลักใหญ่นี้อยู่ที่ใจตน
     

แชร์หน้านี้

Loading...