ความมหัศจรรย์ของการสวดมนต์

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย paang, 18 ตุลาคม 2006.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,326
    [​IMG]

    อาตมา (สมเด็จโต) ได้เห็นอานิสงส์ของการสวดมนต์ด้วยตัวอาตมาเอง
    ในสมัยที่อาตมาได้ ออกเดินธุดงค์ในป่าเป็นเวลา 15 ปี
    โดยอาศัยอยู่ในเขตดงพญาไฟ ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ใกล้ชายแดนของประเทศเขมร
    ในสมัยนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ และภูติผี วิญญาณ

    ตลอดจนชาวบ้านที่มีเวทมนต์คาถา
    และเล่นคุณไสยกันอยู่อย่างมากมายในอาณาบริเวณชายแดนแห่งประเทศสยามในตอนนั้น อาตมาได้เดินธุดงค์แต่เพียงลำพัง

    ในช่วงนั้นอาตมามิได้ศึกษาในพระเวทมนต์คาถาอาคมใดเลย
    นอกจากคำว่า
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    ซึ่งมีความหมายว่า ข้าพเจ้าขอยึดมั่น พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง

    พระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
    อาตมาไปที่แห่งหนตำบลใดก็จะกล่าวเพียงคำนี้ตลอดเวลาของจิตใจอันเป็นที่พึ่งของอาตมา อาตมาเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านชายแดนแห่งประเทศสยาม
    ในดงพญาไฟขณะนั้น ในหมู่บ้านมีชาวบ้านอาศัย อยู่เพียงเล็กน้อย

    อาตมาจึงได้ปักกลดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน
    มีชาวบ้านนำอาหารมาถวายตามกำลังที่เขาจะพอทำได้เมื่อเห็นมีพระภิกษุมาปักกลดในที่แห่งนั้น
    อาตมาอาศัยอยู่ที่นั้นเป็นระยะเวลาหลายปี และ ณ ที่แห่งนั้น
    อาตมาจึงได้พบคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์

    มีชาวบ้านผู้หนึ่งได้เข้ามาสนทนากับอาตมาหลังจากได้ถวายอาหารแล้ว
    ชาวบ้านผู้นั้นอาตมา ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายผล
    นายผลได้เล่าให้อาตมาฟังว่า เขาเป็นผู้ฝึกเวทย์มนต์คาถาอาคม

    เล่าเรียนจนมีญาณแก่กล้า
    และมักจะทดสอบเวทย์มนต์คาถาอาคมแก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาปักกลด
    ณ บริเวณนี้เป็นประจำ เขาเล่าให้อาตมาฟังว่า
    เขาได้ส่งอำนาจคุณไสยเข้ามาทำร้ายอาตมาทุกคืน
    แต่ไม่ได้หวังทำร้ายเป็นบาปเป็นกรรมถึงตาย เพียงแต่ต้องการทดสอบดูว่า
    อาตมาจะมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถที่จอต่อสู้กับคุณไสยเขาได้หรือไม่
    นายผลก็ได้ทำคุณไสยใส่อาตาถึง 7 วัน เต็มๆ ไม่ว่า จะเป็นการปล่อยควายธนู
    หรือปล่อยหนังควาย ปล่อยตะขาบ ตลอดจนภูติพรายเข้ามาทำร้ายอาตมา
    แต่ปรากฏสิ่งที่ปล่อยมาก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายอาตมาได้เลย
    วันนี้จึงได้มากราบเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับอาตมา
    อาตมาจึงได้บอกว่า ตัวอาตมาเองไม่ได้ศึกษาพระเวทย์มนต์คาถา หรือคุณไสยใด

    นายผลก็ไม่ยอมเชื่อหาว่าอาตมาโกหก
    ถ้าหากไม่มีของดีแล้วไซร้ไฉนอำนาจคุณไสยดำที่เขาส่งมา
    จึงกลับมายังเขาซึ่งเป็นผู้กระทำไม่สามารถทำร้ายอาตมาได้
    อาตมาก็พยายามชี้แจงให้เขารู้ว่า อาตมาไม่มีวิชาเหล่านี้จริง ๆ
    ทำให้นายผลสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดอาตมาจึงไม่ได้รับภัยอันตรายจากอำนาจเวทมนต์คุณไสยดำ ที่เขาส่งมาทำร้ายได้ อาตมาได้บอกกล่าวแก่เขาว่า เมื่ออาตมาจะนอน

    อาตมาก็จะสวดแต่คำว่า
    พุทธังสะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    จนจิตมีความสงบนิ่งแล้ว จึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
    จงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจ เลย อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
    อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย และอาตมาก็จำวัดนอนเป็นปกติ

    นายผล เมื่อได้ฟังดังนี้น จึงได้บอกแก่อาตมาว่า ข้าแต่ท่านอาจารย์
    ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านในวันนี้

    ก่อนที่ท่านจะจำวัดจงหยุดการสวดมนต์สัก 1 คืนได้หรือไม่
    ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่าการสวดมนต์ของท่านเช่นนี้จะเป็นเกราะคุ้มครองภัยท่าน
    หรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนต์ถาถาในภูติผีปิศาจของข้าพเจ้าเสื่อมกันแน่
    ข้าพเจ้าของรับรองว่าจะไม่ทำอันตรายแก่ท่าอาจารย์อย่างเด็ดขาด
    เพียงแต่ต้องการที่จะทดสอบให้ความรู้แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น
    อาตมาก็ตกลงรับปากแก่นายผลว่า คืนนี้จะไม่ทำการสวดมนต์ นายผลจึงได้ลากลับไป

    ครั้นถึงเวลาพลบค่ำอาตมาก็นอนโดยมิได้ทำการสวดมนต์ตามที่ได้ปฎิบัติเป็นปกติ
    เมื่ออาตมานอนหลับไป อาตมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

    เมื่อปรากฏว่าอาตมาได้ยินเสียง กุกกัก กุกกัก
    จะขึ้นมา จึงได้จุดเทียนและพบตะขาบใหญ่ยาวเท่าขาของอาตมา
    กำลังเลื้อยเข้ามาอยู่ใกล้ตัวของอาตมามาก
    อาตมารู้สึกตกใจถึงหน้าถอดสี และด้วยสัญชาติญาณจึงกล่าวคำสวดมนต์
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ด้วยจิตยึดมั่นในพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้
    เสียงกุกกักและตะขาบที่อยู่ข้างหน้าก็อันตรธานหายไป
    จากนั้นอาตมาจึงได้จำวัดนอนเป็นปกติ

    ในวันรุ่งขึ้น นายผลก็มาหาอาตมาและได้กล่าวว่า
    เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้าได้ปล่อยตะขาบเข้าไปในกลดที่ท่านพำนักอยู่
    อาตมาบอกว่า อาตมาได้ตื่นมาและตกใจ จึงได้สวดมนต์ภาวนา

    ตะขาบตัวนั้นก็อันตรธานหายไป
    นายผลจึงได้ยกมือพนมขึ้น แล้วกล่าวว่า บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า
    อำนาจเวทมนต์คาถา และคุณไสยใดๆ ของข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้
    ก็เพราะอำนาจแก่การสวดมนต์ภาวนาของท่านเป็นเกราะคุ้มครองภัยอัตรายต่างๆ ได้

    ที่อาตมา (สมเด็จโต)

    ได้เล่าให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ได้ฟังกันเพื่อให้เป็นอานิสงส์ของการสวดมนต์ว่า
    เหล่าพรหมเทพได้มาฟังการสวดมนต์จริงดังที่อาตมาได้เทศน์ไว้
    เพราะถ้าไม่ใช่เหล่าพวกพรหมเทพแล้วไซร้ก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่สิ่งที่เกิดจากอำนาจคุณไสย
    ที่นายผลส่งมาเล่นงานอาตมาได้อย่างแน่นอน

    ท่านเจ้าพระยา และ อุบาสก อบาสิกา ในที่นั้น

    เมื่อได้ฟังคำเทศนาแล้วต่างก็ยกมือขึ้นสาธุว่า
    อานิสงส์ของการสวดมานต์ช่างมีคุณค่าสูงส่งยิ่งนัก


    จากหนังสือ อมตะธรรม สมเด็จโต
    อานิสงส์การสวดมนต์แผ่เมตตามหาบุญ
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,015
    ครับ ผมจะสวดมนต์ทุกวันก่อนนอนไปจนวันตาย จะพยายามทําให้ได้ในทุกวัน ตั้งเเต่สวดมาอย่างจริงจังในหลายๆเดือนนี้เเล้ว เห็นเลยว่า จิตเราสงบได้จริง มีสติรู้เท่าทันตัวเองมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนราวหนังคนละเรื่องเลย การสวดมนต์เป็นสิ่งที่ดีจริงๆครับ อยากให้ทุกคนได้สวดนะครับ อนุโมทนาครับ /\
     
  3. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG][​IMG] ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...