ความลับในหอหญิง...

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย zipper, 29 มิถุนายน 2006.

  1. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เรื่องนี้ไปเอามาจากพันทิบห้องลุมพินี เจ้าของกระทู้เขียนได้น่าอ่านดีเลยเอามาให้อ่านกัน อ่านแล้วติดใจไปอ่านได้ที่ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/t.../L4445267.html

    --------------------------------------------------------------------------------

    ความลับในหอหญิง...
    วันนี้ก็เป็นเหมือนวันก่อนๆ ที่แล้วมา ยิ่งใกล้วันเปิดเทอม เด็กนักศึกษาที่จองห้องพักไว้ก็ทยอยกันขนของขึ้นห้อง ที่ขนของเสร็จแล้วก็ออกไปหาซื้อของใช้เพิ่มเติม ภาพที่เห็นจนชินคือภาพการล่ำลากันระหว่างพ่อแม่และลูกสาวที่เพิ่งจะจากบ้านเป็นครั้งแรก
     
  2. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    “๓ ปีแล้วสินะ” ฉันรำพึงกับตัวเอง ภาพและบทสนทนาตรงหน้าพาให้ความคิดคำนึงของฉันย้อนกลับไปเมื่อวันแรกที่ประกาศกับครอบครัวว่า จะลาออกจากงานประจำและจะเลี้ยงตัวเองด้วยการเปิดหอพักสตรีแห่งนี้

    “บ้าแล้ว...สมัยนี้ใครเค้าอยู่หอหญิงกัน”

    “แต่พ่อคะ...แถวนั้นยังไม่มีหอหญิงล้วนเลยนะคะ อาจจะมีคนที่ชอบสงบๆ ที่ๆ อบอุ่นใจก็ได้”

    “แกรู้จักคนที่อยากอยู่หอหญิงซักกี่คนกันเชียว ที่แถวๆ นั้นไม่มีหอหญิง ก็เพราะไม่มีใครเค้ามาเช่าน่ะสิ”

    “ไม่รู้หละ หนูจะเปิดหอหญิง มันต้องมีเด็กดีที่อยากอยู่หอหญิงมั่งแหละ อีกอย่างนึงหนูไม่อยากมีส่วนส่งเสริมให้เด็กๆ ชิงสุกก่อนห่าม”

    “เออ...ตามใจแกเหอะ หอหญิงหลังมหาลัย เชอะ! แกทำป้ายชื่ออพาร์ทเม้นท์ให้พ่อไว้ด้วยเลยนะ วันไหนหอหญิงของแกถูกแบงค์ยึด พ่อจะไปไถ่คืนให้ พ่อจะเก็บไว้ติดแทน”

    “พ่อคอยดูไปเถอะ หอหญิงของหนูจะไม่ถูกแบงค์ยึด หอหญิงของหนูจะมีคนอยู่ มันก็มีบ้างแหละที่เด็กผู้หญิงจะไปอยู่กับแฟน แต่คงไม่ทุกคนหรอก คงต้องมีบางพวกที่ตั้งใจมาเรียนมั่งแหละ”

    “เออ...เอาก็เอา จะอะไรก็ทำ พ่อไม่พูดด้วยแล้ว”
     
  3. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คืนก่อนหอพักสตรีเปิดกิจการ ฉันสวดมนต์ไหว้พระ ฉันขอพรพระอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ฉันขอให้กิจการหอพักสตรีของฉันไปได้ด้วยดี ฉันรู้ว่ามันเสี่ยง แต่ฉันก็ไม่ขอให้มีกำไรมากมายมหาศาล แค่ให้พอมีรายได้สำหรับส่งค่างวด จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเงินเดือนแม่บ้าน และค่ากินค่าอยู่ของฉันก็พอแล้ว
     
  4. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เชื่อไหมล่ะว่า หอพักสตรีของฉัน “เต็ม” ทุกห้อง แต่กว่าจะได้ขนาดนี้ ฉันต้องเดินขึ้นลงอาคาร ๔ ชั้นไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ขามันปวดร้าวไปหมด แต่ก็ยังชื่นใจว่า “ความเชื่อของฉันเป็นจริงและความศรัทธาของฉันเป็นสิ่งที่สัมผัสได้”
     
  5. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ฉันแต่งตั้งให้ตัวเองเป็นผู้จัดการหอพัก พนักงานพิมพ์ดีด พนักงานขายของ และผู้ดูแลทั่วไป

    ฉันจัดให้ห้องริมสุดติดบันไดชั้น ๑ เป็นที่ทำการหอพัก ซึ่งเป็นทั้งที่ทำงานเอกสาร ที่รับแลกเหรียญ ร้านขายผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม และที่สำหรับบุคคลภายนอกนั่งรอพบผู้เช่า

    ฉันมีโอกาสได้เห็นเหตุการณ์หลายอย่างซึ่งฉันยังจำได้จนทุกวันนี้
     
  6. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เรื่องที่ ๑

    คุณลุงผมขาวเดินฝ่าแสงแดดตรงเข้ามาที่หอพักฯ มือทั้งสองข้างถือลังกระดาษขนาดเขื่อง เมื่อมาถึงที่นั่งรอ ฉันจึงพอมองเห็นได้ว่า ในลังนั้นมีลิ้นจี่สีแดงสวยลูกใหญ่หลายพวง “คงมาหาลูกสาว” ฉันคิด

    “เฮ้อ...ร้อนจริงๆ นะคุณ” คุณลุงทักฉัน มือหนึ่งกระพือเสื้อตัวเองเพื่อระบายความร้อน อีกมือหนึ่งเช็ดเหงื่อที่ไหลเต็มตัว

    “ลุงมาจากไหนล่ะคะ? ดูเหนื่อยๆ นะ”

    “มาจากหมอชิต กว่ารถเมล์จะมา กว่าจะได้ขึ้นรถ ขึ้นได้ดันหลงซะอีก กว่าจะมาถึงเล่นเอาเหนื่อยเลย”

    “เดินออกมาขึ้นรถเมล์เหรอ? ทำไมไม่ขึ้นแท็กซี่ที่คิวล่ะลุง แล่นปรื๊ดเดียวมาถึงเลย ไม่หลงด้วย”

    “ไม่เอาหละ ขึ้นรถเมล์เอาก็ได้ หลงก็ไม่เป็นไร มีปากก็ถามๆ เค้าเอา ประหยัดตังค์ได้ตั้งเยอะ”

    “มาหาใครล่ะลุง? ห้องไหน? เดี๋ยวโทรเรียกให้”

    “ไม่ต้องๆ เมื่อกี้โทรนัดกันแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงลงมาเอง”

    สักพักเด็กสาวผิวขาวหน้าใสก็เดินลงมาไหว้ทักทายพ่อ ทั้งสองคุยกันตามประสาพ่อลูก มีการกรี๊ดกร๊าดเรื่องลิ้นจี่บ้างเล็กน้อย แล้วลูกสาวก็บอกพ่อว่า “อยากกินพิซซ่า” ขอแค่นี้มีหรือพ่อจะปฏิเสธ

    ก่อนที่ลูกสาวจะขึ้นห้องไปแต่งหน้าแต่งตัว เธอได้เอ่ยปากฝากลังลิ้นจี่ไว้ที่ฉันโดยให้เหตุผลว่า “หนัก...ไว้รอให้เพื่อนมาช่วยยกขึ้นห้อง” คุณลุงผมขาวนั่งรอลูกแต่งตัวอีกประมาณครึ่งชั่วโมงจึงได้เดินไปที่ประตูรั้วเพื่อออกเดินทางต่อไปร้านพิซซ่า ได้ยินเสียงลูกสาวดังแว่วมาว่า “ไปแท็กซี่นะพ่อ หนูร้อน”

    ตอนเย็นเมื่อเธอกลับมาถึง ก่อนขึ้นห้อง ฉันได้เตือนเธอถึงลังลิ้นจี่ที่ฝากเอาไว้ เธอตอบกลับมาว่า

    “หนูยกให้พี่แล้วกัน”

    “อ้าว...นี่พ่ออุตส่าห์หอบมาให้นะ จากสวนของหนูใช่มั้ยล่ะ?”

    “ใช่...เบื่อจะตาย กินลิ้นจี่ตั้งแต่เกิดจนโตป่านนี้แล้วเนี่ย ไม่เอาแล้ว”

    “หนูเอาไปฝากเพื่อนสิ”

    “ไม่เอาหรอก เดินหิ้วถุงลิ้นจี่ไปมหาลัย...อายเค้า พี่กินเหอะ ไม่เป็นไรหรอก หนูให้พี่ มาคราวหน้าพ่อแกไม่ถามถึงหรอก แกจำไม่ได้แล้ว”

    ค่ำวันนั้น ฉันวางลังลิ้นจี่ไว้ที่บันไดทางขึ้นหอ พร้อมเขียนประกาศไว้ว่า “อภินันทนาการจากห้อง ๒๐๕”
     
  7. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เรื่องที่ ๒

    ทุกเช้าตอน ๖ โมง หลังจากเปิดประตูหอพักแล้ว ฉันจะรดน้ำต้นไม้และตัดแต่งกิ่งใบให้สวยงาม ด้วยหวังว่าจะเป็นจุดขายเรียกลูกค้ามาอยู่หอให้เต็มๆ และยังทำให้เด็กๆ ที่เช่าหอได้อยู่อย่างสบายตัวและสบายใจด้วย

    วันนี้ระหว่างที่ฉันปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ฉันรถ BMW สีน้ำเงินมันปลาบ แล่นมาจอดเทียบประตูหอพัก เด็กสาวที่นั่งมาข้างคนขับ ฉันจำได้ว่าเธออยู่ห้อง ๑๐๒ “เออ...ได้แฟนรวยนะ อิจฉาว้อย” ฉันนึกในใจ

    ก่อนลงจากรถ เธอยกมือไหว้ชายที่ขับรถมาส่งเธออย่างสวยงาม เมื่อเดินเข้าหอมา เธอเดินผ่านฉัน เธอสบตาฉันแวบหนึ่งแล้วเดินก้มหน้าเข้าห้องของตัวเองไป ฉันได้แต่แปลกใจ...น้องคนนี้ไหว้ลาแฟนด้วยแฮะ

    หลายวันต่อมา ในเวลาเดิม เหตุการณ์เดิมก็เกิดขึ้นอีก คราวนี้เป็นรถ Benz สีทองบรอนซ์ และคนขับก็ไม่ใช่คนเดิม ยังหนุ่มอยู่ ไม่น่าจะใช่ญาติผู้ใหญ่ของเธอหรอก ฉันคิดเอาเองว่า...แหม! เสน่ห์แรงจริงๆ

    หลายวันต่อมา ในเวลาเดิม เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง รถเปลี่ยน คนขับก็ไม่ใช่คนเดิม ที่ยังเหมือนเดิมคือเธอยังคงไหว้ลาชายที่ขับรถมาส่งเธอทุกครั้งก่อนลงจากรถ

    ในวันที่ครบสัญญาเช่าเธอมาแจ้งย้ายออก ฉันถามถึงเหตุผลที่ย้ายออก เธอบอกเพียงว่า “ที่บ้านไม่มีเงินส่งให้แล้ว” เธอมีกระเป๋าเพียง ๓ ใบเหมือนวันที่เธอย้ายเข้ามา รถที่มารับเธอเป็นรถ BMW สีควันบุหรี่ ฉันไม่มองไปที่คนขับอีกแล้ว

    อีกประมาณ ๑ เดือนต่อมา หญิงวัยกลางคนมาที่หอพัก เธอมาพร้อมเด็ก ๔ คน ทั้งผอมและมอมแมม อายุไล่กันไปตั้งแต่กำลังย่างเข้าวัยรุ่น เด็กประถม และเด็กเล็กๆ หญิงคนนั้นถามหาเด็กสาวที่เช่าห้อง ๑๐๒ และอ้างตัวเป็นแม่ของเด็กสาวคนนั้น ฉันตอบได้เพียงว่า “เธอย้ายไปแล้ว” และจนปัญญาที่จะตอบว่า “เธอย้ายไปไหน”

    “งั้นป้าฝากหนูบอกเค้าด้วยนะ เผื่อเค้าผ่านมาทางนี้ ว่าให้ติดต่อกลับบ้านด่วนเลย”

    “มีอะไรเร่งด่วนหรือเปล่าล่ะป้า? ถ้าด่วนมากนัก ให้ป้าลองไปติดต่อที่มหาวิทยาลัยสิ เผื่อจะได้อะไรมั่ง”

    “ไปมาแล้ว ที่คณะฯ บอกว่า มันโดนไล่ออกไปแล้ว เกรดไม่ถึง”

    “!?!”

    “ถ้าเผื่อมันผ่านมาทางนี้ ฝากหนูบอกมันด้วยก็แล้วกันนะว่าแม่มันมาตาม ย้ำด้วยนะว่าด่วนมาก เจ้าหนี้มากันเต็มแล้ว นี่ป้าหนีเค้ามานะเนี่ย”

    “จะให้น้องเค้าไปช่วยใช้หนี้เหรอ?”

    “ฮื่อ...มันก็ช่วยส่งดอกอยู่แล้วตอนนี้ แล้วเนี่ยมันไม่ส่งเงินกลับบ้าน ๒-๓ เดือนแล้ว”

    “เอ่อ...ป้าพอจะรู้ไหมว่า น้องเค้าทำงานอะไรที่ไหน? ไปถามที่ที่ทำงานเค้าสิ”

    “ไม่รู้มัน ถามก็ไม่ตอบ ไม่อยากตอบก็ไม่ถงไม่ถามมันละ เดี๋ยวจะว่าเรากวนใจ เอาละ...ฝากหนูด้วยนะ ป้าไปหละ จะลองไปยืมเงินญาติที่อื่นดู”

    จนถึงวันนี้ฉันยังไม่เห็นเด็กสาวห้อง ๑๐๒ อีกเลย รวมทั้งแม่ของเธอและเด็กๆ ทั้ง ๔ นั้นด้วย
     
  8. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เรื่องที่ ๓

    ชายวัยประมาณจะเป็นพ่อคนได้ เดินพูดโทรศัพท์เข้ามาที่ที่นั่งรอ

    “...แล้วหนูอยู่ไหนล่ะลูก พ่อมารออยู่ใต้หอแล้วเนี่ย อ๋อ...ได้ๆ เดี๋ยวพ่อรอนะ” แล้ววางหู

    “มาพบห้องไหนหรือคะ เดี๋ยวเรียกให้” ฉันทัก

    “ไม่ต้องครับ โทรตามเองแล้ว เค้าไปทำรายงานที่หอเพื่อน อยู่แถวนี้เองอีกเดี๋ยวคงมา”

    ไม่นานนัก เด็กสาวที่เช่าห้อง ๔๑๐ ก็วิ่งเข้าประตูรั้วมาด้วยชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อสายเดี่ยว พ่อลูกพบกัน แล้วภาพแห่งความประทับใจก็เกิดขึ้นอีก มีการไต่ถามทุกข์สุขของกันและกันตามสมควร

    “ทำไมต้องไปทำรายงานที่หอเพื่อนด้วยล่ะ”

    “ก็เพื่อนเค้ามีคอมพิวเตอร์นี่ หนูไม่มีใช้คอมพิวเตอร์ทำรายงานส่งอาจารย์สวยกว่า”

    “พ่อซื้อให้เอามั้ยล่ะ จะได้ไม่ต้องไปกวนเพื่อนบ่อยๆ”

    “ไม่ต้องหรอกพ่อ อาศัยใช้ของเพื่อนไปก็ได้ จะได้ประหยัดค่าไฟไง”

    เมื่อได้ยินประโยคท้ายสุด ด้วยความอยากรู้ถึงความประหยัดของห้อง ๔๑๐ ฉันเลยเปิดดูสำเนาใบเรียกเก็บค่าเช่า แล้วพบว่า เธอใช้น้ำต่อเดือนไม่ถึง ๑ หน่วย ส่วนไฟก็ไม่เกิน ๕ หน่วยต่อเดือน อัตราค่าน้ำค่าไฟขนาดนี้เรียกได้ว่า “แทบจะไม่ได้อยู่ห้องเลย” เออนะ...เค้าช่วยพ่อประหยัดจริงๆ

    สักพักใหญ่ๆ พ่อกลับไป ส่วนเด็กสาวก็ออกไปทำรายงานต่อที่หอเพื่อน

    ๒ สัปดาห์ต่อมา เด็กสาวห้อง ๔๑๐ เดินแกมวิ่งขึ้นห้องพัก ฉันได้แต่นึกสงสัย...ทำไมต้องวิ่งด้วย?

    อีกพักใหญ่ๆ ชายผู้เป็นพ่อเดินมาที่ที่นั่งรอ “เรียกห้อง ๔๑๐ ด้วยครับ”

    ฉันต่อสายในเพื่อเรียกห้อง ๔๑๐ ไม่นานนักเด็กสาวเจ้าของห้องเดินลงมา...แล้วภาพแห่งความประทับใจก็เกิดขึ้นอีก

    “ทำอะไรอยู่ล่ะลูก?”

    “จัดห้องอยู่จ้ะ ตื่นมาไม่มีอะไรทำก็เลยจัดห้องใหม่ ดูซิ...เหงื่อท่วมเลย”

    “ดีแล้วลูก เป็นสาวเป็นนางห้องหับต้องให้สะอาด ต้องมีระเบียบเรียบร้อย ไม่งั้นไม่มีใครมาขอนะ”

    “หนูไม่สนหรอก อยู่กับพ่อก็ได้” เสียงหัวเราะของสองพ่อลูกดังประสานกันให้ฉันพลอยซาบซึ้งไปด้วย

    “พ่อกลับก่อนนะ ต้องไปอีกหลายที่”

    “จ้ะ วันไหนพ่อจะมาอีก โทรหาหนูก่อนนะ หนูจะมารอรับ”

    แล้วเด็กสาวก็ขึ้นห้องไป ประมาณ ๕ นาที เธอก็ลงมาแล้วเดินออกจากหอไป

    หลายวันต่อมา เด็กสาวห้อง ๔๑๐ เดินแกมวิ่งขึ้นห้องไป “เดี๋ยวพ่อคงมาเยี่ยมละมั้ง” ฉันนึกเดาเล่นๆ ซึ่งก็ไม่ผิดความคาดหมาย พ่อของเธอมาจริงๆ “เรียกห้อง ๔๑๐ ด้วยครับ” ฉันรีบจัดการให้ตามคำเรียกร้อง ด้วยอยากเห็นภาพความสุขระหว่างพ่อลูกอีก

    สองพ่อลูกคุยกันตามประสา แล้วพากันออกไปข้างนอก กลับมาอีกทีตอนใกล้ๆ เที่ยงคืน...เวลาปิดประตูหอพัก
    พ่อรีบออกตัว “มาทันพอดีเลย วันนี้พาลูกไปเป็นเพื่อนซื้อยาที่เยาวราชครับ กลับดึกหน่อย” หันมาหาลูกสาว “เอ้า...ขึ้นห้อง อาบน้ำ นอนได้แล้วเรา นอนดึกนักเดี๋ยวหัวทึบ”

    เด็กสาวไหว้ลาพ่อ เดินขึ้นห้องของตัวเองไปอย่างว่าง่าย
    “ผมขอตัวก่อนนะครับ ดึกแล้ว” ว่าแล้วก็เดินจากไป
    ฉันเหลือบดูนาฬิกา “เออ...เที่ยงคืนแล้วนี่ ไปปิดประตูหอดีกว่า” ขณะที่กำลังจะปิดล็อคประตูรั้ว มีมอร์เตอร์ไซค์ขี่มาจอดเทียบหน้าประตู

    “หอปิดแล้วค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมานะ” ฉันรีบบอก

    เด็กหนุ่มหน้าตาดี ผู้ขี่มอร์เตอร์ไซค์ไม่ตอบว่ากระไร เพียงชี้ไปที่ด้านหลังของฉัน ฉันมองตาม เห็นเด็กห้อง ๔๑๐ เดินออกมาจากหอ ผ่านหน้าฉันไปโดยไม่สบตาฉัน แล้วเธอขึ้นนั่งซ้อนท้ายมอร์เตอร์ไซค์จากไป “เออ...ยังจะไปเที่ยวต่ออีกนะ เป็นวัยรุ่นนี่มันสนุกจริงๆ” ฉันคิด

    ทุกวันนี้เด็กสาวห้อง ๔๑๐ ขึ้นปี ๓ แล้ว ชีวิตของเธอยังคงวนเวียนอยู่แบบเดิม ทุกครั้งที่เธอเดินแกมวิ่งมาที่หอพัก ไม่นานนักพ่อหรือแม่ของเธอก็จะมาหาเธอที่หอ เมื่อพ่อหรือแม่กลับไป เธอก็จะออกจากหอไปเช่นกัน หากวันไหนกลับดึก เธอก็จะมีมอร์เตอร์ไซค์มารอรับที่หน้าประตูรั้วทุกครั้งไป

    ฉันไม่จำแล้วว่าคนที่ขับมอร์เตอร์ไซค์มารับเธอตอนดึกๆ เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนเดิมหรือเปล่า? ฉันคิดว่าบางเรื่องไม่รู้คำตอบซะบ้าง จิตใจมันสงบดีเหมือนกัน
     
  9. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ทุกวันนี้ ๓ ปีแล้ว ฉันยังเปิดหอพักหญิงให้เช่าอยู่ได้โดยไม่ถูกแบงค์ยึดแต่อย่างใด แต่ความเชื่อและศรัทธาของฉันเริ่มสั่นคลอนซะแล้ว เด็กสาวที่อยู่หอพักของฉันต้องการอยู่หอพักหญิงล้วนจริงๆ หรือพวกเธอเพียงทำตามความต้องการของพ่อแม่? หรือเพียงเพื่อสร้างภาพให้ตัวเองดูไม่เป็นอย่างที่คนอื่นคิด? ใครคนหนึ่งเคยพูดกับฉันว่า “สมัยนี้...มันไม่มีความดีกับความเลวหรอก มันมีแต่ความเหมือนกับความต่าง หากเรากับเขาปฏิบัติเหมือนกันทุกอย่างก็เรียบร้อยดี แต่ถ้าเขาคิด/ทำไม่เหมือนกันกับเรา ก็อย่าไปว่าเขาว่าไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ แค่เขามีวิถีชีวิตเป็นของเขาที่ไม่เหมือนเรา...ก็เท่านั้นเอง”
     
  10. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ความคิดเห็นที่ 86

    เขียนได้ดีมากเลยค่ะ ตอนแรกบรรยายภายในหอ
    เหมือนหอหญิงที่เราเคยอยู่เลย ( แต่ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านแล้ว )
    แต่อ่านไป อ่านมา คงไม่ใช่ละ เพราะเจ้าของหอเรา เป็นคุณป้าที่ดุมากกกกก

    -"-


    หอที่เราเคยอยู่มันอยู่ติดกำแพงมหาลัยเลย ..

    ที่คุณ จขกท. เขียนมา มันเป็นเรื่องจริง ที่เห็นได้บ่อยมาก
    เพราะเราก็มีเพื่อนที่มันเป็นแบบในเรื่องที่เล่านั่นแหล่ะค่ะ

    ตอนที่เราจะเข้าปีหนึ่งนะคะ พ่อขับรถ พาไปตะเวนดูหอใกล้ๆ ม.
    เพราะไม่อยากให้ลูกไปอยู่ไกล เดี๋ยวเหนื่อย ต้องตื่นแต่เช้า รีบมาเรียน
    แต่แค่เข้าไปหอแรก .. พ่อก็เห็น นศ. ชายหญิง โดนโอบไหล่กันมาเลย ..

    เราเห็นพ่อเราหันไปดูแต่คนพวกนี้ .. ห้องนี่ไม่ได้สนใจมองเลย
    เพราะพวกนี้อยู่กันเป็นคู่ๆ .. ผ่านไปหลายคู่มาก .. พ่อไม่พูดอะไรเลย
    แต่เลี้ยวรถออกมาจากหอนั้นทันที .. พอดีมองไปข้างๆ ม. เห็นป้าย "หอหญิง" ..

    พ่อเราหันมายิ้มกว้างเลย บอกลองไปดูละกันนะ ..
    แต่ส่งสายตาแนบมาประมาณว่า แกต้องได้อยู่ที่นี่แน่ ฮ่าๆๆๆ -"-
    พอเข้าไปดูสภาพห้อง มันก็โอเค .. พ่อก็ยิ้มๆ อีกละ - -"

    เราไม่อยากเรื่องมาก ก็เลยเอา อยู่ก็อยู่ ..

    ตอนนั้น เราไม่ได้โมโหหรือเครียดอะไรนะ เพราะอย่างหนึ่ง
    เราคงไม่มีแฟน .. ที่จะอยากไปอยู่ห้องด้วยกันสองต่อสอง -"-
    อีกอย่าง หอหญิงบรรยากาศมันก็ "เป็นกันเอง" เพราะมีแต่สาวๆ นะ

    ใส่สายเดี่ยว เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น ชุดนอน ..
    เดินไป เดินมา ก็ไม่แปลกอะไร มีแต่ผู้หญิง


    ไม่เหมือนพวกหอรวม บรรยากาศมันจะเป็นอีกอย่างนึง ..
    เคยไปเปลี่ยนบรรยากาศนอนกับเพื่อนสาวที่มันอยู่หอรวม ก็แปลกดี
    อิสระมาก เพราะหอร่วมกฎมันไม่ค่อยเยอะเท่าหอหญิงนะ


    ส่วนเรื่องแอบไปอยู่ห้องแฟนนี่ "เยอะมากกกก" ค่ะ เพื่อนข้างๆ ห้องเรา
    ทำแบบนี้หลายคนมาก .. ห้องนึงแชร์กันอยู่สองคน หรือจะเหมาคนเดียวทั้งห้องก็ได้

    ส่วนใหญ่พวกที่จะไปอยู่กับแฟน จะเลือกแบบแชร์อยู่สองคน ..
    จะได้จ่ายค่าเช่าแค่ครึ่งเดียว .. แล้วก็ทิ้งเสื้อผ้า ข้าวของตัวเอง
    ติดห้องไว้เล็กน้อย ( เผื่อแม่มันมาเยี่ยมแล้วขึ้นมาบนห้อง )

    อย่างห้องตรงข้ามเราก็รู้จักกันเนี่ยแหล่ะ .. ปีนึงมันจะมาแค่ 1-2 ครั้ง .. มาเก็บของ
    คือตอนจะปิดเทอม หรือเทศกาลหยุดยาว ที่ต้องกลับบ้าน

    เวลาพ่อแม่จะมา ก็แบบที่คุณเขียนเลยค่ะ พวกมันจะบอกให้พ่อแม่
    โทร.มาหาก่อน ถ้าจะมาอ่ะ ( อันนี้เราไปถามมานะคะ ) ..

    ถ้าวันไหนเห็นพวกเพื่อนแถวห้องเรากระหืดกระหอบ กลับมาหอ
    รู้เลยว่าพ่อแม่มันจะมาหาแน่ๆ .. พอพ่อแม่เค้ามา .. พวกนี้ก็แสดงละครไป

    เราเห็นแล้วก็ สงสารพ่อแม่ และบอกตัวเองว่าจะไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจอ่ะ
    บางคนพลาด ท้องแล้ว ก็ไปทำแท้ง .. คนใกล้ตัวทั้งนั้น ..

    เราเห็นมาเยอะ เลยไม่กล้าทำอะไรเสี่ยงๆ อย่างนั้นนะ กลัวปัญหาที่จะตามมา


    แต่ประมาณ 99.99% เลยนะคะ เท่าที่เคยคุยกับเพื่อนๆ ในหอ
    ส่วนใหญ่พ่อแม่เป็นคนเลือกให้อยู่หอหญิงอ่ะค่ะ .. ^^"


    แต่เด็กดีก็มีครึ่งๆ นะคะ ที่พ่อแม่ให้อยู่หอหญิง ก็ยินดีอยู่
    ไม่แอบหนีไปอยู่กับผู้ชายที่หออ่ะ .. ส่วนใหญ่พวกนี้จะเรียนเก่งด้วย
    เราก็จัดเป็นกลุ่มเด็กดีนะ พ่อเลือกให้อยู่ ก็ยอมอยู่ .. แต่ไม่ได้เรียนเก่งมากนักหรอกค่ะ : P

    เราว่าจะยังไง หอหญิงเนี่ย ก็มีคนพักอยู่แล้วล่ะนะ ..
    อย่างหอเก่าเราเนี่ย เต็มตลอด แหล่ะ ไม่ค่อยมีห้องว่างได้นานเลย
    ขอให้ธุรกิจหอหญิงของ จขกท. ไปได้สวย นานๆ นะคะ ^^

    จากคุณ : ลิงตัวเล็กๆ
     
  11. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ความคิดเห็นที่ 93

    โอ...ขอบคุณมากๆ ค่ะที่เข้ามาอ่านกันเยอะขนาดนี้ เรื่องที่เรามาเล่านี่เป็นผลมาจากการนั่งเฝ้าหอทั้งวันนั่นแหละค่ะ ได้เห็น/ได้ยินอะไรก็จดๆ เอาไว้ เขียนอะไรเล่นๆ กันนั่งหลับน่ะค่ะ

    ๓ เรื่องที่มาเล่านี้เป็น ๓ เรื่องที่ฝังใจเราที่สุด คือ เห็นแล้วก็เสียดายค่ะ

    ๑) เสียดายความรักของพ่อแม่พ่อแม่อุตส่าห์ประหยัดเงินมาให้ลูกสาว ตัวเองลำบากไม่เป็นไร ให้ลูกได้สบายเป็นพอ,

    ๒) เสียดายอนาคตของเด็กสาวคนหนึ่งที่อาจมีทางชีวิตที่ดีกว่า หากเธอได้เรียนตามความสามารถที่มี โดยไม่ต้องมีภาระทางบ้านมาเป็นอุปสรรค,

    ๓) เสียดายความหวังดีข่องพ่อแม่ เสียดายความเอาใจใส่จากพ่อแม่ และเสียดายคำสั่งสอนดีๆ จากพ่อแม่ ที่ลูกสาวบางคนไม่ใส่ใจเลย

    เราแค่อยากให้เด็กสาวๆ ที่เพิ่งจากบ้านมาได้อ่านเรื่องเหล่านี้แล้วลองมองชีวิตในแบบของบุคคลที่สามบ้าง ทั้งในมุมมองของพ่อแม่ มุมมองของบุคคลอื่น แล้วทบทวนมุมมองของตัวเองให้ดีอีกครั้ง

    เพราะด้วยวัยเพียง ๑๙-๒๐ ปี, ด้วยสติปัญญาที่มีอยู่, ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนั้น เด็กสาวเหล่านั้นอาจตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย แต่คนที่จะเสียใจและได้รับผลจากความผิดพลาดนั้นก็ไม่ได้มีตัวเด็กเพียงคนเดียวแน่นอน

    ส่วนคำว่า "ความเชื่อและศรัทธาของฉันเริ่มสั่นคลอน" นี่เราหมายถึง "ความสั่นคลอนทางจิตใจ" ค่ะ เราไม่เลิกทำหอหญิงไปง่ายๆ หรอก จนกว่าจะไม่มีค่างวดแล้วแบงค์จะมายึดไปนั่นแหละ...เราถึงจะเลิกกิจการไปเป็นลูกจ้างเค้าตามเดิม

    จากคุณ : ขอให้ฉันได้มีส่วนร่วมสักนิด...
     
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ความคิดเห็นที่ 97

    ส่วนเรื่องเด็กดีๆ ก็มีเยอะค่ะ หากจะเปรียบเทียบกันแล้วน่าจะอยู่ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่งเลยก็ว่าได้ เช่น

    น้อง ๔๐๔ เธอมาเข้าหอวันแรกด้วยรูปลักษณ์ของ "เด็กเรียน" ของแท้ คือ ผมบ๊อบตรงปิดต้นคอ และผมม้าตรงเลยคิ้วมาเล็กน้อย หน้าตาตื่นๆ ทุกสิ่งที่กรุงเทพฯ เป็นของใหม่สำหรับเธอ แม่ของเธอเอ่ยปากฝากฝังเธอไว้กับฉัน

    "ฝากมันด้วยนะ มันไม่เคยห่างบ้านเลย มันทำไม่ดีก็ตีมันได้เลย" ตัวเด็กเองก็ยกมือไหว้ฉันอย่างนอบน้อม "คงหวังฝากเนื้อฝากตัว" ฉันคิด

    ฉันรับปากไปด้วยไม่อยากให้เสียน้ำใจต่อกัน แต่ภายในใจคิดว่า "คงจะยอมให้ดูหรอกนะ"

    เพียงเทอมเดียวเท่านั้น...ผมม้าตรงของเธอกลายเป็นผมม้าปัด ส่วนผมบ๊อบตรงก็กลายเป็นผมยาวกลางหลังไลด์ไล่ระดับสวยงาม ที่แก้มของเธอบางวันเป็นสีชมพู บางวันเป็นสีส้มดูน่ารักสมวัย

    ทุกเย็นประมาณ ๔ โมงเธอจะรีบกลับหอเพื่อเปลี่ยนชุดเป็นพนักงานประจำร้านไอศครีมแห่งหนึ่ง แล้วออกไปทำงาน เธอกลับมาก่อนเวลาหอปิดเกือบทุกครั้ง หากวันไหนกลับเกินเวลา เธอจะโทรเรียกให้ฉันมาเปิดประตู ยืนรอระหว่างฉันปิดประตู และเมื่อเข้าหอได้แล้ว เธอจะยกมือไหว้ขอบคุณฉันทุกครั้ง

    เมื่อถึงวันหยุดเทศกาลหลายวัน เธอจะกลับบ้าน ที่ฉันคุ้นตา คือ ภาพน้อง ๔๐๔ หอบหิ้วของพะรุงพะรัง "จะเอาไปฝากแม่กับน้อง" เธอเคยบอกฉันเมื่อฉันมองไปที่กองสัมภาระของเธอ

    ในวันเปิดเทอมทุกครั้ง ก่อนจะขึ้นห้อง เธอเดินมาหาฉันพร้อมส่งถุงมะม่วงมาให้ "เอามาฝากค่ะ มาจากสวนโดยตรงเลยค่ะ"

    ทุกวันนี้เธอขึ้นปี ๓ แล้ว หากจำไม่ผิด...เธอเรียนเกี่ยวกับสถิติ รูปกายภายนอกดูสวยขึ้น ช่างแต่งเนื้อแต่งตัวมากขึ้น ซึ่งฉันแน่ใจว่าเธอคงไม่ได้เอาเงินที่พ่อแม่ตั้งใจส่งให้เรียนมาใช้แน่ๆ ส่วนการวางตัวและมรรยาททั่วไปยังเรียบร้อยน่ารักเหมือนเดิม

    น้อง ๔๐๔ คือ หนึ่งในกลุ่มที่ฉันคาดว่าคงจะใช้บริการหอพักหญิงไปจนกว่าจะเรียนจบ

    จากคุณ : ขอให้ฉันได้มีส่วนร่วมสักนิด...
     
  13. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ความคิดเห็นที่ 115

    ดีใจจังที่มีหอหญิง เราเองก็ทำหอหญิง ชื้อต่อเขาอีกที่ มาปรับปรุงใหม่ แบบ เราอยู่ต่างประเทศมานาน อยากทำให้เหมือนที่เคยอยู่ แต่เปลี่ยนไปทำหอหญิง จากเดิมเป็นหอรวม

    เราจักให้มี ห้องนั่งเล่น มี ทีวี มียูบีชี ตู่เย็น ไมโคเวฟ เครื่องชักผ้า เครื่องกรองน้ำดื่ม ทั้งหมดที่ว่า เป็นการให้ฟรี เพราะคิดว่า ไม่อยากให้หอวันเหงา ตัวเองก็ไม่เดือนร้อนเรื่องเงิน ส่งธนาคารเพราะชื้อสดมา เห็นพ่อแม่ที่มาจาก ต่างถิ้น ทั้ง กทม และ ตจว มันเป็นภาพที่อบอุ่นมาก

    แต่ภาพที่เกิดขึ้นเป็น ช่วงเดือนแรกที่สอบเข้ามา

    มีหลายครั้งที่ เด็กสาวเอาผู้ชายขึ้นห้องตอนกลางคืน เรานี้โกรธมากที่ทำ ขอเข้าไปดูในห้อง ผู้หญิงเอาผู้ชายยัดเข้าตู่เสื้อผ้า เพราะที่ห้อง เราจัดเครื่งนอนให้ครบ อย่งดี มีโทรศัพท์ทุกท้อง มีคอม ฟรีส่วนกลาง ค่า เช่า พันห้าถึง สองพัน อ้ายผู้ชายมันขนาดไปชุกใต้กางเกงไนผู้หญิงได้ขนาดนนี้ แล้วมันจะมีค่าอยู่อีก หรือ สามปี เราเห็นอะไรที่มากจน บางครั้งคิดว่าจะปิดห้อง สิ่งที่ได้เห็น กับตา กับคนใกล้ชิด ยังเกิดขึ้นจนได้ นั้นคือ คำนิยามของ หอหญิงไม่ใช้มีไว้ สำหรับหญิงอีกต่อไป หากเผลอเมื่อไร หอหญิง จะกลายเป็น รร ม่านรูดที่ สมบูรณ์ทุกอย่าง

    ทุกวันเลยไม่คิดว่าใครจะมาจะไปก็ชั่ง ไม่ติดคำว่าหอ หยิงิกเลย

    จงหลับตาไม่มอง สิ่งที่เป็นความหลับของหอหญิง วันนั้นหอหญิงจะคงม่ค่าในตัวของมันเอง หากวันหนึ่งที่ต้องเข้าไปทำความสะอาดห้องใหม่หลังลูกค้าย้ายออก จะพบเห็น ถูงยางอนามัยช่อนตัวมันเองอยู่ใต้เตียง ไว้เป็นอนุสรณ์ แห่งความภาคภูมิใจของหอหญิง ตลอดไปตราบที่หอหญิงยังคงอยู่

    จากคุณ : ดอกจานในแดนซากุระ
     
  14. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ความคิดเห็นที่ 135

    ทุกอย่างเป็นอย่างที่เล่าเลยค่ะ เหมือนกันหมดทุกที่ เราอยากจะหาที่ดีๆให้เด็กผู้หญิงอยู่อย่างปลอดภัย ทำเอาบุญเอากุศลจริงๆ
    หอพักหญิงนะส่วนใหญ่ราคาถูกกว่าหอรวม(อพาร์ทเมนท์)ตั้งเยอะ เพียงแต่มีกฏเกณฑ์มากขึ้น ก็ล้วนแต่เพื่อความปลอดภัยของเขาเองเท่านั้น แต่น้องๆก็ไม่อยากอยู่ อ้างไม่สะดวกบ้าง พ่อแม่ น้องชายพี่ชายมาค้างด้วยไม่ได้บ้าง เจ้าของหอชอบสอดรู้สอดเห็นบ้าง ชอบโทรฯรายงานพ่อแม่บ้าง(โทรฯไปตามลูกที่บ้านเพราะหายหัวไปไหนก็ไม่รู้เป็นอาทิตย์ๆ ไม่อยู่หอ) ฯลฯ
    ทำหอพักหญิงน่ะ ต้องทำใจจริงๆ เคยคิดจะยุบหอหญิงทิ้งไปทำหอรวมเหมือนหอรวมที่ขึ้นมาล้อมหอเราอยู่ แล้วเขาก็เต็มเอาๆ ไม่มีห้องว่าง
    แต่คิดถึงน้องๆอีก โดยเฉลี่ยอีกครึ่งตึกที่อยู่หอหญิงเพราะรักดี จะเสือกไสเขาไปไหนดี ก็เลยยังกัดฟันทำ คิดว่าชีวิตนี้ได้ทำอะไรดีๆเอาไว้ให้สังคม ยึดเอารายได้ของสามีเป็นที่ตั้ง ของตัวเองที่ดูแลหอพักเป็นรายได้รอง ได้เยอะก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เอาไว้ภูมิใจอวดลูกอวดสามีว่า แม่คิดดีทำดี เท่านั้น
    หอหญิงนี้มีกฏอย่างเดียวที่ไม่เหมือนหออี่นคือ ใครเรียก "คุณป้าเจ้าของหอ"จะถูกขึ้นค่าห้อง เรียกอย่างมาก แค่ "พี่" ก็แก่พอแล้ว

    จากคุณ : แย้มยิ้ม
     
  15. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ความลับในหอหญิง...ภาควันเบาๆ

    ภาคสองของ ความลับในหอหญิงหน่ะ แต่อันนี้จะเป็นเรื่องเบาๆ เช่นเดิมติดใจไปอ่านต่อได้ที่ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/t.../L4447962.html

    --------------------------------------------------------------------------------

    ด้วยเกรงว่า ผู้อ่านจะเห็นคิดว่าเราเอาแต่จดจำเรื่องร้ายๆ ของเด็กผู้หญิง เดี๋ยวจะพาลสงสัยว่า เราเก็บกดหรือเปล่า? เราขอเปิดเผยความลับในหอหญิงภาควันเบาๆ บ้าง

    จากคุณ : ขอให้ฉันได้มีส่วนร่วมสักนิด...
     
  16. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ห้อง ๓๐๓

    “พี่คะ หนูจะย้ายออกสิ้นเดือนหน้านะคะ”

    “เขียนใบแจ้งย้ายด้วยจ้ะ ว่าแต่...ทำไมถึงย้ายล่ะจ๊ะ?”

    “ผีหลอกหนูค่ะ”

    “ผีหลอก?!?”

    “หนูเห็นจริงๆ นะคะ ตอนเช้าๆ หนูเห็นเป็นตาแป๊ะแก่ๆ มาเขย่าแขนหนู บอกให้ตื่นไปเรียนค่ะ บางทีก็ตอนดึกๆ หนูเข้าห้องน้ำออกมาเห็นผู้หญิงผมยาวมานั่งร้องไห้อยู่กลางห้องค่ะ”

    “มาขอส่วนบุญละมั้ง...หนูทำบุญไปให้เค้ารึเปล่าล่ะ?”

    “ทำค่ะ เจอคืนไหน พอตอนเช้าหนูไปใส่บาตรให้เค้าเลยค่ะ แต่ก็ยังไม่ยอมไปไหน”

    น้อง ๓๐๓ เขียนใบแจ้งย้ายเสร็จส่งให้ฉัน ในนั้นระบุวันที่จะย้ายออกเป็นวันสิ้นเดือนหน้า

    ๒ สัปดาห์ต่อมา...
    ชายวัยประมาณพ่อคนเดินเข้าหอมา “เรียกห้อง ๓๐๓ ด้วยครับ” ฉันจัดการให้ตามประสงค์

    เมื่อพ่อลูกพบกัน

    “แม่แกบอกว่าแกจะย้ายออกเหรอ?” คุณพ่อเริ่มบทสนทนาด้วยเสียงดังคับหอ

    “ก็...ก็...หนูโดนผีหลอก”

    “ผีสางอะไร? มันเป็นไง?”

    “หนูเห็นผีคนจีนมาเขย่าแขนหนู เห็นผู้หญิงผมยาวมานั่งร้องไห้กลางห้องด้วย”

    “แกดูละครหลังข่าวมากไปแล้ว พ่อจะยกทีวีกลับ” ระดับเสียงไม่ได้ลดลงเลย

    “อ๊า...ไม่เอานะ”

    “เอ้า...นี่พระดี พ่อเอามาให้ ใส่ไว้ป้องกันตัว แล้วไม่ต้องย้ายออกไปไหนนะ อยู่ที่นี่แหละ ถ้าเอาแต่ย้ายหอแบบนี้...แกเรียนไม่จบแน่ๆ”

    เมื่อพ่อกลับไป น้อง ๓๐๓ ซึ่งตอนนั้นแขวนพระที่คอเรียบร้อยแล้ว เดินมาหาฉันแล้วแจ้งยกเลิกการย้ายออก ฉันไม่ถามเหตุผล รู้ว่าเธอคงกลัวพ่อมากกว่ากลัวผีแน่ๆ
     
  17. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ห้อง ๒๐๓

    ประมาณ ๒ ทุ่ม แม่บ้านวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกฉันว่า “ได้ยินเสียงผู้ชายคุยกันอยู่ในห้อง ๒๐๓ แน่ะคุณ” ฉันรีบขึ้นไปเคาะประตูห้อง ๒๐๓ เพื่อสอบถาม

    “มีคนแจ้งว่าได้ยินเสียงผู้ชายในห้องของน้องค่ะ ขอตรวจห้องนะคะ” ฉันชำเลืองเข้าไปในห้องเห็นประตูห้องน้ำปิดอยู่

    “ไม่มีหรอกค่ะ เสียงละครต่างหาก” ภาพบนจอโทรทัศน์ของเธอปรากฏภาพข่าวในพระราชสำนัก

    “ยังไงก็ขอตรวจนิดนึงนะคะ จะได้แจ้งให้ชาวหอท่านอื่นทราบว่าไม่มีอะไร” ตอนนั้นห้องอื่นเริ่มเปิดห้องมาดูเหตุการณ์บ้างแล้ว

    ฉันตรงไปที่ประตูห้องน้ำทันที พบผู้ชายอายุไล่เลี่ยกับเจ้าของห้องอยู่ในนั้น ๒ คน

    “พี่ให้เวลาน้อง ๗ วันนะ หาที่อยู่ใหม่ แล้วย้ายออก ส่วนคุณสองคน...เชิญออกเดี๋ยวนี้ค่ะ” เด็กหนุ่ม ๒ คนนั้นเดินตามแม่บ้านลงไป

    “โห...อะไรกันคะพี่ แค่มานั่งคุยเล่นกันเฉยๆ เราไม่ได้...(ป.ปลา+สระอี+ไม้โท)...กันซะหน่อย” ใช้คำกริยาได้อย่างตรงไปตรงมา เธอพูดด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ ราวกับว่าไม่ทราบจริงๆ ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร

    “พี่ไม่สนใจนะว่าน้องจะทำอะไรกัน แต่กฎของหอมีอยู่ว่าห้ามผู้ชายขึ้นอาคารหอพัก ให้พบกันตรงที่ๆ จัดไว้ให้ ผิดกฎก็ต้องออกจ้ะ”

    สุดท้ายเธอก็เก็บข้าวของย้ายออกไปในวันที่ ๗ หลังเหตุการณ์นั้น ฉันไม่แน่ใจว่าฉันคิดไปเองหรือเปล่า...ฉันรู้สึกว่า เด็กห้องอื่นปฏิบัติตามกฎการของหอพักอย่างเคร่งครัดมากขึ้นเยอะเลย
     
  18. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ห้อง ๔๐๗

    ปี ๑ เทอมแรก...เธอเป็นนักศึกษาภาคปกติ เรียนเต็มเวลา ช่วงเย็นเธอแต่งตัวไปขายขนมปัง
    ปี ๑ เทอมสอง...ฉันไม่เห็นเธอใส่ชุดนักศึกษาหรือถือตำราเรียนอีกเลย

    วันหนึ่งเธอมาแจ้งย้ายออก ฉันถามเหตุผล

    “จะย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นท์ค่ะ สะดวกดี ไม่มีเวลาเปิด-ปิดประตู”

    ฉันถามถึงชื่ออพาร์ทเม้นท์ที่เธอจะย้ายไปอยู่ พอทราบ ฉันก็อดที่จะออกความเห็นไม่ได้

    “โหย...ที่นั่นมันไกลมหาวิทยาลัยตั้งเยอะนะ จะไปเรียนทันเหรอ?”

    “อ๋อ...หนูไม่เรียนแล้วพี่ ตอนนี้หนูได้งานประจำแล้ว”

    “เอ่อ...งานอะไรเหรอ?”

    “ตอนกลางวันหนูขายกาแฟ ตอนเย็นหนูไปซื้อเสื้อที่ประตูน้ำกับของกิฟท์ชอปที่สำเพ็งมาขายหน้า...(ห้างฯ แห่งหนึ่ง)...ค่ะ กว่าจะได้กลับก็ตีสองตีสาม เงินดีนะพี่ สนุกด้วย”

    “แล้วไม่เรียนแล้วเหรอ?” ฉันถามแบบกลัวคำตอบจริงๆ

    “คงต้องพักไว้ก่อนค่ะ ว่างๆ หนูค่อยกลับไปเรียนใหม่”

    “ที่บ้านรู้มั้ยเนี่ย?”

    “...” มีแต่รอยยิ้มพิมพ์ใจ

    “อือ...งั้นก็ขอให้โชคดีนะ”

    ทุกวันนี้เธอยังเดินผ่านหน้าหอพักของฉันอยู่บ้าง ฉันหวังว่าจะได้เห็นน้อง ๔๐๗ เดินถือตำราไปเรียนอีกครั้งหนึ่ง...ฉันยังไม่สมหวังเลย
     
  19. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คราวนี้มาแบบเบาๆ เอา ๓ เรื่องเท่ากันนะคะ ส่วนเรื่องของห้องอื่นๆ เป็นแบบทั่วไป เช่น มาขออนุญาติพาเพื่อนกระเทยมาค้างด้วย ฉันเลยขอให้เพื่อนกระเทยคนนั้นไปแปลงเพศมาก่อน หรือมาขอกลับหอดึกเนื่องจากจะไปทำสารคดีเกี่ยวกับความเป็นมาของถนนข้าวสารส่งอาจารย์ ทั้งๆ ตอนนั้นอยู่ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมหรือช่วงปิดเทอม ทุกวิชาสอบปลายภาคหมดแล้ว เหลือแต่ส่งเกรด หรือเด็กๆ ชั้น ๒ มารวมตัวกันที่หน้าบันไดตอน ๔ ทุ่ม บอกว่า "ได้ยินเสียงมโหรีดังมาแว่วๆ" ตรวจสอบดูก็พบว่า ห้อง ๒๐๘ (เรียนเอกนาฏศิลป์และการละคร) เปิดเทปซ้อมรำ ฯลฯ

    สัญญาค่ะ วันไหนรวบรวมเรื่องน่าสนใจได้มากพอ จะมาเล่าให้ฟังอีกค่ะ

    จากคุณ : ขอให้ฉันได้มีส่วนร่วมสักนิด...
     
  20. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ความคิดเห็นที่ 27

    สมัยเรียน เคยอยู่หอหญิงใน ช่วงเข้าพรรษา ซึ่งชาวบ้านกลับบ้านกันหมด เราก็อ่ะดี จะได้อ่านหนังสือเงียบ ๆ ปรากฏตี 1-2 กว่า ๆ เนี่ย ได้ยินเสียงที่ลูกบิด แกร็ก แกร็ก ที่ประตูห้องเรา เราก็เฮ้ย ใครฟะ แน่ะรู้ว่าเมทไม่อยู่จะมาแกล้งเรารึ เดี๋ยวเฮอะ ... ก็พอเปิดประตูไปดูก็ไม่มีใครอ่ะ ก็เอ๊ะ
    แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไร กลับมานั่งอ่านหนังสือต่อ สักพัก ได้ยินเสียง ญ. ร้องไห้ มาเป็นระยะระยะอ่ะ มั่นใจได้เลยว่าไม่ใช่เสียง ลม ไม่ใช่เสียงหวิว หวิว แบบคนไม่มีสติคิดไปเองเวลากลัว แต่เราไม่กลัว เราเฉย ๆ เวลาสงัด สงัดอย่างนี้ หายากนะเฟ้ย จะอ่านหนังสือซะหน่อย จะมากวนเราทำมั๊ย ... เอาน่ะ ก็เลยพูดคนเดียวไปว่า แล้วจะทำบุญไปให้นะ ขอเวลาอ่านหนังสือหน่อย ถ้าไม่ได้ A จะไม่ทำบุญไปให้นะเอ้า ... แล้วก็ทีหลังถ้าอยากให้ช่วยอะไร อย่ามาทำให้เรากลัว หรือตกใจนะ ไม่งั้น อด ไม่ทำบุญไปให้จริง ๆ ด้วย จะมาขอก็มาดีดีสิ จะมาขอเขาก็อย่าทำให้เขาเดือดร้อน ....
    พอช่วงเปิดเรียน เขากลับมากันหมด เราก็ไปถามๆ ดู ก็จริง ๆ ด้วย ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย กลับบ้านกันหมด ห้องข้าง ทั้งสอง ก็กลับบ้าน ทั้งชั้นเรามีกันอยู่แค่ 2-3 ห้อง ซึ่ง อยู่อีกปีกหนึ่ง ไกลมาก ๆนึกถึงภาพ รพ.ที่มีหลายปีกมีทางเลี้ยว ซ้าย - ขวาน่ะค่ะ แล้วก็คิดว่าคงไม่ใช่แม่บ้านกับอาจารย์หอ เพราะทั้งสองคน ก็จะกลับไปบ้านเขาตอนปิดหอ

    จากคุณ : มีอีกเยอะ เรื่องหอในเนี่ย
     

แชร์หน้านี้

Loading...