คัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ(พร้อมแปล)

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 18 กรกฎาคม 2008.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    152
    ค่าพลัง:
    +147,900
    ฝอซัวหมีเล่อจิ้วขู่จิง : พระพุทธองค์ได้โปรดแสดงธรรม ว่าด้วยคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะอันสามารถเปลื้องทุกข์ได้กล่าวคือ

    หมีเล่อเซี่ยซื่อปู้เฟยชิง : อันว่าพระเมตเตยยะ โปรดแบ่งพระภาคอุบัติมาในกาลครั้งนี้ เพื่อเจริญปณิธานโปรดสามโลกในชั้นเทพเทวา มนุษย์ และผี เพื่อการแปรเปลี่ยนโลกวุ่นวายให้เป็นเอกภาพ สมานฉันท์เป็นหนึ่งเดียวกัน การอุบัติมาของพระองค์ในครั้งนี้จึงมิใช่เรื่องเล็กน้อยธรรมดา

    หลิ่งเป่าฉีหลู่หลิงซันตี้ : พระองค์สนองรับพระโองการล้ำค่าหาใดเสมอเหมือน ดุจดั่งรัตนะวิเศษสุดจาก อนุตตรพระแม่องค์ธรรมฯ พระเมตเตยยะแบ่งพระภาคอุบัติมา ณ เมืองฉีหลู่ มณฑลซันตง ดินแดนวิเศษแห่งภูเขาศักดิ์สิทธิ์

    เหนี่ยนฮวาอิ้นเจิ้งเข่าซันเฉิง : เป็นเรื่องเดียวกันกับที่ “พระผู้มีพระภาค” เคยประจงจับดอกไม้ชูขึ้นตรงพระพักตร์ แสดงปริศนาธรรมให้ประจักษ์จุดตรัสรู้ ขั้นสูงสุดระดับยานที่สามแด่สงฆ์สาวกหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบรูป ณ เชิงเขาคิชกูฏ

    ลั่วไจ้จงเอวี๋ยนซันซิงตี้ : ใจกลาง ต้นกำเนิดแห่งอารยประเทศของโลก คือ ประเทศจีน ใจกลางต้นกำเนิดแห่งกายสังขาร คือ จุดสถิตพุทธจิตธรรมญาณ เป็นดินแดนวิเศษที่อยู่เหนือดินแดนสามดาว หมายถึง หัวใจที่ก่อเกิดอารมณ์โลภ โกรธ หลง

    ต้าเจิ้งซื่อชวนอวั๋งเถาซิน : ประจักษ์หลักฐานครั้งยิ่งใหญ่ ปรากฏในมณฑลเสฉวน ณ สวนดอกไม้อวั๋งเถาซิน

    เทียนเจินโซวเอวี๋ยนกว้าเซิ่งเฮ่า : พระวิสุทธิอาจารย์แห่งธรรมกาลยุคขาวสุดท้ายทั้งสองพระองค์คือ พระธรรมาจารย์เทียนหยานและพระธรรมจาริณีซู่เจิน (พระธรรมจาริณีจื่อซี่ หรือ อริยมาตาจงฮว๋า) สมัยที่ 18 สุดท้ายยุคหลัง ทั้งสองพระองค์สนองรับพระธรรมโอกงการถ่ายทอดสัจธรรม จากฟ้าสู่สาธุชน เก็บงานสมบูรณ์ผล คือ เก็บจิตญาณกลมใสบริสุทธิ์ของผู้บำเพ็ญดี จารึกในทะเบียนอริยะ

    เติ่งไต้สือจื้อเตี่ยนเสินปิง : เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ก็จะเป็นวาระคัดเลือกรวมพลญาณวิเศษและเทพเทวา

    อวิ๋นเหลยเจิ้นไคอู้จี๋ถู่ : พระธรรมจาริณีซึ่งมีพระธรรมธาตุเช่นเมฆ เช่น น้ำ หรือเช่นดวงจันทร์ พระธรรมาจารย์ซึ่งมีพระธรรมธาตุเช่น อัสนี เช่นไฟ หรือเช่นดวงอาทิตย์ จะแสดงพระบุญญาธิการเปิดวาระธรรมกาลยุคขาวในใจกลางแผ่นดินจีน ด้วยการถ่ายทอดเปิดจุดสถิตจิตญาณ ณ ใจกลางร่างกายคน เป็นมหาวาระแห่งมหาธรรมปฏิบัติ อันเสะเทือนฟ้าสะเทือนดินซึ่งมิะเคยปรกโปรดแต่ก่อนใดมา

    เทียนเซี่ยเสินกุ่ยปู้อันหนิง : ใต้หล้าฟ้านี้ เทพเทวาผีสางต่างตื่นตระหนกกระวนกระวายไม่สงบสุข เพราะถึงยุคสุดท้าย มหันตภัยจะกวาดล้างทั้งสามโลกแต่เบื้องบนปรกโปรดประทานหนทางรอดแก่ชีวิตจิตญาณที่จะเก็บไว้เป็นกุศลพันธุ์ ต่อไปในกาลข้างหน้าได้ ทุกชีวิตจิตญาณจึงต่างวุ่นวายใฝ่หาพระวิสุทธิอาจารย์ผู้นำทาง

    ชินไจ้เหยินเทียนจงฮว๋าหมู่ : ทุกชีวิตจิตญาณจึงต่างปรารถนาจะสนิทชิดใกล้ฟ้าอันการุณกลับคืนไปยังอนุตตรธรรมมารดาจึงต่างใคร่รู้ธรรมญาณอันเจิดจรัสในศูนย์กลางกายแห่งตน อีกนัยหนึ่งคือ ต่างปรารถนาชิดใกล้พระอริยมาตาจงฮว๋า พระผู้ทรงรับพระภาระเก็บจิตวิญญาณอันเจิดจรัสของผู้บำเพ็ญดีทุกคน เรียกว่าเก็บงานสมบูรณ์ผล ช่วงสุดท้ายในการปรกโปรดครั้งนี้

    จิ่วเหลียนเซิ่งเจี้ยวกุยซั่งเฉิง : ทุกชีวิตจิตญาณต่างปรารถนาจะปฏิบัติบำเพ็ญในศาสนาอันอาจบรรลุมรรคผลแห่งอริยะ กลับไปยังยานระดับสูงประทับบนบัลลังก์บัวเก้าระดับได้

    เทียนฮวาเหลาหมู่ฉุยอวี้เซี่ยน : ทุกชีวิตจิตญาณและสาธุชนจะมีโอกาสสนิทชิดใกล้อุบลสวรรค์บัลลังก์บัวด้วย “พระอนุตตรธรรมเจ้า พระแม่องค์ธรรม” โปรดหย่อนสายบุญบริสุทธิ์สูงส่งเป็น มงคลดั่งหยกดั่งทองลงมานำพาพุทธบุตรดั้งเดิมอันเป็น กุศลพันธุ์

    โซวเอวี๋ยนเสี่ยนฮว่าไจ้กู่ตง : เพื่อการเก็บงานสมบูรณ์ผล นำพาชีวิตจิตญาณพุทธบุตร สาธุชนกลับคืนเบื้องบน พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดต่อไป การนี้จะปรากฏพุทธานุภาพให้ประจักษ์จริงในโลกมนุษย์ ณ ดินแดนประเทศเก่าก่อนโบราณ (ประเทศจีน) เพื่อการเก็บงานสมบูรณ์ผล ชีวิตจิตญาณที่ตกต่ำเสียหาย จะได้รับการฟื้นฟูชูชุบ ณ จุดญาณทวารผู้ที่ผ่านการจุดเบิกจากพระวิสุทธิอาจารย์แล้ว จะผันเปลี่ยนจิตใจและบำเพ็ญให้บรรลุได้ในที่สุด

    หนันเป่ยเหลี่ยงจี๋เหลียนจงซวี่ : ธรรมปฏิบัติที่แตกต่างห่างไกลกัน ดังฝ่ายใต้ฝ่ายเหนือสองขั้ว เช่น พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิง (เว่ยหล่าง) ที่บำเพ็ญแนวทาง “นิรรูป” ฉับพลัน แต่ศิษย์ผู้พี่คือ พระอาจารย์ “เสินซิ่ว” บำเพ็ญแนวทาง “รู้รูป” ค่อยปลงรูป หรือการปฏิบัติบำเพ็ญในแนวทางอื่น ๆ แต่ละศาสนาลัทธินิกาย ในธรรมกาลยุคขาวสุดท้ายนี้ ทุกแนวทางปฏิบัติบำเพ็ญ จะประสานกันคืนกลับต้นสายตระกูลเดิม

    ฮุ่นเอวี๋ยนกู่เช่อไจ้จงอยัง : ตั้งแต่บรรพกาลมา รูปแบบของมนุษย์ที่องค์ธรรมมารดาซึ่งเป็นพระผู้สร้างได้กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนเก่านั้นคือ จุดสถิตพุทธจิตธรรมญาณของกายสังขาร อยู่ที่ศูนย์กลางกาย (ศีรษะ)

    เหลาหมู่เจี้ยงเซี่ยทงเทียนเชี่ยว : ศูนย์กลางกายที่ศีรษะจุดนี้ องค์ธรรมมารดาพระผู้สร้างได้โปรดประทานให้เป็นประตูทางผ่านให้ชีวิตจิตญาณกลับคืนไปยังฟ้า กลับสู่สุญญตา หรือ วิมุติภาวะแต่เดิมทีของตน

    อู๋อิ่งซันเฉียนตุ้ยเหอถง : หลังจากพระวิสุทธิอาจารย์เบิกจุดญาณทวารตรงศูนย์กลางกาย อันเป็นประตูทางผ่านไปยังฟ้าซึ่งอยู่ใกล้กับเบื้องหน้าภูเขาไร้รูปเงานั้นแล้ว การกลับคืนเบื้องบนไปของผู้ได้รับการถ่ายทอดวิถีธรรมแล้วยังจะต้องแสดง “ลัญจกร” ตราประทับของพระพุทธะ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์สูงส่งของจิตใจที่ไม่ผิดเพี้ยนเอนเอียง ไม่แบ่งเขา แบ่งเรา ซึ่งเป็นสภาวะธรรมอันสมานฉันท์ในจิตของตนอีกด้วย

    อิงเอ๋อเหย้าเสี่ยงกุยเจียชวี่ : พุทธบุตรผู้มีจิตบริสุทธิ์โปร่งใส ดั่งทารกน้อยหากคิดที่จะกลับคืนสู่บ้านเดิม (บรรลุธรรม)

    ฉือเนี่ยนตังไหลหมีเล่อจิง : พึงประคองท่องจำคัมภีร์เมตเตยยะ อันได้มาแต่เดิมทีไว้ให้ดี คัมภีร์เมตเตยยะอันได้มาแต่เดิมทีจึงแฝงปริศนาไว้ หมายถึง ดวงธรรมญาณอันบริสุทธิ์ โปร่งใส อันเป็นสุญญตาภาวะ แผ่ไพศาลจนประมาณขอบเขตมิได้ อีกทั้งเมื่อรวมศูนย์ไว้จะ “สงบหาย” จนเหมือนไม่มีสิ่งเล็กละเอียดใด ๆ แทรกอยู่ภายในได้เลย “ประคองท่องจำ” คือรำลึกกำหนดรู้สภาวะธรรมความเป็นอยู่ของธรรมญาณตน นั่นคือ บำเพ็ญจิตทุกขณะเวลาให้ตรงต่อความหมายของคำว่า พระคัมภีร์เมตเตยยะ อันได้มาแต่เดิมที

    ย่งซินฉือเนี่ยนฝอไหลจิ้ว : หากประคองท่องจำกำหนดรู้ในความเป็นอยู่ของธรรมญาณอันบริสุทธิ์โปร่งใสด้วยจิตใจละเอียดประณีตลึกซึ้งสุขุมดีแล้ว เมื่อนั้นพระพุทธะจะมาโปรด เมื่อพุทธภาวะแห่งตน “มุ่งหมาย” “ใกล้เคียง” “ตรงต่อ” หรือ “เข้าสู่” กระแสธรรมของพระพุทธะพระโพธิสัตว์พระองค์ใดในหมื่นโลกธาตุได้ พุทธภาวะแห่งตนก็ยังอาจบังเกิดพุทธานุภาพเป็นที่พึ่งแห่งตนได้

    ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง : ที่สุดบัวทองทุก ๆ ดอก คือผู้บำเพ็ญจริงทุกคนในธรรมกาลยุคขาว จะสามารถล่วงพ้นจากวัฏสงสาร

    ซึเต๋อซีไหลไป๋หยังจื่อ : เพราะเราได้เข้าใจ ได้รู้จักดวงธรรมญาณในตนแต่เดิมทีที่มาจากฟากฟ้าตะวันตกอันเป็นดินแดน พุทธเกษตร อีกทั้งยังได้เข้าใจได้รู้ว่าเราก็คือพุทธบุตร แห่งพระอนุตตรธรรมมารดา เราก็คือผู้บำเพ็ญในธรรมกาลยุคขาวสุดท้ายนี้

    เซี่ยงเอ๋อเตี๋ยนเถี่ยฮว่าเฉิงจิน : พุทธบุตรที่มาจากฟากฟ้า มาจากพุทธเกษตรอันเป็น บ้านต้นกำเนิดก่อนเกิดกายเมื่อได้รับวิถีธรรมก็จะสะดุดใจได้ฉุกคิด บังเกิดจิตสำนึก เมื่อพระวิสุทธิอาจารย์ได้โปรดจรดนิ้วลงบนจุดสถิตจิตญาณ ซึ่งแม้จิตดวงนั้นในบัดนี้จะพอกพูนด้วยโลกีย์วิสัยมาหลายชาติจนแข็งกระด้างดั่งเหล็กหนาก็อาจแปรเปลี่ยนเป็นทอง เป็นดวงจิตขาวบริสุทธิ์ดังเดิมได้

    เหม่ยยื่อจื้อซินฉังฉือเนี่ยน : ต่อจากนั้น ประกอบกับตนเองมุ่งใจหมายมั่นประคองท่องจำกำหนดรู้สัจธรรมในพระคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ ประคองท่องจำกำหนดรู้สัจธรรมในพุทธภาวะของดวงจิตชีวิตธรรมญาณตน

    ซันไจปานั่นปู้ไหลซิน : เมื่อกำหนดรู้อยู่เสมอ ภัยจากโลภ โกรธ หลง ในตนและภยันตรายจากน้ำ ไฟ ลมภายนอกจะไม่อาจให้ร้าย ความทุกข์จากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย จาก พราก อยากใคร่ ผิดหวัง คั่งแค้นและขันธ์ห้าจะไม่อาจให้ทุกข์อีกทั้งวินาศภัยจากน้ำท่วม ไฟไหม้ หอกดาบ มีดพร้า ศาสตราภัย สงครามย่ำยี แห้งแล้งอดอยาก จมน้ำตาย ไร่นาเสียหาย พืชผลล้มเหลว.....ความวิบัติเหล่านี้ก็จะไม่ก่อทุกข์ให้

    เหย้าเสี่ยงเฉิงฝอฉินหลี่ไป้ : หากคิดจะบรรลุพุทธะ จงหมั่นน้อมกราบพุทธะผู้ไปดีแล้วจากการบำเพ็ญเพียรของพระองค์เอง และจริญรอยตามแบบอย่างของพระองค์ให้จงได้ หากคิดจะบรรลุพุทธะจงหมั่นน้อมกราบพุทธะภาวะแห่งตน ซึ่งตนจะรู้ดีกว่าใครอื่นว่าตนนั้นสูงส่งดีงามสมควรได้รับการกราบไหว้จากตนเองและผู้อื่นเพียงไร

    ฉังฉือชงหมิงจื้อฮุ่ยซิน : หากหมั่นประคองรักษาพุทธภาวะอันบริสุทธิ์ โปร่ง ใส ในตนไว้เสมอ หูตาจะสว่างแจ่มชัดกว้างไกลปัญญาญาณอันล้ำเลิศจะเกิดแก่จิต หมั่นประคองท่องจำคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะไว้เสมอ พุทธานุภาพในพระคัมภีร์จะช่วยให้หูตาสว่างแจ่มชัด กว้างไกล ปัญญาญาณอันล้ำเลิศจะเกิดตามมา

    ซิวทิงเสียเหยินหูซัวฮว่า : จงหยุด อย่าได้เชื่อฟังคำยุแหย่ ยกยอ หยามหยาบ หรือคำชักนำ อันเป็นมิจฉาวาจาจากมิจฉาบุคคล “ภายนอก” ทั่วไป จงหยุด อย่าได้ฟังคำยุแหย่ ยกยอ หยามหยาบ หรือคำชักนำจากมิจฉาบุคคล “ภายใน” คือกายของตนเอง ที่พูดจาเหลวไหลไม่ตรงต่อหลักสัจธรรมความเป็นจริง

    เหลาซวนอี้หม่าเนี่ยนอู๋เซิง : จงล้อมคอกความคิดจิตกระเจิงไว้ เหมือนคล้องคอม้าพยศให้สงบหยุดนิ่งลงได้ จงมุ่งหมายท่องจำกำหนดรู้อยู่ที่องค์ธรรมมารดา พุทธบุตรจากองค์ธรรมมารดาคือธรรมญาณตน จงคล้องใจพุทธบุตรไว้ มิให้ความคิดเกิดดับ เกิดดับ....สับสนเรื่อยไป

    เหลาหมู่เจี้ยงเซี่ยเจินเทียนโจ้ว : องค์ธรรมมารดาปรกโปรดประทานสัจจคาถาจากฟ้า นั่นคือ “ดวงธรรมญาณ” ไว้ในรูปกายสังขาร ดวงธรรมญาณหรือสัจจคาถาจากฟ้าจึงมีความศักดิ์สิทธิ์พร้อมแล้วอยู่ในตัว

    ย่งซินฉือเนี่ยนโหย่วเสินทง : พึงตั้งใจประคองท่องจำสำนึกรู้ในสัจจคาถาจากฟ้า คือดวงธรรมญาณของตนไว้เรื่อยไป จนกว่าจะเข้าถึงความศักดิ์สิทธิ์ เกิดปัญญาระลึกรอบรู้ได้

    หมั่นเทียนซิงโต่วโตวเซี่ยซื่อ : บัดนี้เทพสถิตประจำดวงดาวทุกหมู่เหล่าต่างมุ่งลงมาสู่โลก บ้างเกิดกาย บ้างแฝงกายเพื่อเสริมส่งธรรมปฏิบัติในยุคสุดท้ายนี้

    อู่ฟังเลี่ยเซียนเซี่ยเทียนกง : เซียนทุกระดับจากทิศตะวันออก ตะวันตกทิศเหนือ ทิศใต้และศูนย์กลาง ต่างลงมาจากปราสาททิพยวิมานในชั้นฟ้า

    เก้อฟังเฉิงหวงไหลตุ้ยเฮ่า : พระกาฬประจำเมืองแต่ละด้านต่างรีบเร่งทำการตรวจสอบเลขที่บัญชีรายชื่อของผู้อยู่อาศัยในเมือง ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองดูแลของท่านว่า ใครได้รับการถอนชื่อเพื่อ ถวายขึ้นไปในบัญชีอริยะ (รับธรรมะ) พ้นจากหน้าที่ปกครองของท่านแล้วบ้าง

    เป้าซื่อหลิงถงฉาเตอชิง : การนี้ยังมีทิพย์กุมารสื่อสารอีกมากมายร่ามทำนหน้าที่ตรวจสอบบัญชีรายชื่อให้ตรงกับบุคคลนั้น ๆ อย่างแน่ชัดเพื่อถวายรายงานต่อ....

    ซันกวนต้าตี้ฉือเปยจู้ : ....มหาราชเจ้าทั้งสามพระองค์ที่ทรงโปรดทำหน้าที่จารึกรายชื่อที่ถวายขึ้นไปในบัญชีอริยะเบื้องบน

    เซ่อจุ้ยซันเฉาจิ้วจ้งเซิง : เป็นบุญวาระสุดท้ายที่เบื้องบนทรงโปรดฉุดช่วยมวลชีวิตจิตญาณ เทพเทวา มนุษย์ ผี ที่ได้รับการฉุดช่วยทั้งสามโลกในครั้งนี้จะได้รับการอภัยโทษผ่อนผันเป็นการเฉพาะจากองค์ธรรมมารดา

    จิ้วขู่เทียนจุนไหลจิ้วซื่อ : เมื่อพระเมตเตยยะ จะเจริญมหาปณิธานมาปรกโปรด เพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ให้ชาวโลกในครั้งนี้

    ชินเตี่ยนเหวินปู้เจียตี้เสิน : พระองค์ทรงคัดเลือกกำหนดหมายด้วยพระองค์เอง ให้พระอริยะพระโพธิสัตว์ฝ่ายบุญฤทธิ์ซึ่งเข้าถึงจิตของสาธุชนดั่งดวงตะวันจันทราสว่างฟ้าทั่วหล้า ทั่วสกล คือพระพุทธจี้กงและพระโพธิสัตว์จันทรปัญญา ให้ทรงทำหน้าที่วิสุทธิอาจารย์ เบิกจุดสถิตจิตพุทธะให้แก่ผู้ขอรับวิถีธรรม

    ปาต้าจินกังไหลฮู่ฝ่า : พระองค์ทรงคัดเลือกกำหนดหมายวัชรเทพผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรอีกแปดฝ่าย อีกทั้งท้าวจตุมหาโลกบาลทั้งสี่ อันประกอบด้วย พระวัชรอัสนี พระวัชรวายุ พระวัชรพยัคฆา และพระวัชรนาคา พร้อมกันมาพิทักษ์ธรรม

    ซื่อเว่ยผูซ่าจิ้วจ้งเซิง : อีกทั้งยังมีมหาโพธิสัตว์ทั้งสี่คือ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระโพธิสัตว์จันทรปัญญา พระโพธิสัตว์มัญชุศรี พระโพธิสัตว์สมันตภัทร ทรงค้ำชูงานถ่ายทอดเบิกธรรม ทรงฉุดช่วยคุ้มครองรักษาเหล่าเวไนยฯ

    จิ๋นหลิ่งซันซึลิ่วเอวี๋ยนเจี้ยง : เมื่ออาราธนาหรือสวดท่องพระคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ พระองค์จะนำพาจอมทัพฟ้า และเทวาอารักษ์น้อยใหญ่ อีกสามสิบหกพระองค์ลงมายังโลกมนุษย์อย่างเร่งรีบประชิดตัว

    อู๋ไป่หลิงกวนจิ่นสุยเกิน : อีกทั้งนำพาทิพยมนตรีอีกห้าร้อยพระองค์ตามติดประชิดมา เพื่อทรงร่วมคุ้มครองรักษาสาธุชนและสอดส่องความเป็นไปในสามโลก

    ฝูจู้หมีเล่อเฉิงต้าเต้า : ทุกพระองค์ทรงร่วมทำหน้าที่ประคองรองรับการอุบัติมาของพระเมตเตยยะเพื่อบรรลุมหาอริยมรรคเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป อีกนัยหนึ่งคือ ประคองรองรับเมตเตยยะองค์น้อย ๆ คือ พุทธบุตรผู้ปฏิบัติบำเพ็ญในธรรมกาลยุคขาวนี้ให้ได้บรรลุธรรมในภายภาคหน้า

    เป่าอิ้วเซียงเอ๋อเต๋ออันหนิง : คุ้มครองพุทธบุตรจากบ้านเดิมคือ ผู้ปฏิบัติบำเพ็ญทั้งหลาย ให้ได้รับความสงบสุข เพื่อจะได้ตั้งหน้าตั้งตาเจริญธรรมกันให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    เป่ยฟังเจินอู่เหวยเจี้ยงไซว่ : งานคุ้มครองป้องภัยนี้มี “เป่ยฟังเจินอู่” เทพเจ้าผู้ทรงฤทธิ์แห่งทิศอุดร เป็นนายทัพนำกอง

    ชิงเหลี่ยนหงฝ่าเสี่ยนเสินทง : “เป่ยฟังเจินอู่” ผู้ทรงฤทธิ์ พระองค์มีพระพักตร์สีเขียว พระเกศาสีแดง มีฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ ผู้บำเพ็ญในธรรมกาลยุคสุดท้ายนี้ก็เช่นกันท่านอุปมาให้เป็นเช่นทหารกล้า สำแดงฤทธานุภาพฝ่าฟันอุปสรรค ในการฉุดช่วยผู้คน ใช้ปัญญาฟาดฟันกิเลสมารในจิตตนให้แพ้พ่ายมลายสูญดุจเดียวกับพระองค์ “เป่ยฟังเจินอู่” ผู้ทรงฤทธิ์

    เฉอฉี่เจ้าฉีเจอยื่อเอวี้ย : ความห้าวหาญของพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ยิ่งใหญ่ถึงขนาดคว้าเอาธงดำมาบดบังตะวันเดือนได้

    โถวติ่งเซินหลัวชีเป่าซิง : บุญญาธิการในพระองค์ส่องแสงสว่างกระจ่างฟ้า ดั่งมีดวงดาวรัตนะทั้งเจ็ดประดับไว้รายรอบพระเศียรเป็นอุปมาให้ผู้บำเพ็ญเสริมสร้างบารมีเปล่งรัศมีธรรมกำจัดภัยมืดเพื่อตนและเพื่อทุกชีวิต

    เวยเจิ้นเป่ยฟังเหวยโซว่โส่ว : อิทธิฤทธิ์ความน่าเกรงขามของพระองค์สะเทือนเลือนลั่นไปทั่วทิศอุดร พระองค์เป็นใหญ่ เป็นผู้นำทางทิศอุดร

    ซู่ฉิ่งจูเอ้อกว้าเจี่ยปิง : พระองค์เร่งรัดขอให้หมู่มารร้ายแขวนเกราะพลรบ หยุดการก่อกวนราวีผู้ปฏิบัติบำเพ็ญดีในวิถีอนุตตรธรรม ซึ่งอาจบรรลุมรรคผลได้ในภายหน้า หยุดก่อกวนราวี ผู้ที่ตั้งใจสวดท่องคัมภีร์สัจจาคาถาเมตเตยยะนี้

    ตาจิ้วเอวี๋ยนเหยินเซียงเอ๋อหนวี่ : พระองค์ยังทรงเป็นสื่อทอดสะพานบุญ ฉุดช่วยคนเดิมที่มาจากเบื้องบน คือสาธุชนหญิงชายผู้ที่ได้รับวิถีธรรมที่ปฏิบัติบำเพ็ญจริง

    หั่วกวงลั่วตี้ฮว่าเหวยเฉิน : แม้แสงไฟเพลิงจะตกลงมาสู่พื้นแผ่นดินก็มิให้เป็นอันตรายแก่สาธุชน คนดีผู้ที่ได้รับวิถีธรรม แต่ให้กลับกลายแปรเป็นเถ้าธุลีดิน

    ซื่อไห่หลงอวั๋งไหลจู้เต้า : พญานาคาทั้งสี่คาบสมุทรใหญ่ก็ให้มาร่วมช่วยเสริมสร้างงานถ่ายทอดวิถีธรรมให้มาร่วมช่วยคุ้มครองป้องกันภัยแก่ผู้ได้รับวิถีธรรมและสาธุชนคนดี

    เก้อเจี้ยเสียงอวิ๋นชวี่เถิงคง : เพื่อให้ผู้ปฏิบัติบำเพ็ญเจริญธรรมเรื่อยไปได้อย่างราบรื่น ดุจได้ประทับนั่งอยู่เหนือเมฆมงคล เพื่อทะยานตนให้พ้นโลกีย์ สูงส่งขึ้นไปบนสุญญตานภากาศ

    สือฟังเทียนปิงฮู่ฝอเจี้ย : เทวาอารักษ์ทั้งสิบทิศก็ให้มาร่วมคุ้มครองพุทธบาทพระเมตเตยยะ ให้บรรลุมหาปณิธานในอันที่จะตระเตียมกุศลพันธุ์ไว้ในพุทธกาลหน้าต่อไป

    เป่าอิ้วหมีเล่อชวี่เฉิงกง : ปกป้องรักษาพระเมตเตยยะเพื่อให้ได้บรรลุผลในมหาปณิธานที่จะแปรเปลี่ยนโลกวุ่นวายให้กลายเป็น วิสุทธิแดนดินอันใสสด งดงามดังดอกบัวบานอีกทั้งปกป้องรักษาเมตเตยยะองค์น้อย ๆ คือผู้บำเพ็ญในธรรมกาลยุคขาวนี้ให้ได้สำเร็จมรรคผล

    หงหยังเหลี่ยวเต้ากุยเจียชวี่ : เมื่อยุคกาลของธรรมกาลยุคแดงล่วงเลยไปผู้บำเพ็ญในธรรมกาลยุคแดงต่างก็บรรลุธรรมกลับคืนบ้านเดิมเบื้องบนไปแล้ว

    จ่วนเต้าซันหยังหมีเล่อจุน : บัดนี้ย่างเข้าสู่ธรรมกาลยุคที่สาม พระศรีอารยเมตไตรยจะปกครองธรรมกาลต่อไปหนึ่งหมื่นแปดร้อยปี

    อู๋ฮวั๋งชื่อลิ่งจี้เซี่ยเซิง : ธรรมกาลยุคสุดท้ายนี้ พระอนุตตรธรรมเจ้า พระแม่องค์ธรรมจึงโปรดบัญชาประกาศิตให้พระพุทธะ พระโพธิสัตว์ เทพพรหม องค์อินทร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกันสนองธรรมโองการรับหน้าที่ฉุดช่วยเหล่าพุทธบุตรที่จุติฝากเกิดกายไว้ในโลกต่ำ

    โซวฝูหนันเอี๋ยนกุยเจิ้งจง : ให้ทุกพระองค์ร่วมกันทำหน้าที่ตามหาพุทธบุตรที่หลงเวียนว่ายอยู่ในโลกมนุษย์ เก็บรวบรวมมาไว้กำราบด้วยพุทธานุภาพ ให้คืนกลับสู่ต้นตระกูล คือ กลับสู่อนุตตรพระแม่องค์ธรรมเป็นหนึ่งเดียวกันทุกชาติภาษา ทุกศาสนา ทุกคน

    ไหลอวั่งเจ้าเซี่ยเจินเอี๋ยนโจ้ว : การจุติเกิดกายในโลกคือ “มา” ถึงกาลเก็บงานสมบูรณ์ผลบัดนี้คือ “กลับ” พุทธบุตรจะต้องกลับคืนบ้านเดิมเบื้องบนในครั้งนี้ด้วยดวงธรรมญาณอันบริสุทธิ์ โปร่งใส พระอนุตตร พระแม่องค์ธรรมได้โปรดประทานสัจจคาถาทั้งเที่ยวมา (เกิดกาย) และเที่ยวกลับ (หลุดพ้น)

    ฉวนเซี่ยตังไหลต้าจั้งจิง : พระอนุตตรพระแม่องค์ธรรมได้โปรดประทานพุทธจิตธรรมญาณอันได้มีมาจากเบื้องบนแต่เดิมที พุทธจิตธรรมญาณอันได้มีมาจากเบื้องบนแต่เดิมทีนั้น เปรียบได้ดั่งมหาธรรมปิฏกที่สมบูรณ์พร้อมด้วยแก่นแท้แห่ง ธรรมสาระ

    อิงเอ๋อช่าหนวี่ฉังฉือเนี่ยน : หากแม้นประคองท่องจำ “คัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ” อยู่เสมอ หากแม้นประคองท่องจำรำลึกในความเป็นพุทธจิตธรรมญาณอันบริสุทธิ์ โปร่ง ใส ดั่งทารกน้อย กำหนดจิตไม่สอดส่ายไปจากฐานเดิม ดั่งกุลสตรีที่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน สำรวมระวังตนอยู่เสมอ

    เสียเสินปู้กั่นไหลจิ้นเซิน : เทพอัปมงคล สิ่งเลวร้ายภายนอก และมิจฉาทิฐิในตน จะไม่กล้าสำแดงความชั่วร้าย ไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ตัว

    ฉือเนี่ยนอี๋เปี้ยนเสินทงต้า : ประคองท่องจำรำลึกคัมถีร์สัจจคาถาเมตเตยยะหนี่งรอบ ประคองท่องจำรำลึกในความเป็นพุทธจิตธรรมญาณอันบริสุทธิ์ โปร่ง ใส ไว้ได้รอบหนึ่ง ปัญญาญาณในตนจะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่

    ฉือเนี่ยนเหลี่ยงเปี้ยนเต๋อเชาเซิง : ประคองท่องจำรำลึกคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะด้วยจิตบริสุทธิ์ โปร่ง ใส สองรอบ จิตจะสงบนิ่งไม่สอดส่ายวุ่นวาย จิตจะไม่เกิดตายไปตามความคิดดำริ หรืออารมณ์ เท่ากับจิตล่วงพ้นการเวียนเกิดเวียนตาย

    ฉือเนี่ยนซันเปี้ยนเสินกุ่ยพ่า : ประคองท่องจำรำลึกสามรอบ พุทธานุภาพของ คัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ จะปรกแผ่คุ้มครองรักษาจนเทพเทวาผีสางต่างเกรงกลัว ประคองท่องจำรำลึกสามรอบด้วยจิตมั่นคงเที่ยงตรงมีพลัง เทพเทวาผีสางต่างเกรงกลัวในผู้นั้น

    อวั่งเหลี่ยงเสียหมอฮว่าเหวยเฉิน : เมื่อพุทธจิตธรรมญาณในตนสำแดงคุณศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่ ขณะสวดท่องคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะพุทธานุภาพจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ อีกทั้งพุทธานุภาพในตนจะปกป้องภัยจากผีป่าผีน้ำทุกแห่งหน มารอัปมงคลทั้งหลายเข้าใกล้มาเมื่อไรพุทธานุภาพก็จะดลบันดาลให้กลับกลายแปรไปเป็นผงธุลีดิน

    ซิวฉือเจี๋ยเน่ยสวินลู่จิ้ง : ท่ามกลางภัยพิบัติทุกข์เข็ญ จงบำเพ็ญจิตมั่นคงไว้มิให้ไหวหวั่น ขณะเดียวกันคือกำหนดหา แนวทางที่จิตญาณจะผ่านพ้นอุปสรรคทั้งปวง

    เนี่ยนฉี่เจินเอี๋ยนกุยฝอลิ่ง : เมื่อกำหนดแนวทางของจิตได้แล้วท่องสัจจคาถากำหนดจิตเดิมแท้ไว้ที่จุดญาณทวาร โน้มนำจิตเดิมแท้ให้เข้าถึงพุทธคุณแห่งพระนาม พระพุทธะที่สวดท่องนั้น

    หนันอู๋เทียนเอวี๋ยนไท่เป่าอาหมีถัวฝอ : สวดท่องพระคัมภีร์สัจจคาถาพระเมตเตยยะจบลงแล้ว ให้ตั้งจิตระลึกถึงพระนามของพระพุทธองค์ซึ่งจะอุบัติมากอบกู้กุศลพันธุ์ในกาลต่อไปคือ “พระเมตเตยยะ พระศรีอารยเมตไตรยเทียนเอวี๋ยนไท่เป่าอาหมีถัวฝอ” พระองค์ทรงเป็นอมิตาพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ซึ่งพิทักษ์ธรรมจักรวาลเบื้องต้นตั้งแต่ปฐมกาลแห่งฟ้าเบื้องบน


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="100%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=395 border=0><TBODY><TR><TD align=middle colSpan=2>บทสวดคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ


    </TD></TR><TR><TD width=199>ฝอซัวหมีเล่อจิ้วขู่จิง</TD><TD width=196>หมีเล่อเซี่ยซื่อปู้เฟยชิง</TD></TR><TR><TD>หลิ่งเป่าฉีหลู่หลิงซันตี้ </TD><TD>เหนี่ยนฮวาอิ้นเจิ้งเข่าซันเฉิง</TD></TR><TR><TD>ลั่วไจ้จงเอวี๋ยนซันซิงตี้</TD><TD>ต้าเจิ้งซื่อชวนอวั๋งเถาซิน</TD></TR><TR><TD>เทียนเจินโซวเอวี๋ยนกว้าเซิ่งเฮ่า </TD><TD>เติ่งไต้สือจื้อเตี่ยนเสินปิง</TD></TR><TR><TD>อวิ๋นเหลยเจิ้นไคอู้จี๋ถู่ </TD><TD>เทียนเซี่ยเสินกุ่ยปู้อันหนิง</TD></TR><TR><TD>ชินไจ้เหยินเทียนจงฮว๋าหมู่ </TD><TD>จิ่วเหลียนเซิ่งเจี้ยวกุยซั่งเฉิง</TD></TR><TR><TD>เทียนฮวาเหลาหมู่ฉุยอวี้เซี่ยน</TD><TD>โซวเอวี๋ยนเสี่ยนฮว่าไจ้กู่ตง</TD></TR><TR><TD>หนันเป่ยเหลี่ยงจี๋เหลียนจงซวี่</TD><TD>ฮุ่นเอวี๋ยนกู่เช่อไจ้จงอยัง</TD></TR><TR><TD>เหลาหมู่เจี้ยงเซี่ยทงเทียนเชี่ยว</TD><TD>อู๋อิ่งซันเฉียนตุ้ยเหอถง </TD></TR><TR><TD>อิงเอ๋อเหย้าเสี่ยงกุยเจียชวี่</TD><TD>ฉือเนี่ยนตังไหลหมีเล่อจิง </TD></TR><TR><TD>ย่งซินฉือเนี่ยนฝอไหลจิ้ว</TD><TD>ตั๋วตั่วจินเหลียนชวี่เชาเซิง</TD></TR><TR><TD>ซึเต๋อซีไหลไป๋หยังจื่อ</TD><TD>เซี่ยงเอ๋อเตี๋ยนเถี่ยฮว่าเฉิงจิน</TD></TR><TR><TD>เหม่ยยื่อจื้อซินฉังฉือเนี่ยน </TD><TD>ซันไจปานั่นปู้ไหลซิน</TD></TR><TR><TD>เหย้าเสี่ยงเฉิงฝอฉินหลี่ไป้</TD><TD>ฉังฉือชงหมิงจื้อฮุ่ยซิน </TD></TR><TR><TD>ซิวทิงเสียเหยินหูซัวฮว่า</TD><TD>เหลาซวนอี้หม่าเนี่ยนอู๋เซิง </TD></TR><TR><TD>เหลาหมู่เจี้ยงเซี่ยเจินเทียนโจ้ว </TD><TD>ย่งซินฉือเนี่ยนโหย่วเสินทง</TD></TR><TR><TD>หมั่นเทียนซิงโต่วโตวเซี่ยซื่อ </TD><TD>อู่ฟังเลี่ยเซียนเซี่ยเทียนกง</TD></TR><TR><TD>เก้อฟังเฉิงหวงไหลตุ้ยเฮ่า</TD><TD>เป้าซื่อหลิงถงฉาเตอชิง</TD></TR><TR><TD>ซันกวนต้าตี้ฉือเปยจู้</TD><TD>เซ่อจุ้ยซันเฉาจิ้วจ้งเซิง</TD></TR><TR><TD>จิ้วขู่เทียนจุนไหลจิ้วซื่อ </TD><TD>ชินเตี่ยนเหวินปู้เจียตี้เสิน </TD></TR><TR><TD>ปาต้าจินกังไหลฮู่ฝ่า </TD><TD>ซื่อเว่ยผูซ่าจิ้วจ้งเซิง </TD></TR><TR><TD>จิ๋นหลิ่งซันซึลิ่วเอวี๋ยนเจี้ยง </TD><TD>อู๋ไป่หลิงกวนจิ่นสุยเกิน</TD></TR><TR><TD>ฝูจู้หมีเล่อเฉิงต้าเต้า</TD><TD>เป่าอิ้วเซียงเอ๋อเต๋ออันหนิง </TD></TR><TR><TD>เป่ยฟังเจินอู่เหวยเจี้ยงไซว่</TD><TD>ชิงเหลี่ยนหงฝ่าเสี่ยนเสินทง</TD></TR><TR><TD>เฉอฉี่เจ้าฉีเจอยื่อเอวี้ย</TD><TD>โถวติ่งเซินหลัวชีเป่าซิง </TD></TR><TR><TD>เวยเจิ้นเป่ยฟังเหวยโซว่โส่ว</TD><TD>ซู่ฉิ่งจูเอ้อกว้าเจี่ยปิง</TD></TR><TR><TD>ตาจิ้วเอวี๋ยนเหยินเซียงเอ๋อหนวี่</TD><TD>หั่วกวงลั่วตี้ฮว่าเหวยเฉิน</TD></TR><TR><TD>ซื่อไห่หลงอวั๋งไหลจู้เต้า</TD><TD>เก้อเจี้ยเสียงอวิ๋นชวี่เถิงคง</TD></TR><TR><TD>สือฟังเทียนปิงฮู่ฝอเจี้ย </TD><TD>เป่าอิ้วหมีเล่อชวี่เฉิงกง</TD></TR><TR><TD>หงหยังเหลี่ยวเต้ากุยเจียชวี่</TD><TD>จ่วนเต้าซันหยังหมีเล่อจุน</TD></TR><TR><TD>อู๋ฮวั๋งชื่อลิ่งจี้เซี่ยเซิง</TD><TD>โซวฝูหนันเอี๋ยนกุยเจิ้งจง</TD></TR><TR><TD>ไหลอวั่งเจ้าเซี่ยเจินเอี๋ยนโจ้ว </TD><TD>ฉวนเซี่ยตังไหลต้าจั้งจิง</TD></TR><TR><TD>อิงเอ๋อช่าหนวี่ฉังฉือเนี่ยน</TD><TD>เสียเสินปู้กั่นไหลจิ้นเซิน</TD></TR><TR><TD>ฉือเนี่ยนอี๋เปี้ยนเสินทงต้า </TD><TD>ฉือเนี่ยนเหลี่ยงเปี้ยนเต๋อเชาเซิง</TD></TR><TR><TD>ฉือเนี่ยนซันเปี้ยนเสินกุ่ยพ่า</TD><TD>อวั่งเหลี่ยงเสียหมอฮว่าเหวยเฉิน</TD></TR><TR><TD>ซิวฉือเจี๋ยเน่ยสวินลู่จิ้ง</TD><TD>เนี่ยนฉี่เจินเอี๋ยนกุยฝอลิ่ง</TD></TR><TR><TD colSpan=2>หนันอู๋เทียนเอวี๋ยนไท่เป่าอาหมีถัวฝอ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></B>
    หมายเหตุ คนที่จะสวดคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะ จะต้องถือศีลกินเจตลอดชีวิตจึงจะมีพุทธานุภาพที่ยิ่งใหญ่ หรือถ้าใครที่ยังไม่กินเจ หรือกินบ้างเป็นบางครั้ง ก่อนที่จะสวดก็ขอให้ท่านกินเจก่อน อย่างเช่นถ้าวันนี้จะสวดคัมภีร์สัจจคาถาเมตเตยยะก็ขอให้กินเจในวันนี้แล้วจึงจะสวด


    http://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=276
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2008
  2. noobeibei

    noobeibei สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +21
    ผู้น้อยสำนึกคุณเบื้องบนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายด้วยคนค่ะ....ขอโมทนากับทุ่นผู้จะน้ำบทสวดไปสวดด้วยค่ะ โมทนาสาธุค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...