คำสอนของ "หลวงพี่เติร์ก" - เล่นเกมส์ บาป หรือ ไม่?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ...คนสู้กรรม..., 26 พฤศจิกายน 2009.

แท็ก: แก้ไข
  1. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +968
    หลวงพี่เติร์ก เพิ่งบวชเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เองครับ เดิมทีท่านเป็นเสมือน "ลูกพี่" ของพวกผม (คือมีแต่คนยกท่านเป็นลูกพี่ เนื่องมาจากนิสัยเดิมของท่านที่ใจปล้ำ และใจเด็ด) แต่ตอนนี้ท่านครองเพศบรรพชิต และท่านเคยเล่าให้ฟังว่าจะบวชสัก 3 พรรษา (จากเดิมคิดว่าแค่ 7 วันก็จะสึก) แต่ด้วยความที่ซึ้งในรสพระธรรม จึงทำให้ท่านนั้นเปลี่ยนใจ ยืดระยะเวลาการบวชออกไปอีก

    ผมเคยเข้าไปหาท่านที่กุฏิ ซึ่งท่านก็ยินดีต้อนรับทุกๆคน ด้วยสีหน้าที่ผ่องใส และกริยาที่สงบเรียบร้อย (ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนมากๆ) ทุกครั้งที่พวกผมไป นอกจากจะไปทำบุญหยอดตู้บริจาคกับทางวัดแล้ว พวกผมก็จะเข้าไปเยี่ยมเยียนหลวงพี่เติร์ก อดีตลูกพี่ที่เคารพของพวกผม และปัจจุบัน คือพระที่น่านับถือองค์หนึ่งเลยทีเดียว (ด้วยอายุเพียง 22 ปีนิดๆ) ครั้งแรกที่ผมสนทนาธรรมกับท่าน ก็ว่าด้วยเรื่อง "การเล่นเกมคอมพิวเตอร์" ว่ามันบาปหรือไม่บาปแต่ประการใด?

    ผม : หลวงพี่ครับ เล่นเกมบาปป่ะครับ? (ถามแบบชาวบ้าน)

    หลวงพี่ : (หัวเราะ) จะเอาคำตอบแบบไหนล่ะ แบบจริงหรือจะเอาฮา?

    ผม : เอาจริงๆน่ะครับหลวงพี่

    หลวงพี่ : ถ้างั้นก็ไม่ยาก ลองคิดดูนะ ฟัง.. แล้วคิดตาม O.K.? (ท่านพูดแบบนี้จริงๆ ตามสไตล์ของท่าน) กรรม แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
    1.มโนกรรม หรือกรรมทางความคิด
    2.วจีกรรม หรือกรรมทางวาจา
    และ 3.กายกรรม หรือกรรมที่เกิดจากการกระทำทางกาย
    ...ทีนี้ถ้าถามว่าเล่นเกมเนี่ย บาปไหม? ก็ต้องพิจารณาด้วยว่า
    1.เล่นแล้วตัวเราอยู่ในอารมณ์ใด
    2.หลังจากที่เล่น พฤติกรรมเราเปลี่ยนไปในทางลบหรือไม่
    3.ก่อนที่จะเล่นนั้น เราสร้างความเดือดร้อนแก่ใครหรือไม่
    ...เพราะถ้าเล่นแล้ว รู้สึกโกรธ โมโห จากการที่แพ้แล้ว แพ้อีก หรืออะไรบางอย่างไม่ได้ดั่งใจ วิ่งๆไปแล้วตาย เล่นๆไปแล้วตาย เราจึงพยายามที่จะฆ่า Monster (ตัวประหลาดซึ่งเป็นศัตรูในเกม) ต่างๆให้ได้ และการฆ่าเนี่ย แน่นอน ผิดศีลข้อที่ 1 ไปแล้ว แม้จะไม่ผิดที่มันเป็นเกม เราไม่ได้ไปฆ่าใคร แต่จิตใจของเราน่ะ มันเป็นไปในอารมณ์นั้น ถึงแม้ว่าจะไม่หนักเท่ากับการฆ่าจริงๆ แต่จิตใจเรานั้นก็เศร้าหมอง เป็นทุกข์ใจ นั่นเป็นผลมาจาก มโนกรรม ที่เราคิดจะฆ่าๆๆๆ เพื่อก้าวไปสู่ชัยชนะของเกม ส่วนที่ 2 นั้น หลังจากที่เราเล่น เราก้าวร้าวขึ้นหรือไม่ บางครั้งพ่อแม่เราอาจจะให้เพลาๆเรื่องเกมลงเสียบ้าง แต่เราอาจจะเถียงพ่อแม่ด้วยวาจาที่ไม่เหมาะสม เอาแค่ว่าเถียงนี่ก็บาปไปแล้วเต็มๆ ดังนั้นที่ตามมาก็คือ วจีกรรม เป็นกรรมทางคำพูด อย่างที่เขาวิจัยกันมาแล้วว่าเกมนั้นทำให้ผู้เล่นมีความก้าวร้าวมากขึ้น ซึ่งมันก็เป็นความจริง มันเป็นผลพวงจากเกม ซึ่งมาจากการที่จิตใจนั้นต้องเศร้าหมองเพราะการพ่ายแพ้ และการจดจ่อเอาชนะมากเกินไปนั่นเอง ในส่วนสุดท้ายนั้น คือก่อนที่จะเล่น เราได้สร้างความเดือดร้อนอะไรแก่ใครหรือไม่ เช่น อาจจะไม่มีเงินไปเล่นเกมที่ร้าน จึงได้ไปขโมยเงินของพ่อแม่ไปเล่นเกม นั่นไง ศีลข้อ 2 เต็มๆหรืออาจจะเล่นที่บ้าน แต่ว่า Item (ของต่างๆในเกม เช่น อาวุธ เสื้อเกราะ) อันนั้น อันนี้มันดีเหลือเกิน อยากได้มาใส่เพื่อเพิ่มความเทพให้กับตัวเอง (เทพ = เก่ง ของศัพท์ทางเกม) จึงได้ไปขอเงินพ่อแม่ แต่กลับหลอกว่าจะเอาไปซื้ออุปกรณ์การเรียน นั่นไงอีกแล้วมั๊ยล่ะ ผิดศีลข้อ 4 เข้าไปอีก ดังนั้น อาจผิดทั้ง กายกรรม และ วจีกรรมควบคู่กันไปเลยทีเดียว

    ผม : อย่างนี้ก็บาปสิ แล้วอย่างนี้จะแก้กรรมยังไงอ่ะครับ

    หลวงพี่ : (หัวเราะ) กรรมน่ะแก้ไม่ได้หรอก ไม่มีใครแก้ได้ ดูสิ แม้แต่พระโมคคัลลา อัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นพระอรหันต์ผู้สูงส่งผู้หนึ่ง ยังต้องเสวยกรรมจากอดีตชาติ โดยการที่ถูกโจรรุมทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตเลย แล้วเธอน่ะ เป็นเพศฆารวาส ศิล 5 ยังรักษาได้ไม่ถึง 3 ข้อเลยมั๊ง จะแก้กรรมได้อย่างไง อุปมาเหมือนกับเชือกที่ถูกตัดขาดไปแล้ว ถึงจะพยายามต่อให้เชื่อมติดกันยังไง เชือกนั้นก็ยังคงปรากฏรอยต่อ ซึ่งเกิดจากการถูกตัดได้อย่างชัดเจน แต่ขึ้นอยู่กับว่ารอยต่อนั้นจะชัดจนไม่สังเกตก็เห็นได้ หรือจะแนบเนียนจนต้องเพ่งมองนี่สิ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    ผม : แล้วอย่างนี้ผมจะทำยังไงดีครับ

    หลวงพี่ : เอาแบบนี้ดีมั๊ย ลองจำกัดเวลาเล่นดู แล้วหาอะไรๆที่มันมีสาระประโยชน์ทำบ้าง ยึดถือเรื่องหิริโอตัปปะ หรือความละอายต่อบาปเป็นที่ตั้ง เท่านี้มันก็จะช่วยผ่อนลงได้เยอะเลย

    ผม : แล้วผมจะตกนรกป่ะครับหลวงพี่

    หลวงพี่ : (ฮากร้าก) โถ แค่เล่นเกมนี่จะเอาถึงนรกเลยหรอ มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ไม่ต้องกังวล ถ้าเล่นเกมถึงกับต้องตกนรก อย่างนี้คนที่ดื่มเหล้าแล้วสร้างความวุ่นวาย หรือคนที่ฆ่า ข่มขืน คอรัปชั่น ก็ไม่ต้องผุดต้องเกิดกันแล้วน่ะสิ มันไม่ร้ายแรงอะไรขนาดนั้นหรอก แต่ด้วยกรรมที่ทำน่ำ อาจจะส่งผลให้ชาติหน้าเป็นคนขี้ระแวง ด้วยเพราะชาติที่ผ่านมามักจะปล่อยให้จิตใจมุ่งเอาชนะ พอมาชาตินี้เลยเป็นคนวิตกจริต ระแวงไม่เข้าเรื่องอะไรทำนองนี้มากกว่า แต่อย่างที่บอกนะ หาอะไรที่มีสาระทำ จำกัดเวลาเล่นให้เหมาะสม ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เท่านี้แหละ หน้าที่ของเธอก็จะไม่บกพร่อง และเธอก็ไม่ใช่คนไร้ค่าของสังคมด้วย

    ... เรื่องที่ผมนำมาเล่านี้ เพื่ออยากจะกล่าวเตือนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆที่ติดเกมแบบงอมแงม ไว้เป็นอุทาหรณ์เล็กน้อยๆนะครับ สำหรับวันนี้ ผมคงจะต้องจบเพียงเท่านี้ เอาไว้วันหน้าถ้ามีโอกาสไปหาหลวงพี่เติร์กอีก ผมจะถามหัวข้อธรรมที่เป็นสาระ และจะนำมาเล่าให้ทุกๆท่านอีกนะครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ ...
     
  2. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    อืมอันนี้น่าจะจริง สมมุติ ผมตายตอนเล่นเกม แล้วจิตมีโทสะ แพ้ไรพวกนี้ ลงนรกเลย จิตเศร้าหมอง แต่ผมเล่นมาตั้งแต่เด็ก เพราะเกมทําให้ผมมีไหวพริบ (เกมพวกวางแผนไรพวกนี้) แต่ตอนนี้จะเอาใหม่ เล่นเกมภาวนาไป ดูลมไปด้วย จิตจะได้สบาย (เอาไปทํางานจะได้มีแรง เอาไปพลิกแพลงได้เหมือนกัน)
     
  3. RaDii

    RaDii เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +142
    แล้วถ้าดีใจตาย ตอน กิลด์วอ จบ !!
     

แชร์หน้านี้

Loading...