คำอาราธนาพระสีวลี แบบไหนถูกต้องครับ, พระอรหันต์โชคลาภ และเงินทอง

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย cheterk, 15 กรกฎาคม 2009.

  1. cheterk

    cheterk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +1,568
    แบบแรก คำอาราธนาพระสีวลี
    <!--sizec--><!--/sizec-->
    <!--sizeo:3--><!--/sizeo-->สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยา ทิมหิ<!--sizec--><!--/sizec--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->
    อะหังวันทามิ ตังสะทา<!--sizec--><!--/sizec--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->
    สีวะลี จะ มะหาเถโร ยักขา เทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยา ทิมหิ<!--sizec--><!--/sizec-->
    <!--sizeo:3--><!--/sizeo-->อะหังวันทามิ ตังสะทา<!--sizec--><!--/sizec--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->
    สีวะลี เถรัสสะ เอตัง คุณัง สะวัสติลาภัง ภะวันตุเม<!--sizec--><!--/sizec-->

    <!--sizeo:3--><!--/sizeo-->แบบที่สอง คำอาราธนาพระสีวลี<!--sizec--><!--/sizec-->
    <!--sizeo:3--><!--/sizeo-->สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยา ทิมหิ<!--sizec--><!--/sizec--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->
    อะหังวันทามิ ตังสะทา<!--sizec--><!--/sizec--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->
    สีวะลี จะ มะหาเถโร ยักขา เทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยา ทิมหิ<!--sizec--><!--/sizec-->
    <!--sizeo:3--><!--/sizeo-->อะหังวันทามิ ตังสะทา<!--sizec--><!--/sizec--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->
    สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ภะวันตุ เม<!--sizec--><!--/sizec-->

    <!--sizeo:3--><!--/sizeo-->สองอันนี้อันไหนถูกครับ
     
  2. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +974
    ถูกทั้งคู่ บทที่สองแบบที่สอง คำอาราธนาพระสีวลี
    สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยา ทิมหิ
    อะหังวันทามิ ตังสะทา
    สีวะลี จะ มะหาเถโร ยักขา เทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยา ทิมหิ
    อะหังวันทามิ ตังสะทา
    สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ"ลาภัง"(เติมลงไปด้วย) ภะวันตุ เม
     
  3. ลมรำเพย

    ลมรำเพย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +503
    ท่อนที่มีความแตกต่าง

    แบบแรก สีวะลี เถรัสสะ เอตัง คุณัง สะวัสติลาภัง ภะวันตุเม

    แบบสอง สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ภะวันตุ เม

    แบบที่1 แยก คำ เป็น 2 คำ สีวะลีเถรัสสะ คุณัง
    แบบที่2 เอาสองคำมารวมกัน สีวะลีเถรัสสะ + คุณัง = สีวะลีเถระคุณัง
    ความหมายเหมือนกัน แปลว่า คุณของพระสีวะลีเถระ

    คำว่า สะวัสติ กับ โสตถิ มีความหมายหมือนกัน คือ ความสวัสดี

    สรุปว่า ทั้ง2แบบมีความหมายเหมือนกัน
    เพียงแต่ แบบแรก มีคำว่า ลาภัง แปลว่า ลาภ เพิ่มอีกคำ

    ถูก ทั้งสองแบบแหละครับ
     
  4. mommaamgirl

    mommaamgirl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    644
    ค่าพลัง:
    +828
    พระสีวลี
    อรหันต์ผู้บันดาลโชคลาภ

    บูชาพระสีวลีเพื่อเป็นศิริมงคล และความมั่งมีศรีสุข

    พระสีวลีเป็นพระอรหันต์ที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องให้เป็นพระอรหันต์ผู้มีลาภมาก ซึ่งชาวพุทธเชื่อกันมาแต่โบราณว่าเมื่อกราบไหว้บูชาพระสีวลีแล้วจะประสพโชคลาภ ชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ปลอดภัยแคล้วคลาดจากอันตราย

    รูปลักษณ์พระสีวลี
    รูปลักษณ์ของพระสีวลีนั้นมักปรากฏอิริยาบถท่ายืน หรือท่ากำลังเดินออกธุดงค์ ซึ่งในวัดทางพุทธแทบทุกวัดก็จะมีพระสีวลีประดิษฐานไว้ให้ชาวพุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา เพียงแต่ว่าอาจมีบางท่านไม่ได้สังเกตหรือไม่ทราบว่าองค์ใดคือ พระสีวลี พระเถระผู้อำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่ง
    รูปลักษณ์พระสีวลีนั้น มักจะปรากฏเป็นรูปพระภิกษุสงฆ์ธรรมดา ซึ่งยืนถือไม้เท้าในมือข้างขวา ส่วนมือซ้ายนั้นแบกกลดพาดอยู่บนบ่าและสะพายย่ามใส่เครื่องอัตถบริขาร
    ในพระอุโบสถตามวัดต่าง ๆ จะมีพระอัครสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ ณ ทั้ง 2 ข้างของพระพุทธรูปองค์ประธาน พระอัครสาวกนั้นก็คือ พระสารีบุตร และ พระโมคคัลลานะ
    ในวัดหลาย ๆ แห่งก็จะมีพระสีวลีประดิษฐานอยู่ ถัดจากพระสารีบุตร และ พระโมคคัลลานะด้วย แต่ในอีกหลาย ๆ วัดก็จะแยกพระสีวลีประดิษฐานอยู่ต่างหากเพื่อให้ชาวบ้านละแวกนั้นได้เข้ามานมัสการกราบไหว้บูชาขอพร ขอโชคลาภตามสะดวก รูปลักษณ์ของพระสีวลีนั้นไม่ว่าจะประดิษฐานอยู่ ณ แห่งหนใด ก็จะมีภาพที่คล้ายคลึงกัน อาจจะมีแตกต่างกันไปบ้างตามรายละเอียด เช่นว่า พระสีวลีในบางแห่งนั้นเป็นรูปพระภิกษุสงฆ์ที่ถือไม้เท้าในมือขวา มือซ้ายแบกกลดพาดบ่า และสะพายบาตรไว้ที่ด้านซ้าย
    แต่ในบางแห่งพระสีวลีไม่ได้สะพายบาตร แต่จะสะพายย่ามอันบรรจุเครื่องอัตถบริขารไว้แทน และบางแห่งนั้นพระสีวลีปรากฏในอิริยาบถท่ายืนเฉย ๆ บางแห่งก็เป็นท่ากำลังเดิน คือมีการก้าวบาทขวาออกมาเล็กน้อย
    ส่วนวัสดุที่นำมาสร้างเป็นพระสีวลีนั้นก็มีมากมายหลายวัสดุ เช่นกัน บางแห่งแกะสลักจากงาช้างอย่างสลักเสลางดงามประณีตเป็นพระสิวลีองค์เล็ก ๆ พระสีวลีบางแห่งสร้างจากเนื้อหินบ้าง เนื้อทองเหลืองบ้าง แต่บางแห่งปรากฏมีพระสีวลีเป็นเนื้อดินบ้าง เนื้อผงบ้าง และเนื้อรมดำบ้าง

    ชาวมอญกับการตักบาตรน้ำผึ้งแก่พระสีวลี
    ความจริงแล้วตำนานของพระสีวลีนั้นปรากฏอยู่ทั้งในคัมภีร์ของอินเดียโบราณ และในคัมภีร์ทางพุทธศาสนาแต่ก็เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า ชาวมอญตั้งแต่อดีตโบราณนั้นให้ความเคารพนับถือศรัทธาและสักการะบุชาพระสีวลีมากเป็นพิเศษด้วยความเชื่อที่ว่าพระสีวลีเป็นพระอรหันต์ผู้บันดาลโชคลาภได้อย่างแท้จริง ดังนั้นในสมัยโบราณชาวมอญทุกบ้าน ทุกเรือน จึงมีรูปพระสีวลีประดิษฐานอยู่ไว้สำหรับเคารพสักการบูชาเพื่อขอโชคลาภสู่ครอบครัว
    ตามประวัติศาสตร์ของพระสีวลีนั้นมีความเชื่อที่ชาวมอญได้เล่าสืบทอดกันมานั้นเล่ากันว่าพระสีวลีท่านเป็นพระอรหันต์ที่ชอบธุดงค์ชอบท่องไปตามป่าตามเขาโดยสันโดษไม่ว่าจะธุดงค์ไปที่ใดหากชาวบ้านชาวป่าพบเห็นก็จะไปกราบไหว้ ถวายสิ่งของ ก็จะได้ชื่นชมกับกิริยาท่าทางอันสง่างามของพระสีวลี บรรดาชาวบ้าน ชาวป่าแห่ง หนใดที่ได้พบ จึงมักพากันชื่นชมและปลาบปลื้มที่ได้ไปเฝ้าสนทนาและฟังธรรมเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตและได้ฟังภาษิตมาประเทืองปัญญาอีกด้วย
    พระสีวลีในความเชื่อของชาวมอญนั้นจึงมีรูปลักษณ์ที่เป็นนักธุดงค์โดยแท้ โดยจะเห็นได้ว่ารูปลักษณ์ของพระสีวลีจากการปั้นสรรสร้างของชาวมอญมักปรากฏว่าพระสีวลีนั้นหากไม่สะพายย่ามก็จะพายบาตร หรือสะพายกาน้ำ ทรงถือไม้เท้าข้างหนึ่ง มีกลดสำหรับธุดงค์อันหนึ่งและมีลูกประคำ การแต่งกายนั้นก็เป็นการแต่งกายแบบพระธุดงค์ คือ มีการห่มผ้าเฉลียงบ่า ผ้าสังฆาฏิเพื่อเหมาะสำหรับการเดินทาง
    ชาวมอญเชื่อกันว่าไม่ว่าพระสีวลีจะเดินธุดงค์ไปทางใดชาวบ้านชาวเมืองหรือชาวป่าแห่งนั้น ก็มักจะประสพแต่โชคลาภ มีโชค มีลาภ เป็นศิริมงคลแก่ครอบครัว ทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้า มีความมั่งคั่งเป็นสุขกันเสมอไป
    ชาวมอญในยุคต่อ ๆ มา เมื่อได้ปั้นรูปพระสีวลีไว้เพื่อกราบไหว้บูชาแล้วก็ทำให้เลื่องลือกันว่าเมื่อบูชาพระสีวลีแล้วจะเกิดโชคลาภวาสนา หากทำการค้าก็จะเจริญก้าวหน้า แม้ทำงานอาชีพใดก็จะมีความรุ่งเรือง มีแต่โชคลาภ มีแต่คนยกย่องสรรเสริญอีกทั้งยังพ้นภัยจากอันตรายทั้งปวง มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุขสืบไป ด้วยเพราะพระบารมีของพระสีวลีจะคุ้มครอง รักษา และอำนวยพระให้ตลอดเวลา
    ดังนั้นชาวมอญจึงได้มีการตักบาตรน้ำผึ้งเพื่อบูชาพระสงฆ์ประการหนึ่ง และเพื่อเป็นการถวายทานสักการะพระสีวลีอีกประการหนึ่ง ทุกวันพระ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุก ๆ ปี ชาวมอญจะมีประเพณีตักบาตรน้ำผึ้ง ซึ่งคล้ายกับการตักบาตรข้าวสาร หรือทำบุญตักบาตรถวายอาหารคาว หวาน ดังเช่นในเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์ที่คนไทยเรานิยมนั่นเอง เพียงแต่การทำบุญของชาวมอญนี้พิเศษและแตกต่างออกไป คือใช้น้ำผึ้งใน การตักบาตรถวายพระภิกษุ ซึ่งทางวัดแต่ละแห่งนั้นจะมีการเรียงบาตร หรืออาจเป็นภาชนะอื่นใดที่เรียงเอาไว้แยกต่างหากจากการตักบาตรกับข้าว คาว หวาน ชาวบ้านที่จะมาทำบุญ ก็จะเตรียมน้ำผึ้งที่บรรจุในภาชนะต่าง ๆกันนั้น นำมารินใส่ลงไปในบาตรที่ทางวัดจัดเตรียมไว้เหมือนกับเป็นการตักบาตรข้าวของคาว หวาน
    ชาวมอญเชื่อกันว่าการตักบาตรน้ำผึ้งนั้นมีอานิสงส์มากมายยิ่งนัก เพราะน้ำผึ้งนี้พระสงฆ์จะนำมาเก็บไว้ใช้เป็นยา หรือ ใช้ผสมกับยาโบราณอันเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นยิ่งนัก ซึ่งพระภิกษุไม่สามารถจะหาหรือเสาะแสวงหาเองได้ การสงเคราะห์พระภิกษุและสามเณรโดยการถวายน้ำผึ้งนี้ จึงมีอานิสงส์มากเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อพระภิกษุหรือสามเณรอาพาตก็จะต้องใช้น้ำผึ้งมาผสมกับยาโบราณเพื่อบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยไข้ได้
    และการถวายน้ำผึ้งแด่พระภิกษุนั้นก็ยังส่งผลให้เกิดโชคลาภและเกิดความสำเร็จดังปรารถนาแก่ตนอีกด้วย ดังที่ อดีตชาติหนึ่งนั้น พระสีวลีได้ถวายน้ำผึ้งแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้ขอพรจนสำเร็จสมความปรารถนา เป็นผู้ที่มีลาภอันประเสริฐ ในทุกภพทุกชาติไปนั่นเอง
    เมื่อสักการบูชาพระสีวลีได้แพร่เข้ามาถึงในหมู่คนไทยก็ได้มีการปั้นหรือสร้างพระสีวลีไว้ประดิษฐานทั่วไป หรือมีผู้คนนำไปบูชาที่บ้านเพื่อกราบไหว้และก่อให้เกิดโชค เกิดลาภ ความสวัสดีแก่ชีวิตและครอบครัว เช่นเดียวกับชาวมอญซึ่งก็เป็นที่เลื่องลือสืบทอดกันต่อ ๆ ไป จนแพร่หลายกันกว้างขวางว่าพระสีวลีนั้นเป็นพระอรหันต์ผู้อำนวยโชคลาภให้บังเกิด






    การบูชาพระสีวลีให้ได้ผลสำเร็จ
    ถ้าท่านผู้อ่านสนใจที่จะกราบไหว้พระสีวลีนั้น ก็สามารถที่จะไปทำการสักการบูชาได้ที่วัดทั่ว ๆ ไปที่มีพระสีวลีประดิษฐานอยู่นอกจากจะนำ ธูปเทียนทอง แล้วพวงมาลัยดอกไม้สักการบูชาแล้วนั้น ท่านควรจะนำน้ำผึ้งไปถวายด้วย โดยนำบรรจุขวดเล็ก ๆ ไปถวายพระสีวลี เพื่อให้เกิดศิริมงคลและเป็นการถวายโดยพร้อมโดยสมบูรณ์ ดังเช่นในตำนานของพระสีวลี ที่ผู้คนนิยมนำน้ำผึ้งถวายแก่ท่าน
    สำหรับท่านใดที่เสาะหาพระสีวลีองค์เล็ก ๆ มาตั้งประดิษฐานในห้องพระที่บ้านไว้สำหรับบูชาหรืออาจจะมีรูปพระสีวลีใส่กรอบแขวนไว้บนผนังสำหรับการกราบไหว้บูชานั้นก็ควรจะยึดมั่นการทำบุญถวายทานดังนี้
    คุณควรจะถวายน้ำผึ้งสัก 1 ถ้วยเล็ก ๆ จะเป็นถ้วยชาจีนขนาดเล็ก ๆ หรือแก้วใบเล็ก ๆ ขนาดเท่าแก้วยาก็ได้ แต่ข้อสำคัญควรจะถวายน้ำผึ้งวันละ 1 ถ้วย ทุก ๆ วันพฤหัสบดีเป็นสำคัญ
    ได้เคยมีผู้ถวายน้ำผึ้ง 1 ถ้วยทุกวันพฤหัสบดี เป็นการบูชาพระสีวลีนี้แล้วประสพชีวิตที่รุ่งเรืองอย่างเห็นได้ชัด คนจำนวนมากที่เล่าต่อกันบอกกันไปว่าเมื่อถวายน้ำผึ้งพระสีวลีและกราบไหว้บูชาเป็นประจำแล้ว ก็จะมีโชค มีลาภบังเกิดแก่ชีวิตอย่างเห็นได้ชัด มีเงินทองไหลเข้าบ้าน การงานก็ก้าวหน้า ไม่เคยต้องขัดสนจนยาก หรือ ประสพอุปสรรคปัญหาใด ๆ และยังมีความปลอดภัยทุกประการอีกด้วย แม้ว่าจะทำธุรกิจการค้าอื่น ๆ ใด ก็จะมีแต่ความเจริญมั่งคั่ง ร่ำรวย อย่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ




    คำบูชาพระสีวลี
    อิมินา สักกาเรนะ สีวะลีเถรัง อะภิปูชะยามิ
    ( เมื่อบูชาแล้วกำหนดภาวนาในใจว่า )
    สีวลี จะ มะหาเถโร
    อินโท พรัมมาจะ ปูชิตัง
    สัพพะลาภัง ประสิทธิเม เถรัสสะ
    อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เม ฯ

    พระคาบทนี้ควรหมั่นสวดภาวนา เมื่อสักการะพระสีวลีทุกครั้ง และควรสวดเป็นประจำ มงคลแห่งพระคาถาจะนำพาชีวิตให้มีแต่โชคลาภ ทำมาค้าขายรุ่งเรือง หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ผู้คนรักใคร่เมตตาเอ็นดู ชีวิตสุขสบาย ปลอดจากโรคภัยทั้งปวง









    คำอธิษฐานขอลาภ พระสีวลี

    คำไหว้ขอลาภจากพระสีวลีเถระ มีดังนี้
    ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วสวด ดังนี้
    สิวะลี มะหาเถรัง วันทามิหัง
    3 จบ แล้วว่า
    มะหาสิวะลี เถโร
    มะหาลาโภ โหติ
    มะหาสิวะลี เถโร
    ลาภัง เม เท ถะ

    (แต่งโดยหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง)

    คาถาพระสีวลี

    สีวะลี จะ มหาเถโร
    ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ
    อะหัง วันทามิ สัพพะทา
    สีวะลี จะ มะหาเถโร
    เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง
    กะโรนตุ เม ลาเภนะ
    อุตตะโม โหติ โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง
    สะทา โสตถิง ภะวันตุ เม ฯ
    ราชะปุตโต จะ โยเถโร
    สีวะลี อิติรัสสุโต ลาเภนะ
    อุตตะโม โหติ ยัง ยัง
    ชะนะปะทัง ยาตินิคะเม ราชะธานิโย
    สัพพัตถะ ปุชิโต โหติ เถรัสสะ
    ปาเท วันทามิ เถรัสสานุภาเวนะ
    สัพพะลาโถ ภะวันตุ เม ฯ
    สีวะลีนันทะ สีวะลีเถรัสสะ
    เอตถะตัง คุณัง สัพพะธะนัง
    สุปะติฏฐิตัง สาริกะธาตุ พุทธรูปัง
    อะหัง วันทามิ สัพพะทา ฯ



    พระคาถาหัวใจพระสีวลี

    นะชาลิติ ปะสิทธิลาภา
    ปะสันนะจิตตา สะทา โหติ
    ปิยัง มะมะ สัพเพชะนะ
    พะหูชะนา สัพเพทิสา สะมาคะตา
    กาละโภชะนา วิกาละโภชะนา
    อาคัจฉันติ ปิยัง มะมะ ฯ
    พระคาถาบทนี้ ควรสวดภาวนาเมื่อสักการบูชาพระสีวลี เมื่อประสงค์จะออกนอกบ้านไปติดต่อเจรจาในธุระที่สำคัญ มงคลคาถานี้จะช่วยส่งเสริมให้ประสพความสำเร็จ หากหมั่นสวดภาวนาทุกวันก็ยิ่งเจริญรุ่งเรือง ความเป็นอยู่สมบูรณ์พูนสุขตลอดไป



    โองการสีวลี

    อุกาสะ อุกาสะ ข้าพเจ้าขออาราธนาพระอภิญญา พระปาฏิหาริย์ลาภสักการของพระสีวลีเจ้า
    จงบังเกิดในจักขุทวาร มโนทวาร กายทวาร แห่งข้าพเจ้า ขอเดชะคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า
    คุณพระอิริยเจ้าทั้ง 84000 พระธรรมขันธ์ คุณพระสีวะลีเถระ ผู้เป็นเจ้ามีฤทธาศักดา อานุภาพเป็นอันมาก
    เหมือนเมื่อพระองค์ยังมีพระชนม์อยู่นั้น ลาภสักการทุกสิ่งทุกอย่างได้มาบังเกิดแก่พระผู้เป็นเจ้า
    พระผู้เป็นเจ้า เป็นที่รักแก่เทวดา และมนุษย์ ฉันใดก็ดี
    เดชะคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า คุณพระอริยเจ้าทั้ง 84000 พระธรรมขันธ์
    คุณพระสีวะลีผู้เป็นเจ้า ขอจงมาบังเกิดเป็นที่พึ่งแก่ข้าพเจ้า
    ขอลาภสักการสิ่งหนึ่งสิ่งใด จงมาบังเกิดแ ก่ข้าพเจ้าเหมือนหนึ่งพระสีวลีเจ้าเถิด

    สัพพา ชะนะ พะหุชะนา
    สัพเพทิสา สะมาคะตา เอหิ
    เอหิ กาละโภชะนา กาละโภชะนา
    อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ
    ปิยังมะมะ สะมาคะตัง ฯ
    ( กราบ )
    นะโมพุทธายะ นิจจะนัง
    ลาภัง นะชาลิติ โหมิ
    ทิพพะคาถัง นิฏฐิตัง ฯ

    มะอะอุ เมตตาจะ
    มะหาราชา สัพพะสะเหหา
    จะปุชิตัง สุขังจะ
    มะหาลาภัง สัพพะโกธัง วินาสสันติ
    สัพพะสะเนหาจะ ปูชิโต ฯ
    ( กราบ )

    สีวะลี จะ มะหาเถโร
    โสปุสุโร จะ เสวะนา จะ พาลานัง
    สีวะลีนัง สัพพะสะเนหา
    สีละลีนัง สัพพะเมตตา
    สีวะลีนัง สัพพะกรุณา
    นะมะพะทะ สะเนหา นะชาลีติ
    พุทธะสังมิ พุทธะสังจิตตะ
    พุทธะสังเอหิ เอหิ ปิยัง มะมะ
    นามะอิติ ถิริโย มะหาปิยัง มะมะ
    มากูหาหามานะนะจิตตัง
    เอหิปิยัง มะมะ จิตติ แห่งสัคคานัง
    ปิยัง มะมะ เอติ อาคัจฉายะ
    อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ จงมา
    จิตติมิตติ จิตติ จุตติ มิตติ คะระหานิ
    พะราติโส นะโมพุทธายะ
    จงมา เอหิ จงมา จิตติ เมตตาจิต
    เทวะคุนัง มะหาคุณัง
    อากาสะเทวา พรหมะคุณัง
    พระพุทธะเมตตา พระธรรมะเมตตา พระสังฆะเมตตา
    เทวะตาเมตตา พรหมะจิตติ
    อากาแทวะตา พรหมะจิตติ พุทธะปิติอิ
    เอหิจิตติ จิตติจงมา แห่ง ปิยังมะมะ โสธายะ
    สีวะลีนัง อาคัจฉายะ อาคัจฉายะ
    จงมีในแนวทาง พระอุบาลีนังตัวเป็นบุตรพระจันทร์ และพระอาทิตย์
    อันมีรัศมีทรงกลดแลบังลับตัวกู
    จิตติใจรักทั้งหญิงชายประสิทธิ
    สะวาหะสีวะลีจงมา จิตติจงมา
    เอหิ พุทธะปิติอิ สีวะลีจิตติ แก่เราแก่เรา
    พุทธังประสิทธิแก่ข้าพเจ้านี้เถิด
    สังฆังประสิทธิ แก่ข้าพเจ้านี้เถิด


    คาถาขอลาภพระสีวลี
    ( หลวงพ่อ แฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี )
    ใช้สวดนำทุกวัน

    นะชาลิติ ปะสิทธิลาภา
    ปะสันนะจิตตา สะทา โหนติ
    ปิยัง มะมะ สัพเพชะนะ
    พะหูชะนา สัพเพทิสา สะมาคะตา
    กาละโภชะนา วิกาละโภชะนา
    อาคัจฉันติ ปิยัง มะมะ ฯ

    ธัมมะจักกัง ปะทัง สุตะวา
    พุชฌิตะวา อัตตังปะทัง สันติ
    อะระหาโลเก โลกานัง
    หิตะการะณาภันเต คะวัมปะตินามะ
    ตีสุ โลเก สุปากะโต
    พรหมะปุตโต มะหาเถโรอะระโห เชฏะโก
    มุนิ นัตถิ เถโร
    สะโม อินทะ คันธัพพา
    อะสุรา เทวาสักโก พรหมภิปูชิโต
    นะโม พุทธัสสะ คะวัมปะติสสะ
    นะโม สังฆัสสะ คะวัมปะติสสะ
    สุกขาสุกขะ วะรัง
    ธัมมัง ธัมมัจักกัง ปะวะรัง วะรัง ฯ

    พระคาถาขอลาภนี้เป็นมรดกตกทอดของหลวงพ่อ แฉ่ง ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ศุข วัดปากคลลองมะขามเฒ่า
    ขอให้ท่านหมั่นสวดพระคาถานี้ก่อนนอนทุกวัน วันละ 1 บท จากนั้นก็สวดแยกเป็นวัน ๆ ตามบทสวดขอลาภประจำวันเกิดไปจนครบ 7 วัน
    เชื่อกันว่าถ้าผู้ใดสวดพระคาถาขอลาภเป็นประจำต่อเนื่องทุกวันเพียง 2 – 3 เดือนเท่านั้น ชีวิตจะประสพความสุข ความเจริญ ทันตาเห็น โชคลาภจะบังเกิดแก่ชีวิตเป็นนิจสินแน่นอน
     
  5. mommaamgirl

    mommaamgirl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    644
    ค่าพลัง:
    +828
    คำบูชาพระสิวลี
    อาราธนา
    สิวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ
    สิวะลี จะ มะหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ
    อะหังวันทามิ ตังสะทา
    สิวะลี เถรัสสะ เอตัง คุณัง สวัสดิลาภัง ภะวันตุ เม
    นมัสการ
    นะมามิ เสฏฐัง มะหาปุตตัง มะหาเตชัง กาตะญู ตาสัมมา ยุตตัง มะหาลาภัง
    ภะวิสสันติ เถรัสสะ อานุภาเวนะ สัทธาโหนติ ภะวันตุ เม
    หรือ
    นะชาลีติ ประสิทธิลาภา ปะสันนะจิตตา สะทาโหนติ ปิยังมะมะ สัพเพชะนะ
    พะหูชะนา สัพเพทิสา สะมาคะตา กาละโภชะนา วิกาละโภชะนา
    อะคัจฉันติ ปิยังมะนะ
    หัวใจพระสิวลี
    นะชาลีติ ชาลีตินะ ลีตินะชา ตินะชาลี
    นะชาริเต สังชาลิเต นะชาลิเต นะชาลิติ พะละราชา
    ภาวนามหาลาภ
    สิวะลี จะ มะหาลาภัง ภะวันตุ เม
    ถวายข้าวพระสิวลี
    สุปปะโภชชะนะ สัมปันนัง วะระคันทัง สิวะลี กัปปะติ คัณหา หิระทังเทหิ
    ถวายดอกไม้พระสิวลี
    อิมัง ปุปผัง คันธะ สิวะลี เถระ อะหะเทมิ
    ถวายธูปเทียน
    อิมัง ทีปะ ธูปัง สิวะลี เถระ อะหะเทมิ
    เคล็ดลับการบูชาพระสิวลีให้ผู้บูชาเจริญรุ่งเรืองมีโชคลาภสักการะและอยู่เย็นเป็นสุช
    คือการนำพระธาตุพระสิวลีหล่อน้ำไว้ และ ถวายน้ำผึ้งถ้วยเล็ก ทุกวันพฤหัสบดี
    จุดธูปบูชา ๑๓ ดอก
     

แชร์หน้านี้

Loading...