คิดปรามาสพระรัตนตรัย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Bkkianmar, 5 ตุลาคม 2008.

  1. Bkkianmar

    Bkkianmar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +55
    ไม่ทราบว่ามีท่านใดประสบปัญหาเดียวกับหรือไม่
    คือทั้งที่คิดว่าเคารพศรัทราพระพุทธเจ้า และพระรัตนตรัย
    แต่จิตชอบคิดปรามาสเรื่อยๆ ทั้งที่ไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย
    มันเป็นไปเอง หยุดไม่ได้ด้วย ยิ่งพยายามหยุดก็จะยิ่งคิด
    คำเลวร้าย หรือภาพประหลาดๆออกมา
    โดยเฉพาะเวลานั่งสมาธิก็เป็น ลำบากใจมากเลยค่ะ
    เคยถามอาจารย์ ท่านบอกว่าเป็นมาร
    แบบนี้แก้ไขอย่างไรดีคะ
    รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีเลย รู้สึกว่าจิตใจไม่บริสุทธิ
    แก้กันไม่ได้ง่ายๆเหมือนการรกระทำ หรือคำพูด

    ตอนนี้ก็ขอขมาท่านทุกวันค่ะ สงสัยว่าต้องขอขมาทุกครั้งที่คิดไม่ดี คือตลอดเวลาไปด้วยเลย หรือขอขมาก่อนนอนครั้งเดียวเป็นใช้ได้
     
  2. สนิมจิต

    สนิมจิต สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมก็เป็นครับบ่อยด้วยส่วนใหญ่จะปรามาสพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์หลายๆรูป วิธีแก้ก็ต้องหาทางด้วยตัวเองครับ แต่สำหรับของผมคือการหยุดคิดหรือคิดไปเรื่องอื่น หรือมาดูลมหายใจเข้าออกอย่างเดียวแทนไม่ต้องใช้คำภาวนาใดๆ พอเริ่มสบายกายสบายใจไม่เครียดนึกถึงพระพุทธเจ้าแหม...แค่ท่านสอนให้รู้จักการหายใจให้ถูกต้องนี่ก็นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นแล้ว การดูลมหายใจเป็นการเรียกสติใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ผมทำงานเขียนแบบหรืออ่านหนังสือถ้ารู้สึกเครียด ก็จะดูลมหายใจก็จะคลายช่วยได้มากจริงๆครับ เจอเหตุการณ์อะไรตื่นเต้นๆ กลับมาดูลมหายใจก็จะได้สติคลายอารมณ์นั้นไปได้มากจริงๆ
     
  3. ค่อยค่อยทำ

    ค่อยค่อยทำ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +13
    ยิ่งอยากให้หยุดมันก็ยิ่งไม่หยุด ก็ดูจิตนี้แหละดูความคิด

    พอจิตมันคิดไม่ดีทั้งๆที่เราไม่อยากจะคิด ก็พิจารณาเลยว่า จิตนี่ไม่ใช่เรา อยู่ดีๆมันอยากจะคิดอย่างนี้มันก็คิดของมันเอง เราบังคับไม่ได้ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเราเป็นอนัตตา มันคิดเกิดแล้วเดี๋ยวก็ดับเป็นอนิจจัง หรือจะดูว่ามันเป็นทุกข์ ใช้วิปัสสนาดูมันเป็นไตรลักษณ์ซัดอวิชชาให้กระจุยกันไป สู้สู้ครับ
     
  4. NanoProbe (นาโนโพรบ)

    NanoProbe (นาโนโพรบ) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +261
    ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมเป็นแค่คน ธรรมดา ที่บังเอิญชอบอ่าน เรื่องทำนองนี้ เพราะเคยมีปัญหาเดียวกัน
    การปรามาส โดย ไม่ตั้งใจ ไม่รู้ตัว เผลอไป บ้าง จึงเครียด กังวล จะถามใครก็ไม่กล้า
    สมัยก่อน กว่าจะไปถาม พระเก่งๆได้ ต้องกระมิดกระเมี้ยนถาม ต้องถามตอนคนอยู่น้อยๆ พูดก็กลัวคนอื่นจะได้ยิน
    สงสัยว่า ตัวเรา เพี้ยนหรือเปล่า โอ้ย สารพัดละครับ

    เรื่องนี้ นะครับ ขอบอกว่า เรื่องเก่าแล้ว อย่ากังวล

    คำตอบที่1
    ลองให้ไปดูคำตอบ หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา เล่ม 9 ท้ายๆเล่ม มีคนถามหลวงพ่อฤาษี เอาไว้ครับ
    ตัวหลวงพ่อเองก็เคยครับ

    คำตอบที่2
    ไปวัดสังฆทาน จ.นนทบุรี หรือ ใน กทม ให้เปิด FM89.25 วันพุธ-ถึง อาทิตย์ เวลา 18.00 น. จะเป็นรายการตอบปัญหา โดยหลวงพ่อสามารถ ท่าน รู้ และตอบได้ หลวงพี่ ตี๋เล็ก ก็เข้าใจเรื่องแนวนี้และตอบได้ ผมจำไม่ค่อยได้แล้วท่านตอบว่าอย่างไรโดยละเอียด แต่จับได้ว่า คนที่ปฏิบัติ ต้องผ่านด่านนี้ทุกคนครับ

    หรือ
    โทรไปถามก็ได้ เอาให้ชัดๆเลยนะครับ เผื่อ ท่านอื่นที่เจอปัญหานี้ด้วย

    คำตอบที่3
    ลองไป web คนเมืองบัว ถามอ.ไก่ดู ครับ
    http://www.konmeungbua.com/


    ขอให้โชคดี และ ขอให้ก้าวหน้าในการปฎิบัติครับ
     
  5. alwayz

    alwayz สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ดิฉันก็เป็นเหมือนกันค่ะ เป็นค่อนข้างหนัก คอยขัดขวางการปฏิบัติจิตตลอดเลยค่ะ กลัวบาปมากๆๆ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ใจมันหยุดคิดไม่ได้ ต้องคอยหยิกเตือนสติตัวเองตลอด อธิฐานตลอดค่ะว่า ขอให้อาการนี้หายไป แต่ก็ไม่หายสักที
     
  6. น้องบุญน้อย

    น้องบุญน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +44
    เราก็เป็น ดังนั้นพี่ควรแก้โดยการขอขมาพระท่านทุกวัน เพราะเอมรู้สึกว่าขอขมาท่าน ท่านเป็นพระ ท่านยอมให้อภัยทานแก่เราเสมอ เราได้ขอขมาเราก็สบายใจ แล้วว่าที่คิดปรามาสก็ให้จิตไปรู้กำลังคิดแบบวิปัสสนา แล้วก็ขอขมาในใจเลย พอขอขมาก็สบายใจ
     
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ยกวิปัสสนาญาณไปในตัวเลยครับ

    เป็นหมวด การดู จิตมีโมหะ ให้รู้ว่าจิตมีโมหะ โดยดูตอนที่จิตไหลไปปรามาส เราไม่ได้
    เป็นคนปรามาส แต่จิตมันไหลไปเอง อันนี้คือ โมหะมูลจิตครอบงำจิต ทำให้เกิดการดึง
    สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ กลายเป็นคำปรามาส หรือ รูปประหลาดเกิดขึ้นใน มโนทวาร

    โดยการดู ก็แค่รับรู้เฉยๆว่า จิตมันปรามาสไปแล้ว แต่อย่าไปตามดูว่ามันปรามาสว่าอะร มี
    ความหมายอย่างไร มีภาพอย่างไร อย่าถลำไปกับสิ่งที่จิตสร้างขึ้นมาเอง หากเราถลำจะทำ
    ให้วิญญาณขันธ์อาศัยเป็นเชื้อเพื่อไปดึงสัญญาขันธ์อื่นๆขึ้นมาอีก จึงให้ดูเฉยๆ พอรู้สึกว่า
    มันเกิด แล้วก็เมินๆ เหมือนดูมันผ่านหน้าบ้านไป ตอนมันมา แล้วมันก็ดับไป ตรงนี้คือการ
    ดูทุกขัง และอนิจจังของกองขันธ์(วิญญาณขันธ์ สัญญาขันธ์) และดูการเป็นอนัตตา มัน
    อยากจะผุดขึ้นมันก็มา ห้ามไม่ได้ นี่คือการเอา กิเลสก็ดี โทษะก็ดี โลภะก็ดี โมหะก็ดี
    เอามาตามรู้ตามดู หากเราระลึกว่า เอ๊ะ นี่มันมาอีกแล้ว มีโมหะอีกแล้ว จดจำได้แล้วไม่
    ถลำไปกับมัน ตรงนี้เรียกว่า จิตตื่น จิตพุทธะ จิตเบิกบาน เพราะไม่ไหลไปตามขันธ์ 5

    หากดูจิตมีโมหะไม่ทัน เผลอถล้ำ แล้วดึงออกมา พยายามจะสลัด ตอนนี้ให้ดูเป็น
    จิตมีโทษะ ให้รู้ว่าจิตมีโทษะ แทนการรู้ จิตมีโมหะ เพราะโทษะมูลจิตได้แทรกลงเป็น
    ปัจจุบันสภาวะแทน โมหะมูลจิตที่ปรามาส กลายเป็นปรามาสตัวเองไปแล้ว

    ให้ดูไปอย่างนี้ ดูเฉยๆ จะค่อยเห็นเองว่า นั้นขันธ์5 ทำงาน นี่สติทำให้ตื่น นั้นขันธ์5
    ทำงานแต่มีระยะห่างจากกัน จากกาย จากจิต จากกองขันธ์ในตัวมันเอง ก็คือการแยก
    รูปนาม พอแยกรูปนามได้ การเห็นว่ามีเรา ผู้ยึดมั่นขันธ์5เป็นเราจะถูกละวางทันที เป็น
    ก้าวแรกที่ทำให้รู้ว่า พุทธศาสนาสอนอะไรกันแน่ เป็นการตั้งเป้าละสักกายทิฏฐิ พอได้
    รู้สึกว่าการละสักกายทิฏฐิทำอย่างไร ก็พยายามทำเนืองๆ ทรงอารมณ์ไป โดยการละวาง
    ขันธ์5 แบบนี้แหละ ตามรู้ ตามดู เฉยๆ พอแล้ว หากเห็นสภาวะธรรมใดๆ ตกใต้ไตรลักษณ
    นี่คือการยกวิปัสสนาญาณ

    ขออภัย กลับมาแก้คำผิดให้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2008
  8. iss_krub

    iss_krub สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมก็เป็นครับ-_-"
    ก็เลยมาคิดดูว่า เหตุเกิดจากอะไร
    ก็เลยได้ความว่า
    เมื่อเห็นภาพหรือนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์(เป็นเหตุ,โจทย์)
    จะเกิด
    1.มองเฉยๆ(หนึ่งความคิด,เป็นผลแรก)
    2.ปรามาส(อีกหนึ่งความคิดซ้อนขึ้นมา,เป็นผลที่2)
    อาการคล้ายๆว่ามีอีกคนในตัวผม วิธีแก้ หยุดคิด ทั้ง2นั้น หยุดมองหรือหยุดนึกถึงเหตุ(หรือโจทย์)
    สรุป ผมที่เป็น เป็นเพราะขาดสติกำกับ ครับ
    ขออนุโมทนา_/i\_ ทุกคำตอบครับ และต้องขออภัยเป็นอย่างสูง ถ้าผมเรียบเรียงข้อความไม่ถูกต้อง (หมายเหตุ ที่ผมทำสัญลักษน์โดยไม่ใช้ไอค่อนหรือลูกเล่นอะไร เพราะว่า ลูกเล่นเหล่านั้น บางครั้งอาจจะใช้ไม่ได้ครับ เช่นLink Targetเสีย เป็นต้น)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2008
  9. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ผมก็เป็นครับและปัญหานี้ผมเคยถาม หลวงตาม้า ท่านตอบว่า จิตของเรามันคบกับความเลวมาหลายชาติแล้ว ถ้าเกิดปัญหาอย่างนี้เมื่อไร ให้ขอขมาทันที มันเกิดขึ้นเมื่อไรก็ขอขมาตลอด อีกหน่อยมันก็หยุดไปเอง... ครับท่านตอบว่าอย่างนี้.....
     
  10. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    ขออนุโมทนา

    ผมแนะนำให้จุดธูปเก้าดอกน้อมองค์คุณของ
    พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์
    พระธรรมเจ้า
    พระสังฆะเจ้า
    คุณของบิดามารดาทุกภพทุกชาติ
    คุณของครูบาอาจารย์ทุกภพทกชาติ

    จากนั้นกล่าวคำขอขมาที่ผมแนะนำไปด้านล่าง
    โดยให้ตั้งใจอย่างที่สุดของที่สุดนะครับ และสำนึกอย่างจริงใจ

    เสร็จแล้วก็กรวดน้ำอุทิศบารมีไปตามบทกรวดน้ำที่ผมแนะนำไปนะครับ

    การกรวดน้ำให้ทำบ่อย ๆ ครับ วันละ 10 ครั้งขึ้น
    ส่วนการขอขมาแบบเต็มให้ ขอขมาเช้า-เย็น หรือให้บ่อย ๆก็ได้ครับ

    หากอยากทำบ่อย ๆ การกราบน้อม องค์คุณเบื้องสูง(คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)
    ก็เป็นการขอขมาไปในตัวแล้วครับ

    และสุดท้ายหากอยากนำธรรมะไปให้ตนมีสัมมาทิฐิมากขึ้น
    เข้าไปขอรับจากกระทู้ในรายเซ็นต์ผมได้ครับ

    ขออนุโมทนา

    [​IMG]


    คำขอขมาอโหสิกรรม
    (การขอขมาอโหสิกรรมเป็นประเพณีของพระอริยะ ในการเปิดบารมี ไม่ให้ปิดกั้นในการบรรลุธรรม)
    ตั้งนะโม ๓ จบ


    "ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ข้าพเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้งละเมิดล่วงเกิน
    ปฏิฆะปรามาส ลบหลู่ ดูหมิ่น ต่อองค์คุณเบื้องสูง คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์
    คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ ทุกภพทุกชาติ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ทุกพุทธันดร
    พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า พระมหาโพธิสัตว์เจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อโพธิศรีสุริยะ เขมรโต องค์ในกายทิพย์ พรหมเทพทุกองค์ เทพไท้ เทวา
    เบื้องบนถึงที่สุด ท่ามกลางถึงที่สุด เบื้องล่างถึงที่สุด ผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม ทุกรูป ทุกนาม
    ทุกดวงจิตดวงวิญญาณ มนุษย์ อมนุษย์ ทั้งหลาย ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ ซึ่งข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินไว้
    ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ในทุกภพ ทุกชาติ ทุกกัลป์ ทุกกัป ทุกพุทธันดร


    กราบขอขมาลาโทษ ขอขมากรรม โดยมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต ทรงเป็นประธาน
    โปรดเมตตา อโหสิกรรม ให้กรรมทั้งหลายเป็นโมฆะกรรม เพื่อความไม่ติดขัดในดวงใจ ลุล่วงพ้นทุกข์
    ตามพุทธประสงค์ ตรงต่อพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันกาลนี้ด้วยเถิด สาธุ"


    [​IMG]


    การขอขมากรรม ณ ที่ใดก็ตาม ให้น้อมในองค์คุณมหาพุทธะ (คือพระพุทธเจ้าทุกพระองค์)
    มหาอรหันต์ มหาโพธิสัตว์ ทุกพระองค์ รวมเป็น ๑ คือ
    อิทธิอานุภาพ เป็นเมตตามหากรุณา ไม่มีประมาณ
    ขออโหสิกรรม ได้ผลฉับพลันทันใด น้อมขอขมา สำนึกด้วยใจจริงๆ


    ที่มา http://www.rombodhidharma.com/
    http://rombodhidharma.pantown.com/


    [​IMG]


    คำกรวดน้ำ อุทิศบารมี


    ด้วยเมตตาจิตที่ดี ๆ
    ยกน้ำขึ้น แล้วอธิษฐานจิต โดยขอน้อมในคุณองค์พุทธะ พระอรหันต์ พ่อแม่ครูอาจารย์
    เทน้ำลงบนพื้นดินหรือปูน (ไม่จำเป็นต้องมีต้นไม้)


    ด้วยเดชแห่งบุญบารมี ที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมมา ทุกภพทุกชาติ
    ขออุทิศบุญบารมีนี้
    ให้ทุกดวงจิต ดวงวิญญาณ มนุษย์ อมนุษย์ ทั้งหลาย ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ
    เจ้ากรรม นายเวร ทุกภพทุกชาติ จงมีส่วนร่วมในบุญบารมีนี้
    ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์
    และขอ-อโหสิกรรม-ซึ่งกันและกันด้วยเทอญ"


    หมายเหตุ: การอุทิศบารมีทำได้ ทุกวัน ทุกเวลา โดยไม่ต้องทำบุญก่อนก็ได้
    สามารถน้อมบุญดี กรรมดี ที่สั่งสมมาทุกภพทุกชาติ อุทิศได้เลย ถ้ามีการทำบุญก่อนก็ยิ่งเป็นการดี


    ที่มา http://www.rombodhidharma.com/
    http://rombodhidharma.pantown.com/
     
  11. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,329
    อนุโมทนา..เจอกันทุกคน คุณนาโนโพรบ บอกไว้ละเอียดดีแล้ว สาธุ
     
  12. TURK T.M.

    TURK T.M. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +58
    ขออนุโมทนา กับ ทุกท่านที่ให้ความเห็นคับ

    ผมก็เป็นคับ แต่ก่อนไม่เป็นมาเป็นๆช่วงนี้อ่ะคับ อยู่ดีดีจิตคิดปรามาสไปเอาโดยเราไม่ได้ตั้งใจคิดคับ
     
  13. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    23,284
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,025
    เชิญคุณ Bkkianmar ในกระทู้นี้ได้เลยครับ เข้าไปเเล้วอ่านให้หมดทั้งกระทู้ครับ อ่านเเล้วนําไปปฏิบัติได้เลยครับ จัดไว้ให้เเล้วครับ เจริญในธรรมครับ

    กระทู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการปรามาส ผมรวบรวมมาให้หมดเเล้วในกระทู้นี้

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA-%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89.225534/

    ปล. ยังไงก็เข้าไปอ่านให้หมดทั้งกระทู้นะครับ

    วิธีเเก้จริงๆนั้นก็คือ สวดบทขอขมาพระรัตนตรัยในทุกวัน ตอนเช้าหรือก่อนเข้านอนก็ได้ เเล้วเเต่ความสะดวกครับ อีกอย่างคือ พอหลังจากที่เราคิดปรามาสเเล้ว จะด้วยจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ให้เรานึกภาพเรากราบพระเเล้วบอกท่านว่า เราขอโทษ หรือขอขมาท่านครับ หากนึกภาพไม่ออกก็ไม่ตค้องไปเครียดครับ ให้นึกคําว่าขอโทษท่านทันทีที่คิดครับ อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2010
  14. talkthumma

    talkthumma Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +32
    ผมว่าก้ดีนะคุนได้รู้ใจตัวเองไง และยอมรับกับมันและค่อยๆจัดการปรับปรุงแก้ไขต่อทีหลังได้

    แต่จิตชอบคิดปรามาสเรื่อยๆ ทั้งที่ไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย
    มันเป็นไปเอง หยุดไม่ได้ด้วย ยิ่งพยายามหยุดก็จะยิ่งคิด
    คำเลวร้าย หรือภาพประหลาดๆออกมา
    ตรงนี้มันแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เรียกว่าปรุงแต่ง จิตสังขารปรุงแต่งอยู่ตลอดเวลา ทั้งดีไม่ดีให้คุนรู้ไว้ว่า มันปรุงไปเรื่อยๆไม่มีหยุด พอไม่ปรุงด้านไม่ดีก้ปรุงต่อด้านดี หรือด้านสงบกลางๆ
    การยอมรับต่อสิ่งที่รับรู้และปล่อยไปเป็นสิ่งที่ดีพระพุทธเจ้าไม่ให้ยึดสังขารธรรมที่เกิดขึ้น
    หลายท่านอาจคิดว่าปล่อยเรือก่อนจะได้อะไร ตรงนี้ไม่ใช่ปล่อยเรือขันธ์ แต่
    ให้รู้ชัดและปล่อยวางต่อสิ่งที่ทำให้เกิดทุขคือการยึดกับสิ่งที่ยึดไม่ได้
    เช่นกรณีนี้ที่คุน จขกท รับรู้ต่อสภาวะของสังขารขันธ์ที่เกิดขึ้น และเห็นถึงการบังคับไม่ได้ในมันแต่ก้ยังพยามบังคับอยู่พระพุทะเจ้าท่านจึงกล่าวว่า สังขารไม่ใช่เรา เราบังคับมันไม่ได้
    ทีนี้จะแก้ไขอย่างไรเมื่อจิตมีปกติที่จะคิดไม่ดีอยู่ด้วย
    ก้ไห้เอาศิล มาช่วย สิล ตรงนี้ใจเราพยามเพื่อให้เป็นปรกติ ปรกติที่ดีไม่เบียดเบียนต่อตนเองและผู้อื่น คือเมื่อความคิดปรุงในทางไม่ดีก้ให้ละลึกรู้ว่ามันไม่ดีตรงนี้สติเข้ามาช่วยระงับเป็นกุศลแล้ว ผู้ใดกลับตัวกลับใจมาทำดี
    อย่าง อหิสกะ ค่าคนนับร้อย แต่จิตฉุดคิดได้และต้องการทำดี อย่างนี้เพราะสติเกิด ปัญญาเกิดการที่คุณตามรู้สภาวะธรรมที่เกิดในใจขณะปฎิบัติธรรมนับว่าเป็นการดีแล้ว
    อนุโมทนาสาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...