คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม อุบาสิกาผู้มีพลังจิตมหัศจรรย์ ล่องหนหายตัวได้ และอัฐิท่านเป็นพระธาตุ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ชนะ สิริไพโรจน์, 5 มีนาคม 2009.

  1. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม อุบาสิกาผู้มีพลังจิตมหัศจรรย์ ล่องหนหายตัวได้ และอัฐิท่านเป็

    [​IMG]
    คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    อุบาสิกาผู้มีพลังจิตมหัศจรรย์


    “อิทธิปาฏิหาริย์” เป็นเรื่องที่ดูเหนือธรรมชาติ ชวนพิศวงสำหรับผู้ที่ยังอยู่ในวังวนของกิเลส
    สำหรับผู้ปฏิบัติทางจิตที่กำลังจะล่วงพ้นบ่วงกิเลส “ปาฏิหาริย์”
    ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ปฏิบัติสามารถทำได้ทุกคน
    ในอดีตหลายสิบปีผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไปคงจะเคยคุ้นชื่อของอุบาสิกาท่านหนึ่ง
    ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก สำหรับสานุศิษย์ ท่านคือ “อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม”
    ผู้สำเร็จจตุตฌาน (ฌานที่ 4) จึงมี “อภิญญา” ปรากฏเป็นปาฏิหาริย์จนเลื่องลือในทางปาฏิหาริย์ตาทิพย์
    รู้วาระจิตผู้อื่น ล่องหนหายตัว และใช้พลังจิตรักษาโรคให้คนทั่วไปจนหาย
    <O:p</O:p

    อุบาสิกาบุญเรือน โดยทั่วไปคนที่เคารพท่านมักเรียกท่านว่า “คุณแม่บุญเรือน”
    เพราะความเมตตากรุณา ที่ท่านมีให้กับทุกคนไม่เลือกชั้นวรรณะ
    พื้นเพเดิมของคุณแม่บุญเรือนท่านเป็นชาวอำเภอมีนบุรี กรุงเทพฯ
    มีฐานะค่อนข้างยากจน พ่อแม่เป็นชาวสวน ซึ่งต่อมาได้ย้ายไปอยู่แถวบางปะกอก ธนบุรี
    ในวัยเด็กคุณแม่บุญเรือนได้รับการศึกษาพออ่านออกเขียนได้ และมีนิสัยฝักใฝ่ในทางธรรมมาแต่เด็ก
    โดยได้รับการสั่งสอนให้รู้จักธรรมะ ในพระพุทธองค์จาก “หลวงตาพริ้ง” วัดบางปะกอก
    พระสายวิปัสสนากรรมฐาน ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น จนทำให้คุณแม่บุญเรือนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา
    ฝักใฝ่ในบุญกุศล หมั่นเพียรในทางธรรมตลอดมา
    <O:p</O:p
    เมื่อมีอายุในวัยครองเรือนคุณแม่บุญเรือนได้สมรสกับ สิบตำรวจโท จ้อย โตงบุญเติม
    แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ภายหลังจึงรับเด็กหญิงมาอุปการะเป็นบุตรบุญธรรมคนหนึ่ง
    ขณะเดียวกันคุณแม่บุญเรือน ก็ยังมีโอกาสได้ปฏิบัติและศึกษาธรรมมากขึ้น
    โดยมีท่านพระมหารัชชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสสัมพันธวงศ์สมัยนั้นเป็นอาจารย์
    สอนสมถะวิปัสสนากรรมฐานให้ จนกระทั่งปี 2470 คุณแม่บุญเรือนจึงลาสามี
    เพื่อมาบวชที่วัดสัมพันธวงศ์อยู่ระยะหนึ่งแล้วจึงลาสึกไป
    และเมื่อสามีถึงแก่กรรมแล้ว จึงมีศรัทธากลับมาบวชอีกในปี 2482<O:p</O:p
    ความเพียรในการฝึกจิตและเรียนรู้ทางธรรมของคุณแม่บุญเรือน
    ปรากฏเรื่องราวอันเป็นอิทธิปาฏิหาริย์ ที่จะสำเร็จได้ก็ด้วยอำนาจสมาธิ
    ซึ่งเป็น “พลังจิต” อันมหัศจรรย์ จึงมีเรื่องเล่ามากมายจากคนเก่าแก่
    และผู้ประสบเหตุเรื่องราวพิศวง อันเกิดจากอำนาจทิพย์ของอุบาสิกาท่านนี้


    <O:p</O:p

    ล่องหนหายตัว
    <O:p</O:p
    การล่องหนหายตัวจากสถานที่หนึ่งไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง
    เป็นผลจากการปฏิบัติทางจิตจนได้ “อภิญญา”
    ซึ่งคุณแม่บุญเรือนสามารถอธิษฐานจิตให้หายตัวได้
    เรื่องนี้ “เจ้าคุณพระรัชชมงคลมุนี” วัดสัมพันธวงศ์ ท่านได้บันทึกไว้ว่า
    เมื่อเดือน 6 ขึ้น 14 ค่ำ พ.ศ. 2470 คุณแม่บุญเรือนท่านอยู่ที่บ้านพักตำรวจกับครอบครัว
    ในคืนดังกล่าวคุณแม่นอนไม่หลับจนดึก สามีและบุตรบุญธรรมหลับกรน และกัดฟันกรอดๆ
    รู้สึกเกิดธรรมสังเวชเบื่อหน่ายต่อสภาพอย่างนั้น ท่านอยากหลีกหนีเสียชั่วคราว
    จึงตั้งจิตอธิษฐาน เข้าไปในศาลาที่วัดสัมพันธวงศ์ ซึ่งศาลานี้เป็นที่อยู่ของแม่ชีนักปฏิบัติธรรม
    คุณแม่เองก็เคยอาศัยบำเพ็ญธรรมที่ศาลานี้ พอสิ้นอธิษฐานก็ปรากฏตัวเองอยู่ที่ศาลานี้แล้ว
    ไม่ทราบว่าเข้าศาลาทางไหน และที่บ้านพักตำรวจกับศาลาวัดสัมพันธวงศ์ก็ไกลกันพอสมควร<O:p></O:p>
    แม่ชีฟักเพื่อนปฏิบัติธรรม พักอยู่เป็นประจำที่ศาลานี้ ขอให้คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานมาเข้าศาลาอีก
    ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 6 โดยให้แม่ชีผู้อยู่ศาลาอีก 3 คนดูแลปิดประตูหน้าต่างลงกลอนให้เรียบร้อย
    และดูให้รู้เห็นเป็นพยานด้วย
    <O:p</O:p
    คุณแม่บุญเรือนก็อธิษฐานให้หายวับจากบ้านพัก เข้าไปปรากฏตัวในศาลาได้เช่นเดียวกับคราวก่อน
    พวกที่คอยอยู่ก็แปลกใจและแน่ใจว่า หายตัวผ่านเข้ามาได้จริงๆ และมองเห็นผลสำเร็จทางสมาธิ
    ที่มีแก่ผู้ปฏิบัติด้วยวิริยอุตสาหะ ต่อมาคุณแม่บุญเรือน ท่านได้อธิษฐานหายตัวจากศาลา
    ไปเขาวงพระจันทร์ ท่านได้พบพระผู้วิเศษที่นั่น และได้รับพระธาตุ 1 องค์ จากพระองค์นั้น
    กลับมาพระธาตุยังกำอยู่ในมือ เป็นพยานแก่ตัวท่านเองว่ามิได้ฝันไป


    <O:p</O:p

    ทิพยโสตญาณ (หูทิพย์)
    <O:p</O:p
    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype class=inlineimg id=_x0000_t75 title="Tongue out" smilieid="24" alt="" border="0" src="images/smilies/tongue-smile.gif" o< v:shapetype path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f">อภิญญาในด้านหูทิพย์ของคุณแม่บุญเรือนนี้ มีบันทึกของคุณหญิงเงียบ บุนนาค เขียนไว้ว่า
    ครั้งหนึ่งคุณแม่บุญเรือน ไปรักษาโรคขาบวมให้น้องสาวคุณหญิงเงียบ บุนนาค
    ข้างวัดอนงคาราม ธนบุรี ตอนขากลับ น้องสาวคุณหญิงเงียบมอบค่ารถให้ 20 บาท
    คืนวันนั้นสามีของน้องสาวคุณหญิงกลับบ้าน ทราบว่าภรรยาจ่ายเงินค่ารถให้คุณแม่บุญเรือน 20 บาท
    (สมัยเงินแพง) เขาเอะอะว่า คุณแม่บุญเรือนเป็นหมอไม่จริง หลอกเอาสตางค์

    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]พอรุ่งเช้า 6 โมงเศษ คุณแม่บุญเรือนไปถึงบ้านน้องสาวคุณหญิงข้างวัดอนงค์

    นำเงิน 20 บาท ไปคืนให้บอกว่า “เป็นเงินของคุณผู้ชายเขา ดิฉันคืนให้
    ดิฉันไม่โกรธคุณหรอก คุณต้องรับเงินนี้ไว้”<O:p</O:p
    นี่แสดงว่าคุณแม่บุญเรือนหูทิพย์ ได้ยินคำพูดของสามีน้องสาวคุณหญิงเงียบ
    พร้อมทั้งรู้วาระจิต ของคนพูด ว่าหมายถึงตัวคุณแม่บุญเรือนที่ไปรักษาขาบวม
    คุณแม่จึงรีบนำเงินไปคืนให้ เพื่อรักษาน้ำใจของน้องสาวคุณหญิง และสามีมิให้ขุ่นข้องหมองใจ<O:p</O:p
    คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ท่านเป็นผู้มีจิตอันเป็นกุศลอย่างยิ่ง
    นอกจากนั้นท่านยังใช้จิตอันมหัศจรรย์ของท่าน ในการอธิษฐานเพื่อช่วยคนในหลายรูปแบบ
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาโรคภัยต่าง ๆ จนหายขาด ดังเรื่องราวที่มีผู้บันทึกไว้ในหนังสือ
    “คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม อนุสรณ์” <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    </v:shapetype>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2009
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    อุบาสิกาผู้มีพลังจิตมหัศจรรย์ ล่องหนหายตัวได้ และอัฐิท่านเป็นพระธาตุ ๒

    คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    อุบาสิกาผู้มีพลังจิตมหัศจรรย์

    [​IMG]


    รักษาด้วยวาจาสิทธิ์

    เป็นบันทึกของ นายจำรัส สุขประเสริฐ อยู่ จ.อุดรธานี มีใจความว่า
    "อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม เดินทางโดยขบวนรถไฟด่วนถึง จ. อุดรธานี
    เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2496 เวลา 7.15 น.
    ก่อนหน้ารถไฟด่วนจะเทียบเข้าชานสถานีประมาณ 20 นาที
    ได้มีหมอกลงที่สถานีรถไฟและบริเวณตัวเมืองอุดรธานีหนามืดไปหมด
    อยู่ห่างกันประมาณ 10 วา ยังแลไม่เห็นกันเลย รถยนต์วิ่งตามถนนต้องเปิดไฟ
    หมอกหนามืดเช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อนเลย พอรถไฟถึงสถานีประมาณ 10 นาที
    หมอกก็ค่อยๆ จากหายไป ชาวอุดรธานีต่างพิศวงงงงวย ต่างโจษจันกันต่างๆ นานา
    เมื่ออุบาสิกาบุญเรือน ลงรถไฟแล้ว มีผู้คนไปรับเป็นจำนวนมาก

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p< p O:p<>อุบาสิกาบุญเรือนได้พักที่บ้านผมค่ำของวันนี้ได้มีผู้มาหาเป็นจำนวนมาก
    นายครรชิต สกลคลัง พนักงานธนาคารกสิกรไทยได้มาหา
    และบอกกับอุบาสิกาบุญเรือนว่า ตัวเขาป่วยเป็นโรคปวดท้องมาเป็นเวลานาน
    เวลานี้ก็ยังปวดอยู่ได้รักษาตัวหมดเงินมากมายแล้ว อุบาสิกาบุญเรือนได้ฟังจึงสั่งในขณะนั้นว่า
    "อย่าปวด ให้หายปวดเดี๋ยวนี้" แล้วอุบาสิกาบุญเรือนก็ถามนายครรชิตว่า “หายปวดหรือยัง?”
    นายครรชิตตอบว่า “หายปวดแล้ว” อุบาสิกาบุญเรือนจึงสั่งว่า “คืนวันนี้อย่าปวด”
    (เพราะนายครรชิตบอกว่ากลางคืนปวดแทบไม่ได้นอนทุกคืน)
    <FONT color=royalblue><O:p< font O:p<>
    ครั้นรุ่งเช้านายครรชิตมาบอกอุบาสิกาบุญเรือนว่า เมื่อคืนนี้ไม่ปวดเลย
    นอนได้สบายตลอดคืน และในระหว่างที่อุบาสิกาบุญเรือนพักอยู่ที่ จ.อุดรธานีนี้
    ตอนเช้าอุบาสิกาบุญเรือนได้ไปอธิษฐานจิต ให้พลังจิตแก่ประชาชนที่วัดโพธิสมภรณ์ทุกวัน

    มีประชาชนนำน้ำ ปูน ไพล พริกไทย สาคู มาให้อุบาสิกาบุญเรือนอธิษฐานจิตอย่างคับคั่งทุกวัน<O:p< p O:p<> </O:p<>
    <O:p< p O:p<>มีคนหลังโกงคนหนึ่ง เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าค้ำได้มาหาอุบาสิกาบุญเรือนขอให้รักษา
    อุบาสิกาบุญเรือนได้ออกคำสั่งต่อหน้าประชาชนจำนวนมากว่า “ให้ทิ้งไม้เท้า!”
    ชายหลังโกงคนนั้นก็ขว้างไม้เท้าทิ้ง อุบาสิกาบุญเรือนจึงสั่งต่อไปให้ยืนตรง ๆ
    ชายหลังโกงก็ค่อย ๆ ยืดตัวและยืนตัวตรงได้ แล้วอุบาสิกาบุญเรือนก็สั่งให้ออกเดินและวิ่ง
    ชายคนนั้นก็วิ่งได้ เลยหายเป็นปรกติ เดินกลับบ้านได้เช่นคนดี ๆ นับเป็นเรื่องอัศจรรย์


    <FONT color=royalblue><O:p< font O:p<>
    นิ่วในถุงน้ำดี

    <O:p<?xml:namespace prefix="v" ns="urn:schemas-microsoft-com:vml"></O:p<?xml:namespace><?xml:namespace prefix = v /><v:shape id=_x0000_s1026 style="MARGIN-TOP: -1in; Z-INDEX: 1; MARGIN-LEFT: -90pt; WIDTH: 112.5pt; POSITION: absolute; HEIGHT: 155.25pt; mso-wrap-distance-left: 7.5pt; mso-wrap-distance-right: 7.5pt; mso-position-vertical-relative: line" alt="" o:allowoverlap="f" type="#_x0000_t75"></v:shape>ม.ร.ว.ไกรเทพ เทวกุล บันทึกไว้ดังนี้<O:p< p O:p<> เมื่อปี พ.ศ. 2494 ข้าพเจ้าป่วยมีอาการแน่นจุกเสียดทุกเดือน บางที 2 ถึง 3 เดือนต่อครั้ง
    ครั้นถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2495 รู้สึกว่าอาการเช่นนี้มีมากขึ้นจนทนแทบไม่ได้เช่น
    หายใจไม่ออก ข้าพเจ้าจึงได้ไปปรึกษาแพทย์ปริญญาที่ข้างบ้าน
    นายแพทย์ผู้นั้นได้ฉีดยาและให้ยารับประทาน อาการก็ค่อยทุเลา
    ต่อมาจากนั้น 2 ถึง 3 วันก็เป็นอีก นายแพทย์ผู้นั้นแนะนำว่าควรไปเอกซเรย์ดู
    เพราะสงสัยในอาการนั้นคงเนื่องมาจากถุงน้ำดีอักเสบ ข้าพเจ้าก็ปฏิบัติตาม
    ปรากฏตามฟิล์มเอกซเรย์โดยนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแผนกนี้


    ลงความเห็นว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี แนะนำให้ทำการผ่าตัดทันที<O:p< p O:p<> ข้าพเจ้าได้มาปรึกษาคุณป้าบุญเรือนถึงอาการเจ็บป่วย
    คุณป้าได้เอ็ดข้าพเจ้ามากมายว่า ทำไมไม่มาปรึกษาฉันตั้งแต่แรก
    ถ้าอยากตายก็เชิญไปผ่าได้ คุณป้าจึงให้ข้าพเจ้ารับประทานไพล และน้ำอธิษฐาน
    กับทั้งได้ให้ปูนอธิษฐานไปทาตามบริเวณหน้าอกและท้อง
    เว้นวันสองวัน ท่านก็นวดให้ข้าพเจ้าหนหนึ่ง ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด
    อาการก็ค่อยทุเลาและหายภายในเดือนนั้นเอง

    <O:p< p O:p<>คุณป้าบุญเรือนให้ไปฉายเอกซเรย์ดูใหม่ ข้าพเจ้าก็ปฏิบัติตาม
    กับได้นำฟิล์มทั้งเก่าและใหม่มาเทียบกันดู ปรากฏว่าในแผ่นแรกมีวงกลมสีขาว
    ประมาณเท่าเหรียญสองสลึง ส่วนในแผ่นเอกซเรย์ทีหลังไม่มี
    นายแทพย์บอกว่าในบริเวณถุงน้ำดีไม่มีก้อนนิ่วแล้ว


    <O:p< p O:p<>ยาวิเศษ

    <O:p< p O:p<>พลตรี ยุทธ สมบูรณ์ บันทึกไว้ว่า บางท่านที่มาทำความรู้จักกับ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    มักจะเรียกท่านว่า คุณแม่หมอ คุณยายหมอ หรือคำอื่น ๆ ลงท้ายว่า “หมอ”
    แต่คุณแม่บุญเรือนไม่เคยรับหรืออวดอ้างว่าท่านเป็นหมอแม้แต่ครั้งเดียว
    อย่างไรก็ดีชื่อเสียงของคุณแม่บุญเรือนก็หอมไปทั่วประเทศไทยในฐานะผู้วิเศษ
    ก็เพราะท่านอธิษฐานวัตถุสิ่งของต่างๆ ให้เป็นยารักษาโรคได้อย่างน่าอัศจรรย์ที่สุด<O:p< font O:p<>
    <FONT color=royalblue>คุณหมอปรีดา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระประแดง ทำยาผงแก้โรคผิวหนังออกจำหน่าย
    ด้วยตัวยาที่คุณแม่บุญเรือนเป็นผู้บอกให้ ตัวยาเหล่านี้ล้วนแต่เป็นชื่อภาษาอังกฤษ
    ไม่ทราบว่าคุณแม่บุญเรือนไปทราบมาได้อย่างไร เพราะการศึกษาของคุณแม่ก็เพียงอ่านออกเขียนได้
    นอกจากนั้นคุณหมอปรีดายังได้ตำรายาอีกอย่างหนึ่งคือน้ำมันโพธิ์งาม ซึ่งคุณหมอปรีดาได้ผสมขาย

    ผมสีขาวใส่น้ำมันแล้วกลายเป็นสีเทาและเข้มขึ้นทุกที <O:p< p O:p<>ยาขนานที่ 3 คือ ยาสีฟันวิเศษนิยมของโรงงานวิเศษนิยม
    ซึ่งเป็นยาสีฟันที่ทำรายได้อย่างดีตลอดมา ...ยาสีฟันวิเศษนิยมนี้
    “คุณแม่บุญเรือนก็เป็นผู้บอกตัวยาให้”
    <O:p< font O:p<>
    <FONT color=royalblue><v:shape id=_x0000_s1027 style="MARGIN-TOP: -545.25pt; Z-INDEX: 2; MARGIN-LEFT: -90pt; WIDTH: 150pt; POSITION: absolute; HEIGHT: 117.75pt; mso-wrap-distance-left: 7.5pt; mso-wrap-distance-right: 7.5pt; mso-position-vertical-relative: line" alt="" o:allowoverlap="f" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\A-CHANA\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image002.jpg" o:title="boonruen-12"></v:imagedata><?xml:namespace prefix = w ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</w:wrap></v:shape>คุณธรรมอันสูงส่งของ “คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม” อุบาสิกาผู้ใจบุญท่านนี้ยิ่งใหญ่
    ท่านเป็นผู้เสียสละ ชอบการทำบุญ ให้ทาน ไม่ยึดติดสะสมในทรัพย์สมบัติ
    มีแต่เป็นผู้ให้ตลอดมา และทั้งชีวิตท่านยังได้บำเพ็ญธรรมอย่างสม่ำเสมอ
    ตราบจนวาระสุดท้ายที่ท่านได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ ไต และโลหิตจาง
    แม้จะมีลูกศิษย์ต้องการให้ท่านมีชีวิตอยู่ต่อโดยการอธิษฐานขอแต่ท่านก็ไม่ทำ
    ท่านบอกว่า “สังขารร่างกายและใจ หรือขันธ์ห้านี้ไม่ใช่ตัวของเรา
    มันเป็นเพียงเครื่องอยู่อาศัยชั่วคราวเท่านั้น เป็นเรือนทุกข์ ท่านจึงต้องการออกจากเรือนทุกข์นี้”<O:p< font O:p<>
    ในปัจจุบันมีรูปปั้นของคุณแม่บุญเรือนอยู่บนศาลา คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    ในวัดอาวุธวิกสิตาราม หรือวัดบางพลัดนอก กรุงเทพฯซึ่งเป็นวัดที่ท่านเคยอยู่บำเพ็ญศีลสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่
    ทุกวันนี้ยังมีสานุศิษย์และผู้ศรัทธา ไปกราบไหว้รูปปั้นท่านและยังมีผู้ไปอธิษฐานจิตขอปูน ไพล
    เพื่อไปรักษาโรคจากท่านมากมายหลายราย ซึ่งแม้ว่าท่านจะจากไปนานแล้วแต่คุณงามความดี
    ชื่อเสียงในทางธรรมที่ท่านเพียรสร้างไว้ ขณะยังมีชีวิตอยู่ก็ยังมีผู้กล่าวถึงอยู่ตลอดไป

    ๏ การสร้างวัตถุมงคล
    <O:p></O:p>
    ในวงการผู้นิยมสะสมพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง
    คนส่วนใหญ่มักจะสนใจประวัติการสร้างวัตถุมงคลของพระเกจิรูปต่างๆ
    ขณะเดียวกัน ประวัติของฆราวาสจอมขมังเวทย์ก็เป็นที่สนใจอยู่ไม่น้อย
    แต่ถ้าพูดถึงการสร้างวัตถุมงคลของอุบาสิกาหรือแม่ชีนั้น
    คนวงการพระบางคนอาจะรู้จักบ้าง ส่วนคนนอกวงการพระอาจจะเกิดคำถามว่า มีด้วยหรือ ?” <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    วัตถุมงคลที่คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานจิตมอบให้ลูกศิษย์ คือ ปฐวีธาตุหรือศิลาน้ำ (หินหรือกรวดใต้น้ำ)
    เพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ มีสรรพคุณครอบจักรวาล มีอานุภาพกันภัย รักษาโรคภัย
    ตลอดจนคุ้มครองรักษาผู้มีติดตัวไป ลูกศิษย์มักนิยมนำมาใส่ในภาชนะที่ตั้งน้ำอธิษฐานประจำวันเสาร์
    และภาพถ่าย ซึ่งเป็นที่แสวงหาของคนวงการพระยิ่งนัก นอกจากนี้แล้ว หนังสืออนุสรณ์ในงานบำเพ็ญกุศล
    ฌาปนกิจศพคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ก็เป็นที่แสวงหาเช่นกัน <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ส่วน พระพุทโธน้อยเป็นพระเครื่องขนาดเล็กที่ท่านสร้างขึ้นและอธิษฐานจิตให้ไว้แก่วัดอาวุธวิกสิตาราม
    ตำบลบางพลัดนอก ฝั่งธนบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2496 เป็นพระพิมพ์แบบครึ่งซีก กรอบทรงสามเหลี่ยม
    ด้านหน้า องค์พระประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย เหนือฐานบัวสองชั้น พระเกศเป็นมุ่นเมาลี
    พระนาสิกเป็นสันนูน พระเนตรเป็นเม็ดกลมนูน และพระหัตถ์ซ้ายถือหม้อน้ำมนต์
    ส่วนด้านหลังมีอักขระขอมจารึกเป็นเส้นลึกอ่านว่า พุทโธ

    ๏ การวายชนม์ทิ้งร่าง <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    คุณธรรมอันสูงส่งของ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมอุบาสิกาผู้ใจบุญท่านนี้ยิ่งใหญ่
    ท่านเป็นผู้เสียสละ ชอบการทำบุญ ให้ทาน ไม่ยึดติดสะสมในทรัพย์สมบัติ มีแต่เป็นผู้ให้ตลอดมา
    และทั้งชีวิตท่านยังได้บำเพ็ญธรรมอย่างสม่ำเสมอตราบจนวาระสุดท้ายที่ท่านได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ
    ด้วยโรคหัวใจ ไต และโลหิตจาง แม้จะมีลูกศิษย์ต้องการให้ท่านมีชีวิตอยู่ต่อโดยการอธิษฐานขอ
    แต่ท่านก็ไม่ทำ ท่านบอกว่า "สังขารร่างกายและใจ หรือขันธ์ห้านี้ไม่ใช่ตัวของเรา
    มันเป็นเพียงเครื่องอยู่อาศัยชั่วคราวเท่านั้น เป็นเรือนทุกข์" ท่านจึงต้องการออกจากเรือนทุกข์นี้
    <o:p></o:p>
    คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ได้วายชนม์ทิ้งร่างไปเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2507 เวลา 11.00 นาฬิกา
    สิริอายุรวม 70 ปี และได้มีการบำเพ็ญกุศลฌาปนกิจศพ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2507 ณ วัดธาตุทอง
    แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
    ทั้งนี้ คุณแม่บุญเรือน ท่านรู้สถานที่ วันและเวลาวายชนม์ทิ้งร่างไป
    โดยท่านให้ตั้งเวลานาฬิกาไว้ถึง 2 เรือนล่วงหน้า คือ 11.00 น. !!! (ตรงกับเวลาวายชนม์ทิ้งร่าง)


    [​IMG]

    ภาพถ่ายที่ระลึกงานศพคุณแม่บุญเรือน ณ วัดธาตุทอง พ.ศ. 2507
    ๏ กว่า 40 ปี แห่งความศรัทธา <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ในปัจจุบันมีรูปหล่อของคุณแม่บุญเรือน ตั้งอยู่บนศาลาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    ในบริเวณวัดอาวุธวิกสิตาราม หรือวัดบางพลัดนอก เลขที่ 137 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 72
    แขวงและเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นวัดที่ท่านเคยอยู่บำเพ็ญศีลสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่
    ทุกวันนี้ยังมีผู้คนไปสักการบูชากราบไหว้ขอพรจากรูปปั้นของท่าน อยู่เสมอมิได้ขาด
    โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ เวลาหลังเที่ยง จะมีสานุศิษย์และผู้ศรัทธาของคุณแม่ต่างพร้อมใจไปชุมนุมกัน
    เพื่อสวดมนต์ต่อหน้ารูปหล่อของท่านที่ศาลาดังกล่าว โดยปฏิบัติติดต่อกันทุกวันอาทิตย์ เป็นเวลาอันยาวนาน
    ตั้งแต่คุณแม่บุญเรือนถึงแก่กรรม ซึ่งนับได้ประมาณ 40 กว่าปีมาแล้ว <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    หลังจากการสวดมนต์ นั่งสมาธิแล้ว สานุศิษย์และผู้ศรัทธาจะขอรับเอาสิ่งของต่างๆ
    ที่นำมาสักการบูชา เช่น ผลไม้ น้ำตาลทราย เกลือ พริกไทย สาคู และปูนสีแดง
    ที่ใช้ทาใบพลูสำหรับรับประทาน โดยอธิษฐานขอให้สิ่งของต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นยาแก้โรคต่างๆ
    ซึ่งก็แปลกที่หลายคนหายขาดโรคภัยที่เป็นอยู่อย่างน่ามหัศจรรย์ <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    นอกจากนี้บางคนยังเอาไพลทุกชนิดไปถวายต่อหน้ารูปปั้นของคุณแม่บุญเรือน
    แล้วจุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาท่าน อธิษฐานจิตขอให้ท่านดลบันดาลให้ไพลเป็นยารักษาโรค
    แล้วนำไพลนั้นมาทารักษาโรค ก็หายได้เช่นกัน

    คุณแม่บุญเรือนเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูง มีชื่อเสียงโด่งดังจากการใช้พลังจิตในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
    ให้คนทั่วไป รวมทั้งการนวดจับเส้น การใช้พลังจิตของคุณแม่บุญเรือนนั้น ท่านเรียกว่าเป็นการ อธิษฐานจิต
    คือ ท่านจะเข้าสมาธิให้จิตนิ่งเสียก่อน จากนั้นท่านจะอธิษฐานจิตขอให้เป็นไปตามที่ท่านปรารถนา <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    แม้ว่าท่านจะจากไปนานแล้ว แต่คุณงามความดีและชื่อเสียงในทางธรรมที่ท่านเพียรสร้างไว้ขณะยังมีชีวิตอยู่
    ก็ยังมีผู้กล่าวถึงอยู่ตลอดไป

    [​IMG]

    รูปหล่อคุณแม่บุญเรือน ที่ศาลาวัดอาวุธวิกสิตาราม


    <o:p></o:p>
    [​IMG]
    <o:p></o:p>
    <O:pงานทำบุญประจำปีคุณแม่บุญเรือน ณ วัดอาวุธวิกสิตาราม พ.ศ. ๒๕๔๙
    <o:p></o:p>

    <O:pศูนย์พุทธศรัทธา

    สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง
    เชิญท่านแวะชมและโมทนาบุญ
    มีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มจากเดิมอีกหลายรายการครับ


    [​IMG]


    </O:p

    </O:p</O:p<>
    </O:p<>

    </O:p<>
    </O:p<>
    </O:p<>
    </O:p<></O:p<>
    </O:p<></O:p<>
    </O:p<></O:p<>
    </O:p<></O:p<>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2009
  3. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    เกล็ดประวัติคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม อุบาสิกาผู้ทรงอภิญญา

    [​IMG]
    เกร็ดประวัติคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    อุบาสิกาผู้ทรงอภิญญาล่องหนหายตัวได้
    และต่อมาอัฐิท่านกลายเป็นพระธาตุ

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    เจ้าคุณพระสิทธิสารโสภณ และแม่ชีบุญเรือนพบหลวงปู่บุดดา ถาวโร<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    โพสท์ในเวบพลังจิต โดย WebSnow 14-07-2005
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ท่านเจ้าคุณพระสิทธิสารโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม ก่อนจะมาอยู่วัดอาวุธฯ
    นั้นท่านเคยอยู่วัดสัมพันธวงศ์และได้พบกับหลวงปู่บุดดา ณ ที่นั้นเอง
    หลวงปู่แนะนำท่านเจ้าคุณให้รักษาศีลเท่าชีวิต ท่านก็นำมาปฏิบัติ
    จนกระทั่งปรากฏแสงสว่างเกิดขึ้นเป็นที่น่าอัศจรรย์
    ท่านจึงเลื่อมใสศรัทธาและฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
    จนเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ท่านเจ้าคุณได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม
    ท่านก็นิมนต์หลวงปู่บุดดามาจำพรรษาที่วัดอาวุธฯ หลวงปู่ก็มาพักเป็นครั้งคราว
    และในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ จึงได้มาจำพรรษาที่วัดอาวุธฯ ๒ ปี
    ท่านมาครั้งนี้ท่านเจ้าคุณได้มรณภาพแล้ว โบสถ์ วิหารที่ท่านสร้างไว้ก็ยังไม่เสร็จ
    หลวงปู่ท่านมาอยู่ก็ช่วยสร้างศาลาและที่เก็บน้ำไว้ให้และทอดกฐินร่วมสร้างโบสถ์ที่ยังค้างอยู่<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ขณะที่ท่านเจ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ได้เคยเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า ตอนหลวงปู่อยู่ที่วัดสัมพันธวงศ์
    เวลาหลวงปู่แสดงธรรมมีคนมาฟังธรรมกันแน่นมาก รวมถึงคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    ก็ได้มีโอกาสฟังธรรมและมอบตัวเป็นศิษย์ได้นำคำสอนของหลวงปู่มาปฏิบัติ
    และบำเพ็ญความเพียรด้วยตนเองจนได้บรรลุธรรม
    (ปัจจุบันกระดูกกลับกลายเป็นอรหันตธาตุอยู่ ณ วัดอาวุธฯ)
    ท่านเจ้าคุณเคารพในปฏิปทาของแม่ชีบุญเรือนมาก
    ดังนั้นเมื่อท่านเจ้าคุณมาเป็นเจ้าอาวาสวัดอาวุธฯ
    และเมื่อคุณแม่ชีบุญเรือนมา สิ้นชีวิตลงแล้วท่านเจ้าคุณได้อนุญาต
    ให้สร้างศาลาคุณแม่บุญเรือนไว้ที่วัดอาวุธฯ เพื่อเป็นอนุสรณ์
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    พระคาถาพระสีวลี<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    พระอินทร์ ได้มอบพระคาถานี้กับคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    พระอรหันต์เจ้า ที่มีบุญบารมีทางลาภสักการะมากกว่า พระอรหันต์ด้วยกันในสมัยพุทธกาล
    พระอินทร์ ได้มอบพระคาถานี้กับคุณแม่บุญเรือนโตงบุญเติม ท่านแม้เป็นฆราวาส
    แต่ก็ได้ฝึกธรรมะถึงขั้นได้อภิญญา มีฤทธิ์เดชมากมาย ดังมีหลักฐานให้อ่านให้ดูได้ที่
    วัดอาวุธ ถ.จรัลสนิทวงศ์ บางพลัด กทม.<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    นะ ชาลีติ ฉิมพา จะ มหาเถโร<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สุวรรณะ มามา โภชนะ มามา วัตถุวัตถา มามา<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    พลาพลัง มามา โภคะ มามาร มหาลาโภ มามา<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สัพเพ ชะนา พหู ชะนา ภวันตุเม<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ถ้าจะให้เกิดลาภสม่ำเสอ ให้ท่องสวดพระคาถาตามกำลังวันดังนี้
    วันอาทิตย์ ๖ จบ วันจันทร์ ๑๕ วันอังคาร ๘ วันพุธ ๑๗ วันพฤหัส ๑๙ วันศุกร์ ๒๑ วันเสาร์ ๑๐<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ความคิดเห็นโดย ปาริสัชชา 13-07-2005<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ครอบครัวของผมเองนั้น เคารพคุณแม่บุญเรือนมาก
    และก็ได้ประจักษ์ในเรื่องอภิญญาของท่านมาหลายครั้งครับ คุณแม่ฯหายตัวได้<O:p></O:p>
    ในตอนนั้นคุณพ่อผมก็ได้บวชเป็นพระอยู่ที่วัดนั้นด้วย (วัดอาวุธฯ)
    และก็ได้เห็นเรื่องการหายตัวของคุณแม่บุญเรือนด้วย
    ซึ่งครั้งนั้นท่านเจ้าคุณฯ ได้ให้คุณแม่บุญเรือนเข้าไปอยู่ในหอระฆัง (อาจเป็นหอฉัน)
    แล้วล๊อคด้วยกุญแจข้างนอก แต่แค่พอหันหลังจะเดินลงมา
    ก็เห็นร่างของคุณแม่บุญเรือนออกมาอยู่ข้างนอกแล้ว ...
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    คุณแม่ฯ อธิษฐานน้ำที่ท่วมอยู่ให้ยุบหายไปได้<O:p></O:p>
    ในวันทำบุญบ้านของคุณแม่บุญเรือน เรือนของท่านยกใต้ถุนสูงแบบโบราณ
    ก็มีลูกศิษย์มามากมายแต่ขึ้นเรือนท่านไม่ได้เนื่องจากมีน้ำท่วมพื้นทางที่จะขึ้นบันได
    คุณแม่บุญเรือนท่านยืนอยู่ข้างบนแล้วชี้นิ้วไปที่น้ำ น้ำค่อยๆ วนแล้วยุบหายไปในพื้นดินต่อหน้าต่อตา...
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    คุณแม่ฯ อธิษฐานขอลมให้พัด<O:p></O:p>
    ในขณะทำพิธีอยู่ในเรือนของท่าน อากาศร้อนอบอ้าว ท่านชี้นิ้วขึ้นไปในอากาศ
    แล้วกล่าวว่า "ลมไปไหนหมดเจ้าค่ะ ขอให้พัดมาหน่อย" ทันใดนั้นลมก็พัดมาทันที
    จนกระดิ่งที่แขวนอยู่รอบๆ ศาลาดังระงมไปหมด คุณแม่พูดต่อไปอีกว่า "ขอแรงกว่านี้อีกค่ะ"
    คราวนี้ลมก็พัดแรงขึ้นอีกมากจริงๆ ...
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    คุณแม่ฯ ย่นทางได้<O:p></O:p>
    ครั้งหนึ่งคุณย่าของผมปวารณาที่จะขับรถไปส่งท่านที่เขาวงพระจันทร์
    (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ปรากฏว่าพอถึงเวลาไปรับท่าน ท่านยังติดแขกอยู่อีกสาม-สี่คน
    ท่านก็บอกให้ขับล่วงหน้าไปก่อน คุณย่าผมก็ขับรถไปเรื่อยๆ ไม่ได้จอดที่ไหนเลย
    แต่พอไปถึงที่หมาย ปรากฎว่าเห็นคุณแม่บุญเรือนมาอยู่ก่อนแล้ว
    และกำลังทำพิธีให้กับลูกศิษย์อยู่ และพอสอบถามกับคนที่นั่นก็ได้ความว่า
    คุณแม่บุญเรือนมาถึงร่วมๆ ชั่วโมงแล้ว และไม่เห็นว่าใครมาส่งท่านด้วย...
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    คุณแม่อธิษฐานยา<O:p></O:p>
    ครั้งนั้นคุณพ่อของผมเป็นพระหนุ่ม แต่ก็พบว่าที่ปอดมีจุดในฟิลม์เอ็กซ์เรย์
    ก็มาหาคุณแม่ (คุณแม่ห้ามลูกศิษย์ใช้คำว่า ขอให้ท่านรักษา เพราะท่านจะพูดว่า
    "ฉันไม่ใช่หมอ" ต้องพูดว่า ขอให้ท่านช่วยสงเคราะห์) พอคุณพ่อเดินขึ้นเรือนท่าน
    ท่านก็เข้ามากราบแล้วก็ไปนั่ง ยังไม่ทันได้พูดอะไร ท่านหันไปหยิบปูนที่ใช้กินกับหมากส่งมาให้
    แล้วชี้มาที่อกของคุณพ่อบอกว่า ให้เอาปูนนี้ไปทาที่อก ....<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อีกสัปดาห์ต่อมา ก็ปรากฏว่ามีเม็ดดำๆ คล้ายๆ หัวข้าวสารโผล่ออกมาจากอกคุณพ่อสามเม็ด
    ก็ใช้มือดึงออกมาทั้งสามเม็ดและไม่เกิดแผลอะไรเลย พอไปเอ็กซ์เรย์ดูอีกที
    จุดดำที่ปอดของคุณพ่อก็หายไปแล้ว
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    นี่เป็นเกร็ดเล็กน้อยที่ผมขอนำมาเล่าเสริม (ซึ่งจริงๆ มีอีกหลายเรื่องครับ)
    และเพื่อยกย่องสรรเสริญคุณแม่บุญเรือน ซึ่งแม้ท่านจะเป็นผู้หญิงแต่ท่านก็ปฏิบัติได้จริง
    และสะท้อนให้เห็นว่า คุณธรรมหรือการปฏิบัติธรรมนั้น ไม่แบ่งเพศและวัย
    ผู้ที่ทำจริง ปฏิบัติจริงก็ได้ผลจริงอย่างแน่นอน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ความคิดเห็นโดย ปาริสัชชา 25-07-2005 <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ผมขอโพสเรื่องของคุณแม่บุญเรือนต่ออีกนิดนะครับว่า จากคุณธรรมที่ประจักษ์ชัดว่า
    คุณแม่เป็นผู้มีอภิญญาจริง แต่คุณธรรมขั้นสูงกว่านั้นจนถึงขั้นบรรลุธรรมนั้นขั้นไหน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หลังจากที่คุณแม่บุญเรือนละสังขารไปแล้ว ในงานฌาปนกิจศพท่าน
    มีลูกศิษย์ท่านหนึ่งไปถามท่านเจ้าคุณ (จำชื่อไม่ได้) ว่า <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    "คุณแม่ท่านไปอยู่ไหนครับท่าน" <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ท่านเจ้าคุณท่านนี้เป็นผู้มีญาณ ท่านตอบกลับไปว่า "อยู่สุทธาวาสพรหมโลก" <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    นั่นก็หมายความว่า คุณแม่ท่านต้องเป็นพระอนาคามีแน่ ซึ่งอีกสิบกว่าปีต่อมา
    อัฐิของคุณแม่บุญเรือนที่คุณพ่อของผมเก็บเอาไว้นั้นได้กลายเป็น "พระธาตุ"
    มีวรรณะเป็นเมล็ดกลมๆ เล็กๆ หลายสี ซึ่งคุณพ่อผมก็นำมาบรรจุไว้ในหลอดตะกรุดทอง
    แล้วเลี่ยมพลาสติกซึ่งด้านหน้าจะเป็นรูปของคุณแม่<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เป็นอันว่าคุณธรรมของท่านแม่บุญเรือน อย่างน้อยก็เป็นพระอนาคามี
    และเข้าใจว่าบัดนี้ท่านคงเข้านิพพานไปแล้วครับ.....<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เรื่องนี้ผมจึงขอนำมาเล่าเสริมจากเรื่องอภิญญาจิตของท่านซึ่งยังมีรายละเอียดมากกว่านี้
    แต่ผมคงงดไว้ก่อนเพราะว่า ผู้ที่ได้อภิญญานั้นจะทำสิ่งใดก็ย่อมอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ทั้งนั้น
    หากเล่าลงในรายละเอียดมากไปผู้ฟังดูก็จะรู้สึกเฝือเสียเปล่าๆ
    ดังนั้นผมจึงขอนำเรื่องของท่านมาสรุปสุดท้ายในเรื่องมรรคผลของท่าน
    และเพื่อเป็นการเจริญศรัทธากับผู้อ่านและเป็นการสรรเสริญคุณของท่านแม่ด้วยครับ

    ศูนย์พุทธศรัทธา
    สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง
    เชิญท่านแวะชมและโมทนาบุญ
    มีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มจากเดิมอีกหลายรายการครับ



    [​IMG]
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2009
  4. สุภิญโญ

    สุภิญโญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +325
    มหัศจรรย์แห่งธรรม
     
  5. me too.

    me too. สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +5
    ขออนุโมทนา สาฐุ ครับ
    ทั้งเนื้อหาและคำคมของคุณ~๐ปาฏิหาริย์๐~ถูกใจผมมากครับ
    ขอขอบคุณครับ
     
  6. ฌานปฺปสุโต

    ฌานปฺปสุโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2009
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +145
    ท่ายเคยเกิดเป็นวีรสตรีแห่งเมืองหญิงกล้า ท่านคือย่าโม นี่เอง

    อนุโมธนาครับ สาธุ.........................
     
  7. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +1,088
    อนุโมธนาครับ สาธุ
     
  8. ยามา

    ยามา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +484
    เมื่อก่อนนี้เคยอ่านนิตยสารโลกทิพย์ของเตี่ย

    มีรูปของท่านผู้นี้เคยตัดแบ่งมาพก ตอนนั้นแบบว่าจิตตกเรื่องสอบเรียนต่อมาก็ช่วยเป็นกำลังใจให้สอบได้เหมือนกัน
     
  9. moowasin

    moowasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,695
    สาธุครับ นี่แหละผู้เข้าถึงธรรม ทุกอย่างย่อมง่ายดายไปหมด
     
  10. รักษ์พระ

    รักษ์พระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +3,128
    ขออนุโมทนาด้วยครับ ท่านเมตตาสอนเรื่องสมาธิแบบลืมตา..เป็นคุณประโยชน์มหาศาลแก่ลูกศิษย์ พระที่ท่านอธิษฐานคือพระพุทโธน้อยก็เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งครับ..
     
  11. พระอนิจจัง

    พระอนิจจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +297
    ขอคุณความดีของคุณแม่บุญเรือนได้เป็นตัวอย่างของเราๆทั้งหลายตลอดไป

    ขออนุโมทนา
     
  12. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    โมทนาครับ


    อุบาสิกาคุณย่าบุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธวิกสิตาราม (วัดบางพลัดนอก) กรุงเทพฯ
    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </FIELDSET>
     
  13. โชคแสนดี

    โชคแสนดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +397
    อนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลครับ

    สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน ถึงโลกจะสูญสิ้น แต่ยากินไม่สูญตาม
     
  14. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    อนุโมทนาสาธุ แม่ชีบุญเรือน เป็นตัวอย่างที่ดี กับ อุบาสิกาทั้งหลายค่ะ
     
  15. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    ขอขอบคุณและอนุโมทนาเป็นอย่างสูงกับทุกท่านที่กรุณาให้ความเห็นและเข้ามาอ่านครับ
    และท่านใดที่มีข้อมูลหรือประสพการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับคุณแม่บุญเรือน ช่วยกรุณานำมาโพส
    ให้อ่านกันก็จะดีและมีประโยชน์มากครับ
     
  16. เเมคมวย

    เเมคมวย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +79
    สาธุ

    อ่านเเล้ว ทึ่ง ขนลุก เลย

    ขอให้ คุณเเม่ บุญเรือน มาสงเคราะห์ ลูกด้วย
     
  17. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    หลวงปู่ชอบฯ ตอนปฏิบัติธรรมยังไม่สำเร็จ เห็นเทวดาเหาะไปฟังธรรมผ้าขาวองค์หนึ่งซึ่งได้อนาคามีผลแล้ว ก็เกิดมานะพยายามปฏิบัติมากยิ่งขึ้นไป
    แม่ชีผ้าขาวยุคพระอาจารย์มั่น ภูริทัติโตก็ภาวนาได้ดีหลายคน รวมทั้งแมีชีบุญเรือนฯนี้ด้วย
    วัดสัมพันธวงศ์ยุคนั้น มีการกวนผงแป้งทำพระเครื่องชนิดผงอยู่คราหนึ่ง ท่านพ่อลีเห็นเทวดาลงมาช่วยกวนแป้งด้วย และนำไปอธิษฐานโดยกองทัพธรรมสายพระป่า ที่วัดป่าคลองกุ้ง มีอาจารย์สิงห์ หลวงปู่ดุลย์ ศิษย์รุ่นใหญ่รุ่นแรกร่วมอธิษฐานจิตให้ด้วยรองไปๆก็ระดับหลวงปู่แหวน พระอาจารย์ฝั้น ท่านพ่อลี เป็นต้น
    เป็นยอดพระเครื่องในแผ่นดินไทยที่แท้จริง เรียกชื่อคือ พระอุดมมงคลมหาลาภ เป็นทรงพระสมเด็จแต่เป็นสีขาว
    ส่วนอันดับหนึ่งก็คือผ้ายันต์ที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตเขียนให้เสรีไทยเพื่อกู้ชาติ
     
  18. พระเมตตาธัมโม

    พระเมตตาธัมโม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +20
    บางครั้งการแสดงฤทธิ์ก็มีความจำเป็น เพื่อยกระดับศรัทธาของผู้คนให้สูงมากขึ้น
    ให้เห็นแจ้งประจักษ์ด้วยสายตาว่า ปาฏิหาริย์อันเกิดจากพลังจิตเป็นของมีจริง ไม่เพ้อฝัน
    พระพุทธเจ้าทรงห้ามเฉพาะพระภิกษุมิให้อวดอุตริมนุสสธรรมที่มีจริงแก่อนุปสัมบัน
    คือทรงห้ามพระมิให้แสดงอิทธิฤทธิ์แก่คฤหัสถ์
    แต่สำหรับคฤหัสถ์พระองค์มิได้ทรงห้าม
    เสียดายเหมือนกันที่เกิดมาช้าไปหน่อย จึงไม่ได้ชมความมหัศจรรย์...
    แต่อย่างไรก็ตาม พระพุทธองค์ทรงกล่าวยกย่อง
    อนุสาสนีปาฏิหาริย์
    คือปาฏิหาริย์แห่งกล่าวพระธรรมคำสอน ว่าเหนือกว่าอีก ๒ อย่าง
    เพราะจะเป็นเหตุปัจจัยให้ผู้ฟังตาม ดำเนินเข้าสู่การรู้แจ้งสัจธรรมได้เร็วกว่าอย่างแท้จริง
     
  19. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    ขอกราบอนุโมทนาเป็นอย่างสูง
    ที่ท่านพระเมตตาธัมโม ได้กรุณาให้ความเห็นที่ถูกต้อง
    เพราะที่สุดของปาฏิหารย์คือพระธรรมคำสอน
    ของพระพุทธองค์ที่ทำให้ผู้ปฏิบัติพ้นทุกข์ได้จริงครับ
    <!-- / message -->
     
  20. รถถัง4

    รถถัง4 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +20
    พระเครื่องที่ท่านอธิฐานจิตก็ศักดิ์สิทธิ์นะครับแต่ต้องดูให้ดีเพราะมีปลอมเหมือนกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...