งามพุทธศิลป์พระสมัยอู่ทอง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 13 มีนาคม 2008.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,445
    ชมรมพระเครื่อง

    แทน ท่าพระจันทร์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้จะขอพูดถึงพระพุทธรูปกันดูบ้าง เพราะพอดีผมได้เห็นรูปพระพุทธรูปองค์หนึ่งของคุณป่อง สุพรรณ เห็นว่ามีศิลปะที่สวยงามและน่าจะกล่าวถึง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบอู่ทองสุวรรณภูมิ จึงนำมาเป็นเรื่องพูดคุยกันในวันนี้ครับ

    พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปศิลปะอู่ทอง บางท่านเห็นอาจจะนึกว่าน่าจะเป็นแบบลพบุรีเสียมากกว่า ซึ่งความจริงแล้วนักวิชาการได้กำหนดให้เป็นศิลปะแบบนี้อยู่ในแบบศิลปะอู่ทองยุคต้น เนื่องจากศิลปะแบบอู่ทองนั้นมีช่วงเวลาอยู่ยาวนานและถ่ายทอดรูปแบบของศิลปะต่อๆ กันมาหลายร้อยปีด้วยกัน นักวิชาการจึงได้จัดช่วงของศิลปะอู่ทองออกเป็น 3 ยุค คือศิลปะอู่ทองยุคต้น ศิลปะอู่ทองยุคกลาง และศิลปะอู่ทองยุคปลาย

    ในดินแดนประเทศไทยทางภาคกลางนั้นเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรทวารวดี และต่อมาก็ถูกชาวขอมเข้าครอบครอง ศิลปะอู่ทองยุคต้นๆ นั้นจึงมีศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากที่ต่างๆ มาผสมกัน แต่ช่างที่ทำก็เป็นช่างคนไทย จึงมีรูปแบบทางศิลปะออกมาแบบผสมผสาน และถ่ายทอดรูปแบบกันต่อๆ มา

    ศิลปะอู่ทองยุคต้น หรือบางท่านอาจจะเรียกว่าอู่ทองสุวรรณภูมิ อาจจะเกิดในช่วงระหว่างพุทธศตวรรษที่ 17-18 ซึ่งจะมีอิทธิพลของศิลปะทวารวดีและขอมผสมกัน พบมากแถบจังหวัดสุพรรณบุรี อย่างองค์ที่เห็นในภาพนั้น จะเห็นได้ว่ามีอิทธิพลของขอมอยู่มาก แต่พระพักตร์เริ่มคลี่คลายอ่อนหวานขึ้นมาก จีวรก็ยังออกไปทางศิลปะขอมมาก พระศกก็ยังเป็นแบบอย่างศิลปะขอมเส้นพระเกศาเป็นแบบผมเวียน ลำพระองค์เริ่มสูงโปร่งมากขึ้น ขอบสบงจะเห็นเด่นชัด และมีไรพระศก ซึ่งขอบสบงและไรพระศกนี้จะถ่ายทอดรูปแบบศิลปะต่อมายังศิลปะอู่ทองยุคกลางและยุคปลาย

    ศิลปะอู่ทองยุคกลาง มีอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18-19 พระรัศมีบนพระเกศมาลาหรือพระเมาลีจะเริ่มเป็นแบบเปลวเพลิง ศิลปะแบบนี้เกิดขึ้นหลังจากแบบแรก ที่เรามักเรียกกันว่า พระอู่ทองแข้งสันคางคน จะสังเกตได้ว่า พระพุทธรูปในยุคนี้จะยังคงมีไรพระศก และขอบสบงเด่นชัด พระพักตร์ค่อนข้างสี่เหลี่ยม คางยื่นเล็กน้อย ฐานจะเป็นแบบฐานสำเภา หน้ากระดานแอ่นเป็นร่องเข้าข้างใน พบมากในแถบจังหวัดชัยนาท และภาคกลางตอนบน

    ศิลปะอู่ทองยุคปลาย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 19-20 เริ่มมีอิทธิพลของศิลปะสุโขทัยเข้ามาปะปนมากขึ้น แต่รูปแบบยังคงเป็นแบบอู่ทอง เช่นยังคงมีไรพระศก พระพักตร์เริ่มเป็นรูปไข่ แต่ก็ยังมีขอบสบงชัดเช่นเดิม ฐานเป็นฐานสำเภาแบบเดิม พระแบบนี้จะพบมากในอยุธยา ที่พระปรางค์กรุวัดราชบูรณะ

    พระพุทธรูปในภาพนี้เป็นพระพุทธรูปที่สวยงามมาก ศิลปะแบบอู่ทองยุคต้นหรืออู่ทองสุวรรณภูมิ รูปแบบของศิลปะยังคงเป็นแบบขอมอยู่มาก วันนี้ผมเห็นว่าเป็นพระที่น่าสนใจจึงนำรูปพระมาให้ชมกันครับ

    ด้วยความจริงใจ

    แทน ท่าพระจันทร์
    ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdNeTB4TXc9PQ==
     

แชร์หน้านี้

Loading...