จับปลาสองมือ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 11 พฤศจิกายน 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    แสงแห่งคำ ตอน จับปลาสองมือ

    คนเรามีสองมือให้ถือจับ
    ต้องเหมาะกับ สิ่งของที่ต้องถือ
    บางครั้งอาจ จักประคองทั้งสองมือ
    บางครั้งยื้อ เพียงข้างเดียวคล้องเกี่ยวพัน
    การจับปลาต้องอาศัยใช้มือช่วย
    ประกอบด้วยความชำนาญปานจักรผัน
    ปลาตัวเล็กก็จับง่ายเราไล่ทัน
    หากปลานั้นตัวใหญ่ไล่ยากเย็น
    ถ้าสองมือยื้อสองปลาคว้าผิดจุด
    ปลาอาจหลุดดิ้นกระโดดไปโลดเต้น
    หากสองมือยื้อตัวเดียวเกาะเกี่ยวเป็น
    ปลาจะเร้นหลุดมือไปไม่ได้เลย
    ในการเลือกตัดสินใจสิ่งใดนั้น
    ต้องมุ่งมั่นเพื่อเลือกข้างอย่าวางเฉย
    ขึ้นโลเลเป๋ปัดไปไม่ลงเอย
    อาจชวดเชยสิ่งที่หวังทุกครั้งไป
    เหมือน"จับปลาสองมือ"ถือสองข้าง
    จะมีใครเขาไว้วางเราบ้างไหม
    คติธรรมชี้นำทางหวังเตือนใจ
    ควรจำไว้ให้จงดีล้วนมีคุณ

    ++ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) คิดสร้างสรรค์
    อาจารย์กมล วีรวงศ์ เรียงร้อย ถ้อยคำ

    "บ้านเมืองของเราอุดมสมบูรณ์ ฉะนั้นเรื่องอดอยากไม่ต้องกลัว ถ้าทุกคนรู้จักใช้ชีวิตแบบพอเพียง ตามหลักทฤษฎีของในหลวง ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่มักมาก ไม่จับปลาสองมือ ทำได้เยี่ยงนี้ ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับเศรษฐกิจพอเพียง รับรองนี่คือคาถาอย่างดี ไม่ต้องกลัวอดตาย ไม่ต้องกลัวลำบาก เพราะถ้าญาติโยมทุกท่านน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติ พวกเราจะรู้ว่า ไม่มีความจน ในหมู่คนที่ขยันหมั่นเพียร เพราะความพอ ก็คือความรวย จงพอใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่"

    เจริญพรญาติโยมที่เป็นแฟนประจำคอลัมน์ "แสงแห่งคำ" ทุกท่าน วันนี้มาพบกันอีกเช่นเคย ทุกวันเสาร์อาตมาประจำอยู่ที่นี่ และต้องยอมรับว่าคอลัมน์นี้มีญาติโยมให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ สังเกตได้จากจดหมายจำนวนมากมายที่ส่งมาหาอาตมาที่วัดไผ่ล้อม มีมาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ แสดงความคิดเห็นต่างๆนานาเกี่ยวกับการเขียนนำเสนอในคอลัมน์นี้

    ญาติโยมหลายท่านแนะนำให้เขียนเรื่องโน้นเรื่องนี้ บางคนบอกว่าอ่านแล้วได้สติ บางคนได้คิด ซึ้งใจจนน้ำตาไหลก็มี

    สิ่งที่อาตมาดีใจในเบื้องต้นคือมีคนอ่านเยอะ เพราะถ้าเขียนไปแล้วไม่มีคนอ่าน ย่อมไม่เกิดประโยชน์อันใด พออาตมาเห็นญาติโยมอ่านกันมากขนาดนี้ เลยทำให้เกิดกำลังใจที่จะคิดอ่านมาเล่าขานสู่กันฟัง เพราะคนเรานั้นการได้ถูกเตือนสติถือเป็นเรื่องดี เพราะคนเราทุกวันนี้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการหลงใหลได้ปลื้มกับการใช้ชีวิตแบบจอมปลอม ขาดทักษะทางสติปัญญา เอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่ ชอบคิดว่าตนเองทำถูกเสมอ ไม่ยอมเชื่อฟังใคร และชอบใช้เงินเป็นใบเบิกทาง มากกว่าใช้สมองคิดกระทำ!

    พอหลงมาก ก็งมงายมาก พอรักมาก ก็เกิดอาการหึงหวง ทั้งที่เกิดมา ก็มาเพียงแต่ตัว ไม่มีอะไรติดกายมาเลย แม้เพียงชิ้นเดียว แต่พอมีเข้าหน่อย ก็หลงใหลได้ปลื้ม คิดว่าเป็นของตนเองทั้งหมด พอสุดท้ายตายไปก็เอาไปไม่ได้สักชิ้นเดียว แม้เมียรักที่กอดอยู่หลายคน พอตายไปแล้ว พวกเธอก็เมินหน้าหนี เพราะกลายเป็นศพที่เหม็นเน่า ไม่คิดจะเอามากอดรัดฟัดเหวี่ยงเหมือนเก่าก่อน พอตายไปก็ได้แต่ร่ำไห้เสียใจ มองศพด้วยความสมเพชเวทนา พอนานวันก็ลืม ว่าเคยรักเคยเป็นผัวเป็นเมียกัน ฉะนั้นให้จำไว้เสมอว่าในโลกใบนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน

    คนที่ได้คิดตามที่อาตมาพร่ำสอนไปในคอลัมน์นี้ หลายคนรู้สึกดีขึ้น ญาติโยมบางคนชอบอกชอบใจที่ได้พระมาเขียนเตือน ทำให้มีสติมากขึ้น ทำให้เริ่มรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร

    และที่สำคัญช่วงนี้ถือเป็นฤดูแห่งปลายฝนต้นหนาว แต่น้ำท่ายังคงเจิ่งนอง บางที่บางจังหวัดน้ำท่วมขังเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น ถ้าสังเกตให้ดีพอตกเย็นยุงจะเยอะมากเป็นพิเศษ แพร่เชื้อโรคร้าย ญาติโยมหลายภาคเจ็บไข้ได้ป่วย

    ความทุกข์ทรมานของคนไทยในยามนี้ ดูเหมือนจะแผ่กระจายไปทุกหย่อมหญ้า ถ้าน้ำท่าเหือดแห้งหายไป อะไรๆก็ย่อมดีขึ้นแน่นอน

    ฉะนั้นญาติโยมทุกท่านควรอย่าทุกข์ท้อใจ อย่างงอมืองอเท้า หันหน้ามาเริ่มพลิกฟื้นกันใหม่ ค่อยเป็นค่อยไป แก้ไขทีละจุด เริ่มจากชะล้างทำความสะอาดบ้านเรือน ซ่อมแซมส่วนที่พังทลายหายไปให้เข้าสู่สภาพปกติ

    เมื่อบ้านช่องเรียบร้อย ก็ค่อยขยับไปเรื่องทำมาหากิน พลิกฟื้นเลือกสวนไร่นา ให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็วจริงอยู่ห้วงนี้ยังไม่สบายใจ แต่ก็ควรปรับตัวปรับใจให้เร็ว ถึงแม้จะมีความเศร้าอยู่บ้าง แต่สติและจิตใจถือเป็นเรื่องสำคัญคนเราบางทีความคิดความอ่านมักแยกแตกแขนงไปหลายทาง ญาติโยมทุกท่านควรทำสติให้แน่วแน่ ทำใจให้มีสมาธิทุกวันนี้ใจคนแกว่ง ไม่อยู่กับร่องกับรอย สังเกตง่ายๆมนุษย์เรานี่ นั่งคุยเห็นหน้ากันอยู่ แต่ใจคิดล่องลอยไปอีกหลายเรื่อง บางทีปากพูดอยู่ที่ทำงาน แต่ใจกลับไปคิดถึงเรื่องที่บ้าน คิดแล้วว่าจะทำอะไรต่อที่บ้านหลังจากกลับไปหรือบางทีงานที่ทำอยู่ในที่ทำงาน มีหลายเรื่องค้างคา ด้วยความคิดเร็ว ทำเร็ว ใจร้อน อยากทำให้เสร็จหมดทุกอย่าง ในเวลาเดียวกัน

    สุดท้ายงานก็เสีย เพราะความเร่งรีบ อยากให้เสร็จทันใจทั้งสองงาน โบราณบอก พวกนี้คือประเภท "ชอบจับปลาสองมือ" อยากได้ ใจเร็ว

    จริงอยู่การทำงาน และการขยัน ตั้งใจทำงานนั้น ถือเป็นเรื่องดี แต่ไม่ควรรีบร้อน ไม่ควรโลภมาก งานทุกอย่างต้องทำด้วยความใจเย็น สุขุมรอบคอบละเอียดถี่ถ้วน งานจึงจะสัมฤทธิ์ผล

    ส่วนอีกประเภทหนึ่งคือพวกกลุ่มคนหนุ่มสาวทั้งหลายที่เข้าข่าย กะล่อน ปลิ้นปล้อน เจ้าชู้ หลอกลวง คบผู้ชายทีเดียว 2 คน มักมาก อยากได้ อยากมีจนเกินงาม

    บางคนถึงขนาดวิ่งสลับรางเหมือนรถไฟ คอยป้องกันระวังภัย ไม่ให้รถไฟชนกัน พวกนี้อันตรายเสมือนหนึ่งชอบจับปลาสองมือ ทำตัวเป็นพวก "รักพี่เสียดายน้อง" ไอ้นี่ก็จะเอา ไอ้นั่นก็ชอบ เข้าข่ายเป็นคนเห็นแก่ตัว จะจับทุกอย่างที่ขวางหน้า โลภมาก ตัณหากลับ

    โบราณเปรียบเปรยไว้ดีมากสำหรับคำว่า "จับปลาสองมือ" เพราะปลาไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ถ้ายังไม่ตาย มักดิ้น ร้อนรน ด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอด เพราะคงไม่มีปลาตัวไหน ยอมตายโดยไม่ต่อสู้ดิ้นรนหรือยอมทนทุกข์

    และให้สังเกตดูให้ดี ปลาทุกตัวล้วนมีผิวมันลื่น ยิ่งถ้าเปียกน้ำด้วยแล้ว จับทีเดียวสองตัวถือว่ายากมาก ขนาดจับสองมือตัวเดียว ถ้าจับไม่เก่งยังเอาไม่รอดเลย สุดท้ายก็อดกิน พาลให้มื้อนั้นต้องอดทั้งครอบครัว

    "การจับปลาสองมือ" นั้น ส่วนใหญ่แล้วไม่สัมฤทธิ์ผล ทำยังไงก็ไม่สำเร็จ ถ้าเป็นการจับปลาจริง รับรองหลุดทั้งสองมือ สุดท้ายก็ไม่ได้อะไร เสียใจไปตลอดชีวิต

    เฉกเช่นการจะทำอะไรก็แล้วแต่ ในชีวิตของเรา ควรคิดให้รอบคอบก่อนลงมือกระทำ ควรไตร่ตรองให้แน่วแน่ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหา แล้วจะได้ไม่ต้องมาแก้ไขในภายหลัง เพราะจะเสียทั้งเงินและเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

    จะคิดอ่านอะไรควรนึกถึงอนาคตในภายภาคหน้า ใช้สติปัญญาให้ดี ยกตัวอย่างเช่น เราได้รับการว่าจ้างงานจากวัดหนึ่งให้สร้างหรือทำการผลิตวัตถุมงคล ในฐานะที่เราเป็นโรงหล่อพระ เมื่อวัดหรือพระสงฆ์ท่านจ้าง ท่านย่อมกำหนดเวลาที่แน่นอน รูปแบบก็ต้องเป็นไปตามที่วัดหรือพระสงฆ์ท่านสั่ง

    ที่สำคัญในฐานะที่เราเป็นโรงงาน ต้องมีการควบคุมคุณภาพการผลิตให้ดี ต้องรู้กำลังว่าเราสามารถผลิตได้มากน้อยแค่ไหนเพียงไรในแต่ละวัน ต้องรู้หน้าที่ และเข้าใจศักยภาพของตนเองว่ามีมากน้อยแค่ไหนเพียงไร

    บางโรงงานโลภมาก อยากจับปลาสองมือ ไปรับงานจากวัดอื่นมาเพิ่มเติมอีก ด้วยความอยากรวย อยากได้เงินเยอะๆ สุดท้ายก็ทำไม่ทัน ส่งงานไม่ตรงเวลา แถมงานออกมาไม่มีคุณภาพ ไม่ทันพิธีปลุกเสกที่กำหนดไว้ พาลให้เสียหายไปทุกๆฝ่าย

    ปรากฏว่าต่อมาภายหลัง โรงงานเจ๊ง ขาดทุนย่อยยับ เพราะต้องถูกปรับ ส่งงานไม่ทันทั้ง 2 เจ้า นี่คือผลพวงที่อันตราย อันเกิดจากการจับปลาสองมือนั่นเอง

    ความคิดความอ่านของคนเรานั้น จริงอยู่ทุกคนอยากเจริญก้าวหน้า อยากแข่งขัน อยากต่อสู้ กับโลกที่กำลังพัฒนาก้าวไกล เหมือนกับประเทศไทยในยามนี้ ที่กำลังพัฒนาในทุกๆด้าน ดีบ้างเลวบ้าง ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

    แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น หลักใหญ่ใจความ ควรต้องมุ่งเน้นไปที่ ความละเอียดรอบคอบ ต้องใจเย็นๆ ทำทีละอย่าง แก้ทีละงาน อย่าทำทีเดียวหลายๆเรื่องในเวลาเดียวกัน

    ยิ่งถ้าเป็นรัฐบาลหรือหน่วยงานราชการ ยิ่งต้องวิเคราะห์วิจัยให้มากเป็นพิเศษ เพราะมันเป็นเรื่องของการบริหารประเทศ เป็นเรื่องของคนจำนวนมากมายมหาศาล สามารถชี้เป็นชี้ตายได้ทุกเหลี่ยมมุมของการปกครอง

    การจับปลาสองมือไม่ควรเกิดขึ้นในทุกสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมเล็กหรือสังคมใหญ่ หรือสังคมประเทศ หรือแม้แต่สังคมโลก

    จริงอยู่อาจมองดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ที่ใครๆก็ชอบกระทำกัน แต่ในความธรรมดาสามัญนั้น แฝงไว้ด้วยปัญหามากมายที่จะตามมา

    อาตมาพร่ำสอนลูกศิษย์ลูกหาที่นั่งอยู่ตำแหน่งสำคัญในการบริหารประเทศชาติบ้านเมืองหลายคน อาตมาเน้นให้พวกเขาเหล่านั้น ทำงานด้วยความถี่ถ้วน จับทีละงานด้วยความมุ่งมั่น ใช้คนให้ถูกกับงาน เลือกคนดีมีวินัยซื่อสัตย์ และต้องตรงต่อเวลา

    ส่วนที่เป็นบรรดาชายหนุ่มทั้งหลาย ให้ตั้งตนอยู่ในความชอบธรรม จะคบหาสมาคมกับใคร ก็ให้เลือกคบเป็นคนๆไป อย่าคบทีเดียว 2 คน หรือหลายคนในเวลาเดียวกัน

    เกิดเป็นลูกผู้ชาย ควรทำตัวให้เป็นสุภาพบุรุษ จะรักจะชอบใคร ควรจริงใจและจริงจัง รักเดียวใจเดียว ต้องรู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่เรากระทำลงไป ต้องมีความเมตตา รักและดูแลครอบครัวให้เสมอต้นเสมอปลาย อย่าทิ้งขว้างพ่อแม่ ลูกเมีย ดูแลพวกเขาเหล่านั้นด้วยความบริสุทธิ์จริงใจ อย่าตัดสินใจอะไรผิดๆ ควรปรึกษาผู้หลักผู้ใหญ่ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน

    ผู้ชายควรมีรักแท้ที่มั่นคง ตรงไปตรงมากับภรรยาของเรา ต้องไม่นอกใจ ไม่มักมากในกามคุณ ถ้าทำได้เยี่ยงนี้ครอบครัวก็อบอุ่น เพราะรักแท้ย่อมดูแลได้แน่นอน

    ผู้ชายไทยทุกวันนี้มีค่านิยมที่ผิด ชอบมีเมียหลายคน บางคนรวย สนุก มีเงินเยอะ นิยมเลี้ยงสาวไว้ห้อมล้อม พวกนี้ยังดีเพราะเขาเป็นเศรษฐีมีเงินเยอะ

    แต่พวกประเภทจนก็จน เงินก็ไม่ค่อยจะมี หาเช้ากินค่ำ แต่ก็ยังดันทุรัง หาเหาใส่หัว จับปลาสองมือ มีเมียสองคน อย่างนี้ทำยังไงก็ไม่รวย จนวันยังค่ำ หาเท่าไหร่ก็ไม่พอ เพราะตัวเองยังเลี้ยงไม่รอด แล้วยังจะดอดไปหาเรื่องมาใส่ตัวโดยไม่จำเป็น

    สุดท้ายก็มีเรื่องปวดหัว ครอบครัวทะเลาะเบาะแว้ง ลูกเต้าอดอยาก หนังสือหนังหาก็ไม่ได้เรียน จนแล้วจนอีก จนไม่มีที่สิ้นสุด การจับปลาสองมือ มีผลทำให้เกิดปัญหาตามมาหลายเรื่อง ซึ่งญาติโยมทุกท่านล้วนรู้อยู่แก่ใจดี แต่จะละวางหรือไม่นั้น ล้วนอยู่ที่ใจ

    เพราะถึงอาตมาจะสอนไปเพียงไร ถ้าเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ย่อมไม่เกิดประโยชน์อันใด คอลัมน์แสงแห่งคำ ต้องการให้ทุกคนอ่านแล้วคิด จากนั้นนำไปปฏิบัติ ทำให้เห็นผล ต่อสู้กับความจริง ต่อสู้กับอุปสรรคนานาที่เข้ามาเยือนในชีวิตเรา

    ประเทศไทยของเรามีทะเล แม่น้ำ คลอง บึง มีน้ำเยอะแยะไปหมด และในน้ำก็มีปลา แหวกว่ายไปมาจำนวนมาก บ้านเมืองของเราอุดมสมบูรณ์ ฉะนั้นเรื่องอดอยากไม่ต้องกลัว ถ้าทุกคนรู้จักใช้ชีวิตแบบพอเพียง ตามหลักทฤษฏีของในหลวง

    ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่มักมาก ไม่จับปลาสองมือ ทำได้เยี่ยงนี้ ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับเศรษฐกิจพอเพียง รับรองนี่คือคาถาอย่างดี ไม่ต้องกลัวอดตาย ไม่ต้องกลัวลำบาก เพราะถ้าญาติโยมทุกท่านน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติ พวกเราจะรู้ว่า ไม่มีความจน ในหมู่คนที่ขยันหมั่นเพียร เพราะความพอ ก็คือความรวย จงพอใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่

    จงหยุดความโลภ อย่าไปตาม อย่าไปเลียนแบบ ในสิ่งที่ไม่ดี ในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ ควรทำให้ดีที่สุดตามสติปัญญาที่เรามีอยู่

    ส่วนเด็กๆที่เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ วัยน่ารัก วัยใส นักเรียน นิสิต นักศึกษา จงเชื่อฟังพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ขยันเรียน ขยันช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน อย่าเที่ยวเตร่เฮฮา อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ขอให้ทุกคนพยายามทำตัวให้ดี อยู่ในศีลอยู่ในธรรม จะทำอะไรก็ขอให้นึกถึงพ่อแม่ ที่พยายามเลี้ยงเรามาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ลำบากลำบนมาแล้วสารพัด จงอย่าชิงสุกก่อนห่าม จงอย่าจับปลาสองมือ และจงอย่าริรักในวัยเรียน ควรเร่งรีบเรียนหนังสือให้จบเร็วๆ รีบทำการทำงาน จะได้เลี้ยงพ่อแม่ แล้วค่อยคิดมีคู่มีแฟน เรื่องของแฟนขอให้มาทีหลัง เรียนก่อน ทำงานก่อน สร้างอนาคตให้มั่นคงแข็งแรง ความรักความใคร่หาเมื่อไหร่ก็หาได้ ถ้าเราเป็นคนดี ก็มีแต่คนต้องการ

    พอเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ มีสติปัญญาดี มีประสบการณ์ ขอให้ญาติโยมทุกท่านควรยึดหลักพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเราคือชาวพุทธ ควรยึดหลักเดินสายกลาง สร้างความมั่นใจในชีวิต ลิขิตแต่สิ่งที่เป็นมหามงคล เสริมส่งชีวิตให้มั่นคงยืนยงสถาพรต่อไป

    สุดท้ายก่อนจากอาตมาขอฝากย้ำเตือนญาติโยมทุกท่านจงหมั่นขยันทำมาหากินซื่อสัตย์สุจริต กตัญญูกตเวที มีความคิดความอ่านที่ดี ไม่คิดคดทรยศโกงใคร ต้องหน้าตั้งตาประกอบสัมมาอาชีพตรงไปตรงมา

    การจับปลาสองมือ มิใช่จะมีข้อเสียเพียงอย่างเดียว ข้อดีก็มี เป็นการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะคนเราเกิดมาต้องมีเพื่อน ต้องมีพรรคพวก การคบไว้ทั้งคู่มิใช่เรื่องแปลก จะเป็นฝ่ายไหนไม่สำคัญ สามารถคบกันได้ เพราะคนเราไม่มีใครที่จะเลวทั้งหมด หรือดีทั้งหมด ในความเลวก็ย่อมมีความดี ในความดีก็ย่อมมีความเลวปะปน สำคัญที่เราคนกลาง คบหาสมาคมอยู่ทั้ง 2 ฝ่าย ต้องวางตัวให้เป็นกลาง ไม่ยุแยงตะแคงรั่ว อย่าทำให้เขาต้องทะเลาะกัน ไม่เอาเรื่องของอีกฝ่ายมาว่ากล่าวหรือให้ร้ายป้ายสี ต้องพูดด้วยความสามัคคีรักใคร่ปรองดอง ชีวิตก็จะมีแต่ความสุข ถึงแม้จะเป็นการ "จับปลาสองมือ" ก็ตาม เจริญพร

     
  2. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    อันนี้ผมขอค้านเต็มๆ เหมือนกับพวกที่พาเพื่อนลงนรก มันจะหวังดีได้ยังไง...
    สุดท้ายคือมันไม่รู้...
    ไม่เห้นจำเป็นต้องคบเพื่อนมากเลย สุดท้ายก็เพื่อผลประโยชน์กระมัง...
     

แชร์หน้านี้

Loading...