ชีโฉด หญิงโหดมารยา ช้างงารี ชายทรชน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 15 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    ผู้เขียนไปวัดพระแก้วมาเนื่องในโอกาสก่อนวันมาฆบูชา ซึ่งก็ต้องฝ่าฟันกับบรรดานักท่องเที่ยวนานา ชนิดซึ่งถ้าเราทำตัวเป็นผู้ดีมีมารยาทแล้วละก็คงไม่ได้ไหว้พระแน่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะพวกเอเชียนี่แหละ จะยืนแอ๊คถ่ายรูปกันระเกะระกะไปหมด หากจะคอยให้ว่างจึงจะเดินเพื่อที่จะได้ไม่ตัดหน้ากล้องถ่ายรูปก็คงไม่ต้องเดินไปไหนกันแล้ว

    ผู้เขียนเดินชมรูปภาพที่ฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์เงียบๆ คนเดียว ก็มาสะดุดตรงรูปภาพตอนศึกกุมภกรรณ พลันก็นึกถึงบทกลอนที่เคยอ่านมานานแล้วจนจำขึ้นใจถึงเงื่อนไขที่กุมภกรรณให้ไว้กับพิเภกว่าจะไม่รบกับพระรามหากพระรามตอบข้อปริศนาของกุมภกรรณได้

    อันนารายณ์นั้นสี่หัตถา ทรงตรีคทาจักรสังข์

    มีภุชงค์เป็นอาสน์บัลลังก์ เสด็จยังเกษียรสาคร

    นี่เป็นมนุษย์สองมือ ถือแต่ธนูศิลปศร

    เที่ยวอยู่ในป่าพนาดร เอาวานรมาเป็นโยธา

    แม้นจริงเหมือนมึงมายกยอ กูจะแจ้งในข้อปริศนา

    คือชีโฉดหญิงโหดมารยา ช้างงารีชายทรชน

    ถ้าว่าเป็นองค์พระจักริศร์ ก็จะคิดแก้ไขไม่ขัดสน

    ตัวกูผู้มีฤทธิรน จะเลิกพลคืนเข้าไปธานี

    ในสมัยที่ผู้เขียนยังเป็นเด็ก (นานนักหนาแล้ว) ข้อสอบหรือการเล่นทายปัญหามักจะมีเรื่อง "ชีโฉด หญิงโหดมารยา ช้างงารี ชายทรชน" อยู่เสมอ เป็นสาเหตุที่สำคัญที่ผู้เขียนท่องจำกลอนช่วง "ศึกกุมภวรรณ" ได้จนทุกวันนี้

    วรรณคดีรามเกียรติ์ตอนศึกกุมภกรรณนี้เป็นคติสอนใจอยู่อย่างหนึ่งคือ คนดีมีศีลธรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ไม่ได้อยู่ในปฏิรูปประเทศนั้น โดยมากนักจะตายเสียเปล่า ซึ่ง "การที่อยู่ในปฏิรูปประเทศ" นั้นเป็นมงคลข้อที่ 4 จัดเป็นมงคลข้อต้นๆ ของมงคล 38 ประการเลยดีเดียว

    อันมงคล 38 ประการนี้ พระพุทธองค์สอนเอาไว้เมื่อคราวที่ชาวบ้านและพวกเจ้าลัทธิต่างๆ ถกเถียงกันว่าอะไรเป็นมงคลที่แท้จริง เพราะเมื่อก่อนนั้นมักถือกันมากในแง่ของ " วัตถุมงคล" แต่พระพุทธเจ้าทรงเน้นถึงการประพฤติปฏิบัติทั้งสิ้น

    ซึ่งพระสงฆ์เอามาสวดมนต์อยู่ทุกวัน โดยเฉพาะสวดให้ชาวบ้านฟังในงานมงคล เช่น ขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น

    เรื่องเป็นอย่างนี้ คือ พระรามบวชเป็นฤาษี แต่เอาเมียคือนางสีดาและน้องมาอยู่ด้วยในป่า ซึ่งนางยักษ์สำมนักขาน้องสาวของทศกัณฐ์เจ้าเมืองลงกา ไปพบพระรามเข้าก็เข้าไปเกี้ยวแต่พระรามไม่เล่นด้วย นางสำมนักขาเลยพาลไปตบตีนางสีดา เลยถูกน้องชายพระรามลงโทษ นางสำมนักขาก็จึงไปอ้อนพี่ชายให้ไปลักพาตัวนางสีดามาทำเป็นเมียเสียเลย ซึ่งตรงกับนิสัยสันดานของทศกัณฐ์อยู่แล้ว เมื่อลักพาตัวนางสีดามาได้ พระรามก็เลยยกทัพวานรมาบุกเกาะลงกา ซึ่งก็ได้ฆ่าฟันญาติวงศ์ของทศกัณฐ์ตายไปมากมาย ทศกัณฐ์จึงสั่งให้กุมภกรรณน้องชายที่อยู่ในศีลสัตย์สุจริตออกไปรบ ซึ่งกุมภกรรณไม่เห็นด้วย เนื่องจากฝ่ายพี่ชายของตนนั้นเป็นฝ่ายผิดแท้ๆ จึงค้านไม่เห็นด้วยอย่างตรงไปตรงมา แต่ด้วยความรับผิดชอบที่มีศึกมาประชิดถึงบ้านแล้วจึงต้องจำใจออกไปรบ

    พิเภกซึ่งเป็นน้องของกุมภกรรณซึ่งมาเข้ากับฝ่ายพระรามอาสาไปเกลี้ยกล่อมให้กุมภกรรณไม่ให้รบ เพราะทศกัณฐ์เป็นฝ่ายผิด และพระรามนั้นคือพระนารายณ์ที่เรืองฤทธิ์ไม่มีใครสู้ได้ อวตารมาปราบยักษ์ที่เลวๆ ซึ่งกุมภกรรณไม่เชื่อแล้วฝากปริศนาไปถามพระรามที่ว่า "ชีโฉด หญิงโหดมารยา ช้างงารี ชายทรชน" คือใคร? หากพระรามตอบได้ก็จะไม่รบด้วย

    พระรามและใครๆ ก็ตอบไม่ได้ จึงให้กุมภกรรณเฉลย ซึ่งกุมภกรรณเฉลยดังนี้คือ

    อันเจ้าลงกากรุงไกร นั้นได้แก่ช้างงารี

    มารยาอาธรรม์พ้นนัก ไปลอบลักพาเมียเขาหนี

    ฝ่ายองค์พระราชสามี คือชีโฉดชั่วสามานย์

    เมียรักของตัวผู้เดียว ทิ้งไว้เปล่าเปลี่ยวในไพรสาณฑ์

    ครั้นหายเที่ยวหาไม่พบพาน จนต้องรอนราญวุ่นไป

    หญิงโหดคือสำมนักขา ชั่วช้าไม่มีที่เปรียบได้

    ไปเที่ยวเกี้ยวชายไม่อายใจ จนต้องทุกข์ภัยพันทวี

    อันชายทรชนคนชั่ว คือตัวพิเภกยักษี

    ไปเข้าด้วยพวกไพรี มิได้รู้คุณญาติกา

    เมื่อพระรามตอบไม่ได้ก็เลยต้องรบกันและกุมภกรรณจึงตายในที่สุด ทั้งๆ ที่กุมภกรรณ (ชื่อนี้แปลว่าหูเหมือนหม้อ ชื่อของคนทางชมพูทวีปและลังกานั้นเขาไม่วิลิศมาหราเหมือนชื่อคนไทยในปัจจุบันนี้หรอก) เป็นคนดีมีศีลธรรม ซื่อตรง แต่มีความรับผิดชอบต่อสังคม จึงต้องทำตามหน้าที่ของคนที่มีความรับผิดชอบ การที่อยู่ในปฏิรูปประเทศตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้เป็นมงคลลำดับต้นๆ ก็เพราะว่าเป็นการจำเป็นมากที่จะต้องมีการเลือก เนื่องจากทุกอย่างในโลกนี้มันไม่เท่ากัน

    ไม่ใช่ว่ามีโรงเรียนแล้วจะสอนดีเท่ากันหมด ไม่ใช่ว่ามีวัดมีกุฏิแล้วบวชวัดไหนก็ได้ผลเท่ากัน ไม่ใช่ว่ามีประเทศชาติบ้านเมืองแล้วจะมีผู้บริหารปกครองบ้านเมืองดีเท่ากัน หามิได้ ถ้ามันเท่ากันพระพุทธเจ้าคงไม่สอนให้เราเลือก ที่สอนให้เลือกก็เพราะมันไม่เท่ากันนั่นเอง วิธีเลือกก็ต้องยึดหลักปฏิรูปไว้ให้มั่น คือที่นั้นๆ มี "รูปเฉพาะ" หรือไม่ เช่น โรงเรียน-เป็นโรงเรียนจริงไหม หรือเป็นโรงเรียนปนโรงแรม? วัด-เป็นวัดแน่รึ หรือเป็นวัดปนบ้าน? ผู้บริหารประเทศใช่หรือเปล่าหรือเป็นพ่อค้านักเล่นหุ้น?

    คนไทยคงต้องเลือกแล้วละ หรือจะยอมเป็นกุมภกรรณก็ตามใจ

     

แชร์หน้านี้

Loading...