ตะลึง!หมอเขมรทำคุณไสยหุ่นผู้หญิง

ตะลึง!หมอเขมรทำคุณไสยหุ่นผู้หญิง



<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 8 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสายชล มาลากุล อายุ 41 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ว่าพบหลุมคล้ายกับหลุมฝังศพ บริเวณซอย 4 บ้านทับตอง หมู่ 1 ต.ปลวกแดง โดยภายในหลุมมีหุ่นผู้หญิงถูกทำพิธีทางไสยศาสตร์ จึงรีบไปตรวจสอบพบเป็นหลุมลึกประมาณ 60 ซม. กว้าง 50 ซม. ภายในหลุมมีหุ่นรูปปั้นผู้หญิงนอนอยู่ในโลงศพขนาดเท่าของจริง และถูกคลุมด้วยแผ่นพลาสติก 2 ชั้น แล้วมีผ้าขาวห่อหุ้มลำตัวตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า หน้าผากและหน้าอกถูกตอกด้วยตะปูขนาด 2 นิ้ว และมือถูกมัดตราสังด้วยด้ายสายสิญจน์อย่างแน่น หนา นอกจากนี้ยังมีไข่ไก่วางอยู่บริเวณหน้าอก 1 ฟอง

ด้านนายคูณ เนตรน้อย อายุ 69 ปี ชาวบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหมอทำพิธีแก้คุณไสยและปลดปล่อยวิญญาณ ได้เดินทางมาเยี่ยมหลานในอ.ปลวกแดง กล่าวว่า ผลงานคล้ายหลุมศพดังกล่าวน่าจะเป็นฝีมือของหมอเขมร ถ้าใครถูก กระทำและยังมีชีวิตอยู่จะเจ็บป่วย เลอะเลือนจนถึงขั้นเสียชีวิต แต่ถ้าเสียชีวิตไปแล้วจะทำให้ไม่ได้ไปผุดไปเกิด อย่างไรก็ตามชาวบ้านที่มามุงดูต่างตีเป็นเลขแทงหวยกันอย่างคึกคัก.


จาก http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=169558&NewsType=1&Template=1
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=a4 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#645553>[SIZE=+1]คุณไสยนิกายดำ[/SIZE][SIZE=+1][/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=a4 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#51402d><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></B></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY>ในคัมภีร์ไสยศาสตร์ วิชาอาถรรพณ์เวทย์ แยกเป็นสองนิกาย


นิกายขาว ใช้ในทางดี ช่วยเหลือมนุษย์ บำบัดโรคภัย ป้องกันภยันตราย
นิกายดำ ใช้ทางชั่ว ทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น ทำให้เจ็บป่วย ทำให้เป็นบ้า


สมัยโบราณ ความเชื่อเรื่องนี้มีมาก คำว่า ทำคุณ ทำของ ถูกคุณ ถูกของ หรือคำว่า ลองของ ใช้กันทั่วไป

</B></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY>อาจารย์ญาณโชติ ผู้รวบรวมคัมภีร์บอกว่า


การกระทำด้วยไสยศาสตร์ มีอยู่สามวิธี

คุณผี ใช้เวทมนตร์บังคับภูตผีเข้าไปสิงสู่คน

คุณไสย ทำด้วยเวทมนตร์ ทำให้คนคนนั้นเป็นไปตามที่ต้องการ

และคุณ...ทำด้วยอาถรรพณ์

</B></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY>คุณ...ทำด้วยอาถรรพณ์ คือวิธีทำร้าย โดยเสกสิ่งหนึ่งสิ่งใดเข้าไปในตัวคน


การฝังรูป ฝังรอย เขียนชื่อใส่อกหุ่นที่ปั้นด้วยสีผึ้งหรือดิน ถ้าเป็นดิน...ก็ต้องไปหาดินที่มีรอยเท้าศัตรูเหยียบ หรือดินที่ศัตรูปัสสาวะรด

เสกบริกรรมเวทมนตร์ เรียกเจตภูตวิญญาณฯศัตรูเข้าไปอยู่ในรูปที่เป็นหุ่นคน

กรึงด้วยเวทมนตร์แล้ว เอารูปหุ่นไปฝังในป่าช้า หรือทางสามแพร่ง ท่านว่า จะทำให้ศัตรูเจ็บป่วย หรือถึงเสียจริตบ้าคลั่ง

</B></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY>แรงถึงขั้นทำให้ตาย...ก็ได้


วิธีต่อมา เสกบริกรรมไม้กลัด เข็ม ตะปู หนังสัตว์ ผมคน หรือกระดูก เข้าไปในตัวคน ทำให้เจ็บป่วย เจ็บปวดถึงตาย

ผมเปิดดูทั้งเล่ม อาจารย์ญาณโชติ เพียงเอ่ยถึงไสยศาสตร์ นิกายดำ ว่าทำแบบไหน แต่ไม่บอกกระบวนการ </B></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY>ว่าทำอย่างไร... พูดง่ายๆ ท่านมีจรรยาบรรณ ท่านไม่สอนให้เรียนผูก


แต่ในคัมภีร์เล่มเดียวกัน ท่านก็สอนให้เรียนแก้

มนต์ถอดคุณไสย มีความยาวถึงสามหน้ากระดาษ ผมขอคัดตัวอย่างวรรคท้ายใกล้จบ...ให้พอเห็นเป็นตัวอย่าง

...ถ้าถึงมิไป นะ กูจะผูก โม กูจะมัด พุทธ กูจะรัด ธา ก็จะรึง ยะ กูจะกรึง ทั่วสรรพางค์กาย </B></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY>เสื่อมสูญหายคลายสูญสิ้น ขอเดชะพระพุทธเจ้า


ขับพิษสูหมู่ทั้งหลาย ให้ร้อนรน ให้ กระวนกระวาย ทำให้ระงับให้กระสับกระส่าย ทุรนทุรายต้องพิษสูผู้มีฤทธิ์

ถ้ากูจะระงับ ขับออกไป เสื่อมสูญหายคลายสูญสิ้น วินาสสันติฯ

มนต์บทนี้ อาจารย์ท่านว่า ใช้ทำน้ำมนต์ให้อาบกิน เสกยา เสกแป้งปิดพอก ทาร่างกายในที่ปวดบวมต่างๆ...หายสิ้น ใช้ในการถอดถอนคุณไสยได้สารพัด

</B></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY>เห็นจะต้องขอร้องกันไว้ล่วงหน้า...ใครที่เชื่อเรื่องคุณไสย ...


ไม่ต้องขอคาถาฉบับสมบูรณ์ มานะครับ บอกตรงๆ ก็ได้ว่า ผมไม่เชื่อเรื่องคุณไสย ว่าทำได้จริง

ความเจ็บป่วยมีจริง แต่ก็ถูกเฉไฉให้เป็นเรื่องคุณไสย ที่เจอๆมาด้วยตัวเอง ยืนยันได้ เป็นเรื่องต้มตุ๋นทุกเรื่อง

เมื่อไม่เชื่อว่า เรื่องคุณไสย ทำได้จริง เรื่องแก้คุณไสย ก็ไม่ต้องพูดกัน

รู้แต่เพียงว่า ยุคสมัยหนึ่ง คนเรามีความเชื่ออย่างนี้ แต่ตอนนี้ เรามีการศึกษาดีขึ้น เราฉลาดมากขึ้น เรื่องโง่ๆ แบบนี้ ไม่ควรมีมาหลอกกันอีกแล้ว.

</B></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY>

แหล่งที่มา:
​

</B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

จาก http://happy.teenee.com/xfile/question/1244.html

 

ขอบคุณครับที่นำมาเผยแพร่

เรื่องของโลก ไม่สิ้นสุดซักทีเน๊าะ

 

เมื่อพบเจอเหตุการณ์จริง สามารถสวดป้องกันไว้ด้วยคาถาธารณปริตรนี้

ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา โรคิลา ขะระลา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสติถิ เม โหตุสัพพะทา.

 

ชินบัญชร คุ้มครองได้...

 

ผมว่า พุทธคุณ แก้ได้ทุกบทแหล่ะคับ

 

พระคาถาถอนคุณไสย บทที่ ๑​

เริ่มด้วยการบูชาคุณพระรัตนตรัย คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์
เสกพระคาถานี้เป่าไปที่ร่างของตนเอง ด้วยจิตเป็นสมาธิ ๓ จบ

พุทธัง นะวะทะวารัง อะระหังปิด ปิดด้วยพระพุทธัง
ธัมมัง นะวะทะวารัง อะระหังปิด ปิดด้วยพระธัมมัง
สังฆัง นะวะทะวารัง อะระหังปิด ปิดด้วยพระสังฆัง
อะ ภะ สัง พุ วิ สะ สุ ปุ โล

 

พระคาถาถอนคุณไสย ๒


อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา อิ อะ สัง วิ สุ อะ สะ พุ ติ
ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง อิ อะ สัง วิ สุ อะ สะ พุ ติ
ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท อิ อะ สัง วิ สุ อะ สะ พุ ติ
โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ อิ อะ สัง วิ สุ อะ สะ พุ ติ
ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ อิ อะ สัง วิ สุ อะ สะ พุ ติ
คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ อิ อะ สัง วิ สุ อะ สะ พุ ติ
วา โธ โน อะ มะ มะ วา อิ อะ สัง วิ สุ อะ สะ พุ ติ
อะ วิช สุ นุต สา นุต ติ อิ อะ สัง วิ สุ อะ สะ พุ ติ

 

ให้คนอื่นเป่าให้ดีกว่านะ ผมว่าถ้าโดนไปแล้วคงไม่มีสมาธิมานั่งท่องชินบัญชรได้หรอก แค่ท่อนแรกก็จะไม่ใหวแล้วมั๊ง แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าใครโดน

 

ถาม ซะ gไปทำอะไรให้เขาแค้นถึงขั้นจะฆ่า ไม่ให้ตายหละ
ตอบ ซะ ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่เรื่องกาม ก็เรื่อง โลภ อะแหละ ก็ ยึดนักหนิ

 

ถ้ามีกรรมกระทำต่อกันมา คงแก้ไม่ได้
" ใครจะใหญ่เกินกรรม " อย่างหลวงปู่ดู่ ท่านได้กล่าวไว้

เรื่องไสยศาสตร์ มีจริง อย่าไปยุ่งเสียดีกว่า
ถ้าใครเคยอ่านเกี่ยวกับกรรมของผู้ทำไสยศาสตร์ คงรู้ดี

 

คุณไสย น่าวิตกไหม?

ขออนุญาต เล่าเรื่องให้ฟัง จากประสบการณ์ของเพื่อนที่โดนมาครับ

เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนผมผู้ไม่ประสงค์ออกนาม โดนของเขมรชนิดแรง ๆ มา (กระดูกผีตายโหงมั้งคับ ) คราวนี้ อ.ที่สอนที่มหาลัย ซึ่งแกเป็นประเภทมีองค์ก็ทักว่า โดนคุณไสย และแกก็แนะนำตำหนักที่แกรู้จักให้ (มารู้ภายหลังว่า แกไม่อยากแก้ให้เอง เพราะของมันแรงเกิน)

เมื่อทัก เพื่อนก็ไปแก้ที่ตำหนักทรง ซึ่งเพื่อนชวนผมไปด้วย เพราะสนิทกัน ต้องขอบอกก่อนว่า ตอนนั้นผมยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรพวกนี้เลยตื่นกลัวและไม่รู้วิธีที่ถูกต้องด้วยครับ

วันแรกไปแก้ ร่างทรงก็บอกวิธีต่าง ๆ บอกให้หาของอย่างนั้นอย่างนี้มา แล้วก็ทำการตรวจเช็ค ว่าใครส่งมา วิญญาณอะไร ผลที่ได้คือ เป็นของเขมรครับ จากนั้นมีการท้าทายกันระหว่างนั้นว่า "มึงจะออกไม่ออก..... ร่ายยาวกันไป มึงจะลองของกับกูใช่มั้ย......" ---พูดให้ยาวเฟื้อยครับ ผมก็นั่งฟัง แต่ตอนนั้น พึ่งเคยรู้เรื่องไสยศาสตร์เป็นครั้งแรก พวกผมก็ตกใจกันใหญ่ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

เมื่อเสร็จจากการตรวจเช็คแล้ว ร่างทรงก็จะทำการสวดถอนให้ (ให้มวนยาสูบผมมาเหน็บหู ๑ อัน บอกว่าของจะได้ไม่เข้าผม ) สวดกันประมาณ ๓๐ นาทีกว่า ๆ ไม่น่าเชื่อ ตอนนั้นใบหน้าของร่างทรงปูดออกมาเป็นรอยครับ ซึ่งตอนนั้นผมก็นั่งดูอยู่ใกล้ ๆ เรื่องราวยังไม่จบ เพราะเค้าถอนให้ได้ไม่หมด ต้องมาอาบน้ำมนต์อีก ในวันต่อมา


ตกเย็นขับรถกลับกันวันนั้น ก็เกิดอาการวิตกกันไปต่าง ๆ นานา

วันต่อมาไปอาบน้ำมนต์ เพื่อนก็เตรียมของตามที่สั่งมา ของแต่ละอย่างที่สั่งให้หานั้นก็หาได้ไม่ยาก แต่ก็ลำบากนิดหน่อยคับ มาถึงตำหนักร่างทรงก็เล่าให้ฟังว่า ของแรงนะ เมื่อวานที่เค้าช่วยแก้ให้ เค้าเป็นไข้เลยแหละ ต่อจากนั้นก็เริ่มพิธีโดยการสวดทำน้ำมนต์ แต่คราวนี้ไม่ได้สวดแข่งกันเหมือนคราวที่แล้วครับ ทำเสร็จ เค้าก็อาบน้ำมนต์ให้เพื่อนผมเป็นอันเสร็จพิธี ซึ่งคราวนี้ก็สบายใจกันว่า ของแก้เสร็จแล้ว (น้ำตาเทียนที่เอามาทำน้ำมนต์ตอนหยดลงมีสีขาว พอเสร็จพิธีจะเป็นสีเขียวข้น ๆ ก็แปลกดีคับ)

ขากลับ ก็แวะไหว้พระพุทธชินราช และเอาเทียนนั้นไปลอยหน้าวัดใหญ่ตามที่เค้าบอกคับ

สรุป นี่คือ เรื่องราวของเพื่อนครับ ยังไม่ใช่เรื่องที่ผมโดนครับ ต่อไปจะเป็นเรื่องของผมซึ่งเกี่ยวเนื่องกันครับ

 

แล้วต่อไปยังไงครับ คุณ ta_sepia,

 

คนเล่นไสยดำที่สั่งสมวิชาร้อนๆ พวกนี้ไว้มากๆ พอถึงระดับหนึ่งของจะเข้าตัว (ต้องคอยปล่อยออกมาเรื่อยๆ) อย่างในหนังลองของ 2 ก็มีเรื่องวิชากินตัว (กินจากข้างในออกมาข้างนอก) คือจ่าดิษ (ในหนัง) แกเป็นคนเล่นของที่ชอบหาคาถาอาคมทุกอย่างมาใส่ตัวเพื่อให้เหนือคนอื่น ในหนังเห็นจ่าแกท้องเหวอะหวะเหม็นเน่าหนอนไต่ยั้วเยี้ย (ทั้งที่ยังไม่ตาย) ต้องอาบน้ำแช่ว่าน เท่านั้นยังไม่หนำใจยังจะไปเอาเทพสามตามาใส่ตัวอีก


<!-- / message --><!-- sig -->

 

คุณไสย น่าวิตกไหม? ๒

พอวันต่อมา หลังจากวันนั้นแล้ว ก็มาเรียนตามปกติครับ คราวนี้ อ. แกก็ทักผมครับ ว่าผมน่ะโดนผีตามนะ ผมก็อ้าว ผีที่ไหนวะ? ในวินาทีนั้นผมก็กลัว วิตกต่าง ๆ นานาไปครับ อ. ก็เดินเข้ามาถามว่าไปที่ไหนมารึเปล่า รวมทั้งบอกวิธีแก้ให้ ว่าไปเอาน้ำมนต์วัดใหญ่มาอาบ ใส่ใบทับทิม ...... (พิธีกรรม ๑๐๘ จำไม่ได้ครับ)

ผมกลัวและวิตกครับ ว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อนผมก็ไม่สบายใจว่า "เฮ้ย กูเป็นต้นเหตุให้มึงมาติดของ" ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยไปทำตามที่ อ.บอก แต่ผมบอกเพื่อนว่า ผมไม่อยากไปแก้ที่ตำหนักทรง เพราะผมไม่มีตังค์ และไม่ชอบบรรยากาศ สรุปลงท้าย ผมกับเพื่อนก็เลยขี่รถไปไหว้หลวงพ่อพระพุทธชินราช และเอาน้ำมนต์มา ตกเย็นวันนั้นผมก็วิตกต่าง ๆ นานา และข้องใจหลายอย่างว่า
๑. ทั้ง ๆ ที่เราสวดมนต์ ทุกวัน ทำไมโดนอะไรอย่างนี้ได้ (ไม่มีเจตนาปรามาสครับ)
๒. มันคืออะไรกันแน่ มันมาตามเราเพื่อสาเหตุอะไร? มันว่างงานมาก?
๓. อาการที่โดน จะเป็นอย่างไร มันจะเอาเราถึงตายหรือเปล่า?
๔. คนทำของพวกนี้ ก็เห็นตั้งหิ้งพระ ตั้งเทพเทวดา เต็มหิ้ง แล้วทำไมจึงทำเดรัจฉานวิชา พระท่านช่วย เทพท่านช่วยพวกนี้ทำหรือ?

ตอนนั้นผมน่าจะคิดออกแต่แรกว่า เรามี Guru คนนึงอยู่นี่นา (คนนี้คล่องวิชาของ หลวงปู่ดู่ + หลวงพ่อฤๅษี คับ) ทำไมเราไม่ลองโทรถามล่ะ? ผมก็โทรไปหาพี่แก และบอกว่า "โดนของหวะ" ทำไงดี วิตก? เสร็จนั่นแกก็บอกเดี๋ยวจัดการให้ ไม่ต้องกลัว โดยดูให้ว่าเป็นอย่างไร
คำตอบคือ คนทำมันอยู่ทิศนี้ทิศนั้น เป็นคนแก่ เป็นของเขมร กระดูกผีตายโหง แต่ชิ้นไม่ใหญ่หรอก ของที่โดนมาก็แฉลบ ๆ มาแล้ว เป็นแค่ลมเพลมพัด ไม่มีไรน่ากลัว
๑. ที่สวดทุกวันน่ะ ช่วยไว้มากแล้ว รู้มั้ย ไม่ต้องวิตก เพราะหลวงปู่ก็บอกว่า ไม่น่าเป็นห่วงแล้วแหละ
๒. มันเป็นวิญญาณแหละมั้ง มาตามเพราะว่า มันมีเจ้ากรรมนายเวรผมประมาณ ๓-๔ ตัว ที่ดึงให้ผมต้องมาติดเศษคุณไสยนี้
๓. สำหรับอาการที่โดน มันก็ทำอะไรเราถึงตายไม่ได้ แค่รอทีเผลอ อาจจะทำให้เราบาดเจ็บ เกิดอุปสรรคนิด ๆ หน่อย อารมณ์หงุดงิดง่ายกว่าปกติ ... เป็นต้น
๔. คำตอบคือ เวลาที่ทำของพวกนี้ มันไม่ได้ใช้ของดี คือพระท่านไม่ช่วย เทพไม่ช่วยทำแน่นอน เพราะมันเป็นเดรัจฉานวิชา และเวลาทำแล้ว มันจะติด เหมือนคนติดยาเสพติด

เสร็จนั่น แกก็ครอบวิมานให้ (วิชาสายหลวงปู่ดู่) แกก็บอก ให้ตั้งใจนิ่ง ๆ นะ ไม่มีอะไรน่าวิตก ครูบาอาจารย์อยู่กับเรา เสร็จแล้ว แกก็บอกเนี่ย ระหว่างทำเนี่ย ไอ้ตัวนั้นก็ยังส่งกระแสจิตสู้มาเรื่อย ๆ เหมือนตอนที่ร่างทรงสวดมนต์แล้วมีรอยที่ใบหน้าขึ้นมา

จากนั้นผมก็ทำการขอบคุณพี่แกเป็นการใหญ่ ที่ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวที่ดูเหมือนจะน่ากลัวพรรค์นี้ ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้วไม่ได้มีอะไรน่ากลัวแต่อย่างใด เพียงแต่ตัวเราวิตกและไม่รู้จริงว่า มันคืออะไร มันกินอะไร มันอยู่อย่างไร วัน ๆ มันทำอะไรครับ ถ้าเรารู้สาเหตุที่แท้จริงแล้วว่า ที่เราโดน ๆ มาเนี่ย มันเจ้ากรรมนายเวรเรานั่นแหละ ที่เล่นเรา เราก็จะยอมรับครับว่า ครั้งนึงเราเคยไปทำใส่คนอื่นมาเหมือนกัน


สุดท้ายนี้ ก็ขอให้คนที่โดนน่ะครับ ชิว ๆ นะจ๊ะ โดย

๑. ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องคุณไสย (ตอนนั้นวิตกเพราะ ไม่เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้)

๒. พึ่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์สิ ไม่ต้องเสียตังค์ซักกะบาท แถมไม่ต้องลำบากยากเย็น (พุทธัง สรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ)

๓. ยอมรับซะว่า "ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม" เพราะเจ้ากรรมนายเวร คือ ตัวหลัก ครับ (มันมีเหตุมีผลที่ต้องโดนครับ)

 

การป้องกัน ก็ต้องทำทุกอย่างที่เป็นเรื่องดีๆ ทุกวัน ทำเข้าไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะตั้งใจสวดบูชาเจริญพระพุทธมนต์ แผ่เมตตา ทำบุญ กรวดน้ำ อภัย - อโหสิกรรม พยายามไม่คิดร้าย พูดไม่ดี ทำไม่ดีต่างๆ แต่ถ้าโดนแล้วอย่างอ่อนๆ ก็ต้องพึ่งพาพุทธานุภาพและบุญกุศลให้ละลายสิ่งแปลกปลอมที่มากับไสยดำให้ไหลออกไป แต่ถ้าเจอมาแรงๆ ก่อนไปหาคนถอนของให้ดูให้ดีๆ จะได้ไม่หนีเสือปะจรเข้ คนดีมีวิชามีจริง พอๆ กับคนไม่ดีที่มีวิชา แต่คิดว่ากันไว้ดีกว่าแก้ คือพยายามเอาตัวเอาใจออกห่างจากเรื่องทำนองนี้ ศึกษาวิชารู้ตามจริงในสรรพสิ่งของพระพุทธเจ้า เข้าถึงพระรัตนตรัยไม่ฝักใฝ่เรื่องเวทย์มนต์ ก็เหมือนคนชอบเที่ยวกลางคืน ก็จะได้เพื่อนกินเพื่อนเที่ยวหรือแฟนจากแวดวงนั่นแหละ

 

ต้องป้องกันก่อนโดนนะคะ
เพราะ ถ้าโดนแล้วต้องเอาออกก่อน
ไม่งั้นจะเหมือนคนป่วย จิตมันไม่สงบ

ดีที่สุด สวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วก็กำหนดพุทโธ
หรือ พองหนอ-ยุบหนอ/สัมมาอะระหัง/นะมะพะทะ
จะกำหนดอริยบทย่อย ขอให้ทุกวันค่ะ ยิ่งกำหนด
อริยบทย่อยจะทำให้ฟุ้งซ่านน้อย จิตมีกำลัง
จะสามารถป้องกันภัยได้

ที่สวดมนต์ คนที่สวดมนต์วิญญาณจะเห็นร่างกาย
ของท่านเป็นแสงสว่าง ไม่เข้ามาใกล้ค่ะ เขา
ใม่ชอบ ป้องกันดีกว่าค่ะ ดีที่สุด เลย

 

อนุโมทนาสาธุ เพิ่งโดนมาเมื่อคืนนี้ กำลังนั่งสมาธิได้ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย มีเสียงเหมือนมีใครปาหน้าต่างซึ่งเป็นกระจก เลยลืมตากระทันหันแต่ยังตั้งสติได้ลุกขึ้นไปดูไม่เห็นมีอะไร เมื่อตรวจสอบดูแล้วขณะกำลังนั่งได้แผ่เมตตาไปยังเจ้ากรรมนายเวรของพี่ชายซึ่งกำลังป่วยอยู่เนื่องจากเส้นโลหิตในสมองโป่งพอง นอนเป็นอัมพฤษกอยู่ เพิ่งเป็นได้สองวัน เจ้ากรรมนายเวรเขาคงไม่ยอมกระมัง ก่อนหน้านั่นหนึ่งวันได้ทำอย่างนี้ก็มีอาการท้องเสียไม่ทราบสาเหตุ พอวันที่สองมีปากระจก ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าใครรู้ช่วยตอบที

 

ย่อมเป็นไปตามกรรม

 

เรื่องไสยศาสตร์อย่าไปยุ่งเกี่ยวดีที่สุด มันจะเป็นกรรมเวรติดตัวไปตลอด อาจจะอนุมาณได้ในแง่ที่ว่าผู้ที่โดนคุณไสยอาจจะมีการเกี่ยวข้องกันมาก่อน ครั้งนึงดิฉันเคยไปนั่งปฏิบัติธรรมและได้ฟังท่านพระอาจารย์ท่านเทศน์ มีตอนนึงท่านได้พูดถึงเรื่องที่ท่านไปปฏิบัติกรรมฐานคอร์ส 7 เดือนกับพระอาจารย์พม่า หนึ่งในผู้ร่วมปฏิบัติธรรมเป็นผู้หญิงซึ่งตามองไม่ค่อยเห็นโดยไม่ทราบสาเหตุ เธอได้ถามพระอาจารย์พม่าว่าเธอทำอะไรไปทำไมถึงเป็นเช่นนี้ พระอาจารย์พม่าได้ตอบว่าเธอมีกรรมผูกพันเกี่ยวกับคุณไสย แต่ถึงอย่างไรให้เธอตั้งใจปฎิบัติกรรมฐานให้ได้ตามที่ตั้งใจไว้ ผ่านมา 2-3 เดือน ผู้หญิงคนนั้นได้คุยกับพระอาจารย์ว่าเธอรู้แล้วว่าเธอโดนอะไร เธอโดนคุณไสยที่นัยน์ตาและเธอก็ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำด้วย และด้วยเหตุผลที่ว่าเธอตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างแน่วแน่พอใกล้จบคอร์ส ตาเธอเริ่มมองเห็น เธอบอกว่าหลังจากที่เธอรู้ว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำ และกระทำเพราะสาเหตุใดก็ตาม แต่เนื่องจากการตั้งใจปฏิบัติธรรมทำให้เธอรู้สึกให้อภัยและแผ่เมตตาให้ทุกทุกวัน เธอบอกว่าตอนแรกก็รู้สึกยากแก่การให้อภัยแต่เมื่อศึกษาพระธรรมและแผ่เมตตาทุกวันทำให้จิตใจสงบ