9.ตามหาความทรงจำที่ขาดหาย ตอน พระราชวังพญาไท

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 7 มิถุนายน 2009.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]


    วันวารในอดีตเมื่อเวลาเดินทางมาถึงปัจจุบัน ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างลบเลือนออกจากความทรงจำ เมื่อมาเยือนพระราชวังพญาไทก็อดไม่ได้ที่ต้องนึกถึง นั่นก็คือ เมืองเล็กๆ ที่ถูกลบเลือน "ดุสิตธานี"

    ดุสิตธานี

    [​IMG]
    พระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มีพระราชประสงค์จะนำการปกครองระบอบประชาธิปไตยเข้ามาใช้ในประเทศไทยเพราะพระองค์ทรงได้รับการศึกษาที่ประเทศอังกฤษ มีพระราชดำริว่าขณะนั้นประเทศไทยมีข้าราชการที่มีความรู้สูงขึ้น และราษฎรก็ได้รับการศึกษามากขึ้นเนื่องจากการศึกษาระบบโรงเรียนได้เริ่มขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ ๕และมีเจ้านายตลอดลูกหลานข้าราชบริพารได้ไปศึกษาวิชาการ ณต่างประเทศเป็นจำนวนมากสมควรที่จะได้มีส่วนรู้เห็นในการปกครองประเทศพระองค์จึงมีพระราชดำริริเริ่มการอบรมระบอบประชาธิปไตย พระราชกรณียกิจชิ้นสำคัญของพระองค์ท่าน ซึ่งมักจะไม่ได้รับการกล่าวถึงในหน้าประวัติศาสตร์ และเกือบจะลืมเลือนไปสำหรับคนสมัยนี้ ก็คือเมืองจำลองซึ่งโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า ดุสิตธานี หรือเมืองสวรรค์ ซึ่งนักเขียนพระราชประวัติผู้หนึ่งวิจารณ์ว่า “เป็นความคิดทางการเมืองที่แปลกที่สุดในโลก” พระราชดำริในเรื่องนี้อาจเริ่มขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๔๘ เมื่อครั้งยังดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมาร และประทับที่พระตำหนักจิตรลดา ทรงโปรดเกล้าฯให้จัดเรือนแถวสำหรับพวกมหาดเล็ก และทรงทดลองการปกครองระบบนคราภิบาลหลายรูปแบบ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๖๑ เมื่อเสด็จไปประทับพักผ่อนพระอิริยาบทที่หาดเจ้าสำราญ จังหวัดเพชรบุรี และในโอกาสที่ทรงสำราญพระราชหฤทัยร่วมกับข้าราชบริพารก่อสร้างเมืองทราย และมีพระราชดำริสร้างเมืองจำลองเมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับถึงกรุงเทพ ฯ เมืองดุสิตธานีถือกำเนิดที่พระราชวังสวนดุสิต อีกหนึ่งปีต่อมาเมื่อทรงแปรพระราชฐานไปประทับที่พระราชวังพญาไท ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี ทรงโปรดเกล้าฯให้ย้ายเมืองดุสิตธานีมาตั้งบริเวณสวนหลังหมู่พระที่นั่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ ๒ ไร่ครึ่ง สิ่งก่อสร้างต่าง ๆในธานีมีขนาดสูง ๒-๓ ฟุต ประกอบด้วย บ้านเรือนเอกชนพระราชวัง ศาสนสถาน และอนุสาวรีย์ สถานที่ราชการโรงทหาร ร้านค้า โรงพยาบาล ตลาด โรงแรม ธนาคาร สถานประกอบธุรกิจต่าง ๆ ทั้งมีถนนหนทางร่มรื่น แม่น้ำคูคลอง มีทั้งสวนสาธารณะ ชุ่มชื่นด้วยน้ำพุ และน้ำตก อีกทั้งกองดับเพลิง และ บริษัทไฟฟ้า ในเมืองดุสิตธานีมีงานรื่นเริงและงานพิธีเป็นประจำ อีกทั้งการแข่งเรือในแม่น้ำเกือบทุกคืน อาคารบ้านเรือนในเมืองจำลองนี้สร้างอย่างประณีต มีลวดลายละเอียดงดงาม และมีแบบแปลกแตกต่างกันไปทั้งแบบยุโรป ไทย มัวร์ แล้วแต่รสนิยมของผู้เป็นเจ้าของ เช่นบ้านหลังหนึ่งมีโดมแบบมัวร์ หน้าต่างและประตูโค้งรับกัน หลังหนึ่งมีสวนแบบโมกุลพร้อมด้วยน้ำพุในสระตามแบบแผน อีกหลังหนึ่งสร้างบนเนินเขาเป็นแบบสวิสซาเล่ แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือเจดีย์ ซึ่งสร้างแบบปรางค์ขอมบนฐานช้างล้อม พระราชวังวัชรินทร์งดงามแบบไทยแท้ ล้อมรอบด้วยคูน้ำ ทวยนาครหรือพลเมืองดุสิตธานี ส่วนใหญ่เป็นพวกข้าราชบริพารและพระสหายใกล้ชิด หรือข้าราชการพลเรือน ทรงอนุญาตให้แต่ละคนเลือกแบบก่อสร้างตามใจชอบ การปลูกบ้านในดุสิตธานีนั้น ผู้ปลูกจะต้องยื่นเรื่องราวขอซื้อที่ดินสำหรับแต่ละหลังซึ่งมีขนาดประมาณ ๑ ตารางเมตร เมื่อได้รับพระราชานุญาตจากเจ้าหน้าที่แล้วเนื่องจากบ้านแต่ละหลังมีราคาแพง จึงมีห้องแถวให้เช่าสำหรับผู้ไม่มีเงินสร้าง ซึ่งเจ้าของบ้านทุกคนจะต้องคอยดูแลบ้านของตนให้สะอาดเรียบร้อย มีการบริการด้านสาธารณูปโภค มีพนักงานชาวที่คอยดูแลตรวจตรา เจ้าของบ้านจะต้องเสียค่าน้ำ ค่าไฟ เก็บเงินเป็นเสมียนของท่านราม ซึ่งต่างก็แข่งขันกันสนองพระราชประสงค์ให้เป็นหลังที่สวยงามที่สุด ทว่าดุสิตธานี เมืองที่สว่างไสวด้วยไฟฟ้า และถนนหนทางที่คับคั่งไปด้วยผู้คนสมมติ ไม่ได้เป็นแค่ของเล่นของผู้ใหญ่ เป็นเมืองในนิยายดังเช่นบางคนในหมู่ข้าราชบริพารเคยชอบเอ่ยอ้าง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ทรงตั้งพระทัยให้เป็นเมืองตัวอย่างในหลาย ๆด้าน ดังพระราชดำรัสในวันเปิดศาลารัฐบาลเมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๔๖๒ ว่า “…วิธีการดำเนินงานในธานีเล็กๆของเราเป็นเช่นไร ก็ตั้งใจไว้ว่าจะให้สยามประเทศได้ทำเช่นเดียวกัน แต่จะให้เป็นการสำเร็จรวดเร็วทันใจดังธานีเล็กนี้ ก็ยังทำไปทีเดียวยังไม่ได้ โดยมีอุปสรรคบางอย่าง”
    “เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าขอให้ราชการทั้งหลายตลอดจนทวยนาคร จงตั้งใจกระทำกิจการของตนตามหน้าที่ให้สมกับธานีซึ่งได้จัดตั้งขึ้นนี้ ในไม่ช้าก็จะได้แลเห็นผลของประเทศสยามว่าจะเจริญไปได้เพียงไร”



    [​IMG]

    พระองค์โปรดเกล้าฯให้พระยาบุรีนวราษฎร์ราชเลขานุการในพระองค์ แปลธรรมนูญการปกครองเทศบาลของอังกฤษแล้วทรงนำมาพิจารณาดัดแปลงแก้ไขใช้ในดุสิตธานีพระองค์ทรงร่างธรรมนูญลักษณะปกครองคำในอารัมภบทแสดงชัดถึงพระราชเจตนารมย์ว่าก่อตั้งเมืองดุสิตธานีเพื่อส่งเสริมความคิดในเรื่องการปกครองตนเองให้มีขึ้นในราษฎรไทย บรรดาทวยนาครกว่า ๒๐๐ คน ทั้งหญิงและชาย มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งนคราภิบาล ตำแหน่งซึ่งทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิงก็สามารถเป็นได้หากมีทวยนาครอื่นรับรองอีกหนึ่งคน นคราภิบาล มีอำนาจแต่งตั้งคณะนคราภิบาล ประกอบด้วย เจ้าพนักงานการคลังเจ้าพนักงานโยธา ผู้รักษาความสะดวกของประชาชน และคณะนคราภิบาลจะเลือกตั้งสภาเลขาธิการ มีหน้าที่ดำเนินการด้านงานประจำของคณะนคราภิบาล



    ดุสิตธานีมีพรรคการเมืองสองพรรค คือ พรรคแพรแถบสีน้ำเงิน (ทำหน้าที่คล้ายฝ่ายค้าน) และพรรคแถบแพรสีแดง (ฝ่ายปกครอง) การเลือกตั้งดำเนินการตาม “ธรรมนูญลักษณะการปกครองคณะนคราภิบาล (ดุสิตธานี) พระพุทธศักราช ๒๔๖๑” ซึ่งมี ๕๑ มาตรา และมีการแก้ไขเพิ่มเติม ๒ ครั้ง วิธีการสำคัญที่ทรงกระทำคือการปูพื้นฐานทางการเมืองให้แก่ประชาชนโดยผ่านกระบวนการของการปกครองท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาล ซึ่งเป็นการบริหารแบบประชาธิปไตยที่ให้ประชาชนในท้องถิ่นนั้น จึงทรงรื้อฟื้นการทดลอง ปกครองในรูปแบบเทศบาลหรือที่ทรงเรียกว่า นคราภิบาล โดยทรงจัดตั้งเมืองจำลอง “ดุสิตธานี” ณ บริเวณรอบๆ พระที่นั่งอุดรในพระราชวังดุสิต สมมุติให้ดุสิตธานีมีฐานะเป็นมณฑลหนึ่งในราชอาณาจักรสยามช่อว่า “มณฑลดุสิต” มีหม่อมเจ้าปราณีเนาวบุตร์ ทรงดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภาล ทำหน้าที่ว่าราชการมณฑล ซึ่งอาจเทียบได้กับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในปัจจุบัน เป็นหัวหน้าดำเนินการปกครองโดยทั่วไป เมืองดุสิตธานีแบ่งออกเป็น ๖ เขตการปกครอง แบ่งเป็นอำเภอและกิ่งอำเภอคือ ดุสิต, ปากน้ำ, ดอนพระราม, บึงพระราม, เขาหลวงและบางไทร แต่ละเขตอำเภอจะเลือกเชษฐบุรุษหนึ่งคนเป็นตัวแทนในคณะนคราภิบาล มีการเลือกตั้งและเสียภาษีอากรทุกเดือน เพราะทรงกำหนดให้นับเวลา ๑ เดือน ในดุสิตธานีเท่ากับ ๑ ปี ในสองปีแรกของเวลาดุสิตธานี มีการเลือกตั้ง ๗ ครั้งด้วยกัน และทุกสองปีจะมีการประกวดและให้รางวัลบ้านที่ได้มีการดูเเลรักษาดีเยี่ยม จัดการทำนุบำรุงด้านสุขาภิบาลและการป้องกันโรคภัย จัดการเก็บภาษีที่ดิน สนับสนุนให้มีการออกหนังสือพิมพ์ สนับสนุนการตั้งพรรคการเมือง จัดตั้งธนาคาร เรียกว่า ดุสิตธนาคาร ขึ้น ซึ่งต่อมาได้เป็นต้นแบบของธนาคารออมสิน



    ดุสิตธานีออกหนังสือพิมพ์รายวันสองฉบับคือ ดุสิตสมัยกับดุสิตสักขี ดุสิตสักขีมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่าดุสิตรีคอร์ดเดอร์ และรายสัปดาห์ออกทุกวันเสาร์หนึ่งฉบับคือดุสิตสมิต เนื่องด้วยพระองค์ท่านทรงห่วงใยและทรงตระหนักในพระทัยว่ามาตรฐานการหนังสือพิมพ์ของไทยยังต้องปรับปรุง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่พระองค์ท่านทรงเอาพระทัยใส่หนังสือพิมพ์ของดุสิตธานีเป็นพิเศษและทรงรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการองค์หนึ่งของหนังสือพิมพ์ดุสิตสมิต ซึ่งมีขนาด ๑๒ หน้า ประกอบด้วยบทความกวีนิพนธ์ และภาพวาด ทั้งยังทรงมีพระราชนิพนธ์ลงพิมพ์ด้วยอย่างสม่ำเสมอ เช่น เรื่อง หัวใจชายหนุ่ม ซึ่งแสดงความรู้สึกนึกคิดของหนุ่มไทยคนหนึ่งที่กลับมาบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากได้ไปศึกษาต่างประเทศเป็นเวลานาน ทรงนิพนธ์เป็นเรื่องยาวถึง ๑๐ ตอน ลงในหนังสือดุสิตสมิต เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๐



    [​IMG]
    ภาพล้อเลียนในหนังสือพิมพ์


    บุคคลนอกวงการบางคนที่ทราบว่าพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานธรรมนูญลักษณะปกครองสำหรับเมืองดุสิตธานี เริ่มมีกำลังใจและคาดหวังว่าพระองค์จะทรงมีแนวคิดเดียวกันในระดับชาติ แต่การณ์มิได้เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯจะมีพระราชดำริโน้มเอียงในทางประชาธิปไตย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หัวโบราณยังยืนกรานไม่เห็นชอบด้วย เสนาบดีท่านหนึ่งทูลเกล้าฯ ถวายความเห็นว่า พลเมืองยังขาดความรู้ความเข้าใจ... ผู้ที่ต้องการให้มีรัฐสภาคิดได้แต่ประโยชน์ของตนเองยิ่งกว่าประโยชน์ของบ้านเมือง”



    ในจำนวนบ้านเล็ก ๆ นั้น มีศาลาว่าการมณฑลดุสิตธานีและมีนาคาศาลา ซึ่งมีความหมายว่า ศาลาของประชาชน เท่ากับว่าเป็นที่ตั้งสภาจังหวัด รัชกาลที่ ๖ ทรงเป็นนาคาแห่งดุสิตธานีผู้หนึ่ง ทรงใช้นามแฝงว่า นายราม ณ กรุงเทพ ทรงเป็นทนายและทรงเป็นมรรคทายกวัดพระบรมธาตุ ทรงเป็นพระราชมุนี เจ้าอาวาสวัดธรรมธิปไตย และทรงแสดงพระธรรมเทศนาจริง ๆ ด้วย นอกจากนี้ทรงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกรณีพิพาทเรื่องที่ดิน แม้ในแวดวงของดุสิตธานีก็มีปัญหาในการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เมื่อพระเจ้าอยู่หัวทรงพยายามเป็นพลเมืองธรรมดาๆ คนหนึ่ง ทวยนาครทั้งหลายไม่อาจเล่นบทตามพระองค์ท่านได้จึงต้องถวายตำแหน่งเชษฐบุรุษพิเศษยกให้เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล



    เมืองดุสิตธานียุติบทบาทเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๔๖๘ เมื่อพระชนฉายเพียง ๔๔ ปี เมืองจำลองถูกรื้อถอน อาคารบ้านเรือนหลายหลังเจ้าของขนย้ายออกไป ส่วนที่เหลือก็ปล่อยให้ขึ้นราอยู่ในห้องเก็บของ เมืองดุสิตธานีทั้งเมืองจึงเหลือแต่ภาพถ่าย และเรื่องราวเบื้องหลังรวบรวมขึ้นด้วยความอุตสาหะของข้าราชบริพารบางท่าน ที่ยังจดจำเรื่องนี้ไว้เป็นอนุสรณ์พระราชปณิธานในพระเจ้าอยู่หัว



    ข้อมูลจาก มูลนิธิพระราชวังพญาไท,วิชาการดอทคอม, สกุลไทย

    เรียบเรียงโดย สร้อยฟ้ามาลา


    ..............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pratassanee01.jpg
      pratassanee01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.2 KB
      เปิดดู:
      1,991
    • home.jpg
      home.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.6 KB
      เปิดดู:
      2,565
    • shapeimage_2.png
      shapeimage_2.png
      ขนาดไฟล์:
      56.6 KB
      เปิดดู:
      1,878
    • A246p8x1.jpg
      A246p8x1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.5 KB
      เปิดดู:
      2,328
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ชมเมืองดุสิตธานี
    คัดลอกมาจากคำบรรยายของหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ณ ห้องประชุมหอสมุดแห่งชาติในงานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๓


    [​IMG]
    ทิวทัศน์อำเภอดุสิต ดุสิตธานี


    ภาพนี้เป็นภาพที่สวยงามมากที่สุด คล้ายกับว่าถ่ายจากอากาศ (ความจริงนั้นถ่ายจากเฉลียงชั้นบนของพระตำหนักอุดมวนาภรณ์) และเห็นภูมิประเทศทางด้านตะวันตก ของพระราชวัง พระวัชรินทร์ราชนิเวศน์เห็นส่วนหนึ่งของป้อมคงเขื่อนเพชรทางด้านซ้ายมือ มีลำน้ำดุสิตอยู่เบื้องล่าง เลี้ยวซ้ายลอดสะพานไปแล้วเลี้ยวขวา แยกเป็นสองสายเกิดเกาะแก้วพิศดารซึ่งมีพระวัชรเจดีย์ตั้งอยู่ และเกาะแมนสรวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดธรรมธิปไตย แลเห็นพระอุโบสถอยู่ทางขวามือ สะพานที่มีลักษณะแบบนี้มีอยู่ ๔ สะพาน คือ
    สะพานพระรามทรงศรี
    สะพานจักรีทรงสวัสดิ์
    สะพานจอมกษัตริย์ทรงเดช
    สะพานนเรศทรง ฤทธิ์

    ถ้าจะถือหลักเวียนทักษิณาวรรต เช่นเดียวกับพระทวาร และป้อมที่กำแพงพระราชวัง สะพานที่เห็นอยู่นี้ก็จะต้องเป็นสะพาน “นเรศทรงฤทธิ์” ซึ่งเชื่อมถนนหน้าพระลาน กับถนนสยาม ชนะศึก พื้นที่ตรงกลางภาพนี้ คือสวนในบริเวณ “บ้านนันทา” ของพระยาอนิรุทธเทวา แลเห็นอาคารใหญ่อยู่ตรงกลาง



    [​IMG]

    เมื่อท่านเข้าไปชมดุสิตธานีทางด้านอัฒจันทร์ พระที่นั่งอุดร เลี้ยวขวาเข้าไปถึงอำเภอเขาหลวง ท่านจะเห็นภาพนี้ ถนนใหญ่ที่เห็นคือถนนอาคเณยาสตร์ อาคารใหญ่ทางมุมซ้ายบน คือ โฮเต็ลเมโตรโปล ที่ทวยนาครเข้าไปได้จริงๆ แทนที่จะเข้าโฮเต็ลเมโตรโปลหลังเล็ก ซึ่งเข้าไปไม่ได้ <!-- InstanceEndEditable -->






    มีต่ออีกเยอะแยะเลย วันนี้พอแค่นี้ก่อน
    .............<!-- InstanceEndEditable -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  3. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +7,815

    ไปๆๆๆๆ ...ไชมด้วยกันเลยดีกว่า.....เจ๊ว่างวันไนห่อ่ะ.......หุ หุ หุ
     
  4. ภัค

    ภัค สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    ต้องขอชมว่าพี่สร้อยบรรยาย(โม้)ได้น่าร้ากมากค่ะ เพราะน้องไปทริบนี้ด้วย แต่วันนั้นแค่เข้าไปก้อขาสั่นแล้ว... เกินจะบรรยาย...ความเจริญกลืนบางอย่าง..แต่มิอาจกลืนหัวใจ...ความเปนไทย...จากใจคนรักวัง

    หวลรำลึก... ถึงวัง...
    ช่างใจหาย...ไยเดียวดาย...
    ทรุดโทรม...มิสมหวัง...
    ดั่งก่อนเก่า...คือสวรรค...
    ไยปัจจุบัน...พลันสูญสิ้น...
    คงไว้เพียงกลิ่นไอ...
     
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536

    แต่สำหรับพี่ เป็นความทรงจำที่อยากจะลบลืมเลือนไป ไม่อยากจะกลับมาจำอีก อย่างที่บอกแม้ว่าพระราชวังยังคงงดงาม คงความสมบูรณ์อยู่ในสายตาของคนทั่วไปที่ชื่นชมความงามและพระบารมีของพระองค์ผู้เคยเสด็จประทับอยู่... แต่ที่พี่รู้สึกเป็นพระราชวังที่อ้างว้าง ไร้ชีวิตและจิตวิญญาณของความเป็นพระราชวัง เพราะการกระทำของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มในอดีตเพื่อหวังอำนาจผนวกกับความไม่พร้อมของการศึกษาของประเทศ ไม่พูดดีกว่า...
     
  6. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    เข้าใจในจิต ของแม่สร้อย... ว่าไปวังพญาไท ในครานั้น แล้วรู้สึกเยี่ยงไร...
    เกิดเหตุการณ์ อันใดขึ้นที่นั่น...
    คงมิมี ผู้ใดอยากจดจำ... หากแต่ จำเปนต้องให้ได้รับรู้ ในฐานะข้าเก่า ที่เคยมาเยือน...
    บัดนี้... รับรู้ได้แล้ว จะทำเยี่ยงไร ปฏิบัติอย่างไรในฐานะที่เปนไท มีจิตวิญญาณในสายโลหิต...

    สิ่งที่ให้แลมอง หาใช่สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ไม่...

    หาคำตอบเอา...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2009
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ความรู้สึกนี้มีมานานแล้ว ตั้งแต่เริ่มๆ เป็นมา ก็ทราบอยู่ในจิตใจลึกๆ ว่า รู้สึกอย่างไร พอไปเยือนยิ่งตอกย้ำความรู้สึก และยิ่งชัดเจนขึ้นว่าความรู้สึกนี้มิได้เกิดขึ้นเอง มิได้อุปทานไปเอง แต่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นและเป็นไป

    เพื่อสนองความต้องการของอำนาจแค่กลุ่มบุคคลแค่กลุ่มเดียว โดยไม่คำนึงถึงความพร้อมในหลายๆ ด้าน ก็ใครเล่าจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องเป็นพวกที่มีความรู้ จบจากเมืองนอกบวกกับกำลังทางทหาร บางคนใช้ทุนคิงสกอล่าชิพของแผ่นดิน แล้วก็กลับมากระทำย่ำยีต่อผู้มีพระคุณ ช่างกตัญญูเหลือเกิน เจ้านายหลายพระองค์ต้องออกจากวัง บางพระองค์ถูกจับจำคุก ลดและถอดพระอิสริยศ พวกนี้เป็นใคร มากระทำกันถึงเยี่ยงนี้ มาบังคับให้สวมพระมาลาก่อนเสด็จออกไปข้างนอก พระเกศาถือว่าเป็นเบื้องสูง ยังบังอาจก้าวล่วง เจ้านายหลายพระองค์ต้องเสด็จประทับต่างประเทศและสิ้นพระชนม์ที่นั่น หลายพระองค์เสด็จกลับมาประเทศได้แค่พระอัฐิ ยิ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระราชทานคืนอำนาจให้แก่ปวงชน งานทุ่งพระเมรุยังไม่มี...นี่หรือคือการตอบแทนพระคุณของพระองค์ ความขมขื่นยังมีอีกมาก ไม่อยากจดจำ....แต่ก็ไม่ลืมเลือน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2009
  8. แมงปอแก้ว

    แมงปอแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +139
    ขอให้คุนสร้อยฯ (โม้) เก่งอย่างนี้ตลอดไปนะ ระวังจะมีคนเก่งกว่านะแม่

    ระวัง ระวัง นะ
     
  9. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    บ้านคหบดีที่อำเภอปากน้ำ


    ดุสิตธานีมีอาคารไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ หลัง ส่วนใหญ่เป็นอาคารสองชั้น แต่อาคารสามชั้นงามๆ ก็มีมาก เช่น บ้านหลังนี้ซึ่งอยู่ในอำเภอปากน้ำดูแบบที่สร้าง เห็นว่าคงจะอยู่สบายมาก



    [​IMG]
    บ้านคหบดี ในอำเภอเขาหลวง

    เข้าใจว่าบ้านนี้คือ “บ้านมาลากุล” ของเจ้าพระยาธรรมธิกรณาธิบดี อยู่ที่ถนนพายวาสตร์

    การวางผังถนนในอำเภอเขาหลวงนี้น่าสนใจมาก ถนนสายใหญ่ ๕ สาย คล้ายกับนิ้วมือ ๕ นิ้ว ถ้าท่านวางมือซ้ายของท่านคว่ำลง หันหน้าไปทางทิศใต้ หัวแม่มือก็คือถนนวารุณาสตร์ นิ้วชี้คือ ถนนอาคเณยาสตร์นิ้วกลางคือถนนพายวาสตร์ นิ้วนางคือถนนพรหมาสตร์ และนิ้วก้อยคือถนนเอนทราสตร์ ซึ่งพุ่งตรงเข้าไปในเขตตำบลบางไทร ทางด้านใต้สุดมีถนนชื่อเข้าชุดเดียวกัน คือ ถนนมายาสตร์ ท่านทั้งหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นเยาวชน ท่านอาจค้นคว้าดูว่าชื่อเหล่านี้มาจากอะไร ที่ไหน “จึงชักพายวาสตร์ขึ้นพาดสาย พระเนตรหมายเขม้นเข่นฆ่า ฯลฯ

    ในอำเภอนี้ยังมีถนนสายอื่นอีก ท่านทั้งหลายก็คงจะทราบแล้วว่าพระนารายณ์สี่กร ทรงถือ คฑา จักร สังข์ ธรณี เราก็มีถนน ธนูศักดิ์ จักรขลัง, สังข์สง่า, คฑาศรี และธรณีสวัสดิ์ เรียงลำดับกันมาจากใต้ไปหาเหนือ เช่นเดียวกับ 1st Street, 2nd Street, 3rd Street ฯลฯ ในนคร New York



    [​IMG]

    บ้านคหบดีที่อำเภอเขาหลวง
    บางบ้านก็มีแบบสถาปัตยกรรมแปลกๆ ไม่ทราบว่ากี่ชั้น เช่นบ้านนี้ ซึ่งอยู่ในอำเภอเขาหลวง ริมลำน้ำดุสิตด้านตะวันออก



    ............................
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceEndEditable -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  10. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]

    พระราชวังพระวัชรินทร์ราชนิเวศน์ ริมลำน้ำดุสิต

    กลุ่มอาคารที่มีความสำคัญอันดับ ๑ ก็คือพระราชวังที่มีชื่อว่า พระราชวัชรินทร์ราชนิเวศน์นั่นเอง ส่วนใหญ่จำลองมาจากพระบรมมหาราชวังที่กรุงเทพฯ ในภาพนี้จะเห็นพระราชวัง มองจากทิศพายัพ เห็นกำแพงพระราชวังพระทวาร ป้อมและพระที่นั่งต่าง ๆ มีกลุ่มพระมหาปราสาทเห็นในระยะไกล ส่วนพระที่นั่งองค์ใกล้ คือพระที่นั่งสุทไธสูรย์ปราสาท ภาพนี้ถ่ายจากถนนราชดำเนิน เห็นลำน้ำดุสิต ถนนริมกำแพงพระราชวัง คือถนนหน้าพระลาน และที่เลี้ยวไปทางขวาคือถนนเขื่อนเพชร ป้อมใหญ่ที่เห็นคือป้อมคงเขื่อนเพชร พระทวารทั้งสองที่แลเห็นคือ ประตูกุเวรรังสรรค์และประตูเวสสะวัณรังสฤษฏ์




    [​IMG]
    กลุ่มพระมหาปราสาทในพระราชวัง
    ภาพนี้คือพระราชวังมองจากทิศอุดร เห็นกลุ่มพระมหาปราสาทอยู่บนเนินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ป้อมทางขวามือคือป้อมเผด็จฤทธิ์แรง และป้อมที่มุมทางซ้ายมือคือป้อมแผลงฤทธิ์กล้า อาคารหลังเล็กหลังป้อมนี้คือ หอแก้ว หรือ ศาลพระพิฆเณศวร




    [​IMG]
    พระที่นั่งไพชยนต์มหาปราสาท
    พระที่นั่งองค์ใหญ่ที่คล้ายพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวังนี้คือ พระที่นั่งไพชยนต์มหาปราสาท ขอให้ท่านผู้มีเกียรติสังเกตความประณีตของสถาปัตยกรรมด้วย พระที่นั่งองค์ข้างซ้ายมือ คือพระที่นั่งบรมราชพิมาน คล้ายกับว่าจะแทนพระที่นั่งพิมานรัถยาในพระบรมมหาราชวัง พระที่นั่งองค์เล็กบนกำแพงแก้วทางซ้ายมือ คือพระที่นั่งอาภรณ์พิรายุธสร้างตามแบบพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ ที่ข้างพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทนั้นเอง ส่วนอาคารเล็กทางขวามือนั้น คือ ศาลท้าวหิรันยพนาสูร




    ..................................
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceEndEditable -->


    <!-- InstanceEndEditable -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]
    พระที่นั่งสุทไธสูรย์ปราสาท
    ท่านผู้มีเกียรติคงจะบอกได้ทันทีว่าภาพนี้เหมือนพระที่นั่งสุทไธสวรรค์ระหว่างประตูเทวาพิทักษ์ และ ประตูศักดิ์ชัยสิทธิ์ ของพระบรมมหาราชวังที่กรุงเทพฯ แต่ภาพนี้คือพระที่นั่งสุทไธสูรย์ปราสาท ระหว่างประตูกุเวรรังสรรค์ และประตูเวสสะวัณรังสฤษฏ์ ของพระวัชรินทร์ราชนิเวศน์ ในดุสิตธานี ถ่ายจากภายในของพระราชวัง ภาพที่เป็นฉากหลังเบื้องบนนั้นคือ พระตำหนักอุดมวนาภรณ์




    [​IMG]
    พระที่นั่งสถานชโลธร
    ภาพนี้คือพระที่นั่งสถานชโลทร ริมลำน้ำดุสิต นี่คือ “ตำหนักแพ” ของดุสิตธานีนั่นเอง อยู่ตรงประตูอุทกราชาของพระราชวังทางด้านถนนเขื่อนเพชร แลเห็นพระที่นั่งสุทไธสูรย์ปราสาทอยู่เบื้องหลัง





    [​IMG]
    พระราชวังพระวัชรินทร์ราชนิเวศน์ ด้านตะวันตก
    ภาพนี้คือบริเวณพระราชวังทางซีกตะวันตก เห็นจากใกล้ไปหาไกล คือ พระที่นั่งสุทไธสูรย์ปราสาท หอพระพุทธรัตนสถาน และพระที่นั่งจันทรกานต์มณี (เก๋งจีน) ถนนด้านล่างคือถนนหน้าพระลาน ถนนจากมุมขวาล่างตรงขึ้นไปเบื้องบน คือถนนเขื่อนเพชร บริเวณด้านขวามือคือเขตของบ้าน “สามเหลี่ยม” และสวนนันทอุทยาน



    ..............................
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceEndEditable -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  12. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    ภาค 2 (โม้) ต่อจากแม่สร้อย...

    [​IMG]

    วัง01.JPG


    สภาพโดยรอบ ก่อนเยี่ยมชม...[​IMG]

    วัง02.JPG วัง03.JPG

    วัง05.JPG วัง06.JPG

    ซุ้มขายของที่ระลึก... ตลอดจนสมุดเซ็นต์ชื่อ เข้าเยี่ยมชม เพื่อทำสถิติ...[​IMG]
    วัง07.JPG วัง08.JPG วัง09.JPG

    ในระหว่างที่นั่งรอแม่สนิมสร้อย อยู่นั้น .. [​IMG] ได้เข้าไปพูดคุยกะเจ้าของร้านกาแฟ ทราบมาว่าชื่อจ่าหวัง... จ่าให้ความร่วมมือดีมาก พร้อมทั้งมอบกาแฟเย็นแบบพูนเต็มแก้ว โดยไม่คิดมูลค่า และบอกอีกว่า ให้ช่วยโปรโมทร้านผมด้วยนะครับ ....มีหรือ จะรอช้า อิ อิ... [​IMG] รสชาตกาแฟภายใต้ยี่ห้อ " จ่าหวัง " ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา กลมกล่อมดีมาก แถมตั้งชื่อกาแฟแปลก แหวกแนวไม่เหมือนมนุษย์เลย...เริ่มจำหน่ายกาแฟ ตามวันและเวลาของการเข้าชมวังพญาไท จ่ะ...[​IMG]
    วัง10.JPG วัง11.JPG วัง12.JPG
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2009
  13. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    คุณพี่พิชญ์อ่ะ เค้าไม่ได้สนิมสร้อยสักกะหน่อย...
     
  14. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392

    อย่าบ่น อย่าบ่น....แม่สนิม... [​IMG] [​IMG]
     
  15. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    คอยติดตามอ่านค่ะ
     
  16. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    จ๊า...ตอนนี้ต้องไปเช็คเรทติ้งที่กระทู้อื่นก่อน..เลยทำให้เข้ามาอัพที่ห้องนี้ช้า.... [​IMG] ทานข้าวเย็นไปพลาง ๆ ก่องนะคะ...เดี๋ยวมาต่อค่ะ...

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] ....เต้นระบำให้ดูก่อน 1 เพลง แบบ no stop ...พรุ่งนี้ค่อยมาต่อเด๊อค่า... ไปแระ...[​IMG]ฟิ้วววว.....
     
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    เรทติ้งกระทู้นี้ไม่ค่อยพุ่งหรอก สงสัย ข้อความอ่านแล้วคงซีเรียสมากไปหน่อย.... หนักข้อมูลเยอะไปมั้ง .....
     
  18. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536

    ขอบคุณพี่แอ๊ดที่ติดตามนะจ๊ะ.... เข้ามาบ่อยๆ นะ เงียบเหงา เงียบเหงา...
     
  19. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    รวมเหล่าพระที่นั่ง...

    พระที่นั่งพิมานจักรี
    พิ01.JPG พิ02.JPG พิ03.JPG
    ความเปนมา แต่ดั้งเดิม [​IMG]
    พิ05.JPG พิ06.JPG พิ07.JPG
    ค่อย ๆ ขึ้น ไปทีละชั้น....[​IMG]
    พิ08.JPG พิ09.JPG พิ10.JPG พิ11.JPG
     
  20. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    โม้ต่อ...

    เดินขึ้น ชั้น 2..[​IMG]

    พิ12.JPG พิ13.JPG พิ14.JPG

    พิ16.JPG พิ17.JPG

    ห้องน้ำนะเนี่ย...[​IMG]
    พิ15.JPG


    ห้องอินทรศักดิศจี

    พิ18.JPG พิ19.JPG พิ20.JPG พิ21.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...