ตีแผ่ธุรกิจนวดแผนไทย(แอบบริการทางเพศ)ในต่างประเทศ และอยากทราบผลกรรมที่เค้าจะได้รับ

ดิฉันมาใช้ชีวิตที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียได้เกือบ 5 ปี และได้พบว่าธุรกิจหนึ่งที่คนไทยและจีนที่นี่ชอบเปิดคือ ร้านนวดแผนไทย ซึ่งจะมีทั้งนวดแผนไทย นวดน้ำมัน นวดกดจุด สาระพัดนวดแบบต่างๆ จึงเป็นผลให้ผู้ประกอบการและหมอนวดบางกลุ่มทำธุรกิจนวดแอบแฝง คนที่นี่จะเรียกกันว่า happy ending massage หรือนวดกระปู๋ (ขออภัยใช้คำไม่เหมาะสม) ถ้าว่าไปแล้วจำนวนร้านประเภทนี้มักมีทั้งที่เป็นคนไทยและจีนเปิดกัน เท่าที่ทราบจากเพื่อนฝรั่ง เค้าบอกว่าร้านจีนมีการให้สอดใส่ร่วมเพศกันด้วยเลย หรือจะให้หมอนวดใช้ปากเพื่อบริการลูกค้า ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการให้บริการแบบใดๆก็ตามถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายของออสเตรเลีย เพราะเค้าแยกชัดเจนธุรกิจร้านนวดต้องนวดเท่านั้น หากจะมีอะไรมากกว่านี้ต้องเป็น Brothel ซึ่งเสียภาษีแพง ค่าบริการก็แพง

ดังนั้นนักธุรกิจร้านนวดบางคนจึงอาศัยช่องทางนี้หาเงินจากลูกค้าที่อยากจะถูกนวดและมาประกอบกิจกามด้วยเพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่าที่ลูกค้าจะไปซ่องถูกกฎหมายมาก เท่าที่ดิฉันทราบมาที่ซิดนีย์ร้านนวดไทยแบบ happy ending มีจำนวนมาก ลูกค้ามักเป็นพวกแขกที่อพยพมาอยู่ออสเตรเลีย (ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีคนต่างชาติอพยพมามากมายหลายเชื้อชาติ แต่ที่ซิดนีย์จะมีพวกเลบานีสหรือชาวเลบานอนเยอะ) ที่เมลเบิร์นเมื่อก่อนร้านนวดแบบนี้ยังมีไม่มาก แต่หลังๆพวกร้านนวดไทยปกติจำนวนลูกค้าสู้ร้านนวดแบบแอบแฝงไม่ได้ จึงเปลี่ยนแนวทางทำมาหากินมานวดอย่างว่าไปด้วย

จากธุรกิจประเภทนี้ทำให้กระทบชื่อเสียงประเทศไทยและต่อผู้หญิงไทยที่อยู่ต่างประเทศอย่างมาก ทำให้คนที่ทำงานเป็นหมอนวดปกติก็ถูกเหมาว่าเป็นหมอนวดแบบอย่างว่าไปด้วย ดิฉันเคยได้รู้จักพี่ท่านหนึ่งเมื่อก่อนย้ายมาอยู่เมลเบิร์น เค้าทำนวดแอบแฝงที่ซิดนีย์มาก่อน แกเล่าให้คนอื่นฟังว่ารายได้เดือนละล้านกว่าบาท ใช้เวลานวดลูกค้าต่อคนไม่เกิน 15 นาที แต่เงินที่หามาได้เยอะแยะอย่างนี้ก็ไม่ได้ทำให้แกมีความสุข แต่มีปัญหาครอบครัวทั้งที่ไทยและครอบครัวกับสามีฝรั่งที่นี่ ดิฉันคิดว่าเป็นผลกรรมที่พี่เค้ามาทำงานประเภทนี้แน่ๆ

อีกรายน้องคนนี้เคยเป็นพนักงานธนาคารที่ไทยและลาออกมาเรียนภาษาที่ซิดนีย์ จากนั้นไปสมัครงานร้านนวดแอบแฝง เค้าบอกได้ทิปดีจะได้มีเงินไว้ชอปปิ้ง หลายๆคนที่มาทำงานแบบนี้เค้าบอกว่าไม่ได้เป็นการผิดศีลเพราะไม่ได้มีอะไรกับลูกค้า ดิฉันได้ยินเช่นนั้นแล้วคิดว่ามันเป็นความเข้าใจผิดมากๆ และอีกอย่างค่าครองชีพที่ซิดนีย์แพงมากๆทำให้มีนักเรียนหญิงไทยลงเอยด้วยการทำงานในร้านนวดแอบแฝงแบบนี้กันเยอะ บางคนจะไม่บอกว่าตัวเองทำงานร้านนวดแต่มักจะบอกว่าทำงานร้านอาหารไทยแทนเพราะชื่อเสียงธุรกิจประเภทนี้ไม่ดี ที่เมลเบิร์นถึงจำนวนร้านนวดแบบแอบแฝงนี้ไม่มากเท่าที่ซิดนีย์ ดิฉันอยู่ที่นี่ได้ยินเรื่องราวแย่ๆที่ชื่อเสียงผู้หญิงไทยที่มาอยู่ที่นี่ทำให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองออสเตรเลียเข้มงวดไม่ออกวีซ่าให้สาวไทยง่ายๆ นี่ก็คือผลการกระทำที่สาวไทยบางกลุ่มมาทำให้กระทบคนที่เค้ายื่นวีซ่ามาออสเตรเลียปกติเพื่อจะมาใช้ชีวิตทำงานหรือเรียนหรือแต่งงานที่นี่

ดิฉันอยากทราบว่าผลกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้องธุรกิจนวดแอบแฝงนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง?
1. เจ้าของธุรกิจ 2. ตัวหมอนวดที่ยังโสดแต่นวดลูกค้าที่โสด 3. หมอนวดที่ไม่โสดและนวดลูกค้าที่ไม่โสด 4. หมอนวดที่โสดแต่นวดลูกค้าที่ไม่โสด

 

มันกระเทือนชื่อเสียงของชาติ เพราะเราคิดว่ากระเทือนครับ
ในมุมมองทั่วไปคือ เมื่อมีสัมพันธ์แล้วจ่ายเงินเป็นการแลกเปลี่ยน นั่นคือขายตัว ไม่ถูกต้อง
แต่ฝรั่งมั่งค่าเมืองนอกเมืองนาฟรีเซ็ก ให้ฟรีไม่เสียตัง จริงๆแล้วมันก็น่าอาย และไม่ถูกต้อง พอๆกันนั่นแหละ ชาติเราไม่ได้เสียชื่อเสียงหรอกครับ แต่ผู้คนนั้นเสียสติหลงระเริงในกามราคะมากกว่า ถึงพวกต่างชาติจะกล่าวหา แต่ก็หลั่งไหลกันเข้ามา เพื่อแสวงหาบริการดังกล่าว ดูแล้วก๋อนาถพอกัน

 

การงานใดๆก็ตามที่เป็นไปกับการล่วงศีล ต่างได้ชื่อว่าเป็นอาชีพทุจริตทั้งนั้น..

เมื่อเจ้าของกิจการก็ดี พนักงานก็ดี แสดงเจตนารมณ์ในการให้บริการนวด แต่ได้เพิ่มการให้บริการทางเพศลับๆนี้เป็นการโกหก ใช้เล่ห์เพื่อเลี่ยงกฏหมาย บาปที่คิดเลี่ยงระเบียบเขา ย่อมส่งผลให้ถูกทำลายผลประโยชน์ ด้วยเล่ห์ทำนองเดียวกับเจตนาที่ตนมี..

เมื่อลูกค้ามาใช้บริการ หากเป็นไปด้วยอาการล่วงศีล โดยเฉพาะข้อ๓ (ดูรายละเอียดข้างล่าง)...ทั้งเจ้าของ พนักงานและลูกค้า ย่อมได้เสวยผลจากบาปกรรมนั้นๆ ตามกำลังแห่งเจตนาที่แต่ละคนมี..

..

การประกอบกิจกามทั้งหลาย ไม่ใช่กิริยาของกุศล เพราะกามกิจจะสำเร็จได้ ด้วยอำนาจตัณหาราคะ(คือโลภะ)..เพียงแต่ในการทำกิจระหว่างสามีภรรยาเป็นกิจที่ไม่ได้ละเมิดบุคคลอื่น ไม่เป็นเหตุแห่งการทะเลาะวิวาทแก่งแย่งฆ่าฟันกันเท่านั้น...ดังนั้นแม้การให้บริการทางเพศก็สนับสนุนให้มีการเพิ่มพูนตัณหาราคะหรือกิเลสที่มีแต่ทุกข์โทษภัยทั้งสิ้น..กิจการดังกล่าวจึงเป็นบาปเพราะเหตุนี้อีกข้อหนึ่ง ..

ส่วนความเดือดร้อนที่ถูกกระทบของจขกท.นั้น ให้ระงับลงเสียด้วยความรู้เท่าทันว่า ใครๆไม่อาจห้ามความคิดหรือคำพูดของใครๆในโลกได้ แต่ตนย่อมห้ามความใส่ใจในคำพูดของคนอื่นได้ เพราะทราบว่าตนไม่ได้อยู่ ในกลุ่มที่เขากล่าวหา การเอาใจไปเป็นเป้ารับคำพูดของใครๆ เป็นการทำตนเองให้ทุกข์โดยไม่มีเหตุผล...

เราไม่มีอำนาจบังคับใครๆได้ แม้แต่ตนเองก็ยังห้ามยากเลย จริงใหม?..บางทีบอกตนว่า เฮ่ย นั่นเขาว่าคนอื่นนะ...อีกพักนึง คิดไปคิดมา ก็วิ่งโร่ไปทึกทักเอาว่าเขาว่าเรา ที่แท้เราไปรับเอง ใช่ใหมครับ?..

ถ้อยคำพูดของคนพาลนั้น ไม่ควรถือเอามาเป็นสาระ เขามีปากก็พูดไปได้ทุกอย่าง ถ้าจะใส่ใจ พึงพิจารณาถ้อยคำของบัณฑิต ที่กล่าวแต่สิ่งดีมีประโยชน์ เพื่อความสงบ เพื่อพ้นความทุรนทุรายแห่งจิตของตนเพื่อพ้นทุกข์พ้นความไม่รู้ความหลงงมงาย ในที่ทั้งปวง ย่อมได้ประโยชน์มากมายทั้งในปัจจุบันและภายหน้า..

ถ้อยคำท่าทีของคนพาล ได้ยินได้เห็นที่ใหน ให้ปล่อยกองไว้ที่นั่น ไม่แบกกลับไปบ้านให้หมองใจนะครับ..

 

ขอเสริมไว้เป็นความรู้ด้วยค่ะ

ร้านวดไทยผุดเป็นดอกเห็ดในสวีเดน
เท่าที่ทราบก็เป็นคนไทยที่มาเปิดร้านวดไทยที่นี่
ไม่ใช่คนจีนค่ะ

ดิฉันเองก็เคยทราบว่า…ในสวีเดนก็มีร้านนวดแผนไทยที่แอบ
ให้บริการทางเพศหลังร้านแบบลับๆ อันนี้ถือว่าผิดกฎหมายในสวีเดน
ตำรวจเคยเข้าไปตรวจสอบในร้านนวดไทยที่ทำผิดกฎหมายดังกล่าว

ในสวีเดน เขามีกฏหมายจับ ปรับ และจำคุก….ผู้ใช้หรือผู้ซื้อ….
การบริการทางเพศจากผู้หญิงโสเพณี
ถือว่าประเทศนี้มีคุณธรรมสูงพอสมควรเพราะไม่สนับสนุน
เรื่องแบบนี้ที่ผู้ชายส่วนใหญ่เอาเปรียบผู้หญิงทางเพศซึ่ง
ผู้หญิงหลายรายถูกบังคับให้ขายเซ็กส์มาแล้วมากต่อมาก

อีกอย่างนึงคือ อาจมีผลเสียตามมาจากการซื้อขายเซ็กส์
เพราะเป็นการแพร่โรคทางเพศได้จากคนนึงไปยังคนอื่นๆได้ง่ายด้วย
ถ้าไม่มีการป้องกัน
อันนี้ขอยืนยันว่าจริงค่ะ

ผู้หญิงไทยหลายคนที่มาอยู่สวีเดนติดเชื้อ HIV ( เอดส์ ) มาจากตอน
อยู่ในไทย เพิ่งมารู้ว่าเป็นเอดส์เอาตอนที่หมอในสวีเดนได้ตรวจเลือดเช็ค
กับผู้ที่ย้ายมาอยู่ในสวีเดนตามกฏหมายที่เขามีที่นี่ จึงรู้กันเอาตอนนั้นเอง
สงสารทั้งหญิงไทยและแฟนฝรั่งของหญิงเหล่านั้นด้วยจัง

หมอสามารถเช็คจากเลือดได้ว่า คนไข้ติด HIV (เอดส์ )
มาเป็นเวลาหลายปีแล้วหรือไม่ หรือเพิ่งมาเป็้นได้ไม่นานหลังจาก
ได้ย้ายมาอยู่สวีเดน
ในกรณีแบบนี้ หมอในสวีเดนก็จะตรวจเลือดแฟนฝรั่งของหญิงไทยที่
เป็น HIV (เอดส์) ด้วยว่าแฟนผู้ชายฝรั่งมีโรคนี้หรือไม่

เท่าที่ทราบ แฟนฝรั่งของหญิงไทยเหล่านั้นไม่เป็นโรค
เลยแสดงว่าผู้หญิงไทยที่เป็น HIV ได้โรคมาจากผู้ชายอื่นใน
สมัยที่หญิงเหล่านั้นยังมีแฟนหรือสามีในเมืองไทย
หลายรายได้โรคนี้มาเพราะติดเชื้อมาจากสามีตัวเองสมัยออยู่ในไทย
แสดงว่าสามีไปติดเชื้อมาจากคนอื่นอีกที

ผู้หญิงบางคนที่เป็นโรคนี้ก็เคยทำงานขายบริการทางเพศตอนอยู่ใน
เมืองไทยก่อนมาได้แฟนฝรั่งสวีเดน

หลังจากหมอสวีเดนได้เจาะเลือดตรวจหาโรคให้หลังจากที่หญิงไทย
เหล่านั้นย้ายมาอยู่ในสวีเดน
( เขาตรวจทุกคนที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในสวีเดนใหม่ๆในสมัยนี้
ไม่เฉพาะแค่คนไทย ) ได้ผลตรวจเลือดและพบว่าเป็นโรค HIV
หญิงไทยบางรายบอกว่า………
ตนเองได้ตรวจเลือดมาจากในโรงพยาบาลไทยก่อนย้ายมาอยู่สวีเดนแล้ว
ผลบอกว่า…ไม่เป็น HIV.
อันนี้ทำให้ต้องคิดต่อว่า...
การตรวจเลือดในโรงพยาบาลไทยนั้นน่าเชื่อถือหรือไม่
หมอในสวีเดนหรือโรงพยาบาลในสวีเดนปกติจะส่งเลือดไปตรวจ 2 แห่ง
เพื่อได้คำตอบที่แน่ชัด จึงไม่ต้องสงสัยว่าหมอในสวีเดนหรือ
โรงพยาบาลในสวีเดนได้ผลตรวจเลือดออกมาผิด

ปัญหาทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความเสียหายหลายอย่าง
ชื่อเสียงคนไทย หญิงไทย ปท.ไทย ก็ถูกกกระทบไปหมด
แต่ที่เสียหายที่สุดคือเมื่อติดโรคร้ายแรงแล้ว มันแพร่กระจายไปหลายคนทีเดียว
เกิดความทรมานจากโรคร้ายด้วยถ้าไม่ได้ยา หรือการพยาบาลที่ถูกต้อง

 

ตอบ ....

��дҹʹ����Ѵ��Ң�ع - ��Ẻ�ӵͺ����� - ��纵���ҹ͹�������� ������͹�ԧ�Ҥ� ����


.

 

อยากไปนวดมั่ง

 

ดิฉันก็เชื่อว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องในธุรกิจแอบแฝงนี้คงต้องได้รับผลกรรมแน่นอนไม่ว่าจะเป็นหมอนวด ลูกค้า และเจ้าของกิจการ ดิัฉันเคยทำงานร้านอาหารไทยของญาติควบคู่กับช่วยรุ่นพี่ที่ทำร้านนวดแผนไทยเมื่อสองปีก่อน แต่เป็นการนวดปกตินะคะไม่มีแอบแฝง และทุกคนที่ทำงานด้วยกันมีอุดมการณ์เดียวกันเพราะเราไม่ใช่คนเดือดร้อนเงินหรือชอบใช้ของแบรนด์เนม แค่รู้สึกแย่ๆที่หมอนวดบางคนมาทำงานตรงนี้เพราะเห็นแก่เงินเป็นหลักและคิดว่ามันไม่ใช่เป็นการผิดศีล ถ้าเป็นฝรั่งเค้าเรียกว่า money lead moral ค่าใช่จ่ายเวลามาเรียนเมืองนอกเมืองนามันก็แพงทั้งนั้น แต่การทำงานเพื่อให้ได้เงินมา นักเรียนไทยหรือคนไทยหลายๆคนกลับคิดหาแต่ทางลัด ทำอย่างไรให้ได้เงินมาเยอะๆ อันนี้เป็นความคิดเห็นที่ผิดอย่างมาก บางคนอยากได้เงินไว้ชอปปิ้งของแบรนด์เนมบ้าง มีอะไรอย่างอื่นอีกสาระพัดแต่ก็จะพยายามทำใจค่ะว่าเรามาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง มักจะถูกฝรั่งดูถูกมันก็คิดซะว่าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็จะกองคำพูดและความคิดเค้าไว้ตรงนั้น (อย่างที่คุณ ddman บอก)

แต่ที่รู้สึกแย่จนมาตั้งกระทู้นั้นส่วนหนึ่งมาจากที่ดิฉันและสามีอยากจะแนะนำเพื่อนฝรั่งของสามีให้มารู้จักกับเพื่อนคนไทยดิฉันที่ยังโสดๆ (อยากทำตัวเป็นกามเทพ แต่ตัวเองหงายเงิบ) แต่พอเค้ารู้ว่าเป็นคนไทยแค่นั้นแหล่ะค่ะเค้าขุดคุ้ยถามสามีเราเลยว่าเราและเพื่อนทำงานบาร์มาก่อนรึเปล่า? ถามสาระพัดสามีก็บอกไปว่าไม่ใช่เราและเพื่อนเราทุกคนมาออสเตรเลียเริ่มจากเป็นนักเรียนต่างชาติธรรมดานี่แหล่ะค่ะและได้มาเจอสามีและแต่งงานกัน ส่วนเพื่อนๆเราเค้าก็มีทั้งที่เป็นนักเรียนเรียนพยาบาลและบางคนก็มาทำธุรกิจที่นี่ไม่ได้มีอาชีพอะไรแบบนั้น แต่เพื่อนๆของสามีเราก็บอกว่าขอบคุณที่หวังดีแต่ไม่ขอรู้จักกับสาวไทยเด็ดขาดเพราะชื่อเสียงสาวบ้านเรานั้นไม่ดีทั้งติดการพนัน แต่งแล้วเลิกแล้วหาคนใหม่เลี้ยง ทิ้งลุกติดที่มาจากไทยแบบทิ้งๆขว้างๆก่อให้เกิดปัญหาครอบครัวพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงฯลฯ เราในฐานะที่เป็นผู้หญิงไทยก็ไม่อยากให้คนส่วนน้อยนิดนี้มาทำให้ชื่อเีสียงประเทศต้องเสีย (มันก็เสียไปแล้วหล่ะ นานมากแล้วด้วย) แต่ที่เคยรู้จักคนเคยทำงานบาร์ก็ไม่ได้แย่ทุกคนนะคะ บางคนนิสัยดีเพียงแต่ที่ผ่านมาชีวิตเจอจุดหักเหให้ต้องไปทางอบายและตอนนี้มาใช้ชีวิตที่ออสเตรเลียเค้าก็ไม่ได้ใช้ชีวิตประมาทเหมือนเมื่อก่อน แต่หลายๆคนที่เคยทำงานบาร์มาก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมอันน่ารังเกียจ อันนี้แล้วแต่กรรมของใครของเค้่า

ก็ถือว่ามาเล่าสู่กันฟังนะคะ เราได้มามีโอกาสเปิดหูเปิดตาตัวเอง ได้รับฟังว่าคนต่างชาติคิดอย่างไรกับคนประเทศเรา แต่จริงๆแล้วทุกคนไม่ว่าจะชาติไหนๆก็มีทั้งคนดีคนเลว ดังนั้น เราได้มาอยู่ในพระพทุธศาสนานั้นดีที่สุดแล้ว ขอให้ทุกคนเจริญในธรรม ใครมีความคิดเห็นเช่นไรก็มาแชร์ในกระทู้นี้ได้ค่ะ

 

ข้อมูลจากท่าน Earth ฯและท่านKwanruenนั้น น่าจะไม่ใช่เฉพาะในสองประเทศนี้เท่านั้น แม้ในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะยุโรป คงจะมีกรณีคล้ายๆกันอยู่ทั่วไป...สำหรับเรื่องความรังเกียจหญิงไทยที่ท่านKwanruenเล่ามานั้น เห็นว่าน่าจะเป็นเฉพาะบางราย...อย่างในประเทศหนึ่งทางยุโรป ข้าพเจ้าเห็นชายประเทศนี้ มีใจดี และไม่นึกรังเกียจสาวไทยอะไร..ส่วนมากเขาพบสาวบาร์ มีลูกติดมาก็รับเลี้ยงดูราวกะลูกตนเอง แม้มีสาวไทยบางคน ทำตัวเป็นเหลือบดูดเงินจนหมดตัว แล้วไปอยู่กับชู้ในหมู่บ้านเดียวกัน เขาก็รอคอยอย่างน่าเวทนาว่าสักวันเธอจะหวนคืนมา..และชายอื่นๆ ก็ไม่ได้นึกรังเกียจว่าสาวไทยจะเคยเป็นอะไรมาก่อน ...ก็เห็นมีภรรยาไทยกันมากขึ้นจนกลายเป็นชุมชนไทยใหญ่ขึ้นมา..และสาวๆเหล่านี้ก็มีงานนวดเป็นหลัก ทำความสะอาด(รับจ้างเช็ดถู(เป็นรอง)...
แน่นอนที่คงมีเสียงว่านินทาเรื่องสาวไทย แต่ก็ไม่วิกฤติอย่างในละแวกที่ท่าน Kwanruenพบเจอ ซึ่งเข้าใจว่าคนออสซี่ มีท่าทีค่อนข้างแอนตี้ช่าวต่างชาติมากกว่าชนในยุโรป..

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่สาวไทยจะนิยมงานเซ็กส์จนเสียชื่อนี้ น่าจะมาจากการส่งเสริมค่านิยที่ผิดพลาดมานาน...ทั้งโดยส่วนตัวเธอเหล่านั้น ก็หาได้นิยมอาชีพหรือพฤติกามเช่นนี้ เฉพาะในชาตินี้ก็หาไม่..ที่แท้ ได้สั่งสมสันดานมานานมากชาติแล้ว จึงเมื่อมีโอกาสหรือปัจจัยกระตุ้น ย่อมได้เสพส้องกับผู้มีอัธยาศัยเดียวกัน เมื่อคิดจะทำงานเลี้ยงตน ย่อมไม่นิยมอาชีพอื่น นอกจากการขายเซ็กส์แลกเงิน..

ความจริงเธอเหล่านี้น่าสงสารมาก เพราะภายนอกอาจดูดีมีฐานะใช้ของมี brand name แต่อยู่ด้วยความรู้สึก ผิดลึกๆ ทั้งต้องคอยคิดหาเรื่องโกหกใครๆในเรื่องที่มาของรายได้ ทั้งตนก็ทราบว่าใครๆไม่ได้เชื่อตน..ในระหว่างทำกิจกามก็หวั่นเกรงภัยต่างๆ มีทั้งภัยจากลูกค้าโรคจิต ภัยจากโรคต่างๆ..ภัยจากเพื่อนร่มงานที่จะนำเรื่องของกันและกันไปเปิดโปง(ซึ่งก็มีอยู่แล้วเพราะการนินทาย่อมมีอยู่ทั่วโลก)...

เมื่อตนบันเทิงยินดีในการงานเช่นนี้อีก ก็ย่อมสั่งสมสันดานให้มีกำลังเข้มแข็งยิ่งขึ้น ต่อไป แก้ยาก หรือแก้ไม่ได้เพราะความหลงมีกำลัง ไม่มีปัจจัยให้ปัญญาได้เกิดเพื่อรู้เท่าทันกิเลสตน ..น่ากรุณาจริงๆ..

 

สาธุ.... ชอบใจการแจงกรรมของท่าน ddman ค่ะ เพราะตัวเองทำงานนวดนี้อยู่ แต่นวดไม่ได้แฝง ที่ถามหลายๆคน ที่เขาช่วยนวดแก้ปวดคลายเมื่อยก็มาก ที่แก้อย่างว่าก็มาย แต่เป็นงานที่รายได้สูงขนาดไม่ต้องทำพิเศษนะ /ปลาเน่าตัวเดียวยังเหม็นทั้งฆ้อง ถ้าไม่อยากเหม็นก็ย้ายฆ้อง แต่ปลาก็ยังเหม็นคาว /ถ้าร้านไหนเปิดแฝงเราก็ย้ายออก แต่อาชีพนี้มันหมิ่นเหม่เหลือเกิน งั้นก็ต้องเปลี่ยนอาชีพ /แต่เคยถามเพื่อนผู้ชายสมัยเรียนว่า เฮ้ย! ถามจริง ตอบใจเลยนะ คิดว่าเรารายได้พอเยอะอยู่คิดว่าเราทำอย่างบางคนเขาทำมั้ย ขอความคิดเห็นหน่อย /เพื่อนเป็นนายตร. : เพื่อนว่าส่วนมากแทบทั้งหมดเราว่าทำว่ะ แต่สำหรับเพื่อนเราว่าไม่ได้ทำ /ไม่รู้ว่าเพื่อนตอบแบบเอาใจกรือว่ารู้นิสัย สันดานเราก็แล้วแต่ เราขอบใจว่าอย่างน้อยคนที่ใกล้ชิดเราเพื่อนหรือพ่อแม่ลูก เขาต้องรู้จริตสีนดานของเรา / ความลับไม่มีในโลก /กรรมมีจริง/ใครอื่นไม่รู้ตัวเรานั้นเองรู้ชัด(*_*)

 

ส่วนตัวดิฉันเชื่อว่า เงินที่ได้จากความไม่บริสุทธ์โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจ กรรมจะตกไปถึงลูกหลานได้ค่ะ (เคยได้ยินคดีดังมรดกเลือดหรือเปล่า เพิงปิดคดีได้ ผ่าศพแล้วผ่าอีก)

รวยมาก แต่ตายตาไม่หลับแล้วจะไปเกิดเป็นอะไร:'(

เติมต่อให้ค่ะ แล้วเธอก็จะโกหกจนหาความจริงๆไม่ได้ จนสุดท้ายไม่เหลือใคร
ดิฉันเคยมีเพื่อนเป็นน้อย (แรกๆไม่ทราบเพราะโกหก ดิฉันก็คิดว่าพ่อค่ะ) โกหกจนดิฉันปวดหัวไปหมด จนต้องเลิกคบแบบเด็ดขาด (เพื่อความอยู่รอดของดิฉัน)
ภายนอก หรือ แรกๆ จะดูน่าเชื่อถือ (ถ้ายังตามไม่ทัน) ลักษณะคนแบบนี้จะหวาดระแวงอยู่ตลอด ว่าใครจะจับความจริงได้ โกหกยังไม่ทันจบ ก็ไปเรื่องใหม่ แม้แต่เจ้าตัวยยังลืมว่าโกหกอะไรไปแล้วบ้าง

กรรมต่อกรรมไปเรื่อยๆ

 

แบบนัี้ต้องกระทืบไลท์ให้ท่าน2ดีแมนครับ
ปล.ถ้าผมเป็นผู้มีอำนาจของชาติบ้านเมือง ผมจะออกกฎหมายว่าด้วยเรื่อง ห้ามอิสสตรีขายบริการทางเพศ ทุกรูปแบบครับ(หากไม่มีกิน ก็จงอดตายไปซ่ะ หากจะต้องตาย เพราะไม่ได้ขายบริการทางเพศ ก็จงตายไปซ่ะ อ่าๆ)

ปล.ร่างกาย ไม่ใช่ของเรา ควรถนุถนอมดูแล เค้าให้ดีๆ ไม่ใช่เอามาแผ่หรา อ้าซ่า หน้าด้าน ไร้ยางอาย อย่างทุกวันนี้.เพียงแค่เพื่อการดำรงชีวิต งั้นหรอคับ? ผมว่าไม่ใช่ เพราะที่เห็นตามสื่อต่างๆ ..ดูแล้วไม่ใช่น้องผู้หิวโหย แต่อย่างใด เหมือนเธอจะทำไป เพราะใจรักมากกว่า อิๆ..

อย่าคิดว่านี่คือ สิทธิส่วนตัว จะทำอะไรก็ได้กับร่างกายของคุณ ไม่ได้ทำให้ใครๆเดือดร้อน ผิดครับ ร่างกายไม่ใช่ของเรา เราไม่มีสิทธิ์ในร่างนี้ เราแค่ยืมเขามาชั่วคราว อยากให้พวกคุณเธอทั้งหลาย เข้าใจซ่ะใหม่ แต่คงเป็นไปได้ยากส์ เพราะพวกเธอคงจะเป็นแบบนี้ มาหลายภพ หลายชาติ และไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลง แก้ไขสันดานเดิมๆ..เอาความง่ายเข้าว่า อาชีพสบายๆ แค่ทำตัวให้สวยๆ ให้เซ็กส์ๆ แค่นี้ก้อโอ.แหล่ะ คิดได้แค่นี้ เพราะคิดมากกว่านี้ คิดไม่เป็น คิดไม่ได้.ขาดปัญญา.เพราะไร้สติ หลงในมายาประมาณนั้น..แบบนี้เกิดมากี่ชาติ ก็เหมือนเดิม. น่าเศร้าใจ.(คงต้องยอมรับว่า นี่คือ ความต่างกระมัง?)

บางครั้งผมก็งงๆกับอาชีพขายบริการมากๆครับ อาชีพนี้ มันมีได้อย่างไร? ในเมื่อเราต้องใช้อวัยวะส่วนตัว เข้ากระทำการกับใครก็ไม่รู้ ที่เราไม่เคยรู้จัก ผมไม่เข้าใจครับบบบบ..ผมไม่เข้าใจ ว่าพวกคุณเธอทำได้อย่างไร?(กรรมของสัตว์โลก?)

ผู้หญิงสมัยนี้ น่ากลัวจริงๆครับ ใจกล้า หน้าหนา มีค่านิยมผิดๆ คิดว่า สิ่งที่ทำ เพราะฉันเป็นคนตรงๆนะ..เป็นการคิดนอกกรอบนะเนี่ยย.. พูดเรื่องเพศอย่างโจ่งครึ่ม เปิดหน้าอกเหมือนของสาธารณะ อัพไซต์ แล้วมาแข่งกันเปิด555++เห็นแล้วก็สงสัยว่า ทำไปเพื่ออะไร? มันไม่มีอะไรให้ทำ หรือยังไง?งง งงงง

ผมเคยอ่านพระคัมภีร์ของศาสนานึง กล่าวไว้ว่า."ผู้หญิงเป็นผลพวงของความชั่วร้ายย เป็นความบาปที่ได้เกิดมาเป็นเพศนี้..."ผมจำไม่ได้แหล่ะ ประมาณนี้ล่ะ มันต้องเป็นเรื่องจริงๆแน่ๆ เพราะสังคมในปัจจุบัน ผู้หญิงเป็นปัจจัยเสริมให้สังคมเสื่อมทราม ผมว่างั้นนะ.(การแต่งกายที่ประสบพบเห็น.โอ้..แม่เจ้าาา..555++)

ทำไมผู้หญิงสมัยก่อน ไม่เป็นแบบนี้ล่ะครับ?ใครก็ได้ ช่วยผมด้วย ตอบผมที.

ที่พูดมาทั้งหมด ไม่เหมารวมพวกที่ถูกล่อลวงมานะครับ อันนั้น กรณียกเว้น

(ขออภัย หากไปโดนต่อมใครเข้า ขออโหสิด้วยเน้ออ)({)

 

..เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่า...สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็น"ของตน"..เราควรมีความเห็นตามท่าน เพราะเป็นความเห็นถูก..จะไม่คิดว่าพ่อแม่ทำกรรมแล้วผลไปตกที่ลูก อันเป็นความเห็นผิดและเป็นเรื่องเสียหาย...ที่ลูกหลานพากันแย่งชิงมรดกพ่อแม่ ก็เพราะอำนาจความโลภ เลยพากันเดือดร้อนถึงกับเข่นฆ่าเบียดเบียนกันก็เพราะ"ปโยคะวิบัติ" คือความขวนขวายกระทำการต่างๆในปัจจุบันในทางไม่ถูกต้องของตน วิบากเลวทรามจากกรรมเสียหายในอดีตย่อมได้ช่องมาส่งผลให้เดือดร้อนย่อยยับกันไป ต่างคนจึงต่างมีกรรมและต้องรับผลกรรมนั้นๆ"ของตน" ไม่กระฉอกออกไปเปื้อนคนอื่นให้ได้รับเลยแม้สักเศษเสี้ยวอณูน้อย...นะครับ

จริงเช่นนั้นทีเดียว เพราะผู้ที่ล่วงศีลธรรมย่อมมีปรกติ"เดือดร้อนใจ"ในภายหลัง เมื่อจะปกปิดตนไว้จากการถูกโลกติเตียน ย่อมอาศัยการกล่าวเท็จลวงชาวบ้านว่าตนเป็นคนดี..เป็นอันว่าบาปเก่าเป็นปัจจัยให้ทำบาปใหม่ไปได้เช่นนี้...

ปล. ท่าน Thanksฯรักษาสุขภาพด้วย ขอบุญรักษา อย่าได้มีมะเร็งเซลในตัวเลย...ด้วยความห่วงใยยิ่ง

 

ขอพูดต่ออีกหน่อยครับ.กำลังได้ที่555++

บางครั้งผมมาคิดๆดู ผมว่าผู้ชายอย่างเราๆนี่ น่าสงสารที่สุดนะครับ เราเกิดมาเป็นเพศที่ง่ายต่อการถูกยั่วยุทางอารมณ์(ตามธรรมชาติ) บางครั้งหรือบ่อยครั้ง ที่เราไม่ทันเกมส์ ของพวกเธอ เราตามอารมณ์ที่ถูกกระตุ้นไม่ทัน เราเผลอตามเธอไปทุกครั้ง และเราก็เสร็จเธอจนได้ หุหุ.. (ผมกำลังพูดถึงผู้หญิงสิ้นคิดครับ ที่เกิดมาเพื่อยั่วกามารมณ์ อย่างเดียว ไม่นับรวมผู้หญิงที่ยังคงความเป็นผู้หญิงแบบสมัยก่อนไว้)

ถ้าสมมติว่า พวกเธอรู้ว่า สิ่งที่พวกเธอกำลังทำอยู่ มันจะส่งผลไปถึงอนาคต ชาติหน้า และชาติต่อๆไป ผมว่า.บางที เธออาจเลิกทำตัวแบบนี้ก็อาจเป็นไปได้:'(

สรุปคือ ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้หญิงต้องแก้ผ้า ออกสื่อ ทำไมเธอต้องทำกริยายั่วยุทางเพศ ทำไปเพื่ออะไร? ในเมื่อโดยธรรมชาติแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปด้วยได้ตัวมันเองอยู่ดี..

ผมไม่เข้าใจเรื่องนี้ที่สุดครับ..ไม่เข้าใจ และก็อยากจะเข้าใจว่า จุดเริ่มต้นมันมาจากไหนอ่ะครับ?

หรือว่านี่คือมาร ตัวสำคัญ ที่ทำให้ผู้ชาย บรรลุธรรมไม่ได้เลย.หรือว่ายากกส์มากๆ ยกเว้นพวกที่มีอินทรีย์แก่กล้า.จิตใจที่เข้มแข็งถึงจะสามารถทะลุผ่านเรื่องแบบนี้ได้..

 

ท่านลุงฯ คงเคยทราบมาบ้างนะครับว่า แม้ในสมัยพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ ก็มี"หญิงโสเภณี"ที่มีชื่อเสียง"หลายท่าน"..เช่น นางสิริมา,นางอัมพปาลี,
(หมอชีวกเป็นบุตรนางโสเภณีนามว่า) สาลวดี..เป็นต้น....ทำให้เชื่อได้ว่าอาชีพนี้มีมานานนนน มากแล้ว..ดังนั้นที่ท่านลุงฯกล่าวว่า "ทำไมผู้หญิงสมัยก่อน ไม่เป็นแบบนี้ล่ะครับ?" จึงน่าจะไม่ถูกนัก...

...ต่อคำถามว่าอาชีพนี้มีมาได้อย่างไร ก็ใคร่วิเคราะห์ว่า เพราะอำนาจตัณหามักมากในกาม๑ ..เพราะความรักตัวกลัว(อด)ตาย๑ ..เพราะอำนาจสั่งสมสันดาน๑..และเพราะอำนาจกรรม๑..

ถ้าว่าชายไม่กำหนัดในหญิง พึงพอใจเพียงพอในคู่ตนเท่านั้น ที่ใหนจะมีเหตุให้สาวๆคิดกระตือรือร้นขายเซ็กส์?..แต่ตัณหานั้นย่อมไม่เคยอิ่มหรือพอในที่ใหน จึงกล่าวได้ว่าตัณหาทั้งของคนขายและผู้บริการนั่นเองคือต้นเค้าของอาชีพขายร่างกาย..แม้ในผู้ที่ถืออาชีพขายเซ็กส์ด้วยอำนาจวิบากกรรม ก็ไม่พ้นจากงานของตัณหาที่ลากจูงให้ทำบาปกรรมมีการใช้ผรุสวาจาด่าว่าคนอื่นว่าเป็นแพศยามาก่อน...แม้เราทั้งหลายที่ยังไม่เป็นพระโสดาบันก็มีสิทธิ์ไปเกิดนิยมชมชอบอาชีพนี้ได้ในสังสารวัฏ เพราะยังตัดตัณหาไม่ได้...การมีใจกรุณาสงสารเขาผู้มัวเมาอยู่ย่อมเป็นกิจแห่งกุศลที่ควรเจริญ

ข้าพเจ้าทราบความอาทรของท่านลุงฯได้จากหลายบรรทัดของท่านข้างบน แม้สาธุชนคนดีย่อมเห็นสอดคล้องกับท่านลุงฯอย่างยิ่ง..แต่..ใครเล่ามีอำนาจเข้าไปจัดแจงกรรม กิเลสของคนอื่นได้อย่างแท้จริง?..ขนาดพระพุทธเจ้า ยอดเยี่ยมกว่าสรรพสัตว์ทั้งหมด ยังไม่สามารถทำให้คนทั้งหมดมีเพียง"ศรัทธา"ในพระองค์ได้เลย..ใครอื่นนอกนั้นย่อมไม่ใช่ฐานะที่จะทำใครๆให้เลิกชอบใจการขายร่างแลกเงินแน่ จึงต้องรักษาใจไว้ในอุเบกขา"ด้วยปัญญา"ว่าสัตว์ทั้งหลาย..มีกรรม เป็นของเฉพาะตนจริงๆ...

ย่อมยุติความเดือดดาลขุ่นมัวไปได้ ดังนี้...

 

วิบากดำนำส่งถึงลูกหลาน
เชื้อกิจกามลงจริตติดนิสัย
หากยังหลงระเริงเพลินเที่ยวไป
อาจช้ำใจเพราะลูกชั่วมัวเมาตาม

อันลูกไม้หล่นไกลต้นหรือไฉน
สะท้อนออกไปบุญบาปสืบสา
กรรมพันธุผลิดอกออกผลมา
คือเครื่องวัดคุณค่าราคาคน

อดีตดำผ่านพ้นใคร่ควรคิด
ปัจจุบันสำนึกผิดปิดอบายเถิดหนา
อนาคตจักได้มิเดือดร้อนใจหนักอุรา
ประกอบอาชีพสุจริตหนาอย่าหลงอำนาจเงิน

ทรัพย์เงินทองนั้นแบกไปมิได้แน่
เหลือเพียงแต่ต้นทุนบุญกุศล
รูปวัตถุสมบัติพลัดกันชม
แม้ร่างตนเขายังเอาไปเผาไฟ

มหันต์ทุกข์หลังแตกกายทำลายแล้ว
มิคลาดแคล้วทุคติวินิบาตหนา
ถูกแผดเผาไหม้ดวงจิตผิดกามา
ไฟตัณหาร้อนกว่าเพลิงผลาญปฐพี!

ทุกข์สนองโรคร้ายนั้นเพียงเปลือก
ทุกข์แตกแยกร้าวฉานเพียงแค่ผิว
ทุกข์ศัตรูอาฆาตผลาญจิตเจ็บจริง
ตกนรกอบายทุกข์ยิ่งแก่นแท้ผลกรรม!

 

อันนี้คุณผู้หญิง ที่บริสุทธิ์ ไม่ได้เข้าข่ายแบบนี้ ต้องร่วมกันต่อต้านและเรียกร้อง ความยุติธรรมให้กับตนเองล่ะ ไม่ใช่มาเรียกร้องสิทธิอะไรให้เท่าผู้ชาย ผู้ชายไทยทำอะไรก็ผิดหมด แล้วพอผู้หญิงไทยทำผิดแบบนี้ไม่เห็นจะมาเรียกร้องมาทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันเลย ดูสิมันไม่ใช่แค่ทำให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต้องรับผล มันคือคนไทย คนที่มีสัญชาติไทยทั้งหมดเสียหาย

ผมไม่แปลกใจเพื่อนผมที่เป็น ญี่ปุ่น หรือเกาหลี และฝรั่งมังค่า มันคิดดูถูกผุ้หญิงไทย ส่วนผมเหรอ ก็คิดคล้ายๆพวกนี้แหละ มันเก่งแต่ปาก ถึงเรื่องจริงจังมันเงียบ เอาหัวมุดรู แต่อะไรที่สูรู้อวดเก่งหน้าบานกันเลยทีเดียว

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่เป็น ถ้าอยาก จง ว่าว..เอาเอง

ดิฉันก็คิดว่า ผช.ง่ายจริงๆต่อการ เผลอไปกับอารมณ์

ไม่ทราบว่า แค่ตัวหนังสือของดิฉัน ไปกระตุ้นความกำหนัดอะไรของผช.ได้
ไม่ใช่ดิฉันคนเดียวที่คนในนี้ชักชวน เพื่อน และผญ.อีกหลายคนก็โดน (แต่ไม่กล้าออกมาเปิดเผย)

หรือ "กล้า" แม้กระทั่ง หากดิฉันยอมเป็นเมียน้อยเขา เขาจะรักษาโรคให้ (ขำก๊ากกกกกกก ค่ะ ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม การเป็นเมียน้อยรักษาโรคได้ มุขเสี่ยวจริงๆ )
เนื่องจากเป็นการเล่าต่อมา จึงไม่มีหลักฐานโพสต์ให้ มีทั้งจากบอร์ดพันธิบ และบอร์ดนี้ ที่เป็นอย่างนี้

หรืออินทรีย์อ่อน เพราะแค่ตัวหนังสือลงคำว่า คะ/ค่ะ/ดิฉัน

นั่นสิ ทำไมผช.ถึงไม่แยกว่า ภาพที่เห็นเป็นเพียงภาพกระทบตา /กระทบใจ เอามากระตุ้นความกำหนัดตัวเองทำไม เห็นแล้วก็ "ดับไป" แค่นี้...ง่ายจะตาย

 

ท่าน Thanks-Epi ...เป็นดัง มุมเบอแรง... ของพี่เบิร์ดจริงๆ
*** กรรม = มุมเบอแรง *** เจ้าค่ะ ทุกๆท่าน ฮ่าาาาาาา...,

 

....ท่านลีน่าฯ ...เขาเรียกว่า "บูมเมอร์แรง" ครับมาจากภาษาออสซี่ว่า..boomerang..


.....เดี๋ยวนี้ถึงกับมีมุขเป็นเมียน้อยแก้โรคได้..คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะีใครบ้าจี้หลงเชื่อได้...

 

อะ ไม่คิดว่าจะแรงเป็นบูมเมอแรงค่ะ แต่พอดีอ่าน

อืม ดิฉันคิดว่า หากศาสนานั้นเขียนไว้อย่างนั้นจริงๆ คงมีแต่ ผช.เป็นสาวกค่ะ เพราะเป็นศาสนาของ "ความดี" ผญ.ไม่มีสิทธิ์เข้าไปได้ ดิฉันยอมแพ้ค่ะ ว่าคงไม่เข้าไป (ดิฉันเป็นสัญลักษณ์ของความเลวค่ะ)



แต่ศาสนาดังกล่าวลืมไปว่า การที่ผช.จะเกิดมาได้นั้น เกิดจากทั้ง 2เพศร่วมกันเป็นแดนเกิดให้เขา ให้เกิดมาเพื่อใช้กรรมที่เขาทำไป(ถ้าหมดกรรมคงนิพพานแล้วคะ)





หากสาวกศาสนาดังกล่าวมีแม่ที่เป็นผลพวงของความชั่วร้าย สาวกทั้งหมดก็เป็นทายาทของความชั่วร้ายเช่นกัน