ต้องไม่พลาด "วันตรุษจีน" และเกร็ดความรู้ต่างๆที่เกี่ยวกับตรุษจีน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 14 มกราคม 2012.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    ความรู้เกี่ยวกับ "วันตรุษจีน"


    "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้

    ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ"

    ปีใหม่ขอให้ทุกอย่างสมหวัง ปีใหม่ขอให้ร่ำรวย
    ความรู้เกี่ยวกับ "วันตรุษจีน"

    นับเป็น ประเพณีนิยม ในวันตรุษจีน ที่เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชนชาติจีนแผ่นดินใหญ่และพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน นั่นแสดงว่าเป็นสัญญาณอันดีที่จะมีงานรื่นเริง การสวมใสเสื้อสีแดงสด อันเป็นสีที่เป็นศิริมงคลของพี่น้องชาวจีน อาจจะบอกดว่าเป็นวันครอบครัว ที่ จะได้พบปะสังสรรค์ กินเลี้ยงอย่างมีความสุข ...อันเป็นวันที่เปี่ยมไปด้วยการให้ทาน การทำบุญทำกุศล หรือแม้กระทั่งที่วัดจีนประชาสโมสร ก็มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ทำทานในวันขึ้นปีใหม่ นำมาซึ่งความปิติ-มีความสุขเปี่ยมล้น มีผลทำให้มีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต ทำงาน-ค้าขายให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป...
    เทศกาลจีนมีอยู่มากมาย ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน ในปีนี้ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2546 เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ทุกคนต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่างหยุดงาน โรงเรียนสถาบันการศึกษาต่างปิดเทอมในช่วงนี้ เป็นปิดเรียนฤดูหนาว ยกเว้นคนที่ต้องทำหน้าที่ไม่สามารถหยุดงานได้ หน่วยงานห้างร้านต่างก็หยุดงาน 3-4 วัน เมื่อใกล้วันปีใหม่จีน ผู้คนต่างก็มีการตระเตรียมงานปีใหม่ ภายในครอบครัว ทุกบ้านก็จะทำความสะอาดบ้านเรือน ผ่านปีใหม่อย่างสะอาดสะอ้านสดใส ร้านค้าห้างสรรพสินค้าต่างก็เติมไปด้วยผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้แก่เด็กๆ ซื้อของขวัญให้แก่ญาติสนิทมิตรสหาย ซื้อบัตรอวยพร ในตลาดก็คราคร่ำไปด้วยผู้คน ต่างเดินไปเดินมากันขวักไขว่ ซื้อปลาบ้าง ซื้อเนื้อสัตว์บ้าง ซื้อเป็ดไก่บ้าง ทุกคนต่างดูแจ่มใสมีความสุข ช่วงเทศกาลปีใหม่ เด็กๆต่างมีความสุขมาก ต่างสวมเสื้อใหม่ ทานลูกกวาดขนมหวาน เล่นพลุประทัดอย่างรื่นเริง
    คืนก่อนวันปีใหม่ คือวันสุดท้ายของปีนั่นเองเป็นคืนที่ครึกครื้นที่สุด ใครที่ไปทำงานห่างจากบ้านเกิด ต่างก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลับมาฉลองวันปีใหม่ที่บ้าน ตอนกินอาหารมื้อค่ำคืนก่อนขึ้นปีใหม่จีน ทุกคนในครอบครัวต่างนั่งกันพร้อมหน้าล้อมโต๊ะอาหาร ต่างชนแก้วอวยพรปีใหม่กัน ทานมื้อค่ำเรียบร้อยแล้ว บางคนก็ดูทีวี บางคนก็ฟังเพลง บางคนก็นั่งคุยกัน บางคนก็เล่นหยอกล้อกับเด็กๆ บ้านเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ พอถึงเที่ยงคืน คนจีนทางเหนือก็จะเริ่มทำเกี๊ยว (เจี้ยวจึ) คนจีนทางใต้ ก็จะปั้นลูกอี๋ทำน้ำเชื่อม ทำไป ชิมไปทานไป ครึกครื้นอย่างยิ่ง เช้าวันรุ่งขึ้นแต่เช้า ทุกคนจะตื่นแต่เช้า เยี่ยมเพื่อนบ้าน เพื่อนฝูงอวยพรปีใหม่
    ประวัติวันตรุษจีน หรือปีใหม่จีน ประวัติ ของวันขึ้นปีใหม่ของจีนมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ในวัฒนธรรมอื่นๆ ความปรารถนาสิ่งที่เราหวังว่าจะได้ปรับปรุง หรือที่เราคิดทำเมื่อเริ่มต้นในปีใหม่ มาถึงตอนนี้ ถ้าไม่ถูกลืมก็ถูกยัดลงกล่องใส่ตู้ปิดตายและแปะหน้าตู้ว่าไม่แน่ เอาไว้ทำปีหน้าแล้วกันอย่างไรก็ดี ความหวังก็คงยังไม่สูญไปทั้งหมดเพราะโอกาสที่สองกำลังมาถึงแล้ว กับการฉลองวันปีใหม่จีนหรือที่เรารู้จักกันว่า ตรุษจีนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ นั้นเอง
    ตรุษ จีนนั้นคล้ายคลึงกับวันปีใหม่ในประเทศทางตะวันตก ร่องรอยของประเพณี และพิธีกรรมความเป็นมาของการฉลองตรุษจีน นั้นมีมานานกว่าศตวรรษ จริงๆแล้วนานมาก จนไม่สามารถย้อนกลับไปดูว่าเริ่มต้นฉลองมาตั้งแต่เมื่อไร เป็นที่รู้จักและจำได้ทั่วไปว่าเป็น การฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และการฉลองเป็นเวลานานถึง 15 วัน การเตรียมงานฉลองส่วนใหญ่จะเริ่มหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก) เมื่อผู้คนเริ่มซื้อของขวัญ, สิ่งต่างๆ เพื่อประดับบ้านเรือน, อาหารและเสื้อผ้า การทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้นในวันก่อนตรุษจีน บ้านเรือนจะถูก ทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่างหน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งหมายถึงการกวาดเอาโชคร้าย ออกไป ประตูหน้าต่างมีการขัดสีฉวีวรรณทาสีใหม่ซึ่งสีแดงเป็นสีนิยม ประตูหน้าต่างจะถูก ประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพรอย่างเช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และอายุยืนเป็นต้น
    วัน ก่อนวันตรุษจีนนั้นเป็นวันแห่งการการรอคอยจะว่าไปถือวันที่น่าตื่นเต้นมาก ที่สุด ในบรรดาการฉลองทั้งหมดเห็นจะได้ ประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ นั้นผูกไว้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงเสื้อผ้า อาหารค่ำนั้นประกอบด้วยอาหารทะเล และอาหารนึ่งเช่นขนมจีบ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่างๆกัน อาหารอันโอชะอย่างเช่นกุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้จะนำความความร่ำรวยมาให้ และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร และเป็นธรรมดาเสื้อผ้าที่ใส่สีแดงถือเป็นสีที่เป็นมงคลเป็นการไล่ปีศาจร้าย ให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง
    เมื่อ ถึงวันตรุษจีน ประเพณีตั้งแต่โบราณมาเรียกว่า อังเปา ซึ่งหมายถึง กระเป๋าแดง เป็นการที่คู่แต่งงานให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว ต่าง ออกมาเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ เริ่มจากญาติๆ แล้วต่อด้วยเพื่อนบ้าน ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า
    "Let bygones be bygones"
    (อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป)ใน วันตรุษนี้ อารมณ์โมโหโกรธาจะถูกลืม และไม่สนใจ การฉลองวันตรุษจีนสิ้นสุดลงในงานโคมไฟ ซึ่งฉลองโดยการร้องเพลง เต้นรำ และงานแสดงโคมไฟ ถึงแม้ว่าการฉลองวันตรุษจีน จะมีแตกต่างกันออกไปแต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ การอวยพร ความสงบ และความสุขให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนทุกคน

    อาหารไหว้เจ้า
    ใน วันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆในปี อาหารชนิดต่างๆที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่างๆที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่างๆมีความ หมายที่เป็น มงคลในตัวของมัน
    เม็ดบัว
    - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย
    เกาลัด
    - มีความหมายถึง เงิน
    สาหร่ายดำ
    - คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวย
    เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง
    - คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข
    หน่อไม้
    - คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่ง เป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์
    อาหาร อื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดม- สมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่ เพื่อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว
    ทางตอนใต้ของจีน จานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซำ เป็นอาหารที่นิยม อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน

    ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
    ทุกคนจะไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความ หมายเป็นนัย และคำว่า สี่ ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายก็จะต้องไม่พูดออกมา ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปีเก่าๆ ก็จะไม่เอามาพูดถึง ซึ่งการพูดควรมีแต่เรื่องอนาคต และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่
    หากคุณร้องไห้ในวันปีใหม่ คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฎิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน
    การแต่งกายและความสะอาด ใน วันตรุษจีนเราไม่ควรสระผมเพราะนั้นจะหมายถึงเราชะล้างความโชคดีของเราออกไป เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วงเทศกาลนี้ สีแดงถือเป็นสีสว่าง สีแห่งความสุข ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่ เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันปีใหม่ จะส่งให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้ อังเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วย ธนบัตรใหม่เพื่อโชคดี
    วันตรุษจีนกับความเชื่ออื่น ๆสำหรับ คนที่เชื่อโชคลางมากๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแส เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อ เป็นความเป็นสิริมงคล
    บุคคลแรกที่พบและคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมากถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดี
    การเข้าไปหาใครในห้องนอนในวันตรุษถือเป็นโชคร้ายดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก
    ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษเพราะเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี ทุก วันนี้ไม่ใช่ว่าชาวจีนทุกคนจะคงยังเชื่อตามความเชื่อที่มีมาแต่ทุกคนก็ยังคง ยึดถือ และปฎิบัติตาม เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนธรรมเนียม และวัฒนธรรม โดยที่ชาวจีน ตระหนักดีว่าการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมมาแต่เก่าก่อนเป็นการแสดงถึงความเป็น ครอบครัวและเอกลักษณ์ ของตน
    15 วันแห่งการฉลองตรุษจีน
    วันแรกของปีใหม่เป็น การต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อ ในวันนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุและนำมาซึ่งความสุขในชีวิตให้ กับตน
    วันที่สองชาว จีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าวอาบ น้ำให้แก่มัน ด้วยเชื่อว่า วันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิด
    วันที่สามและสี่ เป็นวันของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตน
    วันที่ห้า เรียก ว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่าย
    วันที่หกถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดไปวาสวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุข
    วันที่เจ็ด ของ ตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำมา จากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิด ของมนุษย์ในวันนี้อาหารจะเป็น หมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสำเร็จ
    วันที่แปด ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์
    วันที่เก้า จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้
    วันที่สิบถึงวันที่สิบสอง เป็น วันของเพื่อนและญาติๆ ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่ทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมัน วันที่สิบสามถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย
    วันที่สิบสี่ ความเป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้น ในคืนของวันที่สิบห้าแห่งการฉลองตรุษจีน


    [​IMG]วัน ตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ของจีน (วันที่ 1 เดือน 1 ของวันจีน) ถือเป็นเทศกาลใหญ่ ที่ประหนึ่งรวมเทศกาลวันตรุษ และอาจรวมเทศกาลไหว้สิ้นปี เข้ากับเทศกาลวันตรุษ ซึ่งจะต่างกับวันไทย และวันสากล ในขณะที่วันของไทย เป็นวันข้างขึ้น และข้างแรม เดือนหนึ่งมี 30 วัน ของจีนจะเป็นเดือนสั้น และเดือนยาว เดือนสั้นมี 29 วัน เดือนยาวมี 30 วัน

    วันจีนจะช้ากว่าวันข้างขึ้น ข้างแรม ในปฏิทินอยู่ 2 เดือน ยก ตัวอย่าง วันไหว้พระจันทร์ ตรงกับวันที่ 15 เดือน 8 เมื่อดูในปฎิทินจะเป็นขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 หรือสมมติว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2535 ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 2 ก็คิดกลับเป็นวันจีนจะเป็นวันที่ 8 เดือน 12 จากนั้นนับต่อจากวันที่ 8 ไปเป็นวันที่ 9 เดือน 12 ของจีน คือ วันที่ 1 มกราคม 2536 นับไปเรื่อยๆ จนครบวันที่ 30 เดือน 12 ของจีน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2536 ของไทย ดังนั้นวันตรุษจีน คือ วันที่ 1 เดือน 1 ของจีน ก็จะตรงกับวันที่ 23 มกราคม 2536


    วันตรุษจีน 2544 ตรงกับวันที่ 24 มกราคม 2544
    วันตรุษจีน 2545 ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2545
    วันตรุษจีน 2546 ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2546
    วันตรุษจีน 2547 ตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2547
    วันสิ้นปีจะมีการไหว้ หลายอย่าง นิยมเรียกว่า "วันไหว้"

    มักเรียกวันก่อนหน้าวันไหว้ว่า "วันจ่าย" เพราะเป็นวันสุดท้ายที่จะจับจ่ายซื้อของไหว้ของใช้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าจะปิดธุรกิจหลายวัน

    การไหว้ตรุษจีนจะนิยม เรียกกันว่า "วันชิวอิด" แปลว่า วันที่ 1 มีความน่าสนใจตรงที่ว่า คนจีนจะไหว้ "ไช้ซิ้งเอี๊ย" หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ"ในเวลากลางดึกเมื่อเวลาย่างเข้าวันตรุษหรือวันชิงอิด ไช้ แปลว่า โชคซิ้ง และเอี๊ย แปลว่า เจ้านอกจากนี้เวลาไหว้ยังมีฤกษ์ยาม และทิศที่จะตั้งโต๊ะไหว้ ยังเป็นทิศ และเวลาเฉพาะในแต่ละปี เพื่อความเป็นสิริมงคล ของไหว้จะไหว้ง่ายๆ ด้วยส้ม และโหงวเส็กทึ้งกับนำชาส้ม คนจีนเรียกว่า กา หรือ "ไต้กิก" แปลว่า โชคดี เพื่ออวยพรให้ลูกหลานโชคดี และใช้ให้เป็นของขวัญ...นำโชคมามอบให้แก่กันโหงวเส็กทึ้ง แปลว่า ขนม 5 สี ได้แก่ ถั่วตัด งาตัด ข้าวพอง ถั่วเคลือบน้ำตาล และฟักเชื่อม บางทีก็เรียกว่า "ขนมจันอับ" หรือ "แต่เหลียง"บางบ้านมีการไหว้อาหารเจแห้ง ให้แก่บรรพบุรุษด้วยบางบ้านนิยมเปิดไฟไว้ที่ศาลเจ้าที่ "ตี่จู่เอี๊ย" เพื่อรอรับวันที่เจ้าที่จะเสด็จกลับลงมาจากสวรรค์ในวันที่ 4 เดือน 1 ของจีน

    ในวันตรุษจีน หรือวันชิวอิด ในหมู่คนจีนจะทราบกันว่า นี่คือ "วันถือ" ถือที่จะทำในสิ่งที่ดี และไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่สวยงาม ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดแต่ "หออ่วย" แปลว่า คำดีๆ ไม่อารมณ์เสียหงุดหงิด ไม่ทำงานหนัก เพื่อที่ว่าตลอดปีจะได้ไม่ต้องทำงานหนักนัก ไม่กวาดบ้าน เพราะอาจปัดสิ่งดีๆ มีมงคลออกไป แล้วกวาดความไม่ดีเข้ามา เริ่มต้นเช้าวันตรุษ คนในบ้านก็จะทักทายกันด้วยคำอวยพร "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้" หมายถึง เวลาใหม่ให้สมใจ ปีใหม่ให้สมปรารถนา

    อั้งเปา" ในวันตรุษจีน มีคำจีนโบราณเรียกว่า "เอี๊ยบซ้วยจี๊" เป็นเงินสิริมงคลที่ผู้ใหญ่ให้แก่ลูกหลาน เพื่ออวยพรให้มีสุขภาพแข็งแรง และเจริญก้าวหน้า

    ธรรมเนียมหนึ่งในวัน ตรุษจีนคือการไป "ไป๊เจีย" หรือการไปไหว้ขอพร และอวยพรผู้ใหญ่ หรือญาติมิตร โดยส้มสีทอง 4 ผลห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าผู้ชาย ที่นิยมใช้กันแต่ส้มสีทอง ไม่ใช้ส้มเขียว เพราะสีทองเป็นสีมงคล ทองอร่ามเรืองจะอวยพรให้รุ่งเรืองเช่นเดียวกับส้ม ที่คนจีนเรียกว่า ไต้กิก แปลว่า โชคดี ส้มสีทองที่มอบแก่กันคือ นัยอวยพรให้ "นี้นี้ไต้กิก" แปลว่า ทุกๆ ปีให้โชคดีตลอดไปส้มสีทอง 4 ใบ เมื่อเจ้าบ้านรับไป จะเป็นการรับไปเปลี่ยนว่าเปลี่ยนส้ม 2 ใบของแขกกับ 2 ใบของที่บ้าน แล้วคืนส้ม 4 ใบคืน ให้แขกนำกลับไป 2 ใบของที่บ้าน แล้วคืนส้ม 4 ใบ คืนให้แขกนำกลับไป หมายถึง การที่ต่างฝ่าย ต่างให้โชคดีแก่กัน

    การติดฮู้ เป็นธรรมเนียมที่นิยมถือทำในวันตรุษจีน เช่น การติด "ฮู้" หรือยันต์แผ่นใหม่ เพื่อคุ้มครองบ้าน ติด "ตุ้ยเลี้ยง" หรือแผ่นคำอวยพรที่ปากทางเข้าบ้าน

    [​IMG]ไหว้เจ้า
    การ ไหว้เจ้าเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ลูกหลานจีนปฏิบัติสืบทอดกันมา ตามความเชื่อที่จะต้องไหว้เจ้าที่ และไหว้บรรพบุรุษ เพื่อให้เป็นสิริมงคล และนำมาซึ่งความสุข ความเจริญแก่ครอบครัว


    ในปีหนึ่งมีการไหว้เจ้า 8 ครั้ง เรียกว่า โป๊ยโจ่ย แปลว่า 8 เทศกาล ดังนี้
    ไหว้เดือน 1 วันที่ 1 (เป็นการกำหนดวันทางจันทรคติของจีน) คือ ตรุษจีน เรียกว่า ง่วงตั้งโจ่ย
    ไหว้เดือน 1 วันที่ 15 เรียกว่า ง่วงเซียวโจ่ย
    ไหว้เดือน 3 วันที่ 4 เรียกว่า ไหว้เช็งเม้ง เป็นประเพณีที่ลูกหลานไปไหว้บรรพบุรุษที่ฮวงซุ้ย
    ไหว้เดือน 5 วันที่ 5 เรียกว่า โหงวเหว่ยโจ่ย เป็นเทศกาลไหว้ขนมจ้าง
    ไหว้เดือน 7 วันที่ 15 คือ ไหว้สารทจีน เรียกว่า ตงง้วงโจ่ย
    ไหว้เดือน 8 วันที่ 15 เรียกว่า ตงชิวโจ่ย ที่คนทั่วไปรู้จักกันดีว่า ไหว้พระจันทร์
    ไหว้เดือน 11 ไม่กำหนดวันแน่นอน เรียกว่า ไหว้ตังโจ่ย
    ไหว้เดือน 12 วันสิ้นปี เรียกว่า ไหว้สิ้นปี หรือ ก๊วยนี้โจ่ย

    [​IMG]นอกจากนี้บางบ้านยังมีการไหว้พิเศษ คือการไหว้เทพยดาที่ตนเองเคารพนับถือ เช่น
    ไหว้เทพยดาฟ้าดิน เช่นการไหว้วันเกิดเทพยดา ฟ้าดิน เรียกว่า ทีกงแซ หรือ ทีตี่แซ ตรงกับวันที่ 9 เดือน 1 ของจีน

    ไหว้อาเนี๊ยแซ คือไหว้วันเกิดเจ้าแม่กวนอิม ปีหนึ่งมี 3 ครั้ง คือวันที่ 19 เดือน 2 วันที่ 19 เดือน 6 และวันที่ 19 เดือน 9

    ไหว้แป๊ะกงแซ ตรงกับวันที่ 14 เดือน 3

    ไหว้เทพยดาผืนดิน คือไหว้โท้วตี่ซิ้ง ตรงกับวันที่ 29 เดือน 3

    ไหว้อาพั๊ว คือการไหว้วันเกิดอาพั๊ว หรืออาพั๊วแซ ซึ่งอาพั๊ว หมายถึง พ่อซื้อแม่ซื้อผู้คุ้มครองเด็ก ตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี

    ไหว้เจ้าเตา คือไหว้วันที่ 24 เดือน 12 เรียกว่า ไหว้เจ๊าซิ้ง
    ขนมไหว้
    [​IMG]
    ซาลาเปา (หมี่ก้วย หรือ หมี่เปา)
    ไม่ มีไส้ เรียกว่า หมั่นโถว มีแบบที่ทำจาหัวมัน เนื้อออกสีเหลือง และแบบไม่ผสมมัน เนื้อออกสีขาว นิยมทำให้แตกเหมือนดอกไม้บาน ถ้าลูกเล็กจะแต้มจุดแดง ลูกใหญ่จะปั๊มตัวหนังสือสีแดง เขียนว่า ฮก แปลว่า โชคดี
    มีไส้ นิยมไส้ เต้าซา แป้งไม่ผสมมัน หน้าไม่แตก มีตัวหนังสือปั๊มว่า เฮง แปลว่าโชคดี


    ซิ่วท้อ เป็นซาลาเปาพิเศษ ทำเป็นรูปลูกท้อ ใส้เต้าซา เพราะถือว่าเป็นผลไม้สวรรค์ ใช้ในงานวันเกิด ใครได้กินอายุจะยืนยาว


    หนึงกอ (ขนมไข่) ใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง


    [​IMG]ก๊าก้วย (ฮวกก้วย) "ฮวก" แปล ว่า งอกงาม / "ก้วย" แปลว่า ขนม ใช้กับงานมงคลเป็นส่วนใหญ่ เช่นงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ บนหน้าขนมปั๊มตัวหนังสือตรงกลาง "ฮวดไช้" คำที่อยู่รอบนอก คือ "เฮง" แปลว่า โชคดี


    คักท้อก้วย มีไส้ข้าว ไส้กุยช่าย ไส้ผัดผักกะหล่ำ ไส้ถั่ว นวดกับแป้งผสมสีแดง เป็นสีนำโชค ใช้ไหว้เจ้าที่ หรือไหว้บรรพบุรุษ


    [​IMG]จับกิ้ม (แต่เหลียง) หรือที่คนไทย เรียกว่า "ขนมจันอับ" ใช้ไหว้เจ้าได้ทุกประเภท ประกอบด้วยขนม 5 อย่าง คือ
    เต้ายิ้งปัง คือ ขนมถั่วตัด
    มั่วปัง คือ ขนมงาตัด
    ซกซา คือ ถั่วเคลือบน้ำตาล
    กวยแฉะ คือ ฟักเชื่อม
    โหงวจ๊งปัง คือ ขนมข้าวพอง



    ตั่วเปี้ย คนไทยเรีกว่า "ขนมเปี๊ย"
    แบบเจ เรียกว่า "เจเปี้ย" มีไส้มังสวิรัติ เช่น ไส้เต้าซา
    แบบชอ เรียกว่า "ชอเปี้ย" ใส่มันหมู ใช้ไหว้เจ้าได้ทุกอย่าง

    [​IMG]ทึ้งถะ คือ เจดีย์น้ำตาล ซึ่งต้องมีทึ้งไซ หรือสิงห์น้ำตาล มีไว้เพื่ออารักขาเจดีย์ ใช้ไหว้เทพยดาฟ้าดิน ในวันที่ 9 เดือน 1 ของทุกปีและสามรถใช้ไหว้เจ้าแม่กวนอิมในวันไหว้พระจันทร์ได้


    โหงวก้วย-โหงวอั้ง หรือขนมลูกหลาน ใช้ไหว้คนตายในงานศพเท่านั้น ทำจากแป้งข้าวเจ้า ทั้งแบบเกลี้ยง และแบบแต่งถั่วดำ กินไม่อร่อย แต่ใช้ในการทำพิธี


    น้ำตาล นำน้ำตาลมาใส่ถุง ติดกระดาษแดง สามารถใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง


    [​IMG]กระดาษเงินกระดาษทอง
    คน จีนเชื่อกันว่า เมื่อตายไปแล้วจะไปยังอีกภพโลกหนึ่ง เรียกว่า "อิมกัง" ดังนั้นลูกหลานจึงต้องส่งเงินทองไปให้ เพื่อแสดงความกตัญญู ด้วยการไหว้เจ้า แล้วเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ และการไหว้เจ้ายังเป็นสิริมงคลแก่ลูกหลาน ให้มีความสุขความเจริญ ซึ่งกระดาษเงินกระดาษทองบางแบบใช้ไหว้เจ้า บางแบบใช้ไหว้บรรพบุรุษ


    กอจี๊ หรือ จี๊จุ้ย เป็น กระดาษเงินกระดาษทองชิ้นใหญ่ มีกระดาษแดงตัดเป็นลายตัวหนังสือว่า "เผ่งอัน" เป็นคำอวยพร แปลว่า โชคดดีใช้สำหรับไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพยดาฟ้าดิน


    [​IMG] กิมจั้ว หรือ งึ้งจั๊ว หมายถึงกระดาษเงินกระดาษทอง เวลาจะไหว้จะทำเป็นชุด ก่อนไหว้ลูกหลานจ้องนำมาพับเป็นรูปดอกไม้ ใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง


    กิมเต้า หรือ งึ้งเต้า หรือถังเงินถังทอง ใช้ไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพยดาฟ้าดิน


    กิมเตี๊ยว คือ แท่งทอง ใช้ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้คนตาย


    ค้อซี คือ กระดาษ ทอง ก่อนใช้ให้พับเป็นรูปร่างก่อน เช่น พับเป็นเรือ เรียกว่า "เคี้ยวเท่าซี" เชื่อกันว่าการพับเรือ จะไก้มูลค่าสูงกว่าการพับอย่างอื่นใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง รวมทั้งไหว้คนตาย โดยเฉพาะพิธีทำกงเต๊ก ลูกหลานต้องพับค้อซี ให้มากที่สุด


    [​IMG] อิมกังจัวยี่ คือแบงก์กงเต็กนั่นเอง


    อ่วงแซจิ่ว ใช้เผาเป็นใบเบิกทาง ไปสวรรค์สำหรับผู้ตาย


    เพ้า คือ ชุดของเทพเจ้า คล้ายกับที่คนไทยถวายผ้าห่มพระพุทธรูป มีการทำของเจ้าหลายองค์ เช่น ชุดของเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม พระพุทธ


    ตั้วกิม
    เป็นกระดาษเงินกระดาษทองที่ญาติสนิทนำไปไหว้ผู้ตายการเผากระดาษเงินกระดาษทองจะต้องทิ้งไว้สักพัก


    เพื่อ ให้ทุกคนได้เส้นไหว้เสร็จ ก็จะทำการ "เหี่ยม" หรือจบเหนือศีรษะ ระหว่างนี้ให้ทำการอธิฐานขอพรไปด้วย แล้วจึงนำไปเผา เมื่อไฟมอดแล้วจึงไหว้ลา เป็นการเสร็จพิธี



    [​IMG]ผลไม้ไหว้เจ้า
    ส้ม คำจีนเรียกว่า "ไต้กิก" แปลว่า โชคดี
    -------------------------------------------------------------------------
    องุ่น คำจีนเรียกว่า "พู่ท้อ" หมายถึง งอกงาม
    -------------------------------------------------------------------------
    สับประรด คำจีนเรียกว่า "อั้งไล้" แปลว่า มีโชคมาหา
    -------------------------------------------------------------------------
    กล้วย คำจีนเรียกว่า "เกงเจีย" มีความหมายถึงการมีลูกหลานสืบสกุล
    --------------------------------------------------------------------------------


    -http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=1363-


    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อาหารไหว้วันตรุษจีน



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ใกล้เทศกาลตรุษจีนกันมาแล้ว หลาย ๆ คนคงตั้งหน้าตั้งตารอ เพราะนี่คงเป็นเทศกาลที่จะได้พบปะกับญาติมิตรที่ไม่ได้เจอกันมานาน และได้อั่งเปาจากญาติผู้ใหญ่ แต่ก่อนที่จะถึงวันตรุษจีนนั้น เราคงสังเกตเห็นว่า มีการไหว้เจ้าและไหว้บรรพบุรุษก่อนที่จะเข้าวันตรุษจีน เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต วันนี้ เราจึงเสนอของเซ่นไหว้ถูกหลัก พร้อมทั้งความหมายของของไหว้แต่ละอย่าง มาฝากกันค่ะ

    เดิมนั้น คนจีนจะแบ่งวันไหว้ออกเป็น 2 วัน นับเป็น 2 เทศกาลคือ วันที่ 29 หรือ 30 เดือน 12 ของจีน และ วันชิวอก ซึ่งเป็นเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเริ่มมาจากฤดูใบไม้ผลิของคนจีน แต่คนไทยมักจะรวม 2 วันนี้เป็นวันเดียวกัน และไหว้พร้อมกันทีเดียว

    [​IMG] ของไหว้ในวันที่ 29 หรือ 30 ของเดือน 12


    [​IMG]

    อาหารไหว้ช่วงเช้า


    [​IMG] ช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.00 – 08.00 น. ตอนเช้าชาวจีนจะนิยมไหว้สิงศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน และไหว้ปุ้งเท้า ซึ่งเป็นเทพท้องถิ่นที่คนทำมาค้าขายนิยมบูชา โดยจะไหว้ด้วยเนื้อสัตว์ 3 อย่าง หรือ ซาแซ เช่น

    [​IMG] หมู มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
    [​IMG] เป็ด มีความหมายถึง ความสามารถอันหลากหลาย ความมั่งคั่ง ความมีมาก
    [​IMG] ไก่ มีความหมายถึง ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน โดยหงอนไก่ที่มีลักษณะเหมือนหมวกขุนนาง มีความหมายถึงความซื่อตรง
    [​IMG] ขนมเข่ง มีความหมายถึง การมีเพื่อนมาก


    [​IMG]

    อาหารไหว้ช่วงสาย


    [​IMG] ช่วงสาย เวลาประมาณ 09.00 น. ถึงก่อนเที่ยง จะเป็นการไหว้บรรพบุรุษและบรรพชน อาหารที่ไหว้มีดังนี้

    [​IMG] อาหารคาว อาหารคาวต่าง ๆ มีความหมาย ดังต่อไปนี้

    ลูกชิ้นปลา หมายถึง ความเหลือกินเหลือใช้ ชีวิตราบรื่น
    ผัดต้นกระเทียม หมายถึง ความมั่งคั่ง มีเงินมีทองให้นับอยู่เสมอ
    ผัดตับกับกุยช่าย หมายถึง การมียศฐาบรรดาศักดิ์ ฐานะร่ำรวย
    แกงจืด หมายถึง การให้ลูกหลานมีชีวิตราบรื่น
    เป๋าฮื้อ หมายถึง ความเหลือกินเหลือใช้ มีไว้ให้ลูกหลาน
    ผัดถั่วงอก หมายถึง ความงอกงาม เจริญรุ่งเรือง
    เต้าหู้ หมายถึง การเจริญเติบโต บุญ ความสุข
    สาหร่ายทะเล หมายถึง ความโชคดี ร่ำรวย

    [​IMG] อาหารหวาน มีความหมายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    ซาลาเปา หมายถึง การห่อโชคลาภมาให้ลูกหลาน
    ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเจริญงอกงาม
    ขนมคัดท้อก้วย คือ ขนมไล้ถั่วต่าง ๆ ที่ทำเป็นลูกท้อ หมายถึง การอวยพรให้มีอายุยืนยาว
    ขนมไข่ หมายถึง การเจริญเติบโต
    ขนมอี๊ ทำจากแป้งกลม ๆ นวดแล้วเจือสีชมพู แล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ต้มกับน้ำตาล จะทำให้ เคี้ยวง่าย ขนมอิ๊จึงหมายถึงความราบรื่น
    ขนมเทียน หมายถึง ความสว่างรุ่งเรือง

    [​IMG] ขนมเข่ง
    [​IMG] ชุดซาแซ คือ หมู เป็ด ไก่
    [​IMG] ข้าวสวย พูนใส่ให้ครบตามจำนวนของบรรพบุรุษ
    [​IMG] น้ำชา
    [​IMG] ผลไม้ ผลไม้ต่าง ๆ ที่ไหว้ในวันตรุษจีนมีความหมายดังต่อไปนี้

    ส้ม หมายถึง โชคลาภ วาสนา มีความหมายถึงโชคดี
    กล้วย หมายถึง การมีลูกหลานมาก และเรียกโชคลาภเข้าบ้าน
    แอปเปิ้ล หมายถึง การมีสุขภาพแข็งแรง และความสุขสงบ
    สับปะรด หมายถึง การมองเห็นได้กว้างไกล
    องุ่น หมายถึง ความมั่งคั่งและความแข็งแรง
    สาลี่ หมายถึง เงินทองไหลมาเทมา

    [​IMG] เครื่องกระดาษ มีความหมายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    กระดาษเงินกระดาษทอง คนจีนเชื่อว่า เมื่อคนตายตายไปแล้ว ลูกหลานจะต้องส่งเงินทองไปให้เพื่อแสดงความกตัญญู และการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ก็ยังหมายถึงสิริมงคลที่จะเกิดกับลูกหลานอีกด้วย
    กอจี๊ หรือ จี๊จุ๊ย หมายถึง กระดาษทองชิ้นใหญ่มีกระดาษแดงตัดเป็นตัวอักษรว่า เผ่งอัน หมายถึง ความโชคดี
    กิมจั๊ว หมายถึง กระดาษเงินกระดาษทองที่ลูกหลานนำมาทำเป็นชุด พับเป็นรูปดอกไม้ก่อนไหว้
    กิมเต้า หมายถึง ถังเงินถังทอง ใช้ไหว้เทพยดาฟ้าดิน
    กิมเตี๊ยว หรือ แท่งทอง ใช้สำหรับไหว้คนตาย
    อิมกังจัวยี่ หรือ แบงค์กงเต็ก ใช้สำหรับเบิกทางไปสู่สวรรค์ขอคนตาย


    [​IMG]

    อาหารไหว้ช่วงบ่าย


    [​IMG] ช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.00 – 15.00 น. จะเป็นการไหว้วิญญาณที่ไม่มีญาติ โดยประกอบไปด้วยเครื่องไหว้ดังนี้

    [​IMG] อาหารคาว
    [​IMG] อาหารหวาน
    [​IMG] เครื่องกระดาษ


    [​IMG]

    อาหารไหว้วันตรุษจีน


    [​IMG] วันตรุษจีน เป็นการไหว้ในช่วงเช้าของวันที่ 1 ด้วยของเซ่นต่าง ๆ หลังจากนั้นจะให้ออกไปไหว้เจ้านอกบ้าน และไหว้บรรพบุรุษ เสร็จแล้วจะเดินทางไปเยี่ยมพี่น้อง โดยเครื่องไหว้ต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้


    [​IMG] ส้ม หมายถึง โชคดี
    [​IMG] ของหวาน 5 อย่าง
    [​IMG] ขนมจันอับ หมายถึง ความเจริญงอกงามดุจดังเมล็ดพืช


    เราหวังว่า วันตรุษจีนนี้ คงเป็นอีกวันที่เทพยดาฟ้าดินที่เราไหว้ จะนำพาความสุขสงบร่มเย็น พร้อมด้วยโชคลาภเงินทอง มาสู่เราตลอดปีนะคะ


    -http://hilight.kapook.com/view/19797-

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    ประวัติวันตรุษจีน หรือปีใหม่จีน


    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG]



    ประวัติของวันขึ้นปีใหม่ของ จีนมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ในวัฒนธรรมอื่นๆ ความปรารถนาสิ่งที่เราหวังว่าจะได้ปรับปรุง หรือที่เราคิดทำเมื่อเริ่มต้นในปีใหม่ มาถึงตอนนี้ ถ้าไม่ถูกลืมก็ถูกยัดลงกล่องใส่ตู้ปิดตายและแปะหน้าตู้ว่าไม่แน่ เอาไว้ทำปีหน้าแล้วกันอย่างไรก็ดี ความหวังก็คงยังไม่สูญไปทั้งหมดเพราะโอกาสที่สองกำลังมาถึงแล้ว กับการฉลองวันปีใหม่จีนหรือที่เรารู้จักกันว่า ตรุษจีนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ นั้นเอง

    [​IMG]


    [​IMG]







    [​IMG]

    ตรุษ จีนนั้นคล้ายคลึงกับวันปีใหม่ในประเทศทางตะวันตก ร่องรอยของประเพณี และพิธีกรรมความเป็นมาของการฉลองตรุษจีน นั้นมีมานานกว่าศตวรรษ จริงๆแล้วนานมาก จนไม่สามารถย้อนกลับไปดูว่าเริ่มต้นฉลองมาตั้งแต่เมื่อไร เป็นที่รู้จักและจำได้ทั่วไปว่าเป็น การฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และการฉลองเป็นเวลานานถึง 15 วัน การเตรียมงานฉลองส่วนใหญ่จะเริ่มหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก) เมื่อผู้คนเริ่มซื้อของขวัญ, สิ่งต่างๆ เพื่อประดับบ้านเรือน, อาหารและเสื้อผ้า การทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้นในวันก่อนตรุษจีน บ้านเรือนจะถูก ทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่างหน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งหมายถึงการกวาดเอาโชคร้าย ออกไป ประตูหน้าต่างมีการขัดสีฉวีวรรณทาสีใหม่ซึ่งสีแดงเป็นสีนิยม ประตูหน้าต่างจะถูก ประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพรอย่างเช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และอายุยืนเป็นต้น



    [​IMG]


    วัน ก่อนวันตรุษจีนนั้นเป็นวันแห่งการการรอคอยจะว่าไปถือวันที่น่าตื่นเต้นมาก ที่สุด ในบรรดาการฉลองทั้งหมดเห็นจะได้ ประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ นั้นผูกไว้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงเสื้อผ้า อาหารค่ำนั้นประกอบด้วยอาหารทะเล และอาหารนึ่งเช่นขนมจีบ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่างๆกัน อาหาร อันโอชะอย่างเช่นกุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้จะนำความความร่ำรวยมาให้ และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร และเป็นธรรมดาเสื้อผ้าที่ใส่สีแดงถือเป็นสีที่เป็นมงคลเป็นการไล่ปีศาจร้าย ให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง

    [​IMG]



    เมื่อถึงวันตรุษจีน ประเพณีตั้งแต่โบราณมาเรียกว่า อังเปา ซึ่งหมายถึง กระเป๋าแดง เป็นการที่คู่แต่งงานให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว ต่าง ออกมาเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ เริ่มจากญาติๆ แล้วต่อด้วยเพื่อนบ้าน ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า "Let bygones be bygones" (อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป)


    ใน วันตรุษนี้ อารมณ์โมโหโกรธาจะถูกลืม และไม่สนใจ การฉลองวันตรุษจีนสิ้นสุดลงในงานโคมไฟ ซึ่งฉลองโดยการร้องเพลง เต้นรำ และงานแสดงโคมไฟ ถึงแม้ว่าการฉลองวันตรุษจีน จะมีแตกต่างกันออกไปแต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ การอวยพร ความสงบ และความสุขให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนทุกคน

    อาหารไหว้เจ้า
    ใน วันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆในปี อาหารชนิดต่างๆที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว

    ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่างๆที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่างๆมีความ หมายที่เป็น มงคลในตัวของมัน

    เม็ดบัว - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย
    เกาลัด - มีความหมายถึง เงิน
    สาหร่ายดำ - คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวย
    เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง - คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข
    หน่อไม้ - คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่ง เป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์




    [​IMG]

    อาหารอื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดม- สมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่ เพื่อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว

    ทาง ตอนใต้ของจีน จานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซำ เป็นอาหารที่นิยม อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน

    ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน





    [​IMG]


    ทุกคนจะไม่ พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความหมายเป็นนัย และคำว่า สี่ ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายก็จะต้องไม่พูดออกมา ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปีเก่าๆ ก็จะไม่เอามาพูดถึง ซึ่งการพูดควรมีแต่เรื่องอนาคต และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่

    หากคุณร้องไห้ในวันปีใหม่ คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฎิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน



    การแต่งกายและความสะอาด ในวันตรุษจีนเราไม่ควรสระผมเพราะนั้นจะหมายถึงเราชะล้างความโชคดีของเราออก ไป เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วงเทศกาลนี้ สีแดงถือเป็นสีสว่าง สีแห่งความสุข ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่ เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันปีใหม่ จะส่งให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้ อังเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วย ธนบัตรใหม่เพื่อโชคดี

    วันตรุษจีนกับ ความเชื่ออื่น ๆ สำหรับคนที่เชื่อโชคลางมากๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแส เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อ เป็นความเป็นสิริมงคล




    [​IMG]
    บุคคลแรกที่ พบและคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมาก ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดี

    การเข้าไปหาใครในห้องนอนในวันตรุษ ถือเป็นโชคร้ายดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก



    ไม่ ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษเพราะเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าชาวจีนทุกคนจะคงยังเชื่อตามความเชื่อที่มีมาแต่ทุกคนก็ ยังคงยึดถือ และปฎิบัติตาม เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนธรรมเนียม และวัฒนธรรม โดยที่ชาวจีน ตระหนักดีว่าการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมมาแต่เก่าก่อนเป็นการแสดงถึงความเป็น ครอบครัวและเอกลักษณ์ ของตน


    15 วันแห่งการฉลองตรุษจีน


    [​IMG] วันแรกของปีใหม่ เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อ ในวันนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุและนำมาซึ่งความสุขในชีวิตให้ กับตน



    วันที่สอง ชาวจีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าวอาบ น้ำให้แก่มัน ด้วยเชื่อว่า วันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิด



    วันที่สามและสี่ เป็นวันของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตน



    [​IMG] วันที่ห้า เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่าย



    วันที่หก ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดไปวาสวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุข



    วันที่เจ็ด ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำ มาจากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิด ของมนุษย์ในวันนี้อาหารจะเป็น หมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสำเร็จ



    [​IMG] วันที่แปด ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์



    วันที่เก้า จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้



    วันที่สิบถึงวันที่สิบสอง เป็นวันของเพื่อนและญาติๆ ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่ทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมัน วันที่สิบสามถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย


    [​IMG] วันที่สิบสี่ ความเป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้น ในคืนของ วันที่สิบห้า แห่งการฉลองตรุษจีน

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]




    -http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1025377-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    เรื่องน่ารู้คู่ วันตรุษจีน




    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


    สำหรับตรุษจีนปีมังกรนี้ เราลองมาดูกันสิว่าอะไรที่เราควรทำและไม่ควรทำกันบ้าง เพื่อต้อนรับช่วงเทศกาลตรุษจีน

    [​IMG] ดอกไม้ไฟ โคมลอย และคำโคลงประโยคคู่สีแดง เกี่ยวอะไรกับวันตรุษจีน

    ในคืนก่อนวันตรุษจีน ชาวจีนจะนั่งดูทีวี กินอาหาร พูดคุยหยอกล้อกันภายในครอบครัว โดยมีตำนานเก่าแก่เล่ากันว่า สมัยก่อนมีปิศาจตนหนึ่งชื่อว่า "เหนียน" (หรือคำว่า "ปี" ในภาษาไทย) อาศัยอยู่บนภูเขาออกอาละวาด จับมนุษย์ วัว และควายเป็นอาหาร ผู้ คนจึงพยายามหาวิธีกำจัดเจ้าปิศาจจึงพบว่า เจ้าปิศาจตนนี้กลัว ไฟ เสียงปัง และกลัวสีแดง พวกมนุษย์จึงพากันจุดประทัดหรือติดโคมไฟหน้าบ้าน เพื่อขับไล่ให้ปิศาจออกไป และถึงแม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีใครเชื่อเรื่องปิศาจกันแล้วก็ตาม ตำนานและเรื่องเล่าเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ ชาวจีนยังคงแขวนโคมสีแดงไว้หน้าบ้าน นั่งดูโทรทัศน์กับครอบครัวเพื่อต้อนรับวันใหม่พร้อมกัน

    โดยปกติแล้วชาวจีนจะไม่จุดพลุหรือดอกไม้ไฟกันตอนกลางคืน เพราะจะเป็นการรบกวนผู้อื่น แต่จะจุดประทัดกันในช่วงกลางวันแทน เพราะไม่ถือเป็นการรบกวนผู้อื่นมากนัก

    [​IMG] อาหารในวันตรุษจีน

    ทางตอนเหนือของประเทศจีนนั้น นิยมจัดติ่มซำเป็นอาหารขึ้นโต๊ะสำหรับมื้อเย็น เพราะชาวจีนเชื่อว่าการกินติ่มซำในวันสิ้นปีนั้นจะนำพาโชคดีมาให้ อาหารที่มีชื่อว่า "หยวนเบา (yuan bao)" เป็นอาหารที่มีลักษณะคล้ายเรือสีทอง และมีรูปทรงเดียวกับเงินที่ใช้กันแต่โบราณ ซึ่งการทำอาหารชนิดนี้อาจดัดแปลงโดยการยัดใส่ด้วยผัก เนื้อสัตว์ ปลาและกุ้ง หรือบางครอบครัวอาจดัดแปลงโดยการใส่ถั่วเพื่มลงไปเป็นใส้ หรือใส่เหรียญลงไปสัก 1 เหรียญในใส้เพื่อคอยดูว่าใครจะได้เป็นผู้โชคดีที่สุดของปี

    ส่วน ทางตอนใต้ของประเทศจีนนั้น ผู้คนชอบทานข้าวกันมากกว่าข้าวสาลี หลายครอบครัวจะทานเค้กที่ทำจากข้าวเหนียวเป็นอาหารส่งท้ายปี ขนมเค้กที่ว่านั้น ชาวจีนเรียกกันว่า "เหนียน เกาว(ดีวัน ดีคืน)" ซึ่งเป็นดั่งสัญลักษณ์ของปีที่รุ่งเรือง นอกจากนั้น ต้นกระเทียม และปลา ยังเป็นอาหารที่ขาดไม่ได้เช่นกัน

    [​IMG] การห่อเงินด้วยสีแดง

    ช่วงเทศกาลตรุษจีนถือเป็นวันที่โปรดปรานของเด็ก ๆ ทุกคน เพราะว่าเป็นวันที่จะได้รับอั่งเปาสีแดงจากคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่าและจากญาติคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นหลักร้อยหรือหลักพันก็ได้ อาจให้โดยกับมือหรือวางไว้ให้ข้างหมอนตอนเด็ก ๆ หลับก็ได้

    [​IMG] ห้ามตัดผม

    คนจีนหลาย ๆ คนที่เชื่อเรื่องโชคลาภมักจะไม่ตัดผมกันในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะเชื่อว่าจะทำให้พี่ชายแม่เสียชีวิตลงได้ ดั่งเรื่องเล่าที่ว่า ช่าง ตัดผมคนหนึ่งอยากหาของขวัญให้คุณลุงของเขา แต่เพราะยากจนไม่มีเงินซื้อของขวัญอันแสนมีค่ามาให้ได้ เขาจึงตัดผมให้ลุงเป็นของขวัญแทน หลังจากที่ ลุงของเขาเสียชีวิตลง หลานชายของเขาร้องไห้เพราะคิดถึงทุกปี จนเป็นตำนานความเหมือนกันในความหมายของคำว่า "คิดถึงลุงของเขา (si jiu)" และคำว่า "การตายของลุง" ซึ่งในภาษาจีน สองคำนี้อ่านออกเสียงอย่างเดียวกัน

    เหล่า นี้คือเรื่องเล่าขาน ตำนานแห่งวันตรุษจีน ส่วนโชคดีจะอยู่หรือไปนั้น อยู่ที่การกระทำของเราในวันนี้และพรุ่งนี้เช่นกัน ส่วนธรรมเนียมปฏิบัติและคุณค่าของวัฒนธรรมนั้นคงคุณค่าไว้เพื่อดำรงไว้ให้คน รุ่นหลังได้ศึกษากันต่อไป



    -http://hilight.kapook.com/view/55824-

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    สิ่งมงคลคู่เทศกาลตรุษจีน ติดตัวไว้ดีมีแต่เฮง!




    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะคะ สำหรับเทศกาลตรุษจีน ซึ่งในปีนี้ 2555 จะตรงกับวันจันทร์ที่ 23 มกราคม บรรดาชาวไทยเชื้อสายจีนก็เตรียมตัวกันไปจับจ่ายซื้ออาหารที่เป็นมงคล ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ หรือจะเป็นอาหารอย่าง เช่น หมู ไก่ ตับ ปลา กุ้ง ที่สื่อความหมายดี ๆ เพื่อไหว้บรรพบุรุษ อีกทั้งยังเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ต้อนรับเทศกาลปีใหม่จีนอีกด้วย

    นอกจากจะมีอาหารมงคลที่ช่วยเสริมดวงแล้ว ยังมีของมงคลที่ชาวจีนเชื่อว่า ถ้ามีติดบ้าน หรือพกติดตัวไว้ ก็จะให้โชค ว่าแต่ว่า จะมีสิ่งของมงคลใดบ้าง และแต่ละอย่างจะสื่อความหมายให้โชคให้ลาภในเรื่องใด วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG] ยันต์แปด : ภาษาจีนเขาออกเสียงเรียกกันว่า "ผันฉัง" เป็นของสิริมงคลที่สื่อความหมายถึงการอยู่เย็นเป็นสุข

    [​IMG] เชือกถัก หรือกังสดาล : เป็นของมงคลที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับยันต์ แต่กังสดาล จะช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคล และภูตผีปีศาจให้ออกไปจากบ้านเรือน

    [​IMG] หยก : เป็นหินพิเศษที่เชื่อว่าป้องกันและช่วยขจัดสิ่งอัปมงคล อีกทั้งถ้ามีติดตัวไว้ หยก จะช่วยรับเคราะห์ร้ายต่าง ๆ แทน นอกจากนี้ หยกยังเป็นตัวแทนความร่ำรวย และความเฮง! ซึ่งหยกนั้นมีรูปลักษณ์ และสีแตกต่างกันไป ทั้งสีขาว เขียวเข้ม เขียวอ่อน อาจจะทำเป็นเหรียญเงินตราของจีนในสมัยก่อน หรือที่เรียกกันว่า "หยวนเป่า" ที่มีลักษณะคล้ายเรือลำเล็ก ๆ ซึ่งก็มีความหมายสื่อว่า โชคกำลังจะมาถึงท่านแล้ว ความร่ำรวยจะเข้ามาหาในเร็ววัน

    [​IMG] พัด : ภาษาจีนเรียกว่า "ซ่าน" เป็นคำพ้องเสียงที่มีความหมายว่า "เมตตากรุณา" ซึ่งบางทีเราก็จะเห็นพัดที่มีถั่วลิสงติดมาด้วย นั่นก็หมายความว่า มีลูกหลานมากมาย มีเงินใช้ไม่มีวันหมด

    [​IMG] น้ำเต้า : หมายถึง อายุยืนยาว มีลูกมีหลานเต็มบ้านเต็มเมือง และยังเชื่อว่า จะช่วยขจัดภูตผีปีศาจไปได้

    [​IMG] รูปพระยิ้ม : เชื่อว่ายิ้มเมื่อไรก็จะมีโชคเข้ามา

    [​IMG] ดอกบัว : เป็นสิ่งมงคลทางพุทธศาสนาอยู่แล้ว เพราะพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ประทับอยู่ในดอกบัว อย่างเช่นเจ้าแม่ กวนอิม เป็นต้น ซึ่งถ้าพกติดตัวไว้ถือว่าเป็นสิริมงคลเป็นอย่างมาก

    [​IMG]

    [​IMG] ปี่เซียะ : เป็นมังกร ขาเหมือนสิงโต ลำตัวเหมือนกวางมีปีก มีหาง มีเขา หน้าตาดุ อ้าปากกว้าง ไม่มีรูก้น มีนิสัยกล้าหาญ ตรงไปตรงมา รักเจ้าของ ให้คุณกับผู้บูชาทุกคน ด้วยความที่ไม่มีรูก้น ปี่เซียะจึงเป็นสัตว์ที่กินอย่างเดียว ไม่ถ่าย จึงช่วยให้มีทรัพย์ มีแต่เงินไหลเข้า ไม่ไหลออกใครมีไว้ ช่วยเสริมบารมี เสริมโชคลาภ ทั้งการค้าการขายและด้านเสี่ยงโชค

    [​IMG] รูปปั้นเต่า : เต่าเป็นสัตว์ที่อายุยืน ดังนั้นการวางรูปปั้นเต่าไว้ในบ้านจึงช่วยส่งเสริมให้คนสูงอายุในบ้านมีอายุยืน คนเจ็บคนไข้หายเจ็บป่วย


    [​IMG] ผี่อิว หรือ ผีซิว : เป็นสัตว์ป่าที่มีรูปร่างคล้ายกับหมี มีลักษณะห้าวหาญ เปิดเผย ตรงไปตรงมา และดุดัน จึงมีการเปรียบเปรยกันว่า ผี่ฮิวคือ ทหารหาญที่ห้าวหาญ สามารถขจัดอสูรร้ายต่าง ๆ แถมยังให้โชคให้ลาภได้อีกด้วย

    [​IMG] คางคกสามขา : นิยมใช้ในหมู่คนค้าขาย เพื่อเพิ่มพูนเงินทองให้กับเจ้าของกิจการ

    และเมื่อเราได้ทราบความหมายของสิ่งมงคลกันแล้ว ก็อย่าลืมเขียนตัวอักษรภาษาจีนเล็ก ๆ ติดไว้ว่า "ชู หิ้ว ผิง อาน" หมายถึง อยู่เป็นสุขทุกที่ "ว่าน ซื่อ หยูว อี้" หมายถึง ให้สมปรารถนาในทุกประการ จะได้ "เฮง เฮง เฮง" ต้อนรับวันตรุษจีนกันถ้วนหน้านะคะ


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    educatepark.com , thaigoodview.com


    -http://hilight.kapook.com/view/66348-

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .


    ขนมวันตรุษจีน ขนมไหว้ วันตรุษจีน


    [​IMG]






    ขนมไหว้ วันตรุษจีน (สสส.)

    ซาลาเปา (หมี่ก้วย หรือ หมี่เปา)

    ไม่มีไส้
    เรียกว่า หมั่นโถว มีแบบที่ทำจาหัวมัน เนื้อออกสีเหลือง และแบบไม่ผสมมัน เนื้อออกสีขาว นิยมทำให้แตกเหมือนดอกไม้บาน ถ้าลูกเล็กจะแต้มจุดแดง ลูกใหญ่จะปั๊มตัวหนังสือสีแดง เขียนว่า ฮก แปลว่า โชคดี

    มีไส้ นิยมไส้ เต้าซา แป้งไม่ผสมมัน หน้าไม่แตก มีตัวหนังสือปั๊มว่า เฮง แปลว่าโชคดี

    ซิ่วท้อ เป็นซาลาเปาพิเศษ ทำเป็นรูปลูกท้อ ใส้เต้าซา เพราะถือว่าเป็นผลไม้สวรรค์ ใช้ในงานวันเกิด ใครได้กินอายุจะยืนยาว

    หนึงกอ (ขนมไข่) ใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง

    ก๊าก้วย (ฮวกก้วย) "ฮวก"
    แปลว่า งอกงาม "ก้วย" แปลว่า ขนม ใช้กับงานมงคลเป็นส่วนใหญ่ เช่นงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ บนหน้าขนมปั๊มตัวหนังสือตรงกลาง "ฮวดไช้" คำที่อยู่รอบนอก คือ "เฮง" แปลว่า โชคดี

    คักท้อก้วย มีไส้ข้าว ไส้กุยช่าย ไส้ผัดผักกะหล่ำ ไส้ถั่ว นวดกับแป้งผสมสีแดง เป็นสีนำโชค ใช้ไหว้เจ้าที่ หรือไหว้บรรพบุรุษ

    จับกิ้ม (แต่เหลียง) หรือที่คนไทย เรียกว่า "ขนมจันอับ" ใช้ไหว้เจ้าได้ทุกประเภท ประกอบด้วยขนม 5 อย่าง คือ

    • เต้ายิ้งปัง คือ ขนมถั่วตัด
    • มั่วปัง คือ ขนมงาตัด
    • ซกซา คือ ถั่วเคลือบน้ำตาล
    • กวยแฉะ คือ ฟักเชื่อม
    • โหงวจ๊งปัง คือ ขนมข้าวพอง

    ตั่วเปี้ย
    คนไทยเรีกว่า "ขนมเปี๊ย"

    แบบเจ เรียกว่า "เจเปี้ย" มีไส้มังสวิรัติ เช่น ไส้เต้าซา

    แบบชอ เรียกว่า "ชอเปี้ย" ใส่มันหมู ใช้ไหว้เจ้าได้ทุกอย่าง

    ทึ้งถะ คือ เจดีย์น้ำตาล ซึ่งต้องมีทึ้งไซ หรือสิงห์น้ำตาล มีไว้เพื่ออารักขาเจดีย์ ใช้ไหว้เทพยดาฟ้าดิน ในวันที่ 9 เดือน 1 ของทุกปีและสามารถใช้ไหว้เจ้าแม่กวนอิมในวันไหว้พระจันทร์ได้

    โหงวก้วย-โหงวอั้ง หรือขนมลูกหลาน ใช้ไหว้คนตายในงานศพเท่านั้น ทำจากแป้งข้าวเจ้า ทั้งแบบเกลี้ยง และแบบแต่งถั่วดำ กินไม่อร่อย แต่ใช้ในการทำพิธี

    น้ำตาล นำน้ำตาลมาใส่ถุง ติดกระดาษแดง สามารถใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง

    กระดาษเงินกระดาษทอง

    คน จีนเชื่อกันว่า เมื่อตายไปแล้วจะไปยังอีกภพโลกหนึ่ง เรียกว่า "อิมกัง" ดังนั้นลูกหลานจึงต้องส่งเงินทองไปให้ เพื่อแสดงความกตัญญู ด้วยการไหว้เจ้า แล้วเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ และการไหว้เจ้ายังเป็นสิริมงคลแก่ลูกหลาน ให้มีความสุขความเจริญ ซึ่งกระดาษเงินกระดาษทองบางแบบใช้ไหว้เจ้า บางแบบใช้ไหว้บรรพบุรุษ

    กอจี๊ หรือ จี๊จุ้ย เป็นกระดาษเงินกระดาษทองชิ้นใหญ่ มีกระดาษแดงตัดเป็นลายตัวหนังสือว่า "เผ่งอัน" เป็นคำอวยพร แปลว่า โชคดดีใช้สำหรับไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพยดาฟ้าดิน

    กิมจั้ว หรือ งึ้งจั๊ว หมายถึงกระดาษเงินกระดาษทอง เวลาจะไหว้จะทำเป็นชุด ก่อนไหว้ลูกหลานจ้องนำมาพับเป็นรูปดอกไม้ ใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง

    กิมเต้า หรือ งึ้งเต้า หรือถังเงินถังทอง ใช้ไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพยดาฟ้าดิน

    กิมเตี๊ยว คือ แท่งทอง ใช้ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้คนตาย

    ค้อซี คือ กระดาษทอง ก่อนใช้ให้พับเป็นรูปร่างก่อน เช่น พับเป็นเรือ เรียกว่า "เคี้ยวเท่าซี" เชื่อกันว่าการพับเรือ จะได้มูลค่าสูงกว่าการพับอย่างอื่นใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง รวมทั้งไหว้คนตาย โดยเฉพาะพิธีทำกงเต๊ก ลูกหลานต้องพับค้อซี ให้มากที่สุด

    อิมกังจัวยี่ คือแบงก์กงเต็กนั่นเอง

    อ่วงแซจิ่ว ใช้เผาเป็นใบเบิกทาง ไปสวรรค์สำหรับผู้ตาย

    เพ้า คือ ชุดของเทพเจ้า คล้ายกับที่คนไทยถวายผ้าห่มพระพุทธรูป มีการทำของเจ้าหลายองค์ เช่น ชุดของเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม พระพุทธ

    ตั้วกิม เป็นกระดาษเงินกระดาษทองที่ญาติสนิทนำไปไหว้ผู้ตายการเผากระดาษเงินกระดาษ ทองจะต้องทิ้งไว้สักพัก เพื่อให้ทุกคนได้เส้นไหว้เสร็จ ก็จะทำการ "เหี่ยม" หรือจบเหนือศีรษะ ระหว่างนี้ให้ทำการอธิษฐานขอพรไปด้วย แล้วจึงนำไปเผา เมื่อไฟมอดแล้วจึงไหว้ลา เป็นการเสร็จพิธี

    ผลไม้ไหว้เจ้า

    ส้ม คำจีนเรียกว่า "ไต้กิก" แปลว่า โชคดี

    องุ่น คำจีนเรียกว่า "พู่ท้อ" หมายถึง งอกงาม

    สับประรด คำจีนเรียกว่า "อั้งไล้" แปลว่า มีโชคมาหา

    กล้วย คำจีนเรียกว่า "เกงเจีย" มีความหมายถึงการมีลูกหลานสืบสกุล



    ขอขอบบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก สสส.
    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/45969-

    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .


    15 วัน แห่งการฉลองตรุษจีน


    [​IMG]





    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก glitter.kapook.com

    วัน ตรุษจีนใกล้เข้ามาถึง เด็กน้อย เด็กโตทั้งหลายต่างใจจดใจจ่อรอ อังเปา ที่หมายถึงกระเป๋าแดง ซึ่งเป็นการที่คู่แต่งงานให้เงินเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง ซึ่งทำเป็นประเพณีมาตั้งแต่ครั้งโบราณ และมีฉลองเลี้ยงตรุษจีนของทุกครอบครัวคนจีนกันทุกปี และคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีน จะมี 15 วันแห่งการฉลองวันตรุษจีนที่เป็นประวัติสืบต่อกันมา จะมีอะไรกันบ้างไปดูเลยค่ะ


    [​IMG] วันแรกของปีใหม่ของชาวจีนหรือวันตรุษจีน เป็นการต้อนรับเทวดา แห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อในวันนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุ และนำมาซึ่งความสุขในชีวิตให้กับตน

    [​IMG] วันที่สอง ชาวจีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าว อาบน้ำให้แก่มัน ด้วยเชื่อว่าวันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิด

    [​IMG] วันที่สามและสี่ เป็นวันของบุตรเขย ที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตน

    [​IMG] วันที่ห้า เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่าย

    [​IMG] วันที่หก ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัด สวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุข

    [​IMG] วันที่เจ็ด ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำ มาจากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ซึ่งวันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิดของมนุษย์ ในวันนี้อาหารจะเป็นหมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความ สำเร็จ

    [​IMG] วันที่แปด ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครัวอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์

    [​IMG] วันที่เก้า จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้

    [​IMG] วันที่สิบถึงวันที่สิบสอง เป็นวันที่ควรเชื้อเชิญเพื่อน ๆ และญาติ ๆ มาทานอาหารเย็นร่วมกัน และหลังจากที่ทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมัน

    [​IMG] วันที่สิบสาม หลังจากทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมันเมื่อวันที่สิบถึงวันที่สิบสองแล้ว วันนี้ก็ถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย

    [​IMG] วันที่สิบสี่ ความเป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้นในคืนของวันที่สิบห้าแห่งการ ฉลองตรุษจีน

    [​IMG] วันที่สิบห้า วันแห่งการฉลองตรุษจีน
    [​IMG]



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก

    domesticthailand.com




    -http://hilight.kapook.com/view/19796-

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    9 ข้อห้าม ที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีน




    [​IMG]

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ ใกล้เทศกาลวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน คงจะตื่นเต้นกันไม่น้อย เพราะช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่จะได้พบกับญาติมิตรที่ไม่เจอหน้ากันมานาน และบางคนก็อาจได้รับอั่งเปาของขวัญจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ แต่ ในเมื่อนี่คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนทั้งที หลาย ๆ บ้านก็คงจะมีธรรมเนียมปฏิบัติและข้อห้ามที่สืบทอดต่อกันมา ซึ่งในวันนี้จะพาไปดูกันว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างไม่ควรปฏิบัติในวันตรุษจีน

    [​IMG] 1. ห้ามทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีน

    ชาวจีนมีความเชื่อว่า การทำความสะอาดบ้าน และทิ้งขยะ ในวันตรุษจีนนั้น จะเป็นการการกวาดเอาโชคลาภ เงินทอง ออกไปจากบ้าน แม้ว่าบ้านในช่วงวันตรุษจีนจะสกปรกก็ตาม บางคนที่จำเป็นจะต้องทำความสะอาดบ้าน ก็จะเพียงกวาดเศษฝุ่นไปไว้ที่มุมบ้าน แล้วค่อยเอาเศษฝุ่นนั้นไปทิ้งในวันต่อไป ดังนั้น วันตรุษจีน จึงไม่ค่อยมีคนทำความสะอาดบ้าน แต่จะไปทำความสะอาดกันหนึ่งก่อนวันตรุษจีน เพื่อที่จะให้บ้านสะอาดรับปีใหม่ และใช้บ้านในการต้อนรับแขกที่จะมาเยี่ยมเยียนอีกทางหนึ่ง

    [​IMG] 2. ห้ามสระผมหรือตัดผม

    ชาวจีนจะไม่นิยมสระผมหรือตัดผมกันในวันตรุษจีน หรือบางคนก็จะไม่สระผม 3 วันหลังจากวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า ผม เป็นคำพ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า มั่งคั่ง ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน จึงเหมือนกับการนำความมั่งคั่งออกไป

    [​IMG] 3. ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะเบาะแว้ง

    ในวันตรุษจีน คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมไปถึงการพูดถึงความตายหรือผี เนื่องจากเชื่อว่า การพูดสิ่งที่ไม่ดีในวันนี้ จะนำความโชคร้ายมาให้ตลอดทั้งปี รวมไปถึงการที่ไม่พูดถึงเลข 4 เนื่องจากเลข 4 ในภาษาจีน ออกเสียงคล้ายกับคำว่า ตาย ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงพยายามไม่ใช้หรือไม่พูดอะไรที่เกี่้ยวข้องกับเลข 4

    [​IMG] 4. ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์

    คนจีนมักจะไม่กินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เนื่องจากเชื่อว่า คนจนคือคนที่มักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีนจึงเหมือนกับการขัดขวางไม่ให้ตัวเองร่ำรวย และทำตัวเหมือนคนจน ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงการไม่กินเนื้อสัตว์ด้วย เนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นเป็นมังสวิรัติ

    [​IMG] 5. ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน

    คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนจึงเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน

    [​IMG] 6. ห้ามใส่ชุดขาวดำ

    เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้น การสวมเสื้อผ้าสีขาวดำในวันนี้จึงหมายถึงลางร้าย คนจีนจึงมักสวมเสื้อผ้าสีแดงกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเชื่อว่า สีแดงคือสีที่จะนำความโชคดีมาให้

    [​IMG] 7. ห้ามให้ยืมเงิน

    คนจีนบางคนอาจจะหมายรวมการที่ไม่ให้ยืมสิ่งของต่าง ๆ นอกเหนือไปจากเงินแล้ว ซึ่งมีความเชื่อที่ว่า การให้ยืมเงินในวันนี้จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด รวมไปถึง หากใครที่ติดเงินใครไว้ ก็ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อกันว่า หากติดเงินใครในวันตรุษจีนแล้ว คน ๆ นั้นก็จะมีหนี้สินตลอดปีไม่จบไม่สิ้น

    [​IMG] 8. ห้ามทำของแตก

    คนจีนเชื่อกันว่า การทำสิ่งของแตก เช่น ทำแก้วแตก ทำจานแตก หรือทำกระจกแตก ในวันตรุษจีนนั้น จะหมายถึงลางร้ายที่บอกว่าครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว ดังนั้นในวันนี้ จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้สิ่งของในบ้านแตกหรือชำรุดเสียหาย แต่หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น

    [​IMG] 9. ห้ามซื้อรองเท้าใหม่

    คนจีนจะถือคติที่ว่า จะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai ซึ่งคำว่า Hai นี้ มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ ซึ่งชาวจีนเชื่อว่า นั่นเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี

    อ่านแล้วอย่าลืมนำไปปฏิบัตินะคะ เพื่อจะได้รับเอาโชคลาภ เงินทอง เข้ามาตั้งแต่วันตรุษจีนตลอดจนทั้งปีนี้เลยนะคะ


    -http://hilight.kapook.com/view/66365-

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    ควันธูปภัยใกล้ตัว



    [​IMG]


    ควันธูปภัยใกล้ตัว (สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค)

    ธูป ทำมาจากขี้เลื่อย กาว น้ำมันหอมสกัดจากพืช ใบไม้ เปลือกไม้ รากไม้ เมล็ดพืช เรซิน และสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอมพอกอยู่บนก้านไม้

    ธูปมีหลายรูปแบบ หลายขนาด ตั้งแต่เล็กถึงใหญ่มาก ๆ สามารถเผาไหม้หมดได้ในเวลา 20 นาที ถึง 3 วัน 3 คืนก็มี คาดว่า มีคนจุดธูปทั่วโลกปีหนึ่ง ๆ เป็นหมื่นถึงแสนตัน

    การ เผาไหม้ของธูปจะปล่อยสารต่าง ๆ มากมาย มีทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ มีเทน และสารก่อมะเร็งหลายชนิด เช่น สาร PAH ซึ่งพบว่า มีความสัมพันธ์กับมะเร็งปอด ผิวหนัง และกระเพาะปัสสาวะ , สารเบนซีน สัมพันธ์กับมะเร็งเม็ดเลือดขาว และสาร 1,3-บิวทาไดอีน สัมพันธ์กับมะเร็งของระบบเลือด

    นอกจากควันธูปเป็นมลพิษทางอากาศที่สำคัญในบ้าน อาคาร สถานที่ทำงาน วัด และศาลเจ้าที่มีการจุดธูปแล้ว การจุดธูปยังถือเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมในกิจวัตรประจำวันของมนุษย์ ที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วย

    การจุดธูปเป็นวัฒนธรรมที่มีรากฐานจากความเชื่อที่มีมาแต่โบราณสืบทอดต่อ ๆ กันมาว่า ทำให้สิ่งที่เราสักการะรับทราบถึงการกระทำของเรา การจุดธูปนั้นก่อให้เกิดความสุขทางจิตใจ แต่สิ่งที่เราคาดไม่ถึงคือ การส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน และอาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง


    [​IMG]


    เรา ควรจะปรับเปลี่ยนความเชื่อและพฤติกรรมนี้ใหม่ โดยหันมาคำนึงถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและตัวเรา ด้วยการรณรงค์ให้ทั่วโลกลดการจุดธูปโดยเริ่มจากคนไทยก่อน


    ทางเลือกใหม่...ใส่ใจสุขภาพ

    [​IMG] 1.ใช้ธูปที่มีขนาดสั้นลง หรือเป็นแบบชนิดไฟฟ้า

    [​IMG] 2.หากจำเป็นต้องจุดธูป ควรตั้งกระถางธูปไว้ภายนอกอาคารที่อากาศถ่ายเทสะดวก

    [​IMG] 3.จุดธูปแล้วรีบดับ โดยจุ่มลงในน้ำหรือทราย

    [​IMG] 4.อาจสักการะได้โดยการพนมมือ หรือถือธูปไว้ แต่ไม่จุด แล้วระลึกถึงสิ่งที่เราจะสักการะ

    [​IMG] 5.การไหว้พระออนไลน์ ซึ่งเราสามารถจุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ ปิดทองพระ ท่องบทสวด ภาวนาจิตผ่านทางคอมพิวเตอร์ได้

    หาก ทุกคนช่วยกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราก็เป็นคนหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยในการลดการปลดปล่อยมลพิษ และก๊าซเรือนกระจก ลดภาวะวิกฤติโลกร้อน และยังช่วยลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งลงได้



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค

    -http://health.kapook.com/view19292.html-


    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    แนะนำวัดจีน สถานที่ทำบุญช่วงตรุษจีน


    [​IMG]

    วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)





    เรียบเรียบข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thaiweekender.com, thailandoffroad.com และ วิกีพีเดีย

    "ตรุษจีน" เป็นเทศกาลสิริมงคลของคนไทยเชื้อสายจีนและบุคคลทั่วไป ที่มีความเชื่อในสิ่งศรัทธา ซึ่งชาวจีนสืบทอดเป็นประเพณีมายาวนาน โดยในแต่ละปี แต่ละคน แต่ละครอบครัวอาจประสบอุปสรรคชีวิตไม่เหมือนกัน เมื่อมาถึงปีใหม่ก็ต้องการขจัดปัดเป่าอุปสรรค และให้ชีวิตในปีใหม่มีความสมปรารถนา ด้วยเหตุนี้จึงมีการไหว้เทพเจ้า ไหว้สิ่งสิริมงคล เพื่อเสริมดวงชะตาและโชคลาภให้กับชีวิต . . . ว่าแล้วตรุษจีนปีนี้เราขอแนะนำและขอพาไปรู้จักวัดจีนสถานที่น่าไปทำบุญ น่าไปไหว้เทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันค่ะ

    [​IMG]วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)

    วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่
    เป็นวัดสังกัดจีนนิกาย ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ระหว่างซอยเจริญกรุง 19 และ 21 ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เป็นที่คุ้นเคยในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนจากต่างประเทศ หลายคนรู้จักวัดแห่งนี้ในนาม "วัดมังกร" เพราะคำว่า "เล่ง" หรือ "เล้ง" ในภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่ามังกร ส่วนคำว่า "เน่ย" แปลว่า ดอกบัว และคำว่า "ยี่" แปลว่า วัด แต่ชื่อวัดอย่างเป็นทางการคือ "วัดมังกรกมลาวาส" ได้รับพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

    วัดนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2414 (ประมาณ 130 ปี ล่วงมาแล้ว) ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปีกว่า มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบทางจีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว โดยวางแปลนตามแบบวังหลวง คือ มีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ ข้างหลังพระอุโบสถเป็นวิหารเทพเจ้า การสร้างใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุสำคัญ

    จากประตูทางเข้า เข้าไปจะถึงวิหารท้าวจตุโลกบาล จะเห็นเทพเจ้า 4 องค์ (ข้างละ 2 องค์) ในชุดนักรบจีน และถืออาวุธและสิ่งของต่างๆ กัน เช่นเครื่องดนตรี ดาบ พิณ เจดีย์ทรงสูง คนจีนเรียกว่า "ซี้ไต๋เทียงอ้วง" หมายถึง เทพเจ้าที่ปกปักษ์รักษาคุ้มครองทิศต่างๆ ทั้ง 4 ทิศ

    ถัดจากวิหารท้าวจตุโลกบาล คือ อุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานของวัด คือ พระศากยมุนีพุทธเจ้า คนจีนเรียก "ทีหุกโจ้ว" มีทั้งหมด 3 องค์ พร้อมพระอรหันต์อีก 18 องค์ เรียกว่า "ตึ่งนั้ง" หรือคนจีนว่า "จับโป่ยหล่อหั่ง"

    ทางด้านขวามีเทพเจ้าต่างๆ หลายองค์ เช่น เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา คนจีนเรียกว่า "ไท้ส่วยเอี๊ย" เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา "หั่วท้อเซียงซือกง" และที่นิยมไหว้ขอพรมากคือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ "ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ" เทพเจ้าเฮ่งเจีย คนจีนเรียกว่า "ไต่เสี่ยหุกโจ้ว" พระสังขจาย หรือ "ปู๊กุ่ยหุกโจ้ว" "กวนอิมเนี้ย" หรือ เจ้าแม่กวนอิม "แป๊ะกง" และ "แป๊ะม่า" รวมเทพเจ้าในวัด จะมีทั้งหมด 58 องค์ กลิ่นธูปและควันเทียนยังไม่เคยจางหายไป ตราบเท่าความศรัทธาของมนุษย์ยังอยู่คู่โลก

    ทั้งนี้ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) เปิดให้สะเดาะเคราะห์ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00น. - 18.00 น. สถานที่ตั้ง 423 ถนนเจริญกรุง เขตป้อมปราบ กรุงเทพฯ 10100 โทร. 0-2222-3975, 0-2226-6553


    [​IMG]
    [​IMG] วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์

    วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์ ตั้งอยู่ที่ตำบลโสนน้อย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พื้นที่เดิมก่อนเคยเป็นโรงเจขนาดเล็ก มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ เป็นโรงเจที่ชาวบ้านบางบัวทองให้ความศรัทธามาช้านาน ต่อมาคณะสงฆ์จีนนิกายมีปณิธานจะพัฒนาที่ส่วนนี้ให้เป็นวัดที่สมบูรณ์ เพื่อสร้างเป็นวัดเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในวโรกาสเถลิงถวัลย์ครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี วัดนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 12 ไร่ โดยคณะสงฆ์จีนนิกายมอบให้

    ทั้งนี้ พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (พระอาจารย์เย็นเชี้ยว) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและมีพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร เป็นประธานที่ปรึกษา พร้อมทั้งพุทธบริษัทไทย - จีน ร่วมกันสร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลสมัยปีกาญจนาภิเษก

    อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชานุญาตให้สร้างวัด และพระราชทานนามว่า "วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์" ท่านแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง เป็นผู้ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ฯ จึงนำมาซึ่งความปิติยินดีของชนชาวไทยเชื้อสายจีน และความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อคณะสงฆ์จีนมาโดยตลอด

    วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00 - 18.00 น.

    [​IMG] วัดกัมโล่วยี่

    วัดกัมโล่วยี่ หรือ วัดทิพยวารีวิหาร สร้างในสมัยกรุงธนบุรีในปี พ.ศ. 2319 รัชสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงพระราชทานที่ดินฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นที่อาศัย ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ องค์เชียงสือนัดดาเจ้าเมืองเว้ ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและได้ลักลอบหนีกลับเมือง กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงแคลงพระทัยชาวญวนจึงได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้กลุ่มชนชาวญวนซึ่งมีอยู่มากในบริเวณนั้น ย้ายออกไปอาศัยอยู่ที่อื่น เพื่อให้ห่างจากพระนคร ชุมชนบริเวณนี้ซึ่งเคยเป็นที่อาศัยของคนไทย คนจีน และคนญวน เชื้อสายพุทธจึงอยู่ในความเงียบสงบ วัดทิพยวารีวิหาร (กัมโล่วยี่) ในขณะนั้นจึงมีสภาพคล้ายรกร้าง ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาเลยอีกนานหลายปี

    จน ถึงประมาณปี พ.ศ.2439 พระอาจารย์ไหซัน พระภิกษุจีนชาวมณฑลหูหนาน ได้จาริกมาจำพรรษาที่วัดทิพยวารีวิหารแห่งนี้ ท่านจึงได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ และได้ชักนำคนไทย - คนจีนในเขตนั้น อันมีนายเช็งเต็ก แซ่เจี่ย และนางซิ่วออม แซ่ตัน สองสามีภรรยาคหบดีผู้กว้างขวางในกลุ่มชาวจีน ในย่านตลาดมิ่งเมืองเป็นแกนนำ ต่อมาทายาทของครอบครัวท่านทั้งสองนี้ ได้รับพระราชทานนามสกุลจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6 ว่า "เศวตมาลย์"

    พระอาจารย์และประชาชนในครั้งนั้น ได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดใหม่ทั้งวัด จนวัดอยู่ในสภาพสมบูรณ์สวยงาม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) จึงได้ทรงพระราชทานสมณศักดิ์ให้อาจารย์ไหซัน เป็นหลวงจีนธรรมรสจีนศาสน์ ปลัดซ้ายจีนนิกายดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส และได้ทรงพระราชทานนามวัดกัมโล่วยี่ให้ใหม่ว่า "วัดทิพยวารีวิหาร" ตรงกับ พ.ศ.2452 เหตุที่ให้ชื่อวัดเป็นเช่นนี้ เพราะที่วัดนี้มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือบ่อน้ำทิพย์อยู่นั่นเอง ตั้งแต่นั้นมาคนทั้งหลายจึงเรียกวัดกัมโล่วยี่ หรือวัดน้ำทิพย์นี้เป็น "วัดทิพยวารีวิหาร" อันเป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายจนถึงปัจจุบัน

    สำหรับท่านที่สนใจจะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดทิพยวารีวิหารหรือวัดกัมโล่วยี่ ไปได้ที่ สถานที่ตั้ง 119 ซอยทิพยวารี ถนนตรีเพชร เขตพระนคร (บ้านหม้อ) กรุงเทพฯ 10200 โทร. 0-222-5988



    [​IMG]

    ศาลเจ้าพ่อเสือ

    [​IMG] ศาลเจ้าพ่อเสือ

    ศาลเจ้าพ่อเสือ ตั้งอยู่เลขที่ 468 ถนนตะนาว ใกล้เสาชิงช้า เป็นศาลเจ้าชาวจีนที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย เป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐานเฮี้ยงเทียนเซียงตี่ และรูปเจ้าพ่อเสือ หรือที่คนจีนเรียกว่า "ตั่วเล่าเอี้ย" (บ้างก็เรียกเฮี๊ยงเทียนเสี่ยงตี) เป็นศาลที่ทั้งคนจีนและคนไทยให้ความเคารพ และมากราบไหว้กันนานเป็นร้อยปี ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างโดยชาวจีนแต้จิ๋ว เดิมตั้งอยู่บริเวรถนนบำรุงเมือง เมื่อมีการขยายถนนในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงย้ายมาสร้างใหม่ ที่บริเวณทางสามแพร่ง ถนนตะนาว เขตพระนคร

    ลักษณะอาคารสร้างตามรูปแบบศาลเจ้าที่นิยมทางภาคใต้ของจีน เทพเจ้าประจำศาลคือ "เสียนเทียนซั่งตี้" หรือที่คนไทยเรียกว่า "เจ้าพ่อเสือ" นั่นเอง เรื่องราวตำนานของเจ้าพ่อเสือที่ชาวบ้านย่านนี้เล่าขานนั้น เชื่อมโยงกับหลวงพ่อพระร่วง วัดมหรรณพ์ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องชาวไทย และชาวจีนในละแวกนี้ที่มีมาช้านาน

    วิธีสักการะ ไหว้ด้วยธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถาง เทียนแดง 1 คู่ และพวงมาลัย 1 พวง การสักการะเจ้าพ่อเสือ จะต้องซื้อเครื่องเซ่น ซึ่งประกอบด้วย หมูสามชั้น ไข่ดิบ และข้าวเหนียวหวาน ชุดเล็กราคา 20 บาท และชุดใหญ่ ราคา 50 บาท

    สำหรับเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไปสักการะ คือ ช่วงเวลา 06.00 - 17.00 น. ทุกวัน ควรเดินทางด้วยรถประจำทางหรือรถแท็กซี่จะสะดวกกว่า เนื่องจากสถานที่จอดรถมีจำนวนจำกัด

    [​IMG] เจ้าพ่อเห้งเจีย

    เจ้าพ่อเห้งเจีย หรือซุนหงอคง เป็นเทพผู้ประทานความสุขและเป็นผู้กำจัดเหล่าปีศาจร้าย ชนชาวจีนจึงนิยมกราบไหว้และบูชามาก ปัจจุบันศาลเจ้าหลายแห่งจะมีรูปเคารพของเทพวานร หรือเจ้าพ่อเห้งเจีย เพื่อไว้ให้คนที่เลื่อมใสศรัทธามีโอกาสเข้าไปสักการะขอพร

    ตำนานเจ้าพ่อเห้งเจียกล่าวกันว่า กำเนิดจากหินชนิดหนึ่งที่ถูกแสงสุริยันจันทราอาบมานานกว่าพันปี และแล้ววันหนึ่งก็แตกออก และมีลิงตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากหินก้อนนั้น เจ้าลิงตัวนั้นได้บุกขึ้นไปเขาฮัวกั่วซาน (เขาผลไม้) ซึ่งมีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และตั้งตัวเป็นใหญ่มีฉายานามว่า "มุ้ยเกาอ๋อง"

    วันหนึ่งมุ้ยเกาอ๋องเห็นลิงในฝูงตัวหนึ่งตายลงด้วยความแก่ชรา จึงเกิดความวิตกและคิดจะหาทางแก้ไขที่จะทำให้ตนเองไม่ต้องเจ็บหรือตาย จึงออกจากฝูงเดินทางเสาะแสวงหาไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็พบกับเซียน "โผเถโจ๊ซือ" (สุภูติ) และได้ฝึกวิชาคาถาอาคมต่างๆ จนมีอิทธิฤทธิ์สามารถแปลงกายได้ 72 ร่าง กระโดดตีลังกาคราหนึ่งได้ไกลกว่า 300 ลี้ พร้อมกับได้ชื่อใหม่ว่า "ซุนหงอคง" เมื่อฝึกวิชาสำเร็จแล้วก็เกิดลำพองใจ เกิดร้อนวิชาออกอาละวาดไปทั่วไม่เว้นแม้กระทั่งสวรรค์หรือบาดาล ทำให้ 3 โลกปั่นป่วนไปหมด

    ร้อนถึงเง็กเซียนฮ่องเต้ต้องส่งทหารสวรรค์และเทพต่างๆ ไปจับซุนหงอคง นอกจากจะจับไม่ได้แล้ว กลับถูกซุนหงอคงเล่นงานจนแตกกระจายไปหมด ในที่สุดเง็กเซียนฮ่องเต้ต้องยอมแพ้ให้ยกซุนหงอคงขึ้นเป็นใหญ่ พร้อมแต่งตั้งให้เป็น "มหาเทพฉีเทียนต้าเซิ้น"

    แต่ซุนหงอคงก็ยังเหิมเกริมไม่เลิก ในที่สุดองค์ยูไลต้องเสด็จมากำราบด้วยตัวเอง โดยจับซุนหงอคงไว้ให้ภูเขาหินทับขังไว้นานถึง 500 ปี และกำหนดไว้ว่าผู้ที่จะช่วยออกมาได้คือพระถัมซังจั๋ง และซุนหงอคงต้องยอมบวชเป็นลูกศิษย์รับใช้พระถังซัมจั๋งไปชมภูทวีป (อินเดีย) และต้องคุ้มครองพระถังซัมจั๋งไปตลอดทางด้วยจึงจะเป็นอิสระ

    ทั้งนี้ ศาลเจ้าเง็กฮกตึ๊ง (เจ้าพ่อเห้งเจีย) ตั้งอยู่ที่สวนผัก ตลิ่งชัน ซอย 19 กรุงเทพฯ โทร. 02 435-1143, 02 8842522-3


    [​IMG] ศาลเจ้าพ่อกวนอู

    ท่านกวนอู หยุน ฉาง (ภาษาจีนกลางเรียกนามท่านว่า กวนอี่ว์) เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเล่าปี่ และเตียวหุย ตามพงศาวดารเรื่องสามก๊ก หน้าท่านแดงตลอดเวลาเหมือนพุทราสุก มีหนวดเครางดงาม มีง้าวเป็นอาวุธคู่กาย ท่านมีความรอบรู้ด้านการทหารมาก มีพาหนะสุดยอด คือ ม้าเซ็กเทา ท่านร่วมชีวิตในการศึกร่วมกับเล่าปี่ด้วยความซื่อสัตย์จงรักภักดีและกล้าหาญ หลังจากท่านสิ้นชีวิตลง ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งคุณธรรม และมีความซื่อสัตย์สูงส่ง

    ภายในศาลเจ้าพ่อกวนอู ประดิษฐานรูปปั้นของท่าน และด้านข้างมีรูปปั้นเทพเจ้าม้า (เบ๊เอี๊ย) เซ่นไหว้รูปม้าพร้อมกับเขย่าลูกกระพรวน ซื้อผักให้เทพเจ้าม้า และถวายของไหว้ได้ ณ ศาลแห่งนี้ ศาลเจ้าพ่อกวนอู (บางคนเรียกศาลเจ้าพ่อม้า) ผู้หลักผู้ใหญ่เก่าๆ มักแนะนำให้ลูกหลานมาไหว้ท่านทุกปี

    การไหว้เจ้าพ่อกวนอู สำหรับบุคคลเกิดดวงชะตาธาตุต่างๆ

    [​IMG] เจ้าพ่อกวนอูเป็นธาตุไฟ คนที่เกิดธาตุน้ำมาไหว้แล้วจะดี
    [​IMG] เจ้าพ่อกวนอูเป็นธาตุไฟ คนที่เกิดธาตุทองหากเป็นข้าราชการมาไหว้จะดี
    [​IMG] เจ้าพ่อกวนอูเป็นธาตุไฟ คนที่เกิดธาตุดินมาไหว้แล้วจะเกิดอำนาจบารมี
    [​IMG] เจ้าพ่อกวนอูเป็นธาตุไฟ คนที่เกิดธาตุไฟมาไหว้แล้วจะทำให้มีความเชื่อมั่นดีขึ้น
    [​IMG] เจ้าพ่อกวนอูเป็นธาตุไฟ คนที่เกิดธาตุไม้มาไหว้แล้วจะทำให้ใจเย็นขึ้นรอบคอบมากขึ้น

    สถานที่ตั้งศาลเจ้าพ่อกวนอู : ตรอกโรงโดม ซอยอิสรานุภาพ เดินตรงจากศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยมาเล็กน้อย ถนนเยาวราช กรุงเทพฯ


    [​IMG] วัดจีนประชาสโมสร

    วัดจีนประชาสโมสร จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือวัดเล่งฮกยี่ ที่ ขยายมาจากวัดมังกรกมลาวาสในจังหวัดกรุงเทพมหานคร เริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2449 เป็นวัดจีนเก่าแก่แห่งศาสนาพุทธนิกายมหายาน ภายในวัดจีนมี พระพุทธรูป เทพเจ้า เจ้าแม่กวนอิม และเทพอื่นๆ ภายในวัด ถือเป็นวัดจีนเพียงแห่งเดียวในจังหวัดฉะเชิงเทรา มีระฆังใบใหญ่หล่อจากชาวจีนแต้จิ๋ว มีน้ำหนักกว่า 1 ตัน ที่รอบระฆังมีอักษรมหาปรัชญาปารมิตราสูตร ถ้าผู้ใดตีระฆังก็ฟังเหมือนกับการสวดมนต์ธรรมะ ในวัดมีพระประธาน ซึ่งได้นำมาจากประเทศจีน เมื่อครั้ง 100 กว่าปีมาแล้ว

    ทั้งนี้ วัดจีนประชาสโมสร ตั้งอยู่ที่ ถนนศุภกิจ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา

    นี่เป็นวัดจีนที่ทีมงานแนะนำมาบางส่วนเท่านั้นค่ะ ความจริงแล้วยังมีสถานที่ และวัดอีกจำนวนมากที่เพื่อนๆ สามารถไปทำบุญ และไหว้เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตได้ …






    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] และ watboromracha.org
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="headline" valign="baseline" align="left">ชาวไทยเชื้อสายจีนชอปปิ้งเครื่องไหว้แน่นเยาวราช รับเทศกาลตรุษจีน</td> <td valign="baseline" width="102" align="right">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="middle" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="middle" align="left">19 มกราคม 2555 16:35 น.</td> <td valign="middle" align="left">


    </td></tr></tbody></table>

    [​IMG]

    <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>



    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"><tbody><tr><td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> <td valign="middle" width="1" align="center" background="/images/linedot_vert.gif">[​IMG]

    </td> </tr> <tr> <td valign="top" width="1" align="right" height="1">[​IMG]</td> <td valign="top" align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1">[​IMG]</td> <td valign="top" width="1" align="left" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    เยาวราชคึกคัก ชาวไทยเชื้อสายจีนแห่ชอปปิ้งของไหว้ ทั้งอาหารคาวหวาน ขนม เครื่องไหว้ต่างๆ เพื่อใช้สำหรับไหว้เจ้า และไหว้บรรพบุรุษ ในเทศกาลตรุษจีน ด้าน บก.จร.แจ้งปิดถนนแยกทรงสวัสดิ์ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ และลำพูนไชย เพื่อจัดงานตรุษจีนไชน่าทาวน์

    วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศย่านเยาวราชเริ่มคึกคัก มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนต่างทยอยออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าต่างๆ ทั้งเป็ด ไก่ หมู กุ้ง อาหารคาว หวาน และขนมนานาชนิด อาทิ ขนมรากบัว และขนมถั่วตัด รวมถึงกระดาาเงินกระดาษทอง ของเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อใช้สำหรับไหว้เจ้าเนื่องในเทศกาลตรุษจีน

    ทั้งนี้ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) แจ้งว่า จะปิดถนนรอบเยาวราชจัดงานตรุษจีนไชน่าทาวน์ วันที่ 22 มกราคม 2555 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันที่ 25 มกราคม 2555 ตั้งแต่แยกทรงสวัสดิ์ ถึง ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ และถนนลำพูนไชย จากแยกลำพูนไชย ถึงถนนเยาวราช แจ้งให้ผู้ใช้เส้นทางทราบไว้เป็นข้อมูล

    สำหรับประเพณีไหว้ตรุษจีนหรือปีใหม่ของจีน จะมีการเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ในวันก่อนตรุษจีน หมายถึงการกวาดเอาโชคร้ายออกไป เลือกใส่เสื้อผ้าสีแดงซึ่งถือเป็นสีมงคลเป็นการขับไล่ปีศาจร้ายให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ไม่ริษยา และไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

    ขณะที่ประเพณีปฏิบัติแล้วในเทศกาลตรุษจีนจะแบ่งเป็น 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 21 22 และ 23 มกราคม ตามลำดับ โดยวันจ่ายคือวันก่อนสิ้นปี จะเป้นวันที่ออกไปซื้ออาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ (ตี่จู่เอี๊ย) ให้มารับการสักการะบูชาจากเจ้าบ้าน

    วันไหว้คือวันสิ้นปี จะมีการไหว้ทั้งหมด 3 ครั้ง ได้แก่ ตอนเช้ามืดจะไหว้ "ไป๊เล่าเอี๊ย" เป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เครื่องไหว้คือ เนื้อสัตว์ 3 อย่าง (ซาแซ ได้แก่ หมูสามชั้นต้ม ไก่ เป็ด ปรับเปลี่ยนเป็นชนิดอื่นได้ หรือมากกว่านั้นได้จนเป็นเนื้อสัตว์ห้าชนิด) เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง ตอนสาย จะไหว้ "ไป๊เป้บ๊อ" คือการไหว้บรรพบุรุษที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เพื่อแสดงความกตัญญูตามคติจีน และตามประเพณีจะไหว้ไม่เกินเที่ยงวัน สำหรับเครื่องไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว

    และสุดท้าย ตอนบ่าย จะไหว้ "ไป๊ฮ้อเฮียตี๋" เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเป็นสิริมงคล

    วันขึ้นปีใหม่ หรือ วันเที่ยว หรือ วันถือ คือวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปี (ชิวอิก) วันนี้ ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน คือ ไป๊เจีย คือ การไปไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ เพราะภาษาจีนแต้จิ๋วออกเสียงส้มว่า "กา" ซึ่งพ้องกับคำว่าทอง เปรียบได้ดั่งการนำโชคดีไปให้ โดยจะมอบส้มจำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย และที่เรียกวันนี้ว่าวันถือคือ เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน


    -http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000008509-

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    <table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 490 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 489 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>
    .

    [​IMG] [​IMG]

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • troot1.JPG
      troot1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      149.4 KB
      เปิดดู:
      112
    • troot2.JPG
      troot2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      222.2 KB
      เปิดดู:
      114
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    ชาวไทยเชื้อสายจีนตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษแล้ว




    [​IMG]

    ชาวไทยเชื้อสายจีนตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษแล้ว (ไอเอ็นเอ็น)

    บรรยากาศ ช่วงเทศกาลตรุษจีน ในหลายพื้นที่เป็นไปด้วยความคึกคัก บรรดาชาวไทยเชื้อสายจีน ได้ออกมาตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นไหว้ไว้ที่บริเวณหน้าบ้านของตนเอง เพื่อไหว้บรรพบุรุษ กันแล้ว

    ชาวไทยเชื้อสายจีน ออกมาจับจ่ายซื้อสิ่งของ เครื่องเซ่นไหว้ ผลไม้มงคล เพื่อเตรียมนำไปประกอบพิธีในเช้าวันนี้ โดยในปีนี้ เครื่องเซ่นไหว้และขนมมงคล แบบสำเร็จรูป ได้รับความนิยมมากกว่าการซื้อเนื้อสัตว์สด รวมถึงเครื่องเซ่นไหว้ ที่ต้องนำไปปรุงสุก ด้วยตนเอง จากการสำรวจตลาดและร้านจำหน่ายไก่ต้มและเป็ดพะโล้ ใน จ.พิจิตร พบว่า ตรุษจีนปีนี้มียอดจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้น จากปีที่แล้วกว่าร้อยละ 20 เครื่องเซ่นไหว้ รวมถึงราคาเนื้อสัตว์สด มีการปรับขึ้นราคาอีกกิโลกรัมละ 5-10 บาท เช่นเดียวกับขนมเข่งและขนมเทียน เพิ่มราคาเป็นกิโลกรัมละ 80-90 บาท โดยแม่ค้าอ้างว่า แป้งและน้ำตาล มีราคาสูงขึ้น ขณะที่ผลไม้มงคลหลายชนิด ก็มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

    เทศกาลตรุษจีน จ.ลำปาง คึกคัก

    บรรยากาศวันไหว้เทศกาลตรุษจีน ที่ จังหวัดลำปาง บรรยากาศตั้งแต่เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ศาลเจ้าทุกแห่งในจังหวัดลำปาง ทั้ง 5 แห่ง ในตัว อ.เมืองลำปาง เกิดความคึกคักเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่ศาลเจ้าปุ้นเถ้ากง และศาลเจ้าแม่ทับทิม ก็ต่างมีชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก ออกมากราบไหว้กันอย่างเนืองแน่น ส่วนชาวไทยเชื้อสายจีน นำหัวหมู ไก่ เป็ด และผลไม้ มาเป็นของเซ่นไหว้เทพเจ้า เนื่องในวันตรุษจีน ส่งผลให้ศาลเจ้าทุกแห่งคึกคักไปด้วยประชาชน และกลิ่นหอมของธูปเทียน ที่จุดไหว้เทพเจ้า เพื่อขอพรให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ครอบครัว และหน้าที่การงาน ประสบความสำเร็จและมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป หลังจากที่ผ่านมา ในหลายพื้นที่ของจังหวัดลำปาง ประสบภัยพิบัติปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่

    ทั้งนี้ จากการสังเกต พบว่า ของเซ่นไหว้ที่ประชาชนนำมาไหว้เทพเจ้า ส่วนใหญ่จะเน้นความประหยัด อาหารคาวจำพวกหมู เป็ด ไก่ ก็จะซื้อนำมาไหว้เพียงบางส่วน แทนการซื้อแบบทั้งตัว

    ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ยะลา คึกคัก

    บรรยากาศช่วงเทศกาลตรุษจีน ในพื้นที่จังหวัดยะลาก็ยังคงคึกคักไปด้วยคนไทยเชื้อสายจีนที่ออกมาตั้งโต๊ะ เครื่องเซ่นไหว้ไว้ที่หน้าบ้านของตนเองเพื่อเตรียมไหว้บรรพบุรุษ ในเช้าวันนี้ ( 22 ม.ค. 55) ส่วนที่ศาลเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวยะลา ก็มีคนไทยเชื้อสายจีนนำของเครื่องเซ่นไหว้ไปตั้งบูชากันเป็นจำนวนมากเช่น เดียวกัน ทำให้บรรยากาศทั่วไปในพื้นที่จังหวัดยะลามีความคึกคักเป็นพิเศษ และเสียงประทัดดังกึกก้องไปทั่วทุกมุมเมือง เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ ด้านการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน มีทั้ง กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ภาคประชาชน คอยอำนวยความสะดวก ทั้ง ด้านการจราจร สถานที่จอดรถ การตรวจสอบยานพาหนะ ต่างๆ เพื่อสร้างความอบอุ่นใจแก่ประชาชนในพื้นที่

    อยุธยา จัดเทศกาลความสัมพันธ์อยุธยา-จีน

    คณะเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย เดินทางเข้าร่วมงาน "อยุธยามรดกโลก เทศกาลความสัมพันธ์อยุธยา-จีน" โดยมีนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ ภายในงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากมองโกเลีย ใน ซานซี ชิงไห่ ปักกิ่ง กานซู และ จี๋หลิน ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบด้วย การบรรเลงดนตรีออร์เคสตรา ระบำ กังฟู และกายกรรม นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการออกร้านที่นำสินค้าเกี่ยวกับประเทศจีน รวมถึงมีการจัดชุดประจำชาติจีน มาให้ประชาชนได้สวมใส่ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอีกด้วย

    สำหรับการจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอความพร้อมรับเป็นเจ้าภาพมหกรรมโลก "เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020" ว่าเมืองอยุธยามีความพร้อม และมีประวัติศาสตร์เรื่องราวที่มีความสัมพันธ์กับนานาประเทศ มายาวนานกว่า 600 ปี โดยพร้อมจะจัดงานมหกรรมโลก ในพื้นที่ 2,000 ไร่ ณ บริเวณศูนย์ศิลปาชีพ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา


    [​IMG]


    [​IMG]


    [21 มกราคม] เยาวราชคึก! คนแห่ซื้อของวันจ่ายตรุษจีน-ไหว้พระขอพร (ไอเอ็นเอ็น)

    ชาวไทยเชื้อสายจีนจับจ่ายซื้อสินค้าย่านเยาวราชคึกคัก ขณะที่ราคาสินค้าปรับขึ้นไม่สูงมาก โดยพ่อค้าเผยมีคนมาซื้อของมากกว่าทุกปี

    ส่วนที่จังหวัดยะลา บรรยากาศตลาดสดหลายแห่งในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะมีคนไทยเชื้อสายจีน ออกมาจับจ่ายเลือกซื้อสิ่งของเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อเตรียมนำไปไหว้บรรพบุรุษกันอย่างคึกคัก ซึ่งประชาชนที่ออกมาจับจ่ายซื้อของส่วนใหญ่ ก็บอกว่า ปีนี้สินค้ามีราคาแพงขึ้นทุกอย่าง แต่ก็จำเป็นต้องซื้อไปไหว้ สำหรับร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ ปีนี้ไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากทองคำมีราคาสูงขึ้น


    [​IMG]


    ด้าน นางจินดา ห่อวงศ์สกุล ผู้ประกอบการร้านทอง กล่าวว่า บรรยากาศการการซื้อขายทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากปัญหาราคายางพาราที่ลดลง และมีฝนตกชุก ทำให้ชาวบ้านกรีดยางไม่ได้เต็มที่ ทำให้สภาพการใช้จ่ายของชาวสวนยางลดลง จึงส่งผลกระทบต่อเทศกาลตรุษจีน แต่อย่างไรก็ตาม พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ก็ยังคงปฏิบัติประเพณีเทศกาลตรุษจีน กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะ การไหว้บรรพบุรุษที่ลูกหลานต้องกระทำสืบต่อกันไป เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูของคนจีนที่สืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านานแล้ว


    ไอ.เอ็น.เอ็น.
    [​IMG]



    -http://hilight.kapook.com/view/66732-

    .
     
  16. ิWorakan

    ิWorakan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +72
    ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ 万事如意 新年发财

    恭喜发财 กงสี่ฟาไฉ
    ขอให้ร่ำรวย

    万事如意 ว่านซื่อหยูอี้
    สมความปรารถนา

    财源广进 ไฉเหยียนกว่างจิ้น
    เงินทองไหลมา

    年年有余 เหนียนเหนียนโหย่วหยวี๋
    เหลือกินเหลือใช้

    事事顺利 ซื่อซื่อซุ่นลี่
    ทุกเรื่องราบรื่น,

    金玉满堂 จินยวี้หม่านถัง
    ร่ำรวยเงินทอง

    一本万利 อิ้เปิ่นว่านลี่
    กำไรมากมาย

    龙马精神 หลงหม่าจินเสิน
    สุขภาพแข็งแรง

    好运年年 เห่ายวิ่นเหนียนเหนียน
    โชคดีตลอดไป
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    [FONT=Tahoma,]ไหว้ 9สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แก้'ชง'ช่วงตรุษจีน



    <table width="360" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"><tbody><tr><td valign="top" align="center" bgcolor="#E0E0E0">[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>เมื่อ ช่วงเทศกาลตรุษจีน คนส่วนมากนิยมหาโอกาสไปไหว้พระ และกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวัดและศาลเจ้าต่างๆ ตามแต่ที่จะเสริมปีนักษัตรตนเอง หรือทำบุญ 9 วัดตามความสามารถและความสะดวกที่จะสามารถทำได้ และหาวัตถุมงคลที่เป็นสิริมงคลมาเสริมดวงชะตาโดยตั้งไว้ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือพกพาติดตัว ติดรถ เพื่อเป็นการแก้ชง ปรับดวงชง หรือเสริมดวงชะตา

    "พระ มหานิรุตต์ ฐิตสังวโร" วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพฯ ได้ศึกษาศาสตร์เรื่องปีชง เปิดเผยว่า ปี 2555 นักษัตรที่ชงทั้ง 5 ปี คือ 1.ปีจอ (สุนัข) ชง (ปะทะ) โดยตรงกับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย และเป็นอริกับปีมะโรงโดยตรง 2.ปีมะโรง (มังกร) ทับไท้ส่วย และยังเฮ้ง (เบียดเบียน) กับปีมะโรงเองด้วย 3.ปีฉลู (วัว) ปีร่วมชงไท้ส่วย และ ยังผั่ว (แตกแยก) กับปีมะโรงด้วย 4.ปีมะแม (แพะ) ปีร่วมชงไท้ส่วย 5.ปีเถาะ ไห่ (ให้ร้าย) กับปีมะโรง

    ปี 2555 นี้ เป็นปีมะโรง หรือ ปีมังกร ตำราโหรา ศาสตร์ 12 นักษัตรโบราณท่านว่าเป็นปีแห่งความสุขและโชคลาภ เพราะมะโรง หรือ พญานาค หรือ มังกร ถือเป็นเจ้าแห่งขุมทรัพย์ บันดาลพลังแห่งโชคลาภแก้วแหวนเงินทอง แต่อาจจะมีเรื่องราวเกี่ยวพันกับน้ำเข้ามาเกี่ยวพันบ้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล ควร หาโอกาสไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวเนื่องด้วยพญานาค มังกร และสิ่งที่เกี่ยวเนื่องด้วยโชคลาภ เมตตา มหานิยม เช่น ไปกราบไหว้พระพุทธรูปปางนาคปรก เป็นต้น

    เพื่อความเป็นสิริมงคล ปี 2555 นี้ ควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาโอกาสไปสักการะและตักบาตรสามพระอรหันต์บันดาลโชค คือ พระสีวลี พระสังกัจจายน์ และพระอุปคุต ที่วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพฯ เพราะสามองค์นี้ ถือเป็นสุดยอดมงคลศักดิ์สิทธิ์คู่มิตรแห่งปีมะโรง 2555 ถือเป็นมงคลเสริมโชคลาภบารมีให้เงินไหลมาค้าขายดี มั่งมีศรีสุข เจริญรุ่งเรือง ช่วยเสริมชะตาราศีให้บังเกิดโชคลาภและความสุขสวัสดี

    สำหรับ ปี 2555 นี้ ถือเป็นปีมังกรน้ำ (ยิ่มซิ่ง) ทั้งโหราศาสตร์ไทยและโหราศาสตร์จีนถือว่าตกร่วมธาตุน้ำ ในทางโหราศาสตร์ถือว่าธาตุน้ำนั้น คือ พระจันทร์ หรือ องค์จันทรา ซึ่งควบคู่กับ องค์สุริยัน หรือ พระอาทิตย์ ทั้งสองนี้เป็นผู้ให้ความสมดุลเสริมบารมีเสริมความบริบูรณ์สมบูรณ์ให้กับทุก ชะตาราศี เรียกได้ว่า "เป็นมงคลหนุนดวง"

    สำหรับปี 2555 มงคลหนุนดวงเสริมราศีปีมะโรงหรือมังกรน้ำ คือ พระทันจิต ทันใจ ถ้าเดินทางไปทางภาคเหนือต้องไปกราบไหว้สักการะ พระเจ้าทันจิต พระเจ้าทันใจ ที่วัดอนาลโยทิพยาราม จ.พะเยา หรือที่วัดพระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ ถ้าอยู่แถวภาคกลางต้องไปกราบนมัสการพระแสงอาทิตย์ทันจิต พระแสงจันทร์ทันใจ ที่วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเพื่อความสุขสวัสดีของทุกๆ ท่านตลอดปี 2555 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ขอแนะนำทุกท่านไปไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 วัด เพื่อความเป็นสิริมงคล ดังนี้ 1.ไหว้พระสีวลี พระสังกัจจายน์ และ พระอุปคุต สามพระอรหันต์บันดาลโชค มงคลศักดิ์สิทธิ์คู่มิตรสำหรับทุกราศีปีนักษัตร และเสริมดวงแก้ชง สำหรับผู้ที่เกิดปีชง ที่วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 2.นมัสการหลวงพ่อทองคำ ที่วัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ซึ่งชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่เชื่อว่าจะอำนวยให้ค้าขายดีมีกำไร 3.ไหว้องค์ไท้ส่วย ที่วัดเล่งเน่ยยี่ เยาวราช กรุงเทพฯ หรือ วัดจีนประชาสโมสร จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อปัดเคราะห์ แก้ชง เสริมสิริมงคลต้อนรับตรุษจีน

    4.ไหว้พระแสงจันทร์ทันใจ พระแสงอาทิตย์ทันจิต และพระพุทธมหาเศรษฐีนวโกฏิ เพื่อหนุนดวงเสริมราศีให้มั่งมีศรีสุข การงาน การค้าก้าวหน้า ร่ำรวยทันจิตทันใจ ที่วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 5.นมัสการหลวงพ่อโต ซำปอกง และไหว้เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา 6.สักการะองค์เจ้าพ่อเสือ ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ กรุงเทพฯ เพื่อขอบารมีให้ขจัดปัดเป่าผองภัย ป้องกันศัตรูหมู่มารไม่ให้มาทำร้ายทำลาย

    7.ขอพรเจ้าแม่กวนอิม ที่โชคชัยสี่ หรือ ที่วัดจีนเล่งเน่ยยี่ เพื่อเสริมส่งให้ชีวิตมีแต่ความสุขสวัสดี มั่งมีศรีสุข 8.ไหว้องค์พระยูไล วัดเล่งเน่ยยี่ 1 เยาวราช กรุงเทพฯ หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ 9.อย่าลืม ไหว้องค์ไฉ่ซิงเอี๊ย ที่วัดจีน วัดไทย หรือศาลเจ้าจีน ที่มีองค์เทพเจ้าแห่งโชคลาภไฉ่ซิงเอี๊ยประดิษฐานอยู่ เพื่อขอโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ให้มั่งมี มีเหลือกินเหลือใช้ ตามคตินิยมของชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีมาแต่ช้านาน
    [/FONT]





    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNakl5TURFMU5RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB5TWc9PQ==-

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Worakan_vi [​IMG]

    ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ 万事如意 新年发财

    恭喜发财 กงสี่ฟาไฉ
    ขอให้ร่ำรวย

    万事如意 ว่านซื่อหยูอี้
    สมความปรารถนา

    财源广进 ไฉเหยียนกว่างจิ้น
    เงินทองไหลมา

    年年有余 เหนียนเหนียนโหย่วหยวี๋
    เหลือกินเหลือใช้

    事事顺利 ซื่อซื่อซุ่นลี่
    ทุกเรื่องราบรื่น,

    金玉满堂 จินยวี้หม่านถัง
    ร่ำรวยเงินทอง

    一本万利 อิ้เปิ่นว่านลี่
    กำไรมากมาย

    龙马精神 หลงหม่าจินเสิน
    สุขภาพแข็งแรง

    好运年年 เห่ายวิ่นเหนียนเหนียน
    โชคดีตลอดไป

    </td> </tr> </tbody></table>
    ขอบคุณครับ

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,446
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    เฮง ๆ รวย ๆ มาอวยพรวันตรุษจีนกันดีกว่า


    [​IMG]
    [​IMG]
    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    เพิ่งจะกล่าวคำว่า "สวัสดีปีใหม่" แบบ ชาวไทยกันไปไม่นาน นี่ก็กำลังจะย่างเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ซึ่งถือเป็นวันฉลองปีใหม่ของคนเชื้อสายจีนทั่วโลกกันอีกแล้ว เด็ก ๆ หลายคนคงรอคอยวันนี้ เพราะเป็นวันที่ญาติผู้ใหญ่จะให้ "อั่งเปา" หรือที่บางบ้านเรียกว่า "แต๊ะเอีย" อิอิ แต่ไหน ๆ จะให้ญาติผู้ใหญ่ประทับใจแล้ว ลองจดจำคำอวยพรภาษาจีน พร้อมความหมายดี ๆ ไปพูดให้ผู้ใหญ่ชื่นใจกันหน่อยดีไหมจ๊ะ


    [​IMG] คำอวยพรสวัสดีปีใหม่

    [​IMG] 新正如意 新年发财 (ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ)... คิด หวังสิ่งใดขอให้สมหวังสมปรารถนาในปีใหม่นี้ มีแต่ความสุขมั่งคั่ง โชคดีร่ำรวยตลอดปี (ถ้าเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วจะออกเสียงว่า ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้)

    [​IMG] 新年快樂 (ซินเหนียนไคว้เล่อ) ... ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่


    [​IMG] 恭贺新年 (กงเฮ่อซินเหนียน) ... สุขสันต์วันปีใหม่


    [​IMG] 恭贺新禧 (กงเฮ่อซินสี่) ... สุขสันต์วันปีใหม่

    [​IMG]


    [​IMG] คำอวยพรเกี่ยวกับเรื่องความร่ำรวย ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง

    [​IMG] 恭喜发财 (กงซีฟาไฉ) ... ขอให้ร่ำรวย

    [​IMG] 日进斗金 (ยื่อจิ้นโต้วจิน) ... ขอให้ชัยชนะ และเงินทองเข้ามาทุก ๆ วัน


    [​IMG] 大吉大利 (ต้าจี๋ต้าลี่) ... ค้าขายได้กำไร


    [​IMG] 招财进宝 (เจาไฉจิ้นเป่า) ... เงินทองไหลมาเทมา ทรัพย์สมบัติไหลเข้าบ้าน


    [​IMG] 金玉满堂 (จินอวี้หม่านถัง) ... ร่ำรวยเงินทอง ทองหยกเต็มบ้าน

    [​IMG] 日日有见财 (ยื่อยื่อโหย่วเจี้ยนไฉ) ... ทุกวันมีแต่ความร่ำรวย


    [​IMG] 黄金万两 (หวงจินว่านเหลี่ยง) ... ทองคำมากล้นทวีคูณ (ค้าขายให้มีกำไร ทรัพย์สินเงินทองมากมาย)
    [​IMG] 年年大赚钱 (เหนียนเหนียนต้าจ้วนเฉียน) ... ปีนี้ร่ำรวยมหาศาล


    [​IMG] 财源广进 (ไฉหยวนกว่างจิ้น) ... เงินทองไหลมาเทมา

    [​IMG] 年年有余 (เหนียนเหนียนโหย่วอวี๋) ... เหลือกินเหลือใช้ทุกปี

    [​IMG] 一本万利 (อี้เปิ่นว่านลี่) ... กำไรมากมาย


    [​IMG] 祝你顺利 (จู้หนี่ซุ่นลี่) ... ขอให้คุณประสบความสำเร็จ

    [​IMG] 祝您步步高升 ! (จู้หนินปู้ปู้เกาเซิง) ขอให้ท่านเจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป

    [​IMG] 福禄双全 (ฝูลวี่ซวงฉวน) ... เป็นศิริมงคล ด้วยเงินทองและวาสนา

    [​IMG] 事业发达 (ซื่อเย่ฟาต๋า) ... กิจการเจริญรุ่งเรือง

    [​IMG] คำอวยพรเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ

    [​IMG] 福寿万万年 (ฝูโซ่วว่านว่านเหนียน) ... อายุยืนหมื่น ๆ ปี

    [​IMG] 龙马精神 (หลงหม่าจินเสิน) ... สุขภาพแข็งแรง

    [​IMG] 四季平安 (ซื่อจี้ผิงอัน) ... ปลอดภัยตลอดปี

    [​IMG] 祝你长寿 (จู้หนี่ฉางโส่ว) ... ขอให้คุณอายุยืนยาว

    [​IMG] 祝你健康 (จู้หนี่เจี้ยนคัง) ... ขอให้คุณมีสุขภาพแข็งแรง

    [​IMG] 身体健康 (เซินถีเจี้ยนคัง) ... สุขภาพแข็งแรง


    [​IMG] คำอวยพรเกี่ยวกับเรื่องความสมปรารถนา


    [​IMG] 万事如意 (ว่านซื่อหรูอี้)ทุกเรื่องสมปรารถนา

    [​IMG] 家好运气 (เจียห่าวยวิ่นชี่) ...ความโชคดีเข้าบ้าน

    [​IMG] 事事顺利 (ซื่อซื่อซุ่นลี่) ... ราบรื่นในทุก ๆ เรื่อง

    [​IMG] 吉祥如意 (จี๋เสียงหรูอี้) ... เป็นสิริมงคลสมดังปรารถนา

    [​IMG] 好运年年 (ห่าวยวิ่นเหนียนเหนียน) ...โชคดีตลอดไป

    [​IMG] 一帆风顺 (อี้ฝานเฟิงซุ่น) ... ทุกอย่างราบรื่น

    [​IMG] 幸福如意 (ซิ่งฝูหรูอี้) ... มีความสุขสมปรารถนา


    และเนื่องในวันตรุษจีน กระปุกดอทคอม ก็ขออวยพรให้ทุกคนร่ำรวย ๆ สุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดสมปรารถนานะคะ "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้" ค่ะ



    -http://hilight.kapook.com/view/19800-

    .
     
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    24,636
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,253
    ค่าพลัง:
    +70,786
    [​IMG]
    <!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...