ถามว่าพวกเป็นเกย์ กระเทย หรือเรสเบี้ยน

อยากถามว่าเกย์ กระเทย หรือเรสเบี้ยนครับ มีโอกาสที่จะสำเร็จพระอรหันต์ไหม หรือปฏิบัติพระกรรมฐานจะมีอุปสรรค์ประการใดหรือไม่อยากทราบครับ ผมก็คนหนึ่งครับ

 

อันนี้ไม่ทราบเลยครับ

แต่จากข้อมูล ยังไม่พบนะครับ กรณีแบบนี้

 

ตามความเห็นนะครับ ผมว่าไม่เกี่ยวครับ เพศใดไม่ปารถนาร่างกายเรา เเละ ร่างกายผู้อื่น ปารถนา นิพพาน ตรง มีศีล5 เคารพพระรัตนไตรด้วยความจริงใจ ผมว่ามีผลแน่ครับ

 

ood

ตามหลักพระพุทธเจ้าที่ผมศึกษามากล่าวคือ
ถ้ายังไม่มีการแปลงเพศหรือจิตวิปลาส ลักขเพศ ทุกคนสามารถบรรลุธรรมได้หมด
ถ้าเกิดแปลงเพศแล้วก็เท่ากับว่าไม่มีเพศในตัวในตนกล่าวคือขาดมนุษย์สมบัติ(วิบัติ)
ห้ามนิพพาน
การที่คนเราเป็นเกย์ เลสเบี้ยนนั้น ก็คือคนที่หลงในภพและชาติ ในกิเลสและอวิชชา แต่สภาวะทางร่างกายก็ยังมีมนุษย์สมบัติอยู่ กล่าวง่ายๆก็คือคนธรรมดาที่ยังรักโลภโกรธหลงนั่นแหละ ถ้าละนิวรณ์ได้ ละสังขารได้ ละกิเลศในกามในรสเพศได้ ก็บรรลุธรรมได้เนื่องจากมนุษย์สมบัติยังครบอยู่นั่นเอง
เพราะผู้ที่บรรลุธรรมต้องว่างจากเพศคือไม่ติดในชาย หญิง เกย์ กระเทยคือพ้นสภาวะโดยสมบูรณ์ ถ้ายังติดในเพศก็ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ ทั้งนี้จะบรรลุธรรมได้เบื้องต้นต้องมีมนุษย์สมบัติก่อน ถ้าเป็นมนุสย์วิบัติก็ห้ามนิพพานแน่นอนรอบำเพ็ญชาติหน้าอย่างเดียว

 

สรุปต่อนะครับถ้ายังไม่มีการแปลงเพศ พ่อแม่ให้มายังไงก็ใช้อย่างนั้น บรรลุธรรมได้หมด ต้องเพียรออกจากกามคุณให้ได้เท่านั้น
แต่ถ้าแปลงเพศแล้วห้ามนิพพาน แต่สามารถได้สวรรค์สมบัติ มนุษย์สมบัติในภพต่อไปได้เพื่อบำเพ็ญบารมีต่อ
ฉะนั้นถ้าแปลงเพศแล้วไม่ต้องเสียใจสามารถทำบุญปฏิบัติธรรมต่อไปเพื่อเป็นทุนในภพชาติต่อไปข้างหน้า เพราะถ้าทำบุญมากก็เป็นเทวดาได้อยู่แล้ว

 

ผมไม่เคยอ่านเจอ หรือ พบข้อมูลเรื่องนี้นะครับ...
เคยทราบแต่เพียงว่า ห้ามบัณเดาะห์บวชในพระพุทธศาสนา (ก็ลองคิดดูว่ามีคนเพศอื่นที่ไม่ใช่ผู้ชาย เข้าไปอยู่ในหมู่สงฆ์ คงจะไม่ควรนัก...)
แต่ถ้าถามเรื่องว่าจะสำเร็จอรหันต์ได้มั้ย ส่วนตัวผมคิดว่าได้ ถ้าตั้งใจทำจริงๆ
มีความเด็ดขาด มีสัจจะ พากเพียร ทำไมจะทำไม่ได้ เอาใจช่วยครับ!

 

ต้องเลิกมีความเห็นผิดในเพศตัวเองก่อน ถึงมีสิทธิ์จะบรรลุครับ

 

ลองอ่านประกอบดูนะครับ

ถาม – ผมเป็นเกย์ครับ แบบว่าไม่แต๋วนะครับ ตั้งแต่วัยุร่นจะไม่รู้สึกรู้สากับผู้หญิง ต่อให้สวยหรือหุ่นดียั่วน้ำลายชายทั่วไปขนาดไหน ต่างจากตอนเห็นผู้ชายมาดเท่ๆ เห็นแล้วถึงจะฮอต คุณดังตฤณเคยบอกมาหลายครั้งว่าที่ผิดปกติทางเพศเพราะเคยประพฤติผิดทางเพศ เพราะฉะนั้นก็จะไม่ถามถึงสาเหตุ แต่อยากถามว่าการเป็นเกย์นี่ขัดขวางมรรคผลนิพพานไหม? ผมอยากหลุดพ้นไปก็เพราะทุกข์หนักเรื่องความรู้สึกทางเพศของตัวเองนี่แหละครับ

ตอบ

ถ้าไม่ได้มีจิตบิดเบี้ยวมาก ทุกคนก็มีสิทธิ์บรรลุมรรคผลหมดแหละครับ จิตที่บิดเบี้ยวมากจนหมดสิทธิ์ดัดให้ตรงถึงขั้นทรงฌานรู้นิพพานนั้น จะมีอยู่สองพวกคือ

๑) มีอวัยวะของสองเพศในร่างเดียวกัน โลกนี้มีไม่มากนัก แต่ก็มีอยู่จริงทั้งในอดีตและปัจจุบัน << (บัณเฑาะว์ )

๒) ทำอนันตริยกรรม คือฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระอรหันต์ เป็นพระที่ทำความแตกแยกกับหมู่สงฆ์ และทำร้ายพระพุทธองค์ถึงขั้นห้อพระโลหิต

ที่สำคัญ ผมแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเห็นตัวอย่างของจริงมาแล้วคือ ถ้าเกย์คนไหนดำรงตนเป็นพุทธแท้ จะสามารถแก้ปัญหาความเบี่ยงเบนทางเพศได้อย่างแน่นอน หมายความว่าอาการบิดเบี้ยวเล็กๆอันเกิดจากความเบี่ยงเบนทางเพศจะหายไป เปิดโอกาสให้ปฏิบัติธรรมขั้นสูงขึ้น เกิดความเห็นอันเที่ยงตรง รับรู้ธรรมชาติตามจริง ว่าไม่มีสิ่งใดเที่ยง แม้แต่จิตและความรู้สึกนึกคิดก็ดับไปเป็นขณะๆอยู่ตลอดเวลา จึงไม่มีสิ่งใดเป็นตัวตนเลย

การดำรงตนเป็นพุทธแท้ที่จะแก้ปัญหาความเบี่ยงเบนทางเพศได้ มีอยู่ ๓ ระดับ ได้แก่ ทาน ศีล และภาวนา

๑) ทาน ในที่นี้คือการช่วยเหลือให้คนที่รู้สึกแย่ๆกับตนเอง ได้มีมุมมองที่ดีขึ้น นับถือตนเองมากขึ้น มีความสุขกับชีวิตของตนเองมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ เช่นเขาดูถูกตัวเองว่าโง่ ก็ให้กำลังใจเขาว่าเด็กเกิดมามันโง่กันทุกคน ที่หายโง่ได้ก็เพราะเริ่มทำเรื่องฉลาดๆ เช่นไม่ดูถูกตัวเอง และต่อสู้เพื่อให้รู้มากกว่าเมื่อวาน หากคุณค่อยๆพูดหยอด ค่อยๆปลอบ กระทั่งเขารู้สึกดีและมีกำลังใจ ผลสะท้อนกลับคือคุณจะรู้สึกดีขึ้นกับตนเองมากกว่าเคยทีละนิด ยิ่งคุณรู้สึกดีกับตนเองเพราะช่วยเหลือผู้อื่นสำเร็จมากขึ้นเท่าไร ความรู้สึกด้านไม่ดีก็ย่อมลดน้อยถอยลงตามส่วน

อาการลดน้อยถอยลงของความรู้สึกไม่ดีกับตนเองนั่นแหละ แสดงให้เห็นว่าวิบากมืดถูกเจือจางด้วยบุญใหม่ๆ วันหนึ่งคุณจะพบว่าความเห็นค่าของตนเอง จะทำให้ความบิดเบี้ยวเบี่ยงเบนเบาบาง และกระทั่งเหมือนหายไปจากใจ แม้ไม่หายขาดสนิท ก็ไม่ติดใจกังวลหรือต้องทนทุกข์มากมายนัก เปิดโอกาสให้บำเพ็ญบุญเพื่อความเป็นพุทธแท้ในขั้นต่อๆไปได้คล่องขึ้น

๒) ศีล ในที่นี้ต้องพูดในระดับศีล ๘ หากคุณยอมงดเว้นการเสพกาม ตลอดจนไม่เสพเครื่องกระตุ้นกามเช่นอาหารหลังเที่ยง ที่นอนนุ่มสบาย และการดูหนังฟังเพลงอันย้อมใจให้เกิดความโลภ ความโกรธ ความหลง ก็จะเป็นการทวนกระแส ไม่ปล่อยตนให้ถูกดึงดูดอยู่ใต้อำนาจกรรม ซึ่งก็เท่ากับเจือจางวิบากทางเพศให้บรรเทาเบาบางลงด้วย

การถือศีล ๘ ที่จะแก้การเบี่ยงเบนทางเพศนั้น ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดงดเว้นให้ได้ทุกวัน เอาแค่เดือนละ ๔ หน นับเอาวันพระเป็นหลักก็ดี นานไปความตั้งใจงดเว้นจะกลายเป็นวินัย กลายเป็นแบบทดสอบความอดทน และกลายเป็นเครื่องเสริมสร้างความเข้มแข็ง ก่อให้เกิดความรู้สึกมั่นคงขึ้นอย่างมาก

เมื่อห่างเครื่องกระตุ้นราคะ เอาชนะการครอบงำของราคะได้เดือนละ ๔ วัน พอครบปีคุณจะรู้สึกดีขึ้น ความหมกมุ่นทางเพศลดลง ซึ่งก็จะมีผลให้ความเบี่ยงเบนทางเพศลดลงไปด้วย ตามสัดส่วนของความมั่นคงทางใจ ที่คุณสามารถรักษาวินัย ซื่อสัตย์กับตนเองได้

๓) ภาวนา การภาวนาหมายถึงการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส ปลอดโปร่งจากราคะและโทสะหยาบๆ ตลอดจนเอาชนะความหลงผิด มีจิตตื่นรู้ขึ้นเห็นความจริง เช่นเห็นกายเป็นของไม่สะอาด น่ารังเกียจ ไม่มองกายด้วยความเป็นเครื่องล่อให้อยากเสพกาม แต่มองเห็นทุกซอกมุมแห่งความจริงทางกาย ว่ามีแต่คราบไคลเหงื่อสกปรกแฝงอยู่ทุกขุมขน มีแต่การสะสมขี้ฟันอยู่ทุกวินาที มีแต่การไหลเข้าไหลออกตามทวารหนักทวารเบา อะไรดีๆเข้าทางปาก เดี๋ยวเดียวออกมาเป็นอะไรเสียๆทางก้น ไม่เว้นแต่ละวันแต่ละคืน

การมีสติระลึกรู้อยู่เรื่อยๆ เล็งกายไปตรงไหนก็เจอแต่หน่อเหม็นแนวเหม็น จะทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลง เห็นตามจริงมากขึ้นเรื่อยๆว่าทั้งกายเรากายเขาเป็นของเน่าเปื่อย ไม่ใช่สิ่งน่ารักน่าใคร่ จิตของคุณจะอยู่เหนือความรู้สึกทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกัน เมื่อกายไม่อาจกระตุ้นความมาดหมายทางเพศได้ ความเบี่ยงเบนทางเพศก็ย่อมทำอะไรจิตคุณไม่ได้เช่นกัน

และในที่สุด เมื่อพินิจเห็นกระทั่งจิตของคุณก็ต้องเสื่อมไป มีคิดดี มีคิดชั่ว มีครุ่นคิดทางเพศ มีเลิกครุ่นคิดหนักอก คุณจะวางได้กระทั่งความกังวลว่าตัวเองเป็นหรือไม่เป็นเกย์ เพราะเห็นอย่างแท้จริงว่าเป็นเกย์หรือไม่เป็นเกย์มันเริ่มขึ้นที่จิต เริ่มขึ้นที่คิด เพียงคุณไม่มองว่าจิตและความคิดเป็นตัวคุณ แต่เห็นเป็นสภาวะที่เกิดแล้วต้องดับตลอดวันตลอดคืน ความเบี่ยงเบนทางเพศย่อมหายไป ณ ที่ที่คุณรู้แจ้งนั้น

เมื่อสั่งสมบารมีทางทาน ศีล และภาวนามาถึงระดับหนึ่ง กายใจคุณจะปฏิวัติ เหมือนเป็นคนใหม่ เป็นตัวตนใหม่ เริ่มจากจิตที่สว่าง อบอุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งหายขาดจากรสนิยมผิดธรรมชาติในตน นี่คือสิ่งที่ผมเห็นจากคนที่เขาเอาจริงเอาจังในเส้นทางสายสว่างของพุทธแท้มาแล้วครับ

ที่มา : หนังสือเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ของ ดังตฤณ

http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare083.htm

 

ในอดีต มีพระที่เป้นแบบนี้ มาชอบพระพุทธองค์ โดนท่านโปรดไป ก็บรรลุอรหันต์เหมือนกันนี่ครับ

 

เพราะท่านละในความเห็นผิดในเพศตนเองแล้วไงคับ ละในสักกายทิฐิ ตามที่พระพุทธองค์ทรงเทศน์ หลังจากนั้นก็พรวดๆๆๆ เป็นพระอรหันต์ไปเลย

 

ขอบคุณก๊าบบบบ สู้ต่อไปทาเคชิ -*-

 

ถ้าเขาพิการล่ะ ไม่มีแขนล่ะ อุบัติเหตุ อวัยวะเพศขาดล่ะ มิต้องเป็นมนุสย์วิบัติหรือ การที่แปลงเพศก็เกิดจากกิเลส ถ้าท้ายสุดแล้วละได้ ไม่ติดในสังขาร อันเป็นใจความสำคัญก็นิพพานได้ แล้วจะเอาสังขารมากำหนดอีกหาอะไรมิทราบ มนุษย์สมบัติคืออะไรคือหิริโอตตับปะ มีศีล 5 มิดีกว่ารึ สับสนอะไรรึเปล่า

 

<TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">ขอนุโมทนาค่ะ</TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ธรรมดาคนพวกนี้ก็ไม่สนใจปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว
ดังนั้นจึงมองไม่เห็นว่าจะไปบรรลุ มรรค ผล นิพพาน ได้อย่างไร ในเมื่อจิตใจไม่ชอบ ในชีวิตที่ปฏิบัติมาเคยเห็นพวกนี้ทำบุญ ใส่บาตร แต่ไม่เคยเห็นนั่งปฏิบัติธรรม จริงจังแม้แต่รายเดียว

 

คับ แต่ไม่เชื่อ

 

เพราะไม่เคยเห็นยิ่งไม่ควรกล่าวเช่นนั้นการปฏิบัติธรรมคุณรู้หรือว่าเขาเดิน กิน นั่ง นอน แล้วเขาจะไม่ได้ทำอะไรผู้ทรงฌาญไม่นั่งหลับตาก็ยังเป็นฌาญอยู่วันยังค่ำ ยิ่งเป็นพระอริยเจ้าแล้วแม้จริยาจะเหมือนเดิมแต่ด้วยคุณธรรมประตูนรกก็หาเปิดรับไม่ จะไปเทียบอะไรกับการนั่งหลับตา ใครก็ทำได้ ธรรมเป็นของละเอียดดูด้วยตาไม่ได้ ต้องสัมผัสด้วยใจ ที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเคยตรัสคือมิให้บวช แต่ไม่ทรงบอกว่าไม่มีทางสำเร็จมรรคผล

 

ในชีวิตผม เจอเกย์ ที่ใฝ่บุญ ศึกษาธรรม และปฎิบัติธรรมเคร่งครัด เยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แถมสัมผัสได้เลยว่า
เขาดีจริง มีจิตเมตตาแผ่ออกมา รอยยิ้มที่ ออกมาจากจิต จากการที่เป็นผู้ใจสงบ จากการปฎิบัติธรรม

ที่ผมรู้จัก เป็นศิษย์ หลวงพ่อฤาษีก็มี ขนาดได้มโนมยิทธิด้วย
เป็นลูกศิษย์สายต่างๆ ก็เจอมาเยอะ แล้วคุยธรรมด้วย
ก็รู้เลยว่า เขาศึกษาปฎิบัติมานาน และเข้าใจธรรมในระดับลึกมากๆ

แต่เห็นคุณ nirvana พูดแล้ว รู้สึกแปลกปะคับ
เมตตาจิตของคุณอยู่ที่ไหน ความจริงถ้าไม่รู้ ไม่ได้ไปเห็นเขาจริงๆ ก็ไม่ควรพูดดูถูกใครนะครับ แสดงว่าโลกทัศน์ คุณแคบมาก

หลายคนเป็นเกย์ เป็นเลสเบี้ยน แต่ไม่ได้เปิดเผย ก็มีอยู่เยอะ ที่เขาใฝ่ดี
ทำดี ปฎิบัติ และเข้าถึงกว่าคนที่กล่าวหาเขาซะอีก

ผมยังเคยคุยกับพี่ ๆหลายกลุ่ม ว่าทำไมเกย์ถึงได้ปฎิบัติธรรม และสนใจธรรมกันมาก ก็พอจะสรุปได้ว่า เป็นเพราะ ความทุกข์ที่เขามีมากกว่าคนอื่น
ก็พยายามจะหาทางออก แล้วไม่มีลูกเมีย ให้ห่วง

คนเพศธรรมดา บางที ต้องสร้างครอบครัว ต้องห่วงลูก ห่วงเมีย
ห่วงจะสร้างอนาคต จนลืม นึกถึงเรื่องอื่น

แต่เกย์ส่วนใหญ่ มีเวลาเหลือเฟือ คือ พูดไม่ถูกเหมือนกันนะ แต่เข้าใจ
ส่วนหนึ่งก็ใช้เงินและเวลาหมดไปกับเรื่องไร้สาระ
อีกส่วนหนึ่ง ก็คิดได้ เลยหันพึ่งพระธรรม เพราะอย่างน้อยก็ดับทุกข์ทางใจได้

การปฎิบัติธรรม ที่ตรงทาง กิเลสเบาบาง ความเป็นเกย์จะลดลง
เกย์เป็นผลผลิต ของบาปที่เคยผิดศีลข้อสามเป็นหลัก

ศีลข้อนี้ ก็เกิดมาจากกิเลส ในเรื่องความต้องการทางกามเป็นตัวหลัก

ดังนั้น ถ้ากำจัดกิเลสถูกทาง สภาพจิตใจ มีคุณธรรมสูงขึ้น
ทุกอย่างก็เปลี่ยนกลับไปสู่สภาพที่แท้จริง แล้วก็พัฒนาไปสู่ที่สูงขึ้นได้เรื่อยๆ ครับ

สาธุ กับบทความของพี่ดังตฤณ และน้องไอซ์ด้วย ที่นำมา
ผมกะจะเอามาแปะพอดีเหมือนกัน

อยากให้ลองอ่านเรื่องรอยยิ้มของพระ (คิดจากความว่าง-ดังตฤณ)
แล้วเชื่อหรือเปล่า ว่ายิ้มแบบนี้ ผมเจอในเกย์หลายคน
เป็นยิ้มที่ออกมาจากหัวใจที่ถึงธรรม และบริสุทธิ์

หญิง ชาย หรือเกย์ มันแค่ สมมุติครับ ทุกอย่าง มันมาจากวิบาก และผลกรรม
เป็นการสมมุติ และเกิดขึ้น เหมาะกับสภาวะจิตของแต่ละคนขณะนั้น

ถ้าตัดเรื่องกายไป เหลือแต่จิต เราจะแทบไม่เห็นความแตกต่าง ของเรื่องเพศ

ที่แท้แล้วจะเพศอะไร จะรักกันแค่ไหน ถ้ายังอยุ่ในระดับกาม
มันก็พอกันหล่ะ เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวกับกินข้าว

ถ้ามีความโลภในอาหาร มีความหลงยึดติดมัวเมา มันก็ไม่พ้นปากเหว

หญิงชายจริง ก็บรรลุไม่ได้ ถ้าไม่หลุดมาจากกาม ใช่ปะคับ

มองให้ออกว่า เรื่องของเพศ หรือความชอบทางเพศนั้น
มันอยู่ที่ประเด็นไหน ของผุ้ที่จะบรรลุธรรม

อยากฝากให้อ่าน อันนี้หน่อยคับ เขียนไว้นานแล้ว
แต่ไม่รู้จะมีซักกี่คนอ่านเข้าใจนะ

เรื่อง เกย์เกิดจากกรรม หายได้ด้วยบุญ .. ไม่เชื่อ ไม่ว่า แต่อ่านสนุกนะเอ้อ หุๆๆ

http://larndham.net/index.php?showtopic=19749&st=32

กระทู้นี้ลองอ่านความเห็นคนอื่นด้วยก็ดีนะครับ ได้ความรู้ดีออก

ในลานธรรม มีคนให้แง่คิดดีๆ ต่างมุมมอง พัฒนาสมองดีครับ
ซึ่งหลายคนก็เล่นในพลังจิตด้วย

เห็นประโยคของคุณ ทีว่าเกย์แล้ว แหม ถ้าเป็นในบอร์ดนู้น ป่านนี้ คงสนุกหล่ะ
คงมีคนมารีพลาย ให้ความคิดเห็นอีกหลายร้อย แล้วความเห็นดีๆ เจ็บๆ ทังนั้น

อ้อ แถมนิดนึง ผมไปมาหลายงานบุญ หลายวัด
ผมเจอเกย์ แล้วก็เกย์ แล้วก็เกย์ เยอะมาก (บางทีกะเทยเลยหล่ะ)

ที่ไปถือศีลก็เยอะ
แล้วคุณไปอยู่ไหนมา หาว่าเกย์ไม่สนใจปฎิบัติธรรม



เขียนเพื่อรักษาความถูกต้องนะครับ หวังว่าคงไม่มีใครโกดผมน้า
เพราะผมเป็นยอดมนุด จะมากู้โลก .. คิๆๆๆ

ขาดผมไปคนหล่ะ โลกนี้จะอับเฉา

 

อ้อ แถมนิดนึง คำตอบจากพระนะครับ

<TABLE width="100%" bgColor=#e4f3f3 border=0><TBODY><TR><TD>ความคิดเห็นที่ 91 : (วัฏฐ์ วงศ์อินทร์)</TD><TD>

แจ้งลบ | อ้างอิง |​

</TD><TR><TD colSpan=2>

ผมขอยกธรรมะของท่านพระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชโช ที่จะเป็นกำลังใจแด่เกย์และเลสเบี้ยนทั้งหลายครับ จะเกิดจากกรรมอะไรก็ตาม กรรมนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อมรรค ผล นิพพานครับ

ถาม เป็นเกย์/เลสเบียน ปฏิบัติได้ไหมครับ/คะ (มีผู้กระซิบถามบ่อย เป็นคำถามยอดนิยมข้อหนึ่ง)

ตอบ ได้ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ขอให้พากเพียรจริงๆ เถอะ ในอรรถกถาธรรมบทก็พอมีร่องรอยของผู้เป็นเกย์แล้วได้ปฏิบัติธรรมจนถึงที่สุดแห่งทุกข์มาแล้ว

** ผมยกมาจากเว็ปนี้ครับ เชิญเข้าไปอ่านธรรมะที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ครับ (มีทั้งหมด 15 หน้า)ชื่อโฮมเพจ www.manager.co.th/Dhamma/viewbrowse.aspx?SourceNewsID=6713&BrowseNewsID=8101&Page=2
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

จิตอคติ

คุณต้องมองโลกให้กว้าง ทำใจเป็นกลางมากกว่านี้ (nogood)

 

เรียน ทุกท่านที่ไม่เชื่อ

ลองไปหาอ่านเรื่องนี้จากมิลินทปัญหาดูก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องเถียงกัน
แต่พวกที่ว่านี่ไม่ได้ห้ามสวรรค์นะครับ