ถามเรื่องการลอยอังคารค่ะ

มีเรื่องมาถามค่ะ พอดีจะทำบุญน้องชายค่ะ เขาเสียชีวิตจะครบ 3 ปีแล้ว

แต่ต้องนำอัฐิของน้องไปด้วยค่ะ พระท่านไม่ให้ฝากไว้ที่ท่านแล้ว

สงสารคุณแม่ค่ะ ท่านพยายามหาข้อมูลว่าจะทำอย่างไรกับอัฐิของน้องชาย

ทีแรกคิดกันว่าจะลอยอังคาร แต่คุณแม่บอกว่าท่านฝัน เห็นคนลอยอยู่ในน้ำเต็มไป

หมด คล้าย ๆ ศพลอยน้ำทำนองนั้น... ท่านก็เลยสองจิตสองใจ ก็มาถามพระที่

ช่วยเก็บอัฐิของน้องไว้ให้ พระท่านก็บอกว่า จะไปลอยอังคารเหรอ อัฐิบางคนที่

ไปลอยอังคารเขาก็หนาวนะ กลับมาบอกญาติพี่น้องว่าหนาว... คุณแม่ก็กังวล

อีก ก็เลยคิดว่าจะฝังอัฐิน้องในบริเวณที่เหมาะสมดีหรือไม่ ขอให้พระท่านเลือก

บริเวณให้ คุณแม่ก็บอกว่าเคยได้คุยกับคนรู้จัก ลูกชายเขาเสียชีวิตเช่นกัน

ก็เลยนำอัฐิไปฝังดิน แต่มีคนมาบอกว่าเห็นลูกชายของคนนี้ยืนอยู่บริเวณวัด

ที่นำอัฐิเขาไปฝังดินนั่นแหละ คุณแม่ก็ไม่สบายใจอีกค่ะ ความจริงไปจองช่อง

เก็บอัฐิที่วัดไว้แล้ว คิดว่าพอครบ 3 ปี จะนำอัฐิน้องชายเก็บไว้ในช่องบริเวณโบสถ์

ของวัด แต่คุณแม่เกรงว่า น้องชายอายุน้อยที่สุดในบ้าน อายุ 17 ปี

ยังไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก ไม่มีใครมาดูแล ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่แล้ว

จะมีใครดูแลเขาหรือเปล่า หากปล่อยรกร้างไว้.. ก็ไม่ดี จะทำให้เขาเร่ร่อน หิวโหย

เป็นสัมภเวสีหรือไม่ ดิฉันก็ช่วยคุณแม่คิด แต่ก็สงสารหัวอกคนเป็นแม่ จึงอยากขอ

คำแนะนำท่านผู้รู้ค่ะ ว่าควรจะทำอย่างไรดี เพราะน้องชายอายุน้อยตอนที่เสียชีวิต

เด็กสุดในบ้าน ไม่มีใครไหว้เขาได้ ได้แต่จุดธูปแล้วเรียก คุณพ่อคุณแม่ท่านห่วง

เวลาที่ท่านจากโลกนี้ไปแล้ว ท่านกลัวว่าถ้าเก็บเข้าช่องจะไม่มีคนดูแล

ส่วนตัวดิฉันเองนั้น เอาแน่นอนไม่ได้กับอนาคตค่ะ เพราะบางทีอาจจะไม่ได้อยู่

ประเทศไทย ก็ไม่กล้ารับปากท่าน ขอคำปรึกษาค่ะ แนะนำกันมาเยอะ ๆ นะคะ

จะได้นำไปเสนอคุณแม่แล้วเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้ท่านสบายใจ ขอบคุณค่ะ...

 

ในแบบที่ผมใช้นะครับ....คือผมจะใช้วิธีลอยอังคารนะ.....พี่สาวผม ผมลอยทั้งอังคารและกระดูก พ่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกสามชิ้นเพราะตัดใจยังไม่ขาด....นอกนั้นไม่เหลือครับ...เหตุผลที่ทำก็คล้ายอย่างกับที่คุณบอกนั้นหละครับ....คือพี่สาวผมอายุน้อยในบรรดาญาติเขาไม่ยกมือไหว้กัน....และอีกอย่างที่ผมเห็นของใครหลายคนทิ้งไว้ที่วัดขาดการดูแล...ยิ่งปล่อยไว้นานญาติตายกันหมด....วัดประกาศกลายเป็นกระดูกไม่มีญาติเลย เห็นแล้วอนาจใจ....ผมเลยตัดสินใจลอยหมดเลยครับ...เพราะอย่างน้อย ณ. วันนี้เรามีชีวิตอยู่...ในวันข้างหน้าเราตายไป ต่อไปอีก ๑๐ ปี ๒๐ปี ....ใครจะมาดูแลแทน..อีกอย่างเป็นการบอกให้ท่านทั้งสองและญาติที่ไปด้วยปล่อยวาง....คือ ปล่อยผงอังคารให้ออกไปจากมือของท่านเอง...เป็นการบอกในใจอีกที่ว่าจบไปแล้ว...สู่สุขคติ กลับคืนสู่ธรรมชาติ...เมื่อไรกลับมาสู่แม่น้ำสายนั้นก็จะจดจำได้ถึงพี่สาวที่เสียไป...หลังจากนี้เหลือเพียงแต่ความทรงจำ....อย่างนี้หละครับ....

พี่สาวผมก็ไม่ได้มาเข้าฝันว่าหนาวหรืออะไรอย่างไรนะ.....แม่ก่อนผมเคยนำผงอังคารและกระดูกไปเก็บไว้ที่หลวงพี่ที่ผมรู้จักให้ท่านแผ่เมตตาให้เหมือนกัน...พอครบกำหนดท่านก็ให้เอาไปลอย...ท่านก็ไปด้วยนะ....ท่านก็ไม่ว่าอะไร...เพราะท่านก็เอาของญาติท่านร่วมไปด้วย.....ท่านก็ไม่ว่าอะไรนะครับ.....และท่านก็เห็นดีด้วยเพราะท่านก็ทำนะ....อย่าไปคิดมากครับ....คนที่เขาตายเขาจบไปแล้ว...ต่อแต่นี้ก็เป็นเรื่องของบุญและกรรมของเขา....เรามีหน้าที่ที่จะต้องอยู่ต่อไป ทำความดีต่อไป มีเวลาก็ต้องทำความบุญให้กับเขาบ้างนะครับ.....

 

อีกวิธีหนึ่งนะครับ....อันนี้ผมใช้สำหรับญาติผู้ใหญ่ คือ ยายผมเสีย กระดูกของตาผมก็เก็บไว้ที่บ้านญาติผม....ผมก็เลยนำผมอังคารของยายพร้อมกระดูก ตลอดจนกระดูกส่วนใหญ่ของตาผมร่วมพิธีลอยอังคารพร้อมกันครับ(แม่น้ำสายเดิม..ประมาณว่าทำกุศโลบายให้ว่าทุกคนที่เป็นญาติเสียไปแล้วจะได้ไปอยู่ร่วมกันอย่างนี้ และ ถือเป็นการไปทำบุญพร้อมกันอีกครั้ง)...

ส่วนตายายผมมีลูกหลานมาก...ลูกหลานเลยต้องการเก็บอัฐิไว้บ้าง...แต่ไม่รู้จะจัดการกับอัฐิอย่างไรเพราะว่ายังเหลือมาก....เพราะไม่อยากลอยทั้งหมด(ตัดใจไม่ขาด)....เพื่อความสบายใจของญาติ และเพื่อความสบายใจของวัด ประจวบเหมาะกับวัดต้องการสร้างอุทยานพระอรหันต์ ๘๐ รูป...ผมเลยบอกว่าให้ญาติสร้างพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่องค์หนึ่ง ทำจากปูนปั้นทาสีทองทั้งองค์(พระติดกับฐานยกไปใหนไม่ได้ ทำแบบถาวร)....แล้วทำช่องเก็บไว้ใต้ฐาน เอาอัฐิตากับยาย เก็บไว้ใต้ฐานพระครับ.....จบครับ...ไหว้ได้ ใครมาก็ไหว้ได้ ไหว้พระ ถือว่าสร้างพระองค์หนึ่ง เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้ท่านด้วย...สบายใจทั้งญาติและวัด...ครับ....

ความจริงวิธีนี้ผมประยุกต์กับแบบหลางพ่อฤาษีลิงดำท่านเคยเทศน์สอนไว้ว่าที่อยุธยาเขาตำกระดูกผสมกับปูนสร้างองค์พระ และท่านบอกว่าเป็นความคิดที่ดีอย่างนี้ท่านเห็นด้วย ต่อมามีคนทำตามอีกมากอย่างนี้......

แต่ที่ผมเก็บอัฐิไว้ใต้ฐานนั้น...เพราะหลวงพี่ท่านพูดว่าบางครั้งเกรงว่าพระในวัดจะกระดากที่จะไหว้พระที่มีปูนจากกระดูกจึงไม่ควรทำอย่างนี้
เป็นต้น(แต่อย่างไรถ้าทำได้ผมก็จะทำแบบหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านนะครับ)...ผมเลยหาทางออกด้วยวิธีนี้ครับ....พระในวัดท่านดูแลให้อย่างดี...เพราะถือเป็นองค์พระองค์หนึ่งครับ....หลวงพี่องค์หนึ่งในวัดตอนทำพิธีเบิกเนตรชมผมเลยว่าความคิดดี...

เอาคุณไปพิจารณาเองนะครับ....

 

ที่วัดของหลวงพ่ออลงกตท่านก็จะนำกระดูของคนที่เป็นโรคเอดส์ตายมาหล่อเป็นพระพุทธรูปค่ะ เพราะกระดูกของคนเหล่านั้นไม่มีญาติที่จะไปรับกลับ แล้วก็กองอยู่ที่วัดมากมาย

 

บริการเรือลอยอังคารที่วัดหลวงพ่อโสธร ลอยกระทงสะเดาะห์เคราะห์ และบริการอื่นๆตามต้องการ บริเวณท่าเรือริมฝั่งแม่น้ำ ข้างวัดหลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา" (ท่าเรืออยู่ติดกับร้านชวนมา) ลักษณะเรือลอยอังคารที่ให้บริการเป็นเรือเมล์ขนาดใหญ่ และเรือยนต์ขนาดใหญ่ เปิดให้บริการทุกวัน

ทางทีมงานจะแนะนำขั้นตอนต่างๆโดยทำพิธีบนบกก่อน เมื่อเสร็จพิธีทางบกจะนำท่านลงเรือ และพาไปบริเวณที่เคยเป็นเรื่องเล่าตามตำนานหลวงพ่อโสธร ว่าเป็นจุดที่หลวงพ่อโสธรลอยทวนกระแสน้ำมา ซึ่งถือว่าเป็นจุดมงคล เมื่อมาถึงจุดนี้ทางทีมงานจะลอยเรือกลางแม่น้ำ และให้เวลาท่านได้ลอยอัฐิจนเสร็จสิ้นพิธีกรรม หลังจากนั้นจะนำท่านกลับสู่ฝั่งอย่างปลอดภัย

มีหลายท่านที่สนใจการท่องเที่ยวทางน้ำ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีลอยอังคารแล้ว ได้มีการตกลงว่าจ้างให้ทางทีมงานนำเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ของฉะเชิงเทรา และ

พิเศษ!! ตอนนี้ทางทีมงานมีโปรแกรมท่องเที่ยวล่องเรือไหว้พระ9วัด โดยอัตราว่าจ้างนั้นแล้วแต่จะตกลงกัน (ขึ้นอยู่กับจำนวนคนและระยะทางที่จะไป สอบถามราคาจากทีมงานได้ค่ะ ราคาไม่แพง)



การเดินทางมาที่ท่าเรือนั้นไม่ยาก ลูกค้าสามารถเข้าทางตลาดสดข้างวัดโสธร (หรือซอยร้านอาหารชวนมา) ซึ่งสามารถนำรถของท่านเข้ามาจอดที่ท่าเรือได้เลย สนใจใช้บริการลอยอังคารฉะเชิงเทรา/ล่องเรือไหว้พระ9วัด กับทีมงานคุณลุงวินัย (โทรจองเรือล่วงหน้าได้) สามารถติดต่อ โทร. 087-5807453เดียร์ค่ะ



:: สถานที่บริการ และ สิ่งอำนวยความสะดวก ::
• ท่าเรือร้านอาหารชวนมา ข้างวัดหลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา
• มีเสื้อชูชีพไว้บริการเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
• ทีมงานแนะนำการทำพิธีตลอดทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิดจนเสร็จพิธี




มีเรือให้ท่านเลือกถึง 3 ขนาดด้วยกัน

เรือยนต์ขนาดเล็ก (มีหลังคา) ราคา 499 บาท
เรือเมล์ขนาดใหญ่ (มีหลังคา) ราคา 999 บาท
เรือยนต์ขนาดใหญ่ (มีหลังคา) ราคา 1,500 บาท
*** ราคานี้รวมการทำพิธีทั้งบนบกและขณะอยู่บนเรือ แนะนำการทำพิธีทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด ***
*** สำหรับผู้ที่มาใช้บริการเรือลอยอังคาร ทางทีมงานมีพระเครื่อง แถมให้เป็นที่ระลึกด้วยนะคะ ***

 

เวลาเราตัดผมของเรา เราไปตามดู ตามรู้สึก แทนเส้นผมที่เราตัดไปหรือไม่?
เล็บที่เราตัด เราเคยสนใจมันบ้างไหม?
ฟันที่หลุดร่วงไปในวัยเยาว์ เรายังต้อวการมันไหม?
ถ้าวันนึงเราเสียแขนหรือขาไป หรือเสียอวัยวะภายในบางอย่างไป เราจะยังรู้สึกถึงมันไหม?

บุคคลที่จิตหลุดการควบคุมจากกายไปแล้ว ย่อมไม่มีอะไรผูกมัดจิตกับกายนั้นๆได้อีกแล้ว ไม่หนาวเพราะกายนั้นอีก ไม่เจ็บเพราะกายนั้นอีก อย่าไปกลัวเขาหนาว ถ้าห่วงเขาขนาดนั้น ตอนเผาน่ากลัวเขาจะร้อนมากกว่าเสียอีก

ฉะนั้นแล้ว เถ้ากระดูกมันก็คือเศษดิน จะทิ้งลงน้ำ หรือจะฝังดิน หรือจะเอาไปผสมปูนสร้าวบ้านมคลุกข้าวให้หมากิน มันก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อเจ้าของเก่าเลย

 

ในทางพระพุทธศาสนา เค้าไม่นิยมนำเอากระดูกไปลอยน้ำ ที่ลอยน้ำเป็นทำเนียมของ(ศาสนาฮินดู) พุทธจะเผาแล้วก็เก็บกระดูก หรือ ฝังค่ะ แม้แต่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายก็เช่นกันเผาแล้วก็เอาดินมากลบนูนๆทำเหมือน(ฮวงซุ้ย)คนจีน ไม่เข้าใจทำไมไปทำแบบฮินดูแบบศาสนาพราหมณ์กัน คนสมัยก่อนเค้าทำเจดีย์ปูนแล้วเอาใส่ คนต่างจังหวัดเค้าก็เอาไปฝังดินแล้วปลูกต้นไม้ใหญ่ก็มีนะ พอถึงวันตรุษสงกรานก็ไปรวมญาติทำบุญกัน ไม่เข้าใจพวกญาติๆของคนตายที่เอากระดูกคนที่เรารักไปทึ้งทะเลได้ลงคอ อัฐธาตุที่เอาไปทึ้งทะเลล้วนเป็นคนที่เรารักทั้งนั้น มันไม่ต่างเลยกับการโยนทิ้งข้างถนน จริงๆนะคะ ต่างกันแค่บนบกกับในน้ำเท่านั้น เอาไปลอยอังคารก็คือเอาไปทิ้งน้ำ โห....คนทั้งคนกว่าจะเกิดเป็นคนได้ ตายทั้งทียังถูกทึ้งถูกขว้างแบบผีไร้ญาติ น่าสงสารหวะ...แต่จะว่าไปมันก็บุญกรรมของแต่ละคน คนบางคนเวลาอยู่ก็อยู่อย่างมีเกียรติ เวลาตายญาติหรือคนรักเค้าก็ทำให้อย่างดี อย่างประณีต นี่เพราะบุญ-กรรมทั้งนั้น จะว่ายึดติดก็ไม่เชิงเพราะทำเนียม(พุทธ)มีมาตั้งแต่สมัยพุทธการเป็นแบบอย่าง อย่างงานพระศพของพระพุทธเจ้า และหลังงานอัฐมีบูชา ล้วนเป็นคำตอบได้ดีว่าควรทำอย่างไร แม้แต่ในอดีตชาติของพระพุทธเจ้าที่มีลูกชายเป็นพระปัจเจก(สุสิมะ) นั้นก็บอกได้อย่างดี ถึงวิธีการปลงศพก่อนและหลัง

 

อัฐิกับอังคารแยกกัน
อังคารไปลอยได้
อัฐิห้ามลอย เอาไปบรรจุที่วัด

 

อังคาร หมายถึง ขี้เถ้ารึเปล่าครับ

 

ใช่ค่ะ