ถามเรื่องจักระที่3

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย amsomegal, 16 ธันวาคม 2010.

  1. amsomegal

    amsomegal Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92
    ณ ตอนนี้เราจะรู้สึกร้อนที่จักระ3 มากเลยค่ะ ตรงสะดือทำให้เครียดคิดมาก ไม่มั่นใจ คิดลบกับตัวเอง แล้วก้อหน้าซีดมากด้วย คือแต่ก่อนจะเป็นคนขาวอมชมพู แก้มแดงอ่ะค่ะ เด้วนี้หน้าซีด โทรมหมองไปเลย ไม่รู้เกิดจากอะไร ท้องเราร้อน ไม่ได้เย็นเหมือนเวลาสบายใจอ่ะค่ะ เป็นมาได้ซักพักแล้ว พยายามให้กำลังใจตัวเอง แต่มันก้อเป็นๆหายๆ
     
  2. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    เคยฝึกจักระมาก่อนหรือไม่ครับ
    ตอนนี้พลังงานใต้ธรณีปั่นป่วนมากมีผลทำให้จักระ1 และ2 หมุน
    ซึ่งทำให้เกิดพลังงานความร้อน
    ผมเองตอนนี้ก็ร้อนที่จุดกลางหลังตรงกับจักระ3ที่สะดือ
    วิธีแก้คือหมุนจักระที่7และ4
    คิดถึงสีเขียว เช่นหาโอกาสเข้าไปในสวนหรือใต้ต้นไม้ใหญ่หรือแม้แต่จินตนาการถึงป่าที่มีความร่มเย็น
    หายใจเข้าทางจมูกนึกมโนภาพว่าเราหายใจเอาพลังเย็นสีเขียวจากต้นไม้เข้าไป
    หายใจออกทางปากยาวๆ เบาๆนึกว่าเราหายใจเอากระแสความร้อนสีแดงที่ปนเปื้อนจักระสีเหลืองของจักระที่3ออกมาทางปาก หรือมโนภาพว่าเราระบายไอน้ำหรือไฟออกมาจากท้องก็ได้ครับ
    อีกอย่างที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดก็คือนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย8ชมด้วยครับ
    ลองทำดูนะครับ
     
  3. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    ไม่เคยได้ยินได้รู้มาอ่ะ ว่า จักรที่ 3 อยู่ตรงสะดือ

    เห็นแต่จักรทั้งเจ็ด

    1. จักรพื้นฐาน ตรงฝีเย็บ
    2. จักรเพศ ใต้สะดือ 2 นิ้ว
    3. จักรสุริยะประสาท ลิ้นปี ตรงปมสุริยะประสาท หรือ Solar Plexus
    4. จักรหัวใจ
    5. จักรคอหอย
    6. จักรตาที่ 3
    7. จักรมงกุฎ ครอบศีรษะเหมือนสวมมงกุฎ จึงเรียก จักรมงกุฎ

    ;););)
     
  4. amsomegal

    amsomegal Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92
    อ่าวหรอคะ ยังงี้ที่ท้องเราร้อนๆ เหมือนเวลาเครียดแล้วท้องไส้ปั่นป่วนอ่ะค่ะ เรียกว่าจักระอะไรคะ มันร้อนวูบวาบตลอดเลย
     
  5. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    คงไม่เกี่ยวกับจักร คงเป็นเรื่องกระเพาะ ลำใส้มากกว่า แต่ถ้ามันร้อนระอุขึ้นเหมือนน้ำเดือดพล่านตรงจักรเพศ คุณก็เกิดอารมณ์อยากร่วมเพศล่ะ แต่ถ้าเป็นดั่งกรณีนี้มันจะเกิดขึ้นในฉับพลันเลยล่ะ ใช้เวลาประมาณ 1-2 วินาทีเท่านั้น แต่ถ้าหมุนตามธรรมดาก็สงบไม่มีอะไร เพียงแต่รู้สึกได้ถึงการหมุน แต่อาจเป็นเพราะอาหารผิดสำแดง หรือ ทานอาหารที่ร้อน ร้อนในที่นี่หมายถึงธาตุไฟ ลองไปหาอ่านดู จำชื่อหนังสือไม่ได้ล่ะ เขาบอกว่า ถ้าร้อนเกินจะเป็นอย่างไร เย็นเกินจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้หนังสือหมวดอาหารมีหมด ทั้งแบบตะวันตก ตะวันออก

    ;););)
     
  6. neung48

    neung48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +457
    หมุนไม่เป็น ได้แต่ปล่อยให้มันร้อนไป แล้วก็พิจารณาความว่างช่วยหงะ
     
  7. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,683
    ผมเคยฝึกเหมือนกันเเต่ไม่มากอ่ะนะ

    อันนี้ไม่เกี่ยวกับการฝึกจักระ ไม่รู้ว่าจะช่วยได้เปล่านะ
    เห็นเขาบอกว่าถ้ารู้สึกไม่สบายหรือไม่ดีตรงจักระส่วนไหน
    ก็ให้พยายามกินอาหารที่มีสีตรงกันจักระนั้น
    จักระที่ 1 อาหารที่มีสีเเดง เช่นเเตงโม มะเขือเทศ
    จักระที่ 2 สีส้ม
    จักระที่ 3 สีเหลือง เช่นสับปะรด มะม่วงเหลืองๆ
    จักระที่ 4 เขียว
    จักระที่ 5 ฟ้า
    จักระที่ 6 น้ำเงิน/คราม
    จักระที่ 7 ม่วง
    มันจะเป็นการรักษารความผิดปกติของร่างกายส่วนนั้น
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,758
    ค่าพลัง:
    +51,962
    *** จักระจี้ ****

    ...บริเวณรอบเอว
    หัวเราะ อารมณ์ดี แก้มแดง เลือดหล่อเลี้ยงไปทั่ว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    จักระทั้ง7เป็นอย่างไร

    จักระ 1 (ดอกบัว 4 กลีบ) มีชื่อว่า มูละธารณะ
    - อยู่ระหว่างอวัยวะเพศ และทวารหนัก
    - เป็นรากฐานของระบบจักระ หรือระบบพลังงาน เป็นพื้นฐานของพลังชีวิต และเป็นกลไกที่ทำให้สืบทอดพันธุ์เป็นมนุษย์อยู่ในโลกทุกวันนี้
    - ผู้ที่ปฏิบัติได้ถึงระดับสูงสุด จักระนี้จะเปิดเองโดยอัตโนมัติ

    จักระ 2 (ดอกบัว 6 กลีบ) ชื่อว่า สวาธิษฐานะ
    - อยู่ตรงปลายก้นกบ เป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับพลังทางเพศ รวมทั้งความเชื่อมั่นในตนเอง
    - ควบคุมระบบการสืบพันธุ์, การขับกากอาหารและของเสียออกจากร่างกาย (ระบบการขับถ่าย) รวมทั้งการตั้งครรภ์และการคลอด
    - ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับอัณฑะ, ท่อปัสสาวะ, อวัยวะสืบพันธุ์, มดลูก, รังไข่, ช่องคลอด, ทวารหนัก, กามโรค

    จักระ 3 (ดอกบัว 8 กลีบ) มีชื่อว่า มณีปุระ
    - อยู่ตรงแนวสะดือตัดกับกระดูกสันหลัง เป็นศูนย์กลางของการหยั่งรู้ ณ จุดนี้เป็นศูนย์กลางของร่างกาย
    - ควบคุมระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายของเสีย
    - ใช้รักษากระเพาะอาหาร, ลำไส้ใหญ่, ลำไส้เล็ก, ลำไส้อ่อน, ลำไส้แก่, ไส้ติ่ง, ตับ, ม้าม, ดี, กระเพาะปัสสาวะ, ไต, โรคเบาหวาน, ถุงน้ำดี, ต่อมหมวกไต

    จักระ 4 (ดอกบัว 10 หรือ 12 กลีบ) ชื่อว่า อะนาหตะ
    - อยู่ตรงแนวหัวใจตัดกับกระดูกสันหลัง เป็นศูนย์รวมของความรักที่แท้จริง รวมทั้งการพัฒนาจิตใจ ด้วยความเมตตากรุณา และความเสียสละ
    - ควบคุมระบบหมุนเวียนโลหิต, หัวใจและระดับไขมันในเส้นเลือด
    - ใช้รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจโต, หัวใจเล็ก, หัวใจรั่ว, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเส้นเลือด, หัวใจเต้นอ่อนและเหนื่อยเร็ว

    จักระ 5 (ดอกบัว 16 กลีบ) ชื่อว่า วิศทะ
    - ความรัก ความเห็นอกเห็นใจ ความสมดุลของสติปัญญา
    - อยู่ตรงบริเวณเส้นแนวไหล่ตัดกับกระดูกสันหลัง
    - ควบคุมระบบทางเดินหายใจ และผิวหนัง
    - ใช้รักษาโรคปอด, หลอดลม, ลำคอ, ไซนัส, ต่อมผิวหนัง, หลอดลมอักเสบ, หอบหืด, ไอ, จมูก, ผื่นคัน, โรคผิวหนัง

    จักระ 6 (ดอกบัว 2 กลีบใหญ่ และกลีบย่อย 100 กลีบ) ชื่อว่า อะชะ
    - อยู่ตรงกลางหน้าผาก เปรียบเสมือนนัยน์ตาของปัญญา ใช้เป็นตาที่ 3 (ญาณวิเศษ) สำหรับการติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ห้าม ผู้สำเร็จ ระดับ1, 2,3,4 และ 5 ใช้จักระนี้ในการรักษาโรคอย่างเด็ดขาด
    - ควบคุมสติปัญญา, ความนึกคิด, ความเฉลียวฉลาด, และระบบประสาท
    จักระ 7 (ดอกบัว 1,000 กลีบ) ชื่อว่า สหสราระ
    - อยู่ตรงกลางกระหม่อมหรือจุดตัดของเส้นที่ลากจากปลายจมูก ผ่านกลางหน้าผาก ตัดกับเส้นที่ลากจากหูซ้ายไปหูขวา เปรียบเสมือนมงกุฎดอกบัว
    - ควบคุม ระบบประสาททั้งหมดของร่างกาย เป็นศูนย์ควบคุมทุกจักระ เป็นจุดรับพลังจักรวาล และทำการกระจายไปทั่วร่างกาย เป็นจุดที่ สามารถรักษาอาการเจ็บป่วย ที่จักระอื่นไม่สามารถรักษาได้โดยตรง
    - ใช้รักษาเส้นประสาท, สมอง, ตา, หู, อวัยวะในช่องปาก, โรคเจ็บป่วยซึ่งเกี่ยวกับระบบประสาททั่วไป ที่อยู่นอกเครือข่ายของ จักระอื่น เช่น ระบบกล้ามเนื้อ, ไทรอยด์, ต่อมทอนซิล, กล่องเสียง

    จักร ทั้ง 7 นี้ทำหน้าที่ควบคุม จิต จิตใต้สำนึก อารมณ์ ปัญญา เป็นต้น เซลล์พิเศษของสมอง เรียกว่า ไมโครเซลล์ ไมโครเซลล์นี้ จะฉายแสงสีเหลืองเป็นประกายและสั่นไหวอย่างรุนแรง เป็นหลักการสั่นไหว เมื่อผู้ฝึกสมาธิ และจะสั่นไหวแรงขึ้น เมื่อ ฝึกในระดับที่สูงขึ้น จนขยายไปทุกส่วนของอวัยวะในร่างกายในทั่วร่าง และถ้าหากผู้ฝึกสามารถสั่งสมเพิ่มพลังงานให้มากขึ้น

    ไปคัดมาให้อ่านครับ ขอขอบคุณเจ้าของบทความครับ
     
  10. onekisswithlove

    onekisswithlove Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +57
    แล้วถ้านั่งๆไปแล้วรู้สึกเสียวเเปลบๆ ตรงหว่างคิ้วตลอดเลยล่ะ(เป็นตั้งแต่เด็ก)มันทำให้การเจริญสมาธิไปไม่ถึงไหนซะที พยามจะใช้อานาปานสติ ตามรู้ลมหายใจ แต่มันฝืนไม่ได้จริงๆ
    มันชอบเป็นตอน ที่นั่งสมาธิ หรือกำลังจดจ่ออะไรมากๆ หรือตอนโกรธสุดๆ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับเรื่องจักระนี่หรือเปล่า เพราะเรามีขวัญที่หว่างคิ้วน่ะ ใครมีคำแนะนำดีๆ ช่วยหน่อยนะ...แล้วอีกอย่างนึง เคยสงสัยเกี่ยวกับขวัญมาตลอด ว่าคืออะไร ทำไมบางคนมี บางคนไม่มี แล้วมีทำไม เพื่ออะไร(ขี้สงสัยจริ๊ง) แล้วจะอันเดียวกันกับที่คนโบราณเขาว่า ขวัญเอ้ย...ขวัญมา หรือเปล่า ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2010
  11. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    ความพยายามเข้าไปบังคับอาการนั้นแหละยิ่งทำให้เรื่องยุ่งยากมากขึ้น
    ลองดูอาการนั่นเฉยๆเหมือนมีเราอีกคนดูอีกคนที่หว่างคิ้วหมุนอยู่นั้น
    ถ้าอยากหมุนก็ให้หมุนไป ดูอาการหมุนนั้นอยู่
    มันไม่ทำให้เราตายหรอก
    การพยายามไปบังคับอาการของกายและจิต ทำให้เกิดความเครียด
    พอดูอาการให้เขาแสดงออกมาให้พอใจ เขาก็หยุดเองแหละครับ
    จักระของคนที่ยังไม่ตายก็หมุนทุกคน
    คนที่ไม่ได้ฝึกแค่รับรู้ไม่ไวพอเท่านั้น
    บางคนอาจมีธรรมชาติรับรู้ได้ไวกว่าคนอื่น
    ถ้าฝึกต่อก็ไวขึ้น ใช้ฝึกสติได้
     
  12. onekisswithlove

    onekisswithlove Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +57
    แต่ความรู้สึกมันไม่ได้หมุนค่ะ มันเสียว วืบบบบ ๆ ในกระดูกหน้าผากเลย
     
  13. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    หมุนหรือเสียวหรือตึงหรือวูบวาบก็คืออาการที่เกิดขึ้นเพราะจักระหมุนนั้นแหละครับ
    ลองอ่านกระทู้เปิดจักระด้วยตนเองผ่านหน้าเวปแล้วฝึกดูนะครับ
     
  14. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    ที่คุณคัดมานี่ตามสูตรของโยคะ แต่ว่าแม้แต่ทางโยคะเองก็ยังไม่ค่อยจะตรงกันอีก

    ยังมีของ จ้าว ก็อก สุ่ย ซึ่งบอกว่าเป็นวิชาของคริสต์ ก็คือที่ผมคัดมาให้อ่าน

    ก็แปลกมากที่ของจีนก็มีแต่ไม่เหมือนกัน มันข้ามและกระโดดไปได้เลย แปลกมาก

    ;););)
     
  15. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    สะดือเป็นทางเชื่อมโยงเรากับแม่เมื่อตอนอยู่ในครรถ์
    จุดสะดือจึงมีความสำคัญ
    อีกอย่างก็คือจักระไม่ได้มีแค่7
    คัดมาให้อ่านเล่นๆครับ
    ฐานความรู้โดยย่อเรื่อง จักระ

    .......จุดเริ่มต้นความมนุษย์มาจากธาตุละเอียด เป็นแสงสว่างที่มีจิตสำนึกรู้ อาศัยแสงสว่างจากแสงในจักรวาลเป็นพลังงานปราณผ่านจักระทั้ง๗ ฐาน เสพปีติทางใจเป็นอาหาร มีอายุขัยที่ยืนยาวนับหมื่นปีผ่านการเรียนรู้วิฒนาการของจักรวาลไปพร้อมๆกัน

    .......เมื่อความรู้สึกจิตสำนึกในสิ่งต่างๆ เริ่มหยาบลงจากการเสพสิ่งที่หยาบลงๆเป็นอาหาร จากง้วนดิน(ของเหลวคล้ายเนยใส) สู่แป้ง เนื้อสัตว์ ที่เป็นธาตุหยาบขึ้น ร่างกายที่อาศัยจึงมีวิวัฒนการหยาบลง
    .......ร่างกายที่หยาบในส่วนรูปลักษณ์ (physical) แต่ในส่วนที่ละเอียด(mental) ด้านจักระทำงานยังเหมือนเดิม พลังปีติทางใจจากการปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวกกับเพื่อนมนุษย์ที่มอบความรักและเมตตาให้แก่กันยังคงมีอยู่เป็นสากล
    ....... ร่างกายที่หยาบขึ้น อายุเซลล์(cell) จึงสั้นตามลงไป ปัจจุบันนี้มนุษย์หนึ่งรอบอายุขัยนึง จึงอยู่ประมาณ ๑๒๐ ปีโดยประมาณ

    [​IMG]

    .......ตามภาษาอินเดีย ชื่อจักระทั้ง ๗ นี้ได้แก่ มูลธาระ สวาธิษฐาน มณีปุระ อนาหตะ วิสุทธะ อาชญะ สหัสราร และมี กุณฑาลินี ไหลเวียน โลดแล่นเป็นพลังให้แก่ชีวิตจิตวิญญาณทุกคน.......เรื่องจักระดังกล่าว มนุษย์ทุกมุมโลกล้วนค้นพบสภาวธรรมที่เป็นประสบการณ์ตรงเชิงประจักษ์ มาตั้งแต่โบราณกาล ชื่อเรียกดังกล่าวนั้นจึงมีชื่อเรียกต่างๆกันไป ตามภาษาจีน ,ภาษาอังกฤษ สันสกฤตฯลฯ จุดจักระนั้นแม้ชื่อเรียกต่างกันแต่ก็เป็นจุดเดียวกันคุณลักษณะ ไม่แตกต่างกันจากการสัมผัสภาวะ

    [​IMG]

    Emotional แสงออร่า มีสีพื้นของแต่ละคน และมีส่วนที่เปลี่ยนแปลงตามระดับอารมณ์

    SoulAxis แกนหรือช่องมิติของจิตวิญญาณ ต้นไม้แห่งชีวิตจิตวิญญาณ ที่มีกระบวนการพัฒนา

    จากภาพ ในส่วนแรก คือ Physical Body ของร่างกายมนุษย์ ต้องการอาหาร ๕ หมู่เป็นอย่างน้อยเพื่อนำมาหล่อเลี้ยงร่างกายให้ดำรงอยู่ได้ตามธรรมชาติ จากอาหารชนิดหยาบที่อาศัยการเคี้ยว ไปจนถึงอาหารชนิดละเอียดที่เล็กระดับ nano เพื่อให้ร่างกายได้ซึมซับสิ่งที่มีคุณค่าต่อร่างกาย

    ...... ในส่วนที่สอง จักระส่วนต่างๆบนเรือนกายจะทำหน้าที่รับพลังงานในส่วนละเอียด ซึมซับพลังงานในธรรมชาติ หรือพลังงานจักรวาล สิ่งที่มีคุณค่าต่อร่างกาย โดยที่ภาพรวมคลื่นสั่นสะเทือนของการทำงานของจักระ+ สุขภาพ+อารมณ์ และธาตุรู้ี่ดำรงอยู่ทุกเซลล์ของมนุษย์แต่ละคน จะบ่งบอกออกมาทางรังสีของออร่า ที่ปรากฏออกมาเป็นคุณภาพความเข้มในเฉดสีต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ มีเครื่องมือเพื่อถ่ายภาพสีออร่าของแต่ละคนเช่นกัน เรียกว่า กล้องออร่า

    ......ในส่วนที่สาม Soul Axis ท่อนแกนเส้นทางของจิตวิญญาณ ที่ผ่านการฟูมฟักจากสมาธิภาวนา ผ่านระเบียบวินัยในการฝึกฝนอย่างจริงจังต่อเนื่อง จนทุกจักระพลังงานสำนึกรู้ของจิตวิญญาณ ธาตุทุกจุดเชื่อมถึงกันอย่างสมดุลย์กันเปิดฟ้าเปิดดิน ผ่านขึ้นไปเบื้องบนประสานจิตวิญญาณสากล ส่วนนี้โบราณเรียกว่า ต้นไม้แห่งชีวิต(Tree Of Life) หรือเสาแกนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งจักรวาล (Axis Of Cosmic) คนโบราณถือว่าจิตวิญญาณและีชีวิตเป็นเรื่องเดียวกัน

    ..............................


    เนื้อหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม:

    กฏจักรวาล ธรรมชาติรังสรรค์จิตวิญญาณ
    http://www.dhammachak.net/board/viewtopic.php?t=578

    Green Zone
    http://www.dhammachak.net/gzone.html
    _________________
    Golden Path
     
  16. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    จากรูปที่ท่านนำมาให้ดูนี้ ตำแหน่งของ Solar Plexus ไม่ใช่สะดือ แต่เหนือขึ้นมาตรงลิ้นปี่ ตรงนี้มีร่างแหประสาทอยู่ เรียกว่า สุริยะประสาท หากถูกชกเข้าที่นี่ก็น็อคทุกรายถ้าโดนเข้าจังๆ



    ;);););)
     

แชร์หน้านี้

Loading...