ถามเรื่องภพภูมิของคนตายโหงครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย นามะเต, 8 มีนาคม 2010.

  1. นามะเต

    นามะเต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +20
    มีคนเล่าให้ฟังว่าคนที่รถคว่ำตายเนี่ย เค้าเรียกว่าตายโหงเป็นการตายก่อนอายุขัยจริงหรือไหม่ครับ ถามนะครับ
    1.คนตายโหงแล้ววิญญาณไปไหนไม่ได้เป็นผีเร่ร่อนจริงหรือไม่
    2.เพื่อนผมรถคว่ำตายวิญญาณเค้าจะอยู่ที่ไหน
    3.เพื่อนแฟนผมเป็นลูกศิษย์สาย ลพ.ฤาษีฯ นั่งสมาธิแบบมโนฯแล้วอาจารย์พาไปเที่ยวนรก เจอเพื่อนผมได้พูดคุยกันถึงเหตุที่มาอยุ่ที่นี้ เพื่อนผมบอกว่าที่มาอยู่นี้เพราะเคยพาผู้หญิงไปทำแท้ง แปลกไหนว่าจะต้องเป็นพี่เร่รอนไง
    4.ผมได้โทรไปถามแฟนเพื่อนผมได้รับคำตอบว่าจริงเพื่อนผมเคยพาเมียน้อยไปทำแท้ง งงครับถ้างั้นแสดงว่าคนที่ตายทุกกรณีต้องได้รับการตัดสินใช่ไหมครับ
     
  2. lek_awapa

    lek_awapa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +1,044
    รอผู้รู้มาช่วยตอบค่ะ..อยากจะทราบเหมือนกัน....
     
  3. kobchai

    kobchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +100
    อยากรู้เหมือนกันครับ
     
  4. เลิกตาย

    เลิกตาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +416
    ขอเสนอความเห็นนะคับ
    คนตายโหงนี่ไม่จำเป็นต้องเป็นสัมภเวสีเสมอไปแล้วแต่กรณี อาจจะหมดอายุขัยจริงก็ได้
    อย่างในสมัยพุทธกาลก็มีแบบฆราวาสที่บรรลุอรหันต์บวชไม่ทันก็ตายโหง :VO
     
  5. OddyWriter

    OddyWriter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +977
    ตอบเท่าที่ผมรู้ก็แล้วกันนะครับ
    1. คนที่ตายโหงนี่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนตายก่อนอายุขัยนะครับ บางคนก็ถึงเวลาของเขาจริงๆ แต่บางคนนี่จับพลัดไปเพราะถึงเวลาที่กรรมฝ่ายร้ายทำงาน
    2. บางคนถึงจะตายโหงก็มีสติระลึกรู้อยู่ เพราะขณะจิตนั้นเกิดไปนึกถึงกรรมที่ตนเคยทำมาพอดิบพอดี ก็จะได้ไปในภพภูมิที่เหมาะสมกับจิตก่อนตาย พระพุทธเจ้าถึงบอกว่า อย่าประมาทไงครับ บางคนไปทำบุญใหญ่มา ขากลับรถประสานงา ระหว่างนั้นกำลังปลื้มกับบุญที่ทำมาแบบสุดๆ แบบนี้ก็มีแนวโน้มที่จะไปจุติในภพภูมิที่ดีได้
    3. บางคนหลับๆ ตื่นๆ ไม่ได้คิดอะไร ตายไปยังไม่รู้ว่าตัวเองตายเลย (เพราะคนตายเขาไม่ได้เห็นอะไรๆ แบบที่เราเห็นนะครับ) แบบนี้ก็มีแนวโน้มที่จะล่องลอยไป หรือไม่ก็อยู่ตรงจุดที่ตัวเองตาย ถ้ายังไม่ถึงเวลาของตนเอง แบบนี้ต้องอาศัยผู้ที่มีบุญบารมีมาช่วยเหลือ
    4. คนที่ตายไปโดยที่ยังไม่ถึงเวลาของตนเอง ก็ต้องรอการตัดสิน แต่ก็มีเหมือนกันที่จิตมีพลังมาก แล้วมีความอาฆาตจัด โกรธจัด หรือมีความผูกพันกับอะไรมากๆๆๆๆๆๆ จึงหลบหนี ไม่ยอมให้ตัดสิน ก็จะอยู่เป็นวิญญาณต่อไป

    อันนี้คือเท่าที่พอจะรู้จากการศึกษานะครับ

    (เป็นงง มีตอบไว้แล้ว ไหงหายไป หรือมี 2 กระทู้น้อ)
     
  6. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    23,418
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,026
    เเล้วเเต่กรรมของคนผู้นั้นครับ ผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือตายโหงนั้น ไม่จําเป็นว่าต้องเป็นสัมพเวสีเสมอไปครับ บางคนเสียเพราะกรรมมาตัดรอนพอดีครับ ผมเเนบเเผนภูมิสถานที่ต่างๆที่เราต้องไปหลังความตายครับ ลองดูกันเเล้วกันครับ เจริญในธรรมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.2 KB
      เปิดดู:
      673
  7. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    การตายโหงมักเกิดกระทันหันโดยอุบัติเหตุต่างๆ ตายแล้วไปไหนมีเงื่อนไขมากเลย เอาเป็นลำดับนะครับ
    ถ้าขณะที่กำลังจะตายนั้น ใจนึกถึงบุญอยู่ก็ไปสวรรค์ทันทีเช่นกำลังนึกปลื้มใจว่าจะไปทอดกฐิน แล้วรถคว่ำตายก็ไปสวรรค์ทันที ตรงข้ามถ้าเมาอยู่แล้วรถคว่ำตายก็ไปนรกทันทีเช่นกัน จิตสุดท้ายก่อนตายจึงสำคัญที่สุด
    ถ้าขณะจิตก่อนตายไม่ได้เป็นบุญหรือบาปชัดเจน ขึ้นกับว่าขณะตายจิตเป็นอย่างไร ถ้าจิตกลัวมากสับสน กายละเอียดที่เกิดหลังตายก็จะสับสนหวาดกลัว แต่ถ้าใจไม่วุ่นวายเช่นตายแบบไม่รู้ตัว ก็จะงงๆไม่รู้ว่าตนเองตายแล้ว ช่วงนี้จะเป็นสัมภเวสีวนเวียนรอเวลา ซึ่งแยกอีกว่าถ้าเคยทำบุญมามาก กายละเอียดก็จะเบา สามารถไปไหนมาไหนได้ไกล ไปหาคนที่รู้จัก แต่คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่อง ก็จะรู้ว่าตนเองตายแล้ว แต่ถ้าบุญน้อยกายจะหนักต้องวนเวียนในที่ที่ตนเองตาย ไปไหนไม่ค่อยได้ไกล
    ในระหว่างที่เป็นสัมภเวสีนี้จะวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ไม่เกิน 7 วัน หากระหว่างนี้นึกถึงบุญออก หรือมีคนทำบุญอุทิศให้ กายละเอียดก็จะเบาชึ้น สว่างขึ้น เมื่อบุญได้ช่องก็จะปรากฏแสงสว่างนำทางไปสู่สุคติตามกำลังบุญของตน ถ้าคิดถึงบาป กายจะหนักขึ้น เศร้าหมองขึ้น เมื่อบาปได้ที่ก็จะฉุดไปอบายทันที
    แต่ถ้าครบ 7 วันแล้ว นึกถึงบุญหรือบาปไม่ออก กายละเอียดก็จะย้อนกลับไปยังที่ที่ตนเองตาย ซึ่งที่นั่นก็จะมีเจ้าหน้าที่มารับตัวไป นำไปสู่ยมโลกเพื่อตัดสินบุญหรือบาป ซึ่งวันที่ 49 กายละเอียดจะผ่านประตูยมโลกเข้าไป จนถึงวันที่ 100 กายละเอียดก็จะถูกตัดสินบุญบาปโดยพญายมราช จึงมีประเพณีทำบุญสวดพระอภิธรรม 7 วันเพราะระหว่างนี้จะรับบุญได้ง่ายที่สุด และมีประเพณีทำบุญเมื่อตายครบ 49 วันและ 100 วัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนตายครั้งสุดท้ายก่อนสายเกินไป เพราะถ้าหลังจากนี้แล้ว หากถูกตัดสินให้ไปเกิดในภพภูมิที่ไม่สามารถรับบุญได้ก็ไม่อาจรับบุญได้ด้วยวิธีปรกติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2010
  8. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    ตอบตามความรู้ที่ได้รับจากประสบการณ์และการอ่านนะครับ

    การที่คนที่ตายโหงตายแบบไหนก็ตาม จะศพสวยศพไม่สวย อะไรก็ตามนี้ไม่ได้เป็นการระบุชัดว่า เขาจะไปอบายภูมิ การที่เขาจะไปที่ไหนก็ขึ้นกับว่า คนนั้นจิตก่อนตายเป็นอย่างไร
    จิตก่อนตายเกาะบุญเกาะพระก็จะไปสวรรค์ ไปพรหม หรือถ้ามีวิปัสสนาญาณเข้มข้นก็ไปนิพพาน กันเลยก็มีถมไป
    เรื่องเวลาของโลกวิญญาณก็ไม่แน่ไม่นอนนักคำว่าแป๊ปเดียวนี่ก็อาจจะเป็นล้านๆปีก็มีเหมือนกัน เคยเจอสัมภเวสีกลุ่มหนึ่งอยู่มาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆโน่นป่านนี้ก็ยังไม่ไปไหน ก็ยังคงเวียนๆวนๆ ไปๆมาๆอยู่แถวนั้น มีอยู่รายหนึ่งเป็นเสือเขี้ยวดาบอายุหลายล้านปี ก็ยังคงวนเวียนเฝ้าร่างอยู่อย่างนั้น ก็น่าแปลกว่า เวลาที่เราคาดว่าน่าจะไปไหนต่อไหนแล้วนั้น ก็ทำไมยังอยู่ เวลาของโลกวิญญาณที่เราเข้าใจว่า แป๊ปเดียวนี้ อาจจะกำหนดได้ไม่แน่นอนนัก บางรายอยู่อย่างนั้นไม่กี่วันมีบุญกุศล หรือ อกุศล นำไปก็ไปภพใหม่ ได้
    แต่บางรายนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ก็อยู่อย่างนั้นมานาน เคยเจอสัมภเวสีท่านหนึ่ง เป็นผู้หญิง นั่ง ภาวนาอยู่ คิดว่า ตัวเองยังคงนั่งสมาธิ แต่ว่าไม่ใช่ เขารักในการปฎิบัติธรรมแต่ว่าจิตใจยังไม่ได้เกาะพระ ก็เลยยังไม่ไปไหนยังคงห่วงกับ ร่างกายอยู่ ห่วงกับเพื่อนๆอยู่ก็เลยอยู่สภานนั่งสมาธิ แต่พอไปบอกว่า เออ ให้นึกถึงบุญกุศล นึกถึงพระ ก็เกิดความสว่างของจิตใจไปสู่ภพภูมิที่ดีตามสภาพเขาได้เหมือนกัน แต่ก็น่าแปลกว่า เออ อยู่อย่างนั้นมาหลายสิบปี แล้ว อันนี้เวลาหลายสิบปี แต่เมื่อไปพบกับพวกที่อยู่หลายล้านปี ก็ถึงบางอ้อว่า สัมภเวสีนี่เขาไม่ได้อยู่กันแค่ไม่กี่วัน ไม่กี่ปี คำว่าปี นี่เป็นเวลาที่กำหนดได้ยาก

    หากเราไม่อยากจะเป็นสัมภเวสีก็ให้เจริญสติ
    กล่าวคือ การเจริญอนุสสติทั้งหลาย มี พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ มรณานุสสติ กายคตานุสสติ อาณาปานุสสติ อุปสมานุสสติ

    เมื่อเราได้เกาะอนุสสติกองใดกองหนึ่งมีพุทธานุสสติ เป็นเบื้องต้นแล้วก็เมื่อตายจังหวะนั้นก็ย่อมมีทางไปที่ดี มีสวรรค์เป็นเบื้องต้น ลักษณะที่ตายโหง ตายด้วยป่วยตาย สภาพศพที่ตายไม่ได้มีผลกับการไปสู่ภพที่ดี ขึ้นกับสภาวะจิตสุดท้ายก่อนตาย นั่นแหล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2010
  9. amorthem

    amorthem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +130
    ครับ จากกระทู้ด้านบน เวลาในโลกของจิตนี่ มันเร็วจริงๆ
    อย่างเช่นนะครับ สมมติ เวลานอนหลับนะครับ
    ในฝันเราก็จะฝันเห็นว่าไปนู้นไปนี่แป๊บเดียวเอง เหมือนกับนั่งพักเล่น
    แต่พอตื่นเช้ามา ก็ โหย... หลับมาตั้งหลาย ชม. ฝันเหมือนยังกะ 2-3นาที
    ถ้านึกให้ดีๆ ก็จะรู้ว่าฝันไปมาหลายสถานที่ แต่มันเร็วแฮะ ซึ่งเวลานี่เป็นเรื่องที่
    อธิบายยากจริงๆ แฮะ (=_=?
     
  10. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    23,418
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,026
    ถ้า จขกท สนใจในเรื่องนี้ มาอ่านในนี้ได้เลยครับ จัดให้เเล้วครับ อนุโมทนาครับ [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ถ้าสนใจก็เข้าเวปนี้เเล้วอ่านบทต่างๆได้เลยครับ อยู่ซ้ายมือครับ อ่านบทที่ 6 ชีวิตมาจากไหน ภพภูมิก่อนก็ได้ครับ จะได้เข้าใจครับ อนุโมทนาครับ

    www.buddhism-online.org[/FONT]
     
  11. ศิษย์ธรรมเทพ

    ศิษย์ธรรมเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +786
    ตายโหง มีทั้งที่หมดอายุไข และยังไม่หมดอายุไข

    กรณีที่หมดอายุขัย ดวงวิญญาณก็จะไปตามภพภูมิ บุญบาป ที่ได้บำเพ็ญมา
    กรณีที่ยังไม่หมดอายุขัย ก็ยังไม่มีภพภูมิอื่นให้ไปเสวยบุญบาป ก็จะต้องเป็น สัมภะเวสี คือวิญญาณเร่ร่อนไม่มีที่อยู่ เพราะไม่มีภพภูมิและสถานะ อยู่ในโลกแบบไม่มีตัวตน หิวก็กินไม่ได้กระหายก็ดื่มไม่ได้ หยิบจับของก็ไม่ได้ ที่ใดมีเจ้าที่เจ้าทางก็เข้าไม่ได้ จนกว่าจะหมดอายุขัยจึงจะไปตามภพภูมิแห่งบุญบาปได้ หากสัมภะเวสีนั้นรู้จักบุญกุศล ก็จไม่ไปรบกวนแก่ผู้ใด จะหาที่ที่ตนสามารถอยู่อาศัยบำเพ็ญจิตไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดอายุขัย(เช่น อยู่ตามวัดวาอาราม)
    มีกรณีที่พิเศษ คือ หากตายด้วยภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ฟ้าผ่า สึนามิ ฯลฯ พวกนี้ไปตามภพภูมิเลย ถือว่าหมดอายุขัยเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...