ถิ่นกาขาว-->ชาววิไล-->ไทยมหารัฐ-->จักรพรรดิราช

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ^ ^, 3 กรกฎาคม 2007.

  1. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    สวัสดีครับเพื่อนๆ ^ ^ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่ากระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้อภินิหารพลังจิส่องอนาคตนะครับ แหะๆ

    จากคำทำนายโบร่ำโบราณ ที่มีตำนานเล่าขานว่าเป็นคำทำนายของสมเด็จพุทธาจารย์โต พรหมรังศี
    ซึ่งตามคำทำนายดั่งเดิมจบที่ชาววิไล และ ผมเห็นแว๊ปๆ ในกระทู้แถวๆ นี้ว่ามีพระภิกษุช่วยต่อคำทำนาย
    เพิ่มให้อีก 2 ยุค คือ ไทยมหารัฐ กับ จักรพรรดิราช ซึ่งผมได้ยินแล้วรู้สึกดีมากๆ ครับ เลยอยากมา
    ตั้งกระทู้ให้พวกเราช่วยกันจินตนาการกันว่า ในอนาคต 3 ยุค ที่ต่อจากนี้ไป จะมีอะไรเกิดขึ้นกับ
    ชนชาติไทยของเรามั่ง
     
  2. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ก่อนจะเข้าสู่คำทำนาย ผมอยากจะพูดเรื่องนวนิยายวิทยาศาสตร์สักนิด ในอดีตสมัยที่มนุษย์สันจรทางทะเล
    ด้วยเรือใบ มีชายคนหนึ่งเขาได้เขียนถึงเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ชายคนนั้นชื่อ จูน เวิร์ล ผู้คนที่ได้อ่าน
    นวนิยายของเขาในสมัยนั้น ใครจะคิดมั่งว่าปัจจุบัน เราจะมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ใช้กันจริงๆ
    ในแง่มุมหนึ่งของนวนิยายวิทยาศาสตร์ ผมเชื่อว่าในขณะที่ผู้อ่านกำลังสนุกกับเรื่องราวที่บรรยายออกมานั้น
    มันคือการอนุโมธนาสาธุ กับเรื่องราวที่อยากให้เกิดขึ้นในอนาคตอันไกลโพ้น และมันจะเป็นกำลังใจ
    ที่ส่งไปถึง ลูก หลาน เหลน โหลน ในอนาคต เพื่อให้เกิดวิยาการต่างๆ ขึ้น เพื่อความเจริญรุ่งเรื่องสืบไป
    ของมนุษยชาติ (ไอสไตน์ : จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ^ ^)
     
  3. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    เอาล่ะครับ เรามาช่วยกันจินตนาการกันครับว่า ในอนาคตอันไม่ไกลมาก อีกแค่ 3-4 ชั่วอายุคน
    ใน 3 ยุคข้างหน้า เราอยากให้ชนชาติไทยของเราเจริญไปในทางด้านใดบ้าง มาช่วยกันครับ
    และถ้าอ่านแล้วชอบใจความคิดเห็นของท่านใด เราก็ช่วยกันอนุโมธนาสาธุ ขอให้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
    เถอะขอรับ
    สาธุๆ ^ ^
     
  4. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ยุค : ถิ่นกาขาว


    เริ่มต้นที่ยุคถิ่นกาขาวก่อน เพราะการจะทายอนาคต เราต้องมองที่ปัจจุบัน เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ว่า
    "อยากรู้ปัจจุบันให้ดูที่อดีต อยากรู้อนาคตให้ดูที่ปัจจุบัน" ในยุคถิ่นกาขาว ซึ่งชื่อของยุคนี้มันไม่เป็นมงคลเอาซะเลย
    แต่ถึงแม้ว่าชื่อมันจะไม่เป็นมงคล ผมก็ได้เห็นสิ่งที่ดีงามเกิดขึ้นในยุคนี้ นั้นก็คือ "นโยบาย ประชานิยม"
    ของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ซึ่งนำโดย พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร กับนโยบายประชานิยมนี้ถือว่าเป็นการเปิดมิติใหม่
    ทางการเมืองของประเทศไทยเลยทีเดียว เพราะ ทรท ดำเนินนโยบายนี้ได้ประสบผลสำเร็จ เป็นที่ถูกอกถูกใจ
    ของประชาชน จนทำให้พรรคคู่เเข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ต้องพยายามออกนโยบายประชานิยามมาเกทับ
    คาดว่าอนาคตทางการเมืองของไทย จะสู้กันด้วยนโยบายประชานิยมเป็นหลัก ซึ่งมันจะเป็นพื้นฐาน ทางสังคม
    เศษฐกิจ ของไทยต่อไปในอนาคต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2007
  5. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ยุค : ชาววิไล


    โอ้วววววว ได้ยินชื่อยุคก็ชื่นใจแล้วครับ ^ ^ จากยุคถิ่นกาขาว ที่ผมได้บอกไปแล้วว่า การเมืองจะใช้
    นโยบายประชานิยมเป็นหลัก ซึ่งนโยบายประชานิยมนี้ข้อดีของมันคือ การลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำรงค์ชีวิต
    ของประชาชน เมื่อประชาชนมีค่าใช้จ่ายลดลง จึงทำให้มีเงินเหลือมากขึ้น เมื่อมีเงินเหลือมาขึ้น ก็เอาไปใช้เสพสุข
    กันตามอัถยาสัย เมื่อเสพสุขกันมาก เศรษฐกิจก็คล่องตัว มีเงินไหลเข้าระบบเยอะขึ้น เศรษฐกิจก็ดีขึ้น เห็นภาพมั๊ยครับ
    ว่ามันวิไลแค่ไหน55 คาดว่านโยบายประชานิยมนี้จะเจริญเติบโตต่อไป จนท้ายที่สุดในปลายยุคชาววิไล
    ไทยจะก้าวกระโดดไปเป็นรัฐสวัสดิการแต็มรูปแบบ โดยที่รัฐจะมีสวัสดิการให้กับประชาชนอย่างพอเพียงทุกรูปแบบ
    ในระดับพื้นฐานของการดำรงค์ชีวิต รายได้ของคนๆ หนึ่งจะมีไว้ใช้สำหรับเสพสุขอย่างเดียว เย้ๆ \\(^O^)//

    เขียนมาแต่ข้อดีแล้วอยากจะเขียนถึงข้อเสียสักเล็กน้อย ถ้าเราเข้าสู่รัฐสวัสดิการเต็มรูปแบบ อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าคนไทยรักสนุก
    ดันนั้นเมื่อรายได้ที่มี เราเอาไว้เสพสุขอย่างเดียว อาจทำให้หลงระเลิงได้ คนเราพอมีเงินเหลือมากๆ เราก็มักจะเอาเงินที่มี
    ไปใช้ในทางที่ผิดๆ ไม่เข้าท่าซะเคยตัว ยุคนี้เดาว่าศีลธรรมอาจหย่อนยาน (ตรงนี้เราดูตัวอย่างจากประเทศที่เจริญแล้วได้ก็ครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2007
  6. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ยุค : ไทยมหารัฐ


    โหหหหห o_O!!! มันช่างยิ่งใหญ่ซะจริงๆ ชนชาติไทยของเรานี้นะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    จากข้อเสียของยุคชาววิไล คือ การที่คนไทยมีเงินเหลือเยอะ แล้วมักไปใช้ในทางที่ผิดๆ
    จึงทำให้ต้องมีการพัฒนาสังคมไปสู่รูปแบบใหม่ ในเมื่อรัฐสวัสดิการมีให้พร้อมเต็มรูปแบบแล้ว
    ประชาชนจึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินอีกต่อไป ไทยอาจเป็นประเทศแรกที่ยกเลิกการใช้ระบบเศรษฐกิจที่
    อ้างอิงบัญชีตัวเลขทางการเงิน คือเลิกใช้เงินซะเลยสะใจ55 เมื่อไม่มีเงินให้ใช้ ก็ตัดโอกาศคนชั่ว
    ให้ทำชั่วไม่ได้ ฮ่าๆๆ เราจะไม่ได้เห็นการจ้าง/รับจ้าง เพื่อทำเรื่องชั่วๆ อีกต่อไป

    สังคมไทย ก็จะกลายเป็นสังคมในอุดมคติ เป็นสังคมที่รับใช้ปัจเจกชนอย่างแท้จริง
    การทำงานของแต่ละคนจะไม่ทำเพื่อเงิน แต่ทำเพื่อรับใช้สังคม ชนชั้นกลาง ชนชั้นล่าง
    สามารถเลื่อนระดับตัวเองให้สูงขึ้นได้ง่าย ถ้าเขาเหล่านั้นมีความรู้ มีความสามารถ
    มีความจริงใจที่จะรับใช้สังคม ชนชั้นสูงระดับผู้บริหารประเทศ ก็ต้องทำงานเพื่อเสียสละอย่างแท้จริง
    เพื่อความเจริญก้าวหน้าทางสังคม ไม่ใช่อยากเป็นใหญ่เป็นโตเพื่อเงิน เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

    ในยุคนี้ไทยจะเป็น"มหารัฐ"อย่างแท้จริง เพราะ ทุกคนทำงานเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม แนวคิด และ
    นวตกรรมใหม่ๆ จะเกิดขึ้นในยุคนี้ ประเทศไทย จะเป็นผู้นำอารยธรรมโลกใหม่ มีการก้าวกระโดด
    ทางวิทยาศาสตร์อย่างสูง เพราะในเมื่อไม่ใช้เงิน จึงทำให้เปิดโอกาศให้นักวิทยาศาสตร์ ได้เสนอ
    โครงการวิจัยดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติได้โดยง่า แค่เขียนโครงการเสนอว่ามันมีประโยชน์อะไรมั่ง
    ต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมืออะไร ส่ง Project ให้รัฐอนุมัติ นักวิทยาศาสตร์ไม่ต้องทำวิจัยเพื่อเอาใจ
    นายทุนอีกต่อไป

    ที่จริงแล้ว นักวิทยาศาสตร์ชาวพุทธแบบไทยๆ ที่เป็นพุทธสายอนุรักษ์นิยม (เถรวาท) มีโอกาศที่จะ
    พัฒนาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ได้ดีกว่านักวิทยาศาสตร์ชาวศาสนาอื่น เพราะเราเชื่อในหลักอนัตตา
    ซึ่งเป็นความรู้อันยิ่งใหญ่ที่พระพุทธเจ้ามอบให้ ไม่แน่ไทยเราอาจมีทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์เป็นของตัวเอง
    ในอนาคตเราอาจทราบว่า การย้ายตำแหน่งของวัตถุ ไม่ประกอบไปด้วยการเคลื่อนที่ การเคลื่อนที่เป็น
    เพียงปรากฎการให้เราได้รับรู้เท่านั้น ซึ่งหลักคิดตรงนี้จะนำเราไปสู่การสร้างเครื่องย้ายมวลสารได้สำเร็จ
    ในที่สุด
    (นักวิทยาศาสตร์ชาวคริสต์เชื่อฝังหัวถึงการมีตัวตนของวัตถุ เพราะวัตถุคือสิ่งที่พระเจ้าสร้าง
    หรือถ้าไม่เชื่อพระเจ้า ก็เชื่อในสิ่งที่เห็นอยู่ดี)

    ประชาชนอื่นๆ ที่ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ เมื่อไม่ได้ทำงานเพื่อเงินอีกต่อไปแล้ว พวกเขาจะมีชีวิตที่ว่างขึ้น
    เบาสบายขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเขาจะเริ่มมองหาความสุขทางใจ นั่นก็คือการศึกษาธรรมะ จากศาสนา
    ต่างๆ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ดี แต่มันก็มีข้อเสียคือ อาจเป็นได้ที่จะเกิดความขัดแย้งทางศาสนาขึ้นในสังคม
    ต่างคน ต่างเชื่อว่าความเชื่อของตนเองถูกต้อง เรื่องแบบนี้เถียงกันไม่เคยจบ และหาข้อยุตติไม่ได้
    ถึงจะมีความขัดแย้งทางความเชื่ออยู่บ้าง แต่ที่สุดแล้วคนทุกคนในสังคมคือคนดีอย่างแท้จริง

    โดยสรุป ยุคไทยมหารัฐ คือยุเฟื่องของ ความรู้ คู่ คุณธรรม ของแท้ยิงกว่ายุคใดๆ ที่ผ่านมา


    ปล.เครื่องย้ายมวลสารรุ่นแรกๆ ใช้แค่ Recycle ขยะเท่านั้นนะครับ อย่าคิดไปไกลถึงขั้น
    นำไปใช้ในระบบขนส่งมวลชลล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2008
  7. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ยุค : จักรพรรดิราช

    ใครหนอช่างยิ่งใหญ่จริงๆ ^ ^ จากยุคไทยมหารัฐ ที่ผมทิ้งท้ายไว้ว่ามี
    ปัญหาความขัดแย้งเรื่องความเชื่อ คาดว่าจักรพรรดิราชท่านนี้แหละ
    ที่จะนำประชาชาติเข้าสู่ข้อยุตติความขัดแย้งทางความเชื่อในที่สุด
    โลกจะเหลืออยู่ศาสนาเดียว ความเชื่อเดียว พลโลกรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

    เครื่องย้ายมวลสารในยุคไทยมหารัฐ ที่เป็นเครื่องย้ายมวลสารในรุ่นแรก
    เป็นรุ่นย้ายมวลสารผ่านสายเคเบิล มีไว้ใช้สำหรับขนย้ายขยะเพื่อนำมา
    ทำการ Recycle ผลิตซ้ำในระบบอุตสาหกรรม จะถูกพัฒนาให้ดีขึ้น
    สามารถใช้ดูดเอาคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ มาอัดเป็นแท่งเสาคาร์บอร์น
    เพื่อใช้เป็นเสาโครงสร้างอาคารในอนาคต ซึ่งจะมีความแข็งแรงกว่า
    เสาคอนกรีตในปัจจุบัน ทำให้สามารถสร้างอาคารได้สูงขึ้น เพิ่มที่อยู่อาศัย
    ในทางดิ่งได้มากขึ้น เพื่อรองรับประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
    (ในเวลานั้น อาจจะทะลุ 1 หมื่นล้าน ไปแล้วก็ได้)

    สุดท้ายในปลายยุคจักรพรรดิราช เราอาจทำเครื่องย้ายมวลสารแบบไร้สาย
    ได้สำเร็จ เครื่องนี้จะถูกนำไปติดตั้งบนดาวเทียมในอวกาศ เพื่อใช้ถัก
    แท่งเสาเข็มคาร์บอนลงมายังพื้นโลก เพื่อสร้างโครงการตึกสูงถึงระดับ
    แรงโน้มถ่วงเสถียร ภายในอาคารจะมีรางรถด่วนอวกาศ
    เพื่อใช้ในการขนย้าย วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ ที่ใช้สร้าง Space Colony
    และใช้เป็นเส้นทางขนส่งมวลชล ให้มนุษย์ไปอยู่ในอวกาศ
    ได้ในที่สุด เมื่อ Space Colony หลังแรกสร้างสำเร็จ จึงได้มีการบันทึกปี
    ศักราชใหม่เป็น Universe century และในปี UC:0079 สงครามระหว่า
    กองทัพ UN กับ กองทัพ Zeon ก็อุบัติขึ้น
    (เอ้ยๆๆๆ ผมมั่วนะ ไม่ใช่ Gundam ซะหน่อย ฮ่าๆๆ)


    จบแล้วครับ กับจินตนาการที่อยากให้เป็นไป ท่านใดชอบใจก็ร่วมกันอนุโมธนา
    สาธุขอให้มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เถอะ ด้วยนะครับ หรือ
    ท่านใดอยากจะเสริมจินตนาการให้บรรเจิดเพิ่มเข้ามาอีก ก็เชิญเลยครับ ตามสะดวก


    ขอบคุณที่ให้ความสนใจเข้ามาอ่านกันครับ ^/\^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2007
  8. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    ลัทธิ "ประชานิยม" เป็นต้นเหตุแห่งความเสื่อมของสังคม เพราะประชาชนทั่วไปจะเรียกร้องแต่ "ของฟรี" โดยไม่คำนึงถึง "หน้าที่" การจะได้สวัสดิการเต็มที่นั้น ทุกคนจะต้องเสียภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยและภาษีที่จะเก็บนั้นก็จะเป็นเปอร์เซนต์ที่สูงมาก ทำให้คนมักง่ายส่วนใหญ่ไม่อยากทำงานเพราะไม่อยากเสียภาษีมาก คล้าย ๆ กับระบอบคอมมิวนิสต์ที่ล้มไป ตัวอย่างรัฐสวัสดิการที่ดีมากและเจริญมาก คือ พวกสแกนดิเนเวีย ซึ่งเสียภาษีประมาณร้อยละ 60 ครับ
    เวลานี้ที่เริ่มเห็นปัญหาแล้ว คือ การเบี้ยวหนี้ของกองทุนหมู่บ้าน เป็นต้น ชาวบ้านเขานึกว่าเงินที่ได้เป็นเงินแจกฟรีของอดีตนายกฯ กองทุน "30 บาท" ก็กำลังทำให้โรงพยาบาลรัฐบาลทุกแห่งขาดทุนมโหฬาร แบบจะล้มละลายกันให้ได้ เพราะรัฐไม่มีเงินให้โรงพยาบาล แต่บังคับให้ "ทำทุกอย่าง" แม้จะเกินขอบเขต "ความพอเพียง" แบบเดียวกับจ่ายเงินระดับข้าวหมูแดงแต่บังคับให้ร้านอาหารเอาหูฉลามมาให้เป็นต้น
     
  9. 1redstar

    1redstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,366
    โอกาสของสังคมวิไล คือ ชาวปัญญาชนต้องช่วยกันสร้างสังคมใหม่ ตามอุดมการชาติ คือ แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง

    จะสร้างสรรค์สังคมใหม่ได้ที่สำคัญอยู่ที่การเมือง เพราะการเมืองสามารถทำให้ประเทศล่มจมแตกแยก หรือทำให้ประเทศรุ่งเรืองเข้มแข็งมีความสุขก็ได้ ประเทศอเมริกา จีน รัสเซีย อยู่บนหลักการปกครองที่แตกต่างกัน แต่สามารถเป็นประเทศมหาอำนาจได้เหมือนกัน อยู่ที่พวกเขาสามารถคัดสรร ผู้นำประเทศที่มีคุณธรรมจริยธรรม มีความเก่งกาจ

    สังคมเก่า เปน สังคมทุนนิยม บริโภคนิยม ประชานิยม ที่ใช้เศรษฐกิจนำการเมือง ประชาชนจมปลักอยู่กับความจน ความเครียด อิทธิพลเถื่อน ความไม่ชอบธรรมประการต่างๆ ปัญหามีมูลเหตุมาจากความเห็นแก่ได้ของผู้ที่มีอำนาจมากกว่า เช่น นายทุน นักธุรกิจการเมือง และประชาชนทั่วไป ที่เปนปัจเจกนิยม

    สังคมใหม่อันวิไลของเราจะใช้ ธรรมะและสังคม นำการเมือง นำเศรษฐกิจ

    สยามรัฐจะก้าวหน้าไปถึงสังคมอุดมการณ์ได้ ในกรณีที่ประชาชนต้องมีคุณธรรมจริยธรรมสูง มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมสูง(สังคมนิยม) มีความรู้ความสามารถสูง เปนเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเองได้ ไม่ผลิตเกินจำเปน ผลิตมาก เท่ากับเปนการเร่งใช้ทรัพยากรมาก สิ่งแวดล้อมก็โทรมมาก ไม่มีค่านิยมที่ต้องแสวงหาความร่ำรวย แต่เกิดมาเพื่อสะสมบุญ/ทำนิพพานให้แจ้ง ชีวิตก็จะสมดุลย์ มีเสถียรภาพ

    อุดมคติของนักการเมือง คือ อาสามาสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับพี่น้องประชาชน เช่น วาลาดิเมียปูติน บริหารประเทศรัสเซียมาแปดปีสามารถทำให้รัสเซียมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงเปนอันดับสามของโลก (ถ้าจำไม่ผิด) ในขณะที่ วาลาดิเมียปูติน ก็ใช้ชีวิตสมถะเหมือนเดิม ท่านไม่ได้หวังมาใช้อำนาจรัฐเพื่อสร้างความร่ำรวยส่วนตัวด้วยการกำหนดนโยบายเอื้อประโยชน์เหมือนนักธุรกิจการเมืองไทย นี่แหละจะทำอย่างไรให้ประชาชนไทยเข้าใจหน้าที่ของนักการเมือง เหมือนประชาชนรัสเซีย อินเดีย จีน และอีกหลายประเทศ

    ถ้าการเมืองไทยดี ทุกอย่างจะดีเอง แต่การเมืองไทยจะดีได้ ประชาชนไทยส่วนใหญต้องฉลาดรอบรู้มีจรรยาบรรณ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2007
  10. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    รูปแบบทางเศรษฐกิจใดๆก็ตามทั้งหมดขึ้นกับกำลังบุญของประชาชนในชาตินั้นๆ ประชานิยมก็ดีแต่ถ้าไม่มีศีลธรรมรองรับก็ไปไม่รอด ถ้าประชานิยมที่มีศีลธรรมรองรับจะเป็นระบบที่ประเสริฐ
    ประชานิยมเป็นหลักธรรมอย่างหนึ่งในพระพุทธศาสนา ในเรื่องจักกวัติสูตรได้กล่าวถึงโมเดลทางเศรษฐกิจซึ่งมีรากฐานแบบประชานิยมซึ่งทักษิณสร้างแบบจำลองทางเศรษฐกิจมาจากพระสูตรบทนี้ แต่ยังไม่ครบถ้วนเพราะยังขาดองค์ประกอบทางศีลธรรมซึ่งทักษิณยังไม่เข้าใจ จึงไม่สมบูรณ์ แต่ตอนนี้ทักษิณเข้าใจแล้วแต่ก็หมดโอกาสที่จะทำ
    หากจะติหรือจะสนับสนุนก็ควรไปอ่านพระไตรปิฎกให้ถ่องแท้ก่อน ทุกเรื่องมีคำตอบอยู่แล้ว
     
  11. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    วิจารณ์หรือค้านอย่างเดียวเลยนะครับ ซึ่งมันผิดวัตถุประสงค์ของกระทู้นี้ครับ
    เพราะกระทู้นี้เป็นกระทู้จินตนาการ ดังนั้นหากคุณไม่ชอบ"ประชานิยม"ไม่เป็นไรครับ
    ค้านได้วิจารณืได้ครับ แต่หลังจากที่ได้ค้านมาแล้ว ช่วยกรุณานำเสนอ
    จินตนาการแจ่มๆ มาด้วยนะครับ บางทีผมอาจจะเห็นดีเห็นงามกับคุณด้วยก็ได้ครับ

    เพราะฉะนั้น ตอนนี้ผมยังไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ของคุณนะครับ จนกว่าผมจะได้เห็น
    คุณนำเสนอจินตนาการแจ่มๆ ออกมาครับ


    ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นมาครับ


    ปล.อย่างไรเสียวันนี้ชาวบ้านก็เสพติดประชานิยมกันงอมแงมไปแล้วล่ะครับ 55+
     
  12. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    เพิ่มเติมข้อมูลให้ครับ "จักรวัติสูตร"

    http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/3.2.html
     
  13. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,183
    ยุคชาววิไล
    คือคนไม่มีศีลตายเกลี้ยง
    เหลือแต่คนมีศีล
    ก็เลยวิไล
    ถ้าบัญญัติรัฐธรรมนูญว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
    ก็จะช่วยบรรเทาได้
    บัดนี้ก็สายไปซะแล้ว
     
  14. Abdulkharim

    Abdulkharim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2009
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +201
    สายเสียแล้วๆๆ เฮ้อ นั่งภูดูเสือกัดกัน สุดท้ายเสื้อสองตัวกระโดขึ้นภู กัดคนนั่งดู เฮ้อ
     
  15. mozard002

    mozard002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +433
    พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกแบบตามใจมากๆก็ไม่ได้หมายความว่าในระยะยาวลูกจะได้ดีเสมอไปนะครับ ปัจจัยพื้นฐานที่น่าส่งเสริมคือการศึกษานี่แหละครับ คำตอบเหมือนกำปั้นทุบดิน ฟังแล้วเฉยๆ แต่ไม่เห็นจะทำได้อย่างยั่งยืนซะทีครับ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือศีลธรรมนี่แหละครับ เงินทองถึงจะมีมากแต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็หมดครับ

    ขออนุญาตินะครับอาจจะแรงไปหน่อย ผมอ่านหนังสือ Rich Dad Poor Dad เค้าบอกว่าคนเราจะรวยหรือจนนั้นอยู่ที่ความคิด คนจนแม้มีเงินสิบล้านแต่ถ้าคิดจะใช้อย่างเดียวไม่นานก็หมด คนรวมแม้ได้เงินมาไม่กี่หมื่น ด้วยความอดทนไม่นานเงินนั้นก็งอกเงย

    สำหรับจินตนาการแจ่มๆคือ ให้บรรจุการฝึกสมาธิเป็นหลักสูตรในโรงเรียนตั้งแต่ระดับเด็กอนุบาลจนถึงมัธยมปลาย แล้วให้ทุกโรงเรียนจัดวันที่จะนิมนพระมาพูดคุย(เน้นครับว่าพูดคุยธรรมะ เพราะถ้าใช้คำว่าเทศบางทีหลับก่อนท่านนั่งธรรมาส) ฟังดูคล้ายๆโรงเรียนที่หลวงพ่อฤษีท่านสร้างไว้นะครับ ผมชอบความคิดนี้มากครับ

    อ่านไว้เฉยๆนะครับฟังหูไว้หู อิอิ
     
  16. นักเดินธรรม

    นักเดินธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +2,393
    จินตนาการกันแล้ว....บอกหน่อยว่า ยุคนี้ตรงกับคำทำนายของยุคไหนครับ ??? อยากรู้...ถ้าตรงก็แสดงว่าคำทำนายมีแนวโน้มเป็นจริง.....แต่ถ้าไม่ตรงคำทำนาย จินตนาการก็คือ Final Fantasy
     
  17. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    อนุโมทนา สาธุ<!-- google_ad_section_end --> ดีครับแต่ต้องรอ มหาบุรุษมาก่อน
     
  18. Sinderking

    Sinderking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +674
    นำเครื่องย้ายมวลสารไปติดไว้ที่ ดาวเทียม เมื่อทักคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศ แล้วส่งมาให้บนโลก เพื่อสร้างเสา อืมมมม จินตนาการสูงส่งครับ

    ฝันได้ ไม่ผิดกฏหมายครับ จขกท. :cool:
     
  19. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    สาธุๆๆ
    ขออนุโมทนาท่าน จขกท.
    ที่ช่วยสร้างพลังด้านดีให้เกิดขึ้น
     
  20. phuketshark

    phuketshark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +162
    สมัยจักรพรรดิราช ท่านฮิตเลอร์ อดีตผู้นำนาซี จะมาทำให้ไทย ครองโลกโดยธรรม
    ท่านมุสโสลินี จะมาจบกิจ เป็นพระคู่บารมี ของท่านจักรพรรดิราช

    ท่านฮิตเลอร์ เด็ดขาด สมัยท่าน ขโมย โจร คนเลว ตายเรียบ
    ไม่เกิน 160 ปี ในอนาคตนี้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...