ทานนั้น สำคัญอยู่ที่จิตอนุเคราะห์แล้วการทำบุญที่แท้จริง คืออะไร

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย @^น้ำใส^@, 6 เมษายน 2008.

  1. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    ทานนั้น สำคัญอยู่ที่จิตอนุเคราะห์แล้วการทำบุญที่แท้จริง คืออะไร
    <HR style="COLOR: #e0e0e0" SIZE=1>ทานนั้น สำคัญอยู่ที่จิตอนุเคราะห์แล้วการทำบุญที่แท้จริง คืออะไร <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 พฤษภาคม 2548 14:39 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เรื่องที่ 107 มีบุญมาขายครับ

    "มีบุญมาขายครับ" หากมีเด็กหนุ่มเดินมาหาคุณพร้อมกับตั้งข้อเสนอนี้ในระหว่างวันอันยุ่งเหยิงเต็มไปด้วยปัญหาร้อยแปดที่แก้ไม่ตก คุณจะสนใจหรือไม่?

    โดยเฉพาะเมื่อเด็กหนุ่มบรรยายสรรพคุณว่าเป็น "บุญสำเร็จรูป" ที่มีคุณสมบัติราคาไม่แพง หาซื้อได้ทั่วไปและสามารถเห็นผลทันตา เหมือนกับ "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" ที่คุณเพียงแค่ใส่น้ำร้อนลงไป 3 นาที ก็สามารถอิ่มอร่อยได้ทันที ในราคาเพียงแค่ 5 บาท คุณจะซื้อหรือไม่ซื้อ

    จากสภาพความเป็นอยู่ปัจจุบัน ที่ทุกคนต่างต้องดิ้นรนเพื่อประคับประคองชีวิตให้อยู่รอดได้ในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความเร่งรีบ ตั้งแต่ตื่นเช้าไปทำงานต้องแย่งชิงกันบนท้องถนน ถึงที่ทำงานที่มีแต่บรรยากาศของงานที่แข่งกับเวลา ตกเย็นต่างเร่งรีบกลับบ้านเพื่อออมแรงสำหรับเช้าวันใหม่กับปัญหาเดิมๆ

    สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุให้วิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไป ทุกอย่างต้องเอื้อต่อการสะดวกกิน สะดวกอยู่และสะดวกใช้ เพียงเพราะเวลาที่เร่งรีบในแต่ละวัน เฉกเช่นเดียวกับการทำบุญของพุทธศาสนิกชนไทยในปัจจุบัน

    ธุรกิจการทำบุญเกิดขึ้นมากมายเพื่อบริการความสะดวกแก่พุทธศาสนิกชนไทย ตั้งแต่ริมถนนยามเช้าเพื่อทำบุญตักบาตรอาหารชุดราคาย่อมเยาว์ในราคา 10 บาทขึ้นไป จนถึงบนห้างสรรพสินค้าที่จัดเครื่องสังฆทานสำเร็จรูปมาอย่างพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสังฆทานอาหารแห้ง เครื่องใช้สำหรับพระภิกษุสงฆ์จนถึงสังฆทานยา ในราคาตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักพัน ให้ซื้อหาได้อย่างสะดวกสบาย

    เกิดความเข้าใจอะไรผิดหรือไม่ต่อพุทธศาสนิกชนไทย ว่าการทำบุญที่แท้จริงคืออะไร เพียงแค่การใส่บาตรหรือถวายเครื่องสังฆทานเท่านั้นหรือ หรือเป็นเพราะวิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนไป การทำบุญจึงแปรเปลี่ยนตามไปด้วย

    พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานระบุว่า "บุญคือการกระทำดีตามหลักคำสอนในศาสนา,ความดี, คุณงามความดี" ซึ่งการกระทำดีนี้สามารถทำด้วยวิธีการต่างๆ ที่เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุเบื้องต้น 3 อย่างคือ ทานมัย สีลมัยและภาวนามัย

    ทานมัย คือการให้ทานด้วยจิตอนุเคราะห์
    แก่ผู้ที่ตนควรอนุเคราะห์ ขณะเดียวกันให้ทานด้วยจิตคิดจะตอบแทนบุญคุณผู้ที่มีอุปการคุณแก่ตน หรือด้วยจิตคิดจะแสดงความนับถือต่อผู้มีคุณธรรมความดี เรียกว่าให้ด้วยจิตบูชา โดยบุญอันสำเร็จด้วยทานนี้จะทำให้จิตสันดานอันขุ่นมัวด้วยโลภะ และมัจฉริยะนั้นผ่องใสในฐานะที่เป็นผู้ให้

    ดังนั้น เพียงแค่เราเป็นผู้ให้ในระหว่างการดำเนินชีวิตแต่ละวัน ไม่ว่ากับเพื่อน พี่น้อง พ่อแม่ หรือกับผู้ที่เราพบปะ ถือเป็นการช่วยขัดเกลาความเห็นแก่ตัว ความคับแคบ ความตระหนี่ถี่เหนียวและความยึดติดในวัตถุ

    ที่สำคัญ คือ การให้ทานนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของ ทรัพย์สมบัติเท่านั้น จะเป็นวิทยาทาน อภัยทาน หรือธรรมทานก็ได้ สำคัญอยู่ที่จิตอนุเคราะห์เท่านั้น ไม่ใช่วัตถุสิ่งของใดๆ



    สีลมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล โดยมีเจตนารักษากาย วาจา ให้เรียบร้อย สงบมั่นคงไม่ให้เกิดความฟุ้งซ่านทางกายและทำให้จิตสันดานซึ่งขุ่นมัวด้วยความโกรธหรือโทสะ พยาบาท อาฆาต อคติ จองเวรให้บริสุทธิ์ผ่องใส

    โดยหลักง่ายๆ ของการทำบุญแบบสีลมัยก็คือ การรักษาศีล 5 ศีล 8 หรือศีล 10 เพื่อนำไปสู่การประพฤติปฏิบัติตนที่ดีเป็นผู้มีจิตใจสูงส่ง เหมือนกับการให้ทานถ้าเราให้เป็นกิจวัตรประจำวันเช่นการใส่บาตรก็ถือเป็นการให้ทานแบบสีลมัย


    ภาวนามัยคือ บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา อบรมจิตให้ผ่องแผ้ว สงบ เยือกเย็น สุขุมคัมภีรภาพ อุเบกขาและเอกัคคตา เป็นต้น

    โดยการอบรมภาวนามี 2 อย่าง คือ สมถภาวนา การฝึกอบรมจิตให้เกิดความสงบ และ วิปัสสนาภาวนา การฝึกอบรมปัญญาให้เกิดความรู้ความเข้าใจตามความเป็นจริง

    ซึ่งก็คือ การนั่งสมาธิหรือการนั่งวิปัสสนานั่นเอง หากเราสามารถทำได้เพียงแค่เริ่มต้นวันละ 5 นาทีแล้วเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้จิตใจเราสงบทำอะไรมีเหตุมีผลขึ้น มีสติสัมปชัญญะรู้เท่าทันกิเลส และเรื่องเศร้าหมอง เห็นคุณค่าสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ซึ่งถือเป็นการทำบุญอีกแบบหนึ่งซึ่งอยู่เหนือทานมัยและสีลมัย

    หากเราสามารถทำบุญกิริยาทั้ง 3 ได้ด้วยตนเองแล้ว ไม่ว่าใครมาเสนอขายบุญอย่างไรคงไม่มีความหมาย เพราะชีวิตของเรามีความสำเร็จในบุญอยู่แล้ว ซึ่งสมบูรณ์พร้อมอยู่ในกายในใจนี้เอง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหันกลับเข้ามาพิจารณาเรื่องภายในตนเองให้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพราะเหตุว่า เมื่อใดก็ตามที่ส่งจิตออกนอก เมื่อนั้นก็จะมีแต่ความทุกข์ ความฟุ้งซ่านตลอดเวลา

    ทานมัย สีลมัย ภาวนามัย ไม่สามารถหาซื้อได้ที่ไหน ไม่เช่นนั้นคนค้ายาเสพติดก็สามารถไถ่บาปโดยการนำเงินมาซื้อบุญได้อย่างสบาย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130

    ถูกต้องนะครับ...สาธุ ๆๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...