ทำอย่างไรจึงจะดูรูปโป๊ในอินเทอร์เน็ตให้น้อยลง !

ทำอย่างไรจึงจะดูรูปโป๊ในอินเทอร์เน็ตให้น้อยลง !

<TABLE><TBODY><TR><TD width=500 bgColor=#fefcd6>
ทำอย่างไรถึงจะให้แฟนดูรูปโป๊ใน net น้อยลงคะ รู้สึกว่าเขาค่อนข้างจะหมกมุ่นไปแล้วค่ะ เพราะถ้าเปิด net เมื่อไรก็จะดูรูปโป๊แน่นอน นานๆๆๆๆๆๆๆครั้ง ที่จะดูข้อมูลอื่นๆ ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ประมาณ ๙๙.๙๙ % ค่ะ ที่จะดูรูปโป๊ (โห..!) มีวิธีให้ดูน้อยลงไหมคะ หรือไม่ดูเลยได้ยิ่งดีค่ะ เพราะเกลียดการกระทำแบบนี้มากค่ะ ถือเป็นการไม่ให้เกียรติกันน่ะค่ะ

"บีบี" </TD></TR></TBODY></TABLE>


<CENTER><TABLE><TBODY><TR><TD width=600 bgColor=#fedafb>[FONT='MS Sans Serif',AngsanaUPC,CordiaUPC]
..เวลาที่เขาดูรูปโป๊ใน net (บางครั้งดูถึงเช้าเลยนะคะ) รู้สึกว่าพี่เขาไม่แคร์หนูเลย และก็รู้สึกว่าพี่เขาไม่ให้เกียรติหนูด้วย คิดจะเลิกกับพี่เขาหลายครั้ง แต่ก็รักพี่เขามาก (หนูอายุ ๒๓ ค่ะ พี่เขา ๓๐ ) แต่พอคิดถึงข้อดีของเขาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ดีตั้ง ๘๐-๙๐% แน่ะค่ะ เลยไม่อยากเลิกหรือไม่อยากห้ามเขา และก็คิดว่าเรื่องแบบนี้ก็คงเปลี่ยนกันไม่ได้ เลยคิดว่าจะเปลี่ยนตัวหนูเองดีกว่า ค่ะ...

"บุ๋ม" [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<TABLE><TBODY><TR><TD width=600 bgColor=#44f9ca>[FONT='MS Sans Serif',AngsanaUPC,CordiaUPC]
ลูกชายขลุกแต่ในห้อง เปิดเว็บโป๊ดูทั้งคืน จะทำอย่างไรดี ไม่ค่อยสนใจการเรียนเหมือนแต่ก่อน ...

"คุณแม่ยังสาว" [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>

มีคำถามทำนองนี้จากคุณสุภาพสตรีส่งมาถึงเครือข่ายชาวพุทธฯ บ่อยครั้งมาก นี้ยังไม่รวมกระทู้ตัดพ้อต่อว่าของภรรยาทั้งหลายตามเว็บบอร์ดต่างๆ ที่บ่นถึงสามีของตนว่าติดดูรูปโป๊บนเน็ตจนลืมลูกลืมเมีย ปรากฏการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการเปิดดูเว็บไซต์ดูรูปโป๊ในอินเทอร์เน็ตของคุณหนุ่มๆ ทั้งหลายนี่คงจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว เพราะมีผลกระทบต่อสถาบันครอบครัวอย่างเห็นได้ชัดเจน
ในยุคสมัยไอที ที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่สามารถทำให้กิเลสตัณหาของท่านวิ่งไปได้รอบโลกด้วยความเร็วเท่าแสง ท่านจะมีวิธีอย่างไรที่สามารถควบคุมจิตใจของท่านไม่ให้หลงมัวเมาไปกับสิ่งยั่วยุที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ต !

รูปร่างสตรีเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่ตามหลักพุทธศาสนาท่านว่ารูปร่างสวยงามของสตรีนี้เองที่สามารถครอบงำจิตใจของบุรุษให้อยู่ใต้อำนาจได้โดยง่าย บุรุษใดไม่มีปัญญารู้เท่าทัน มัวชื่นชมแต่ความงามของสตรีจนหลงใหล บุรุษนั้นก็จะมีจิตใจที่อ่อนแอ มีผลต่อสมรรถภาพการทำงาน ทำให้การดำเนินชีวิตติดขัด และ เกิดความทุกข์ใจได้ง่าย
ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าจึงสอนเทคนิคคิดแก่บุรุษ (ภิกษุ) ด้วยการให้พิจารณา "ธรรม" ตรงกันข้าม คือ ความไม่งาม (อสุภะ) ของรูปร่างสตรี ทั้งนี้เพื่อเป็นกุศโลบายทำให้จิตใจของบุรุษพ้นจากอำนาจแห่งกามราคะ นั่นเอง

<TABLE><TBODY><TR><TD width=750 bgColor=#e8e7ce>[FONT='MS Sans Serif',AngsanaUPC,CordiaUPC]
ครับ...หากสุภาพบุรุษท่านใดเริ่มรู้ตัวว่า ตนเองติดรูปโป๊จนเสียการเรียน การงาน หรือ จนเกิดปัญหากับคนรอบข้าง และ ต้องการที่จะฝึกฝนพัฒนาจิตใจของตนเองให้พ้นจากปัญหาดังกล่าว เครือข่ายฯ ขอเชิญท่านมาทดลองฝึกคิดอย่างที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ในพระไตรปิฎกดูสิครับ โดยเราได้อัญเชิญคำสอนของพระพุทธองค์มาฝากท่านพร้อมกับเรามีภาพแบบฝึกหัดมาให้ฝึกคิดพิจารณาด้วย ( save เก็บเอาไว้นะครับ)
เครือข่ายฯ รับรองว่าหากท่านฝึกพิจารณาแบบฝึกหัดนี้ทุกวัน ท่านจะได้สัมผัสกับความสุขแบบใหม่ที่สันติ และ ยั่งยืน มีจิตใจผ่องใส ไม่หมองเศร้า ความสุขนี้เองที่จะทำให้ท่านอยากดูรูปโป๊น้อยลง จนถึงกับไม่สนใจมันเลย ทำให้ท่านสามารถควบคุมกามารมณ์ของท่านให้อยู่ในความพอดี ชีวิตของท่านจะพบกับความสุข ไม่หมกมุ่นวุ่นวาย และ ไม่ติดขัด ประสบกับความเจริญก้าวหน้าตลอดไป ขอให้โชคดีทุกท่านนะครับ... สวัสดี [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE><TBODY><TR><TD></TD><TD bgColor=#fcfbe2>
พระพุทธเจ้า : ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายนี้ เบื้องบนตั้งแต่พื้นเท้า ขึ้นไป เบื้องต่ำตั้งแต่ปลายผมลงมา มีหนังห่อหุ้มเต็มด้วยสิ่งไม่สะอาดมีประการ ต่างๆ ว่า ในกายนี้
มีผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ ผังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า ดี เสมหะ หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา มันเหลว น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ มูตร ดังนี้
พระอานนท์ : ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นี้เป็น อนุสสติซึ่งภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้วอย่างนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อละกามราคะ ฯ
<SMALL>( พระไตรปิฎก สุตตันต. เล่ม ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต ข้อ ๓๐๐ )</SMALL> </TD></TR></TBODY></TABLE>[FONT='MS Sans Serif',AngsanaUPC,CordiaUPC]<SMALL>วิธีคิด อ่านพุทธพจน์ทางขวามือให้เข้าใจ จากนั้นให้มองดูภาพแบบฝึกหัดพร้อมกับพิจารณาไปตามคำสอนของพระพุทธองค์ โดยให้คิดในใจว่ามีอวัยวะอะไรที่น่ารังเกียจสกปรกอยู่ภายใต้รูปร่างอันแสนงดงามนี้บ้าง ให้พิจารณาตั้งแต่เส้นผมลงไปจนถึงปลายเท้า แล้วพิจารณากลับมาตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาจนถึงเส้นผม พิจารณาเช่นนี้กลับไปกลับมา หากท่านปฎิบัติได้ถูกต้อง ท่านจะเกิดความรู้สึกปิติ ปราโมทย์ มีความสุข จิตใจเป็นสมาธิ ทั้งนี้เพราะกามราคะได้ถูกชะล้างออกไปจากใจนั่นเอง </SMALL>[/FONT]

<!-- Start TH2.net Tell Your Friend Code -->

ที่มา

 

ยุบหนอ พองหนอ เป็นของธรรมดา

สักวันมันก็ต้องแห้งเหี่ยวไป

 

อสุภกรรมฐาน!!! อย่าให้สังขารปรุงแต่งหลอกตา

 

เมื่อก่อนดูบ่อยเหมือนกัน ห้าๆๆๆๆๆๆๆ ดูเยอะๆ อยากดูก้ดู ดูไปดูมาแล้วก้เบื่อก้ชินไปเอง และเลิกไปหาเมื่อมีอะไรดีๆเข้ามาแทน จริงๆนะ ห้าๆ

 

ถึงจุดหนึ่ง มันก็คงจะเบื่อไปเองนะ

 

อนุโมทนาสาธุครับ
ใกล้ถึงจุดแล้วล่ะครับอีกไม่นาน แล้วทีนี้ก็จะเบื่อไปเลยหล่ะ

 

กิเลสนี่ปกติยิ่งลองยิ่งติดนะ....มันเบื่อมันเบื่อไม่จริงหลอก....สักวันมันก็หวล.....

ตัวนี้ข่มได้ด้วยสมาธิ.....ตัดได้เมื่อเป็นพระอนาคามี.....

 

กิเลสเท่ามหาสมุทรความเพียรเท่าฝ่ามือ /หลวงปู่ขาว อนาลโย<!-- google_ad_section_end -->

<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->


หลวงปู่มั่นพระอาจารย์ใหญ่
เทศน์สอนหลวงปู่ขาว ต่อไปว่า
“ผม แม้ในสมัยเป็นคนทำเล่นๆ ลวงๆ
ตัวเองก็ไม่เห็นด้วยกับคำพูดดูถูกศาสนา
และดูถูกตัวเองดังที่ท่านว่ามานั้น

ถ้าท่านยังเห็นว่าตัวยังพอมีสารคุณอยู่บ้าง
ท่านลองทำตามแบบที่พระพุทธเจ้า
ทรงสอนไว้โดยถูกต้องดูซิ
อย่าทำตามแบบที่กิเลสพาฉุดลากไป
ทุกวี่ทุกวันทุกเวลา
แม้ขณะกำลังเข้าใจว่าตนกำลังทำความเพียรอยู่

มรรค ผล นิพพาน
ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้เป็นสมบัติกลางจะเป็น
สมบัติอันพึงใจท่านในวันหนึ่งแน่นอน
โดยไม่มีคำว่ายากลำบากและสำเร็จได้ช้า
มาเป็นอุปสรรคได้เลย

ขนาดที่พวกเราทำความเพียรแบบกระดูก
จะหลุดออกจากกัน
เพราะความขี้เกียจอ่อนแออยู่เวลานี้
ผมเข้าใจว่าเหมือนคนที่แสนโง่
และแสนขี้เกียจ เอาสิ่งอันเล็กๆ น้อยๆ
เท่านิ้วมือไปเจาะภูเขาทั้งลูก
แต่หวังให้ภูเขานั้นทะลุในวันเวลาเดียว
ซึ่งเป็นที่น่าหัวเราะของท่านผู้ฉลาด
ปราดเปรื่องด้วยปัญญา
และมีความเพียรกล้าเป็นไหนๆ พวกเราลอง

คิดดู
เทียบกับประโยคแห่งความเพียร
ของท่านผู้เป็นศากยบุตรพุทธ
สาวกในครั้งพุทธกาลท่านแล้ว
น่าสมเพชเวทนาเหลือประมาณ
เราหวังพระนิพพานด้วยความเพียรเท่าฝ่ามือ
ลองคิดดู กิเลสเท่ามหาสมุทร
แต่ความเพียรเท่าฝ่ามือ
มันห่างไกลกันขนาดไหน

คนสมัยนี้ เพียงใช้ฝ่ามือแตะมหาสมุทร
ทำความเพียรเพียงเล็กน้อย
แต่หมายมั่นปั้นมือว่าจะข้ามโลกสงสาร
เมื่อไม่ได้ตามใจหวังก็หา

เรื่องตำหนิศาสนาและกาลสถานที่
ตลอดคนสมัยนั้นสมัยนี้ไม่ละอาย...”


คัดลอกจาก...โครงการหนังสือบูรพาจารย์ เล่ม ๔
หลวงปู่ขาว อนาลโย

จากกระทู้
http://palungjit.org/threads/กิเลสเท่ามหาสมุทรความเพียรเท่าฝ่ามือ-หลวงปู่ขาว-อนาลโย.214448/