ทำไมการแสดงตนของวิญญาณผู้เสียชีวิตจึงมีหลายรูปแบบ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย sriprae somsri, 30 กรกฎาคม 2013.

  1. sriprae somsri

    sriprae somsri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +853
    ดิฉันมีข้อข้องใจใคร่เรียนถามผู้รู้ในเรื่องการแสดงตนของวิญญาณในรูปแบบต่างๆ เข้าใจว่าทุกท่านในเว็บนี้คงพอมีประสพการณ์การได้เจอกับวิญญาณของผู้ตายในรูปแบบต่างๆ ให้สัมผัสกับโสตประสาทแต่ละรูปแบบเช่น การสัมผัสทางกลิ่น ก็ได้แก่ กลิ่นธูป กลิ่นน้ำอบไทย กลิ่นน้ำยาอาบศพ หรือกลิ่นศพที่กำลังเน่าเต็มที่ หรือการทำให้เกิดการได้ยินเสียงต่างๆ เช่น เสียงปิด เปิดประตูหน้าต่าง การทำเสียงโครมครามหรือการทำให้ไฟเปิดติดๆ ดับเองโดยไม่ทราบสาเหตุ ดิฉ้นอยากทราบคะว่า ในการแสดงสิ่งเหล่านี้ ทำไมเขาจะมาในรูปแบบที่ดีที่สุดสำหรับเราไม่ได้หรือ เช่นทำให้เกิดกลิ่นที่เป็นของหอม มากกว่าจะเป็นกลิ่นซากศพ ดิฉันไม่เข้าใจจริงๆ คะ เคยได้ยินแต่คนพูดกันว่า ถ้าคนที่ตายไปแล้วทำกลิ่นให้เป็นซากศพ นั่นหมายถึงผู้ตายไม่ได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี จึงไม่สามารถทำให้เป็นกลิ่นหอมต่างๆ ได้ดังเช่นพวกเทพ หรือเทวดาอะไรประมาณนั้น วานผู้รู้ช่วยตอบทีเถิดนะคะ
     
  2. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,302
    การที่จะแสดงออกได้ หรือ รูปแบบไหน หรือให้ใครสัมผัสได้ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อย่างบางคน อย่างดิฉัน ที่ไหนถ้าคนเขาว่าเฮี้ยน ไม่ดี ดิฉันกลับสัมผัสไม่ได้ ไม่เคยโดนหลอกแบบน่ากลัว มากๆ แต่โดยมากจะเจอแบบที่มาดีๆ หรือเห็นตอนกลางวัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2013
  3. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    ดิฉันก็ไม่ทราบนะคะในข้อสงสัย ของ จขกท แต่โดยส่วนตัวแล้วเคยได้สัมผัสกับ เสียงเรียก

    ที่หาที่มาไม่ได้ ประตูบ้านเปิดปิดเอง ( บ้านหลังใหม่ ) เห็นเป็นเงาดำๆ แต่กลิ่นยังไม่เคยได้สัมผัสค่ะ
     
  4. Pukku

    Pukku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +899
    ถ้ามาแบบกลิ่นนี่ไม่เคยเจอค่ะ ที่เคยเจอก็มาแบบกลุ่มควันเป็นก้อนๆแล้วค่อยๆรวมกันเป็นหน้ามาจ้องหน้าตรงๆ หรือเจอแบบเงารางๆแอบตามมุมต่างๆ แบบเสียงมาเรียก บางทีไปบางสถานที่กับคณะทั้งๆที่ไปกันสิบคนแต่พอเข้าไปในสถานที่นั้นๆรู้สึกเหมือนมีคนเป็นร้อยแออัดกันอยู่ แบบนี้คงแล้วแต่ลักษณะเฉพาะของวิญญาณละมั้งคะ
     
  5. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    การสำแดงของวิญญาณมีหลายแบบครับ แต่ที่ทำไมไม่มาในรูปแบบ กลิ่นเครื่องหอม กำยาน กลิ่นดอกมะลิ ดอกบัว ดอกกุหลาบ

    อาจเป็นเพราะว่าคือ กฏแห่งโลกวิญญาณ กฏแห่งสวรรค์ กลิ่นหอมต่าง ๆ เหล่านี้มีได้เฉพาะเทพ ที่จะมาสื่อกับมนุษย์เท่านั้น ส่วนวิญญาณ สัมภเวสี คงทำได้แค่กลิ่นเหม็นเน่า

    มนุษย์จะได้แยกแยะได้ว่า นี่คือใคร วิญญาณ หรือ เทพ
     
  6. ชีวอน

    ชีวอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +763
    แล้วแต่บุญกับบาปครับ ถ้ากายละเอียดบุญมีมากหน่อยแต่ยังไม่พอไปสุคติภูมิ(วนเวียนในภพมนุษย์7วัน) กลิ่นก้อจะหอมบวกกับจิตใต้สำนึกเรื่องกลิ่นตอนเป็นมนุษย์มาส่งผล หรือทำบุญด้วยของหอมดอกไม้อะไรก้อจะมาส่งผลครับ กลิ่นเหม็นก้อเหมือนกัน เป็นกลิ่นของผู้ที่มีกำลังบาปแต่ยังไม่พอไปทุคติภูมิ กลิ่นก้อจะเหม็น ถ้าบาปมากตอนตายยังไงกลิ่นก้อจะเป็นแบบนั้น เช่นรถชนก้อเป็นกลิ่นคาวเลือด หรือตายปกติ กลิ่นก้อจะเน่า เป็นต้นครับ อย่าว่าแต่วิญญาณเลย คนเรา เช้า สาย บ่าย เย็น กลิ่นก้อยังไม่เหมือนกัน ยังต้องหาของหอม หรืออาบน้ำให้หาย เหม็น แต่กายละเอียดทำไม่ได้ครับ ต้องอาศัย บุญเท่านั้นถ้าจะให้กลิ่นหอม ขอบคุณที่รับฟัง ขอบคุณครับ
     
  7. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ยังกะตัวเองแสดงออกแบบเดียว
    ตายแล้วเป็นผีนี่ ไม่ใช่ตายแล้วเป็นคอมมิวนิสต์
     
  8. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,887
    ตามกำลังบุญนะ แต่ลองคิดดูถ้าเค้ามีกำลังบุญมาก จะมาขอให้เราช่วยทำไม

    ส่วนมากที่มาขอส่วนบุญจึงมักมีกลิ่นเหม็นไง ถ้ากลัวก็บอกเค้ามาเหมือนคนไม่ต้องจัดเต็ม
     
  9. romancehawk

    romancehawk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +537
    คนเป็นๆอย่างเราแต่ละวันก็ยังแต่งตัวไม่เหมือนกัน แม้หลายคนป็นคนในเครื่องแบบก็จะใส่เครื่องแบบเฉพาะวันที่ต้องทำงานทำการ วันไม่ทำงานก็ใส่ชุดอื่นๆ
    เบื่อๆขึ้นมาก็ไปทำผมทรงใหม่ ซื้อกระเป๋าหิ้วใบใหม่ ซื้อรถเบนซ์คันใหม่ทั้งที่คันเก่ายังป้ายแดง (อันนี้หมายถึงใครหว่า อิอิ)
    นั่นแค่คนหนึ่งคน

    คนอื่นๆหลายๆคนก็มีรสนิยมต่างๆกันไป และส่วนหนึ่งก็ขึ้นกับฐานะทางเศรษกิจด้วย
    เราจะเห็นคนมากมายตามท้องถนน ห้างสรรพสินค้า ที่ทำงาน โรงเรียน ที่สาธารณะต่างๆ ก็มีการปรากฏโฉมต่างๆกันออกไป

    ท่านอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงคิดว่ายัยนี่เพี้ยน เขาถามผี ยัยนี่ตอบถึงคน
    ก็แค่อยากเปรียบเทียบให้ดูว่า แม้คนด้วยกันยังปรากฏกาย ปรากฏโฉมต่างๆกัน
    ถ้าเปรียบกำลังทรัพย์กับกำลังบุญ คนเงินเยอะก็ปรากฏโฉมแบบดูมีรสนิยม เสื้อผ้าเครื่องประดับมีราคา ผีมีบุญเป็นเทวบุตรเทพธิดา มาทั้งมีก็ต้องสวยต้องหอมเป็นธรรมดา

    ทั้งนี้ทั้งนั้นข้างบนเป็นความคิดส่วนตัวคะ ไม่รับรองว่าผิดหรือถูกนะคะ ร่วมแบ่งปันความคิดคะ
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,438
    ค่าพลัง:
    +35,473
    ขอกล่าวรวมๆแบบหลักๆก่อนนะคับ.
    ประเด็นแรก.ถ้าเราสามารถสื่อสาร สัมผัส กับวิญญานในที่นี้ขอใช้คำว่าภพภูมิ คือ
    มีแต่ดวงจิตแต่ไม่กายหยาบเหมือนเราๆ..ไม่ว่าจะทาง ตา หู จมูก ลิ้น
    กาย ใจ(ในที่นี้คือการนึกคิด) และจิต..

    ประเด็นที่ควรให้ความสนใจมากกว่าว่าทำไมสัมผัสได้
    หรือค้นหาคำตอบว่าเป็นอะไร ก็คือเรื่องของวัตถุประสงค์ เด่วค่อยว่ากันอีกที


    และการสัมผัสได้ ประกอบด้วยเหตุหลักๆ ข้อย่อยคือ
    ๑.เราส่งออกไปแยกได้คือ ไม่ตั้งใจ เช่น จังหวะที่จิตสงบโดยบังเอิญชั่วขณะ...
    และตั้งใจ เช่น จากกำลังสมาธิแบบต่างๆ
    หรือการฝึกวิชาพิเศษต่างๆ

    ๒.ภพภูมิเข้ามาเอง แบบที่เรา...ตั้งใจจากกำลังสมาธิแบบต่างๆ และไม่ตั้งใจ คือ
    การที่ภพภูมิปรากฏให้เราสัมผัสได้ จากทาง ตา หู จมูก กาย ใจ จิต


    ประเด็นที่ เราเชื่อกันว่าชีวิตหลังความตาย ขึ้นอยู่กับบุญและบาปที่ได้กระทำมา.
    ถ้าไปดีเรามักเรียกว่า บุญบารมี ถ้าไปไม่ดีเรามักเรียกว่า บาปกรรม.. ไม่ว่าบารมีหรือบาปก็มีระดับที่แตกต่างกันออกไป.
    แต่เราจะยึดเปรียบเทียบกับระดับพื้นโลกที่เราอยู่เป็นเกณฑ์.
    เพื่อความเข้าใจง่ายในการเปรียบเทียบ.
    เพียงแต่บุญบารมีจะไปเกิดเริ่มต้นจากระดับพื้นโลก
    ขึ้นไปในระดับชั้นที่สูงขึ้นไล่ตามบุญบารมีตามลำดับ(ตามปกติ)
    ..ส่วนบาปก็จะเริ่มจากระดับพื้นโลกและลงไปข้างล่าง
    .ไล่ตามระดับบาปของตนลงไปเช่นกัน(ตามปกติ)
    ตามปกติคือ ถ้าไม่ได้มีหน้าที่เฉพาะ..


    ประเด็นที่ เรื่องการที่เราสัมผัสได้ไม่ว่า ทางตา หู จมูก กาย ใจ และจิต ให้ดูว่าจังหวะนั้น
    อยู่ในเหตุหลักๆ ข้อย่อยข้างบนในข้อไหน...ถ้าพร้อมทั้งตัวผู้รับ และผู้ที่เข้ามา.

    .สามารถให้เกิดสัมผัสกรณีไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้รับ รู้เทคนิคและวิธีการหรือเปล่า
    ซึ่งมีหลากหลายวิธี..ขึ้นอยู่กับความสามารถในทางปฏิบัติ

    และถ้าผู้รับไม่พร้อมแต่ผู้ที่เข้ามาพร้อมไม่ว่าจะ..พร้อมมาได้ตลอด
    และพร้อมได้จากการรวมรวมกำลังเป็นบางครั้ง
    การสัมผัสได้ก็จะไม่ครบทุกกรณี จะขาดการสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่งได้

    ปล.ส่วนประเด็นย่อยของการสัมผัสเด่วค่อยว่ากันอีกทีคับ​
     
  11. sriprae somsri

    sriprae somsri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +853
    ตอบคุณ Nopphakan ตามที่ได้อ่านมาดิฉันอยู่ในกรณี่ที่สองคะ คือไม่ได้ทำสมาธิ ขับรถอยออกมาจากวัดที่หลวงตาท่ามมรณภาพแล้วเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดการงานศพจนสำเร็จลุล่วงไปทั้งเจ็ดวัน เหตุการณ์มาเกิดขึ้นหลังวันเผาเก็บกระดูกไปเรียบร้อย ตกเย็นราวหนี่งทุ่มจะต้องใช้รถขนของที่ใช้ในงานไปคืนตามวัดๆต่างบริเวณใกล้เคียงที่ยืมมา พอเปิดประตูรถขับรถออกมาจากวัดมาก็ได้กลิ่นเหม็นเน่า ในใจก็นึกว่าท่านคงตามมาส่งจนถึงคอสะพานทางเข้าบ้านแล้วกลิ่นก็หายไป ดิฉ้นก็เลยเกิดความข้องใจว่าท่านเองบวชเป็นพระมานานประมาณสามสิบกว่าพรรษา แล้วทำไมการมาของท่านจึงไม่มาในรูปของกลิ่นหอมที่ดีกว่านี้เช่น กลิ่นธู กลิ่นน้ำอบก็ยังดี นีคงแสดงให้เห็นว่าหลังจากคนเราตายไปแล้ว ก็คงไปเกิดในภพภูมิที่แตกกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคน
     
  12. romancehawk

    romancehawk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +537
    ทำไมมั่นใจว่าเป็นหลวงตามาส่งคะ ไม่คิดว่าเป็นสัมภเวสีอื่นๆมาขอส่วนบุญบ้างหรือคะ ท่านเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงจัดงานศพให้หลวงตาก็สมควรจะได้บุญจากการนี้มากโข เขาเห็นแล้วก็เลยตามมาขอส่วนกุศลก็ได้นะคะ
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,438
    ค่าพลัง:
    +35,473
    ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตามสังเกตุว่า ที่เขียนบอกไปจะพยายามเน้นไม่ให้ไปสนใจเรื่องการที่เราสัมผัสได้
    มากกว่าการที่เราจะทราบวัตถุประสงค์ ครั้งต่อไปไม่ว่า คุณ sriprae somsri
    จะสัมผัสได้ในกรณีใด หรือ แบบไหนก็ตาม ให้คิดอย่างนี้ทันทีในใจ


    '' ด้วยอำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงบันดาลบุญข้า แปรสภาพเป็นอะไรก็แล้ว
    แต่ตามแต่ที่
    (อะไรก็ได้ที่สื่อถึงเค้า หรือท่านเจ้าของสัมผัสนั้นๆ)ท่านต้องการ
    ขอให้ท่านพูดโมทนาและขอให้เป็นของท่านดังปรารถนาเถิด''


    โดยที่ปากและลิ้นห้ามขยับ เพื่อเป็นการดึงจิตให้มีความเป็นทิพย์ชั่วคราว
    ถ้าชงักหรือขาดตอน ให้ตั้งสติ ใจเย็นๆและให้เริ่มพูดในใจใหม่คับ


    ปล.การสัมผัสได้ทางภพภูมิเราจะเน้นที่วัตถุประสงค์ของการสัมผัสได้
    มากกว่า.เน้นลักษณะต่างๆที่สัมผัสได้และการค้นหาคำตอบต่างๆ.ในส่วนนามธรรม
    เราใช้สัญญาปัญญา.ในการหาคำตอบไม่ได้.

    แต่การอุทิศส่วนกุศลไว้ก่อนเป็นทุน.จะเป็นทานบารมี.
    ที่คอยเป็นตัวหนุนในวันข้างหน้าสำหรับคำตอบที่เรา

    จะได้ในส่วนนามธรรม.จะเป็นตัวทำให้เราเกิด ปัญญาบารมีตามมาได้ในอนาตค.
    ซึ่งทั้ง ทานบารมี และปัญญาบารมี เป็นสิ่งควบคู่กันและเป็นเหมือนตำราสำหรับคำตอบในส่วนนามธรรม
    หาใช่ สัญญาปัญญาที่ได้จากทางโลกครับ. เขียนย้ำอย่างนี้อีกรอบ..หวังว่าจะพอเข้าใจในเจตนาที่ต้องการสื่อจริงๆนะคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...