ทำไมชีวิตถึงเป็นแบบนี้ ทำกรรมอะไรไว้

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย chanitnant, 26 กรกฎาคม 2008.

  1. chanitnant

    chanitnant Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +85
    ท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ หากท่านเป็นผู้รู้ ช่วยชี้แจ้งให้ดิฉันได้พบพานความสว่างในชีวิตด้วยเถิด ดิฉันต้องการรู้ว่าทำกรรมอันใดไว้จึงได้มีชีวิตเช่นนี้ และจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร หรือจะต้องดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร โปรดช่วยชี้แนะด้วย
    ดิฉันเกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน ถึงที่บ้านจะค้าขายข้าวแกง แต่ก็ไม่พอเลี้ยงคนทั้งครอบครัวได้ ชีวิตวัยเด็ก จนเรียนถึง ป.3 มีความสุขที่สุดที่จดจำได้ เพราะพ่อแม่อยู่ด้วยกัน ช่วยกันค้าขาย ครอบครัวค่อนข้างดีในช่วงนี้ ประมาณ ป.4 พ่อหนีคดีพยายามฆ่า กลายเป็นผู้ต้องหา บางครั้งหลบมาหาดิฉันที่โรงเรียน แต่ตำรวจเค้ามาเตรียมจับอยู่แล้ว แจ้งกับคุณครูไว้ พอพ่อมาก็ถูกจับเลย ดิฉันเป็นเด็กไม่เข้าใจนัก แต่จำได้ว่า ทุกครั้งที่เจอหน้าพ่อคือ วันพบญาติในเรือนจำ ไปกันน้องสามคน ส่วนแม่นั้นเนื่องจากมีความรู้แค่ ป.4 ไหนจะต้องดูแลลูก 7 ขวบ, 5 ขวบ และยังไม่ถึงขวบ ทั้งขายของ ทั้งวิ่งเต้นคดีของพ่อ ทำให้แม่ลำบากมาก แต่แม่ก็สู้ชีวิตสุดๆ ไปเลย
    จนวันหนึ่งมีคนข้างบ้านเค้าได้สามีเป็นฝรั่ง แล้วฐานะดีขึ้น เค้าจึงมาชักชวนให้แม่ทำบ้าง แม่ก็ทำตาม แต่ฝรั่งคนนี้เป็นคนดี มีฐานะ และรักแม่จริง แม่ทำเรื่องจะเอาน้องทั้งสองคนของดิฉันไปอยู่ด้วยที่เมืองนอก เพราะน้องยังเล็ก ยังไม่เข้าเรียน เรื่องภาษาคงไม่ลำบาก และถ้าลู่ทางดี จะได้เอาดิฉันไปอยู่ด้วยอีกคน ตอนนั้นครอบครัวเรามีฐานะดีขึ้นมาอีกครั้ง จนแม่แต่งงานกับฝรั่งคนนั้น หลังจากแต่งงานได้ 1 วันเท่านั้นเอง วันรุ่งขึ้น นายฝรั่งบ่นอยากกินน้ำพริกกะปิ และแม่จำได้ว่าร้านที่ตลาดประตูน้ำพระอินทร์ทำอร่อย แม่จึงออกมาซื้อให้เค้า นายฝรั่งออกมาด้วย ผลคือรถประสบอุบัติเหตุ นายฝรั่งตายคาที่ ส่วนแม่ดิฉันบาดเจ็บสาหัส ฝันของเราพังทลาย หลังจากพักรักษาตัว และสถานฑูตส่งศพนายฝรั่งกลับประเทศเรียบร้อย พ่อแม่ของนายฝรั่งได้ติดต่อมาที่แม่ดิฉัน ขอให้เดินทางไปอยู่ด้วยกันตามที่ลูกชายท่านต้องการ แต่แม่ดิฉันปฏิเสธไป เพราะว่าไปก็ไม่รู้จักใคร ภาษาก็รู้งูๆปลาๆ มันยากที่ผู้หญิงไทยคนนึงจะเดินทางไปต่างประเทศ หลังจากนั้นชีวิตแม่ก็ผกพัน คนติดต่อยังหาชาวต่างชาติมาให้อีกหลากหลายคน จนมาถึงชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ซึ่งเลี้ยงดูแม่ดี จะมาเมืองไทยเดือนละครั้งแต่ให้เงินเดือนแม่ทุกเดือน ตอนนั้นชีวิตครอบครัวดีขึ้นมากๆ แม่อยู่กรุงเทพฯ ส่วนฉันอยู่ต่างจังหวัดกับตายายffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    ยายไม่ชอบเด็กผู้หญิง และดิฉันก็เป็นเด็กดื้อรั้น ยายใช้ดิฉันทำงานคนเดียวทั้งบ้าน ทั้งที่มีลูกพี่ลูกน้องเป็นผู้ชายทั้งหมดในบ้าน 3 คน แต่ดิฉันเป็นคนเดียวที่ต้องซักผ้า ล้างจาน ขายของ ทำให้ดิฉันต่อต้านไม่ทำงาน ถ้ายายไม่ใช้พวกนั้นด้วย ดิฉันกับยายมีปากเสียงกันประจำ จนแม่ต้องเอาดิฉันไปฝากไว้กับน้องสาวของยาย น้องสาวของยายเป็นคนปากร้ายใจดี แรกๆ อยู่ดิฉันก็เบื่อมาก แต่เมื่ออยู่ไปก็คิดว่าดีกว่าอยู่กับยายเพราะมีข้าวกินทุกมื้อ อาหารดี ไม่ต้องอดหยาก(แม่ให้เงินยายในสมัย 20 กว่าปีที่แล้ว เดือนละ 3000 บาท เลี้ยงลูก 3 คน ซึ่งถือว่าเยอะมากในสมัยก่อน แต่ยายใช้ไม่พอ เพราะหมดไปกับการเล่นไพ่ และซื้อของปรนเปรอหลานชายที่รัก) เมื่ออยู่กับน้องสาวของยายได้สักพัก ก็มีเรื่องให้ต้องกลับไปอยู่กับยายใหม่ และเป็นความลับที่บอกใครไม่ได้แม้แต่แม่ก็ไม่รู้ว่าทำไม
     
  2. คนสามตา

    คนสามตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +311
    ...ขอเป็นกำลังใจ อดทน ต่อสู้ เรียนรู้ เข้าใจ...

    ...นี้แหละคน นี้แหละชีวิต นี้แหละคือการเวียนว่ายตายเกิด...

    ...ทำอย่างไร ถึงไม่มาอีก...

    ...ทำอย่างไร ถึงมาอีกแต่สมบูรณ์กว่าที่เป็นอยู่...

    ...ทุกข์ คือ ยาวิเศษ ให้รู้กรรม ให้รู้วัฏฏะ เบื่อหน่าย ไปไม่อยากมา...

    ...สุข คือ ยากล่อมประสาท ให้ติดหลงลืม ถ้าไม่รู้ละ ไม่รู้พอ...

    เราจะเลือกกินยาใด...? ให้รู้ค่า ให้รู้ลา ให้รู้พอ...ลองคิดดู

    คนสามตา
     
  3. mmie

    mmie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,986
    ขอเป็นกำลังใจให้อดทนสู้ชีวิตต่อไปนะคะ...อย่างไรก็ตาม...อยากแนะนำให้คุณลองสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ ดูบ้าง ชีวิตที่ดูแย่จะค่อย ๆ ดีขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ลองดูนะคะ...

    เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัตตังค่ะ...ผู้ใดปฏิบัติ ผู้นั้นย่อมจะรู้ได้ด้วยตัวของตัวเองค่ะ
     
  4. yawamon

    yawamon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +219
    ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ตอนนี้ถ้าทุกข์มากหรือโกรธใครมาก ๆ เราอย่าไปตามอารมณ์โกรธนะคะเดี๋ยวทุกอย่างจะแย่ไปกว่าเดิม ถ้าเครียดก็หาอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ในเว็บธรรมะที่เกี่ยวกับปัญหาชีวิตของท่าน ๆ อื่นดูนะคะ จะได้มีกำลังใจ เอาใจช่วยให้พบแสงสว่างที่ตรงกับใจนะคะ


    ;aa44
     
  5. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p


    _____________________________<O:p</O:p
    เชิญร่วมบริจาคหนังสือ เข้าห้องสมุดชุมชนวัดย่านยาว<O:p</O:p
    http://palungjit.org/showthread.php?t=130823<O:p</O:p
     
  6. pum_anatta

    pum_anatta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +805
    เป็นกำลังใจให้ด้วยคนค่ะ
    ไม่ใช่ผู้รู้อะไร แต่เป็นคนที่เคยทุกข์แบบจมปลักมาก่อนค่ะ
    ขออนุญาตบอกกล่าวแบ่งปันกันนะคะ ^_^

    ถ้าเป็นตัวเอง เวลาที่เจอปัญหาในชีวิตจะพยายามทำบุญให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
    ทำตามกำลังของเรา แล้วก็สวดมนต์ + นั่งสมาธิทุกๆวัน จะทำให้จิตมีกำลังมากขึ้น
    แล้วก็จะฟังธรรมบ่อยๆ บ่อยมาก ฟังทั้งเช้าตื่นนอน กลับจากเรียนก็มาฟังต่อ แล้วก็ฟังตอนกลางคืนก่อนนอนด้วย
    มีความสุขขึ้นมากๆ มากขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ รู้สึกจิตใจเบาสบาย จิตใจสว่าง คิดอะไรที่เป็นกุศลได้เยอะแยะ

    ได้เรียนรู้ว่าความทุกข์ที่เกิดก็สักแต่ว่าเป็นความทุกข์ มันเกิดขึ้นกับขันธ์ทั้ง 5 เป็นปกติ
    ความสุขความทุกข์มันมีอยู่เกิดอยู่เป็นธรรมดา เป็นสิ่งที่จิตไปรู้เข้า ก็ตามรู้ตามดูมันไปค่ะ

    เคยถามตัวเองบ่อยมากๆเหมือนกันว่า เราทำกรรมอะไรมาถึงต้องมาเป็นแบบนี้ (เคยได้คำตอบแล้วด้วย)
    ตอนนี้เลิกถามแล้วค่ะ ทำบุญทำความดีให้ถึงที่สุดดีกว่า ทำตัวเราให้ดีที่สุดดีกว่า ทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุด
    เพราะสิ่งที่เรามี ก้อคือ "วันนี้" เท่านั้น เวลา ณ ปัจจุบันนี้เท่านั้นคือทั้งหมดที่เรามี ทำมันให้ดีที่สุด
    เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง นะคะ

    อีกอย่างที่อยากจะขออนุญาตแนะนำก็คือ "ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า" ค่ะ
    รับรองว่าจิตจะเป็นกุศลขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ว่าทำแล้วจิตใจมีปิติขึ้นมา แล้วก็จะมีกำลังใจมากขึ้นด้วย

    ขอแนะนำธรรมะของครูบาอาจารย์นะคะ
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
    http://www.wimutti.net/pramote/
    ท่านเทศน์สอนด้วยภาษาที่ฟังง่ายเข้าใจง่ายมากๆเลยค่ะ แล้วก็ปฏิบัติได้ง่ายด้วย แนวดูจิตค่ะ

    คุณดังตฤณ
    http://dungtrin.com/prepare/
    ตอบคำถามเรื่องกรรมได้อย่างเข้าใจง่าย มีเกือบทุกคำถามที่คนส่วนใหญ่สงสัยกัน

    ลองดูนะคะ
    ธรรมะคือเครื่องชะโลมใจ ธรรมะคือยารักษา ธรรมะคือความเย็นสบาย(ขออนุญาตจิ๊กมาจากคุณ magic_storm ค่ะ อิอิ)
     
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ก็นับว่าเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความทุกข์

    ไม่แปลกครับที่จะต้องถามถึง กรรมเก่า ว่าเป็นมาอย่างไร

    แต่ในมุมมองของผมนั้น คนที่มีกรรมนั้น คือ คนอื่นๆที่ไม่ใช่คุณ

    สำหรับคุณนั้น ไม่ใช่ผู้มีกรรมโดยตรง แต่มีส่วนผูกพัน เป็นทั้งปัจจัยในกรรม
    เก่าของเขาเหล่านั้น และเป็นทั้งผู้รับ แต่ในส่วนการเป็นผู้รับนั้น ดูเหมือนว่า
    คุณจะรับกรรมแบบผ่านๆ คือ ไม่ใช่ผู้รับกรรมโดยตรง ดูจากคุณสามารถรอด
    พ้นกรรมอันหนักๆได้หลายครั้งหลายครา

    คุณจึงอยู่ในฐานะส่งกรรมมากกว่ารับกรรม คือ พ่อแม่ของคุณต้องรับผิดชอบ
    ต่อคุณด้วยการพยายามดิ้นรนเพื่อหาเงินมาส่งเสียเล่าเรียน และดำเนินชีวิต โดย
    เขาไม่สนใจว่าฝ่ายเขานั้นต้องเผชิญกับอะไร อย่างกรณีแม่ของคุณก็เลือกลูก
    มากกว่าความสุขส่วนตัว ในเคสที่พ่อเลี้ยงใหม่แอบละเมิดต่อคุณ

    ส่วนพ่อของคุณก็ยังรับผิดชอบ แม้ว่าคดีดังกล่าวนั้นท่านเป็นผู้กระทำหรือไม่ แต่
    การที่ท่านต้องเข้าไปอยู่ในคุกนั้น ไม่มีเวลาให้กับครอบครัว เขาก็ออกมาชดใช้
    และไม่ถือโอกาสถอยหนี

    กรณีคุณยาย เขาก็รักคุณ ไม่ใช่ไม่รักคุณ ที่คุณยายให้คุณทำงานทั้งหลายด้วยตนเอง
    นั่นคือภูมิปัญญาของท่านที่อาบน้ำร้อนมาก่อน เพราะทราบชัดประการหนึ่งว่า ใน
    เบื้องหน้านั้น หากคุณไม่ใช่ผู้หญิงที่เกี่ยงงานบ้านงานเรือน งานเลี้ยงดูหาอาหารแล้ว
    คุณย่อมสามารถประคองครอบครัวได้ไม่มากก็น้อย เป็นวิสัยทัศน์ของผู้ใหญ่ที่เด็กๆ
    มักไม่เข้าใจเพราะยังไม่ถึงเวลาสอนใคร

    จะเห็นว่า คุณนั้นค่อนข้างลอยตัวอยู่ไม่น้อย และผมกลับคิดว่า คุณนั้นเป็นคนมีบุญ
    เสียด้วยซ้ำ

    เพราะสังเกตได้จากการที่คุณ มี สติ ที่ดีเลิศ สามารถแก้ปัญหาให้ตัวเองพ้นออกจาก
    ภัยได้หลายครั้งหลายครา อีกทั้งยังสามารถประคองชีวิตให้อยู่เป็นปรกติสุขจนสามารถ
    ร่ำเรียนจนจบ และทำงานได้ด้วยตัวเอง

    การที่คนๆหนึ่งจะทำงานทำการได้ ทั้งๆที่ในชีวิตที่ผ่านมามีแต่เรื่องราวให้ระทมหวลจม
    ทุกข์ได้ทุกขณะที่กระทบปัจจัยอันเป็นเหตใกล้ให้ระลึกถึงกรรมเก่าเหล่านั้น เพราะคุณ
    มี สติ ที่ดีเลิศอยู่

    คุณลองตรองดู ขณะคุณทำงาน แล้วใจไหลไปคิดเรื่องกรรมเก่า คุณหยุดยั้งการจม
    กับความหลังครั้งเก่าด้วยวิธีใดบ้าง

    1. วิธีทำสมถะ สมาธิ หรือ การเปลี่ยนอารมณ์ หรือ ทรงอารมณ์หนึ่งๆ เพื่อให้จิตใจ
    ตั้งมั่นทำงานได้ วิธีนี้ ก็คือ การปรึกษาเจ้านาย การให้เจ้านายเตือนสติ การระงับ
    ด้วยการคิดเรื่องอื่นแทน เหมือนสลัดความคิด

    2. มันหลุดเองจากการจมความหลัง อยู่ดีๆ ก็หลุดเอง และกลับมาทำงานต่อได้

    วิธีที่ 2 นี่แหละที่ผมจะต่อยอด เพราะ การที่คุณหลุดออกจากภวังค์การหวลคิด
    หรือ จมความคิด ก็เพราะ สติ ได้เกิดขึ้นชั่วขณะ ทำให้ คุณหลุดจากภาวะจิต
    หดหู่อกุศล ออกมาทำงานได้อย่างดีเหมือนกับมีมรรค 8 ประชุมอยู่

    คำว่า สติ คนทั่วไปมักคิดว่า การมีจิตระลึก ตั้งตัว เดินเหินได้ พูดคุยได้ปรกติ

    คำว่า สติ ในทางพุทธศาสนานั้น จะหมายถึงอาการ ฉุกคิด รู้สึกตัว ว่าจมอกุศล
    อยู่ แล้วทำให้กลับลำ มาก่อกุศลได้ หรือ ทำงานต่อได้

    การเจริญสติ หรือ การภาวนา หรือ การทำสติปัฏฐาน 4 ก็คือ การหมั่นคอยดู
    ว่า สติ ได้เกิดขึ้นกับเราหรือไม่ โดยดูว่า ตอนนี้เราหลงคิด(จมความหลัง)
    แล้วอยู่ดีๆ เราก็หลุดออกมาจากการจมควมหลัง ( เกิดสติ ) เมื่อเราหมั่นดู
    อาการเกิดสติ ที่ทำให้รู้ตัวตอนนี้ จิตมีโมหะ(จมความหลัง) และ จิตไม่มีโมหะ
    ( ผลิกกลับมาทำงานได้ - ขณะเดียวสั้นๆ ) แล้วก็จบไปกับงาน(จิตมีโมหะ -
    แต่เป็นฝ่ายกุศล) แบบนี้คือ การเจริญสติ จะเห็นว่า เป็นเพียงการตามระลึก
    สภาวะจิตใจที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเท่านั้น

    เมื่อ ระลึกตามได้ครั้งหนึ่ง และคอยระลึก นานวันเข้า คุณจะเห็นว่า ตัว สติ
    จะมีการเกิดบ่อยขึ้น ถี่ขึ้น เมื่อมันถี่ขึ้น มันก็จะตั้งมั่น หากสติตั้งมั่น การ
    จมทุกข์กับความหลังจะเกิดขึ้นไม่ได้ นี่แหละคือ หนทางพ้นทุกข์ ทำได้แค่
    การหมั่นระลึกดูอาการของจิตที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเท่านั้นเอง

    และนี่แหละคือการทำ สติปัฏฐาน 4 แบบง่ายๆ ที่คุณทำได้ทันที และให้ผล
    ทันที

    การเจริญสติปัฏฐาน 4 คือ การทำบุญลำดับสูงสุด ที่ทำให้คุณพ้นทุกข์ได้
    ถึงขั้นศุงสุดของพุทธศานา

    * * * * *

    พอดีมีคนโพสก่อนหน้า แต่หนทางที่ผมชี้ ก็คือ คำสอนของพระท่านนี้

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ซึ่งคนโพสก่อนหน้าได้แนะนำไว้ ผมก็ขอ
    ยืนตามครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2008
  8. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    เป็นกำลังใจให้อีกแรงนะคะ

    ไม่ว่าอดีตจะเป็นอย่างไร เกิดจากกรรมอะไร เรากลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว ยังไงก็ขอให้ต่อไปชีวิตคุณมีแต่สิ่งที่ดีๆนะคะ

    ทำปัจจุบันให้ดี แล้วอนาคตคงจะดีๆขึ้นเองค่ะ
     
  9. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    สำหรับคำแนะนำ... คุณบุคคลทั่วไป 3 คน ตอบให้แล้วนะคะ...

    ที่สำคัญที่สุดคือ "ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี" และ "ความอดทน" ของคุณเองค่ะ

    คนเราทุกคนที่ได้เกิดมาแล้ว...ล้วนมีหน้าที่ติดตัวมาทุกคน หน้าที่นั้นคือ "การชดใช้เวรกรรม" ที่เราได้เคยสร้างมา ให้คิดซะว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ท้ายสุดมันก็จะต้องดับไป ไม่ต้องไปยึดติดกับอารมณ์นะคะ...ส่วนหน้าที่พิเศษเสริมให้ชีวิต และสุขภาพจิตของเราดีขึ้น คือ "การทำบุญ" อันจะเป็นปัจจัยส่งผลให้ตัวเรามีทุกข์น้อยลง การทำบุญอย่างแรกที่ควรทำคือ "เตรียมหัวใจ" เปิดให้พร้อมก่อนจะทำ และทำด้วยความเต็มใจ บริสุทธิ์ใจ เพื่อให้ได้รับผลบุญอย่างเต็มที่ และที่สำคัญที่สุดคือการ "ทำให้ถูกต้อง" หากอยากรู้ว่าการทำบุญที่ถูกต้องทำอย่างไร คุณลองสละเวลาเข้ามาศึกษาใน web นี้สักระยะนึง อาจจะวันละ 1-2 ชั่วโมงก็ได้ ในนี้จะมีกัลญาณมิตรที่คอยแนะนำคุณ แล้วตัวคุณเองก็จะสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม

    เอาอย่างง่ายที่สุดเลยนะ...เริ่มจากการเริ่มฟังธรรมะก่อน เคยฟังมั๊ย?...มีเพื่อน ๆ ในนี้เค้าแจก CD ธรรมะฟรีด้วยค่ะ คุณลองขอไปฟังนะคะ ฟังในยามว่าง ๆ ในวันหยุด หรือระหว่างการทำงานก็ได้ ฟังระหว่างเดินทางกลับบ้านก็ได้ ฯลฯ การฟังธรรมะจากประสบการณ์ส่วนตัวดิฉันเองแล้ว จะสามารถช่วยขัดเกลาในเรื่องจิตใจได้เป็นอย่างดีในอันดับต้น ๆ เลยค่ะ...ฟังแล้วสบายใจ ที่เคยกลุ้ม ๆ หาทางออกไม่ได้ นั่งร้องไห้อยู่เมื่อตะกี้...สักพักก็สามารถทิ้งไปได้เลยล่ะ...ลองดูนะคะ...ยืนยันว่าเยี่ยมมากเลยจริง ๆ ค่ะ...

    ต่อไปเมื่อจิตของคุณดีขึ้นแล้วก็ลองหันมาสวดมนต์ และนั่งสมาธิก่อนนอน ไม่ต้องมากหรอกสละเวลาก่อนนอน 5-10 นาที โห...บุญล้นเหลือ ที่สำคัญเมื่อสวดมนต์เสร็จแล้วอย่าลืมแผ่เมตตา และอโหสิกรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย รวมถึงขออโหสิกรรมจากเขาเหล่านั้นด้วย เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมกันต่อไปอีก...เอาแค่นี้ก่อนละกัน เดี๋ยวตกใจว่าทำไมต้องทำอะไรกันเยอะแยะไปหมด แต่ถ้าคุณทำได้ คุณจะเป็นคนที่มีความสุขเพิ่มมากขึ้นในชีวิต และมีบุญกุศลสำหรับเป็นเสบียงในภพหน้าอีกด้วยค่ะ...

    ขออนุโมทนาค่ะ...

    ;aa47
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2008
  10. sumolthida

    sumolthida สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +2
    เปนกำลังใจให้นะคะ

    คุณคะดิฉันเองก็มีปัญหาเหมือนกัน แต่ของคุณเปน case ที่หนักเหมือนกันเพราะสภาพจิตใจของคุณเปราะบางมาก ฉันรู้สึกว่าอ่านแล้วเห็นใจคุณมาก ถ้าคุรเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมนะคะ ดิฉันจะแนะนำเพราะดิฉันเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และได้ไปบวชที่วัดนี้บ่อย คุณคะถ้าเปนไปได้ตื่นแต่เช้าใส่บาตร ทันทีที่ตักข้าวใส่บาตรรีบอธิษฐาน เพราะแสงบุญจะอยู่ได้ไม่นานไม่กี่วิ อยากให้ใครอธิษฐานให้ชัดเจนนะคะ ทางที่ดีเอ่ยในใจให้เจ้ากรรมนายเวร เทวดาที่รักษา บิดามารดา และขอให้ท่านพยายมและเทพยดาทั่วสากลภิภพจงโมทนาส่วนกุศลและขอจงเปนสักขีพยาน และให้สามีชื่ออะไร พระมีกี่รูปก็ใส่ไป รุปหนึ่งไม่จำเปนต้องครบ ที่ให้เทวดาที่รักษาเพราะว่าทุกคนมีเทวดาอารักษ์แต่จะให้มีฤทธิ์เดชต้องทำบุญให้ กินข้าวก็ยกมือชวนท่านด้วยนะคะ ท่านจะช่วยเหลือคุณเอง และถ้าตื่นไม่ไหวก็สวดมนคาถาชินบัญชร และอธิษฐานจิตว่าขอให้ลูกดีขึ้นหรือโปรดชี้ทางสว่างให้ลูกอะไรก็ได้จงอธิษฐาน เพราะว่าหลวงปู่โตที่เปนเจ้าของคาถา ท่านเปนพระโพธิสัตว์ โปรดมนุษย์ขอสิ่งใดได้สิ่งนั้น สวดทุกวันนะคะ และถ้าไม่ได้อย่างใจจงอย่าท้อเพราะอาจยังไม่ถึงเวลา มีคนเคยนั่งสมาธิแล้วพบท่านในนิมิตร ท่านบอกว่า " บุญเจ้าไม่เคยทำใครที่ไหนจะช่วยท่านได้ เมื่อถึงเวลาแล้วแม้เทวดาก็ฉุดไม่อยู่"
    เปนกำลังใจให้นะคะ สู้ๆดิฉันก้เคยท้อและเครียดมากจนเคยฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตายดิฉันผูกคอตัวเอง เหมือนมีสิ่งศักสิทธิ์ช่วยไว้ ถึง 2 ครั้ง อย่าได้ไหวหวั่นคุรผ่านชีวิตมาเยอะมากจงทำที่ดิฉันบอก กรรมในอดีตส่งผลในปัจจุบัน ปัจจุบันคุณทำดีทำบุญจาส่งผลถึงอนาคตและยาวนานจนกว่าคุรจะสิ้นลมค่ะ;aa17
     
  11. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    กรรม ก็ปล่อยไปตามปัจจัยของกรรมเถิดครับ
    อย่าไปยึดมั่นในกรรม มากนัก มันจะทำให้เราตอกย้ำในเรื่องต้องมาใช้กรรม
    หรือเป็นไปตามกรรม

    กรรมเป็นสิ่งที่ มีปัจจัยเป็นไปตามปัจจัย
    และกรรมก็เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง ยึดไม่ได้

    ให้เข้าใจว่า กรรม ไม่เที่ยงและยึดไม่ได้

    ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็ไม่มี กรรม และ ผู้รับผลกรรม
    คือเป็นอนัตตาอยู่แล้ว อนิจจังอยู่แล้ว ยึดไม่ได้อยู่แล้ว

    จะได้นอกเหนือกรรม
    จะได้พ้นวงเวียนกรรม
    ตรงต่อพระนิพพานกันสักที

    ด้วยความปราถนาดีอย่างที่สุด
    ผมแนะนำให้พี่ศึกษา
    ธรรมะของหลวงพ่อไพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโตดูนะครับ
    พี่จะได้ปล่อยวาง ผ่อนคลาย สงบ สว่าง
    และนอกเหนือกรรม
    ไม่มีชีวิตที่ทุกข์ตรม ผิดหวัง ตอกย้ำ ซ้ำใจ ตามกรรมอย่างนี้

    ขออนุโมทนา

    ผมแนะนำให้พี่ศึกษาหัวข้อ


    พี่สามารถโหลดธรรมะหลวงพ่อเพิ่มเติมได้ที่


    หากโหลดไม่ได้ขอรับจากผมได้ที่ลิงค์ข้างล่างครับ
    ขออนุโมทนา

    [​IMG]

    ณ.โอกาศนี้ ขอน้อมองค์คุณ

    พระพุทธะอรหันต์ พระมหาพุทธะอรหันต์
    พระอรหันต์ พระมหาอรหันต์
    พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์
    จงบันดาลให้ทุกท่าน
    ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา
    ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามพุทธะประสงค์ ตรงต่อพระนิพพาน
    ในชาติปัจจุบันกาลนี้ด้วยเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2008
  12. nongyao

    nongyao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +346
    ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ อย่าท้อแท้ สู้ค่ะ คุณเป็นคนดี มีความอดทนมาก เจอปัญหาหนักมาก แต่ก็ฟันฝ่ามาได้ถึงคณะนี้ ทุกคนที่ให้กำลังใจ อ่านแล้วซึ้งค่ะ ขอให้พยายามปฏิบัติตามคำแนะนำทีดีๆทั้งหมดนี้นะคะ แล้วชีวิตจะดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
     
  13. BlueNude

    BlueNude เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +871
    อ่านแล้วรู้สึกอะไรหลายๆอย่าง

    เลยมาขอเป็นกำลังใจให้ครับ

    และก็อยากแนะนำ ให้ทำบุญ(ทาน ศีล ภาวนา) เยอะๆ ครับ

    แล้วก็ไปไหว้แม่พ่อมั่ง แล้วก็ ขออโหสิกรรม กับทุกๆคนเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นแฟนเป็นย่ายาย แม้กระทั่งพ่อกับแม่ด้วยครับ

    กรณีที่ท่านจากโลกนี้ไปแล้ว ก็จุดธูปขออโหสิกรรม ก็ได้ครับ

    ดีใจตอนนึง ที่ ไม่คิดจะฆ่าตัวตาย ดีแล้วครับอย่าทำนะครับ บาปหนัก

    ทุกอย่างมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ตั้งอยู่อยาก คืออยากให้มันคงเดิมตลอดไม่ได้หรอกครับ มีความเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา

    ส่วนเรื่อง กรรม นั้นผมไม่อาจตอบได้หรอกครับ ว่าคุณเคยทำอะไรไว้
    เพราะถ้าดูจากปัจจุบัน กรรมเก่าที่ทำไว้อาจจะไม่ดีนัก ดังนั้นให้ใส่ใจ กรรม (การกระทำ)ในปัจจุบันดีกว่าครับ เพื่ออนาคตที่ดีต่อไป

    แล้วก็ขออนุโมทนา ที่ คุณ จขกท ยังเลี้ยงดูญาติ แล้วก็ให้ความช่ายเหลือตามสมควร ถือว่า กตัญญูแล้วครับ สิ่งใดที่พลาดพลั้งไปแล้ว ก็ถือเป็นบทเรียน แล้ว ก็อย่าทำให้พลาดอีก

    สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจ และย้ำอีกรอบ คือ ไปทำบุญ (ไม่ว่าจะเป็นถวายทาน รักษาศีล แล้วก็สวดมนต์ภาวนา ทำสมาธิ) และ อีกอย่างคืออย่าลืมไป ขอ"อโหสิกรรม"กับทุกๆคนที่เราเคยทำไม่ดีกับเขา และ เขาทำไม่ดีกับเรา รวมถึง แม่ของคุณ จขกท ด้วยนะครับ

    ขอให้มีศีล สติ ปัญญา สมาธิ อันจะนำมาซึ่งความสุขกายสบายใจ ครับ
     
  14. thipwanh

    thipwanh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +870
    เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปค่ะ;aa17
     
  15. เวฬุวัล

    เวฬุวัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,843
    ค่าพลัง:
    +506
    เป็้นกำลังใจให้นะคะ

    ขอให้ทำดีต่อไป แล้วกรรมดีนั้นก็จะส่งผลมาให้ไม่ช้าก็เร็วค่ะ
     
  16. chanitnant

    chanitnant Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +85
    ขอขอบพระคุณทุกๆ ท่านค่ะ ที่เข้ามาโพสต์ให้ดิฉัน รู้สึกซาบซึ้งใจและดีใจเป็นอย่างมาก ที่ทุกท่านได้ให้คำแนะนำมา เรื่องที่อัศจรรย์ใจได้เกิดกับดิฉันแล้ว เหมือนกับว่าเมื่อดิฉันยอมรับในกรรมที่เกิดขึ้น ยอมรับในโชคชะตะที่เป็นแบบนี้ มันเหมือนกับว่าบ่วงกรรมได้หลุดไปเปราะหนึ่งแล้ว จากวันที่ทุกข์มากที่เข้ามาโพสต์ เมื่อกลับไปบ้าน "สามีเข้ามาพูดดีมาก เค้าเข้าใจถึงสภาวะจิตใจที่หดหู่มากของดิฉัน ตอนนี้เราเข้าใจกันมากขึ้น ในเรื่องของญาติพี่น้องยังมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ แต่สามีเค้าหันมาฟังพระเทศน์ ฟังรายการธรรมะในวิทยุ ทำให้เค้าปล่อยวาง ในเรื่องญาติพี่น้องที่ทำให้เราทุกข์ใจ ที่ต้องทะเลาะกับสามี สามีก็ปล่อยวาง และได้ว่ากล่าวตักเตือนเราให้ทำให้เหมาะสม ซึ่งแค่นี้ดิฉันก็ดีใจแล้ว
    เราจะคุยกันในเรื่องพุทธศาสนา บาป บุญ คุณโทษ มากขึ้น ซึ่งนับว่าแค่การที่เราได้ศึกษาธรรมะเพียงเบื้องต้น ก็เหมือนกับบุญกุศลนั้นก็ได้บังเกิดแล้ว ทุกวันนี้อาจจะมีความทุกข์บ้าง แต่ไม่สาหัสเหมือนเดิมอีก ดิฉันจะมีสติที่จะครองชีวิตคู่ให้มากยิ่งขึ้น

    ขอขอบพระคุณทุกท่านด้วยใจจริงค่ะ อนุโมทนาสาธุกับความดีที่ทุกท่านได้กระทำกับดิฉันด้วยใจจริงค่ะ ขอบพระคุณจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...