ทิฐิพระ มานะกษัตริย์

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 18 พฤศจิกายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,186
    พระอาจารย์ เล่าว่า "ตอนเย็นๆ พอขึ้นที่พักก็หมดสภาพ ร่างกายไม่ไหว โดยเฉพาะรู้สึกปวดหลังมาก เวลาไข้มาเลเรียขึ้นนี่จะปวดหลัง ก็ได้แต่นั่งเหี่ยว จะรอดวันนี้ไหมหนอ ? ตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ทำเป็นยืดเข้าไว้

    ลักษณะอย่างนี้แหละที่ หลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านป่วยแล้วคนดูไม่ออก อาตมานี่ยังมีทีท่าให้คนเขาเห็นบ้าง หลวงพ่อวัดท่าซุงนี่ไม่มีเลย ดูไม่ออกว่าท่านป่วยหรือไม่ป่วย จนกว่าจะเลิกงานนั่นแหละ เวลาท่านป่วยหนักๆ อาตมารับท่านลงจากตึกมาขึ้นรถ เพื่อที่จะไปรับญาติโยมที่ตึกรับแขก แรกๆ ก็จับแขนท่านลักษณะช่วยประคอง ท่านก็สะบัดออก แต่พอเห็นว่าท่านไม่ไหวจริงๆ อาตมาก็ต้องทำ

    พอถึงเวลาจับพอท่านตั้งท่าจะสะบัด อาตมาก็ล็อกแขนท่านไว้เลย ถ้าอาตมาตั้งใจล็อกนี่หลุดยาก..! แล้วก็พาท่านเดินขึ้นรถ หลวงพ่อท่านก็หัวเราะแล้วก็บอกว่า “ถ้ามันเป็นระเบียบบังคับก็เอา” ไม่อย่างนั้นใหม่ๆ นี่ทำไม่ได้หรอก ท่านสะบัดมือออกทุกที

    ถึงได้เข้าใจว่า "ทิฐิพระ มานะกษัตริย์" นั้นเป็นอย่างไร? คนที่เคยเกิดเป็นผู้นำมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว ถึงเวลาจะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ พอใช้ประโยคนี้ หลวงลุงสุนทร บอกว่า "หลวงพี่..พระมีทิฐิได้หรือ ?" อาตมาตอบว่า "มีสิ..ถ้าไม่มีสัมมาทิฐิบรรลุมรรคผลไม่ได้หรอก" เถียงหน้าด้านๆ เลย..!

    ขัตติยมานะ ตัวนี้แหละทำให้ พระมหาอุปราช รู้ว่าสู้ พระนเรศวร ไม่ได้ก็ต้องสู้ ต่อหน้าคนตั้งเท่าไรที่ล้วนแต่เป็นลูกเจ้าเมือง ว่าที่เจ้าที่เจ้าเมืองทั้งนั้น ถ้าหากว่าไปแสดงความขี้ขลาดต่อหน้าเขา ต่อไปตัวเองขึ้นเป็นกษัตริย์ เมืองบริวารเหล่านั้นจะมีใครเชื่อถือ ทั้งๆ ที่ท่านรู้ว่า ถ้าให้คนรุมพระนเรศวรนี่ชนะแน่ แต่ก็ไม่เอา ยอมสู้แบบเดี่ยวๆ ดีกว่า

    เรื่องการศึกการสงคราม ถ้าเป็นภาพยนตร์มาอาตมาจะดูไม่ได้เลย พอดูแล้วจะมีภาพซ้อนขึ้นมา มีอยู่เที่ยวหนึ่งตอนนั้นตามหลวงพ่อไป วัดศรีรัตนาราม ที่ ลพบุรี คุณปรีชา พึ่งแสง เอาหนังเรื่องสงคราม ๙ ทัพมาเปิด ถ้าจำไม่ผิด คุณสมบัติ เมทนี รับบทเป็น รัชกาลที่ ๑

    อาตมาดูไม่รู้เรื่องเลย มองดูนี่ภาพซ้อนเกิดขึ้นเต็มไปหมด ท้ายสุดก็เลยหลับตาดูของตัวเองดีกว่า อะไรที่เป็นสิ่งที่ทำจนชินมาชาติแล้วชาติเล่า ถึงเวลาก็จะโผล่ขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ"


    สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๔



    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2938&page=5



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...