ทิเบต-เขาไกรลาส - แชงกรีลา / แหล่งพลังงานจิตเข้มข้นอีกแห่งบนโลก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย โลกันต์, 16 พฤศจิกายน 2005.

  1. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#999900>ดินแดนสวรรค์เขาไกรลาส แชงกรี-ลา</TD></TR><TR><TD>
    ดินแดนสวรรค์เขาไกรลาส แชงกรี-ลาเมืองจงเตี้ยน หมายถึงสถานที่อันเป็นสิริมงคล เป็นเขตปกครองตนเองของชนชาติทิเบตแห่งตี๋ชิง สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,350 เมตรจงเตี้ยน คือส่วนหนึ่งของดินแดนที่ราบสูงทิเบต ที่เสมือนดินแดนต้องห้ามเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในเขตปกครองตนเอง ชนชาติทิเบตแห่งตี๋ชิงตั้งอยู่บนที่ราบสูงบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน อยู่ห่างจากเมืองคุนหมิงประมาณ 709 กม. อยู่รอยต่อตะเข็บชายแดนทิเบต - ยูนนาน - เสฉวน มีพื้นที่ 11,613 ตร.เมตร ประชากร 120,000 คน40 % เป็นชาวธิเบต มีทะเลสาปซู่ตู ทะเลสาปนาผาไห่ สวยงามมาก [​IMG]เป็นทุ่งโล่ง บรรยากาศสดชื่น บริสุทธิ์ และสีของใบไม้แปรเปลี่ยนตามฤดูกาลวัดซงจ้านหลิน ตั้งอยู่เชิงเขาห่างจากเมืองจงเตี้ยนไปทางเหนือประมาณ 4 - 5 กม. มีพระลามะจำพรรษามากกว่า 700 รูปสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1679 โดยทะไลลามะองค์ที่ 5ใช้เวลาก่อสร้าง 18 ปี จึงแล้วเสร็จโดยจักรพรรดิคังซีแห่งราชวงศ์ชิง [​IMG]มีรูปแบบคล้ายพระราชวังโปตาลา ที่นครลาซาล เมืองหลวงทิเบต [​IMG]แต่ย่อส่วนลงมา มีการเปรียบเทียบว่าหากโปตาลาเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวทิเบต วัดซงจ้านหลินก็เป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาของชาวพุทธบริเวณที่ราบสูงนั่นเอง [​IMG] เจ้าอาวาสวัดซงจ้านหลินเมืองเต๋อชิง ทางตอนเหนือของมณฑลยูนนาน ชายแดนทิเบต - ยูนนาน - เสฉวน มีภูเขาสูงมหึมาเลาะขอบฟ้า สุดชายหลังคาทิเบตเขตที่ยังปลอดนักท่องเที่ยว นี่คือบริเวณแคว้มกัมของทิเบต ซึ่งจีนประกาศรวมไว้ในมณฑลยูนนาน สุดแสนตื่นตาตื่นใจกับการนั่งรถลัดเลาะตามขอบเขาผ่านหุบเหวและหุบเขามากมาย ขึ้น ๆ ลง ๆ ตามถนนสูงเสียดฟ้า โค้งแรกแม่น้ำจินซาหรือแม่น้ำแยงซีเกียง ช่วงต้น ๆ เรียกกันว่า จินซาเจียงหรือแม่น้ำทรายทอง ด้วยเหตุที่กำเนิดจากธารน้ำแข็งเจียงแกนดีรูเชิงเขาเกอลาตัน สูงกว่าระดับน้ำทะเล 6,621 เมตร จึงเรียกว่า"แม่น้ำคงเทียนเหอ" หรือแม่น้ำจากสวรรค์ ชื่อเหล่านี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวจีน เพราะไม่เคยเห็นหรือได้สัมผัสช่วงต้นน้ำแม่น้ำแยงซีเกียง [​IMG]โดยมากจะรู้จักในนาม "แยงซีเกียง" หรือ "ฉางเจียง" ซึ่งแปลว่า แม่น้ำยาว ความจริงแม่น้ำแยงซีเกียงมีความยาวถึง 6,300 กม.เป็นแม่น้ำใหญ่ที่สุดของจีนและยาวเป็นอันดับ 3 ของโลก บริเวณปากแม่น้ำกว้างกว่า 40 กม. แต่ถ้าดูที่ต้นน้ำบริเวณชายแดนทิเบตแคบสุดประมาณ 30 เมตรจะเห็นว่าต้นน้ำกับปากน้ำมีความแตกต่างห่างไกลกันอย่างลิบลับแม่น้ำแยงซีเกียงช่วงที่ไหลไปรวมกับท้องทะเลเป็นสีโคลนขุ่นขลักและกว้างใหญ่กว่าทะเลสาปหลายแห่ง จนดูไม่ออกว่าเป็นแม่น้ำ [​IMG] โค้งแรกแม่น้ำจินซา ที่ไหลลงมาจากทางทิเบต เลี้ยวจากใต้สู่เหนือตีโค้ง 180 องศา แม่น้ำนี้ไหลไปรวมกับแม่น้ำอีกหลายสายกลายเป็นแม่น้ำสำคัญถือว่าเป็นต้นน้ำไหลลงสู่แม่น้ำแยงซีเกียง แม่น้ำแม่โขงสู่แม่น้ำในสุวัณณภูมิ สุขใด....ไหนจะเทียบในวันนี้ แสนเปรมปรีดิ์เบิกบานหรรษา ได้มาเยือนถิ่นที่ร้างแรมลา ไกลพาราสู่เจ้าพระยาอันร้อนแรง [​IMG] เห็นตะวันเชิงพลบ....บนยอดเจดีย์ เปล่งรังสีแสงพุทธานุภาพเกริกไกร สวมอาภรณ์สีขาวข้ามมายังถิ่นไทย เป็นไฉนจากอารามลงมาเกิดกายวัดตงจู๋หลิน เป็นวัดทิเบตนิกายหมวกเหลืองที่สำคัญที่สุดของยูนานอยู่ห่างจากเมืองจงเตี้ยนประมาณ 105 กม. สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1667มีพระลามะ(หมวกเหลือง) 200 กว่ารูป ตัวอาคารตั้งตระหง่านอยู่หน้าหุบเขาสูง ภายใต้อาคารเป็นเสาสีแดงจำนวนมาก 108 ต้นประดิษฐานพระพุทธรูปจากนครลาซาล สมัยราชวงศ์ถัง รอบ ๆ เป็นกุฏิลามะ [​IMG] พระศรีอาริยะเมตไตรย์[​IMG] [​IMG] พระศากยมุนีพุทธโคดม [​IMG] [​IMG] ภาพมิลาเรปะบนฝาผนังวัด [​IMG] กงล้อธรรมจักร ณ.ที่แห่งนี้ผู้ข้าจักนำ "สังข์กลับ" คืนสู่ดวงตะวันสยาม โปรดสัตว์ทั่วทิศ หวนคืนสู่ถิ่น พ้นเกิด - แดนตายเส้นทางไปเมืองเต๋อชิงจะพบเบญจเจดีย์ระหว่างทาง แลเห็นยอดเขา [​IMG]เหมยลี่ที่มี 13 ยอดเขา มีความสูงเฉลี่ยเกินกว่า 6,740 เมตร ชนเผ่าทิเบตที่นี่ต่างสักการะยอดเขาทั้ง 13 ยอดนี้จากภูเขาหิมะเหมยลี่ ลัดเลาะไปตามขอบภูเขา จะเดินทางไปถึงวัดเฟยไหล อยู่ห่างจากเมืองเต๋อชิง 4 กม. เป็นสถานที่ชมวิวเทือกเขาหิมะ 13 ยอด รวมทั้งยอดเขากาเคโป ที่สูงที่สุดในยูนาน และร่ำลือกันว่าเป็นยอดเขาหิมะที่งามสง่าแห่งหนึ่งของโลก [​IMG]ขบวนม้าคาราวานสู่ยอดเขาธารน้ำแข็งหมิงหย่ง ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำหมิงหย่ง [​IMG]ที่ละลายลงจากธารน้ำแข็ง ธารน้ำแข็งหมิงหย่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดเกิดจากการทับถมของหิมะบนยอดเขากาเคโบ ที่เคลื่อนตัวอย่างช้า ๆจากความสูง 5,500 เมตร ลงมาสู่แม่น้ำแข็ง(river of ice)ที่ระดับความสูง 2,700 เมตร ธารน้ำแข็งหมิงหย่งยาว 11 กม. กว้าง 500 เมตร การทับถมของหิมะหรือในช่วงสภาพอากาศเย็นจัดหยาดน้ำจากฟ้าที่ตกลงในบริเวณยอดเขากาเคโบ จะอยู่ในรูปของหิมะหรือฝนน้ำแข็งจะสะสมรวมตัวกันหนามากขึ้น เกิดการอัดตัวและตกผลึกใหม่ของหิมะส่วนที่อยู่ข้างล่างจะหนืดและค่อย ๆ เคลื่อนที่ลงสู่ที่ต่ำอย่างช้า ๆตามแรงดึงดูดของโลก ลักษณะดังกล่าวเรียกว่า "ธารน้ำแข็ง" [​IMG] ธารน้ำแข็งหิมะชาวคณะต้องขี่ม้า ไต่ภูเขา ขึ้นสู่บริเวณธารน้ำแข็ง เป็นความประทับใจมากที่รอนแรนข้าม 13 ภูเขา ขี่ม้า 2 ชั่วโมงขึ้นเขา ระหว่างทางสามารถมองเห็นภูเขาเหมยลี่อันงามสง่า ม้าจะนำพวกเราขึ้นสู่เขตธรรมชาติดั้งเดิม ไต่ภูเขาสูงลัดเลาะไปตามโขดหินผา ค่อย ๆ ไต่เขาขึ้นอย่างช้า ๆบางช่วงต้องปล่อยม้าเดินขึ้นเองเพราะทางชัน เราเดินไต่เขาตามไปอิ่มเอิบกับภาพธรรมชาติรอบข้าง และมีศิลามณีอยู่สองข้างทางขึ้นภูเขา(ก้อนหินที่ชาวทิเบตจัดตั้งเป็นเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชา) [​IMG] พระอาทิตย์สกาวรุ้งกลางเวหา ภายใต้รัศมีอันอบอุ่นที่สาดส่อง คือความเมตตาของท่าน ดอกบัวแห่งดวงใจของข้าน้อยได้เผยอกลีบออกแล้ววัดโอรสสวรรค์ (วัดเทียนจื่อ) ซึ่งอยู่ช่วงกลางของธารน้ำแข็ง [​IMG]ภายในประดิษฐานเทพเจ้าประจำภูเขา(ขี่ม้าขาว) และรูปปั้นองค์ใหญ่ของ [​IMG]ซองขะปะ หรือคุรุปัทมสมภพ ผู้รวบรวมศาสนจักร อาณาจักร พุทธจักรเข้าเป็นตำแหน่งเดียวกัน เรียกว่า ดะไลลามะ และบอกกล่าวว่า... [​IMG]เมื่อไรที่มียานพาหนะล้อเหล็กเข้ามาบนผืนแผ่นดินนี้ อำนาจสิทธิแห่งศาสนจักร อาณาจักร พุทธจักร จักถูกทำลาย ซึ่งเมื่อภายหลังสมัยดาไลลามะองค์ที่ 13 ภายหลังจากที่ชาวอังกฤษขับรถหลงเข้าธิเบต โลกก็เข้าสู่สภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 และเมื่อเสร็จสิ้นสงครามจีนก็เข้ายึดครองทิเบตนับแต่นั้นเป็นต้นมา [​IMG]วัดโอรสสวรรค์มีองค์พระอริยะอวโลกิเตศวรตรงกลางอกเป็นสังข์กลับเป็นประธาน [​IMG] ชาวคณะขึ้นไปผูกธงชัยบนยอดเขา เป็นพุทธบูชา [​IMG] ผู้พิชิตสู่ธงชัยเครื่องหมายสัญลักษณ์ทิเบตสามารถถ่ายภาพได้ในวันของพระอริยะอวโลกิเตศวรบนยอดเขาเหมยลี่ เป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ผู้ไปเยือนดินแดนแห่งนี้ ทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมชาวทิเบตจึงมีสัญลักษณ์ประจำชาติเป็นเช่นนี้ [​IMG] พระพุทธเจ้าสัมมาวิชชาอันล้ำเลิศ สุดประเสริฐเป็นสรณะถึงโพธิ บุญกุศลสั่งสมธรรมสร้างบารมี อีกศีลดีสำเร็จพุทธโปรดเวไนย์ นโม กูนีไป นโม พุทธายะ นโม ธัมมายะ นโม สังฆายะข้า ฯ และสรรพสัตว์ มีปรากฏ เต็มเวหาฐานบัวขาว ดวงเดือนบน ทูลเหนือเกล้ากำหนดเกิด รหัส "เส้อ"กลางวงเดือนแปลงเป็นองค์ อริยะเจ้า พระกวนอิมบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ห้าสีเจิดจรัสยิ้มสอดส่อง สรรพสัตว์ ให้สงสารพระหัตถ์สี่กร สองกรล่าง ประนมพุ่มสองกรบน หนึ่งถือประคำจุยเจีย หนึ่งปุณฑริก(บัวขาว)มีไหมแพร รัตนะ แต่งทรงเครื่องและหนังกวาง ปิดอก มงกุฏสรวมพระมงกุฏ รัตนะ งามวิจิตรพระกวนอิม ทรงนั่งขัด สมาธิ์เพชรหลังพักพิง วงดวงเดือน วิสุทธิกำหนดเพ่ง นิมิตนี้ เห็นเด่นชัดนี่แหละคือ สัจธรรม สรณะคาถาอัษฏบูชา (ถวาย 8 สิ่งบูชา สวด 7 จบ) อ้ง วอกาน ปาตัง ปูเป ตูเป วูดูเกเกนเต เลเวาเต ซาตา จาติจะโฮง ซอฮาบัดนี้ข้า ฯ นบนอบเคารพอภิวันท์พระกวนอิมอริยะมิบกพร่องผิวพรรณผุดผ่องบริสุทธิ์เหนือเศียรประดับองค์พระพุทธพระเนตรการุณสอดส่องสัตว์พระกรุณาธิคุณช่วยหลุดพ้นสรรเสริญดั่งนี้พร้อมเสร็จสรรพวรกายพระอริยะเปล่งจรัสอุปทานโสมมลักษณ์พลันสลายให้สำเร็จสุขาวดีพุทธเกษตรกรรมสามกายวาจาใจสรรพสัตว์เป็นกรรมสามโพธิสัตว์ได้สมหมายรูปเสียงธุลีธรรมสูญว่างเปล่าสรรพสิ่งมิแตกต่างดั่งนี้แล คาถาหัวใจ อ้ง มา นี แป แม โฮ่ง (เส้อ) คำอธิษฐาน ปรารถนาจิตอำนาจกุศลนี้กุศลข้า ฯ สำเร็จองค์กวนอิมโดยฉับพลัน โปรดให้ทั่วสรรพสัตว์ทุกตัวตน มหาอธิคมปกรณ์วัชระจงบังเกิด สำเร็จผลเท่าฐานะพระกวนอิมผู้ข้า....ขี่ช้างเผือกข้ามแดนสู่สยามละจากอารามที่ถูกเผาผลาญอัคคีเปลวไฟความทุกข์ขี่ช้างคือใจอันประเสริฐมาอย่างมหาเมตตาตามคำทูลขอเหล่าอาภรณ์สีขาวล้วนภายใต้ดวงตะวันสยามอันอบอุ่นบนกูบหลังช้างมีเพียงหยู่อี่เพื่อเป็นพรประเสริฐสู่ป่าคอนกรีตยังที่ราบลุ่มอันรุ่มร้อนและเหนื่อยล้าที่กำลังภินท์วินาศย่อยยับเพราะสงครามเศรษฐกิจและคนของเขาเองจากยอดภูผาถึงตึกระฟ้าจากหุบเขานานาที่ย่ำมาแสนนานถึงพื้นที่...ที่ราบ..ลุ่มดอนผู้ข้า.....จักเป็นกำลังใจคืนสู่แดนวิสุทธิ์เทอญ</PRE></TD></TR></TBODY></TABLE></P>
     
  2. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#999900>ทิเบต</TD></TR><TR><TD>
    ทิเบต [​IMG]ทิเบต ....เป็นพื้นที่ชายแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจีนมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศอินเดีย , เนปาล , สิขิม , ภูฐานและพม่ามณฑลอื่นของจีนที่อยู่ติดกับธิเบต ประกอบด้วย ....ซินเกียง , ชิงไห่ , เสฉวน และ ยูนานทิเบต...เป็นเขตปกครองตนเอง ตั้งแต่วันที่ 9/9/1965(พ.ศ.2508)ทิเบต มีพื้นที่ 1 ใน 8 ของประเทศจีนทั้งประเทศ หรือราว 1.2 ล้าน-ตารางกิโลเมตรเศษ ประชากรมีเพียง 1.99 ล้านคน(ข้อมูลพ.ศ.2508)เฉลี่ยความหนาแน่นต่อประชากร คือ 1.6 คนต่อตารางกิโลเมตรประชากร ประกอบด้วย...ชนเผ่าทิเบต , ฮั่น , เหมินปา , เก๋อปา และชนเผ่าอิสลาม [​IMG]ทิเบต...ได้ชื่อว่าเป็น "หลังคาโลก" ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลระดับ 4,000 เมตรขึ้นไป ทางด้านใต้จะเป็นเทือกเขาหิมาลัยซึ่งมียอดเขาสูงถึง 7,000 เมตรขึ้นไป อยู่ 40 - 50 ลูกโดยมียอดเขาเอเวอร์เรสต์ เป็นยอดเขาสูงที่สุด ความสูง 8,848 เมตรสภาพอากาศจะหนาวเกือบทั้งปี เรียกว่า...แทบจะไม่มีฤดูร้อนตลอดปีช่วงไม่มีหิมะอยู่ประมาณ 4 - 5 เดือนเดือนสิงหาคมนับว่าเป็นเดือนที่เหมาะกับการท่องเที่ยวที่สุด อากาศเย็นสบายเฉลี่ยประมาณ 16 - 25 องศาเซลเซียสเมืองหลวง คือ.....นครลาซาล เป็นภาษาพื้นเมือง แปลว่า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีประวัติความเป็นมากว่า 1,300 ปี ปัจจุบัน ลาซาล..เป็นศูนย์กลางการปกครองเศรษฐกิจ และ วัฒนธรรม ประชากรราวแสนเศษการเตรียมตัวไปทิเบต เนื่องจากชาวทิเบตอยู่ในที่ราบสูง ขณะที่ชาวไทยอยู่ในที่ราบลุ่มเม็ดเลือดชาวทิเบตใหญ่กว่าชาวไทย 3 เท่า เท่ากับว่าชาวไทยต้องการหายใจเอาอากาศอ๊อกซิเจนมากกว่าชาวธิเบต 3 เท่าฉะนั้นเมื่อไปถึงทิเบตจะมีอาการถูก "น๊อค" หรือสภาพ "นกปีกหัก"อาการเหมือนเข้าฌานสมาบัติ คือ นั่ง - นอน นิ่ง ๆ ไม่พูด และกินไม่ลงเพราะอากาศที่เบาบาง ทำให้ได้อ๊อกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอนั่นเองจึงจำเป็นต้องเตรียมตัวเตรียมร่างกายให้ปรับสภาพเข้าสู่ที่ราบสูง คือ1.ทานยาสมุนไพรขยายหลอดเลือดซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปตามสถานที่ท่องเที่ยวทิเบตหรืออาจจะให้บริษัททัวร์ทางทิเบตจัดส่งมาให้ลูกทัวร์ทั้งหลายซึ่งต้องกินล่วงหน้าก่อนไปเที่ยวอย่างน้อย 5 วัน หรือ2.หรือเปิดจุดลมปราณขึ้นสู่สมองให้เต็มที่ โดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องปราณ3.เมื่อไปถึงหากมีอาการขาดอ๊อกซิเจน สามารถหาซื้อกระป๋องอ๊อกซิเจนพกติดตัวไว้สูดหายใจ เพื่อลดอาการมึนศีรษะ หายใจลำบาก4.เวลานอน ใช้บริการหมอนอ๊อกซิเจนเปิดหายใจนอนสบาย ๆ เปิดน้ำทิ้งไว้ในอ่างอาบน้ำ ลดความแห้งของอากาศ หรือใช้ลิปมันทารูจมูก ป้องกันอาการเลือดกำเดาจมูกไหล(ราคา 20 หยวนต่อหมอนอ๊อกซิเจน)5.เวลารับประทานอาหารให้กินกับข้าว สำหรับข้าวหรือประเภทแป้งให้ทานน้อยที่สุด ถ้าเป็นไปได้ให้เป็นข้าวต้มดีกว่า เพราะเวลาย่อยแป้งจะอึดอัดมาก ด้วยต้องใช้อ๊อกซิเจนมากกว่าอาหารอย่างอื่นโดยเฉพาะเมื่อทานเสร็จแล้วไปเที่ยวขึ้นบันใดหรือที่สูงจะรู้สึก "น๊อค"รับประทานอาหารให้อิ่มประมาณ 70 - 80 % ก็พอ(ถ้าปฏิบัติตัวตามคำแนะนำจะสบายมากทั้งไปทิเบต และเมื่อกลับจากทิเบต)สถานที่น่าสนใจในทิเบต ประกอบด้วย.......... [​IMG]วังโปตาลา ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้วพระราชวังโปตาลา ตั้งอยู่บนยอดเขาแดง ความสูงประมาณ 117 เมตร [​IMG]พระราชวังโปตาลาเป็นอาคารสูง 13 ชั้น ยาว 400 เมตร กว้าง 350 เมตร [​IMG] [​IMG] [​IMG]มีห้องต่าง ๆ เกือบ 1,000 ห้อง เริ่มสร้างเมื่อคริสศตวรรษที่ 7 โดยกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รวบรวมทิเบตให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้สำเร็จ คือ กษัตริย์ชงเซิน กัมโป (Songtsen Gampo) แรกเริ่มเพียงจะสร้างเป็นตำหนักให้แก่มเหสีชาวจีนและชาวเนปาลของพระองค์เอง ต่อมาทรงใช้ป้อมแห่งนี้เป็นสถานที่ในการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า จนกระทั่งสมัยเปลี่ยนการปกครอง เป็นพระเป็นผู้ปกครองประเทศปัจจุบันนี้ส่วนก่อสร้างเดิม 2 หลังนี้ยังคงเหลือให้เห็นอยู่ท่ามกลางสิ่งก่อสร้างใหม่ที่ต่อเติมในยุคหลัง อาคารที่ต่อเติมในช่วงหลังนี้ ส่วนหลัก ๆ สร้างในสมัยของ [​IMG] [​IMG] ดาไล ลามะ ที่ 5 ประมาณ ปี พ.ศ. 2188-2236 (องค์ดาไลลามะ องค์ปัจจุบันคือ องค์ที่ 14)เพื่อให้เป็นพระราชวังฤดูหนาว พระราชวังโปตาลาแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนของพระราชวังสีขาว, สีแดง และส่วนเชื่อมที่เป็นสีเหลือง พระราชวังสีขาว เป็นส่วนของสังฆาวาส พระราชวังสีแดงเป็นส่วนพุทธาวาสสำหรับใช้ทำกิจของสงฆ์ และบรรจุพระศพขององค์ดาไลลามะ (ดาไล ลามะองค์ที่ 5,7,8,9,10,11, 12 และ 13) และห้องสมุดที่ใช้สำหรับเก็บพระไตรปิฎกทั้งหมดพระราชวังฤดูร้อน สร้างขึ้นราว ค.ศ. 1840 [​IMG]โดยดาไลลามะองค์ที่ 7 เป็นสวนหลอปู้หลินข่า ซึ่งเป็นภาษาทิเบตแปลว่า...สวนป่าล้ำค่า ต่อมาใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนของดาไลลามะองค์ต่อ ๆ มา โดยแต่ละองค์จะมาประทับที่นี่ช่วงเดือน 4 ถึงเดือน 9 เพื่อประกอบภารกิจต่าง ๆ ที่นี่ปัจจุบันเปลี่ยนสถานะมาเป็นสวนสาธารณะสำหรับประชาชนซึ่งจัดเป็นสวนที่มีเอกลักษณ์พิเศษที่สุดของนครลาซาล วัดต้าเจาซื่อ ที่เจ้าสงจั้นกันปู้เป็นผู้รวบรวมทิเบตเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวในคริสต์ศตวรรษที่ 7 และได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงถังเหวินเฉินเจ้าหญิงชาวฮั่น ได้ทรงสร้างวัดนี้ขึ้นในใจกลางเมืองลาซาล ผ่านการบูรณะซ่อมแซมมาหลายราชวงศ์ด้วยกัน จนกลายเป็นหมู่สถาปัตยกรรมใหญ่โต ประกอบด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมของราชวงศ์ถัง,เนปาล และอินเดีย [​IMG]ที่ตำหนักกลางจะมีองค์พระศากยมุนีพุทธเจ้า เมื่อครั้งพระชนม์12 พรรษาเป็นองค์ชุบทองที่พระราชธิดาเหวินเฉินแห่งราชวงศ์ถังนำมาจากเมืองฉางอัง ให้สาธุชนกราบไหว้บูชาวัดเสี่ยวเจาซื๋อ [​IMG] พระศรีอาริยะเมตไตรย์ชาวคณะเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล และตั้งเครื่องบัวบูชาองค์พระศรีอาริยะเมตไตรย์ คณะสงฆ์ลามะเจริญพุทธมนต์มงคลพิธีและคณะสงฆ์ถวายมนต์อัษฏมงคลบูชาและปั้นแป้งจัมปาเมื่อเสร็จพิธีฉันแป้งจัมปา กับนมจามรีต้มเนยวัดเจ๋อปังปา อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองลาซาล [​IMG]ห่างจากตัวเมืองประมาณ 50 กม. สร้างขึ้นกลาง ค.ศ.ที่ 7สร้างอยู่บนหน้าผา เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของเหล่าลามะผู้ใหญ่(ชั้นสูง)ตามตำนานกล่าวว่า ในอดีตสถานที่นี้มีถ้ำอยู่ถึง 108 แห่งแต่ปัจจุบันเท่าที่พบเห็น มีเพียง 10 กว่าแห่งเท่านั้น [​IMG] พระอาทิตย์ทรงกลดเจิดจรัสกลางเวหาชาวทิเบต จะไม่นิยมกินปลากัน หรืออาจจะเรียกว่า....ไม่กินที่ไม่กินเพราะ ไม่ใช่ว่าธิเบตไม่มีปลา แต่เป็นเพราะเกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมฝังศพพิธีการฝังศพของชาวทิเบต มี 5 แบบ คือ........1.การสร้างเจดีย์เก็บศพ ลักษณะเหมือนใส่โกฏิแบบไทย2.การฝังศพลงดิน3.การเผาศพด้วยไฟ4.การฝังศพลงน้ำ...โดยแล่เนื้อศพที่ผ่านพิธีกรรมทางศาสนาแล้วให้เป็นชิ้น ๆแล้วโยนลงน้ำเป็นอาหารของปลา5.การฝังศพขึ้นฟ้า โดยการเอาศพไปตั้งบนยอดเขาสูง หลังพิธีกรรมทางศาสนาผ่านไป ก็จะแล่เนื้อศพ แล้วโยนขึ้นฟ้าไปคนละทิศละทาง โดยเชื่อว่า.......บนที่สูงจะใกล้สวรรค์ (นกอีแร้งจะมากินศพจนหมด)เมืองเฉิงตู ประเทศจีนวัดพระมัญชุศรี หรือเหวินสูเย่น เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์สุย มีพื้นที่ 11,600 ตารางเมตรภายในวัดจะมีห้องหับต่าง ๆ ถึง 200 กว่าห้อง มีพระสงฆ์พำนักอยู่ราว 60 รูปปัจจุบันเป็นที่ทำการของพุทธศาสนาสมาคมแห่งมณฑลเสฉวนวัดพระมัญชุศรีเป็นศูนย์รวมศิลปะโบราณวัตถุมากมาย เฉพาะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งไว้ให้สาธชนกราบไหว้บูชา ก็มีอยู่ประมาณ 300 กว่าองค์ทั้งเล็กและใหญ่ มีส่วนที่หล่อจากโลหะและทองเหลือง แกะสลักจากไม้ปูนปั้น มีทุกยุคทุกสมัย และมีพระหยกจากพม่าองค์หนึ่งซึ่งพระสงฆ์รูปหนึ่งของวัดพระมัญชุศรีนามว่า...ซิ่งหลินได้เดินทางด้วยเท้าเปล่า บอกบุญไปตลอดทาง ตั้งแต่พ.ศ. 2465จนถึงพม่า และได้อัญเชิญองค์พระหยกกลับมา นับเป็นพระพุทธรูปที่ทรงคุณค่ายิ่งนอกจากนี้ที่หอคัมภีร์ ยังรวบรวมพุทธคัมภีร์ไว้มากมายกว่า 10,000 ฉบับซึ่งรวมถึงพระสูตรไภษัชคุรุ และคัมภีร์วัชรสูตรที่เฉียนหลงฮ่องเต้ได้พระราชทานให้ได้เข้าชมของสำคัญอีกมากมายที่เก็บรักษาไว้ที่นี่ -พระคัมภีร์ต้นใบหอยจากอินเดียที่พระอาจารย์หมิงควงอัญเชิญมาจากอินเดีย [​IMG] กะโหลกของพระถังซำจั๋ง-กะโหลกของพระถังซำจั๋ง พระภิกษุรูปแรกของจีนที่เดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่ชมพูทวีป กลับมายังประเทศจีน-กระบอกเก็บคัมภีร์ทองคำจากญี่ปุ่นของสมัยราชวงศ์ถัง-รูปชักไหมของพระมัญชุศรี เป็นงานฝีมือดึงเส้นไหมออกจากผืนผ้าซึ่งทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง-รูปปักพระมัญชุศรี ด้วยเส้นผม ฝีมือละเอียดและสวยงามมาก-จีวรพันพุทธะ ที่ปักอย่างละเอียดงดงามในสมัยฉงเจินฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หมิง อายุ 300 ปีเศษ ยังคงสภาพสมบูรณ์มากวัดเป่ากวงซื่อ อยู่ห่างจากนครเฉิงตู 19 กม.เป็น 1 ใน 4 มหาพุทธอารามของจีน สถานที่นี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก [​IMG]พระเจดีย์เอียง 13 ชั้น บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 13 องค์ [​IMG] พระหยกขาว [​IMG]พระสถูปหิน 3 ชั้น บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 3 องค์ [​IMG]รูปภาพมังกรใน Wen Ben Hall ห้องรับแขกของเจ้าอาวาส [​IMG]ตำแหน่งนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก สะท้อนมิติสุขาวดีพุทธเกษตรซ้อนในรูป และปรากฏแสงสกาวออกมา น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก [​IMG]สถูปทองคำบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 2 องค์เมื่อเจริญพุทธมนต์ปรากฎพระสถูปตรงกลางเรืองแสงออกมาวิหารพระอรหันต์ 500 องค์ [​IMG]</PRE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,403
    ขอบคุณครับ
     
  4. littleweb

    littleweb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +1,355
    มีคนเคยดูให้ บอกว่าชาติที่แล้วมาจากเขาไกรลาส จะมีบารมียิ่งใหญ่ มีชื่อเสียง ถ้าอยู่ในชุดขาว ไม่รู้จิงป่าว เพิ่งรุ้ว่าเขาไกรลาสอยู่ทิเบต.....เหอๆ
     
  5. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620
    ...

    เขาไกรลาส [​IMG]


    แหล่งพลังงานเทวะ อันเข้มข้นบนโลกมนุษย์


    ตำนานแห่งมหาเทวะ แห่งแดนภารตะ องค์ศดาศิวะ


    เมื่อไปเยี่ยมเยือน ผู้มีตาดี สัมผัสดี ย่อมรู้ว่าเป็นเช่นไร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. omega

    omega เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +440
    โมทนาครับ ได้ความรู้ดีๆอีกแล้ว
     
  7. Chayaporn

    Chayaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +4,641
    ขอบคุณนะค่ะ ที่นำข้อมูลดีๆมาให้อ่าน
    เพิ่งไปเที่ยวแชงกรีล่าเมือนเดือนที่แล้ว สวยมาก
    ได้เห็นยอดเขาเหมยลี่ แค่แว๊ปเดียว เมฆก้อมาบัง
    ไม่มีเวลาเฝ้าดู จำต้องจากไปอย่างอาลัย
     
  8. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,496
    เอาบทเพลงมาประกอบ..เพื่อบรรยากาศ..แบบธิเบตนะจ๊ะ..พี่โอม


    <EMBED id=music pluginspage=http://microsoft.com/windows/mediaplayer/en/download/ src="" width=320 height=67 type=application/x-mplayer2 loop="true" autostart="true" showstatusbar="-1" showcontrols="true"></EMBED>
    <INPUT id=song1 onclick=document.all.music.filename=document.all.song1.value; type=radio value=http://www.palungjit.org/club/uploads/st_Mahakarunataranee.wma name=Music>บทสวดจากทิเบต..มหากรุณาธารณีสูตร
     
  9. UFO99

    UFO99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2005
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +983
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ ถึงผมจะอ่านคร่าวๆ แต่ได้ดูภาพก็ปลื้มใจแทนครับ สาธุ
     
  10. hexidecimal

    hexidecimal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +1,637
    เจ๋งจริงๆ น่าไปมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2005
  11. อนันตรา

    อนันตรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +325
    ทิเบต-เขาไกรลาส-แชงกรีลา/แหล่งพลังงานจิตเข้มข้นอีกแห่งบนโลก

    ปลื้มใจแทนผู้ที่ได้ไปเยือนจริงๆค่ะ ขออนุโมทนาด้วยใจจริง
    "โอม มณิ ปัทเม หุม หะริ"[b-wai]
     
  12. LingLek

    LingLek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +203
    นู๋อยากวาสนาได้ไปเห็นบ้างจัง...
     
  13. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620
    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...