ในทางพุทธ ทราบกันดีกว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จึงเน้นสอนให้ทำปัจจุบันให้ดี อย่าไปคิดถึงอดีต
ดังท่านอาจารย์กล่าวว่าโลกเรายุติธรรมเสมอ บารมีเก่าสำคัญมากแทบจะ ร้อยละ 90 ของสิ่งที่เป็นผลในปัจจุบันและอนาคต
ผู้ใกล้ชิดพระกรรมฐานวิปัสนามาแล้วย่อมทราบดีว่าท่านเน้นสอนให้ภาวนา และเข้าใจ ทำใจกับกรรมที่เรารับไว้ หากเราไปหวังให้ชีวิตดีขึ้น เลื่อนฐานะชีวิต ก็จะมีแต่คำสอนว่า "อย่าคิดถึงอนาคต ทำปัจจุบันให้ดี"
แม้คำว่าดวงชะตา พระสายปฏิบัติหรือพระอริยเจ้าก็จะบอกว่า นั่นเป็นคำของ พราหมณ์ พุทธมีแต่เรื่องกรรม
จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจและตีความได้สั้น ๆ ว่า ถ้าปัจจุบันดีอนาคตก็ดี ทำใจยากนะครับ กับการยอมรับกรรมในแต่อดีต
การมีโชคลาภก้อนใหญ่ พระก็จะสอนว่า มาจากบารมีเก่าล้วน ส่วนบารมีใหม่ก็รอผลตอบรับกันต่อไป.....
ดังนั้นหากเราได้พระเครื่องวัตถุมงคลจากพระอริยเจ้าก็ทำใจไว้เลยครับ ว่าไปตามวาระกรรม ดังผู้ที่ห้อยมายาวนานคงทราบผลดี หากมีโชค ก็มาจากบุญเราเอง ท่านสอนว่างี้นะ
นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (นิมิตรอัศจรรย์...รุ่นครอบจักรวาล)
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย konun88, 20 มิถุนายน 2016.
หน้า 70 ของ 264
-
-
พระผงเจ้าสัวได้เข้าสู่กระบวนการเสกแล้ว จากคืนนี้ไป
และพรุ่งนี้เข้าเพ็ญพุธแล้ว มีการตักบาตรเที่ยงคืน ท่านปรมาจารย์จะขอบารมีพระอุปคุตจากกำลังเพ็ญพุธในงานตักบาตรเที่ยงคืนมาด้วย
-
สาธุ....อนุโมทนากับงานสร้างพระเจ้าสัวครั้งนี้ เป็นอย่างยิ่งครับ และยินดีกับทุกๆท่านที่จองบูชาทัน.......
-
พระผงทั้งหมดถึงมือท่านปรมาจารย์แล้ว จะเริ่มการเสกตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไปครับ และด้วยระยะเวลาอันยาวนานเดือนนึง จึงจะเชิญครูบาอาจารย์ท่านอื่น ๆ ที่เรียนมาทางด้านการ ผันดวง ย้ายชะตา มาร่วมเสกด้วย โดยแล้วแต่การพิจารณาของท่านปรมาจารย์ เพราะต้องการความแตกต่างจากทุก ๆ รุ่นที่สร้างมา
ดังกล่าวไปว่าใช้ด้านร้ายปราบศัตรูหมู่มารก็ได้ตามใจ ฝอยของตำราแต่จะไม่ขอบอกวิธีการใช้ ซึ่งเชื่อว่าหากนำไปอาราธนายึดเหนี่ยวจะเห็นผลได้เองครับ
การเสกแบบชุดสุดท้าย (ชุดนะครับ) จะนำภาพมาให้ชมหลังเสร็จสิ้นตามฤกษ์ยาม ซึ่งตอนนี้ขอปิดเป็นความลับแบบสุดยอด เพื่อป้องกันโดนก่อกวนอีก
จะเสร็จสิ้น เมื่อใดจะแจ้งภายหลังครับ แต่เป็นฤกษ์ยามที่ดีที่สุดในการอัดพลังแน่นอน ชนิดที่ รอคอยไปแล้วคุ้มค่าแก่การรอคอย ....
-
ได้สอบถามความคืบหน้าการลงพระเจ้าสัวเรา ท่านบอกสุดยอดจริง เพิ่มเติม ได้ลงวิชาสำคัญ ๆ ดังนี้ ซึ่งเป็นความรู้ใหม่
1. พระคาถาพระเจ้าข้ามโลก บันทึกในตำราเก่า เป็นเคล็ดว่าข้ามอุปสรรค วิชานี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ทำเป็นเครื่องรางก็ได้
2. พระคาถาพระเวสสันดรเข้าเมือง ท่านอธิบายว่า พระเวสสันดรเจออุปสรรคมากมาย กว่าจะบำเพ็ญบารมีสำเร็จ อ้างอิงตำนานเชิญพระเวสสันดรกลับเข้าเมือง คือผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ นานาแล้ว พระคาถานี้ท่านปรมาจารย์จึงเห็นควรนำลงพระชุดเจ้าสัวนี้
สิ่งที่น่ายินดีคือครูบาอาจารย์ตั้งใจลงให้เต็มที่ และยาวนาน ๆ ทุกวัน ตามตำรา และมิใช่เสกมั่ว ดังที่ผมได้พบเห็นมา
เรียนท่านแล้วว่าเต็มที่เลยครับ เน้นด้านผ่านพ้นอุปสรรค พลิกดวง พวกเมตตาอะไรไม่ต้องลงหรอกครับ 555 เอาเฉพาะทางไปเลย
-
เพื่อฆ่าเวลาในการรอพระเจ้าสัวลงพลังให้เสร็จ จึงเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเป็นความรู้ใหม่ ท่านใดไม่เชื่อถือว่าอ่านนิทานสนุก ๆ ครับ
บางเรื่องเคยเล่าไปแล้วในอดีตถือว่ารื้อฟื้นใหม่ ......
ดังเคยกล่าวไว้ ว่าการช่วยคนแบบแอบ ๆ ของเหล่าปรมาจารย์สายโหด สายบู๊ ซึ่งผมเองก็ได้พบสมัยเรียนกับหลวงปู่ประหยัดในสายหลวงปู่โน
การรับช่วยผู้อื่นที่โดนคนอื่นจองเวรจองกรรมมา เสมือนเอาตัวเราไปรับอาวุธแทน จึงต้องเตรียมใจรับด้านนี้ ซึ่งอาจารย์ใหญ่สายผม ก็ได้เตือนไว้แล้วตามเล่าไปที่ได้คุยกับท่านไว้ วันก่อน
อาจารย์ใหญ่ที่ผมกล่าวคือวัดที่ผมไปบวชปี 2549 ครับไม่ใช่หัวหน้าเซลแมนที่ผมพูดถึงบ่อยๆ นะ นั่น เสี่ย ว.เจอฤทธิ์ไปแล้วคุยจนเจ็บหู 2 ชม.ไม่ได้สาระอะไรเลยเจอแต่คำคุยอวด จน QC ผมยังเอือมระอาไป (ทุกคนมีแต่เอือมระอา ยกเว้นหัวหน้าเซลมีแต่ความมันได้โม้ข่มชาวบ้านเล่น)
การรับช่วยผู้อื่น แล้วต้องเจอเจ้ากรรมนายเวรเขามาตามรังควานต่อ เหมือน คน 2 คนทะเลาะกันละครับ เราไปห้ามทัพแล้วช่วยฝ่ายเรา แน่นอนอีกฝ่ายย่อมหมายหัวเรา ในศัพท์ของ ปรมาจารย์ฝ่ายบู๊ เรียกว่า รับงานแล้ว
การดวลกันจึงเกิดขึ้นในเวลาต่อมา คำว่าดวล คือสู้กันทางจิตนะครับ ดังจะเล่าสนุก ๆ ดังนี้
วันก่อน ผมโทรไปเมาท์ ท่านปรมาจารย์เล่าว่า "เมื่อคืนอาจารย์เลือดสาด"
ฮ๊า เกิดอะไรขึ้นครับ ท่านเล่ามาดังนี้ (โปรดสังเกตุการแก้ปัญหาของท่าน)
"มีกลุ่มควันลอยมา แถวหลอดไฟ อาจารย์ก็สงสัยนึกว่าแมลงอะไร เอามือไปปัด เหมือนเจอมีดโกน เลือดพุ่งออกจากมือเลย จากนั้น ก็เข้าใจว่าคืออะไร รีบหากระโถน วิ่งตามไปครอบกลุ่มควันไว้ จากนั้น เอาเท้าเหยียบไว้ แล้วภาวนาคาถา กำหนดจิต เอาเท้าพลิกกระโถน แล้วกำหนดจิตตามกลุ่มควันนั้น ขณะตามไปจะดูที่มาว่าใครมาล่อเรา จากนั้นมีมือที่ 3 เก็บกลางทางหายไร้ร่องรอย"
ผมถามเหตุการณ์ที่ท่านทำ ได้ใจความสำคัญดังนี้
1. กลุ่มควันลอยมาคือ ที่เราเรียกลมเพลมพัดหรือการปล่อยกลุ่มพลังงานทางจิตมามุ่งร้าย แต่ยังวนไปวนมาให้เห็น เพราะหาจังหวะเข้าตัวเรา
2. เมื่อเอามือไปปัดเลือดไหลออกมาเลย แสดงว่าเป็นพลังงานแนวคมมีด
3. เมื่อได้สติ รีบเอากระโถนครอบ เพราะกระโถนเป็นเคล็ดเราถ่มน้ำลายของเสียลง
4. จากนั้นใช้เท้าเหยียบภาวนาคาถาเพื่อจะตามรอยแล้วใช้เท้าพลิกกระโถน
5. กำหนดจิตตาม แล้วโดนมือที่ 3 เก็บ ท่านบอกเหตุการณ์มุ่งร้ายต้องมีมือสำรองคอยรับเก็บกลางทางเสมอ เหมือนมือปืนไปยิงจะมี อีกคนคอยระวังหลังให้
ถามท่านถ้าหากระโถนไม่ได้ละ ท่านบอกใช้ไม้กวาด ผู้เล่นอาคมจะมีไม้กวาดใกล้ตัวเสมอคอยปัดของพวกนี้....
-
เคสล่าสุดไม่กี่วัน ที่ท่านช่วยนายเจี๋ยมเจี้ยม (เป็นศัพท์เฉพาะ เพราะงานแบบนี้จะเรียกคนโดยใช้สัญลักษณ์ ท่านบอกกันสายสืบศัตรูมาแอบฟัง 555)
ขณะท่านทำธุระ อยู่ ๆ ท่านสัมผัสได้ว่า ขันครูด้านซ้ายสั่น ท่านจึงไปในห้องนอน ไปดูปรอทกรอ....
ปรอทกรอ หรือมะปล่อย(ทางเหนือเรียกมะปล่อย) เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่ง ที่คนโบราณมักฝังไว้ในโบสถ์ จะสั่นเตือนได้
นักเล่นอาคมจะมีติดตัวไว้ หากมีภัยร้ายจะสั่นเตือน (คล้ายๆ เบี้ยแก้ที่ว่าสั่นเตือนนะครับ)
ท่านปรมาจารย์ฝ่ายบู๊ ไปดูมะปล่อย ก็จริงเห็นสั่น ๆ ท่านยังคิดแง่ดีหรือว่าแผ่นดินไหว แต่กำหนดจิตดูแล้ว อ้อ มีคนตามรอยท่าน 555
ท่านจึงหยิบตะกรุดฟ้าสะท้านอาราธนาบารมีครูบาอาจารย์ กำมือแน่น เอาทุบพื้นทันที ผลปรากฎ การสั่นของปรอทเงียบไป ท่านว่า "นึกว่าแน่"
-
การปั้นหุ่น เราคงเคยได้ยินคำว่าเอาดินป่าช้ามาปั้นหุ่น ซึ่งก็แล้วแต่สูตรสำเร็จ
ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งเคยเล่า ดินป่าช้าที่ดีที่สุดคือดินหน้าจอบ หมายถึงตั้งสัจจะอธิษฐาน เอาจอบขุดดินแล้วสะบัด ดินที่ติดอยู่ที่จอบหลังสะบัดไปแล้วนั่นละดีที่สุด
ผมถาม "อ้าว ดินไม่หลุดหมดเหรอสะบัดจอบแล้ว" ท่านว่า "ถ้าตั้งสัจจะอธิษฐานไปแล้วจะไม่หลุดหมดนะ ดินที่เหลือนั่นละดีมาก"
จากนั้นก็นำมาปั้นหุ่น เขียนชื่อศัตรูอะไรแล้วแต่สูตรครับ เขาไม่บอกมา 555 จากนั้นแล้วแต่เลยจะทำอะไร แช่ตู้เย็น ศัตรูก็จะหนาวสั่น 555 ไปเผา ก็ดูการแตกของหุ่น หากแขนหาแตก ศัตรูก็จะเจ็บแขนขา หากดีที่สุดคือหุ่นระเบิดนั่นละ ศัตรูเตรียมจองวัดได้เลย...
เล่าเป็นความรู้สนุก ๆ นะครับ ... เพราะเราไม่รู้วิธีทำกันหรอกครับ ...
-
ดังจะเห็นได้ว่า เครื่องรางยุคหลัง โดยเฉพาะตะกรุด นับว่าใช้ได้รอบด้าน ดังท่านกล่าวไว้ "ผู้มีปัญญาพึงจะใช้ เราจะรู้ได้เองว่าใช้ยังไง ควรใช้อะไร"
ดังที่ท่านบอกล่าสุด เคสนายเจี๋ยมเจี้ยม หยิบตะกรุดฟ้าสะท้านดินสะเทือน อธิษฐานขอบารมีครูบาอาจารย์กำใส่มือ ทุบดิน จบ ปรอทกรอ(มะปล่อย) ขันครูที่สั่นเงียบ
การเตือนของครูบาอาจารย์มีหลายรูปแบบครับ ดังเช่น อยู่ หงุดหงิด ๆ ก็มี ก็จับอาการสัญญาณ สื่อกับครูบาอาจารย์ให้ได้ ว่าใครบังอาจมาล่อเรา
พอรู้เป้าหมาย ก็จัดเลย ไม่นาน หากศัตรูอริรู้ตัวจะรีบมาขอขมา เพราะถ้าไม่ขอขมา ก็เตรียมมีเวรกรรมต่อกันได้เลย... ท่านบอกหากเขาขอขมาก็ต้องรับ จบ... จะได้ไม่มีกรรมสืบเนื่องกัน
-
เลี่ยมเสร็จแล้วครับ เตรียมหาสร้อยคอคล้องชุดนี้ต่างหากครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
Pirates Of Arabia เป็นที่รู้จักกันดี
-
-
ของเสี่ยท่านนึงส่งมาโชว์ครับ
สุดจัดปลัดบอก
-
สาธุ
-
ที่ปรึกษาเล่าว่า มีวันหนึ่งท่านปรมาจารย์มาหาที่ปรึกษา บอกว่า "ครูบาเรียก" ซึ่งเป็นเรื่องแปลก เพราะตอนนั้นครูบาข่ายอาการไม่ค่อยดีมากแล้ว หากจะเรียกใครก็ต้องผ่านที่ปรึกษาในฐานะศิษย์เอก
ที่ปรึกษาจึงพาท่านปรมาจารย์ไปหาครูบาข่ายในห้อง
ครูบาข่ายบอกว่า "มาแล้วเหรอ ทำไมมาเร็วจัง"
หลังจากนั้น ที่ปรึกษาหลีกทางออกมาจากห้อง ให้ครูบาข่ายกับท่านปรมาจารย์คุยกัน 2 ต่อ 2 แบบลับ ๆ ๆ
พอเสร็จท่านปรมาจารย์ยิ้มออกมาเลย
ที่ปรึกษาเล่าครูบาได้ถ่ายทอดไม้ตายลับลวงพราง ชนิดที่คาดไม่ถึงเป็นแน่ เพราะตอนนั้นที่ปรึกษายอมรับว่ายังไม่แก่กล้าพอ กำลังยังไม่สูง
ต่อมาที่ปรึกษาจึงได้ไปศึกษากับท่านปรมาจารย์เพิ่ม
และได้ทราบว่า วิชาหลัก ๆของครูบาสุข ผู้เป็นปรมาจารย์อีกท่านที่ถ่ายทอดให้ศิษย์เอกท่าน ซึ่งต่อมาศิษย์เอกท่านก็สนิทกับท่านปรมาจารย์มาก ซึ่งต่อมาศิษย์เอกครูบาสุขก็ได้ละสังขารไปแล้ว
วิชาทั้งหมดในสายครูบาสุข จึงตกมาถึงท่านปรมาจารย์อีก
จึงนับว่า สมกับที่ปรึกษายกย่องว่าท่านเป็น "หนึ่งในตองอูอย่างแท้จริง"
-
การเสกปฐมฤกษ์ วันเพ็ญพุธ ที่ผ่านมาของท่านปรมาจารย์ ทราบว่าขณะเริ่มเสก เกิดลมพายุพัดฟ้าร้องฟ้าผ่า ที่ปรึกษาเล่าว่านึกว่าจะไม่ได้เทถนนซะแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไร
และการเสกปัจจุบันก็ลงตามลำดับขั้น โดยท่านปรมาจารย์แบบเต็มกำลัง รอการเสกปิดท้าย วันสำคัญที่ขอไม่บอก กันมารมาก่อกวน
ทราบจากศิษย์ท่านปรมาจารย์ฝากมาบอกว่า "ใครพลาดชุดนี้ขอแสดงความเสียใจด้วย " 555 จะเสียใจหนักยิ่งกว่าพญาหมูคำแน่นอน 55
-
สำหรับกระแสพระยอดขุนพล กรุถ้ำขุนตาล จ.ลำพูน ที่ผมได้ร่วมบุญบูชามานั้น โดยในทีแรกผมได้อ่านรูปภาพจากที่ ที่ปรึกษาส่งภาพให้ดูกระแสพลังแล้ว ก่อนที่จะออกให้ร่วมบุญกันในคราวนี้ สำหรับกระแสขององค์พระ โดยหลักแล้วเป็นกระแสที่ค่อนข้างหนักแน่น และเป็นกำลังรวมศูนย์กลาง เหมือนสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตและทางใจที่มั่งคงมากที่สุดชิ้นนึง ในความมั่นคงนี้จะเป็นความมั่งคงทั้งแบบที่เป็นรูปธรรม และนามธรรม ***ด้านรูปธรรม เช่น ถ้าหากไว้ที่บ้านเรือน ก็จะนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์เข้ามา ความร่มเย็นเป็นสุข ยังส่งผลแก่บุตรธิดาให้มีความกตัญญูรู้คุณอีกด้วย ความสามัคคีปรองดองของคนในครอบครัว ก็จะบังเกิด โดยในความมั่นคงนี้จะช่วยนำมาซึ่งความมั่นคงในทางโลกด้วยเช่น ความมั่นคงในหน้าที่การงาน และความมั่นคงด้านอื่นๆ ***ด้านนามธรรม เรียกว่าเป็นเหมือนดั่งกระแสขององค์พระขนาดใหญ่เลยที่นำความร่มเย็น จะสังเกตได้ว่าเวลาเขาไปที่วัดจะเป็นองค์พระขนาดใหญ่ แล้วเราจะรู้สึกว่ามีความร่มเย็นแบบแปลกๆ อยากอยู่ตรงนั้นนานๆ โดยกระแสที่ว่ามามีอยู่ในพระองค์นี้นั่นเอง ด้านคุ้มครองไม่ต้องห่วงจัดว่าครอบคลุมทุกด้านสำหรับกระแส สำหรับกระแสที่ผมกล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะของจริงมีมากกว่าที่ตาเห็น และมากกว่าที่ใจสัมผัสแน่นอนครับ ขออนุโมทนาบุญครั้งนี้ด้วยครับ สำหรับกระแสที่เหลืออาจขอให้ทาง Admin เสริมต่อให้ทีนะครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
พระขุนตาล มีติดจองรอสิ้นเดือนนี้ ซึ่งจะเหลืออยู่ 3 องค์ตามภาพ
ถ้าเป็นตะกรุดคงไม่เหลือแล้ว 555
ภาพจากผู้บูชาไปแล้วเลี่ยมส่งมาให้ชมครับ
พระกรุถ้ำขุนตาล ตอนนี้ที่ลำพูนดังมาก เพราะรุ่นเดียวกันส่งเข้าประกวดได้ที่ 2 ของ จ.ลำพูนเลย.
ตอนแรกผมเสริชเน็ตถามที่ปรึกษาว่า มีแล้วลูกหลานกตัญญูจริงเหรอ ท่านว่าจริง ที่นี้ เรื่องพลังอย่าได้ถามครับ สุดยอด การปลุกเสกการสร้างหาประวัติชัดเจนไม่ได้ เพราะพบกันหลายที่
ชุดได้มาตามเล่า ผู้รักษาไว้ยืนยันว่าได้มาที่ กรุดอยแต ซึ่งเป็นที่ครูบาศรีวิชัยไปเรียนกรรมฐานฝึกวิชา เราไม่กล้ายืนยันว่าครูบาศรีวิชัยเสกนะครับ เพราะเป็นเรื่องพิสูจน์ไม่ได้แต่พลังเกินบรรยาย ผมก็บูชาอยู่เช่นกันบูชามาหลายองค์ ก็เป็นสิริมงคลราบรื่นสบายใจดี
โดยปกติผมสนแต่พระกรุพันปีขึ้นไป และผ่านการเคลียร์ปัญหาแฝงจากกรุมาแล้วเช่นผีเฝ้าผีตาม 555 และไม่ติดหนี้สงฆ์ โยนภาระให้ท่านปรมาจารย์ไปเลย
ชุดนี้ที่ปรึกษารับรองในกระแสพลัง แบบสุด ๆ ท่านพกรัศมีออกเลย ถ่ายรูปติดมา มีแสงออร่าออกมาหลายรูป ถ้าผู้ใดติดตามเฟสจะเห็น
-
วันนี้คุยกันต่อกับ ชุดพลิกฟ้าที่คาดหวังอย่างถึงที่สุด 555 สืบเนื่องจากอดีตผมได้บ่นกะครูบาอาจารย์เคยเช่าหาของที่ แนวแหวกอุปสรรค พลิกดวงชะตามามาก แต่ไม่เห็นจะจริงอย่างที่ ร่ำลือกัน
ในอดีตผมก็เช่าแบบ แนวตามว่าละครับ ยังบ่นกะท่านปรมาจารย์เช่ามาไปให้หลวงปู่เหิรตรวจพลัง เนื้อในตำนานซะด้วย หลวงปู่เหิรจับตรวจบอกเย็นดีมากเย็นจนขนลุก ผมก็ถามเขาร่ำลือกันว่าแหวกอุปสรรค พลิกดวงให้ชะตาดีจริงไหม หลวงปู่นิ่งไม่ตอบ ....555 เราก็หวังว่าการนิ่งคือคำตอบ (เข้าข้างตัวเอง) สุดท้ายให้หลวงปู่ประหยัดตรวจให้เลย ท่านก็บอกแค่ว่าดีมาก ๆ แต่ไม่ตอบว่า แหวกอุปสรรคจริงไหม
พอมาลองห้อยเอง เห่อตามกระแส ผลคือ ก็เหมือนพระดีทั่วไป คือราบรื่น สบาย ๆ แต่ไม่พลิกดวงจริง ปัจจุบันนี้ผมถวายพระเก่ง ๆ ไปแล้ว ผู้รับก็ชอบใจเพราะเป็นพระระดับตำนาน จบ ไม่เก็บไว้แม้แต่องค์เดียวครับ หลายคนมาถามผมมีไหม ผมก็ตอบตามจริง ถ้าเงียบผมจะไม่เก็บไว้เลย ถวายพระ บรรจุพระหมดไม่ใช่ไม่ดีนะครับ พระดีทุกอย่างเราไม่กล้าลบหลู่รูปพระพุทธ แต่ดีแนวพระเลยบรรจุพระ ถวายพระไปเลย ไม่ใช่ว่าของไม่ดีถวายพระนะ บาปแน่ 555 ผมไม่ทำ
จวบจนมาเข้าสู่โหราศาสตร์เห็นดวงตัวเองแล้วสะท้านละครับ เลยรีบทำบุญซะ เพื่อสบายใจ ดังที่เห็น
ถามคำถามต่อศิษย์ท่านปรมาจารย์ "หลวงพี่มั่นใจชุดพลิกฟ้านะครับว่าพลิกดวงได้จริง ความหวังสุดท้ายผมละ " 5555 "มั่นใจสิหลวงพี่ก็จะใช้เองด้วย"
หลายท่านอาจสงสัย เอ๊ะ มีพระมากมายพระดีสุดยอด ชนิดที่ตรวจพลังได้เลย ทำไมจะไม่พลิกดวงเหรอ คำตอบนี้ เป็นคำตอบกระชากใจครับ ผู้ที่รู้ ลองใช้ดูจะทราบเอง ซึ่งผมบอกไปแล้ว ในการเสกของพระอริยเจ้า ถ้าเราได้คุยกับท่านเปิดใจกับท่านจะทราบว่า พระพุทธเจ้าสอนให้ไปตามกรรม พุทธบุตรก็จะไม่ทำตามที่พระพุทธเจ้าห้าม คือ ฝืนกรรม
ดังประวัติพระโมคคัลลานะ ท่านหนีโจรไป 2-3 ครั้ง ซึ่งคือท่านหนีได้ แต่ท่านหนีแล้วพิจารณาโจรยังตามมาต่อ เลยทราบว่าคือกรรมเก่า หนียังไงก็จะตามมาอีก จึงยอมโดนโจรทุบตี จะเห็นว่าท่านหนีได้ แต่ไม่หนี .... ซึ่งเป็นกรรมหนักทุบตีบิดามารดา ซึ่งเป็นกรรมหนักสุด ๆ
ทีนี้หากเราไม่ได้ทำกรรมหนักเช่นนั้น ย่อมหวังว่าจะหนีพ้น หรือเบี่ยงกรรมได้
-
จากหลักการแห่งตำรามหายันต์พลิกฟ้า และตามที่คุยกับท่านปรมาจารย์และตามผลของผู้ได้รับอำนาจแห่งวิชานี้ไปจากครูบาข่าย คือ....
ผู้มาหาครูบาข่ายคืออับจนสิ้นหนทางแล้ว ดังเคยกล่าวครูบาข่ายเป็นอาจารย์ของเกจิอาจารย์หลายท่าน ทั้งที่มาเปิดเผยและแอบมาหาท่าน เมื่อได้รับการแนะนำสืบต่อกันมามาหาท่านก็สมหวังดังปรารถนา
คำถามว่า แล้วจะผันดวงตัวเองได้แค่ไหน พลิกดวงได้ขนาดไหน ตามที่ได้สอบถามโดยละเอียด ตามตำรา "เมื่อดวงชะตาจะได้แต่มีสิ่งไม่ดีมาบดบัง ก็จะปัดเป่าให้ได้ตามดวงชะตา" คำว่าสิ่งไม่ดีก็คงหมายถึง อัปมงคลที่มาบดบัง ดังเช่นที่เราเรียกว่า ขัดลาภ เกือบได้แล้ว เกือบสำเร็จ หรือคิดว่าได้แต่พลิกโผ อดได้เฉย
และตามที่ ที่ปรึกษาเล่ามา ว่าอยากได้ตำแหน่งนี้ก่อนเกษียณ ซึ่งผู้มาหาครูบาข่าย ก็ตรวจสอบมาหลายที่แล้วว่าไม่ได้ แม้ครูบาก็บอก "ดวงมึงยังไม่ถึง" ท่านนั้นก็พยายามมาบ่อย ๆ จนท่านเมตตา สงเคราะห์ด้วยวิชานี้ให้ "เอ้าเดี๋ยวมึงจะได้" ก็สำเร็จจริง ๆ แล้วมางานบุญอยู่ทุกวันนี้
จึงจะเห็นว่า บุญกรรม นั้นสำคัญอย่างยิ่ง อย่างจะไปผันดวงให้ถูกรางวัลที่ 1 ก็คงเป็นไปไม่ได้ หากบุญไม่ถึง
หน้า 70 ของ 264