บูชาเจ้าคุณนร

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย ChinChinup, 28 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. ChinChinup

    ChinChinup สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +2
    มีคาถาบูชาเจ้าคุณนรไหมครับ เพราะผมก็แขวนหลวงปู่ไว้อยู่
    อยากมีคาถาบูชาครับ
    ขอบคุณ
     
  2. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    ถ้าคุณห้อยพระ คาถาที่ดี่สุดคือ ท่องชื่อท่าน "ธมมวิตักโก" ภาวนาๆๆๆๆตลอดห้อยพระ

    และถ้าอยากบูชาคุณท่านแนะนํา ชินบัญชรคาถา
     
  3. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    สวดชินบัญชรคาถาบูชาท่านไปพร้อมกับตอนที่ท่านสวดก็ได้ครับ

    http://palungjit.org/showthread.php?t=168075&page=3

    คาถาชินบัญชร โดย พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    สัพพสิทธิคาถา พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต<O:p</O:p
    วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพ ฯ<O:p</O:p


    @ อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ อุตตะมัง ธัมมะมัชฌะคา มหาสังฆัง ปะโพเธสิ อิจเจตัง ระตะนัตตะยัง เอตัสสะอานุภาเวนะ กะตะปุญญัสสะ เจตะสา สัพพะโรคะ วินิมุตโต สัพพะสันตา ปะวัฑฒิโฒ สัพพะเวระมะติก กันโต ยถาทีโป จะนิพพุโต นิพพุโต จะตุวัง ภะวะ ชะยะสิทธิ ธะนังลาภัง โสตถิ ภาคคะยัง สุขัง พะลัง สิริอายุจะ วัญโณจะ โภคังวุฑฒี จะยะ สะวา สะตะวัสสาจะ อายุจะ ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต <O:p</O:p


    ( สวดให้ตนเอง เปลี่ยนจาก เต เป็น เม )
    <O:p</O:p

    @ โส อัทธะลัทโท สุขิโต วิรุฬโห พุทธะสาสะเน อะโรโค สุขิโต โหหิ สะหะ สัพเพหิ ญาติภิ สา อัทธะลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธะสาสะเน อะโรคา สุขิตา โหหิ สะหะ สัพเพหิ ญาติภิ เต อัทธะลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธะสาสะเน อะโรคา สุขิตา โหถะ สะหะ สัพเพหิ ญาติภิ ยะถาวาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง เอวะเมวะ อิโตทินนัง เปตานังอุปะกัปปะติ อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมวะ สะมิชณะตุ สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา จันโท ปัณณาระโสยะถา มะณีโชติระโสยะถา สัพพีติโย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินัสสะตุ มาเต ภะวะ วันตะรา โย สุขี ทีฆายุโก ภะวะ อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุวัณโณ สุขัง พะลัง ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธา สัพพะธัมมา สัพพะ สังฆานุภาเวนะ สทาโสตถิ ภะวัน ตุ เต <O:p</O:p


    ( สวดให้ตนเอง เปลี่ยนจาก เต เป็น เม )<O:p</O:p

    พระเมตตา พระมหาเสน่ห์ พระมหานิยม อุดมลาภ พระมหาลาภ พระมหาอุด อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด อุปัทอันตราย หายตัวได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    @ สิทธะมัตถุ สิทธะมัตถุ สิทธะมัตถุ อิทังพะลัง เอตัสสมิง ระตะนัตตะยัสสมิง สัมปะสาทะนะ เจตะโส
    <O:p</O:p
    ผลแห่งจิตอันเลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัย จงห่างไกลโรคาพาธ ผ่านพ้นอุปสรรค แคล้วคลาดอุปัทวันตราย หายตัวได้ ศัตรูหมู่ร้ายเปลี่ยนแปลงกลับใจมาเคารพรักภักดี กลับร้ายมาเป็นดี กลับใจมาเป็นมิตรไม่คิดร้าย กลับช่วยขวนขวายให้สำเร็จประโยชน์กิจ ทั้งทิฎฐธรรมสัมปรายภพ และปรมัตถ์ประโยชน์ ชาตินี้ชาติหน้า และพ้นจากสังสารวัฏฏ์ชาติทุกข์ ประสพโชคดีมีความสุขความเจริญ ก้าวหน้าทั้งทางโลกทางธรรม พร้อมทั้งโลกสมบัติและโลกุตรสมบัติ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ประสพสุขสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลพูลผลชนมาสุขทุกประการ เจริญยิ่งๆด้วย อายุวรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ถึงพร้อมเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ สมบูรณ์ด้วยอิฏฐารมภ์ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข สิริ โภคะ ธนะ คุณสารสมบัติทุกประการ ประสงค์ใดจงสำเร็จ สมประสงค์ ทุกประการทั่วกัน เทอญ ฯ
    <O:p</O:p
    (จาก อนุสรณ์พระราชทานเพลิงศพ เจ้าคุณนรฯ วันอังคารที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๕ )
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ภิกษุอรหันต์รู้วันมรณภาพ

    คงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ธมฺมวิตกฺโก ภิกษุผู้เคร่งครัดต่อธรรมวินัย ยากยิ่งจะหาภิกษุสงฆ์ในปัจจุบันนี้ปฏิบัติได้เสมอเหมือนท่านเจ้าคุณนรรัตนฯหาได้ไม่ ผู้ที่ได้พบประสนทนา และได้ยินกิตติศัพท์ของท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ต่างก็โมทนาสาธุยกย่องให้ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ เป็นภิกษุอรหันต์ในยุคนี้ เพราะพฤติการณ์ต่างๆ ที่ปรากฏแก่สายตาทั้งทางด้านธรรมวินัย และทางด้านอภินิหารนับเป็นปรากฏการณ์ประหลาดมหัศจรรย์ยิ่ง แม้แต่เกจิอาจารย์ผู้คงแก่เรียนในยุคนี้ก็ไม่สามารถกระทำได้เยี่ยงอย่าง ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ หาได้ไม่ และท่านเจ้าคุณนรรตันฯ ท่านก็เป็นภิกษุสงฆ์ที่ตัดแล้วด้วยกิเลสนานาประการยศถาบรรดาศักดิ์ทางสงฆ์ ท่านก็มิได้ปรารถนาผิดกับภิกษุสงฆ์บางรูป พอเริ่มห่มผ้าเหลืองเพียงไม่กี่พรรษา เป็นที่นับหน้าถือตาของบรรดาญาติโยม ก็เพียรพยายามหายศประดับบารมีเสียแล้ว แม้แต่จะต้องเสียเงินเสียทองเพื่อได้ตำแหน่งยศมาประดับบารมีก็ยังต้องยอม และยิ่งมีญาติโยมก้มกราบเรียกขานว่า "ท่านอาจารย์" หรือ "หลวงพ่อ" ด้วยแล้วมีความปลาบปลื้มปิติยินดีอย่างล้นพ้น ผิดกับท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ไม่ว่าใครที่เข้าไปพบประสนทนา จะเรียกขานท่านว่า "ท่านอาจารย์" หรือ "หลวงพ่อ" แล้วท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ จะเอ่ยปาก
    บอกญาติโยมทันทีว่า

    "ที่นี้ไม่มีอาจารย์และไม่มีหลวงพ่อหรอกโยม ที่มีอาจารย์และหลวงพ่อนั้นมีที่วัดอื่น ไม่ใช่ที่วัดเทพศิรินทร์"


    นี่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า ตลอด ๔๕ พรรษาที่ครองเพศบรรพชิตของท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ มิได้มีอะไรด่างพร้อยให้ปรากฏในวงการพุทธศาสนาเลยแม้แต่น้อย กลับเป็นตัวอย่างอันดีงามของภิกษุสงฆ์ที่ครองเพศบรรพชิตควรยืดถือ เป็นเยี่ยงอย่างอีกด้วยและท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ธมฺมวิตกฺโก รูปนี้ก็ยังรู้วันมรณภาพของท่าน ดังปรากฏการณ์ที่ข้าพเจ้าจะนำมาเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้

    เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ท่านเจ้าคุณนรรัตนได้ถูกโรคร้ายเข้าแทรกซึมในร่างกาย อีกครั้งหนึ่ง นั่นก็คือฝีปรากฏขึ้นที่คอด้านซ้าย เป็นเม็ดแดงระเรื่อ แต่ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ กลับรู้สึกเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวท่านเลย ถ้าเป็นอย่างมนุษย์ปุถุชนเช่นเรา-ท่านละก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
    อย่ารวดร้าวแสนสาหัสทีเดียว และจะต้องวิ่งเข้าโรงพยาบาลอย่างไม่มีปัญหา แต่ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯไม่อนาทรร้อนใจด้วยโรคร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวท่านเลย ท่านใช้กระแสจิตอันแก่กล้าและญาณขั้นสูงสุดพินิจพิจารณา ท่านก็สามารถทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นนายแพทย์ชั้นปริญญาหลายท่านได้แสดงความปริวิตก และต่างก็ขันอาสาพยาบาลกันมากมาย แต่ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ก็ได้ปฏิเสธไปทุกรายมิยอมฉันหยูกยาใดๆ ทั้งสิ้นที่มีผู้นำมาให้ ได้แต่บอกแก่ผู้หวังดีทุกคนไปว่า


    "ฝีที่เกิดขึ้นเรียกว่าฝีสบาย เขามาอาศัยร่างอาตมาอยู่เท่านั้น เมื่อถึงกำหนดฝีนี้ก็จะแตกเอง และหายไปพร้อมกับอาตมา ขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง"

    ด้วยคำพูดที่เป็นปริศนาและให้คิดเป็นการบ้านของท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ประโยคนี้เอง ทำให้พระภิกษุสงฆ์สามเณรในวัดเทพศิริทร์และประชาชนที่เลื่อมในศรัทธาท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ต่างปริวิตกไปตามๆกัน และก็เฝ้ารอวินาทีที่ฝีแตกจะเกิดขึ้น

    ผลที่สุดวินาทีวิกฤตที่ทุกคนเฝ้ารอคอยก็ปรากฏขึ้นในปลายปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ฝีที่คอท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ แตกแล้ว แต่ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ก็มิได้แสดงความเจ็บปวดรวดร้าวอะไรออกมาให้ญาติโยมพบเห็น เลยแม้แต่น้อย ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ยังปฏิบัติลงโบสถ์ทำวัตรเช้า-เย็น และสนทนาปราศรัยกับญาติโยมธรรมดา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ศาสตราจารย์นายแพทย์ที่เลื่อมใสศรัทธาเจ้าคุณนรรัตนฯ หลายท่าน ต่างก็ยื่นความจำนงขอเป็นผู้รักษาหาหยูกยามาถวาย ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ก็ตอบปฏิเสธอีกเช่นเคย และไม่ยอมฉันหยูกยาเลยแม้แต่อย่างเดียว ไม่แต่บอกว่า

    "สิ่งที่มันเกิดขึ้นมาเองได้ มันก็ต้องหายไปเองได้เช่นกัน"

    ความเรื่องนี้ได้ล่วงไปถึงพระกรรณของสมเด็จพะนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมีความประสงค์ จะให้ศาสตราจารย์นายแพทย์มาทำการรักษาให้ ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯก็ได้ตอบปฏิเสธอีกเช่นเคย

    ครั้งที่สองสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมส่วนพระองค์ พร้อมด้วยเจ้าฟ้าหญิงและราชองครักษ์ เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ คราวนี้ท่านเจ้าคุณนรรัตนได้กราบบังคมทูลเป็นลางว่า

    "อาตมาเห็นจะต้องขอลาแล้ว"

    นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ท่านเจ้าคุณนรรัตนสามารถล่วงรู้วันมรณภาพของท่านด้วยญาณชั้นสูงจริงๆ

    ผู้ที่ปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดท่านเจ้าคุณนรรัตนเห็นจะไม่มีใครเกิน ปลัด อำเภอ โท โกศล ปัทมะสมุนทรบุตรชายนางเลื่อน ปัทมะสมุนทร ซึ่งเป็นน้องสาวของท่านเจ้าคุณนรรัตนนั่นเองเมื่อปลัดโกศลได้ทราบข่าวว่าท่านเจ้าคุณนรรัตนฝีที่คอแตกแล้ว ก็ได้เดินทางมาปรนนิบัติรับใช้อย่างใกล้ชิดในพระอุโบสถวัดเทพศิรินทร์ทุกวันมิได้ขาดเลยแม้แต่วันเดียว นับวันฝีคอของท่านเจ้าคุณนรรัตน ก็ได้แตกลุกลามเป็นที่น่าสังเวชแก่ผู้ที่พบเห็นยิ่งนัก ท่านเจ้าคุณนรรัตนจึงได้เอ่ยปากถามหลานชายโกศลว่า

    "ทำการชำระแผลให้อาตมาได้ไหม"

    ปลัดโกศลหลายชายจึงตอบรับคำว่าทำได้ทันที แล้วจึงรีบเดินทางไปขอคำแนะนำจาก พ.ต.ไพบูลย์ บุษปธำรง นายแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พร้อมกับปรับน้ำยาชำระแผลมาทำการชำระแผล ให้แก่เจ้าคุณลุงท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ทุกวันจนกระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ ๒ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๑๔ หลังจากที่คุณโกศลได้ทำการชำระแผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ จึงได้เอ่ยปากกับคุณโกศลว่า

    "หลานอยากได้ของดีจากอาตมาก็ให้ไปเก็บก้อนกรวดที่อำเภอบางบ่อมาอาตมาจะเสกให้"

    ปลัดโกศลเมื่อได้ยินท่านเจ้าคุณลุงเอ่ยเช่นนั้นก็นึกแปลกใจ เพราะแต่ก่อนก็เคยได้ยินกิติศัพท์ว่าของดีที่ท่านคุณลุงปลุกเสกมีอภินิหาร ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาแก่มหาชนเป็นจำนวนมาก ตัวเขาเองก็เคยมาขอจากเจ้าคุณลุง เจ้าคุณลุงก็บอกว่าตัวท่านก็ไม่มีเลยถ้าอยากได้ก็ขอให้ไปขอจากท่านเจ้าคุณอุดมเป็นผู้สร้าง และเจ้าคุณลุงก็ยังกำชับอีกว่าไปเอาของเขาฟรีๆ นะบริจาคเงินด้วยเพื่อจะได้ไปสร้างกุศล แต่มาวันนี้เจ้าคุณลุงกลับบอกให้ไปเก็บก้อนกรวดมา เจ้าคุณลุงจะเสกของดีให้ ปลัดโกศลจึงนึกแปลกใจและดีใจระคนกัน จึงได้ตอบไปว่า ที่บางบ่อไม่มีกรวดทรายครับจะไปเอาที่เมืองชลหรือสมุทรสงครามได้ไหม? เจ้าคุณนรรัตนฯได้ตอบว่า จะไปเอาที่อื่นไม่ได้เพราะชื่อไม่ดีต้องที่บางบ่อ เพราะเป็นบ่อเงินบ่อทองและจังหวัดสมุทรปราการก็เป็นชื่อไพเราะและเป็นศิริมงคล ให้ไปเที่ยวหาดูต้องมีแน่นอน

    รุ่งขึ้นวันอาทิตย์คุณโศลจึงขับรถเที่ยวตะเวนหาก้อนกรวดจนทั่ว บางบ่อก็หาไม่พบเลยจนกระทั่งขับรถมาบริเวณทางเข้าบางบ่อ ใกล้สะพานคลองเจ้าจึงก้อนทรายกองอยู่ จึงเข้าไปค้นหาดูได้ก้อนกรวดมาถุงหนึ่ง รุ่งขึ้นวันจันทร์จึงนับไป ๙ ก้อน จึงนำไปให้เจ้าคุณนรรัตนฯ ปลุกเสกท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ จึงได้ปลุกเสกอยู่ประมาณ ๑๕ นาทีก็มอบให้คุณโกศลและมอบให้ไปแจกลูกๆ หลานๆ เพื่อห้อยคอไว้แล้วก็บอกให้นำก้อนกรวดมาให้อีกจะเสกให้


    รุ่งขึ้นคุณโกศลก็นำก้อนกรวดใส่ถุงมาถุงหนึ่งให้เจ้าคุณนรรัตนฯ เสกอีก หลังจากทำวัตรเย็นและชำระแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อท่านเจ้าคุณนรรัตนฯทำการปลุกเสก ก้อนกรวดเสร็จแล้ว จึงได้บอกหลานชายโกศลว่า


    "ของนี้เป็นของดี มีคุณค่ามากเรียกว่าพ่อแม่ธรณีปัฐวีธาตุ ซึ่งมีจิตเมตตาใครจะเหยียบย่ำทำสิ่งไรก็ไม่ว่าประดุจกับพ่อแม่ของเราที่รักลูกและเมตตากรุณาลูกทุกคน ฉะนั้นก้อนกรวดนี้จึงมีอนุภาพศักดิ์สิทธิ์มากสามารถกันนิวเคลียร์ได้อีกด้วย และจะมอบให้กับใครก็จงให้แก่ผู้ที่เขาเลื่อมใสศรัทธาให้เอาก้อนกรวดนี้วางไว้ตรงรูปใบโพธิ์ เขียนตัว "น" และเขียน อุ ไว้บนตัว น. แล้วเขียนชื่อเจ้าของก้อนกรวดไว้ข้างใต้ให้เลี่ยมห้อยคอไว้จะเกิดศิริมงคล"


    " พอเจ้าคุณลุงมอบก้อนกรวดเสกให้ผมลูกศิษย์ลูกหาของท่านเจ้าคุณที่นั่งอยู่ในโบสถ์ก็รุมเข้ามาขอกันใหญ่ ผมก็แจกให้ทุกคน และเจ้าคุณลุงก็บอกให้ผมไปเอามาอีกจะเสกให้ ผมก็ขับรถไปที่บางบ่อ เอามาให้เจ้าคุณลุงเสกอีก แต่ผมไม่กล้าให้มากเพราะกลัวเจ้าคุณลุงหนัก เพราะท่านต้องยกอุ้มไว้ในมือต่อมาเมื่อวัน พฤหัสบดีที่ ๗ ม.ค. หลังจากที่เจ้าคุณลุงเสกก้อนกรวดเสร็จแล้วเจ้าคุณลุงก็บ่นว่าวันนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายเหนื่อยเหลือเกิน เจ้าคุณลุงจึงรีบกลับกุฎิทันที พอรุ่งขึ้นเช้าที่ ๘ ม.ค. ๑๔ ลูกชายและลูกสาวผมไปส่งอาหารเป็นประจำเจ้าคุณลุงไม่รับปิ่นโตบอกว่าวันนี้ไม่ฉัน และให้ไปบอกพระข้างกุฎิด้วยว่าวันนี้ไม่ลงโบสถ์ ลูกชายลูกสาวกลับไปบ้านโทรบอกผม ผมก็ใจหายวูบทันที เพราะท่านเจ้าคุณลุงเคยบอกว่าวันไหนที่ท่านไม่ลงโบสถ์ ก็หมายถึงท่านได้สิ้นชีวิตเสียแล้ว พอตกเย็น ผมก็รีบไปที่โบสถ์เพื่อชำระแผลให้เจ้าคุณลุงเป็นกิจวัตร แต่ก็ไม่พบท่านเจ้าคุณลุง ผมจึงสังหรณ์ใจว่าท่านเจ้าคุณลุงมรภาพอย่างแน่นอน "

    นี้ก็เป็นปรากฏการณ์อีกอย่างหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ธมฺมวิตกฺโก ได้ล่วงรู้วันมรณภาพของท่านเองได้ และก็เป็นจริงดังที่ปลัดโกศลคิดไว้ ภิกษุสามเณรในวัดเทพศิรินทร์ได้ทำวัตรเย็นและทราบว่าท่านเจ้าคุณนรรัตนฯไม่ลงทำวัตรเย็น ต่างก็ปริวิตกไปต่างๆนาๆ ว่าเจ้าคุณนรรัตนฯคงถึงมรณภาพอย่างแน่นอน เพราะท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ เคยพูดเสมอว่า

    "ถ้าอาตมาขาดทำวัตรเมื่อใด นั้นก็หมายความว่าอาตมาสิ้นลมหายใจแล้ว"

    ครั้นมาถึงเวลา ๑๙.00 น. เศษ ท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณ จึงได้ปรึกษากับท่านมหาเสริม พ.ต.ไพบูลย์ บุษปธำรง และปลัดโกศลว่า สมควรจะขึ้นไปเยี่ยมท่านเจาคุณนรรตัน ทุกคนต่างก็ลงความเห็นกัน จึงได้พากันไปฏิท่านเจ้าคุณนรรัตนทันทีเมื่อท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณได้พากันเดินไปถึงกฎิท่านเจ้าคุณนรรัตนก็ได้ผลักประตูชั้นล่างเข้าไป ปรากฏว่าประตูมิได้ลงกลอน ครั้นขึ้นไปชั้นบนก็เห็นประตูปิดอยู่เมื่อเอามือผลักดูปรากฏว่าเปิดได้ง่าย มิได้ลงกลอนเช่นเดียวกัน และได้พบท่าน เจ้าคุณนรรัตนนอนอยู่ในมุ้งอย่างสงบเงียบอยู่ในท่านอนหลับปกติ ครั้นท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณเอามือไปจับท่านเจ้าคุณนรรัตน์ก็ยังมีไออุ่นอยู่ พ.ต.ไพบูลย์ บุษปธำรงได้เข้าไปตรวจดูจึงได้ทราบว่า ท่านเจ้าคุณนรรัตนสิ้นลมหายใจเสียแล้วเมื่อเวลาประมาณ๑๑.๐๐น. เศษ ท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณ จึงได้จัดการรดน้ำศพในวันรุ่งขึ้น ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ได้มีแขกผู้มีเกียรติและบรรดาญาติมิตรและผู้ที่เลื่อมใสศรัทธามารดน้ำศพกันอย่างคับคั่งต่างหลั่งน้ำตาด้วยความอาลัยอาวรณ์ต่อท่านเจ้าคุณนรรัตน นับเป็นภาพเหตุการณ์ที่เศร้าสลดอย่างสุดซึ้งที่จะหาดูอีกไม่ได้แล้วหลังจากได้จัดการรดน้ำศพท่านเจ้าคุณนรรัตนเสร็จเรียบร้อยก็ได้นำศพท่านเจ้าคุณนรรัตน บรรจุในหีบศพของท่านเจ้าคุณนรรัตน และทางพิธีหลวงก็ได้จัดนำโกฎชั้นพระยามาตั้งประดับไว้ที่ศาลาละมูล มีนะนันท์ กุฎิของท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณนั่นองและได้มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นายตำรวจ นายทหาร ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนมาแจ้งความจำนงขอเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพท่านเจ้าคุณนรรัตนทุกวันจนครบ ๑๐๐ วัน แม้แต่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ บรมราชินีนาถ ก็ยังเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพท่านเจ้าคุณนรรัตนด้วยเหมือนกันดังได้กล่าวแล้วว่า เครื่องรางของขลังที่ได้ผ่านการปลุกเสกจากท่านเจ้าคุณนรรัตนแล้วจะเกิดพลังอานุภาพ ศักดิ์สิทธิ์ให้ปรากฏอยู่เสมอ ดังนั้นปฐวีธาตุที่ท่านเจ้าคุณนรรัตนปลุกเสกให้แก่หลานปลัดโกศลก็เช่นกัน ก็ได้ก่ออภินิหารให้ปรากฏ กล่าวคือ หลังจากท่านเจ้าคุณนรรัตนปลุกเสกปฐวีธาตุให้แก่ปลัดโกศลแล้ว ปลัดโกศล ได้นำแจกจ่ายแก่ผู้เลื่อมใสศรัทธาในจำนวนนี้มีภรรยาของ พล.อ.ต.ชู สุทธ์โชติ เจ้ากรมอากาศโยธินผู้หนึ่งที่ได้รับปัฐวีธาตุไปบูชาใส่ไว้ในพานรวมอยู่กับแก้วโป่งข่าม ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาเพียงวันเดียวเท่านั้นก็ปรากฏการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อภรรยา พต.อ.ต.ชู ได้เข้าไปบูชาพระเป็นกิจวัตรทุกเย็นก็ได้พบปฐวีธาตุตกลงมากองอยู่กับพื้นข้างล่าง ภรรยา พล.อ.ต.ชู ก็มิได้เกิดความสงสัยประการใด คงเข้าใจว่าเด็กรับใช้ทำความสะอาดอาจทำตกลงมาก็ได้ จึงได้หยิบปัฐวีธาตุขึ้นใส่พานไว้อย่างเดิม รุ่งขึ้นตอนเย็นก็เข้าห้องบูชาพระอย่างเคยก็พบปัฐวีธาตุตกลงมากองอยู่กับพื้นข้างล่างอีก จึงเกิดเอะใจขึ้นแต่ก็มิได้แพร่งพรายให้ใครทราบ แล้วเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ก็ปรากฏขึ้นอีกเสมอ จนภรรยา พต.อ.ต.ชู เกิดความสงสัยจึงนำความเรื่องนี้ไปบอกกับสามี และปรึกษากันว่า ปฐวีธาตุนี้เป็นของสูงมิคู่ควรจะอยู่รวมกับแก้วโป่งข่าม จึงได้ตัดสินใจนำเอาแก้วโป่งข่ามออกจากพาน นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาปฐวีธาตุมิได้ตกลงมากองกับพื้นขั้นล่างอีกเลย

    และปฐวีธาตุที่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ปลุกเสกให้แก่หลานปลัดโกศลก่อนจะถึงวันมรณกรรมเพียงวันเดียว ปลัดโกศลได้มอบให้นางจำเนียนภรรยาทูลเกล้าถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อคราวเสร็จพระราชดำเนินมาเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพเจ้าคุณนรรัตน์ เมื่อวันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้มีกระแสรับสั่งว่า

    "ขอบใจจ๊ะ"

    เพราะทรงทราบว่าเป็นของที่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ปลุกเสกเอง
    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
    เส้นเกศา - จีวร - ปฐวีธาตุ ผมได้รับมาเมื่อ ๓ ปีก่อนจากพระรูปหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ของพระมหาเสริมได้มอบไว้ให้จำนวนหนึ่ง ปัจจุบันพระมหาเสริมได้สึกเป็นฆราวาสแล้ว ...
     
  6. นาระกันทา

    นาระกันทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +206
    กราบหลวงพ่อท่านเจ้าคุณนรรัตน์ด้วยเศียรเกล้า
     
  7. ต้อมบ้านสวน

    ต้อมบ้านสวน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +264
    กราบพระอาจารย์อริยสงฆ์เจ้าท่านเจ้าคุณนรรัตน์เหนือเศียรเกล้าลูกขอละลึกถึงไว้ในใจเสมอตราบช่วงนิรันดร์ สาธุสาธุ
     
  8. พุทธนิรันดร์

    พุทธนิรันดร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,641
    ค่าพลัง:
    +5,039
    ขอกราบท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ธมฺมวิตกฺโก ภิกษุ ด้วยใจเคารพบูชายิ่ง
     
  9. มิ่งเมือง

    มิ่งเมือง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    730
    ค่าพลัง:
    +2,343
    ทุกวันนี้ถ้ามีเหตุต้องตากฝน หรือเพียงวิ่งผ่านฝน

    ผมจะภาวนา ธัมมวิตกโก เพื่อเปลี่ยนฝนกลายเป็นน้ำมนต์จากท่านครับ
     
  10. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,979
    กราบสักการะบูชา ต่อองค์หลวงปู่เจ้าคุณนร ครับ สาธุ สาธุ สาธุ......................
     

แชร์หน้านี้

Loading...